ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

โหววววววว พี่มาเขียนให้อยากจริง ๆ พี่ ช่วยเกาให้หายทันทีเถอะพี่

 

ในภาพนั้น ผมยืนอยู่ห่างไกลที่สุดเลยครับ

 

ขนาดนั้นเลยเหรอ อุ้ย ตื่นตา ตื่นใจอ่ะ มาสอน มั่งดิ อยากเห็น มังกือ เอ้ย มังกร บิน ในมือ อ่ะ

 

ผมกินวันละช้อนครับ เกือบทุกวัน ฮิฮิ

 

555 แหม ก็ตอนนั้นบ้าหนังจีนไง มันเลยรู้สึกเป็นอย่างงั้นนะ สอนได้เดี๋ยวไปขุดตำราก่อน ทำได้ทุกคนครับ

 

มาแล้วค่ะ ข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับงานบวชของน้อง Pizky ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 เดือน พฤศจิกายน 2552 นี้ค่ะ เห็นว่าจะบวชไปเรื่อยๆไม่มีกำหนดน่ะค่ะ

เพิ่งวางสายจากหลวงพี่เล็กสดๆร้อนๆนี่เองค่ะ (กลัวแทบตาย กลัวจะไปรบกวนเวลาภาวนาของท่าน ตัดสินใจจดๆจ้องๆส่งมโนไปขออนุญาตก่อนในที่สุดก็โทรไปจนได้ ท่านใจดีมากกกกกกกกกกกกค่ะ)^^

ท่านกัลยาณมิตรท่านไหนอยากร่วมเป็นเจ้าภาพงานบวชน้อง Pizky ก็สามารถโอนเงินเข้าบัญชีของหลวงพี่เล็กโดยตรงได้เลยนะคะ

ธนาคาร : กรุงไทย
ชื่อบัญชี : พระครูธรรมธร เล็ก สุธัมมปัญโญ
สาขา : ทองผาภูมิ
หมายเลขบัญชี : 718-1-18155-6

ขอโมทนาในบุญกุศลของทุกๆท่านด้วยนะคะ

 

หายเร็วๆนะคะ

ขออำนาจพระบารมีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์จงดลบันดาลให้ผลบุญที่ข้าพเจ้าทำมาตั้งแต่อดีตชาติ ต้นชาติจนถึงปัจจุบันนี้ เวลานี้
จงส่งไปถึงยังเจ้ากรรมนายเวรของพี่ขาโจ๋ข้าเอง และเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า ขอให้ท่านได้โปรดมาอนุโมทนาในบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ตั้งใจส่งไปให้ด้วยเถิด ขอให้ท่านได้โปรดอโหสิกรรมให้กับพี่ขาโจ๋ ข้าเอง และข้าพเจ้า
ขอให้อำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยโปรดดลบันดาลให้พี่ขาโจ๋ข้าเอง และข้าพเจ้าให้หายป่วยด้วยเถิด และขอให้พี่ๆเพื่อนๆน้องๆทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง
เพื่อที่จะได้สร้างบุญบารมีต่อไปเถิด อย่าได้มีทุกข์ภัยอันตรายใดๆมาแผ้วพาน

และขอให้ผลบุญอันนี้ส่งผลให้ข้าพเจ้า ครอบครัวของข้าพเจ้า เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ
กัลยาณมิตรทุกท่านได้ไปถึงยังพระนิพพานในชาตินี้ด้วยกันทั้งหมดเทอญ
สาธุ
( หนูก็ป่วยค่ะ เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่ก็ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ขอให้พี่ขาโจ๋ฯหายไวๆนะคะ สาธุ )

 

ตำนานพระพุทธบาทสี่รอย

เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในศาสนาปัจจุบันนี้ได้เสด็จจาริกประกาศธรรมและโปรดเวไนยสัตว์มายังปัจจันตประเทศ (ประเทศไทยในปัจจุบัน)
จนกระทั่งมาถึงเทือกเขาทางตอนเหนือของประเทศชื่อ เขาเวภารบรรพตซึ่งขณะนั้นได้เสด็จพร้อมกับพุทธสาวก ๕๐๐ องค์

