พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

วันนี้ได้ทำสมาธิอุทิศบุญให้กับประเทศไทย

ท่านผู้รู้ได้บอกว่า จะทำให้ประเทศฟื้นเร็วขึ้น ต่อไปนี้คนไทยจะเหนื่อยหนัก ในการฟื้นฟูประเทศ เพราะพอคนดีทำงาน คนชั่วก็จะออกมาขวางทุกวิถีทาง

ส่วนผู้ก่อการร้ายตัวใหญ่แม้จะยังอยู่ในกองเงินกองทองต่อไป แต่อนันตริยกรรมที่ร่วมกันทำต่อประเทศ รุนแรงมากต้องถูกเผาไหม้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด โทษในเมืองมนุษย์เล็กน้อยมากเมื่อนึกถึงสิ่งที่พวกเขาต้องได้รับในภพภูมิต่อจากนี้นับเป็นล้านๆๆ ปี

หรืออาจจะไม่ได้ไปผุดไปเกิดเลย เงินซื้อความสุขบนโลกมนุษย์ได้เดี๋ยวเดียว แถมเป็นเงินที่ได้มาง่ายๆ ได้มาจากความฉ้อโกง ได้มาจากการสร้างความเดือดร้อน คราบน้ำตา ความเดือดร้อนของผู้คนมากมาย ไปถึงนรกอีกไม่กี่ปี ก็เอาไปใช้ที่นั่นไม่ได้ แล้วจะทำทำไม หรือเพียงคิดว่า ไม่มีจริง..

เชื่อเถอะ โลกนี้ โลกหน้ามีจริง เวลารับกรรม แต่กลับมาบอกให้ชาวบ้านรับรู้ไม่ได้ กรรมใคร กรรมมันครับ พี่น้อง โหราศาสตร์บอกได้ว่า มันถูกลิขิตเอาไว้แล้ว..

 

กรรมที่ทำกับประเทศ เป็นกรรมหนักครับ

สมมุติว่า เราสั่งให้ฆ่า หรือ ผู้ที่ฆ่า คนที่บงการอยู่ที่เมืองนอก

เราที่สั่งให้ฆ่า และ ผู้ที่ฆ่า ยังไม่บาปและไม่ต้องรับกรรมครับ

.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ผิด 'ศีล' เป็นเหตุ!
Life & Family - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 พฤษภาคม 2553 11:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=240 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=240> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> หลังจากที่มีข่าวของเสือใหญ่ "ไทเกอร์ วู้ดส์" เข้ารับการบำบัดอาการติดเซ็กซ์ในสถานบำบัดแห่งหนึ่งในมิสซิสซิปปี้ได้ไม่นาน ข่าวคาวรายชื่อของสาวๆ ที่เขาเคยไปมีความสัมพันธ์ด้วยจำนวนถึง 120 คนก็ถูกเปิดเผยออกมาจนทำให้นักกอล์ฟทั้งมือเก่าและใหม่หลายคนถึงกับกุมขมับ "ไม่รู้ว่าแอบอิจฉาหรือปวดหัวแทน"

แต่ที่แน่ๆ ตามข่าว "เอลิน" ภรรยาสาวลูกหนึ่งถึงกับต้องว่าจ้าง "ซอร์เรลล์ โทรป" ทนายฝีมือดีที่เคยฟ้องร้องคดีหย่าให้นิโคล คิดแมน และบริตนีย์ สเปียร์ส มาก่อนหน้านี้ ให้มาดำเนินการฟ้องหย่าระหว่างเธอกับสามี เพื่อแบ่งสินสมรสมูลค่ากว่า 50 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท

คดีนี้หากเกิดกับคนไทย นอกจากศาลอาจมีคำพิพากษาให้สามีภริยาหย่ากันเพราะสามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามีเป็นชู้หรือมีชู้หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณได้แล้ว

