NEW ! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ.. GRAND NATURE ..

<table id="post2990841" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> 18-02-2010, 04:24 PM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #456 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Little Mermaid<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2990841", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jun 2008
ข้อความ: 258
Groans: 0
Groaned at 9 Times in 4 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 1,487
ได้รับอนุโมทนา 1,844 ครั้ง ใน 265 โพส
พลังการให้คะแนน: 56


</td> <td class="alt1" id="td_post_2990841" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ภารกิจนี้ ยิ่งใหญ่นัก
อุปสรรคข้างหน้าขวางอยู่
ขอเพียงฝ่าฝันไปให้ถึง
ทัพนี้ ใหญ่ยิ่ง ยืนยง..


เจริญในธรรม .. สาธุการ


<!-- google_ad_section_end -->
<fieldset class="fieldset"> <legend>รูปขนาดเล็ก</legend>
</fieldset>
</td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px 1px; border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> <script type="text/javascript"> vbrep_register("2990841")</script> </td> </tr></tbody></table>

ภารกิจของผู้ถือกุญแจ ..
ทุกท่านคือผู้ถือกุญแจ
เหตุเิกิดต้องแก้ที่ต้นเหตุ
ต้นเหตุคือจิตของมนุษย์
ต้องแก้ที่จิตมนุษย์ ..
กุญแจอยู่ในมือทุกท่านแล้ว ..


พระพุทธองค์ทรงเมตตา
โปรดเหล่าเวไนยพ้นทุกข์
โดยมิได้หวังแสวงหาความสุข ..

ความเมตตา ความรัก โดยปราศจากเงื่อนไข ..

ขออนุโมทนา สาธุการ

 

<table id="post2974877" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> 14-02-2010, 08:03 PM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #346 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->JINTAWADEE<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2974877", true); </script>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Sep 2007
ข้อความ: 855
Groans: 0
Groaned at 4 Times in 4 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 6,261
ได้รับอนุโมทนา 10,234 ครั้ง ใน 823 โพส
พลังการให้คะแนน: 303


</td> <td class="alt1" id="td_post_2974877" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start --><table class="tborder" id="post" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: solid; border-color: rgb(255, 255, 255);" width="175">บุญญสิกขา <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_", true); </script>
ผู้สนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Apr 2008
ข้อความ: 2,461
Groans: 7
Groaned at 15 Times in 15 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 17,384
ได้รับอนุโมทนา 17,060 ครั้ง ใน 2,224 โพส
พลังการให้คะแนน: 922



</td><td class="alt1" id="td_post_" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"><center>อายตนะ : สมดุลย์ : โลก (กะ) ธรรม

</center>
<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1">ใน ภาวะการดำรงค์ ครองขันธ์สถานภาพมนุษย์
รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส จะยังมีความจำเป็น
ระดับของปุถุชน และพระอริยะชั้นต้น

ขึ้นอยู่กับความแยกแยะพิจารณา รู้จักดำรงค์อยุ่
อย่าง สมดุลย์ ระหว่าง โลก และ ธรรม

สม ดุลย์ คือ มรรคา คือ หนทางที่ไม่สุดโต่ง

สมดุลย์ ในภาวะปัจจุบันขณะ

+++++++++++++++

สำหรับ เรา เราใช้สื่อ เพื่อ ฉุกใจคิดจิตมนุษย์

มนุษย์ ครองขันธ์
ยังต้องพึ่งพารูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส​

จิตหยาบ เหุ็นสัจจะสภาวะหยาบ
จิตละเอียด เห็นสัจจสภาวะละเอียด

กุญแจ คือ ความอ่่อนน้อม ต่อสรรพสิ่ง
รักษา จิตตน ไม่มุ่งจิตอื่น แตต่แผ่สู่จิตอื่น
ไม่เลือกสถานภาพ ไม่เลือกกาล ไม่เลือกสถานที่

</td></tr></tbody></table><!-- google_ad_section_end -->
</td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px 1px; border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> <script type="text/javascript"> vbrep_register("2974877")</script> </td> <td class="alt1" style="border-width: 0px 1px 1px 0px; border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> </td> </tr> </tbody></table>

 

เกิด แก่ เจ็บ ตาย คือวัฏจักร
เมื่อมีขาว ย่อมมีดำ
เมื่อมีหญิง ย่อมมีชาย
เมื่อมีบวก ย่อมมีลบ
คือสมดุลยภาพ


อนุโมทนา สาธุการ..