และได้แวะฉันจังหันอยู่บนเขาเวภาบรรพตแห่งนี้ เมื่อพระพุทธองค์ฉันจังหันเสร็จ ขณะประทับอยู่ที่นั้นก็ได้ทราบด้วยญาณสมาบัติว่าบนเทือกเขาแห่งนี้ได้มีรอยพระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้ามาประทับอยู่บนก้อนหินใหญ่ คือ พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้ภัทรกัลป์นี้
แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงเล็งดูรอยพระพุทธบาทแห่งพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์ คือ

๑ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ
๒ พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ
๓ พระพุทธเจ้ากัสสปะ

อันมีในที่นี้ พุทธสาวกทั้งหลายมีพระสารีบุตรเป็นประธาน เมื่อเห็นเช่นนี้จึงทูลถามว่าพระพุทธองค์ทรงเล็งดูด้วยเหตุใด
พระพุทธองค์ตอบว่า ดูก่อนท่านทั้งหลายสถานที่แห่งนี้ แม้นว่าพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์ที่ล่วงมาแล้วในอดีตกาล ก็มาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้ทุก ๆ พระองค์ และแม้นว่าพระศรีอาริยเมตไตร ก็จักเสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้ และจักรประทับรอยพระบาทสี่รอยนี้ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว
(คือ ประทับลบทั้งสี่รอยให้เหลือรอยเดียว) เมื่อพระพุทธองค์ตรัสแก่สาวกทั้งหลายเสร็จแล้ว พระองค์ก็เสด็จไป ประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์ จึงมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า ๔ พระองค์ จึงกำเนิดเป็นพระพุทธบาทสี่รอย

เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ของเราประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์นั้นแล้วก็ทรงอธิษฐานว่า ในเมื่อกูตถาคตนิพพานไปแล้ว ๒,๐๐๐ ปี พระพุทธบาทสี่รอยนี้ก็จักปรากฏแก่ปวงคน และเทวดาทั้งหลาย ก็จักได้มาไหว้และบูชา เมื่อทรงอธิษฐานและทำนายไว้ดังนี้แล้ว พระพุทธองค์ก็เสด็จไปเชตวันอารามอันมีในเมืองสาวัตถีวันนั้นแล

เมื่อพระพุทธเจ้าทรงนิพพานไปแล้ว เทวดาทั้งหลายก็นำเอาพระธาตุของพระพุทธองค์มาบรรจุไว้ที่พระพุทธบาทสี่รอย

เมื่อพระพุทธองค์นิพพานล่วงแล้วประมาณ ๒,๐๐๐ วัสสา เทวดาทั้งหลายต้องการอยากให้พระพุทธบาทสี่รอยปรากฏแก่คนทั้งหลายที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานไว้ ก็จึงเนรมิตเป็นรุ้งตัวใหญ่ (เหยี่ยว)
ก็บินลงจากภูเขาเวภารบรรพตอันเป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธบาทสี่รอยในปัจจุบันนี้ เพื่อบินลงไปเอาลูกไก่ชาวบ้าน (คนป่า) ที่อยู่ตีนเขาเวภารบรรพต แล้วก็บินกลับขึ้นไปอยู่ยอดเขา

มันก็โกรธมากจึงตามขึ้นไป คิดว่าจะยิงเสียให้ตาย มันก็ติดตามไปค้นหาดูแต่ก็ไม่เห็นรุ้งตัวนั้นอีก แต่เห็นรอยพระพุทธบาทสี่รอยอันอยู่พื้นต้นไม้และเถาวัลย์ พรานป่าผูนั้นก็ทำการสักการะบูชา เสร็จแล้วก็ลงจากภูเขา

พอมาถึงหมู่บ้านก็เล่าบอกแก่ชาวบ้านทั้งหลายฟังความอันนั้นให้ปรากฏสืบ ๆ กันไป แรกแต่นั้นไปคนทั้งหลายก็พากันไปสักการะบูชามาก แต่นั้นมาจึงได้ชื่อว่า พระบาทรังรุ้ง (รังเหยี่ยว)

ในสมัยนั้นมีพระยาตนหนึ่งชื่อว่า พระยาเม็งราย เสวยราชสมบัติในเมืองเชียงใหม่ ได้ทราบข่าวจึงมีพระราชศรัทธาเสด็จขึ้นไปกราบบูชาพระพุทธบาทสี่รอย ก็นำเอาราชเทวีและเสนาพร้อมกับบริวารทั้งหลาย

