พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    เห็นด้วยเป็นอย่างแรงครับ
    พิมพ์คล้ายเหลือเกิน เกินห้ามใจครับ
    ขนาดไม่แท้ ยังอยากเก็บเลย แฮ่ๆๆๆๆ

    หรือพี่มูริญโญ่ และคุณสมบัติว่างัยบ้างครับ
     
  2. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    หุหุ .. ความผิดพลาดครั้งนี้รับไว้เป็นบทเรียนที่ว่า ...ให้ระวังคำถามชี้นำ ... กลับไปทบทวนความเชื่อตามกาลามสูตร ความรู้สึกแว่บแรกไม่ได้ถูกต้องเสมอไป สุดท้าย .. ให้ละเอียดถี่ถ้วนมากกว่านี้ :) อ่อ ระวังด้วยเน้อที่ Load ไปอาจจะมีเณรแทรกอยู่นะจ๊ะ .. ท่านเลขาฯเคยบอกแล้วนะเออ พยายามเข้าครับ!
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อ่า แล้วองค์นี้เป็นอย่างไรครับคุณnongnooo

    [​IMG]

    ผมมาถามสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และคณะพระวังหน้าดีกว่า

    คำถามมีอยู่ว่า

    1.พระสมเด็จ องค์นี้ แท้ หรือไม่ แท้
    หากตอบว่า ไม่แท้ ก็ให้ตอบปัญหาในข้อที่ 2 เพียงข้อเดียวและสิ้นสุดการตอบคำถาม แต่หากตอบว่า แท้ ก็ให้ตอบข้อที่ 3 ต่อไป

    2.พระสมเด็จองค์นี้ มีองค์ผู้อธิษฐานจิตเพิ่มเติมภายหลังหรือไม่

    3.พระสมเด็จองค์นี้ เนื้อปูนสอ หรือ เนื้อปูนเพชร

    4.พระสมเด็จองค์นี้ องค์ไหนเป็นผู้อธิษฐานจิต

    5.จากข้อที่ 3 มีองค์ผู้อธิษฐานจิตเพิ่มเติมภายหลังหรือไม่

    สิ้นสุดการตอบในวันที่ 8 กันยายน 2552 เวลา 18.00 น.(เวลาในเว็บพลังจิต)

    ไม่มีรางวัลนะครับสำหรับคำถามในครั้งนี้ แต่เป็นการลับสมอง ประลองปัญหาเอ้ย ปัญญา และถกปัญหากันครับ

    ขอบคุณครับ

    .

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผมขอเฉลยนะครับ น่าจะไม่มีท่านใดที่มาแสดงความเห็นกันแล้ว

    1.พระสมเด็จ องค์นี้ แท้ หรือไม่ แท้
    คำตอบ ไม่แท้

    2.พระสมเด็จองค์นี้ มีองค์ผู้อธิษฐานจิตเพิ่มเติมภายหลังหรือไม่
    คำตอบ ไม่มี

    ผลที่ทุกๆท่านได้ตอบกันมา คำตอบที่ถูกต้องแบบชัดเจน คือน้องอุ้ม ส่วนคำตอบคุณnongnooo ถูกต้องไม่สมบูรณ์

    การดูจากรูป ผมบอกได้ว่า ดูได้ไม่ชัดเจนเท่ากับการดูองค์จริงๆ ไว้วันประชุมชมรมรักษ์พระวังหน้า ผมจะนำไปให้ชมกันครับ

    ส่วนท่านอื่นๆ สู้กันต่อไปนะครับ

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 52 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 46 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, newcomer+, psombat+, แหน่ง+, มูริญโญ่, พรสว่าง_2008+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สำหรับพระสมเด็จองค์นี้ ผมModify มาเองกับมือ

    ไว้ครั้งหน้า จะนำมาถามใหม่ แต่คงเป็นองค์ใหม่ จะไปModify เพิ่มเติมมาให้ดูและทายกันเพิ่มครับ

    สิ่งที่สำคัญในการศึกษาพระวังหน้า และเรื่องอื่นๆ ต้องมี 4 คำ สุ จิ ปุ ลิ เพราะว่า พระวังหน้ายังไม่มีตำราเล่มไหน รวบรวมไว้อย่างสมบูรณ์ แต่ต้องมีพื้นฐาน (ต้องรีบปูพื้นฐานให้แน่นๆไว้) จะได้ศึกษากันอย่างคล่องแคล่วครับ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า สู้ๆๆกันต่อไป

    chearrchearrchearrchearrchearr
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 26 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 22 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, พิมพาภรณ์+, chantasakuldecha+, nongnooo+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ่า สวัสดีครับสาวสองพันปี
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผลวิจัยชี้ เด็กไทยลองดื่มเหล้าตั้งแต่ 7 ขวบ

    เหล้าปั้น ผลวิจัยชี้เด็กไทยลอง แอลกอฮอล์ เหล้า ตั้งแต่ 7 ขวบ


    [​IMG]

    แอลกอฮอล์​


    ผลวิจัยชี้ เด็กไทยลองดื่มเหล้าตั้งแต่ 7 ขวบ (เดลินิวส์)

    เมื่อวานนี้ (6 กันยายน) ดร.ศรีรัช ลาภใหญ่ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึง การศึกษา การรับรู้ ทัศนคติ และความต่อการมีส่วนร่วมของเยาวชนต่อการยับยั้งปัญหาและพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในครอบครัว สำรวจเมื่อวันที่ 1 - 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนประถมปีที่ 2 - 6 จำนวน 1,583 คน พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 43% ยอมรับว่าเคยลองดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ซึ่งน่าเป็นห่วงมากเพราะผู้ที่ให้ลองคือ บิดา หรือคนในครอบครัว สำหรับอายุเฉลี่ยที่เริ่มดื่มคือ 9 ปี ขณะที่อายุต่ำสุดที่เคยดื่มเพียงแค่ 7 ปีเท่านั้น และยังพบว่า เด็ก 65% เคยไปซื้อด้วยตนเอง โดยที่ผู้ขายยอมขายทั้งที่รู้ว่าผิดกฎหมายเกินครึ่งคือ 55%