 

ขอเชิญเหล่านักธรรมร่วมชี้แนะ .

ประสานกันให้เป็นหนึ่งเดียว ..

กุศลทานบารมีเกิดแก่ทุกท่าน ..

สาธูการ

 

ในปัจจุบันผมชอบเลขนี้มากครับ

 

ผมจะรัก.. รักแบบไม่มีเงื่อนไขครับ!~..

 

*** นั่น...ไม่ใช่รัก แต่ยิ่งใหญ่กว่าเหนือกว่า ****

เลิกรัก...เพราะรักเอง ช้ำเอง
เมตตา....ช่วยเหลือสัตว์โลก
ให้มีโอกาสพบโลกุตตระธรรม นำพาสัตว์โลกหลุดพ้นทุกข์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** รับศีล ประกาศศีล แล้วก็ทำลายเสียเอง ****

ในแต่ละวัน...
ศีลที่ไปกล่าวกันไว้แล้ว ถูกทำลาย เป็นประจำทุกวัน
เพราะ ศีลนั้นกว้างใหญ่ไพศาล ยากที่จะทำได้จริง
สถานการณ์ศาสนา จึงเหมือนไฟแดงฉานร้อนรน
เพราะ สัจจะคำสอนของพระพุทธเจ้าถูกความเห็นบดบัง
ผู้คนไม่รู้จักสัจจะตัดลดนิสัย ยังคงถือศีลที่มีมาก่อนพระพุทธเจ้าพระโคดมประสูติ
ดินฟ้าอากาศ เป็นสักขีพยาน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

แต่ละคน ย่อมมีหนทาง เส้นทาง และ กรรม ของตนเอง

การรู้ตัวทันตน ว่าเป็นอย่างไร อย่างนี้เกิดขึ้น ย่อมเป็นสิ่งประเสริฐ

เื่มื่อสำเร็จสิ่งประเสริฐได้ขั้นหนึ่งแล้ว ย่อมน่ายินดี ถือว่าได้พัฒนา และรู้ว่าพัฒนาแล้ว

สถานการณ์ศาสนาเป็นไฟหรือไม่ ไม่ใช่ตัวศาสนา แต่เป็น "คน"

ความจริงแท้ย่อมเป็นความจริงแท้อยู่วันยังค่ำ ไม่มีสิ่งใดสามารถหักล้างบดบังได้

ความจริงแท้ก็คงอยู่เช่นนั้นเป็นนิรันดร์

"คน" ต่างหาก สร้างไฟ สร้างปัญหา ยึดมั่นถือมั่น จึงได้แค่รู้อยู่ในสมอง แต่ไปไม่ถึงนิพพาน

เมตตาธรรมค้ำจุนโลก สัจจะ ใช่หรือไม่ ตระหนักแล้ว ปฏิบัติให้บรรลุผล จะถือว่าประเสริฐยิ่งกว่า

 

*** ศาสนาไม่ได้เสื่อม ****

สัมคมคนเสื่อม....การกระทำไม่เที่ยง
ผลตอบแทน...จึงไม่เที่ยง
ถ้าปรารถนาเห็นความเที่ยง....ท่านต้องนำสัจจะไปปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริงในชีวิต

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

กล่าวได้ชอบแล้ว
เหตุใดผู้รู้จึงไม่นำพา..
สร้างสรรค์สารนา
นำพาธรรมะ บรรจบจง..

ทุกท่านล้วนคือผู้รู้..

สาธุการ

 

*** ปิดโลก เปิดธรรม ****

พระพุทธเจ้า....ทิ้งลาภยศสรรเสริญ
หนีเข้าไปอยู่ในป่าคนเดียว
พยายามพิสูจน์คำสอนที่มีมากมาย
สุดท้าย ปิดโลกปิดตำรา นั่งพิจารณาธรรมชาติ จึงพบสัจจะธรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

สวัสดีค่ะ ช่วงนี้ไม่ได้เข้ามาทักทายกับเพื่อน ๆ เลยค่ะ คงเป็นเพราะมีการปรัับปรุงเวปไซด์ด้วยอีกประการหนึ่ง
วันนี้ จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟัง ..

ผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 มีนาคม 2553
รางวัลที่ 1 : 215227 เลขท้าย 2 ตัว : 97

1 มีนาคม 2553 = 1/3/2553 = 1+3+2+5+5+3 = 19 = S = SUN
SUN = ดวงอาทิตย์ , จุดศูนย์กลางแห่งความสว่าง , หมายถึงความเป็นหนึ่ง

215227 = 2+1+5+2+2+7 = 19 = AI
AI = ARTIFICIAL INTELLIGENCE = ปัญญาประดิษฐ์ หรือสิ่งประดิษฐ์จากปัญญา หมายถึง ภูมิปัญญา หรือ ภูิมิธรรม

215 =2+1+5 = 8=H
227 =2+2+7 = 11 = K
HK = HUMANITY of KEY = รวบรวมผู้ทรงภูมิปํญญาของแต่ละสาย

เลขท้าย 2 ตัว = 97
97 = IG
IG = INDIVIDUAL GIVEN = การให้ , การเสียสละ

เมื่อนำความหมายมารวมกัน..
การรวบรวมผู้ทรงปํญญาของทุกสาย เพื่อรวมกันเป็นหนึ่งเดียว จำเ้ป็นต้องมีผู้เสียสละ ..


รักฉันนั้นเพื่อเธอ..

 

*** คำสอน ****

สัจจะ คำสอนของโลกุตตระ
หนึ่งไม่มีสอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

Hanuman monkey monk.

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ความหมายคือในแสงอาทิตย์อันเป็นหนึ่งเดียว (อันบริสุทธิ) มีส่วนประกอบของสีหลากหลายสี เฉกเช่นสีของรุ้ง

แต่ละสีต่างล้วนก็มีเอกลักษณ์อันลุ่มลึก เฉพาะตนที่ไม่เหมือนกัน และแตกต่างกันไป

จุดประสงค์ของกระทู้นี้คือความตั้งใจที่จะให้ทุกท่านนำภูมิปัญญาความรู้อันมีเอกลักษ์เฉพาะตนนั้น มาแบ่งปันซึ่งกันและกัน พร้อมนำภูมิปัญญาความรู้อันเป็นประโยชน์เหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ในการปรับสภาพจิตใจในการดำเนินชีวิต ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับยุคนิวเอจที่กำลังมาถึง นั่นคือการรวมความรู้หลากสายให้กลับสู่ความเป็นหนึ่งเดียว

ความรู้อันเกิดจากความรัก ความเมตตาที่ท่านทั้งหลายนำมาลงนี้ จะช่วยให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ และ ปรับสภาพจิตใจไปพร้อม ๆ กับทุก ๆท่าน ด้วยความรัก และ ความเมตตา


ไม่มีมิตร ไม่มีศัตรู ทุกคนล้วนเป็นเพื่อน เกิด แก่ เจ็บ ตาย

JINTAWADEE

 

แหม...แปลกันได้ลื่นไหลดีจริง
งวดหน้าลองหาข่าวสารมาแปลเป็นตัวเลขมั่งดิท่าน ..เอาให้มัน ก่อนหวยออกสักสองวันนา
จะจัดไปแก้จนสักชุด2ชุด เผื่อจะมีเงินเปลี่ยนแอร์ใหม่ ^^

 

ข้อสังเกตุ ผลลัพธ์ของวันที่ และ รางวัลที่ 1 มีผลลัพธฺ์ เท่ากันคือ 19 = SUN, AI

SUN = ดวงอาทิตย์ , จุดศูนย์กลางแห่งความสว่าง , หมายถึงความเป็นหนึ่ง

อาทิตย์อุทัย ที่ส่องสว่างไปทั่วหล้าไม่ว่าโลกจะหมุนรอบตัวเอง อย่างไร แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์ยังคงทอแสงอยู่ นั้นคือความเป็นหนึ่งเดียว
เปรียบดังคำสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระศาสดาเอกของโลก ซึ่งเป็นหนึ่งเดียว แม้นจะมีการแตกแยกออกเป็นหลายสาย

AI = ARTIFICIAL INTELLIGENCE = ปัญญาประดิษฐ์ หรือสิ่งประดิษฐ์จากปัญญา หมายถึง ภูมิปัญญา หรือ ภูิมิธรรม

ภูิมิปัญญา หรือ ภูมิธรรม นั้น เปรียบเหมือนเอกลักษณ์เฉพาะตน ไม่ว่าภูมิปัญญานั้น จะมาจากสายใดก็ตาม ไม่มีใครเก่งกว่าใคร ไม่มีใครเหนือใคร แตกต่างกันเพียง รู้ หรือ ไม่รู้ .. เท่าั้นั้น