เมื่อพระยาเม็งรายกราบนมัสการเสร็จแล้ว ก็นำเอาบริวารของตนกลับมาสู่เมืองเชียงใหม่ ก็ตั้งอยู่เสวยราชสมบัติตราบเมื้อนอายุขัยแล้ว ก็เจริญตามรอยและได้ขึ้นมากราบพระพุทธบาททั้งสี่รอย ทุก ๆ พระองค์
หลังจากนั้นมาพระบาทรังรุ้งหรือรังเหยี่ยวก็เปลี่ยนชื่อเป็น "พระพุทธบาทสี่รอย" เพราะมีรอยพระพุทธบาทประทับซ้อนกันถึงสี่รอย คือมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ที่ล่วงลับมาแล้ว
ในภัทรกัลป์นี้ คือ

รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ รอยแรกเป็นรอยใหญ่ยาว ๑๒ ศอก
รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ เป็นรอยที่ ๒ ยาว ๙ ศอก
รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากัสสปะเป็นรอยที่ ๓ ยาว ๗ ศอก
รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโคตะมะ (ศาสนาปัจจุบัน) เป็นรอยที่ ๔ รอยเล็กที่สุดยาว ๔ ศอก

เมื่อมาถึงสมัยพระยาธรรมช้างเผือกผู้ครองนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยบริวาร ๕๐๐ คนก็ขึ้นไปกราบสักการะบูชาพระพุทธบาทสี่รอย และได้สร้างวิหารครอบพระพุทธบาทสี่รอยไว้ชั่วคราว

โดยแต่เดิมถ้าใครจะดูรอยพระพุทธบาทบนยอดหินก้อนใหญ่ ต้องใช้บันไดพาดขึ้นไปหรือปีนขึ้นไปดู ซึ่งก็คงขึ้นได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น ดังนั้น พระยาธรรมช้างเผือก จึงตรัสสร้างแท่นยืนคล้าย ๆ นั่งร้าน
รอบ ๆ ก้อนหินที่มีพระพุทธบาทสี่รอยและได้สร้างหลังคาชั่วคราวมุงไว้

ต่อมาในสมัยพระชายาเจ้าดารารัศมีก็ได้ขึ้นไป กราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอยและได้มีพระราชศรัทธาก่อสร้างวิหารเป็นการกราบบูชารอยพระพุทธบาทไว้หนึ่งหลัง หลังเล็กปัจจุบันได้บูรณะปฏิสังขรณ์
แล้วทั้งหลัง

พอมาสมัยเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๒ ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยก็ได้ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย และได้รื้อพระวิหารที่เจ้าพระยาธรรมช้างเผือกสร้างไว้ชั่วคราว
และได้สร้างพระวิหารครอบรอยพระพุทธบาทไว้ใหม่ และได้ฉาบปูนครอบรอยพระพุทธบาทสี่รอย พระพุทธบาทสี่รอยนี้เป็นพระพุทธบาทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย

 

คำบูชาพระพุทธบาทสี่รอย

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
(ว่า ๓ จบ)

สาธุ สาธุ โกสัมพิยัง อะวิทูเร เวภาระ ปัพพะเต
กกุสันโธ โกนาคะมะโน กัสสะโป โคตะโม
ปาทะ เจติยัง ชินะธาตุ จะฐะ เปตวา อะหัง วันทามิ ทูระโต

คำแปล

สาธุ สาธุ ข้าพเจ้าขอวันทา นมัสการเจดีย์ คือรอยพระพุทธบาท
และพระชินธาตุเจ้าทั้งหลายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่า พระกกุสันโธ โกนาคะมะโน กัสสะโป
และพระสิทธัตถะโคตะโม ที่ประดิษฐานไว้
ณ ภูเขาเวภารบรรพตนี้ ตลอดกาลนานเทอญ

 

