เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ไม่ต้องดูแล้วตื่นหรอก ไม่มีทางลองหลายหนแล้วไม่ได้ผล
    แค่ช่วงจิตเคลื่อนไปดู เริ่มสงบนิด หลับเลย
    คนที่ไม่ประสบแบบนี้คงคิดไม่ออกว่า มันเป็นเช่นไร ว่ามันง่วงจริงๆ อิอิ
    เมื่อก่อนตอนอยู่ kl เคยบอกลป ว่า ลป ทำอย่างไรดี นั่งสมาธิ แล้วมันง่วงมาก (หลับท่านั่งสมาธินั่นแหล่ะ เกือบทุกครั้งเลย บางทีตื่นมาอีกที ตายหล่ะหลับไปหลายชั่วโมง หลับท่านั่งสมาธิแหล่ะ หลับนะไม่ใช่เข้าฌาน ฮ่าๆ เพราะเข้าฌานม่ะเป็น) ถามลป ว่าจะแก้อย่างไรดี ลป บอกว่า ถ้ามันอยากหลับจริงๆ ให้มันหลับไปเลย ถ้าหลับในสมาธิจะหลับได้ลึก พักแป๊ปเดียวก็หาย เออก็จริงแหล่ะ แต่ช่วงนี้มันง่วงแล้วนอนเลย สงสัยต้องตื่นมาฝืนนั่งสมาธิแล้วให้มันหลับในสมาธิดีกว่า อาจแก้ได้
    :'(
     
  2. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เอาเอสเพรชโซ่ดับเบิ้ลช้อท มาฝากเพื่อนๆ อากาศเย็นๆ แล้วตอนนี้

    [​IMG]
     
  3. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    พูดถึงเรื่องปล่อยพลัง นกก็ยังเอาไปฝันเป็นเรื่องเป็นราวว่าตัวเองปล่อยพลังออกมาจาก 2 มือ
    นึกถึงพลังคลื่นเต่าของหงอคงเลย อิอิ
     
  4. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ชมดาวตกพร่างพรู : ฝนดาวตกสิงโต (Leonids) คืน 17 พฤศจิกายน - เช้ามืด 18 พฤศจิกายน 2552

    นางสาวประพีร์ วิราพร นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย แจ้งข่าวว่ามีปรากฎการณ์ฝนดาวตกสิงโตที่มอง เห็นด้วยตาเปล่า ช่วง คืนวันที่ 17 พฤศจิกายนถึงเช้ามืดวันที่ 18 พฤศจิกายน 2552 ช่วงเวลาประมาณ 04:00 ถึง 05:30 น. จะสังเกตเห็นฝนดาวตกสิงโตได้ประมาณ 200 ดวงต่อชั่วโมง
    วิธีการดู ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน ถึง 04:00 น.ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก กวาดสายตาจากขอบฟ้าจนถึงกลางฟ้า และเวลา 04:00 น. - 05:30 น. มองไปที่กลางฟ้า (เหนือศีรษะ) ฝนดาวตกจะมีลักษณะแสงสว่างวาบเคลื่อนที่ผ่านอย่างรวดเร็ว มีสีสันสวยงาม เช่น สีน้ำเงินเขียว สีส้มเหลือง และมีลูกไฟ (Fireball)
    เงื่อนไขในการดู ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีเมฆ หมอก และแสงไฟฟ้ารบกวน สามารถดูได้ทั่วประเทศ
    คืน 13 - เช้า 14 ธันวาคม : ชมฝนดาวตกคนคู่ 2552 (Geminids)

    นายอารี สวัสดี อุปนายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย กล่าวว่าถ้าหากพลาดการชมฝนดาวตกสิงโตก็สามารถดู ฝนดาวตกคนคู่ด้วยตาเปล่า ของคืนวันที่ 13 ธันวาคม - เช้ามืดวันที่ 14 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 20:00 ถึง 02:00 น. คาดว่าดาวตกค่าเฉลี่ยประมาณ 60 ดวงต่อชั่วโมงเวลาประมาณ 02:00 น.
    วิธีการดู ในช่วงหัวค่ำให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออกกวาดสายตาจากขอบฟ้าไปยังกลางฟ้า
    ในช่วงเที่ยงคืนถึง 02:00 น. ให้มองไปที่กลางฟ้า ประชาชนสามารถดูด้วยตาเปล่าได้ทั่วประเทศ เงื่อนไขต้อง ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีเมฆ หมอก และแสงไฟฟ้ารบกวน
    สมาคมดาราศาสตร์ไทย จึงขอเชิญชวนประชาชน ผู้สนใจ เข้าร่วมชมมหกรรมฝนดาวตก
     
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman [​IMG]
    อือ มีคำถามว่า มีเพื่อนๆ เวลาออกกำลังกายแล้วง่วงนอนมาก มีหรือเปล่า (แบบว่ามากผิดปกติ)อ่ะ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    มีคนแถวนี้บอกว่าเป็นเพราะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอหรือขาดออกซิเจนก็เป็นได้ครับ
    สำหรับ Faljman อาจเกิดจากการนอนไม่พอ หรือเพราะอากาศมันน่านอนไม่รู้ อิอิ
    ทานกาแฟเข้มๆก็ระวังตาค้างนะจะบอกให้ (แก้วนี้ท่าจะอร่อยด้วย...)