    "ที่สำคัญพบว่าเด็ก 100% รู้จักกับสินค้าเหล้าปั่น เบียร์ปั่น เป็นอย่างดี สามารถแยกแยะยี่ห้อได้โดยรู้จักจาก 1. โฆษณา 2. สื่อตามร้านค้าร้านอาหาร 3. เห็นของจริง 4. เคยถูกใช้ไปซื้อ 5. เคยดื่มแล้ว กลุ่มตัวอย่าง 59% บอกว่าอยากลองดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเด็กอยากลองมากที่สุด คือ 1. เบียร์ 2. เหล้าปั่น 3. เบียร์ปั่น ซึ่งเป็นสินค้าใหม่ มีขายตามร้านขายน้ำผลไม้ปั่นด้วย มีเด็กยอมรับว่าเคยไปทดลองดื่มเหล้าปั่นด้วยตัวเอง โดยไม่มีผู้ใหญ่พาไป และคิดว่าเหล้าปั่นไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งอันตรายมาก เพราะร้านเหล่านี้อยู่ในชุมชนไม่ห่างจากโรงเรียน และอยู่รวมกับร้านขายน้ำหวาน น้ำผลไม้ มีแผงลอย รถเร่ ขายอยู่ทั่วไป ทำให้เด็กเข้าถึงได้ง่าย" ดร.ศรีรัช กล่าว​

    ดร.ศรีรัช กล่าวด้วยว่า สถานที่ ๆ เด็กระบุว่ามีสุราจำหน่ายมากที่สุดคือ ร้านอาหารประเภทหมูกระทะ ร้านสะดวกซื้อ โดยร้านที่กลุ่มอย่างสามารถซื้อสุราได้ด้วยตนเองคือ 1.ร้านชำใกล้บ้าน 2.ร้านสะดวกซื้อ ทั้งยังพบว่า เด็กส่วนใหญ่มีประสบการณ์เห็นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากคนในครอบครัว 71% บอกว่า เห็นพ่อดื่ม ขณะที่ 32% เห็นพ่อเมา และเด็ก 35% ระบุว่าเกิดปัญหาครอบครัวหลังจากการดื่ม ซึ่งปัญหาที่พบมากที่สุดคือ ทะเลาะวิวาท โดยเด็กเชื่อว่า ผู้ใหญ่ดื่มเพราะแก้เครียด 22% และคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา 55%​

    "ที่น่ากลัวมากคือ เด็กส่วนหนึ่งตั้งใจว่าเมื่ออายุครบ 18 ปี จะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างแน่นอน และการพบเห็นประสบการณ์การดื่มจากคนในครอบครัวทำให้เด็กซึมซับพฤติกรรม เห็นเป็นเรื่องธรรมดา โดยพบว่าเด็กใช้เวลาเพียง 2 ปี ที่จะพัฒนาจากการทดลองดื่มมาเป็นนักดื่ม ซึ่งพบว่ามีเด็กอายุ 11 - 12 ปี ที่สามารถดื่มเหล้าถึงครึ่งขวดเพียงลำพังโดยไม่มีผู้ใหญ่" ดร.ศรีรัช กล่าว ​

    ดร.ศรีรัช กล่าวอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงการบังคับใช้กฎหมายที่ยังไม่ได้ผล ทำให้ไม่สามารถควบคุมและป้องกันไม่ให้เด็กเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้โดยง่าย ซึ่งอยากเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ และให้กระทรวงสาธารณสุข เร่งออกกฎหมายลูกเพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมายที่มีอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี การออกประกาศกระทรวงเพื่อควบคุมการขายเหล้าปั่น โดยเฉพาะการขายใกล้บริเวณสถานศึกษา การขายแบบเร่ เพื่อทำให้เด็ก เยาวชน เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ยาก​

    รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันนี้ (7 กันยายน) เวลา 10.00 น. เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ ประมาณ 50 คน จะเดินทางไปที่ทำเนียบรับบาลเพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี จัดการควบคุมปัญหาเหล้าปั่น พร้อมทั้งเร่งรัดให้มีการ ออกประกาศตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551​


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ร้องปวีณา ด.ช.วัย13 โดนรุ่นพี่ 30 คนรุมทำร้าย

    ������ 30 ��蹾���˴ ��������ҧ��� ��蹹�ͧ����


    [​IMG]


    ร้องรุ่นพี่ตื้บโหด สั่ง 30 รุม1 ซ้อมน่วมดช.วัย13 (ข่าวสด)

    เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 6 กันยายน นายแสง (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ได้พา ด.ช.เค(นามสมมติ) อายุ 13 ปี และ ด.ช.นัน(นามสมมติ) อายุ 13 ปี บุตรชายและเพื่อนของบุตรชาย เรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณประโยชน์) กรณีถูกรุ่นพี่ชั้นม.ปลาย กว่า 30 คนรุมทำร้ายในห้องพักนักกีฬาจนได้รับบาดเจ็บ

    นายแสง เปิดเผยว่า บุตรชายของตนเรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร ได้เข้าอยู่ชมรมบาสเกตบอลของโรงเรียนตั้งแต่ ม.1 แต่เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา ในวันเกิดเหตุขณะที่บุตรชายเลิกเรียนในตอนเย็นเวลาประมาณ 15.00 น. จึงได้นำกระเป๋าสัมภาระเดินไปเก็บที่หอพัก (ห้องนอนรวม) จากนั้นเวลา 16.00 น. ได้ลงมาซ้อมกีฬาตามปกติ ภายหลังซ้อมกีฬาเสร็จประมาณ 18.30 น. จึงได้เดินขึ้นห้องพักเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นประมาณ 20.30 น. รุ่นพี่ ม.6 ชื่อนายกอล์ฟ ซึ่งเป็นประธานนักเรียน นายเต่า และนายเอ็ม ได้เดินขึ้นมาเรียกให้นักกีฬาทุกคนมารวมเข้าแถวในห้องพัก โดยให้บุตรชายของตนและเพื่อนอีกหนึ่งคน มานั่งที่หน้าแถว

