ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    หลักเมืองคู่
    (ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)

    [​IMG]

    กรุงธนบุรีได้จารึกไว้เมื่อ 200 กว่าปีมา เนื่องจากประเทศสยามเกิดกลียุคอยู่เป็นเนือง ๆ สมเด็จเจ้าพระยาพระมหากษัตริย์ศึกก็ทรงปราบจนราบคาบ เข้าสู่สันติสุข เหล่าทวยประชาราษฎร์ อาณาจักร ปวงชนทั้งหลายก็ยินดีปรีดาปราโมทย์เป็นอย่างยิ่ง แล้วก็เหล่าบรรดาโหราคณาจารย์ และเสนา อำมาตย์ และประชาราษฎร์ ก็พร้อมใจกันกราบทูลอันเชิญขึ้นเถลิงราชสมบัติ

    เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช พ.ศ. ๒๓๒๕ ซึ่งถือว่าเป็นวันจักรี

    หลังจากนั้นไม่นาน ก็เพื่อประโยชน์แห่งประเทศสยาม คณะโหราจารย์ก็ได้เล็ง ลัคนาบ้านเมือง ตั้งหลักเมืองขึ้น ได้ประชุม ชุมนุมกำหนดพระฤกษ์ ที่จะตั้งหลักเมืองขึ้น

    เมื่อ วันที่ ๒๑ เมษายน พุทธศักดา พ. ศ.๒๓๒๕ ปีขาล วันเสาร์ขึ้น ๑๐ ค่ำ เวลา ๖ โมง ๕๔ นาที เป็นพระฤกษ์ จึงบังเกิดเป็นดวงเมืองแห่ง ประเทศสยามขึ้น ในดวงเมืองนี้ ประเทศเราจะเป็นประเทศเอกราช ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของชาวต่างชาติ จะค่อย ๆ เจริญเติบโตตามสภาวะของชาวสยาม

    ตามหลักฮวงจุ้ย ได้เกิดตั้งกรุงเทพฝั่งกรุงเทพขึ้นมาเป็นเมืองหลวง

    กรุงธนบุรีสมัยพระเจ้าตากสิน ตามหลัก หยินหยาง ธนบุรีเป็นฝ่าย น้ำ แล้วก็ กรุงเทพก็เป็นฝ่ายไฟ หยิน หยาง ก็คือ เพศหญิง และเพศ ชาย

    สังเกต เรามาสังเกตกันดู ชื่อวัดฝั่งธนบุรีนี้ส่วนมากก็แปลกดี ถ้าให้ไปดูๆกันแล้วก็จะรู้สึกอัศจรรย์เหมือนกัน พระเจ้าตากสินท่านเป็นคนจีน ฉะนั้นคนโบราณท่านทำอะไร มีหลัก เกณฑ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ ชื่อวัดทางฝั่งธนก็จะเป็นชื่อฝ่ายหญิงเสียส่วนมาก เช่น วัดนางชี วัดอนงคาราม วัดน้อยนางหงส์ วัดภคินีนาถ วัดนวลนรดิศ วัดกลัยาณมิตร วัดเครือวัลย์ วัดใหม่ยายนุ้ย และอีกอื่นๆก็ล้วนเป็นชื่อฝ่ายหญิงทั้งนั้น กองทัพเรือก็ตั้งอยู่ฝั่งธนบุรี จะไม่แปลกเลยที่ว่าอำนาจฝ่ายการเมืองของฝ่ายกองทัพเรือที่ผ่านมา จะหาบุคคลสูงสุดที่จะมาเป็นนายก จากกองทัพเรือนี้จึงหาได้ยากเพราะเป็นพลังฝ่ายหญิง ฝั่งกรุงเทพ ฝั่งพระนคร เป็นด้านไฟ เพศชาย

    ทำเลของฝั่งธนกับกรุงเทพ จึงเป็น น้ำกับไฟ ตามหลักของธาตุ น้ำกับไฟ ย่อมทำลายซึ่งกันและกัน

    ในปี พ.ศ. ๒๔๗๕ เกิดกันสร้างสะพานพุทธขึ้น จึงถือว่าสะพานนี้เป็นตัวเชื่อมน้ำกับไฟเข้าหากัน บ้านเมืองก็เริ่มปั่นป่วน เกิดกบฏขึ้น ทั้ง ๆ ที่บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุขมาตลอด พอเปิดสะพานพุทธ ปั๊ป ปีนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองขึ้นทันที เกิด ปฎิวัติ กบฏ วรเดช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗ ก็ต้องสละราชสมบัติเปลี่ยนแปลงการปกครองและไปประทับอยู่ต่างถิ่น

    ตามตำรา ฮวงจุ๊ย เมื่อเจาะน้ำให้ไหลเข้าฝั่งไฟนับเป็นอันตรายยิ่งนัก จะบังเกิดความสูญเสียอย่างมากมาย ดีที่มีการสร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ ๑ กั้นไว้ ทางเข้าของน้ำแยกเป็นสองแฉก จึงทำให้แผ่นดินปกครองโดย"กษัตริย์"และ"รัฐบาล"

    ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และต่อมาก็เกิดการสร้างสะพาน ปิ่นเกล้าขึ้นอีกสะพานหนึ่ง เมื่อเปิดสะพาน ปุ๊บ เกิดอะไรขึ้น เราคงจำได้ เกิดการล้มล้างรัฐบาล นิสิต นักศึกษาล้มตายกันอย่างมากมาย เกิดวันมหาวิปโยค ผู้ปกครองประเทศนายกรัฐมนตรีก็ต้องหนีออกจากประเทศไป สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ แล้วก็ต่อมาในยุคหลังนี้ ก็มีการสร้างสะพานแขวนขึ้น พวกเราก็คงจำกันได้ ในวันเปิดสะพานแขวนเพื่อสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ นับตั้งแต่ที่เปิดสะพานแขวนมา นายกรัฐมนตรีสมัยต่อมา

    อย่างน้อยต้อง ๓ สมัย ถึงจะหมดอิทธิพล ของการเชื่อมน้ำกับไฟอันนี้

    ภาวะการเมืองไม่มั่นคง นายกรัฐมนตรีที่จะเป็นต่อมาก็จะถูกแขวนอย่างโดดเดี่ยว เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจ ถ้าสังเกต ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี เปรม ๕ ขึ้นมา มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย ครั้นเมื่อมีรัฐบาลชาติชายก็ดีได้ชั่วขณะหนึ่ง ก็เกิดการล้มล้างรัฐบาล นายกสุจินดาขึ้น ก็นำความเจ็บปวด ประเทศชาติเกิด พฤษภาทมิฬขึ้น เกิดการเข่นฆ่ากันเอง นายกอนันต์ ก็มาขัดตาทัพ เมื่อเลือกตั้งได้ นายกชวน ก็พารัฐบาลคว่ำ สิ่งเหล่านี้ เพราะว่า น้ำลุกลามมาฝั่งไฟ การหักล้างกันระหว่างธาตุ

    ส่งอิทธิพลรวมไปถึงรถไฟฟ้า(งูเหล็ก)ที่เชื่อมระหว่างฝั่งธนกับฝั่งพระนครด้วยเช่นกันว่าถึงเรื่องหลักเมือง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผูกดวงเมืองไว้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๑ เมษายน ๒๓๒๕ ปีขาล ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติในปี ๒๓๙๔ ทรงให้ผูกดวงชาตาพระนครขึ้นปีใหม่ให้ต้องตามดวงพระราชสมภพ เพื่อให้บ้านเมืองเจริญยิ่งขึ้น กับโปรดเกล้า ฯ ให้เฉลิมนามพระนครเสียใหม่เปลี่ยนจาก “กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินทร์” เป็น “กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์”

    สำหรับดวงเมืองที่ผูกขึ้นใหม่ในรัชกาลที่ ๔ ทรงบรรจุแผ่นทองคำจารึกดวงชาตาพระนครที่ยอดเสาหลักเมืองใหม่ วันอาทิตย์ที่ ๑ พฤษภาคม ๒๓๙๖ เวลา 0๘.๔๘ นาฬิกา

    ส่วนหลักเมืองเดิมให้เชิญขึ้นจากหลุม ตั้งพิงไว้กับศาลใกล้หลักเมืองใหม่ครั้นปี พ.ศ. ๒๕๒๕ สมโภชรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ทรงปรับปรุงศาลหลักเมืองใหม่ จึงเชิญเสาหลักเมืองสมัย ร.๑ ออกไปไว้นอกศาล เสาหลักเมืองสมัยรัชกาลที่ ๔ ไม่เคลื่อนย้าย เมื่อสร้างศาลเสร็จ จึงเชิญหลักเมือง ร.๑ มาประดิษฐานคู่กับหลักเมือง ร.๔ ห่างกัน ๕๙ นิ้ว โดยหลักเมืององค์ ร.๑ สูงกว่าองค์ ร.๔ ๕๙ เซนติเมตร

    วันที่เชิญหลักเมือง ร.๑ ลงคู่กับหลักเมือง ร.๔ คือ วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๙ เวลา ๑๕.๒๑ นาฬิกา โดยไม่มีพิธีใด ๆ

    เมื่อมีการขุด ย้าย และประดิษฐานเสาหลักเมืองอันเป็นสัญลักษณ์ของดวงชาตาบ้านเมืองอีก ๒ ครั้งหลัก ๆ ทั้งใน ร. ๔ และ ร.๙ ปัจจุบัน และการเอาหลักเมืองมาตั้งคู่กันโดยความสูงที่เหลื่อมล้ำกัน

    โบราณถือว่า เป็น "หอกข้างแคร่" ให้ผลในการเลือกสรรผู้นำ จะได้แก่ “ทรราชย์” เก่งแบบอสูร ยกให้ ๑ สูง ก็กดให้ ๑ ต่ำ เสาหลักเมืองคู่แต่สูง – ต่ำ คือความไม่มั่นคงของการบริหารบ้านเมือง เดินหน้าแล้วก็ถอยหลัง ถอยหลังแล้วก็เดินหน้าต่อ เป็นเช่นนี้อยู่ตลอดเวลา แล้วแผ่นดินจะเจริญ-รุ่งเรือง-ร่มเย็น-เป็นสุข ได้เช่นไร ผู้มาบริหารบ้านเมืองก็จะได้แบบ"นกกระสากินกบ"