    เพิ่งจะเข้ามาคุยได้นะครับ เมื่อคืนก่อนรอดูฝนดาวตกเหมือนกันแต่ช่วงนี้เมฆเยอะมากกกกก
    เคยไปดูที่เขาค้อเมื่อหลายปีก่อนสีสวยน่าประทับใจครับ ปีนี้คงรอดูจากที่เค้าถ่ายมาล่ะครับ

    [​IMG]

    ขอบคุณคุณลิตเติ้ลดั๊กด้วยที่แจ้งข่าวด้วยรหัสพิเศษ (น่าจะตีความกันได้นะครับ)
    ขอโมทนากับความเมตตาอันเป็นมหากุศลที่ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ครับ
    ส่วน MDK สอบตกนี่คืออะไรไม่ทราบจริงๆครับคุณจินต์ฯ
     
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ก็มันเหมือนเจ้าตัวเดิมเอามากๆครับ เปลี่ยน skin จากน้ำตาลมาเป็นขาว นิสัยทั่วๆไปน่ะครับที่เหมือนตัวเดิม เช่น ชอบนอนหงายท้อง ชอบกินต้นหญ้า รู้จักที่ๆมันเคยอยู่-เคยนอน รวมไปถึงความผูกพันระหว่างเจ้าของด้วยครับ เข้าใจว่าจิตวิญญาณ (บางส่วน) เค้าคงยังอยากมาเกิดที่เดิมอีก แต่มาเร็วไปหน่อยขอบตาเค้าสีตกไปนิดส์ (เอารูปตอนสองเดือนมาให้ดูครับ)

    เพื่อนๆที่เลี้ยงสัตว์คงรู้สึกผูกพันเป็นพิเศษแบบนี้กันนะครับ ลูกสุนัขของคุณเซลล์เค้าพัฒนาการไปถึงไหนแล้วไม่รู้ครับ เห็นคุณ Falkman เลี้ยงแมวจรจัด พลัดหลงมาอยู่ที่บ้านด้วย (ไหนว่าจะเอารูปมาให้ดูไง?)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2009
  7. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ช๊อคโกแลตร้อนๆมาฝากครับ ......

    AniGif ภาพละประมาณ 10 วินาที อ่านไม่ทันเริ่มอ่านใหม่นะครับ
    [​IMG]


    <OBJECT codeBase=http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,29,0 height=12 width=14 classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000>
























    </p>&nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    &nbsp
    <embed src="/file/boonsong.m/Sweet-Dream.swf" wmode="" quality="high" menu="false" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" type="application/x-shockwave-flash" width="14" height="12"></embed></OBJECT>


    [SIZE=+0]กลุ่มศิษย์เก่ากลุ่มหนึ่ง ได้กลับไปเยี่ยมอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย [/SIZE]
    </PRE>

    [SIZE=+0]ในระหว่างการสนทนา มีการพูดคุยเรื่องความเครียดในที่ทำงานและการใช้ชีวิต [/SIZE]
    </PRE>
    [SIZE=+0]


    [SIZE=+0]อาจารย์ได้ต้อนรับศิษย์ด้วยการชักชวนให้ดื่มช็อคโกแลตร้อน เขาเดินหายเข้าไปในครัว [/SIZE]
    [/SIZE]
    </PRE>

    [SIZE=+0]แล้วกลับมาพร้อมกับหม้อใส่ช็อคโกแลตร้อนใบใหญ่ และถ้วยแบบต่างๆ ที่ได้เลือกสรรแล้ว [/SIZE]
    </PRE>

    [SIZE=+0]อาจารย์บอกให้ทุกคนบริการตนเอง[/SIZE]
    </PRE>
    [SIZE=+0]
    [SIZE=+0]เมื่อทุกคนมีถ้วยช็อคโกแลตร้อนในมือครบแล้ว ศาสตราจารย์ก็พูดขึ้นว่า [/SIZE]

    [SIZE=+0]พวกเธอสังเกตเห็นอะไรไหม ถ้วยที่ดูดีมีราคาแพง ได้ถูกเลือกไปหมด [/SIZE]
    [SIZE=+0]เหลือไว้ก็แต่ด้วยธรรมดาราคาถูก [/SIZE]
    [/SIZE]
    </PRE>

    [SIZE=+0]มันเป็นธรรมดาที่ทุกคนจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ตนเอง โดยหารู้ไม่ว่า นั้นคือ [/SIZE]
    </PRE>

    [SIZE=+0]ต้นเหตุของความเครียด และปัญหาของทุกคน[/SIZE]
    </PRE>
    [SIZE=+0]
    [SIZE=+0]ถ้วยที่พวกคุณดื่ม ไม่ได้ช่วยเพิ่มคุณภาพของช็อคโกแลตร้อนเลย [/SIZE]
    [/SIZE]

    </PRE>

    [SIZE=+0]ในหลายๆ กรณี มันเพียงแต่ทำให้ราคาช็อคโกแลตร้อนแพงขึ้น [/SIZE]
    </PRE>
    [SIZE=+0]และในบางกรณีมันก็แค่เป็นตัวปิดบังสิ่งที่เราดื่ม

    [/SIZE][SIZE=+0]ในขณะที่สิ่งที่ต้องการแท้จริงแล้วคือ ช็อคโกแลตร้อน ไม่ใช่ถ้วย[/SIZE]

    </PRE>

    [SIZE=+0]แต่ จิตสำนึกกลับนำพาไปเลือกถ้วย มิหนำซ้ำ[/SIZE]
    </PRE>

    [SIZE=+0]ยังคอยชำเลืองมองถ้วยของคนอื่นๆ อีกด้วย" [/SIZE]
    </PRE>

    [SIZE=+0]หาก ชีวิต คือ ช็อคโกแลตร้อน[/SIZE]
    </PRE>

    [SIZE=+0]หน้าที่การงานตำแหน่งต่างๆ ในสังคมก็คือ ถ้วยใส่ช็อคโกแลต[/SIZE]
    </PRE>

    [SIZE=+0]มันเป็นเพียงเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยหยิบจับหรือประคองชีวิตของเรา[/SIZE]
    </PRE>

    [SIZE=+0]มันไม่ได้ทำให้เนื้อหาจริงๆ ของชีวิตเปลี่ยนไป[/SIZE]
    </PRE>

    [SIZE=+0]และบางครั้งการมัวไปเพ่งเล็งที่ถ้วยใส่มากเกินไป [/SIZE]
    </PRE>

    [SIZE=+0]ก็ทำให้เราลืมที่จะใส่ใจกับรสชาติของ ช็อคโกแลตร้อน...[/SIZE]


    </PRE>


    </PRE>


    </PRE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2009
  8. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    [​IMG]