    จากนั้นนายกอล์ฟได้สอบถามบุตรชายตนว่า เมื่อวันศุกร์โทรศัพท์ของนายแบงก์หาย บุตรชายจึงตอบว่ารู้ เพราะนายแบงก์บอกเมื่อตอนเช้า นายกอล์ฟจึงถามบุตรชายต่อว่าแล้วเมื่อวันศุกร์ไปไหนมา ทำไมไม่มาเรียน บุตรชายจึงบอกไปว่าวันศุกร์ไม่สบายจึงขอให้ด.ช.นัน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันพากลับไปส่งที่บ้าน ต่อมานายกอล์ฟได้โทรศัพท์ไปหาภรรยาตนที่บ้าน แล้วสอบถามว่าเมื่อวันศุกร์บุตรชายตนกลับบ้านไป ทำอะไรบ้าง ภรรยาจึงตอบว่าวันศุกร์บุตรชายไม่ค่อยสบาย จึงให้ทานยาและพักผ่อน หลังจากวางสายนายกอล์ฟ ได้หันมาพูดกับบุตรชายตนว่าพูดไม่ตรงกับแม่ พร้อมกับบังคับให้พูดใหม่ว่าวันศุกร์ไปไหนมา บุตรชายก็ยืนยันตามเดิมว่าไม่ได้ไปไหนจริงๆ วันนั้นไม่สบายจะไปไหนได้ ทำให้นายเต่าซึ่งเป็นรุ่นพี่และเป็นเพื่อนของนายกอล์ฟไม่พอใจมาก เดินมาตบหัวของบุตรชาย 4-5 ครั้ง

    "นายกอล์ฟ ได้ให้ นายเต่า และนายเอ็ม พาด.ช.นันเพื่อนของบุตรชายแยกไปอีกห้องหนึ่ง สักพักนายเอ็มก็เดินกลับมาพร้อมพูดกับบุตรชาย โดยอ้างว่าเพื่อนของลูกบอกว่าลูกชายของตนเป็นคนเอาโทรศัพท์ของนายแบงก์ไป บุตรชายจึงปฏิเสธว่าไม่ได้เอาไปจริงๆ เมื่อบุตรชายพูดจบได้ถูกนายเอ็ม ตบที่ศีรษะพร้อมกับใช้เท้าถีบที่หัวไหล่" นายแสง กล่าว

    พ่อเหยื่อโหด เล่าต่อว่า เมื่อเห็นว่าบุตรชายตนไม่ยอมรับ จึงได้นำผ้าห่มมาคลุมที่ศีรษะของบุตรชายตน และเรียกรุ่นพี่ประมาณ 30 คน เข้ามารุมทำร้ายเตะต่อย จนกระทั่งถึงตี 2 จึงได้ปล่อยให้บุตรชายไปนอนในสภาพเขียวช้ำไปทั่วทั้งตัว ภายหลังเกิดเรื่องบุตรชายได้แจ้งให้ตนทราบ ตนจึงเดินทางไปขอความเป็นธรรมกับผู้อำนวยการโรงเรียน แต่เรื่องกลับเงียบไม่มีการดำเนินการใดๆ กับรุ่นพี่ที่ก่อเหตุ อีกทั้งบุตรชายของตนยังถูกข่มขู่ตลอดเวลา จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อนางปวีณา

    ด้าน ด.ช.เค และ ด.ช.นัน ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ขณะที่ตนโดนรุมทำร้ายอยู่นั้น มีอาจารย์คนหนึ่งเดินลงมาเห็น แล้วได้บอกกับรุ่นพี่ที่กำลังรุมทำร้ายอยู่ว่าจะทำอะไรก็อย่าให้ถึงกับเลือดตกยางออกก็แล้วกัน แล้วก็เดินจากไปโดยไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุเวลามาเรียน ก็จะถูกเพื่อนๆ และรุ่นพี่ที่รู้เรื่อง ต่างพูดจาถากถางตนต่างๆ นานา เช่น ไอ้ขี้ขโมย หรือไม่ก็สมน้ำหน้าดีแล้วที่ถูกกระทืบ ทำให้ตนไม่อยากไปโรงเรียน ไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อปรึกษาพ่อแม่แล้ว จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อนางปวีณา ดังกล่าว

    หลังรับแจ้ง นางปวีณา ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.ดินแดง เพื่อขอให้เร่งดำเนินคดีกับรุ่นพี่ที่ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าว พร้อมกันนี้นางปวีณา รับจะประสานไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อขอให้ส่งนักจิตวิทยา เข้ามาช่วยบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจต่อไป


    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ทั้งสองเรื่องผมรับไม่ได้จริงๆครับ

    แย่มากจริงๆ

    .​
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โลกร้อนส่งผล100ปีระดับน้ำทะเลพุ่ง1ม.

    ˹ѧ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชื่อดังของโลก ประเมินว่า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงกว่า 1 เมตร ในราว 100 ปีข้างหน้า

    กองทุนสัตว์ป่าโลก หรือ "ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ" (WWF) ซึ่งเป็นองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ คาดการณ์ว่าในปีพ.ศ. 2643 หรือเกือบ 100 ปีข้างหน้า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นถึง 1.2 เมตร ซึ่งมากกว่าตัวเลขที่สหประชาชาติคาดการณ์เอาไว้ที่ 59 เซนติเมตรถึง 1 เท่าตัว

    "ภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลก ทั้งขั้วโลกเหนือและใต้ละลาย ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นและเกิดน้ำท่วม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชา กรถึง 1 ใน 4 ของจำนวนประชากรโลก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจแจ้งเตือนเรื่องดังกล่าวก่อนที่จะมีการประชุมแก้ปัญหาโลกร้อนที่ประเทศเดนมาร์ก ในเดือนธันวาคม 2552" รายงานกองทุนสัตว์ป่าโลก ระบุ
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า นำมาฝาก เพื่อนๆ น้องๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงาน

    แต่ที่สำคัญ คนที่เราจะแต่งงานด้วยนั้น ต้องไปกับเราได้ดี ก็จะเยี่ยมมาก

    ---------------------------------------------------------

    งานแต่งงาน…ต้องเตรียมอะไร

    แต่งงาน วางแผนแต่งงาน งานแต่งงาน ต้องเตรียมอะไร


    [​IMG]
    แต่งงาน


    งานแต่งงาน…ต้องการอะไร (I Do)

    เมื่อความฝันของผู้หญิงทุกคนที่กำลังจะเป็นเจ้าสาว คืองานวิวาห์สวยหรูสมบูรณ์แบบ หลายคนถึงกับเก็บข้อมูลงานสุดเก๋ที่เคยไปร่วมไว้ในบันทึกเล่มเล็ก เผื่อวันหนึ่งจะได้มีงานอย่างที่ฝัน แต่เมื่อเวลานั้นใกล้เข้ามา เจ้าสาวมักจะเกิดอาการลังเลว่าจะจัดงานแบบไหนดี แล้วทีนี้งานแต่งงานแบบไหนกันล่ะ ที่เจ้าสาวอยากได้

    ถ้าความต้องการยังไม่ชัดเจนว่าที่สุดแล้วจะตกลงใจเลือกจัดงานแต่งงานแบบไหนดี เพราะมีหลากหลายธีมเก๋อยู่ในใจ ลองชวนว่าที่เจ้าบ่าวสุดหล่อมาทำแบบทดสอบร่วมกัน ดูว่างานแต่งงานแบบไหนคือรูปแบบที่ตรงใจที่สุด ด้วยการทำเครื่องหมายหน้าคำตอบข้อที่คู่บ่าวสาวต้องการ โดยสามารถเลือกได้มากกว่า 1 ข้อ และเขียนคำตอบเพิ่มเติมในบางหัวข้อ

    1. งบประมาณที่ตั้งไว้

    2. สถานที่แต่งงานที่คุณอยากจัด

    - หรูหรา สง่างามเป็นทางการราวกับงานเต้นรำในราชสำนักของเจ้าชายเจ้าหญิงในเทพนิยาย

    - สวยงาม คลาสิค เป็นทางการ

    - บรรยากาศอบอุ่น กึ่งทางการ

    - ปาร์ตี้เฉลิมฉลองบรรยากาศเป็นกันเอง

    3. สถานที่แต่งงานที่คุณอยากจัด

    - จัดงานมนสถานที่แต่งงานสุดพิเศษ แตกต่างไม่ซ้ำใคร เช่น โรงละคร โรงภาพยนตร์ หรือที่ๆ ที่มีความหมายพิเศษต่อคุณทั้งคู่

    - ห้องจัดเลี้ยงหรูของโรงแรม

    - เวดดิ้งพาร์คที่ไม่ใช่โรงแรม แต่ให้บริการสถานที่และจัดงานแต่งงานแบบโรงแรม

    - ริมหาดทรายชายทะเล

    - ท่ามกลางแมกไม้ในสวนเขียนขจี

    - รีสอร์ทต่างจังหวัดท่ามกลางบรรยากาศสุดประทับใจ

    4. รูปแบบของงานเลี้ยง

    - สุดพิเศษด้วยรูปแบบธีมของงานที่ไม่ซ้ำใคร

    - งานเลี้ยงที่มีแขกผู้ใหญ่มากกว่าครึ่ง

    - งานขนาดใหญ่มีแขกมากว่า 500 คน

    - งานเลี้ยงที่เชิญเฉพาะคนในครอบครัวและคนสนิท

    - ปาร์ตี้แสนสนุกในบรรยากาศเฉลิมฉลอง

    - งานเลี้ยงที่แขกที่ท่านมีที่นั่ง อย่างโต๊ะจีน บุฟเฟต์ หรือ Sit-Down Dinner

    5. อะไรที่คุณอยากให้คนจดจำงานแต่งงานของคุณได้มากที่สุด

    - ธีมงาน

    - อาหาร

    - ขนมเค้กแต่งงาน

    - รูปแบบการตกแต่งงาน

    - สถานที่จัดงาน

    - ช่วงเวลาพิธีการที่ซาบซึ้งและประทับใจ

    - พรีเซนเทชั่น

    - การมีส่วนร่วมของแขกในงาน เช่น กำหนดรูปแบบการแต่งตัวให้แขกในธีมเดียวกัน

    - การ์ดเชิญที่ออกแบบเป็นพิเศษ

    - ของชำร่วยชิ้นเก๋ ที่ผู้รับจะระลึกถึงงานเลี้ยงครั้งนี้ได้ตลอดไป

    - ดนตรีที่เลือกสรรมาอย่างดี หรืออาจมีนักร้องคนโปรด มาร่วมร้องเพลงรักหวานแหววในงานด้วย

    - เจ้าสาวที่สวยพร้อมด้วยเสื้อผ้า หน้า ผม เครื่องประดับอย่างไร้ที่ติ

    - ชุดสวย-หล่อ ของเจ้าสาวและเจ้าบ่าว

    - อื่นๆ...

    6. จำนวนแขกที่เชิญ เป็นแขกของเจ้าสาวกี่คน และแขกของเจ้าบ่าวกี่คน

    7. สิ่งพิเศษที่มีความหมายที่สุด ที่คุณสามารถทุ่มเทงบประมาณให้ได้โดยไม่เสียดาย

    8. หากต้องเลือกตัดบางอย่างออกไป อะไรคือสิ่งที่คุณสามารถตัดออกไปจากงานครั้งนี้ได้

    9. ใครคือที่พึ่งด้านเงินๆ ทองๆ ของการจัดงานครั้งนี้ พ่อแม่เจ้าบ่าว พ่อแม่เจ้าสาว หรือญาติผู้ใหญ่ท่านอื่น เช่น คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย ฯลฯ ที่พร้อมสนับสนุนความฝันวันวิวาห์ของคุณให้เป็นจริง

    10. เพื่อนๆ หรือญาติๆ สามารถให้ความช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการให้ยืม ช่วยจัดซื้อจัดหา หรือติดต่อประสานงาน

    - วางแผนจัดเตรียมงาน

    - พิธีทางการทางศาสนา

    - ตั่ง ขันน้ำพานรอง ที่ใช้ในพิธี

    - สถานที่จัดงาน

    - ตรวจสอบซักถามข้อมูลที่จำเป็น

    - ชุดแต่งงาน

    - แจกการ์ดเชิญ

    - ช่วยจ่าหน้าซองการ์ดเชิญ

    - ของชำร่วย

    - ให้ยืมเครื่องประดับ

    - ช่อดอกไม้สำหรับเจ้าสาว

    - รถคันหรูสำหรับรับตัวเจ้าสาว

    - เป็นธุระรับ-ส่งของให้

    - ทำอาหาร

    - เค้กแต่งงาน

    - จัดดอกไม้ตกแต่งงานเลี้ยง

    - วงดนตรี

    - บ้านพักตากอากาศสำหรับฮันนีมูน

    - อื่นๆ...