    <CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>[​IMG]</CENTER>

    </PRE><CENTER></CENTER>
    โอ้..น่าอนาถแท้ แผ่นดินไทย
    กระสาไซร้ กินกบ หมดทั้งผอง
    ศีลธรรม สัจจธรรม ไม่มีครอง
    แต่ล้วนต้อง กระแสกรรม ทุกข์บรรลัย
    ไม่ว่าใคร กระสาไหน ล้วนมาจิก
    กบมืดมิด ให้ดับดิ้น ชาติเสื่อมสูญ
    ให้โศกา เศรษฐ์พังพาบ ทุกข์อาดูร
    หนี้เพิ่มพูน หมดอนาคต เศร้าฤดี
    ตั้งกี่ที ล้มทุกที ชวนให้คิด
    ในสิ่งผิด กรรมอดีต ที่มัวหมอง
    วิบากซ้ำ ภัยกระหน่ำ ตามครรลอง
    ชาติม้วยมอญ เพราะกระสา กินช้ำใจ

    ที่มา http://www.navagaprom.com/#
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2010
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ท่านมาเกิดเป็นพระมหากษัตริย์ไทย

    ที่ทำสงครามกับความยากจน

    ของคนไทยทั้งประเทศ

    บอกเท่านี้ก็คงพอจะนึกออกแล้วนะครับ

    เรื่องนี้ผมไม่ได้เดาเองส่งเดชนะครับ

    ไม่เชื่อก็ไปถามศิษย์ของพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    คนไหนก็ได้ครับ ว่าเรื่องที่ผมบอกนี้เป็นความจริงหรือไม่?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2010
  3. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715

    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

    ตรงจุดนี้ ใช่ว่าจะไม่มีผู้ทราบ

    แรงกรรมดี-ชั่ว คืออันดับหนึ่ง บุญบารมีอันดับสอง ฮวงจุ้ยเป็นอันดับสาม


    วิบากกรรม และ บุญ-บาป บารมี จะเป็นตัวการให้ได้ฮวงจุ้ยที่ดีหรือเลว


    ถ้าวิบากอกุศลจางคลาย วิบากมหากุศลได้ช่อง ก็ปรากฏการแก้ไข

    ให้ถูกลู่ทาง

    แต่บางครั้ง ก็ไม่ทำให้ใครทราบว่าแก้ไขแล้ว

    เสมือนแกล้งอ่อนแอ แต่ ฟูมฟักกำลัง



    ฮวงจุ้ย คือ การเรียนรู้พลังของธาตุในจักรวาล ในโลก ที่สัมพันธ์กัน

    เป็นวิชาเซียน ที่ยังเกี่ยวพันธ์กับภพสาม

    แต่พุทธศาสตร์เป็นวิชาเหนือโลก ละเอียดกว่าและเข้าไปแก้ในส่วนละเอียดของพลังงานแกนกลาง
    ของธาตุหกได้ ขึ้นกับว่า เข้าถึงพุทธศาสตร์แค่ไหน มีกำลังแค่ไหน รู้เวลาเหมาะของเหตุปัจจัย
    แค่ไหน

    ....ในยามคับขันที่สุด ประเทศไทยหรือแผ่นดินสยามนี้ ที่เหล่าบรรพกษัตริย์ และบรรพชนได้ถวายเป็นพุทธบูชา กลับรอดพ้นได้อย่างอัศจรรย์ เหนือคำทำนายทั้งมวลตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

    เพียงแค่ จะชัดเจน ช้าเร็วแค่ไหน ขึ้นกับ จำนวนบุญกุศลและบารมีรวมของคนในชาติร่วมด้วยแค่ไหน


    OOที่เหลือตอนนี้คือ.... เร่งกระจายธรรมขาวสู่จิตใจชาวไทยให้มากที่สุด OO


    อนุโมทนา ทุกกุศลที่ได้ทำครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 มีนาคม 2010
  4. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

    ตรงนี้ ผมได้รับทราบ ได้ยินมาอยู่

    แต่ จากข้อความที่ผมยกมาก็น่าฉงน?

    ทำไม??

    1.พระองค์จึงมาปรากฏนิมิตรต่อหน้าอีกพระองค์ ถ้า เป็นองค์เดียวกัน

    2.ถ้าเป็นเทวดาอื่นสำแดงนิมิตรมา เทวดาไม่ทราบหรือว่า
    ผู้ที่ตนกำลังแสดงนิมิตรให้เห็นคือ ตัวจริงของพระองค์มาเกิด
    จะมาแสดงนิมิตรให้พระองค์จริงเห็นทำไม

    ผมคิดว่า สองประการนี้ มีหลายท่านแคลงใจ
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เรื่องของความเชื่อ เป็นสิทธิส่วนบุคคล

    ก็แล้วแต่ว่าใครจะเชื่ออะไร หรือไม่เชื่ออะไร

    มาเถียงกันไปมา ก็ไม่เกิดประโยชน์ จริงไหมครับ

    รบกวนเวลาของท่านที่ต้องการเข้ามาอ่านข่าวสาร

    เรื่องของภัยพิบัติไปเปล่าๆ หวังว่าคุณ OOโอมOO

    คงจะเข้าใจในเหตุผลของกระทู้นี้นะครับ ว่ามีไว้เพื่อเตือนภัยเท่านั้น
     
  6. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

    ขออภัยครับ อย่าคิดว่าเป็นการเถียงสิครับ

    ผมรู้สึกดี ที่กำลังคุยกับมิตรสหายที่มีใจเอื้อเฟื้อเป็นห่วงเพื่อนร่วมโลก
    นะ รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

    เห็นคุณและที่นี่เป็นมิตรจึงกล้าคุยเรื่องแบบนี้ด้วยเท่านั้นเอง

    ขออภัยทุกท่านอีกครั้ง ผมหยุดคุยเรื่องนี้ที่นี่ดีกว่า

    ขอบคุณมากครับ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 มีนาคม 2010
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นักวิชาการฟันชัด!! สารพิษจากการหมักอาจเป็นอาวุธชีวภาพได้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 มีนาคม 2553 17:58 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    นักวิชาการพิษวิทยา ระบุ การบริโภคอาหารหมักที่หมักไม่ถูกวิธี เสี่ยงรับสารพิษและเสียชีวิตได้ เผยมีคนไทยเสียชีวิตจากหน่อไม้ดองในปี๊บด้วยอาการสารพิษรบกวนระบบทางเดินหายใจ ยอมรับสารพิษจากการหมักอาจถูกนำไปศึกษาต่อทำเป็นอาวุธชีวภาพได้

    ผศ.นพ.ธีระ กลลดาเรืองไกร รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิษวิทยา กล่าวบรรยายหัวข้อ “แนวทางรักษาผู้ป่วยจากภัยอาวุธชีวภาพ” ในการประชุมวิชาการ เรื่อง “อาวุธทำลายล้างสูง : ภัยจากอาวุธชีวภาพ” ที่คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ว่า อาหารที่รับประทานบางชนิดที่เป็นอาหารหมักแบบผิดวิธี เป็นสาเหตุให้เกิดสารพิษ ซึ่งสามารถนำสารพิษที่เกิดขึ้นไปทำเป็นอาวุธชีวภาพได้ พร้อมยกตัวอย่างเมื่อ 3 ปีก่อน มีคนไทยภาคเหนือรับประทานหน่อไม้หมักในปี๊บแล้วเสียชีวิตจากการได้รับสารพิษรบกวนระบบทางเดินหายใจ ถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลศิริราชเสียชีวิตใน 2 วัน

    ผศ.นพ.ธีระ กล่าวว่า สารพิษในหน่อไม้เกิดจากการหมักโดยไม่ใส่เกลือ และปิดฝาปี๊บด้วยเครื่องมือบัดกรี ทำให้เกิดสารพิษชื่อโบทูลินัม (Botulinum) ซึ่งมีการนำสารชนิดนี้ไปสกัดเป็นสาร Botox นำมาฉีดใต้ผิวหนัง ในแวดวงความงาม สำหรับการหมักหน่อไม้โดยไม่ใส่เกลือนั้น อ้างว่าผู้บริโภคไม่นิยมรับประทานหน่อไม้เค็ม ซึ่งในการหมักอาหารหากไม่ใส่น้ำตาล หรือเกลือ เพื่อการถนอมอาหาร อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาและเกิดสารพิษบางประเภทได้ เช่นเดียวกับหน่อไม้ที่ทำให้เกิดสาร Botulinum ได้โดยไม่ได้ตั้งใจ อาการของผู้รับสารนี้จะแสดงราว 5 วันหลังจากรับสาร เช่น หนังตาตก เสียงอ้อแอ้ หายใจลำบาก บางรายหายใจเองไม่ได้ จะเสียชีวิต พบได้เรื่อยๆ

    ดังนั้น จึงเตือนผู้บริโภคในการรับประทานอาหารกระป๋องให้พิจารณาสภาพกระป๋องให้อยู่สภาพเรียบร้อย เพราะอาจมีสารพิษเข้าไปอยู่ในอาหารได้ หากมีการบุบแตกของกระป๋อง ส่วนการรับประทานอาหารหมักดอง ตามหลักจะมีการหมักด้วยเกลือเค็มจัด หรือน้ำตาลหวาน ๆ เพราะจะไม่ทำให้สปอร์ซึ่งเป็นสารพิษที่เกิดจากการหมักอาหารทำงานได้ อย่างที่พบกัน เช่น ไข่เค็ม กุนเชียง หัวไชโป๊ มีทั้งหมักหวาน หมักเค็ม ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม สารพิษที่เกิดจากการหมักอาหารบางชนิด อาจเกิดโดยไม่ได้ตั้งใจ และเป็นสารใหม่ ดังนั้น หากมีผลต่อสุขภาพหรือสิ่งมีชีวิต เป็นไปได้ที่อาจจะมีการนำไปศึกษาเป็นอาวุธชีวภาพได้

    ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000038861
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2010
  8. apichan

    apichan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    825
    ค่าพลัง:
    +4,424
    เชื่อข่าวที่นายขวัญชัยพูดเหรอครับ หลวงตาท่านเป็นพระอริยะแล้วย่อมต้องแจ้งในสิ่งต่างๆใครเป็นยังไง

    อีกอย่างหลวงตาท่านไม่สร้างพระครับ มีแต่พวกลูกศิษย์แอบๆทำกันเอง เป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะมามอบให้เอง
     
  9. Windsong

    Windsong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +293
    เรียนถามผู้มีธรรมทัศนะ หรือผู้มีประสบการณ์ด้านพุทธคุณจากการที่<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับพระเครื่องบูชาที่เก่าแก่ และต้องขออนุญาตและ<o:p></o:p>
    ขออภัยท่านผู้อื่นด้วยครับ หากสิ่งที่ผมถามนี้จะเป็นการรบกวน พื้นที่ของ
    กะทู้นี้ เนื่องจากเห็นว่ามีผู้ปฏิบัติธรรมเป็นอันมาก เพื่อปุชชาถามผู้รู้
    เผื่อท่านที่มีธรรมทัศนะมาอ่านพบเจอ จะได้วิสัชชนา คำตอบให้ผมเกิด
    ความกระจ่างในชีวิต ซึ่งไม่สามารถเข้าใจเหตุผลด้วยตนเองได้

    ปุชฉา ดังนี้ครับ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ผมเป็นปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป ยังพอใจในกิเลสกามบ้าง ไม่ได้มียศ อำนาจ<o:p></o:p>
    วาสนา ระดับ นายพล นายพัน หรือผู้มีอำนาจในวงราชการ หรือ<o:p></o:p>
    วงการธุรกิจใดๆ ไม่มีความรู้เรื่องพระเครื่อง หรือในทางปฏิบัติธรรม คาถาอาคม<o:p></o:p>
    ใด ๆ นอกจากธรรมของพระพุทธองค์ ที่คอยเตือนสติในใจไม่ให้<o:p></o:p>
    ไหลลงต่ำเท่านั้น..แม้ว่าบางครั้งใจอยากจะทำเหลือเกิน..<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    กล่าวคือ..ประมาณสิบปีที่แล้ว วันหนึ่งผมได้มีโอกาสได้พระปิดตาองค์หนึ่ง<o:p></o:p>
    มาไว้บูชา จู่ ๆ เหมือนมีอะไรดลใจ ให้ผมต้องหยุดรถ ผ่านและลงรถเดินเข้า<o:p></o:p>
    ไปยังที่ตรงนั้น ที่ ๆ ผมได้พบพระองค์นี้โดยบังเอิญ เดิมผมก็ไม่ทราบว่าท่าน<o:p></o:p>
    เป็นพระอะไรเพราะไม่มีความรู้ จึงได้เริ่มหาคำตอบจนเป็น "ผล" สุดท้ายก็<o:p></o:p>
    ทราบว่าเป็นพระปิดตาเบญจาภาคี 1 ใน 5 ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    จึงเป็นคำถามที่คาใจที่ผมพยายามหาคำตอบและก็ยังหาไม่ได้จนถึงวันนี้ว่า<o:p></o:p>
    เพราะ "เหตุ" อันใด พระบูชา ที่คนส่วนใหญ่ในวงการนี้ มักพูดเสมอว่า<o:p></o:p>
    "ถึงมีเงิน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้ครอบครอง" ท่านถึงได้เสด็จมาหา<o:p></o:p>
    ทั้ง ๆ ที่ท่านควรจะได้อยู่กับผู้ที่มีฐานะอันคู่ควร..คู่ควรมากกว่าคนธรรมดา<o:p></o:p>
    ที่ยังปรารถนาในกิเลสกามบ้างอย่างผม..ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีนิมิต<o:p></o:p>
    บอกเหตุให้ได้รู้ว่า "ท่านมาเพื่ออันใด" แต่จะรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก<o:p></o:p>
    เวลาอยากจะทำอะไรที่ไม่ดี...แต่สุดท้ายก็ได้แต่คิด ไม่เป็นผลในทางปฏิบัติ<o:p></o:p>
    ก็ยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัดกันไปใหญ่..เหมือนรบกับตัวเอง

    <o:p>หรือท่านมาเพื่อปกป้องบุคคลในครอบครัวอันเป็นที่รัก </o:p>
    <o:p>ยามที่ภัยพิบัติจะมาเยือน..</o:p>
    <o:p></o:p>
    หากผู้รู้ท่านใดจะช่วยไขความกระจ่าง ถึง "ผล" ที่เกิดขึ้นกับผมได้ว่า<o:p></o:p>
    มีที่มาจาก "เหตุ" อันใด..ก็จะเป็นกุศลและพระคุณอย่างสูงครับ

    ขออนุโมทนาบุญร่วมกับผู้ประพฤติธรรมทุกท่านด้วยครับ..
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    “ ฟ้าใหม่ ”

    เหมือนกบในถ้ำมืด ... เห็นแสงนวลคิดจันทรา
    หลงไหว้หลายเพลา .... กว่าจะรู้รูกระบอกแสงลอดกะลา
    หลุดสู่โลกความจริง ... สลัดทิ้งสิ่งสั่งสม
    มองเห็นกลดธุดงค์ .... ทำได้จริงดั่งวาจา
    ผู้นำคือความเที่ยง ... พาก้าวเลี่ยงสิ่งเคยพาล
    ก้าวทั่วถิ่นแดนราช .... ก้าวพ้นผ่านพันธะกรรม
    สัจจะ ตัวกระทำปรากฏ ... แสงจันทร์จรดปวงดวงประชา
    คิดดั่งเดิมเจริญแจ่มหล้า ....น้อมรับพาสู่บัลลังก์

    ................................- หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พิษณุโลก-ศิลปากรสุโขทัยสั่งปิดหลุมกรุแตก

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    วัดราชบูรณะปิดหลุม ล้อมลวดหนาม กรุแตกทันทีหลังได้รับแจ้งจากสำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย หวั่นการขุดส่งผลต่อรากฐานเจดีย์หลวง

    เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(22 มี.ค.) ที่บริเวณพื้นที่ข้างเจดีย์หลวง วัดราชบูรณะ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ทางวัดได้นำลวดหนามมาล้อมไว้เพื่อป้องกันชาวบ้านมาขุดหาพระกรุ พิมพ์นางพญาเข่าโค้งและเข่าตรงในจุดที่ค้นพบ แต่ไม่สามารถห้ามปรามประชาชนที่แห่แหนมาค้นหากันตั้งแต่เช้าได้ ทางวัดจึงอนุญาติให้ผู้มีจิตศรัทธา เลื่อมใส เข้ามาคุ้ยเขี่ยหาพระได้แต่ห้ามขุดหลุมลึกเพิ่มเติมอีกเพื่อให้เป็นไปตามความห่วงใยของญาติโยม พุทธศาสนิกชน และสำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย ว่าการขุดบริเวณดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อโบราณสถานอื่นๆที่อยู่ใต้ผิวดิน รวมถึงรากฐานขององค์เจดีย์หลวง

    เบื้องต้นทางวัดราชบูรณะขอกำลังสายตรวจ จาก สภ.เมืองพิษณุโลก เข้าควบคุมอย่างใกล้ชิด โดยใช้วิธีการห้ามปราม และเก็บรักษาจอบเสียมเพื่อไม่ให้ชาวบ้านนำไปขุด หลังจากตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา มีประชาชนเข้ามาขุดหาพระในยามวิกาล จนต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญออกจากวัด และทันทีที่รุ่งสางประชาชนที่ทราบข่าวได้ทยอยเดินทางมาคุ้ยเขี่ยหาพระพิมพ์นางพญาเข่าโค่งและเข่าตรงไปไว้ครอบครองกันอย่างต่อเนื่อง

    ขณะที่วงการพระเครื่องในจังหวัดพิษณุโลกและข้างเคียงต่างให้ความสนใจกับพระเครื่องรุ่นนี้เป็นอย่างมาก ถึงแม้ไม่ใช่พระเก่ามากแต่มีพุทธคุณของเกจิรุ่นเก่าที่ร่วมกับเจ้าอาวาสปลุกเสกและฝังไว้ ล่าสุดพระเครื่องรุ่นนี้ราคารังพระ อยู่ที่องค์ละ 1,000-1,500 บาท

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192

    พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่านจะนำพระธาตุ พระบรมธาตุ จากชาวเทพหรือชาวลับแลที่เก็บไว้ รวมทั้งวัตถุมงคล ใช้ป้องกันรังสีจากอาวุธสงครามสมัยใหม่ ออกมามอบให้แก่ผู้ที่ศรัทธาไว้เคารพบูชา เพื่อป้องกันภัยจากสงครามใหญ่ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้...