HK = HUMANITY of KEY = รวบรวมผู้ทรงภูมิปํญญาของแต่ละสาย

ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน เข้าโพสต์ข้อความ แสดงความคิดเห็น ล้วนคือผู้ทรงภูมิปัญญา ด้วยกันทั้งสิ้น นำภูมิปัญญาของท่านมาแบ่งปันกัน เพื่อให้แต่ละท่านได้ใช้สติ พิจารณา และนำมาประยุกต์ ปรับสภาพจิตของตนเอง



IG = INDIVIDUAL GIVEN = การให้ , การเสียสละ
การเสียสละ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสียสละชาติภพของพระองค์ ไม่รู้กี่ภพ กี่ชาติ เพื่อที่ตรัสรู้อนุตรสัมโพธิญาณ เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์
เปรียบเหมือน การที่ผู้ทรงภูิมิปัญญาทั้งหลาย ได้นำความรู้เอกลักษณ์เฉพาะตน มาแบ่งปันเพื่อการเรียนรู้ นั่นคือการที่ท่านได้เสียสละตัวเอง เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุึษย์เช่นกัน

ในการเรียนรู้เกิดขึ้นได้กับทุกท่าน เพื่อการพัฒนาของภูมิปัญญา ข้าพเจ้าพร้อมที่จะเรียนรู้ไปกับทุกท่าน


ขออนุโมทนากับทุกท่าน
สาธุ..

 

วันนี้ข้าพเจ้าเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความต้องการที่จะเก็บกวาดเช็ดถูบ้านเรือนของข้าพเจ้า ด้วยความเชื่อส่วนตัวข้าพเจ้าที่ว่า "ความบริสุทธิ์จะดำรงอยู่ในเรือนที่บริสุทธิ์เท่านั้น"

เรือนของข้าพเจ้าในที่นี้ หมายถึง "เรือนภายใน และ เรือนภายนอก"

เรือนภายใน อันหมายถึง "ภาวะจิตภายใน"
เรือนภายนอก อันหมายถึง "สภาพแวดล้อม"
ซึ่งทั้งสองสิ่งเมื่อรวมกันแล้วคือ "ดุลยภาพ" คือความสมดุลย์ตามธรรมชาติ

การปัดกวาดเช็ดถูครั้งยิ่งใหญ่ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งนอกจากจะเป็นการเปิดรับปราณอันบริสุทธิตามธรรมชาติแล้ว (มันยังเป็นกฏทั่วไปของจักรวาล คือ ขั้วเหมือนกันย่อมดึงดูดซึ่งกันและกัน) มันยังเป็นกลวิธีในการกำจัดความเกียจคร้านอันเป็นหนึ่งในนิวรณ์ห้าประการด้วย

เช้าวันนี้สำหรับข้าพเจ้าเป็นวันที่แสงอาทิตย์ส่องสว่างและสดใสภายในใจของข้าพเจ้าเป็นที่สุด ข้าพเจ้าเชื่อในความบริสุทธิ และ "ปราศจากเงื่อนไข" ทั้งปวง

ขอเรียนเชิญผู้มีธรรมทั้งหลายได้โปรดเข้ามาเมตตาสั่งสอนข้าพเจ้าด้วยเทอญ

JINTAWADEE

 