    อ่านเรื่องราวของ falky ทำให้นึกถึง

    การหลับไปในสมาธิ เป็นสิ่งที่พวกเราชาวไทยรับทราบกันมาโดยตลอด
    ที่เห็นพระภิกษุ ปักกลด และนั่งสมาธิหลับไป
    จริงๆแล้ว เป็นการพักผ่อนด้วยสมาธิ ที่มีสติรู้ตัวตลอดเวลา
    เป็นการรักษาสติไว้ไม่ให้คลาดเคลื่อนอยู่ตลอด ทั้งยามหลับ และยามตื่น
    เป็นการดำรงอยู่ด้วยการตื่นตลอดเวลาจริงๆ

    สาธุๆ

    คุณหงบ เล่นถามเรื่องบนเตียง แล้วจะตอบยังไงดี เอิ๊กๆ
    จริงๆแล้ว ผมหลับได้ทุกท่าเลยหละครับ สามารถปิดสวิตซ์หลับได้หมด เหมือน falky อิอิ..
    แต่จะถนัดนอนตะแคงขวา
    วิธีที่ป้องกันไม่ให้หลับโดยไม่หลับไปโดยไม่ตั้งตัว ก็จะนอนในท่าที่ไม่ถนัดครับ
    แต่ทำไปบ่อยๆ ก็เริ่มถนัด และก็หลับง่ายเหมือนเดิม 555
    กำลังฝึกเหมือน falky อยู่ คือ ให้หลับอย่างรู้ตัว หลับด้วยสมาธิ ให้ได้เสมอๆครับ

    เห็นเจ้าปุกปุย ดูแล้วสะอาดตา ตรงข้ามกับเจ้าล้น เอ๊ย..เจ้าดี๊ดี ที่บ้านอย่างสิ้นเชิง
    เห็นอยู่ตัวเดียว ก็อยากหาเพื่อนมาให้
    แต่ทั้งสองคอกที่อ้อนวอนขอมา ออกมาไม่ทันไร ก็หนีเจ้าดี๊ดี ไปซะก่อน ตั้งแต่ยังไม่โตเลย

    อ่านบทความซึ้งๆเรื่องช๊อคโกแลตของคุณ mead แล้ว
    นึกถึง ความสุข ที่เกิดจากความธรรมดา ที่เปรียบได้กับช๊อคโกแลต
    ที่บางครั้งเราอาจไม่ทันสังเกตุเห็นคุณค่าของชีวิต จะเห็นก็ต่อเมื่อ สายไปแล้ว
    มีเพื่อนคนนึง เคยเล่าให้ฟังว่า เค้าเคยป่วยหนัก ถึงขึ้นทานอะไรไม่ได้เลย ต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้น้ำเกลืออย่างเดียว
    จนวันนึงสามารถทานได้เป็นปกติ เค้าก็เล่าให้ฟังว่า พอหายป่วยแล้ว รู้เลยว่า การที่เค้าสามารถกินอิ่ม และนอนหลับได้นั้น ช่างเป็นพรที่ประเสริฐจริงๆ

    การที่ผมได้พิมพ์ข้อความ และสนทนาอยู่กับเพื่อนๆจิตวิญญาณต่างร่าง ณ ปัจจุบันนี้ ก็ช่างเป็นพรที่ประเสริฐเช่นเดียวกัน








     
  9. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791

    โหหหหหหหหหหห น่ารักมาก เหมือนตุ๊กตาหมาเลย

    คุณเดรด ก็มีหมาน่ารักอยู่ เห็นว่าซนมากชอบเดินตาม อิอิ เอามาโชว์เลย


    ตอนนี้เหลือ 3 ตัว - กะทิ ข้าวปั้น เปียกปูน (เคยมีพร้อมๆ กัน 13 ตัว)

    กะทิเป็นแมวที่บ้านที่พัทยา มีอยู่หลายตัวมาก พอไปทีก็พากันมาขอกินข้าว วันหนึ่ง แมวตัว
    เก่าของน้องสาวตายไปเลยวางแผนกับพ่อเอามาหนึ่งตัว เอาอาหารมาล่อแล้วจับเข้ากรง มา
    เลี้ยงที่กทม อิอิ ตอนนี้อ้วนมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เกือบสิบโลได้แระ กินกุ้งใหญ่อาทิตย์ละเกือบ
    สองโล กะทิชอบอันพาล กัดน้องข้าวปั้น เวลาไม่พอใจ


    [​IMG]



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ส่วนเจ้าข้าวปั้น เป็นชวนกันมาสองตัวพี่น้อง(ข้าวปั้น ข้าวฟ่าง) ตั้งแต่ยังเด็กมากๆ มานอนอยู่
    หน้าบ้าน ตอนแรกให้ข้าวกิน มาสักพักข้าวปั้นวิ่งไปมาเหมือนจะเรียกไปให้ดู เจ้าข้าวฟ่างโดน
    รถทับตาย น้องสาวเลยเก็บข้าวปั้นมาเลี้ยงไว้เลย
    ข้าวปั้นขี้ประจบมาก ชอบมานอนบนตัก บางทีกลางคืนมานอนอยู่บนตัว เป็นชั่วโมงๆ เลย บาง
    ทีนอนบนเตียง ไอ้เราเลยต้องย้ายมานอนบนพื้น ข้าวปั้นนิสัยดี ช่วยเหลือคนอื่น แบ่งปัน ปก
    ป้องกะทิ (ข้าปั้นอ้อนแอ้น แต่ว่านอกบ้านเก่งมาก ปกป้องกะทิ แมวชายสามศอกได้ อิอิ) แต่
    ในบ้านกะทิชอบเบ่ง ไม่พอใจอะไรก็มากัดข้าวปั้น ฮ่วย กุ้งกะทิก็หวงไว้ ส่วนแบ่งของข้าวปั้นก็
    ชอบมาแย่ง จนต้องแอบให้ข้าวปั้นที่หลัง



    [​IMG]

    [​IMG]