    11. ใครที่สามารถให้คำแนะนำที่ดีได้ อาจเป็นเพื่อนๆ ที่เพิ่งผ่านการจัดงานแต่งงานไป

    12. มีงานแต่งงานไหนที่คุณไปแล้วประทับใจ เพราะอะไร

    13. มีธรรมเนียมอะไรที่จำเป็นสำหรับแต่ละครอบครัวที่ต้องปฏิบัติ เช่น การคารวะน้ำชาแบบจีน เข้าโบสถ์แบบคริสต์ รดน้ำแบบไทย หรือธรรมเนียมพิเศษอื่นใดอีกที่จำเป็นและขาดไม่ได้

    14. สำหรับเจ้าสาว คำจำกัดความของงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบของคุณคือ...

    15. สำหรับเจ้าบ่าว คำจำกัดความของงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบของคุณคือ...

    16. สิ่งที่คุณต้องการ มีสิ่งไหนที่ขัดต่อความต้องการและความคาดหวังของครอบครัว ถ้ามีสิ่งนั้นคืออะไร ผลที่จะตามมาคืออะไร และจะรับมือกับปัญหานี้อย่างไร

    จากนั้นนำคำตอบในแต่ละข้อมาเรียบเรียง เมื่อพิจารณาทีละหัวข้อดูคุณจะค่อยๆ เห็นภาพความต้องการที่ชัดเจนขึ้น ว่ารูปแบบงานที่ต้องการเป็นอย่างไร มีธีมแบบไหน สถานที่จัดงานควรเป็นที่ใด จึงจะเหมาะสมกับจำนวนแขก คราวนี้ว่าที่เจ้าสาวจะได้งานแต่งงานที่ต้องการจริงๆ ภายใต้งบประมาณที่มีอย่างดีที่สุด


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
    โดย : Supatha
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    8 คำถามเกี่ยวกับปัญหาของระบบปัสสาวะ

    การดูแลสุขภาพ ปัสสาวะ นิ่ว ปัญหาของระบบปัสสาวะ


    [​IMG]

    8 คำถามเกี่ยวกับปัญหาของระบบปัสสาวะ (Lisa)

    อาการปวดแสบปวดร้อนในขณะถ่ายปัสสาวะ บางครั้งก็รู้สึกอยากปัสสาวะบ่อยๆ แต่ก็มักจะปัสสาวะไม่ออก ยิ่งไปกว่านั้นปัสสาวะดังกล่าวยังมีกลิ่นฉุน เป็นสีขุ่น บางครั้งอาจมีเลือดหรือหนองปน หนำซ้ำยังมีอาการเจ็บเมื่อกดตรงบริเวณหัวหน่าวอีกด้วย จากลักษณะอาการดังกล่าวส่วนใหญ่ เป็นผลมาจากการอักเสบติดเชื้อของกระเพาะปัสสาวะ โดยสาเหตุสำคัญ อาจเป็นเพราะความอับชื้นที่ส่งผลให้เชื้อโรคบางชนิดที่อาศัยอยู่แถวบริเวณจุดซ่อนเร้นเจริญเติบโตและขยายพันธุ์มากขึ้น จนทำให้เกิดการอักเสบกับอวัยวะดังกล่าว และอาจลุกลามไปยังอวัยวะอื่นที่อยู่ใกล้เคียงกัน

    [​IMG] 1. ทำไมผู้หญิงหลายคน จึงมักจะมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบปัสสาวะกันมาก

    จากสถิติของการป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะพบว่า มีผู้หญิงป่วยมากกว่าผู้ชาย 20-50 เท่า ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เป็นเช่นนั้นเป็นผลมาจากสรีระร่างกายของผู้หญิง โดยท่อปัสสาวะของผู้หญิงจะสั้นกว่าท่อปัสสาวะของผู้ชาย ยิ่งไปกว่านั้นรูปิดเปิดของท่อปัสสาวะ ก็อยู่ใกล้กับทวารหนักมากกว่า จึงเปิดโอกาสให้เชื้อโรคผ่านเข้าสู่ท่อปัสสาวะได้โดยง่าย นอกจากนี้ปากช่องคลอดก็อยู่ห่างจากท่อปัสสาวะไม่น่าจะเกินหนึ่งเซนติเมตร ดังนั้นการที่เชื้อโรคต่างๆ จะเดินทางไปมาหาสู่จนทำให้ท่อปัสสาวะ เกิดการติดเชื้อจึงไม่ใช่เรื่องยาก ​

    หนำซ้ำเมื่อยิ่งสูงวัยขึ้น ชั้นเคลือบผิวซึ่งทำหน้าที่ปกป้องผิวก็จะยิ่งบางและอ่อนแอลง ทำให้ไม่อาจต้านทานเชื้อโรคต่างๆ ได้ อย่างไรก็ดีการรักษาสุขอนามัยในบริเวณจุดซ่อนเร้นดังกล่าว หากทำบ่อยมากหรือใช้สบู่ที่แรงเกินไปก็ใช่ว่าจะดี เพราะจะยิ่งทำให้เกิดการระคายเคืองหนักขึ้น​

    [​IMG] 2. อาหารการกินใดบ้างที่จะช่วยป้องกันโรคนี้ และสามารถช่วยเสริมสร้างการทำงานของไตและกระเพาะปัสสาวะได้