เชิญชวนร่วมทำบุญ
งานบุญ เดือน พฤศจิกายน 2552
ผมได้โทรไปแจ้งหลวงพ่อ ท่านเจ้าอาวาส วัดถ้ำวัวแดงแล้ว ว่าพวกเรา(คณะ ชุมชน มโนมยิทธิ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
จะนำของไปถวาย ในวันอาทิตย์ที่ 29 พ.ย.52 นี้
สำหรับสิ่งของที่จะนำไปถวายมีดังนี้ครับ
1. ตู้พระไตรปิฏก และ พระไตรปิฏก จำนวน 1 ชุด
2. เครื่องคอมพิวเตอร์
3. ปลอกหมอน สำหรับญาติธรรมที่ไปปฏิบัติธรรมที่วัด
4. อื่นๆ ตามกำลังศรัทธา

งานบุญ เดือน ธันวาคม 2552
อีกงานหนึ่งก็คือเป็นเจ้าภาพถวายลูกนิมิต วัดถ้ำสมบัติ ที่ จังหวัดเพรชบรูณ์ ประมาณใกล้ ๆ สิ้นปี ส่วนเรื่องกำหนดวันพิธี
จะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่งนะครับ ท่านญาติธรรมท่านกัลยาณมิตรท่านใด ที่จะทำบุญร่วมกันก็โปรดแจ้ง
ว่าจะทำบุญร่วมงานไหนด้วยนะครับ

ส่วนท่านใดที่จะร่วมปัจจัยถวายบุญร่วมกันได้ที่หมายเลขบัญชีนี้นะครับ

ธนาคาร : ไทยพาณิชย์
ชื่อบัญชี : เบญญา เตชาวัฒนากูล
สาขา : ย่อยเทสโก้โลตัส คลอง 3
หมายเลขบัญชี :368-2-03897-2
แจ้งมาทาง pm ของ sabzajeed (น้องเบน) ได้เลยครับ

 

อนุโมทนาด้วยนะคะ

เพื่อนๆกัลยาณมิตรท่านใด ใครใคร่ทำก็ทำนะคะ อย่าให้เบียดเบียนตนเองนะคะ ถ้าท่านใดไม่สะดวกก็คอยอนุโมทนาบุญก็ได้ค่ะ เพราะเราคงจะมีการทัวร์ทำบุญไปเรื่อยๆค่ะ

 

ได้ข่าวว่าจะมีงานบุญอีกครั้ง ดิฉันมีจอคอมพิวเตอร์อยู่ 1 ตัว ซึ่งเป็นรุ่นเก่า ไม่ใช่จอ LCD นะค่ะ พอดีจะนำไปบริจาคอยู่พอดี ถ้าคุณตู่เห็นว่า สามารถนำมาร่วมทำบุญและนำไปใช้ประโยชน์ได้ ดิฉันยินดีค่ะ แล้วขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

 

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณ ohaey_19 (อ่านว่า โอเช ป่าวค่ะ ฮ่า..ขอโทษนะคะ) หนิงขออนุญาตมาตอบแทน น้องลม..

จอคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า ถ้าไม่ใช่จอขาวดำ รับโหม๊ด... ค่ะ ช่วงนี้ขอฝากจอไว้ก่อนนะคะ

จะนัดรับของอีกครั้งนะคะ

ขอบพระคุณมากค่ะ

 

ยินดีทุกอย่างทุกประการเลยค่ะ ทั้งเรียกน้องโอเช หรือจอคอมพิวเตอร์ค่ะ....พี่หนิง อิอิ

 

พิมพ์ภาษาไทยได้แล้วค่ะ ต้องขอบคุณ คุณสายลม เป็นอย่างมากค่ะ ความที่อยากเข้ามาโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ได้ไปงานบุญกฐิน ดูภาพแล้วก็ปิติในบุญเป็นอย่างยิ่ง จนต้องลองทำเอง ก็ทำได้โดยไม่ต้องง้อลูกชาย แค่อาศัยคำแนะนำวิธีทำของคุณสายลม ปกติจะนึกแต่ว่า เราทำไม่ได้ ทำไม่เป็น ก็เลยไม่เป็นอยู่นั้นแล สอนให้รู้ว่าตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ขอโมทนาสาธุในบุญกุศลทุกๆ บุญกับทุกๆ ท่าน ค่ะ

 