ดิฉันไม่ใช่ผู้ทรงภูมิ เป็นแค่คนธรรมดา ดิฉันเฝ้าวนเวียนอยู่แต่กับกระทู้ แจ้งให้ตื่น แจ้งให้ทราบ แสงสว่าง ต่างดาว อะไรพวกนี้มานานตั้งแต่เริ่มเข้ามาเล่นที่เวปพลังจิต
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม?
แต่รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อ่านข้อความจากกลุ่มที่มีพลังงานด้านบวก หรือกลุ่มที่มีอัตตาตัวตนน้อย รับรู้ได้จากความรู้สึกค่ะ
ขอเล่าเรื่องความฝันที่มันยังไม่ลืมให้ฟังนะคะ(ผ่านไปหลายวันแล้ว) ฝันตอนใกล้จะหกโมงเช้า ฝันเห็นพญานาครูปร่างโปร่งแสง ลักษณะเหมือนพญานาคตามบันไดวัดนั่นแหล่ะค่ะ พญานาคเลื้อยลงมาบนถนนลาดยางซึ่งเป็นทางลงจากเขาในป่าที่ไหนสักแห่ง
ก่อนจะจบความฝันเห็นศีรษะคนวางอยู่บนพื้นดินเขาพูดได้บอกว่า ช่วยด้วย เขาอยู่ในนรก นรกอยู่ที่จังหวัดสวรรคโลก
ก็เป็นแค่ความฝันแหละค่ะ แต่ดิฉันไม่เข้าใจตีความฝันไม่ออก
ต่อมาฝันอีกค่ะ ฝันเห็นตัวเองและใครอีกหลายคนได้รับไม้กายสิทธิ์เหมือนในหนังเรื่องแฮรี พอตเตอร์
ในฝันนั้นรู้สึกเหมือนตัวเองกับใครอีกหลายคนเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษอะไรสักอย่าง
ดิฉันถือไม้กายสิทธิ์เดินไปกับพวกเขาหลายคน
แต่มันแปลกที่ดิฉันมีเด็กมากอดเอวไว้แน่น แกทั้งรั้งทั้งโหนจนดิฉันรำคาญต้องก้มลงมอง
เอ มันอะไรกันนักหนา คนอื่นไม่เห็นมีอะไรมาเกาะเลย
หลังจากนั้นก็มาพิจารณาว่าทำไมเหรอ ฉันจะไปทำไมฉันถึงห่วง ห่วงใคร?
แล้วก็มานึกรู้ว่า อ๋อ เราห่วงพ่อ แม่ น้อง ๆ และหลานชาย
พวกเขายังไม่ตื่น ยังไม่พร้อม ก็เลยเป็นทุกข์ใจอีก จะไปคนเดียวก็ได้ แต่ก็สงสารพวกเขา
เป็นทุกข์อยู่หลายวัน โทร.ไปบอกพวกเขาว่าให้ย้ายขึ้นมาจากกรุงเทพฯ มาอยู่ด้วยกันทางเหนือ (ในใจคิดว่าอย่างน้อยก็มาตายพร้อมกัน ตายอยู่ด้วยกันอบอุ่นดี อิอิ)
หลังจากนั้นก็โทร.ไปหาแม่ ทั้งเตือนและเร่งเร้าให้พวกเขาย้ายขึ้นเหนือเพราะจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้น แต่พวกเขาคงไม่เชื่อ สุดท้ายก็มานั่งเศร้าเฝ้าพิจารณาว่าฉันทำอะไรผิดพลาดหรือเปล่า จิตเริ่มไม่เป็นกลาง ซัดส่าย กวัดแกว่ง เอาล่ะสิ จะทำไงดี
ในที่สุดก็คิดหาทางออกให้กับพ่อ แม่ และน้อง ๆ ได้ว่า ถึงจะช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้ เพราะมันเป็นกรรมของพวกเขาเอง แต่จะพยายามค่อย ๆ บอกให้พวกเขาไม่ให้ตระหนกกับความตาย
คิดเอาไว้ว่าจะบอกพวกเขาอย่างนี้ค่ะถ้าใกล้จะตายไม่ต้องมานึกถึงดิฉัน เพราะความหวาดกลัวของพวกเขาจะส่งพลังหน่วงเหนี่ยวดิฉันไว้ แต่จะขอให้พวกเขานึกถึงพระพุทธเจ้าให้มาก ๆ มากที่สุดจนลมหายใจสุดท้าย พวกเขาจะได้รู้สึกอบอุ่น และมีพลังความหวังอันริบหรี่ซึ่งอาจช่วยส่งให้พวกเขาตายอย่างเป็นสุขได้
ดิฉันรู้สึกมาตลอดว่าโลกใบนี้อาจจะไม่ใช่บ้านอันสงบสุขที่ดิฉันเคยอยู่(ที่ไหนสักแห่ง) นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว ถ้าดิฉันจะกลับบ้านพวกเขาจะมารับ(รู้สึกไปเองอีกแล้วค่ะแต่มันสังหรณ์อย่างนี้อยู่ตลอดเวลา)