    เปียกปูน
    ตั้งแต่เด็กๆ มาก เกิดมาปุ๊ป แม่เปียกปูนคาบมาวางไว้ใต้รถน้องสาว ตรงที่จอดรถ น้องสาวเลย
    เก็บมา แล้วมาเล่าให้แม่ฟังว่ามีลูกแมวมาโดนทิ้งไว้ เล่าเสร็จแม่บอกว่า น่าสงสาร แต่ที่ไหนได้
    บอกว่า เอามาแล้ว แม่ตกใจมาก เอามาอีกแล้วเหร๋อ เปียกปูนไม่ค่อยสนคนอื่น เอาแต่นอน อิ
    อิ เปี่ยกปูนไม่ค่อยชอบให้อุ้ม ชอบข่วน ชอบส่งเสียงดังด้วย คุยด้วยกับเค้า เค้าจะคุยตอบ (แต่
    ว่าไม่เข้าใจว่าคุยไรกัน อิอิ)


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PICT0022.JPG
      PICT0022.JPG
      ขนาดไฟล์:
      324 KB
      เปิดดู:
      71
    • PICT0068.JPG
      PICT0068.JPG
      ขนาดไฟล์:
      322.5 KB
      เปิดดู:
      264
    • PICT0070.JPG
      PICT0070.JPG
      ขนาดไฟล์:
      317.3 KB
      เปิดดู:
      71
    • PICT0075.JPG
      PICT0075.JPG
      ขนาดไฟล์:
      288.8 KB
      เปิดดู:
      270
    • PICT0077.JPG
      PICT0077.JPG
      ขนาดไฟล์:
      319.9 KB
      เปิดดู:
      262
    • PICT0079.JPG
      PICT0079.JPG
      ขนาดไฟล์:
      320.2 KB
      เปิดดู:
      353
    • PICT0080.JPG
      PICT0080.JPG
      ขนาดไฟล์:
      322.6 KB
      เปิดดู:
      364
    • PICT0196.JPG
      PICT0196.JPG
      ขนาดไฟล์:
      38.2 KB
      เปิดดู:
      325
    • kati1.jpg
      kati1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.9 KB
      เปิดดู:
      358
    • IMG_3093.JPG
      IMG_3093.JPG
      ขนาดไฟล์:
      103.1 KB
      เปิดดู:
      356
    • IMG_1599.JPG
      IMG_1599.JPG
      ขนาดไฟล์:
      108 KB
      เปิดดู:
      425
    • IMG_3095.JPG
      IMG_3095.JPG
      ขนาดไฟล์:
      112.8 KB
      เปิดดู:
      350
    • Kao Pan.jpg
      Kao Pan.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.4 KB
      เปิดดู:
      410
    • IMG_0347.JPG
      IMG_0347.JPG
      ขนาดไฟล์:
      72 KB
      เปิดดู:
      461
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2009
  10. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    สรุปๆ ถามๆ เพื่อนแล้วว่าเป็นอะไร ที่ง่วงขนาดนี้ คำตอบสุดท้ายว่า ขี้เกียจ ฮ่วย :'(
     
  11. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    อ่านเรื่องแมวๆของ Falky แล้ว เหมือนอ่านนิทานแฮะ
    เจ้าข้าวปั้นเหมือนคงเหมือน พจมาน ถูกเจ้ากระทิรังแกเอาบ่อยๆ 555
    คงตัวใหญ่มากกก น้ำหนักเกือบ 10 กิโล สุนัขเห็นเข้าคงวิ่งเตลิดแน่เลย

    เจ้าเปียกปูนนั่นก็ตาสวยมาก...ดูสงบเรียบร้อยสมกับเป็นแมวไทยจริงๆ
    แบบนี้พอจะส่งไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้าดี๊ดีได้นะครับคุณเซลล์ อิอิ

    ได้ข่าวว่าคุณหงบก็เลี้ยงแมวที่พลัดหลงอยู่เหมือนกัน
    คุณเดรดก็ยอมเลี้ยงสุนัขแล้ว..ต้องเอามาโชว์กันหน่อยแล้วครับ
    อย่าปล่อยให้ Falky โชว์เดี่ยว :boo:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2009
  12. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    จริงๆแล้ว ก็ไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงเป็นส่วนตัวหรอกค่ะ
    พริกเป็นหมาที่โรงงาน น้องสาวเอามาเลี้ยง แล้วเค้าไม่ค่อยดูแล
    แรกๆสนุกไปตามประสาเด็ก หลังๆพริกติดเชื้อทางผิวหนัง เรียกง่ายๆว่าขี้เรื้อน(อุอุ)

    ข้าพเจ้าสงสาร เพราะโรคนี้ ลามเร็วมาก ขนร่วงเกือบหมด และตัวเหม็นมาก
    ใครๆก็ไม่อยากเข้าใกล้ จากแรกๆ ก็เป็นลาบราดอร์ที่น่ารักมาก
    ก็กลับกลายเป็นหมาขี้เรื้อนไปซะงั้น

    ก็...เอาก็เอา พาไปหาหมอ ฉีดยา ทายา อาบน้ำกันแทบทุกวัน
    หมอบอกว่าทำใจนะ ขนที่หลุดคงไม่ขึ้นแล้ว คงไม่สวยเหมือนเดิม
    ตอนนี้ มาฉีดยาเอง เดือนเว้นเดือน รักษาเห็บหมัด

    งมกับเค้าอยู่ 3 เดือน ขนขึ้นเกือบหมดแล้ว ตัวก็หายเหม็น ก็เริ่มดูดีมีสกุลขึ้นแระ
    ตอนนี้ ติดข้าพเจ้ามาก ไปไหนมาไหนเค้าก็เดินตาม วิ่งไล่งับตลอด

    ปกติลาบราดอร์ เดิมที เป็นผู้ช่วยชาวประมงจับปลา เพราะจมูกสุดยอด
    เลยมักถูกใช้ให้เอาไว้ดมสิ่งผิดปกติ เช่น ยาเสพติด (ถ้าฝึกเพื่อการณ์นั้น)
    เป็นหมาใจดี ขี้เล่น และฉลาดมากๆ เค้าจะคาบของตลอดเวลา แล้วก็ซนระเบิดเถิดเทิง
    เรื่องจะเอามาเฝ้าบ้าน เลิกคิดไปเลย ใครเล่นด้วยเค้าเล่นหมด
    อย่างเก่งแค่เห่า(ซึ่งเห่าเรียกให้มาเล่นด้วย ไม่ได้เห่าไล่ อิอิ)
    เอาไว้ขู่พอไหว คนไม่รู้จะกลัว เพราะเค้าตัวใหญ่ แรงเยอะ วิ่งชนทีเนี่ย ข้าพเจ้าเซเลย