    ที่สำคัญและจำเป็นอันดับแรกคือ ต้องดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร ยิ่งเป็นน้ำผลไม้สดที่มีวิตามินซีสูงก็ยิ่งดี นอกจากนี้ก็ควรจะลดการรับประทานอาหารประเภทโปรตีนจากเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผักโขม และผักตระกูลกะหล่ำ ส่วนผักชนิดอื่นๆ และผลไม้ต่างๆ ควรรับประทานเพิ่มขึ้น​

    เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ก่อนร่วมเพศทุกครั้งควรดื่มน้ำสักหนึ่งแก้ว และหลังจากร่วมเพศแล้วควรจะปัสสาวะทุกครั้ง ทั้งนี้ก็เพื่อให้น้ำปัสสาวะช่วยขับไล่ หรือชะล้างเชื้อโรคที่อาจจะหลงเล็ดลอด เข้าไปในท่อปัสสาวะออกไป​

    [​IMG] 3. เพราะเหตุใดการให้ความอบอุ่นแถวๆ บริเวณหน้าท้องจึงช่วยบรรเทาอาการป่วยดังกล่าวให้ดีขึ้น

    การให้ความอบอุ่นแก่บริเวณดังกล่าวมีส่วนช่วยที่สำคัญมาก เพราะความเย็นจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอ และส่งผลให้เชื้อโรคเข้าจู่โจมร่างกายได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ความอบอุ่น จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งกว่า นอกจากนี้การประคบหน้าท้องด้วยความร้อน ก็จะช่วยทำให้ขับปัสสาวะออกได้ดีขึ้น​

    [​IMG] 4. นิ่วในระบบปัสสาวะมีอาการอย่างไร

    เป็นที่ทราบกันดีว่าโรคนิ่วในระบบปัสสาวะเมื่อเกิดขึ้นกับใครแล้ว ก็จะสร้างความเจ็บปวดทรมานในขณะปัสสาวะได้เป็นอย่างมาก บางรายถึงกับปัสสาวะมีเลือดปน เป็นไข้ และอาจทำให้เกิดอาการปวดหลังแถวๆ บั้นเอว ปวดท้องน้อย ปวดเหนือหัวหน่าว หรือปวดบริเวณอวัยวะเพศ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของนิ่วว่าเกิดขึ้นตรงจุดใด โดยขนาดของความปวดจะพอๆ กับเวลาปวดจะคลอดลูกอย่างไงอย่างงั้น​

    [​IMG] 5. อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดนิ่วดังกล่าวขึ้น

    สาเหตุหลักๆ ของการเกิดนิ่ว ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากภาวะโภชนาการ นอกจากนี้ก็มีบ้างในบางกรณีที่เป็นโรคนี้มาตั้งแต่กำเนิด​

    *กรณีที่มีสาเหตุจากภาวะโภชนาการ นักวิชาการหลายท่านยืนยันว่านิ่วของระบบทางเดินปัสสาวะเป็นผลมากจากการดื่มน้ำน้อยเกินไป รวมถึงการรับประทานแต่อาหารประเภทเนื้อสัตว์ในปริมาณสูงอยู่เป็นประจำ ทำให้ร่างกายเสียสมดุลของน้ำ และทำให้สารแคลเซียมและฟอสเฟตถูกขับออกทางปัสสาวะ ซึ่งหากขับไม่ทัน ก็จะทำให้เกิดการตกผลึก เมื่อผลึกรวมตัวกันมากขึ้น ทางเดินปัสสาวะก็ตีบตัน และเมื่อเวลาผ่านไปเป็นแรมเดือน แรมปี ผลึกดังกล่าวก็จะมีขนาดโตขึ้นจนกลายเป็นก้อนนิ่วที่ขัดขวางการขับถ่ายปัสสาวะ​

    *กรณีที่มีสาเหตุมาตั้งแต่เกิด เป็นผลมาจากการทำงานที่ผิดปกติของต่อมพาราไทรอยด์ ซึ่งทำให้ต่อมนี้ไม่สามารถจะควบคุมระดับของแคลเซียมและฟอสเฟต ให้ดูดซึมเข้าไปเสริมสร้างกระดูกได้ ส่งผลให้ระดับของสารดังกล่าวถูกขับออกสู่ระบบปัสสาว ะแล้วไปตกตะกอนเป็นก้อนนิ่วอยู่ในระบบทางเดินปัสสาวะ​

    [​IMG] 6. มีวิธีการใดบ้างที่จะช่วยกำจัดนิ่วดังกล่าวให้หมดไป

    การตัดสินใจว่าจะกำจัดนิ่วออกไปด้วยวิธีใดนั้น บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของการเกิดนิ่ว และขนาดของนิ่ว ประกอบกับสภาพไตของผู้ป่วย ทั้งนี้วิธีการกำจัดนิ่วมีอยู่ด้วยกันหลายวิธีคือ​

    1. รักษาโดยให้ยาแก้ปวดและยาขับปัสสาวะ ใช้ในกรณีที่นิ่วมีขนาดเล็กกว่า 0.7 เซนติเมตร ซึ่งโอกาสที่นิ่วจะหลุดออกมาได้เองมีความเป็นไปได้ถึงประมาณร้อยละ 60-70​

    2. ใช้เครื่องมือขบนิ่ว วิธีนี้จะเหมาะกับนิ่วขนาดเล็กที่เกิดขึ้นในท่อปัสสาวะ หรือในกระเพาะปัสสาวะ โดยแพทย์จะทำการส่องกล้องผ่านเข้าไปทางท่อปัสสาวะ​

    3. ทำลายก้อนนิ่วโดยใช้พลังงาน เช่น แสงเลเซอร์ อัลตร้าโซนิกส์ หรืออิเล็กโตรไฮโดรลิก ร่วมกับการส่องกล้องผ่านทางท่อปัสสาวะและท่อไต วิธีนี้เหมาะกับนิ่วขนาดเล็กที่เกิดขึ้นในท่อไตส่วนล่าง​