แต่อีกใจก็สงสารผู้มีพระคุณบนโลกนี้ พ่อ แม่ น้อง ๆ หลานชายวัยสองขวบ น้องเขยนั้นมีความผูกพันกันน้อยก็เลยไม่ค่อยห่วง แต่ก็คอยอวยพรให้เขาโชคดี
ตอนนี้เริ่มปล่อยวางได้อีกครั้ง บางทีความรู้สึกว่าจะได้กลับบ้านอาจเป็นเพียงแค่ความกลัวที่คอยผลักให้หนีไปให้ไกลจากอันตราย
แต่ถ้าดิฉันสามารถปรับจิตให้เป็นกลางได้ ละวางอัตตาตัวตนได้มากขึ้น บางทีพวกเขาอาจสงเคราะห์พาดิฉันไปด้วยก็ได้
ดิฉันไม่คิดจะหาที่หลบภัย เพราะไม่รู้จะไปที่ไหน จะให้ไปรวมกลุ่มกับใคร ใจก็ไม่อยากไป คงเป็นกรรมของเราเอง และคิดว่าถ้าจะต้องไปผจญกับสภาวะหลังภัยพิบัติ ดิฉันคงขอตายไปพร้อมกับคนอื่น ๆ ดีกว่า เพราะดิฉันไม่มีพลังมากพอจะยืนหยัดอยู่ในสภาวะนั้นได้ สังขารนี้มันอ่อนแอนัก ไม่แข็งแรงเลย มันเสื่อมลงทุกวัน เกรงว่าจะเป็นภาระของผู้อื่นเพิ่มขึ้น
ดังนั้น ขอตายดีกว่าค่ะ แต่ก่อนตายจะพยายามส่งพลังงานบวกให้กับโลกใบนี้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ อย่างน้อยพลังงานอันน้อยนิดของเรา อาจจะเสริมกองทัพพลังงานกลุ่มใหญ่ได้บ้าง
แต่อีกใจก็หวังว่าถ้ายังไม่ถึงคราวตายก็ขอให้มีใครที่เฝ้าดูเราอยู่มารับเราไปให้ทันก่อนเวลาภัยพิบัติจะเกิดขึ้น ดิฉันอยากเห็นยุคศิวิไลซ์ค่ะ
ตอนนี้พฤติกรรมของตนเองมันเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ ค่ะ เหมือนไม่ใช่ตัวเรา พอเห็นว่ามันไม่เหมือนหรือไม่ใช่ก็เริ่มค้นหาอีกแล้วค่ะ เพราะเกรงจะสูญเสียความเป็นเราไป
เมื่อวานได้อ่านบทความของคุณสุดใจ(เขากะลา) ที่ www.ufokaokala.com ช่วงที่ท่านถูกระบบทดสอบ แล้วนำมาเปรียบเทียบกับตนเอง
ถึงได้เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราจะเรียกว่าธรรมะก็ได้ค่ะ คือเขาแสดงให้เรารู้ว่าพฤติกรรมใด ๆ ที่คิดว่าเป็นเรานั้นมันไม่ใช่ มันไม่มีตัวตน มันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตามสภาพแวดล้อม ตามกระแสพลังงาน พอเราเริ่มต้านก็รู้สึกหงุดหงิด รำคาญ ในที่สุดก็เหนื่อย
แต่พอได้อ่านบทความของคุณสุดใจถึงรู้ว่าจะต้องจัดการกับตนองอย่างไร สรุปว่าปล่อยมันไปตามนั้น แต่ไม่ยึดติดกับมัน เช่น ดิฉันไม่เคยซื้อหรือเช่าซีดีมาดู แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งอยากทำอย่างนั้นจนทนไม่ไหว ต้องไปซื้อและเช่ามาดู ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับอวกาศและภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ไม่ดูเฉย ๆ พยายามค้นหาคือพิจารณาว่าสิ่งที่อะไรก็ตามที่ดลใจให้ดิฉันดูภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่องนั้นมันคืออะไร
ในที่สุดก็สรุปได้ว่า ผู้ที่ถูกเลือกให้อยู่รอดคือผู้ที่ละวางการยึดมั่นถือมั่น สุดท้ายก็อยู่ที่ตัวเราว่าเลือกที่จะอยู่หรือไปในเส้นทางที่ใจเราก็รู้ว่าจะต้องไปที่ใด
ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ให้โอกาสได้แบ่งปันความรู้สึกที่อยู่ข้างในลึก ๆ
ขอให้ท่านตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณจงเป็นสุขกายสุขใจตลอดไป ไม่ว่าท่านจะอยู่ ณ ที่แห่งใดก็ตาม