    ทีสำคัญพริก ชอบเล่นน้ำเป็นชีวิตจิตใจ เรื่องสาดน้ำไล่ มุขนี้ใช้กับเค้าไม่ได้เลย
    คุณเธอ วิ่งเข้าใส่ทันที ที่มีใครล้างรถ หรือรดน้ำต้นไม้
    ตอนโรงงานน้ำท่วม แม่คุณ กระโดดเข้าออก ลงถนนเสียงตู้มๆ ลงไปแช่น้ำ ท้างวัน

    หมา หรือ ปลาหว่าเนี่ย...???

    ปล.มีแต่รูปตอนไม่สวย รูปตอนสวยยังไม่ได้ถ่าย
    ตัวสีดำ เจ้าค่ะ ส่วนตัวขาว โดนงูเห่ากัด เสียชีวิตไปแระ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • prig1.jpg
      prig1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.6 KB
      เปิดดู:
      64
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2009
  13. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เห็นแมว Falky แล้ว ชอบจัง แมวนี่ก็น่ารักนิ
    คือ แบบว่า ไม่ค่อยกล้าเล่นกับแมวอะ คือมีที่มาที่ไปนะ

    จาเล่าให้ฟัง
    ตอนเด็กๆ พ่อรื้อบ้านส่วนที่เป็นห้องเก่าออก เพื่อจะต่อใหม่ ก็เหลือแต่พื้นไว้
    ที่นี่ ก็มีแมว มาออกลูก ไอ้เราก็ไปแอบดู แล้วแมวมันหายไปทีละตัว ทีละตัว
    ก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฎว่า แม่แมว เค้ากินไป เราก็โห...

    จนเหลือตัวสุดท้าย ไม่ไหวแระ ก็ย่องเข้าไปจะไปขโมยมา
    พอกำลังจะเอาเข้าบ้าน ตัวแม่ ดันมาพอดี ก็หนีตายจะรีบเผ่น
    ปรากฏว่า ประตูถูกลมพัดปิด แล้ว มันล๊อคจากด้านใน เราก็ตายๆๆๆ ตายแหง

    แม่แมว วิ่งเข้ามากัดๆๆ ทั้งกัดทั้งข่วน เจ็บไปหมดเลย
    พยายามตะโกนเรียกน้อง ก็ไม่มีใครได้ยิน เค้ากระโดดงับๆที่มือ
    งับไปที่ลูกแมวด้วย เลยต้องปล่อย เพราะไม่งั้นลูกแมวตายแน่
    จากนั้นเค้าก็คาบลูกเค้าหนีหายไปเลย ไม่กลับมาอีก ก็ไม่รู้ชะตากรรมว่าเป็นอย่างไร

    เลยฝังใจกับแมวมาตลอด ว่าเค้าน่ากลัว(ตอนนั้นมันเด็กอะ คิดไม่ได้หรอก)
    โตมา ก็พอจะเข้าใจในธรรมชาติ มากขึ้น แมวตัวนั้นเค้าคงมีเหตุผลที่ทำ
    เค้าอาจจะรู้อะไรที่เราไม่รู้ ตามสัญชาติญาณของเค้า

    เรามักได้ยินข่าวว่า แม่สัตว์กินลูกตัวเองบ่อยๆ
    แต่เค้าอาจทำเพื่อปกป้องลูกเค้าก็เป็นไปได้ เราไม่อาจรู้ได้
    ไม่งั้นเค้าคงไม่ไล่กัด เดรดขนาดนั้น เพื่อให้ปล่อย

    บางที เหตุการณ์ต่างๆที่เราเห็น เราคิด มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดและเชื่อเสมอไป
    การตัดสินจากสิ่งที่เรารับรู้ จากกรอบของสังคม วัฒนธรรม ประเพณี
    จากประสาทสัมผัสทั้ง 5 อาจไม่ใช่ที่สุด ก็เป็นได้

    อะไรที่ดี หรือไม่ดี มันขึ้นอยู่กับการตัดสินและความเชื่อของเราเท่านั้น
    ซึ่งไม่ได้หมายความว่า มันจะเป็นแบบนั้นตลอดไป

    เอ...ขึ้นเรื่องแมว ไหง มันกลายเป็นเรื่องนี้หว่า ???

    ขออภัย กลับสู่ ประเด็นเดิมต่อ กันดีกว่าจ้า
    ใครรู้ตัวว่า ยังมิได้โชว์รูป เพื่อนรักสัตว์เลี้ยง มอบตัวมาซะดีๆ
    คุณเซลล์ คุณหงบ และท่านอื่นๆ

    (วันนี้พูดมากหน่อยนะ เผอิญข้อมูล มันลง เลยต้องมาปล่อยของหน่อย...อิอิอิ)
     
  14. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ใช่คงเป็นความฝังใจไม่ดี ตอนเด็กๆ แต่แมวน่ารักนะ เวลาอุ้มเค้าอ่ะ มันอบอุ่นดี เจ้าข้าวปั้นตอนมานอนบนอกนะ เหมือนเด็กออเซาะแม่ อื่อ บรรยายไม่ถูก