    พระฯ ท่านพยากรณ์ว่า
    (จากนักปฎิบัติธรรมสายมโนมยิทธิท่านหนึ่งโปรดใช้วิจารณญาณ)

    <TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีฯ พาไปศึกษาธรรมในส่วนคำพยากรณ์ฯ กับพระฯ มีดังนี้คือ

    ในอนาคตอันใกล้นี้คนไทยจะปกครองโลกธาตุและจักรวาล เพราะเวลานี้พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่านได้มาถือกำเนิดบนแผ่นดินไทยมานานแล้ว ถ้าหากว่าผู้ใดบำเพ็ญบารมีมาถูกต้องตามแบบแผนและกฎกติกาที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายบัญญัติไว้จริง โอกาสที่จะไปทำบุญและเข้าถึงธรรมจากท่านก็มีอยู่มาก ถึงแม้ผู้ที่มาปฏิบัติจะเข้าถึงธรรมอันบริสุทธิ์ได้มากก็จริงอยู่ แต่ถ้าจะไปรู้เรื่องส่วนตัวที่ละเอียดของพระโพธิสัตว์แต่ละท่านย่อมเป็นไปไม่ได้ เช่น จะไม่รู้ว่าท่านเป็นใครมาเกิด บำเพ็ญบารมีมาแล้วเท่าไร ได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าองค์ใดมา ในพุทธกาลนี้มีชื่อสมมติว่าอะไร และในพุทธกาลหน้ามีชื่อสมมติว่าอะไร

    เหตุปัจจัยที่จะทำให้คนไทยเป็นใหญ่ในโลกธาตุคือ

    ๑) ทรัพยากรบุคคล อันได้แก่ พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่าน ซึ่งมาเกิดเป็นคนไทย ท่านเหล่านี้มีทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ แม้แต่พรหมเทวดาที่อยู่ในทุกๆ ภพภูมิ ก็ยังให้ความเคารพท่านอยู่ตลอดเวลา

    ๒) ทรัพยากรธรรมชาติ อันมีอยู่มากมายในผืนแผ่นดินไทย เช่น น้ำมัน ทองคำ ยูเรเนียม รัตนชาติ รวมทั้งแร่ธาตุต่างๆ อีกจำนวนมาก

    พระฯ ท่านบอกว่าเวลานี้พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่านต่างก็จำศีลภาวนากันอยู่ แต่คนส่วนใหญ่ในโลกธาตุยังไม่คิดถึงท่าน เพราะไปมัวเพลิดเพลินแต่ความสุขอันจอมปลอม เช่น กามสุขและอบายมุขต่างๆ ถ้าหากไม่ใกล้ตายด้วยมหันตภัยร้ายแรงเกือบทั้งโลก ก็ยากที่จะระลึกถึงท่านด้วยความจริงใจ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามกฎแห่งกรรมของสัตว์โลก

    เหตุที่ผู้เขียนเชื่อก็เพราะคำสอนศาสดาเอกในโลกเท่านั้นที่จะหยุดยั้งการเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์โลกให้ไปนิพพานได้ เพราะศาสดาพยากรณ์อื่นสอนไม่ถึงนิพพาน สอนได้เพียงเทวโลกและพรหมโลกเท่านั้น และผู้ก่อตั้งศาสนาอื่นทั้งหมดเวลานี้มาเกิดในเมืองไทยหมดแล้ว ซึ่งผู้เขียนทำบันทึกไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๒๘ แล้ว ถ้าอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่านี้ต้องไปหากับพระและครูสอนกรรมฐานในสายมโนมยิทธิที่พบนิพพานและพระพุทธเจ้าจริง (เพราะถ้าได้พบนิพพานและพระพุทธเจ้าจริงการที่จะรู้เห็นเรื่องคำพยากรณ์ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ของยากเลย)

    นิมิตและสิ่งบอกเหตุอีกหลายอย่างที่จะปรากฏก่อนที่จะได้พบผู้มีบุญออกมาทำงานใหญ่ อาทิ

    ๑) สัตว์จะเริ่มเข้าใจภาษาคนมากขึ้น (เพราะสัตว์จำนวนมากกำลังหมดกรรม หรือเป็นพระโพธิสัตว์มาเกิดเพื่อบำเพ็ญบารมีต่อ) ส่วนคนจะเริ่มไม่เข้าใจภาษาคน (คนส่วนใหญ่มักจะประกอบกรรมชั่ว ไม่คิดปฏิบัติตามคำสอนที่ดีกัน)

    ๒) โรคภัยไข้เจ็บชนิดแปลกๆ จะเกิดขึ้นมาท้าทายวงการแพทย์ ซึ่งหมอสมัยใหม่ก็ยากที่จะเยียวยาหรือรักษาให้หายขาดได้ แต่จะมาแพ้ยาโบราณและอภิญญาของพระโพธิสัตว์

    ๓) สัตว์ชนิดแปลกๆ ที่มนุษย์คิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว และสัตว์โลกใหม่ๆ ที่มนุษย์ยังไม่เคยเห็นจะออกมาปรากฏ

    ๔) ยานพาหนะของมนุษย์ที่อยู่ต่างโลกธาตุจักรวาลจะปรากฏเหนือน่านฟ้าโลกเรามากขึ้นในหลายรูปแบบ

    ๕) ต่อไปชาวธรรมจำนวนมากจะแยกเดียรถีย์อลัชชีออกจากผู้บำเพ็ญได้ถูกต้อง

    ๖) ดวงดาวต่างๆ จะค่อยๆ โคจรเข้ามาใกล้ระบบสุริยะเรามากขึ้น

    ๗) อากาศจะวิปริตแปรปรวน ยิ่งใกล้เวลาที่กำหนดไว้คือเวลาที่มนุษย์จำนวนมากต้องสังเวยชีวิตกับภัยธรรมชาติและภัยสงคราม อากาศจะมืดครึ้มอย่างชอบกล แม้ในวันเดียวกันจะมีอากาศในลักษณะ ๓ ฤดู

    ๘) จะเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงติดๆ กัน ภูเขาไฟระเบิด พายุโหมกระหน่ำ น้ำท่วมฉับพลัน ไฟไหม้ อุบัติเหตุร้ายแรงจะเกิดขึ้นถี่ขึ้นในทวีปต่างๆ และยิ่งใกล้ถึงเวลาอุกกาบาตเล็กและใหญ่จะตกลงมาถี่ขึ้นบนพื้นผิวโลก

    ๙) พรหม เทวดา พญาครุฑ พญานาค ยักษ์ ชาวลับแล ฯลฯ ที่อยู่ในโลกธาตุนี้และโลกธาตุจักรวาลอื่น จะออกมาทำบุญกันหลายรูปแบบในสถานที่บำเพ็ญบุญแห่งใหม่

    ๑๐) หลวงปู่อุปคุตที่จำพรรษาอยู่กลางสะดือทะเลอันเป็นวังใหญ่ของพญานาค ซึ่งเป็นสถานที่เก็บถาดทองคำ (ภาชนะที่พระพุทธเจ้าทรงใช้ฉันข้าวมธุปายาสก่อนตรัสรู้) ของพระพุทธเจ้า ๔ พระองค์ ในกัปนี้ จะออกมาให้ชาวโลกได้พบและทำบุญ

    ๑๑) ญาติพระเทวทัตและพระโพธิสัตว์จอมปลอมจะถูกเปิดเผยความชั่วที่เลวยิ่งกว่ามหาโจรใดๆ ทั้งสิ้นในโลก

    ๑๒) พระสาวกของพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย พระพุทธเจ้าทั้งหลาย และพระพุทธเจ้าองค์ปฐมจะเสด็จมาเป็นประธานในพิธีต่างๆ ณ บริเวณสำคัญแห่งใหม่ของโลกก่อนยุคสุดท้าย

    ๑๓) พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่านจะนำพระธาตุ พระบรมธาตุ จากชาวเทพหรือชาวลับแลที่เก็บไว้ รวมทั้งวัตถุมงคลใช้ป้องกันรังสีจากอาวุธสงครามสมัยใหม่ ออกมามอบให้แก่ผู้ที่ศรัทธาไว้เคารพบูชาเพื่อป้องกันภัยจากสงครามใหญ่ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้

    ๑๔) พวกเปรตอสุรกายที่แฝงกายอยู่ในคราบนักบุญและนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ของโลกจะถือเอาเหตุปัจจัยความแตกต่างทางศาสนาและนิกายมาเป็นเครื่องยุยงให้ชาวโลกแตกออกเป็นสองฝ่าย และก็จะเริ่มค่อยๆ ประหัตประหารไปทีละจุด ๆ ในที่สุด (ความขัดแย้งในเรื่องลัทธิ นิกาย และศาสนาจะบานปลายเป็นสงครามใหญ่ภายหลัง) เพราะกิเลสในใจผู้นำของแต่ละศาสนามีมาก (อย่ามองข้ามเหตุที่เกิดในประเทศไทย เพราะในเมืองไทยก็เป็นชนวนใหญ่เช่นกัน)

    กรรมใดเป็นการฝืนกฎแห่งการบำเพ็ญฯ ถ้าหลวงปู่ปาน และหลวงพ่อฤาษีฯ ไม่ได้สั่งงานให้ข้าพเจ้าทำเรื่องพิเศษบางส่วนต่อจากท่าน รวมทั้งไม่ได้ศึกษาธรรมในส่วนคำพยากรณ์จากพระฯ จริงๆ ขอให้ปรับโทษอนันตริยกรรมสูงสุดแก่ข้าพเจ้าให้ยิ่งกว่าพระเทวทัตและผู้กระทำความผิดทุกๆ พุทธศาสนาในอดีตทั้งหมดด้วยเทอญ

    </TD></TR><TR align=right><TD>
    จากคุณ มโนมยิทธิ เมื่อวันที่ 24/10/2548 13:25:27
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    คัดลอกมาจากhttp://www.konmeungbua.com/webboard/...n.asp?GID=8547
     
  13. Windsong

    Windsong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +293
    อนุโมทนา สาธุ..
    กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เกษม เป็นอย่างสูงครับ..ที่เมตตาชี้แนะแนวทางปฏิบัติให้ผมได้เข้าใจ..เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับอนาคตไม่ว่าอะไร
    จะเกิดหรือไม่ก็ตามที..ขอบพระคุณครับ..
     