ขอเล่าเรื่องที่ไปทำบุญกฐินวัดท่าขนุนมานะคะ จากที่เกริ่นไว้ตอนแรกคือตั้งใจจะไปตั้งแต่วันที่ 21ต.ค.52 แต่มีอุปสรรคเข้ามาตลอดจนวันที่ 22 เริ่มหมดหวังแต่ก็ยังแอบหวังอยู่ลึก ๆ และแล้วก็ตัดสินใจกับแฟนว่ายังไงต้องไปให้ได้ จนขับรถออกจากที่ทำงานมาแล้วก็ยังมีคนโทร.มาตามงานอีกแต่ยังไงก็ไม่กลับเข้าไปแล้ว โทร.ให้น้องที่ทำงานจัดการให้แทน

กว่าจะได้ออกจากบ้าน(ประจวบฯ)ก็หกโมงครึ่งแล้ว วัดอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ไปหาเอาข้างหน้า แต่ดูแผนที่มาคร่าวๆ แล้ว ดันลืมหยิบแผนที่มาด้วยอีก บอกแล้วว่าพวกเดียวกะคุณคนข้างวัด^_^ ระหว่างทางก็เจออุปสรรคเป็นระยะ ๆ คือฝนตกหนักมาก ๆ ชนิดที่มองผ่านกระจกหน้ารถจะขาวไปหมดเลย มองแทบไม่เห็นถนน สายฝนพุ่งใส่กระจกหน้ารถเม็ดเป้ง ๆ ด้วยความที่รอบด้านมีแต่ความมืดจึงเห็นเม็ดฝนกระหน่ำเต็มหน้ากระจก

ถึงวัดก็ประมาณตีหนึ่งเศษๆ เงียบ และ เงียบ ก็เค้านอนกันหมดแล้ว ลองเดินไปดูที่ศาลา บรรดาคุณหมาใต้ศาลาก็เห่าไล่อีกถอยแทบไม่ทัน ...ก็นอนในรถกัน ตี่สี่ก็ขึ้นไปบนศาลา ร่วมฟังพระท่านทำวัตรเช้า หลังจากท่านทำวัตรเสร็จก็ได้ถามพระรูปหนึ่งถึงหลวงพี่เล็กก็ได้ความว่าท่านจะโปรดญาติโยมตอนแปดโมงเช้า ก็กลับลงไปนอนรอในรถ(ยังง่วงอยู่เลย)

เจ็ดโมงครึ่งคนก็เต็มวัดเต็มศาลาไปหมดแล้ว พอใกล้แปดโมงคนก็เริ่มเข้าแถวเพื่อทำบุญกับหลวงพี่ เมย์ก็มีแต่ปัจจัยถวายท่านเท่านั้นเอง มาลัย,ดอกไม้หรืออย่างอื่นไม่ได้เตรียมมาเลย เพราะเตรียมไม่ทันมาแต่ตัวกับใจจริง ๆ

ทำบุญกับหลวงพี่เสร็จก็นั่งรอในศาลาเพื่อรอทอดกฐินต่อตอนสิบโมง ตอนนี้ก็ไม่สนใจใครทั้งสิ้น ตั้งจิตอธิษฐานอุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ... และญาติธรรมในกระทู้ต่างๆ (หลายกระทู้) ซึ่งก็ค่อนข้างเยอะ เมย์เลยไม่ได้เอ่ยนามทุกคนนะคะ ต้องขออภัยด้วย

ที่เอ่ยหลัก ๆ ก็ท่านพี่หัวเรือใหญ่ พี่ Me, Myself, คุณอ้อย, น้องฝน, คุณตู่ .. แต่เมย์จะเลียนแบบพี่ริคาโด้ คือ กล่าวถึงเพื่อนๆญาติธรรมในกระทู้ทุก ๆ คน ทั้งที่เป็นสมาชิกก็ดี หรือผู้ที่เข้ามาอ่านก็ดี ขอให้ได้รับอานิสงส์ผลบุญในครั้งนี้กันทุกคน ขอให้มีแต่ความสุขกาย สุขใจ มีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม ได้เข้าสู่พระนิพพานในชาตินี้ด้วยกันทุกคนเทอญ. ขอทุกท่านโปรดโมทนาบุญร่วมกันนะคะ