    4. สลายนิ่วโดยใช้คลื่นพลังงานสูง วิธีการนี้เหมาะกับการใช้สลายนิ่วได้โดยไม่ทำให้ผู้ป่วยมีบาดแผล เพราะคลื่นพลังงานสูงที่ปล่อยออกไป จะผ่านทะลุผิวเข้าไปสลายก้อนนิ่วได้โดยตรง และหลังจากที่นิ่วสลายเป็นผุยผงแล้ว นิ่วดังกล่าวก็จะถูกขับออกมาพร้อมกับปัสสาวะ​

    อย่างไรก็ดีวิธีการทั้งหลายเหล่านี้จะใช้ได้ผลดีกับนิ่วขนาดเล็กเท่านั้น ส่วนการสลายนิ่วขนาดใหญ่นั้น อาจจะต้องใช้วิธีส่องกล้องผ่านทางช่องท้อง แล้วใช้เครื่องมือขบ หรือสลายนิ่วโดยใช้พลังงานต่างๆ ดังกล่าว​

    [​IMG] 7. ระหว่างระบบการทำงานของไตกับความดันโลหิต ทั้งสองระบบมีความสัมพันธ์กันอย่างไร

    เนื่องจากไตมีหน้าที่สำคัญในการกรองของเสียออกจากเลือด ในเวลาเพียง 1 นาทีจะมีเลือดผ่านหลอดเลือดแดงใหญ่เข้ามาสู่ไตถึง 0.2 ลิตร โดยสารที่ใช้ไม่ได้จากเลือด ไตจะเก็บกักไว้เพื่อเตรียมขับถ่ายออกไปทางปัสสาวะ ส่วนสารที่ยังใช้ประโยชน์ได้ ไตจะปล่อยให้ไหลกลับไปทางหลอดเลือดดำใหญ่ หมุนเวียนต่อเนื่องกันไปเช่นนี้อย่างเป็นระบบ​

    แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ระบบการกรองของเสียของไตผิดปกติ ความผิดปกติดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อความดันโลหิต หรือระบบการไหลเวียนของโลหิตได้ ในทางตรงกันข้ามหากการไหลเวียนของโลหิตเกิดผิดปกติ โดยเฉพาะความดันโลหิตที่เพิ่มขึ้นสูง ย่อมจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อปริมาณของเลือดที่ไหลเข้ามาในไต และทำให้การกรองของเสียของไตพลอยทำงานอย่างผิดพลาดบกพร่องไปด้วย​

    [​IMG] 8. มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน ที่ผู้ป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบปัสสาวะ จะต้องรับประทานยาแอนตี้ไบโอติกหรือยาปฏิชีวนะ

    ปัจจุบันเรายังไม่มียาอื่นใดที่เป็นทางเลือกที่ดีกว่ายานี้ เพราะยานี้สามารถจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนอันเนื่องจากเชื้อลุกลามได้ ทั้งกับอวัยวะที่ป่วยอยู่แล้ว รวมถึงอวัยวะส่วนอื่นที่อยู่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นผู้ป่วยด้วยโรคนี้จึงจำเป็นต้องพึ่งยาแอนตี้ไบโอติกหรือยาปฏิชีวนะ เพื่อช่วยยับยั้งการติดเชื้อและเยียวยารักษาปัญหาดังกล่าว อย่างไรก็ดีการใช้ยานี้ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง และควรใช้ยาอย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นอาจทำให้เชื้อดื้อยาได้​

    เกร็ดน่ารู้ ระบบปัสสาวะประกอบด้วยอวัยวะใดบ้างและแบ่งงานกันอย่างไร

    เริ่มต้นจาก ไตทั้งสองข้าง ซึ่งมีบทบาทในการช่วยกรองของเสียออกจากเลือด และขับถ่ายของเสียที่กรองได้ผ่านไปตามท่อไต เพื่อลงไปสู่กระเพาะปัสสาวะ ในขณะที่กระเพาะปัสสาวะซึ่งประกอบขึ้นด้วยกล้ามเนื้อที่สามารถขยายและหดตัวได้ตามคำสั่งการของสมองส่วนไฮโปธารามัส เพื่อรองรับกักเก็บน้ำปัสสาวะไว้ และขับออกไปเมื่อน้ำปัสสาวะเต็มหรือเมื่อถูกสมองสั่งการก็ได้ โดยขับผ่านท่อปัสสาวะออกสู่ภายนอกร่างกาย ท่อปัสสาวะนี้ในเพศชายจะมีความยาวถึง 18 เซนติเมตร ส่วนในเพศหญิงจะยาวเพียง 3-4 เซนติเมตรเท่านั้น และนี่เองที่เป็นสาเหตุหนึ่ง ซึ่งทำให้ระบบปัสสาวะของผู้หญิงติดเชื้อได้โดยง่าย




    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วิธีสังเกตยาหมดอายุ-เสื่อมคุณภาพ

    เกร็ดสุขภาพ วิธีสังเกตยาหมดอายุ


    [​IMG]


    วิธีสังเกตยาหมดอายุ-เสื่อมคุณภาพ (ไอเอ็นเอ็น)

    ก่อนทานยาลองสำรวจสักนิดว่ายาเสื่อมคุณภาพแล้วหรือยัง ยาเม็ด สังเกตว่าเม็ดยาจะแตกร่วน สีเปลี่ยนไป มีจุดด่าง ขึ้นรา หรือหากเป็นยาเม็ดเคลือบน้ำตาล เม็ดยาอาจเยิ้มเหนียวมีกลิ่นหืนหรือกลิ่นผิดไปจากเดิม

    [​IMG] ยาแคปซูล สังเกตว่าแคปซูลจะบวม พองออก หรือจับตัวกัน ผงยาในแคปซูลเปลี่ยนสี เช่น ยาเตตราซัยคลินที่เสียแล้ว ผงยาจะเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีน้ำตาล ซึ่งเป็นอันตรายต่อไตมาก

    [​IMG] ยาน้ำแขวนตะกอน เช่น ยาลดกรด ยาคาลาไมน์ทาแก้คัน หากเสื่อมสภาพตะกอนจะจับกันเป็นก้อน เกาะติดกันแน่น เขย่าแล้วไม่กระจายตัวดังเดิม มีความเข้มข้น กลิ่น สี หรือรสเปลี่ยนไป