  14. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 7053 ข่าวสดรายวัน


    ฤทธิ์ไซโคลน



    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>พายุไซโคลนก่อให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดถล่มโถมเข้าชายฝั่งแอร์ลี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย จนเรือยอชต์ถูกกระแทกโขดหินชายฝั่งพังยับ ส่วนบ้านเรือน 60,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้ เมื่อ 21 มี.ค. (เอพี)







    พายุถล่มกาญจน์-พังนับร้อยหลัง



    เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 21 มี.ค.นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รอง ผวจ.กาญจนบุรี เปิดเผยความเสียหายจากพายุโซนร้อนที่พัดผ่านพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ว่า ในช่วงเช้ามืดพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ เกิดฝนตกและลมพัดแรงเป็นพายุโซนร้อนพัดผ่านพื้นที่ ต.ลิ่นถิ่น ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 3 หมู่บ้าน โดยพื้นที่หมู่ 1 บ้านเรือนเสียหาย 53 หลังคาเรือน ในพื้นที่นี้เป็นโรงงานมันสำปะหลัง เสียหายประมาณ 10 ล้านบาท ในพื้นที่หมู่ 2 บ้านเรือนเสียหาย 24 หลังคาเรือน และพื้นที่หมู่ 6 บ้านหนองเจริญ บ้านเรือนเสียหาย 35 หลังคาเรือน รวมค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ทั้งนี้ ตนจึงสั่งการ ปภ.กาญจนบุรีร่วมกับอำเภอทองผาภูมิ และ อบต.ลิ่นถิ่น ลงพื้นที่สำรวจและเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตามได้รายงานให้นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผวจ.กาญจนบุรี ทราบเพื่อพิจารณางบช่วยเหลือแล้ว

    ลพบุรีเตือนเขื่อนป่าสักวิกฤตแล้ว



    เมื่อวันที่ 21 มี.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผวจ.ลพบุรี เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการนำคณะเจ้าหน้าที่ชลประทานที่ 10 จังหวัดลพบุรี ตรวจสภาพน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ พบว่าระดับน้ำที่กักเก็บอยู่ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำจำนวน 430 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่ามีปริมาณน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา และในขณะนี้ทางเขื่อนป่าสักจึงต้องมีการระบายน้ำออกจากเขื่อนช่วยเหลือทางการเกษตรอยู่ที่ 50.74 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือ 4.38 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าในปีนี้ระดับน้ำของเขื่อนป่าสักอยู่ในขั้นวิกฤต และจะสามารถนำมาเก็บไว้ใช้ในการอุปโภคและ บริโภคได้จนถึงเดือนเม.ย. เท่านั้น และระดับน้ำดังกล่าวไม่สามารถนำมาใช้ในการเกษตรได้อีกแล้ว จึงขอประกาศเตือนเกษตรกรใน3อำเภอประกอบด้วย บ้านหมี่ ท่าวุ้ง เมืองลพบุรี ว่าให้หยุดทำนาในรอบ 2 เพราะน้ำที่มีอยู่ในพื้นที่ลพบุรีไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม หากจุดใดขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ ขอให้แจ้งมาทางจังหวัดเพื่อจะได้นำรถน้ำส่งเข้าไปแจกจ่ายให้

    ผอ.รพ.กลางแจงเหยื่อหวัด09ติดเชื้อจากเพชรบุรี

    แต่คลุกคลีม็อบ หวั่นแพร่เชื้อผู้ชุมนุม

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>

    เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่หอผู้ป่วยพิเศษ รพ.กลาง พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม.พร้อมคณะ ได้เดินทางเยี่ยมเหยื่อไข้หวัดใหญ่ 2009 รายล่าสุด โดยเป็นชายวัย 40 ปี จาก จ.เพชรบุรี โดย พญ.มาลินี กล่าวภายหลังว่า ทราบว่าผู้ป่วยเป็นอาสาสมัครของกระทรวงมหาดไทย (มท.) ซึ่งเดินทางมาจาก จ.เพชรบุรี เพื่อเป็นกำลังเสริมในการทำหน้าที่ควบคุมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงบริเวณหน้ากระทรวงมหาดไทยสลับกับกระทรวงกลาโหม โดยเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.และมีอาการไข้วันที่ 18 มี.ค. ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว ส่วนการเข้าไปให้บริการตรวจสุขภาพกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ตนได้มอบหมายให้ นายพีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัด กทม. และ ผอ.สำนักอนามัยประสานแกนนำ นปช.ว่าจะนำรถโมบายเอกซเรย์เคลื่อนที่ไปจอดให้บริการได้เมื่อใด

    ด้าน นพ.พิชญา นาควัชระ ผู้อำนวยการ รพ.กลาง กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าผู้ป่วยรายล่าสุดนี้ไม่น่าจะติดเชื้อไข้หวัด 2009 จากพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เนื่องจากมีอาการป่วยตั้งแต่อยู่ จ.เพชรบุรี แต่ช่วงที่ผู้ป่วยมาคลุกคลีกับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง เชื้ออาจมีการแพร่ระบาดได้ อย่างไรก็ตาม หากจะต้องสอบสวนหรือตามหาคนอื่นๆ ที่อาจได้รับเชื้อคงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะผู้ชุมนุมกระจัดกระจายไปทั่ว ซึ่ง กทม.ทำได้เพียงเฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคเท่านั้น ซึ่งอยากขอให้แกนนำ นปช. เร่งจัดหาพื้นที่ เพื่อให้นำรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ของ กทม.เข้าไป ทั้งนี้ อยากเตือนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมเนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด และมีการรวมกลุ่มกันอยู่มากๆ อาจจะทำให้อาการอ่อนแอ เสี่ยงต่อหวัด 2009 ดังนั้นควรรักษาสุขอนามัยด้วย


    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ส่วนกรณีที่ผู้สื่อข่าวที่ติดตามการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงติดเชื้อไวรัสชนิดนี้เช่นกันนั้น ผลการตรวจสอบเบื้องต้นจากโรงพยาบาลวิภาวดีให้ผลเป็นบวก แพทย์ได้ให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ อาการดีขึ้น
    นายจุรินทร์ กล่าวถึงสถานการณ์การดูแลทางการแพทย์จากการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.-21 มี.ค.ว่า มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 113 ราย โดยบาดเจ็บ 21 ราย รวมทั้งสิ้น 134 ราย ยังคงมีผู้ป่วยพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 11 ราย แบ่งเป็น ร.พ.วชิระ 1 ราย ร.พ.หัวเฉียว 1 ราย ร.พ.ราชวิถี 1 ราย ร.พ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล 1 ราย ร.พ.พระมงกุฎ 2 ราย และร.พ.กลาง 5 ราย


    ที่ศาลาว่าการ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า เบื้องต้นได้เตรียมรถพยาบาลเคลื่อนที่จำนวน 61 คันไว้ตรวจสุขภาพให้กับผู้ที่สมัครใจ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานเข้าพื้นที่

    http://www.thairath.co.th/content/pol/71397
    สัญชาติมอนเตเนโกร ทักษิณเฮ! ได้สิทธิเชงเก้นวีซ่า

    กต.ยอมรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้สัญชาติมอนเตเนโกร ทำให้ได้สิทธิเชงเก้นวีซ่า เปิดช่องเดินทางเข้ายุโรปได้หลายประเทศ ทำให้การติดตามตัวมารับโทษคดีทุจริตที่ดินรัชดา เป็นไปได้ยากขึ้น ...

    นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ไทยรัฐออนไลน์ ยอมรับ การที่รัฐบาลมอนเตเนโกร ได้ให้สัญชาติกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะทำให้การติดตามตัวอดีตนายกรัฐมนตรี มารับโทษในคดีทุจริตที่ดินรัชดา เป็นไปได้ยากขึ้น เนื่องจากการได้สัญชาติมอนเตเนโกร ของ อดีตนายกรัฐมนตรี ในครั้งนี้จะทำให้ได้สิทธิ เชงเก้น วีซ่า ซึ่งสามารถเดินทางเข้าออกประเทสในกลุ่มอียูหรือสหภาพยุโรปได้ ตามสนธิสัญญาอัมสเตอร์ดัม (Treaty of Amsterdam) ซึ่งมีประเทศที่ลงนามในความตกลงฉบับนี้ 30 ประเทศรวมทั้งประเทศนอกสหภาพยุโรปอีก 3 ประเทศ คือ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ โดยทางมอนเตเนโกร เพิ่งจะมีระเบียบที่จะให้พลเมืองและผู้ถือพาสปอร์ตมอนเตเนโกร สามารถใช้สิทธิเชงเก้น เอเรีย ได้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
    อย่างไรก็ดี ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าบุคคลนั้น ได้ถูกรัฐบาลของประเทศนั้น ๆ ขึ้นบัญชีเป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าประเทศเอาไว้หรือไม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าบัญชีบุคคลต้องห้ามแต่ละประเทศนั้น อาจจะไม่เหมือนกัน แม้ว่าทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้ส่งคำร้องขอให้จับกุมตัวชั่วคราว ไปถึงรัฐบาลของหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอียู แล้วก็ตาม

    สำหรับการได้สัญชาติมอนเตเนโกร จะทำให้มีผลในทางคดีทุจริตที่ดินรัชดา หรือไม่นั้น นายพนิช กล่าวว่า ไม่มีผลแต่อย่างใด เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงถือสัญชาติไทย การดำเนินการตามกฎหมายต่าง ๆ คงมีผลอยู่ เว้นเสียแต่ จะถูกถอนสัญชาติไทยเท่านั้น

    ส่วนจะมีการสอบถามถึงเหตุผลไปทางรัฐบาลมอนเตเนโกร ในการให้สัญชาติกับ พ.ต.ท.ทักษิณ​ หรือไม่นั้น นายพนิช กล่าวว่า คงจะไม่มีการดำเนินการดังกล่าว เพราะถือเป็นสิทธิของรัฐบาลมอนเตเนโกร ในการที่จะให้สัญชาติกับบุคคลใดก็ได้ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ หลังได้สัญชาติมอนเตเนโกร ได้มีการใช้ชื่อมอนเตเนโกร ในพาสปอร์ตมอนเตเนโกร ในการเดินทางหรือไม่นั้น ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานแต่เข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะไม่เปลี่ยนชื่อ เพราะต้องการสร้างเครดิตว่า ตนเองสามารถเดินทางไปที่ใดก็ได้ในโลก

    หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้สัญชาติมอนเตเนโกร ในการเดินทางกลับเข้าประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ หรือ ยูเออี จะมีผลต่อสถานะส่วนตัว ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทางการไทยร้องขอไม่ให้ใช้ประเทศยูเออี เป็นฐานในการขับเคลื่อนทางการเมืองหรือไม่นั้น นายพนิช กล่าวว่า สัญชาติมอนเตเนโกร ไม่ได้มีผลใด ๆ ต่อสถานะของ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกทั้ง ทางยูเออี เอง ก็รู้จักกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้น ไม่ว่า อดีตนายกรัฐมนตรีจะใช้สัญชาติอะไร ก็คงไม่มีผลต่อคำร้องขอของทางฝ่ายไทยแน่นอน

    นายกฯย้ำ น้ำเพียงพอต่อการทำนาปรังครั้งเดียว
    จากการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด รวมทั้งปัญหาแม่น้ำโขง ซึ่งแห้งขอดในหลายช่วง จะนำไปสู่การประชุมของประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงต้นเดือนเมษายนนี้...