ระหว่างที่รอทอดกฐินหลวงพี่เล็กท่านก็เทศน์สอนไปเรื่อย ๆ แต่ดูท่านก็อิดโรยอยู่มากเพราะเพิ่งออกจากกรรมฐานมา ท่านบอกว่าเข้ากรรมฐานครั้งนี้ได้ไม่เต็มสามวัน(พระท่านสั่งให้เข้า) พอประมาณสิบโมงเช้าก็เริ่มพิธีถวายกฐิน มีพระจากวัดอื่นมาร่วมรับกฐินด้วย กฐินที่ได้จะแบ่งเป็น 4 กอง 1 กองสำหรับวัดท่าขนุน อีก 3 กอง นำไปทอดให้กับวัดอีก 3 แห่ง

และหลังจากพิธีทอดกฐินที่วัดท่าขนุนเสร็จ ทางวัดได้ไปทอดกฐินต่อที่เกาะพระฤๅษี(ไม่แน่ใจว่าเป็นวัดหรือเป็นสำนักสงฆ์)แต่เมย์ไม่ได้ตามไปด้วยค่ะ ลืมบอกไปค่ะ เมย์ได้ร่วมทำบุญกฐินปลดหนี้เพื่อช่วยปลดหนี้ให้ตุ๊พ่อมหาสิงห์ วัดถ้ำป่าไผ่ไป 500.- บาทค่ะ

ขออานิสงส์จากการร่วมปลดหนี้ให้แด่พระสุปฏิปันในครั้งนี้ ขอให้ทุกๆท่านหมดหนี้หมดสิน ทั้งหนี้กรรมในอดีตจนถึงปัจจุบัน และหนี้ที่เป็นทรัพย์สินเงินทอง ขอให้เป็นไท(อิสระ)กันทุกๆคนค่ะ สาธุ

 

สาธุ ขออนุโมทนากับคุณเมย์ ยินดีขอรับทุกบุญทุกกุศลด้วยนะครับ

ยังคุยกับเพื่อนๆในรถตู้มหาสนุกว่าคุณเมย์จะไปกฐินวัดท่าขนุน จากประจวบฯไปกาญจน์ก็ไกลโขอยู่

กะจะฝากปัจจัยไปร่วมด้วยแต่หาคนฝากไม่ได้เลย น้องปิ๊กก็ไม่ได้เอาATMไปเลยไม่อยากรบกวน ยังไงขออนุโมทนาด้วยแล้วกันนะครับ สาธุ

 

โถๆๆๆ สงสัยชาติก่อนพี่คงร้ายใส่น้องแน่เลย เลยกลัวขนาดด น้องชาติก็บอกว่าชาตินั้นพี่เป็นตาแก่ขี้โมโห สงสัยจะจริงซะแว้ว อโหสิกรรมซึ่งกันและกันให้มันจบๆกันไปเลยเน้อ ตาแก่นั่นมันตายไปไม่รู้กี่ชาติแล้ว ตอนนี้มีแต่อาเจ็กใจดีเจ้า ขวัญเอ๋ยขวัญมา น้องอาร์มดูแลหน่อยเจ้า เอ น้องอาร์มObeone13กับน้องอ้อยAbodabe เป็นไรกันเนาะ พี่ความจำสั้น อ้อ เป็นแควนกันนั่นเอง อิอิ

 

พูดจริงพูดเล่น กล้าพูดเนาะ เดี๋ยวพี่ช่วยอธิษฐานไหม ให้พุงลากพื้นเลยเป็นไง พี่มงคลน้องมันเปรี้ยวว่ะ ซักดอกซิพี่ ฮา

 

ช่วยเกาให้หายทันทีเถอะพี่ เอ็งพูดไม่ช้าดดด แล้วยังพิมพ์ไม่ช้าดดดดอีก
ช่วยเกาให้หายคันทีเถอะพี่ เอ็งหมายถึงแบบนี้ใช่ไหม

ใช่ไหมพี่ลี พี่หนิง นึง ฉ่อง ชั่ม

ป.ล.แบบว่าหูน้องเขาไม่ดีเลยทำให้เขาพูดไม่ชัดตามเสียงที่ได้ยินไปด้วย โชคดีนะที่มีดีที่พุงอยู่บ้าง ฮา