    [​IMG] ยาน้ำเชื่อม เช่น ยาแก้ไอ หากหมดอายุ ยาจะมีลักษณะขุ่นมีตะกอน ผงตัวยาละลายไม่หมด สีเปลี่ยน มีกลิ่นบูดเปรี้ยวหรือรสเปรี้ยว

    [​IMG] ยาขี้ผึ้งและครีม ถ้าพบว่าเนื้อยาแข็งหรืออ่อนกว่าเดิม เนื้อไม่เรียบ เนื้อยาแห้งแข็ง หรือสีของยาเปลี่ยนไป

    วิธีการดูว่ายาหมดอายุ คือ ดูวันหมดอายุของยาที่ระบุไว้บนฉลากยา และถ้ายานั้นไม่มีวันบอกหมดอายุ อาจดูจากวันเดือนปีที่ผลิต ซึ่งโดยปกติ ถ้าเป็นยาน้ำจะเก็บไว้ได้ประมาณ 3 ปีนับจากวันผลิต และหากเป็นยาเม็ดจะเก็บไว้ได้ 5 ปี และถ้าเป็นยาหยอดตาหากเปิดใช้แล้วเก็บไว้ได้เพียงหนึ่งเดือน

    ครั้งหน้าถ้าจะรับประทานยา อย่าลืมสังเกตดูวันหมดอายุก่อนรับประทานยากันด้วย




    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อ ไข้หวัดใหญ่ 2009

    ไข้หวัดใหญ่ 2009 สถานพยาบาล ตรวจหาเชื้อ ไข้หวัดใหญ่ 2009 ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่

    การตรวจด้วยความสมัครใจของผู้ต้องการตรวจหาเชื้อสามารถทำได้ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบ หรืออยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ (แพทย์ต้องเป็นผู้ส่งตรวจ) ซึ่งสามารถรับบริการได้ที่โรงพยาบาลรัฐบาล และเอกชนทั่วไป (บางโรงพยาบาลไม่รับตรวจ ควรโทรศัพท์สอบถามโดยตรง)

    ราคากลางของการตรวจสอบจะอยู่ที่ 3,500 – 4,000 บาท (สำหรับโรงพยาบาลของรัฐบาล) ส่วนเอกชนอาจจะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม ( ควรสอบถามโดยตรงจากโรงพยาบาลก่อนเข้ารับบริการเพราะแต่ละที่ไม่ยืนยันตัวเลข และอาจมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทางการแพทย์เพิ่มเติมอีก)

    วิธีการตรวจจะใช้ สารคัดหลั่ง ของผู้ป่วย เพื่อการตรวจหาเชื้อ (ไม่ใช้การเจาะเลือด) สำลีพันปลายไม้ (cotton bud) พันเข้าไปในโพรงจมูก และนำสารที่ติดมาไปตรวจหาเชื้อต่อไป

    ทุกโรงพยาบาลที่รับตรวจ สุดท้ายจะส่งผลมายัง “กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์” อยู่ดี เพราะที่นี่เป็นศูนย์กลางของการตรวจเชื้อ, ผลที่ได้จะถูกส่งกลับไปยังโรงพยาบาล และแพทย์แจ้งผลกับผู้ต้องการตรวจอีกครั้งหนึ่ง

    ระยะเวลาการรอผลปัจจุบันอยู่ที่ 3-4 วัน เนื่องจากในแต่ละวัน ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ต้องทำการตรวจเชื้อถึงวันละ 4,000 ราย (โดยประมาณ) … (โดยปกติที่เรื่องนี้ยังไม่บูม 24 ช.ม. ก็ทราบผล)

    ขั้นตอนของการตรวจหาเชื้อ ไข้หวัดใหญ่ 2009 จะแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน คือ
    ระดับแรก คือ แรพพิด (Rapid) หรือ การตรวจหาเชื้อในโพรงจมูกและช่องคอ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สาย A หรือไม่, ถ้าไม่ใช่ ก็ไม่ตรวจขั้น 2 ต่อ ถ้าใช่ต้องตรวจเพื่อยืนยันเชื้อ H1N1 ต่อไป

    ระดับที่ 2 คือ การตรวจเพื่อยืนยันเชื้อ H1N1 ราคา 3,000 บาท ซึ่งหลักเกณฑ์การคัดกรองผู้ป่วยจะใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับกระทรวงสาธารณสุข

    [​IMG]
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1121.JPG
      1121.JPG
      ขนาดไฟล์:
      83.1 KB
      เปิดดู:
      225
    • 1122.JPG
      1122.JPG
      ขนาดไฟล์:
      76.5 KB
      เปิดดู:
      211
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2009
  15. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 15 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 13 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE>
    แหน่ง, sithiphong

    หวัดดีท่านเลขาฯ ครับ
    วันนี้อากาศดีนะครับ ขอให้สนุกกับการทำงานทั้งวันครับผม
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    แหน่ง, sithiphong, psombat, มูริญโญ่

    ดีครับท่านเลขาฯ , ท่านพี่มูริญโญ่ , และท่านสมบัติ
    เป็นงัยบ้างครับ ช่วงนี้ เงียบๆ นะครับ
    มีไรดีๆ กระซิบกันบ้างเน้อ
     
  19. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    สมัยตอนที่เป็นเด็กอยู่ต่างจังหวัดชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยครับ
    แต่ที่บ้านไมมีทีวี เลยไปขอดูกับเพื่อนบ้าน
    บางวันเขาอารมณ์ดี ก็ให้ดู บางวันอารมณ์ไม่ดี เลยอดดู
    ทรมานสุดๆ ถ้าวันไหนไม่ได้ดู
    คิดว่าสักวันมีเงินจะซื้อทีวีบ้างจะได้ดู (คิดถึงอดีตน่ะครับ)
     
  20. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    สวัสดีครับ ... พักนี้ต่างพากันซุ่มเงียบ แบ่บ..เสือซุ่มเเปล่าครับ หุหุ!
    อ่อ .. ภาพที่ส่งให้นั้น ตกลงว่าแรงเปล่าครับ :)
     

แชร์หน้านี้

Loading...