    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่อยากจะย้ำคือ น้ำจะมีเพียงพอสำหรับการอุปโภค บริโภค และการเกษตร โดยเฉพาะการทำนาปี บวกกับการทำนาปรัง 1 ครั้ง แต่สิ่งที่ตนเองเป็นห่วงก็คือ ปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการทำนาปรังรอบ 2
    ที่สำคัญรัฐบาลได้บอกไปแล้วว่า การเพาะปลูกดังกล่าว จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการประกันรายได้ เนื่องจากรัฐบาลจะให้สิทธิกับเกษตรกร รายละ 2 ครั้งต่อปีเท่านั้น จากการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด รวมทั้งปัญหาแม่น้ำโขง ซึ่งแห้งขอดในหลายช่วง ซึ่งจะนำไปสู่การประชุมของประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงต้นเดือนเมษายนนี้ พร้อมทั้งจะสั่งการจะให้หน่วยงานต่างๆ ลงไปช่วยเหลือประชาชนต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2010
  15. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775


    กราบโมทนา สาธุกับพี่เกษมที่โพสต์เพื่อให้พวกเราได้รักษ์ชาติ รักษ์แผ่นดิน รักษ์พระพุทธศาสนา รักษ์พระมหากษัตริย์ที่ท่านทรงดีแสนดีหาที่ไหนเสมอเหมือนมิได้ ทรงเหน็ดเหนื่อยทรงยอมลำบากพระวรกายเพื่อความสุข ความร่มเย็นของคนในชาติมาโดยตลอด
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สงครามดีกับชั่ว ****

    สงครามกำลังจะเกิด ดีกับชั่วจะรบกัน
    ผู้ชนะ ผู้รอดพ้นภัย อยู่เหนือโลก
    คือ ต้องอยู่เหนือโลก เหนือทั้งดีเหนือทั้งชั่ว
    เราถือสัจจะ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ตำหนิผู้อื่นทุกวัน...เป็นเหตุให้ตกนรก

    [​IMG]
    ภาพพระอรหันต์จี้กง พาลูกศิษย์ไปดูนรกตัดลิ้น

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->J.Sayamol<!-- google_ad_section_end --> [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1628191", true); </SCRIPT>
    ผู้สนับสนุนบริจาค
    [​IMG]

    ไม่ว่าจะถูกหรือผิด จิตมีปฏิฆะมากย่อมไปอบาย เป็นคำสอนของพระรูปหนึ่ง จากคำบอกเล่าของโยมท่านหนึ่ง เห็นว่าน่าสนใจเลยนำมาฝากไว้ให้ท่านทั้งหลายได้ขบคิดกัน...

    "นักปฏิบัติธรรมทั้งหลาย อย่าได้ประมาทไปทำความชั่วเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยไปตำหนิกรรมผู้อื่น ภายใต้สถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้

    โดยสรุปคือ...ถ้าเราไม่ระวังความคิด ระวังกายกรรม ไปตำหนิกรรมผู้อื่นไปเรื่อย ๆ โดยประมาทว่า เราเองก็ทำความดี ทำกรรมฐานประจำอยู่แล้ว ไม่น่าจะเป็นไรมั๊ง แต่ถ้าประมาท สร้างกรรมคิดตำหนิ กล่าววาจาตำหนิกรรมผู้อื่น ก็จะเป็นอาจิณกรรม มีอำนาจในจิตมีกำลังแรงกว่ากำลังกรรมฐาน เวลาตายอำนาจอาจิณกรรมด้านชั่วนี้ก็พาจิตตกอเวจีมหานรกได้

    ผู้ปฏิบัติธรรมที่ไม่ประมาทตามคำสอนพุทธองค์จึงควร ตั้งใจไว้เสมอทุกวัน ทุกเช้า ว่าเราจะใช้สติระวังความคิดตลอดทั้งวัน ไม่ให้ไปคิดชั่ว พูดชั่ว ตำหนิกรรมผู้อื่น ถ้าเค้าทำไม่ถูก ก็อย่าไปตำหนิด้วยความเกลียดชัง แต่ให้ใช้หลักคิดเมตตาสงสาร ว่าถ้าเค้ายังเป็นแบบนั้นอยู่ ก็น่าสงสารยิ่ง เพราะเป็นการสร้างอกุศลกรรมเป็นอาจิณนำเค้าไปสู่อเวจีมหานรกได้ เราพึงหวังดีว่า วันนึงเค้าคงคิดได้ เค้าจะได้รอดพ้นภัยในวัฏสงสาร ไปสู่พระนิพพานได้ในที่สุด

    ถ้าของหยาบแค่นี้ เราทำไม่ได้ การปฏิบัติกรรมฐานก็จะไม่มีผล เพราะอารมณ์ใจเราไม่มีความประณีต ละเอียดพอที่จะเข้าถึงภูมิธรรมสูง ๆ ขึ้นจากการทำสมถะวิปัสสนาได้"

    ***************************************************

    เมื่อได้อ่านแล้วเห็นว่า....ผลแห่งการอนุโมทนาบาป หรือการมีปฏิฆะ ความขัดเคือง ไม่พอใจ อยู่ในกระแสจิตเสมอ ๆ สามารถทำให้ตกนรกได้ ทั้งยังเป็นการผูกเวร จอเวรแก่กันและกันอีก เมื่อยังไม่หมดเชื้อ ยังต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก หากต้องโคจรมาพบกัน จะทำให้มีแต่ความไม่พอใจ และจองล้างจองผลาญกันไม่จบสิ้น

    เมื่อพิจารณาแล้ว ท่านทั้งหลายที่สนใจการเมืองอยู่ในขณะนี้ โปรดอย่าลืมหลักปฏิบัติในการปฏิบัติจิต หลักของพระโยคาวจร ที่ผู้ปรารถนาการพ้นทุกข์ว่าควรรักษาใจอย่างไร หากอยากจะทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน แสดงออกอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ไม่ใช่ว่าความร้อนเท่านั้นที่จะสามารถแก้ปัญหาได้ โปรดระลึกเสมอว่าการแก้ปัญหาด้วยความร้อนย่อมมีแต่การพินาศย่อยยับ แต่หากแก้ปัญหาด้วยปัญญา ด้วยธรรมนำหน้าอย่างแท้จริง ย่อมได้รับชัยชนะทั้งด้านรูปธรรม และนามธรรม

    การแสดงออกทางการเมืองตามหน้าที่ของประชาชนคนไทย เป็นสิทธิที่จะสามารถทำได้ เป็นสิ่งถูกต้อง การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมาก่อนประโยชน์ส่วนตนก็เป็นแนวทางของพระโพธิสัตว์ ช่วยคนอื่นก่อนช่วยเหลือตนเอง หากจะเดินอยู่ในทางสายนี้ ก็อย่าลืมเดินบนแนวทาง แห่งบารมี คือ

    1.) ทานะ หรือการเสียสละ
    2.) บนพื้นฐานของศีล ไม่สร้างความเดือดร้อนกายใจของใคร
    3.) เนกขัมมะ ออกจากเรือนทั้งเรือนครัว เรือนกาย ด้วยสมาธิจิต
    4.) ปัญญานำหน้าอารมณ์เสมอ
    5.) เพียร พยายาม วิริยะไม่ท้อถอย เลิกลาเสียก่อนสำเร็จ
    6.) อดทนรอผลแห่งชัยชนะได้
    7.) มีสัจจะในการแก้ปัญหา
    8.) อธิษฐาน จิตตั้งมั่น ยกจิตขึ้นเหนือเครื่องฉุดยึดทั้งปวง
    9.) บนหลักเมตตา ไม่คิดทำร้าย ทำลายใคร แม้แต่ตนเอง
    10.) อุเบกขา วางเฉยได้

    จำไว้เสมอว่าอกุศลกรรม 10 กายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3 นำท่านสู่อบายเสมอ เมื่อสร้างกรรมนี้เป็นอาจิณ จนกำลังมันมากกว่าฝ่ายกุศลกรรม ต้องสำรวจจิตของท่านให้ดีนะครับอย่าให้ชินกับจิตปฏิฆะ จนจิตท่านใกล้เคียงกับเดรัจฉาน อสุรกาย สัตว์นรกเข้าไปทุกที ๆ

    http://larndham.net/index.php?showtopic=33603<!-- google_ad_section_end -->
    __________________________________________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ ไปให้ทุกรูปทุกนามทั้ง ๒๐ ชั้นพรหมโลก ๖ ชั้นเทวะโลก มนุษย์โลก มารโลก ยมโลก อบายภูมิทั้ง ๔ มี นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน และในหมื่นโลกธาตุกับอีกแสนจักรวาลพิภพ ทั้งที่เป็นมนุษย์อมนุษย์ รูปวิญญาณ อรูปวิญญาณ และสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งที่เป็นมิตร และศัตรู ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า ขอให้ทุกรูปทุกนามจงเป็นสุขเป็นสุขเถิดอย่าได้มีเวรซึ่งกัน และกันเลย อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกัน และกันเลย ขอให้ทุกรูปทุกนามจงโมทนาในส่วนกุศลนี้พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ.กาลบัดนี้ด้วยเทอญ<!-- google_ad_section_end -->

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ตำหนิผู้อื่นทุกวัน-เป็นเหตุให้ตกนรก.156623/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 20.jpg
      20.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.9 KB
      เปิดดู:
      1,152
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2010
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ไทเกอร์ วูดส์" เผยชีวิตล้มเหลว เพราเลิกนั่งสมาธิและเลิกทำตัววิถีพุทธ

    [​IMG]