    หมาก็มีนะ ที่บ้านที่พัทยาเมื่อก่อนมีหมาตัวหนึ่ง (จริงๆ มีหลายตัว) แต่ตัวสุดท้ายที่มาอยู่ (คือ ทุกตัวเป็นหมาจากไหนมาไม่รู้มาอยู่ด้วย) ไอ้เจ้าตัวนี้ ชื่อว่า เจ้าหมา เป็นหมาที่ซื่อสัตย์มากเลย จะกลับบ้านมาเมื่อไหร่ เวลาไหน จะต้องมารับ เมื่อก่อนเอาข้าวที่บริษัทเหลือๆ มาให้กล่องใหญ่มากทุกวัน มันกินจนอ้วนปั๊กเลย เป็นหมาที่ซื่อสัตย์นะใครมาบ้าน ถ้ารู้ว่าเป็นเพื่อนหรือญาติพี่น้อง มันจะรู้มันจะไม่กัด แต่ถ้าเป็นคนอื่นนะ จะเห่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มันชอบโชว์ออฟมากเลย แล้วมีอยู่วันหนึ่ง ตอนนั้นพ่อกับแม่ไปบ้าน มันดันโชว์ออฟไปกัดลูกยาม โหยยามวางยาเบื่อ ตอนนั้นเสียใจมากเลย ทำไมทำกันได้ลง :'(

    เออเจ้าข้าวปั้นมีความน่ารักอีกอย่างนะ คือ ชอบไปจับตัวอะไรต่อมิอะไรมาให้ กะทิ กับ เปียกปูนเล่น บางทีก็คาบหนูมาฝากแม่ (แม่เป็นคนให้อาหาร เลยตอบแทนด้วยการเอาหนูมาฝาก ฮ่าๆๆๆๆ)

    อิอิ ไหนๆ ก็ไหนๆ เลยเล่าเรื่องสัตว์เลี้ยงเยอะเลย มีวีระกรรมกับกระต่ายด้วย แต่พอแระ คนที่ยังไม่ได้เอาสัตว์เลี้ยงมาโชว์ รีบๆ เอามาซะดีๆ
     
  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ยังไม่ว่างเข้ามาคุยเลย...
    ส่งลูกน้องมาทักทายก่อน อิอิ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2009
  16. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    อ๋อ...แน่นอน ค่ะ เคยได้ยิน สำนวนนี้ไหมคะ?
    "เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว"

    ทุกสิ่งทุกอย่างและเหตุการณ์ต่างๆในจักรวาลนี้
    ต่างก็เชื่อมโยงกันไว้อย่างไม่อาจแยกแยะได้อยู่แล้วจ้า

    เฉกเช่น.. เพลงนี้ เป็นเพลงเม๊กซิกันเก่าแก่ แต่งขึ้นตั้งแต่ปี 1940
    มีคนนำไป เรียบเรียง ออกมาอีกหลายเวอร์ชั่น ยังไงก็ไม่เชย
    เค้าเรียกว่า อมตะ มหานิรันดร์กาล...เชิญรับฟังค่า

    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #cccccc 1px solid; PADDING-RIGHT: 0px; BORDER-TOP: #cccccc 1px solid; PADDING-LEFT: 0px; FONT-SIZE: 11px; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-LEFT: #cccccc 1px solid; COLOR: #000; PADDING-TOP: 0px; BORDER-BOTTOM: #cccccc 1px solid; FONT-FAMILY: Arial, Helvetica, sans-serif; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><EMBED pluginspage=http://www.macromedia.com/go/getflashplayer src=http://www.esnips.com//escentral/images/widgets/flash/guitar_test.swf width=130 height=180 type=application/x-shockwave-flash quality="high" bgcolor="#FFFFFF" flashvars="autoPlay=no&theFile=http://www.esnips.com//nsdoc/c9cad35f-f731-4126-9bfb-81388fdfa9f4&theName=BESAME MUCHO&thePlayerURL=http://www.esnips.com//escentral/images/widgets/flash/mp3WidgetPlayer.swf"></EMBED></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 11px" vAlign=bottom align=middle>BESAME MUCHO.mp3</TD></TR></TBODY></TABLE>​









    อือ....มันจาเกี่ยวกันไหมเนี่ย เอาเป็นว่า จะหาเรื่องโพสต์เพลง อ่ะ นะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2009
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    เป็นเพลงแม็กซิกันที่น่าฟังมากครับคุณเดรด เบซาเม่ มูโชวววว
    ฟังแล้วทำให้สัมผัสถึงกลิ่นไอของอารยธรรมเก่าแก่อย่างมายันมาด้วยครับ

    คุณหงบโดนสุนัขแม่ลูกอ่อนแง่มขามาด้วย สงสัยว่ามีของดีไม่ต้องต้องฉีดยารอบสะดือ หุหุ
    วันหลังเอาใหม่นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2009
  18. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ข้อความจาก LITTLE DUCK (LD 411)

    KK 444 = KANANUN NO. 1:cool: (บุคคลสำคัญ VERY IMPORTANT

    บทขยายความจะตามมา
     
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ความคิดและความเชื่อ เกี่ยวกับความดีและความชั่ว ของเธอทั้งหลายยังบิดเบือนอยู่มาก มันเปรียบเสมือนเงามืดที่บดบังความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง
    จากหนังสือ โนวา อนาลัย ขยายความ-ธรรมชาติของชาติภพ


    การใช้อารมณ์นำทางมันแตกต่างกับการใช้สติปัญญานำทางอย่างมากเลยครับคุณสงบ คงเหมือนใช้เข็มทิศนำทางที่มีประสิทธิภาพต่างกัน แต่กว่าจะเข้าถึงการใช้ปัญญาจากภายในได้อย่างคล่องแคล่วก็ต้องเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ทั้งโลกทางกายภาพ โลกทางจินตภาพและโลกแห่งจิตวิญญาณมาพอสมควรนะครับ ร่างกายของเราจะเปรียบไปก็คงเหมือนจานดาวเทียม ที่ต้องจูนคลื่น-ปรับคลื่นเข้าหาสัญญาณดีๆที่เหมาะสมเพื่อยกขีดความสามารถให้สูงขึ้นไป การเปลื่ยนความเชื่อให้เป็นความรู้ที่พี่นักเขียนแนะนำพวกเราบ่อยๆ น่าจะช่วยได้ครับ จิตวิญญาณจะก้าวหน้าได้จากการใช้ประสาทสัมผัสภายใน ด้วยสติสัมปชัญญะ-อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดนั้นได้มารวมอยู่ที่ตัวตนที่เป็นผู้สังเกตการณ์แล้วน่ะครับ (เหมือนวิชาดูจิต) พี่นักเขียนฯพูดถึงการรู้เห็นสิ่งต่างๆด้วยประสาทสัมผัสจากภายในว่าเป็นวิธีการเดียวที่จะทำให้เรารู้เห็นสิ่งต่างๆได้ตามธรรมชาติแห่งความเป็นจริง เช่นการร่วมรู้สึก การใช้"เวลาแห่งจิต" การรู้เห็น อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ความรู้<WBR>และความเข้าใจในความคิดรวบยอด ความรู้และความเข้าใจในแก่นแท้ของความเป็นจริง การหลุดพ้นจากเครื่องพราง การกระจายพลังงานแห่งบุคลิกภาพ ฯลฯ ซึ่งมีประโยชน์มากกกกกๆๆๆๆๆๆๆ

    การรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสภายใน
    http://palungjit.org/showpost....postcount=5094
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2009
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    นำโพสก่อนๆจากพี่นักเขียนฯมาทบทวนกันหน่อย
    ---------------------------------------------------

    การแยกแยะความเชื่อ

    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ khajornwan [​IMG]
    ขอขอบคุณพี่นักเขียนทุก ๆ คำตอบนะคะ เพราะอ่านแล้วรู้สึกความรู้ได้ขยายออกไปอีกเยอะเลยค่ะ.. ขอถามบทที่ 4 ธรรมชาติการรับรู้ของจิตวิญญาณ ต่อเลยนะคะ

    หน้า 42 การรู้จักตัวตนที่แท้จริงมีความหมายลึกซึ้งกว่าที่เธอทั้งหลายเข้าใจมากนัก ในขณะที่จิตของเธอสงบเป็นสมาธินั้น เธอจะรู้สึกถึงกระแสจิตอีกกระแสหนึ่ง ซึ่งแตกต่างไปจากภาวะปกติที่เธอคุ้นเคย เธออาจได้ยินเสียงจากภายในหรือเห็นภาพในความคิดคำนึง แต่พื้นฐานการศึกษาและความเชื่อมักทำให้เธอตีความหมายสิ่งเหล่านี้ผิดเพี้ยนไป

    หากเราทำสมาธิแล้วเห็นภาพหรือได้ยินเสียงภายใน เราจะทราบได้อย่างไรว่าการมองเห็นหรือการได้ยินเสียงภายในที่ตัวเองได้ยินหรือเห็นนั้น สิ่งไหนเป็นความจริงหรือเป็นเพียงภาพลวงตาที่จิตของเราอุปทานไปเองน่ะค่ะ..

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    คำถามข้อแรกของคุณน้องขจรวรรณ มีคำตอบอยู่ในคำถามข้อที่สองพอดี
    คุณน้องได้คัดลอกคำกล่าวของท่านอาจารย์อนาลัย ที่ว่า

    จิตวิญญาณซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ
    สร้างสรรพสิ่งทั้งหลายขึ้นในแต่ละวัน
    จากความรู้สึกนึกคิดและความคาดหวัง

    จากธรรมชาติของความเป็นจริงข้อนี้ เธอจะเห็นได้ว่าจิตวิสัยและความรู้สึกนึกคิดของเธอนั้นสำคัญเพียงใด
    ความรู้และความเข้าใจในธรรมชาติแห่งความเป็นจริงในข้อนี้จะทำให้เธอล่วงรู้ว่า
    จักรวาลของเธอและสรรพสิ่งทั้งหลายในจักรวาลเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากความรู้สึกนึกคิด


    จิตวิสัยและความรู้สึกนึกคิดของเรานั้นสำคัญ เพราะเราสร้างโลกแห่งความเป็นจริงของเราจากความรู้สึกนึกคิดและความคาดหวัง หากจิตวิสัยและความรู้สึกนึกคิดของเราไม่สำคัญ-สติสัมปชัญญะก็จะปราศจากความสำคัญไปด้วย และสติสัมปชัญญะก็คงจะไม่ใช่หัวใจของการฝึกปฏิบัติทั้งหลายในทุกศาสนา เพราะสติสัมปชัญญะคือการจดจ่ออันคมชัดที่ควบคุมจิตวิสัยและความรู้สึกนึกคิดของเราทั้งหมด

    เมื่อกล่าวถึง ภาพลวงตา จิตหลอน การคิดไปเองลมๆแล้งๆ การฝันเฟื่อง ภาวะเหล่านี้ไม่ใช่ภาวะที่ไม่เป็นจริง ไม่มีอยู่จริงหรือไม่มีความหมายต่อโลกแห่งความเป็นจริง ในทางตรงกันข้าม-สิ่งที่เรารู้เห็นในภาพลวงตา ในความคิดที่ผุดขึ้นมาอย่างไร้สติ ในความฝันเฟื่อง ล้วนมีความเป็นจริงไม่น้อยไปกว่าโลกแห่งความเป็นจริงของเรา และส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราไม่น้อยไปกว่าสิ่งที่เรานึกคิดและคาดหวังให้เป็นจริงอย่างมีสติ

    แม้เราจะไม่เชื่อถือ ภาพลวงตา จิตหลอน การคิดไปเองลมๆแล้งๆ การฝันเฟื่อง ภาพหรือเสียงภายใน แต่มันก็ล้วนเป็นภาวะที่สะท้อนให้เราเห็นส่วนลึกของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อของตนเอง เราอยู่ในภาวะที่ขาดสติสัมปชัญญะที่ควบคุมรู้เห็นว่า ความคิด ภาพ เสียง และประสบการณ์ภายในจิตเหล่านั้นผุดขึ้นมาจากไหน เหตุใดเราจึงรู้เห็นสิ่งเหล่านั้น และขาดสติที่จะตระหนักได้ว่าอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดเหล่านั้นกำลังคล้อยตามความเชื่อใด

    แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ไร้ผลหรือไร้อิทธิพลต่อโลกแห่งความเป็นจริงและประสบการณ์ชีวิตในแต่ละวัน มันส่งผลกระทบ มันก่อเกิด ไม่น้อยไปกว่าความรู้สึกนึกคิดและความคาดหวังที่เป็นไปอย่างมีสติ แต่เมื่อเหตุการณ์ในชีวิตที่เกิดจากจากอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อโดยขาดสติเหล่านี้ ผุดขึ้นมาในประสบการณ์ชีวิต เราก็มักจะไม่รู้ว่ามันมาจากไหน เพราะเราจดจำไม่ได้ว่ามันคือ ภาพลวงตา จิตหลอน การคิดไปเองลมๆแล้งๆ การฝันเฟื่อง ภาพหรือเสียงภายใน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความรู้สึกนึกคิดและความคาดหวังของเราเองโดยแท้ที่กลายมาเป็นความเป็นจริง

    การไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราเรียกว่า ภาพลวงตา จิตหลอน การคิดไปเองลมๆแล้ง การฝันเฟื่อง ภาพหรือเสียงภายในที่เราไม่เชื่อถือ จึงทำให้เราพลาดสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของการก่อเกิดสรรพสิ่งทั้งหมดในชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย กล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าพลาดที่จะติดตามรู้เห็นการสร้างโลกแห่งความเป็นจริงของตนเองด้วยสติสัมปชัญญะอันคมชัด

    ทุกความรู้สึกนึกคิดและความคาดหวังมีผลต่อโลกแห่งความเป็นจริง
    ทุกความรู้สึกนึกคิดและความคาดหวังสร้างโลกแห่งความเป็นจริงบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เสมอ-อย่างไม่มีข้อยกเว้น
    และมันก็มาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของเราได้ด้วยการจดจ่อ ไม่ว่าเราจะมีสติรู้เห็นหรือไม่ก็ตาม

    ดังนั้นการมองเห็นภาพหรือได้ยินเสียงจากภายใน จึงเป็นภาวะที่เรารู้เห็นโลกแห่งความเป็นจริงบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เหล่านั้น บุคคลตัวตนทั้งหลายในโลกแห่งความเป็นจริงบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้-ไม่ใช่ใครอื่น พวกเขาคือบุคคลตัวตนของเราในต่างชาติภพ พวกเขาคือจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมมิติในอดีตชาติ พวกเขาคือจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ในปัจจุบันชาติ พวกเขาคือจิตวิญญาณเสมือนร่วมร่างแต่มิติในอดีต-ปัจจุบันและอนาคตชาติ

    ทุกบุคคลตัวตนกำลังมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปพร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน
    อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อของเรา
    ส่งผลกระทบต่ออารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด และการมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปพวกเขา
    และอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด และการมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปพวกเขา ก็ส่งผลกระทบย้อนกลับมาหาเราอย่างเป็นปัจจุบันทันด่วน

    อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อของเราในขณะจิตหนึ่งๆ เปรียบได้กับการโยนก้อนหินลงกลางบ่อน้ำ แล้วเกิดคลื่นออกไปกระทบฝั่ง ซึ่งเปรียบได้กับตัวตนในชาติภพอื่นๆทำให้เกิดคลื่นย้อนกลับไปสู่จุดที่หินตกกระทบผิวน้ำในจุดแรก ซึ่งเปรียบได้กับตัวตนของเราในปัจจุบันชาติ

    คำว่า อุปาทาน มาจากภาษาสันสกต Upadana ซึ่งแปลว่า การยึดติด (clinging) อันเกิดจากความกระหาย ความอยากได้-อยากเป็น-อยากทำเป็นอันมาก (intensified degree of craving) พจนานุกรมไทยก็ให้ความหมาย อุปาทาน ไว้ว่าหมายถึง การยึดมั่นถืิอมั่น การนึกเอาว่าต้องเป็นอย่างนั้น ซึ่งมีสาเหตุมาจากการยึดติดกับความเชื่อส่วนบุคคล อุปาทานแยกเป็น 4 ประเภทด้วยกันคือ:
    1. การยึดติดกับวัตถุธาตุ ที่ก่อให้เกิดความอยากทางกายภาพ ความอยากทางเพศ ความหลงใหล ความขุ่นมัว ความผูกมัด หรือการพันธนาการอันเกิดจากความอยาก
    2. การยึดติดกับมุมมองที่ผิด
    3. การยึดติดกับกฎเกณฑ์และพิธีกรรม ซึ่งบุคคลเชื่อว่า เพียงการเข้าร่วมในกฏเกณฑ์และพิธีกรรมก็จะทำให้จิตวิญญาณของตนพัฒนาได้ โดยไม่ต้องใช้ความคิดและปัญญา
    4. การยึดติดกับความเชื่อส่วนบุคคล

    อุปาทานจึงไม่ได้หมายถึงสิ่งที่ไม่เป็นจริง ไม่มีจริง ไร้ความหมาย หากพิจารณาความหมายจากรากเหง้าของคำศัพท์นี้ นอกจากอุปาทานจะไม่ได้ไร้ความหมาย ไร้ความเป็นจริง หรือไร้ผลต่อความรู้สึกนึกคิดของเราแล้ว ยังเป็นภาวะที่เป็นจริง และสมควรที่เราต้องจับตาหรือติดตามให้ได้ เพื่อรู้เห็นว่ามันเป็นไปอย่างไร เพราะมันคือส่วนหนึ่งของความรู้สึกนึกคิดและความคาดหวังที่เราไม่ได้ติดตามรู้เห็น หรือมีสติสัมปชัญญะที่คมชัดพอที่จะควบคุมมันได้ และมันก็ก่อเกิดประสบการณ์ชีวิตส่วนที่เราไม่รู้ว่ามาจากไหน


    [​IMG]


    ดังนั้นการแยกแยะที่เราควรทำอย่างยิ่ง จึงไม่ใช่การแยกแยะว่า ความรู้สึกนึกคิดที่ผุดขึ้นในภาวะจิตของเรานั้น อะไรคือของจริง อะไรคือของไม่จริง แต่เราจะต้องแยกแยะว่า อะไรคือความรู้สึกนึกคิดที่เกิดจากอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่บวก หรือเป็นไปตามความรู้ และอะไรคือความรู้สึกนึกคิดที่เกิดจากอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่ลบ (rose)


    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...