    ไทเกอร์ วูดส์ เปิดใจกับเว็บไซต์อีเอสพีเอ็น เผย ชีวิตล้มเหลว เพราเลิกนั่งสมาธิ เลิกทำตัววิถีพุทธ และไม่เชื่อคำสั่งสอนของพ่อแม่ จนชีวิตพลิกผันทำร้ายคนอื่นด้วยพฤติกรรมของตัวเอง...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ว่า "พญาเสือ" ไทเกอร์ วูดส์ โปรกอล์ฟมือ 1 ของโลกเปิดใจให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกกับเว็บไซต์สถานีโทรทัศน์กีฬาอีเอสพีเอ็น ใกล้บ้านพักในเมืองวินเดอร์เมียร รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ตามเวลาท้องถิ่น นับแต่เกิดเหตุฉาวเมื่อเดือน พ.ย. 2552 โดยเผยถึงสาเหตุที่ชีวิตล้มเหลว เป็นเพราะตัวเขาเลิกนั่งสมาธิ เลิกทำตัววิถีชาวพุทธ เลิกทุกอย่างที่พ่อกับแม่เคยสั่งสอน และอยู่กับการโกหก นับแต่นั้นมาชีวิตก็พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ สุดท้ายก็ทำร้ายคนอื่นเพราะพฤติกรรมของตัวเอง

    ขณะเดียวกัน ไทเกอร์ กล่าวด้วยว่า จะห้อยพระเครื่ององค์เล็กในคอ ในวันแข่งขันกอล์ฟ ยูเอส มาสเตอร์ในวันที่ 8 เม.ย.ด้วย เพราะช่วยคุ้มครองและจิตใจหนักแน่นหลังกลับมาห้อยพระก่อนเข้าศูนย์บำบัด และตั้งใจจะห้อยพระเครื่องตลอดไป

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th/content/oversea/72185
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2010
  19. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    <TABLE border=0><TBODY><TR align=top><TD vAlign=top>[​IMG]</TD><TD vAlign=top><TABLE style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-COLLAPSE: collapse; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-padding-alt: 0pt 5.4pt 0pt 5.4pt" border=1 cellSpacing=0 borderColor=black cellPadding=0 width=450><TBODY><TR align=top bgColor=#9cbc8c><TD colSpan=4 align=middle>[​IMG] ระดับน้ำรายชั่วโมงจากสถานีโทรมาตรขนาดเล็ก(ปรับปรุงอัตโนมัติทุก 10 นาที)</TD></TR><TR align=top bgColor=#9cbc8c><TD width=150 align=middle>สถานี</TD><TD width=100 align=middle>วันที่</TD><TD width=100 align=middle>เวลา</TD><TD width=100 align=middle>ระดับน้ำ(ม.รทก.)</TD></TR><TR><TD align=middle>ป้อมพระจุลฯ
    (อยู่ในระหว่างการซ่อมแซมอุปกรณ์ตรวจวัด)</TD><TD align=middle>27 ส.ค. 52</TD><TD align=middle>18:30 น.</TD><TD align=middle>-2.74</TD></TR><TR><TD align=middle>ปากแม่น้ำท่าจีน</TD><TD align=middle>27 ส.ค. 52</TD><TD align=middle>00:10 น.</TD><TD align=middle>-1.90</TD></TR><TR><TD align=middle>บางตะบูน</TD><TD align=middle>23 มี.ค. 53</TD><TD align=middle>00:00 น.</TD><TD align=middle>1.14</TD></TR><TR><TD align=middle>หัวหิน</TD><TD align=middle>22 มี.ค. 53</TD><TD align=middle>23:00 น.</TD><TD align=middle>2.72</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-COLLAPSE: collapse; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-padding-alt: 0pt 5.4pt 0pt 5.4pt" border=1 cellSpacing=0 borderColor=black cellPadding=0 width=450><TBODY><TR align=top bgColor=#9cbc8c><TD colSpan=4 align=middle>[​IMG] ระดับน้ำรายชั่วโมงจากกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี(ปรับปรุงทุก 3 เดือน)</TD></TR><TR align=top bgColor=#9cbc8c><TD width=150 align=middle>สถานี</TD><TD width=100 align=middle>วันที่(ปี-เดือน-วัน)</TD><TD width=100 align=middle>เวลา</TD><TD width=100 align=middle>ระดับน้ำ(ม.รทก.)</TD></TR><TR><TD align=middle>อ่าวอุดม</TD><TD align=middle>31 ธ.ค. 52</TD><TD align=middle>23:00 น.</TD><TD align=middle>-1.67</TD></TR><TR><TD align=middle>ระยอง</TD><TD align=middle>31 ธ.ค. 52</TD><TD align=middle>23:00 น.</TD><TD align=middle>-0.90</TD></TR><TR><TD align=middle>ประแสร์</TD><TD align=middle>31 ธ.ค. 52</TD><TD align=middle>23:00 น.</TD><TD align=middle>-0.88</TD></TR><TR><TD align=middle>ท่าแฉลบ</TD><TD align=middle>31 ธ.ค. 52</TD><TD align=middle>23:00 น.</TD><TD align=middle>-0.99</TD></TR><TR><TD align=middle>แหลมงอบ</TD><TD align=middle>31 ธ.ค. 52</TD><TD align=middle>23:00 น.</TD><TD align=middle>-0.71</TD></TR><TR><TD align=middle>สมุทรสาคร</TD><TD align=middle>31 ธ.ค. 52</TD><TD align=middle>23:00 น.</TD><TD align=middle>-1.14</TD></TR><TR><TD align=middle>บ้านแหลม</TD><TD align=middle>31 ธ.ค. 52</TD><TD align=middle>23:00 น.</TD><TD align=middle>-1.55</TD></TR><TR><TD align=middle>คลองวาฬ</TD><TD align=middle>31 ธ.ค. 52</TD><TD align=middle>23:00 น.</TD><TD align=middle>-0.86</TD></TR><TR><TD align=middle>หลังสวน</TD><TD align=middle>31 ธ.ค. 52</TD><TD align=middle>23:00 น.</TD><TD align=middle>-0.85</TD></TR><TR><TD align=middle>ปากพนัง</TD><TD align=middle>31 ธ.ค. 52</TD><TD align=middle>23:00 น.</TD><TD align=middle>-0.29</TD></TR><TR><TD align=middle>ปัตตานี</TD><TD align=middle>31 ธ.ค. 52</TD><TD align=middle>23:00 น.</TD><TD align=middle>0.35</TD></TR><TR><TD align=middle>นราธิวาส</TD><TD align=middle>31 ธ.ค. 52</TD><TD align=middle>23:00 น.</TD><TD align=middle>0.48</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-COLLAPSE: collapse; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-padding-alt: 0pt 5.4pt 0pt 5.4pt" border=1 cellSpacing=0 borderColor=black cellPadding=0 width=650><TBODY><TR align=top bgColor=#9cbc8c><TD colSpan=9 align=middle>[​IMG] ระดับน้ำทำนายรายชั่วโมงจากกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ(ทำนายล่วงหน้า 1 ปี)</TD></TR><TR align=top bgColor=#9cbc8c><TD rowSpan=2 width=150 align=middle>สถานี</TD><TD rowSpan=2 width=100 align=middle>ต่ำสุด(เวลา)</TD><TD rowSpan=2 width=100 align=middle>สูงสุด(เวลา)</TD><TD width=300 colSpan=6 align=middle>ทำนายล่วงหน้าทุก 4 ชั่วโมง</TD></TR><TR align=top bgColor=#9cbc8c><TD width=50 align=middle>00:00</TD><TD width=50 align=middle>04:00</TD><TD width=50 align=middle>08:00</TD><TD width=50 align=middle>12:00</TD><TD width=50 align=middle>16:00</TD><TD width=50 align=middle>20:00</TD></TR><TR><TD align=middle>สันดอนเจ้าพระยา</TD><TD align=middle>-1.40 (15:00 น.) </TD><TD align=middle>0.96 (08:00 น.)</TD><TD align=middle>0.82</TD><TD align=middle>0.52</TD><TD align=middle>0.96</TD><TD align=middle>-0.45</TD><TD align=middle>-1.38</TD><TD align=middle>0.13</TD></TR><TR><TD align=middle>ป้อมพระจุลจอมเกล้า</TD><TD align=middle>-1.33 (16:00 น.) </TD><TD align=middle>0.94 (07:00 น.)</TD><TD align=middle>0.79</TD><TD align=middle>0.53</TD><TD align=middle>0.90</TD><TD align=middle>-0.48</TD><TD align=middle>-1.33</TD><TD align=middle>0.03</TD></TR><TR><TD align=middle>ท่าเรือกรุงเทพ</TD><TD align=middle>-0.96 (17:00 น.) </TD><TD align=middle>1.08 (08:00 น.)</TD><TD align=middle>0.93</TD><TD align=middle>0.60</TD><TD align=middle>1.08</TD><TD align=middle>0.13</TD><TD align=middle>-0.95</TD><TD align=middle>-0.16</TD></TR><TR><TD align=middle>กองบัญชาการกองทัพเรือ</TD><TD align=middle>-0.59 (18:00 น.) </TD><TD align=middle>1.05 (09:00 น.)</TD><TD align=middle>0.85</TD><TD align=middle>0.56</TD><TD align=middle>1.03</TD><TD align=middle>0.50</TD><TD align=middle>-0.44</TD><TD align=middle>-0.26</TD></TR><TR><TD align=middle>บางปะกง</TD><TD align=middle>-1.16 (16:00 น.) </TD><TD align=middle>1.01 (08:00 น.)</TD><TD align=middle>0.94</TD><TD align=middle>0.54</TD><TD align=middle>1.01</TD><TD align=middle>-0.22</TD><TD align=middle>-1.16</TD><TD align=middle>-0.06</TD></TR><TR><TD align=middle>เกาะสีชัง</TD><TD align=middle>-1.41 (15:00 น.) </TD><TD align=middle>0.82 (07:00 น.)</TD><TD align=middle>0.63</TD><TD align=middle>0.48</TD><TD align=middle>0.78</TD><TD align=middle>-0.62</TD><TD align=middle>-1.35</TD><TD align=middle>0.05</TD></TR><TR><TD align=middle>อ่าวสัตหีบ</TD><TD align=middle>-1.23 (15:00 น.) </TD><TD align=middle>0.51 (05:00 น.)</TD><TD align=middle>0.49</TD><TD align=middle>0.50</TD><TD align=middle>0.33</TD><TD align=middle>-0.73</TD><TD align=middle>-1.18</TD><TD align=middle>-0.26</TD></TR><TR><TD align=middle>ปากน้ำระยอง</TD><TD align=middle>-0.50 (15:00 น.) </TD><TD align=middle>0.81 (04:00 น.)</TD><TD align=middle>0.68</TD><TD align=middle>0.81</TD><TD align=middle>0.49</TD><TD align=middle>-0.26</TD><TD align=middle>-0.48</TD><TD align=middle>0.05</TD></TR><TR><TD align=middle>แหลมสิงห์</TD><TD align=middle>-0.65 (14:00 น.) </TD><TD align=middle>0.77 (04:00 น.)</TD><TD align=middle>0.55</TD><TD align=middle>0.77</TD><TD align=middle>0.31</TD><TD align=middle>-0.47</TD><TD align=middle>-0.58</TD><TD align=middle>-0.04</TD></TR><TR><TD align=middle>แหลมงอบ</TD><TD align=middle>-0.75 (14:00 น.) </TD><TD align=middle>0.61 (03:00 น.)</TD><TD align=middle>0.37</TD><TD align=middle>0.59</TD><TD align=middle>0.03</TD><TD align=middle>-0.66</TD><TD align=middle>-0.65</TD><TD align=middle>-0.18</TD></TR><TR><TD align=middle>ท่าจีน</TD><TD align=middle>-1.12 (16:00 น.) </TD><TD align=middle>1.19 (07:00 น.)</TD><TD align=middle>0.97</TD><TD align=middle>0.60</TD><TD align=middle>1.19</TD><TD align=middle>-0.22</TD><TD align=middle>-1.12</TD><TD align=middle>0.12</TD></TR><TR><TD align=middle>แม่กลอง</TD><TD align=middle>-1.07 (16:00 น.) </TD><TD align=middle>1.09 (08:00 น.)</TD><TD align=middle>0.98</TD><TD align=middle>0.58</TD><TD align=middle>1.09</TD><TD align=middle>-0.10</TD><TD align=middle>-1.07</TD><TD align=middle>-0.06</TD></TR><TR><TD align=middle>หัวหิน</TD><TD align=middle>-1.36 (15:00 น.) </TD><TD align=middle>0.55 (07:00 น.)</TD><TD align=middle>0.49</TD><TD align=middle>0.38</TD><TD align=middle>0.50</TD><TD align=middle>-0.65</TD><TD align=middle>-1.34</TD><TD align=middle>-0.22</TD></TR><TR><TD align=middle>เกาะหลัก</TD><TD align=middle>-0.72 (15:00 น.) </TD><TD align=middle>0.75 (02:00 น.)</TD><TD align=middle>0.61</TD><TD align=middle>0.73</TD><TD align=middle>0.36</TD><TD align=middle>-0.35</TD><TD align=middle>-0.72</TD><TD align=middle>-0.20</TD></TR><TR><TD align=middle>เกาะมัตโพน</TD><TD align=middle>-0.60 (17:00 น.) </TD><TD align=middle>0.84 (03:00 น.)</TD><TD align=middle>0.49</TD><TD align=middle>0.78</TD><TD align=middle>0.11</TD><TD align=middle>-0.33</TD><TD align=middle>-0.58</TD><TD align=middle>-0.41</TD></TR><TR><TD align=middle>เกาะปราบ</TD><TD align=middle>-0.77 (19:00 น.) </TD><TD align=middle>0.87 (04:00 น.)</TD><TD align=middle>0.20</TD><TD align=middle>0.87</TD><TD align=middle>0.01</TD><TD align=middle>-0.44</TD><TD align=middle>-0.59</TD><TD align=middle>-0.73</TD></TR><TR><TD align=middle>เกาะสมุย</TD><TD align=middle>-0.21 (18:00 น.) </TD><TD align=middle>1.00 (03:00 น.)</TD><TD align=middle>0.57</TD><TD align=middle>0.99</TD><TD align=middle>0.39</TD><TD align=middle>0.03</TD><TD align=middle>-0.11</TD><TD align=middle>-0.18</TD></TR><TR><TD align=middle>ปากพนัง</TD><TD align=middle>-0.76 (23:00 น.) </TD><TD align=middle>-0.02 (06:00 น.)</TD><TD align=middle>-0.59</TD><TD align=middle>-0.14</TD><TD align=middle>-0.12</TD><TD align=middle>-0.35</TD><TD align=middle>-0.46</TD><TD align=middle>-0.64</TD></TR><TR><TD align=middle>สงขลา</TD><TD align=middle>-0.55 (21:00 น.) </TD><TD align=middle>-0.27 (15:00 น.)</TD><TD align=middle>-0.35</TD><TD align=middle>-0.32</TD><TD align=middle>-0.37</TD><TD align=middle>-0.33</TD><TD align=middle>-0.28</TD><TD align=middle>-0.52</TD></TR><TR><TD align=middle>ปากน้ำปัตตานี</TD><TD align=middle>-0.72 (21:00 น.) </TD><TD align=middle>-0.31 (14:00 น.)</TD><TD align=middle>-0.49</TD><TD align=middle>-0.51</TD><TD align=middle>-0.56</TD><TD align=middle>-0.39</TD><TD align=middle>-0.35</TD><TD align=middle>-0.68</TD></TR><TR><TD align=middle>ปากน้ำบางนรา</TD><TD align=middle>-0.21 (05:00 น.) </TD><TD align=middle>0.47 (13:00 น.)</TD><TD align=middle>-0.01</TD><TD align=middle>-0.19</TD><TD align=middle>0.00</TD><TD align=middle>0.41</TD><TD align=middle>0.31</TD><TD align=middle>0.07</TD></TR><TR><TD align=middle>ปากน้ำระนอง</TD><TD align=middle>-1.50 (08:00 น.) </TD><TD align=middle>0.00 (15:00 น.)</TD><TD align=middle>-0.53</TD><TD align=middle>-0.38</TD><TD align=middle>-1.50</TD><TD align=middle>-0.56</TD><TD align=middle>-0.03</TD><TD align=middle>-1.24</TD></TR><TR><TD align=middle>คุระบุรี</TD><TD align=middle>-1.02 (08:00 น.) </TD><TD align=middle>0.42 (15:00 น.)</TD><TD align=middle>-0.18</TD><TD align=middle>-0.04</TD><TD align=middle>-1.02</TD><TD align=middle>-0.16</TD><TD align=middle>0.36</TD><TD align=middle>-0.75</TD></TR><TR><TD align=middle>อ่าวทับละมุ</TD><TD align=middle>-1.16 (08:00 น.) </TD><TD align=middle>0.02 (15:00 น.)</TD><TD align=middle>-0.47</TD><TD align=middle>-0.47</TD><TD align=middle>-1.16</TD><TD align=middle>-0.43</TD><TD align=middle>-0.10</TD><TD align=middle>-0.96</TD></TR><TR><TD align=middle>เกาะตะเภาน้อย</TD><TD align=middle>-0.89 (08:00 น.) </TD><TD align=middle>0.30 (15:00 น.)</TD><TD align=middle>-0.20</TD><TD align=middle>-0.09</TD><TD align=middle>-0.89</TD><TD align=middle>-0.17</TD><TD align=middle>0.24</TD><TD align=middle>-0.68</TD></TR><TR><TD align=middle>ปากน้ำกระบี่</TD><TD align=middle>-0.89 (09:00 น.) </TD><TD align=middle>0.53 (15:00 น.)</TD><TD align=middle>-0.06</TD><TD align=middle>0.16</TD><TD align=middle>-0.86</TD><TD align=middle>-0.03</TD><TD align=middle>0.53</TD><TD align=middle>-0.56</TD></TR><TR><TD align=middle>ปากน้ำตรัง</TD><TD align=middle>-0.95 (09:00 น.) </TD><TD align=middle>0.48 (15:00 น.)</TD><TD align=middle>-0.29</TD><TD align=middle>0.18</TD><TD align=middle>-0.86</TD><TD align=middle>-0.22</TD><TD align=middle>0.46</TD><TD align=middle>-0.52</TD></TR><TR><TD align=middle>เกาะตะรุเตา</TD><TD align=middle>-0.66 (08:00 น.) </TD><TD align=middle>0.55 (15:00 น.)</TD><TD align=middle>-0.09</TD><TD align=middle>0.19</TD><TD align=middle>-0.66</TD><TD align=middle>0.03</TD><TD align=middle>0.52</TD><TD align=middle>-0.41</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    22 มี.ค. 53


    สามโพธิ์ศรี


    โพธิ์ศรีหนึ่ง---------คือหนึ่งใน---------สี่พุทธองค์
    ชอบแฝงองค์-------เป็นสมณะ---------ให้กราบไหว้

    โพธิ์ศรีสอง---------เสด็จมา-----------กระแสสินธุ์
    ที่พึ่งพิง------------ให้ประชา-----------ได้อาศัย

    โพธิ์ศรีสาม---------นั้นก็มา--------ช่วยป้องภัย
    มักเร้นกาย----------อยู่ใต้----------พสุธา

    สามโพธิ์ศรี---------ต่างล้วนมี----------พระเมตตา
    ช่วยประชา---------ให้พ้นภัย------------เมื่อภัยมี
    ทุกพระองค์---------ล้วนเสียสละ--------เพื่อคนดี
    แผ่นดินนี้-----------สุขสงบ-------------ทั่วภพเอย

    สามโพธิ์ศรี---------ที่ได้กล่าว-----------เป็นที่เคารพ
    ผมได้พบ-----------ครบพระองค์---------พ้นสงสัย
    พระองค์แรก---------มีเมตตา------------เฝ้าร่างกาย
    คอยป้องภัย---------ให้ครอบครัว---------ของตัวเอง

    พระองค์สอง-----------ที่เคารพ-----------พบที่บ้าน
    เสียงเรียกขาน----------กมลา-------------น่าเลื่อมใส
    พระองค์ท่าน-----------เป็นกษัตริย์--------ทั้งเทพไท้
    พระครองไตร-----------ทรงจักร-----------ปราบอสูร

    พระองค์สาม--------ได้ประสบ-----------พบเชียงคาน
    อันเป็นฐาน----------นำผู้คน-------------พ้นภัยหนี
    เพื่อให้ท่าน----------เข้าคุ้มครอง--------เหล่าคนดี
    มีชีวี----------------คู่พระธรรม----------ค้ำจุนโลก





    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...