ศาลอาจมีคำสั่งให้ภริยาหรือสามีได้รับค่าทดแทนจากสามีหรือภริยาและจากผู้ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่อง หรือผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการหย่านั้นได้อีกด้วย นอกจากนี้สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้ โดยมิได้มีเงื่อนไขว่าภริยาจะต้องเกิดความเสียหายอย่างใดหรือจะต้องเป็นภริยาที่อยู่กินกับสามีและอุปการะเลี้ยงดูกัน หรือต้องไม่มีคดีฟ้องหย่ากันอยู่ เว้นแต่สามีหรือภริยายินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจให้อีกฝ่ายหนึ่งกระทำการดังกล่าวเอง

ได้ทราบเช่นนี้ "ชายชู้หญิงชู้" ทั้งหลายก็อาจต้องระมัดระวังทรัพย์สินของท่านไว้ให้ดี เพราะนั่นหมายความว่ากรรมที่เกิดจากการผิดศีล5ของท่าน นอกจากอาจทำให้ท่านต้องสูญเสียทรัพย์สินแล้ว หากท่านกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อมิให้สามีหรือภริยา(“เจ้าหนี้”) ซึ่งได้ใช้หรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ท่านจ่ายค่าทดแทน ได้รับชำระค่าทดแทนนั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วน โดยย้ายไปเสีย ซ่อนเร้น หรือโอนไปให้แก่ผู้อื่นซึ่งทรัพย์ใดก็ดี แกล้งให้ตนเองเป็นหนี้จำนวนใดอันไม่เป็นความจริงก็ดี ท่านก็อาจต้องติดคุกในความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ถึงสองปี หรือเสียค่าปรับถึงสี่พันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับด้วยเช่นกัน

นั่นเพราะ "สภาพความเป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้ระหว่างสามีหรือภรรยาที่แท้จริงกับท่านเกิดขึ้นทันทีที่ท่านเป็นชู้กับสามีหรือภรรยาเขา"

ทนายข้างบ้าน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ตึกรุ่นใหม่ต้องออกแบบให้ทนไฟ 3 ชั่วโมง
Science - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 พฤษภาคม 2553 15:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ภาพตึกเซ็นทรัลเวิลด์ถล่มหลังถูกเพลิงไหม้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงระดมฉีดน้ำ (เอเอฟพี)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>อาจารย์วิศวกรรมโยธา จุฬาฯ แจงตึกหลังไฟไหม้จะถล่มเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับความเสียหายของโครงสร้าง หากเป็นโครงสร้างเหล็กมันถล่มลงมาเลยเมื่อได้รับความร้อนเพราะสูญเสียความร้อน แต่กลับคืนสู่อุณหภูมิปกติได้ทันก็จะคืนสภาพ ส่วนโครงสร้างคอนกรีตจะเสียกำลังถาวรเมื่อรับความร้อน

รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโยธา และหัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อความปลอดภัยจากอัคคัภัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ถึงการประเมินว่าตึกและอาคารที่ถูกไฟไหม้นั้นจะถล่มลงเมื่อไหร่ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าไฟรุนแรงแค่ไหน และต้องเข้าไปตรวจสภาพความเสียหายของโครงสร้างอาคาร

ทั้งนี้สิ่งที่เป็นปัญหาหลักคือเหล็กเสริมในอาคาร ซึ่งจะสูญเสียกำลังได้เร็วเมื่อได้รับความร้อน เพราะเหล็กเสริมจะแอ่นตัวมากขึ้น รับน้ำหนักได้น้อยลง และโดยมากมักจะถล่มลงมา เช่นกรณีโรงภาพยนตร์สยามซึ่งโครงสร้างหลังคาเป็นเหล็ก ได้ถล่มลงมาหลังเกิดเพลิงไหม้ อย่างไรก็ดีหากกลับสู่อุณหภูมิปกติกลังของเหล็กจะคืนสภาพ แต่หากเป็นโครงสร้างคอนกรีตจะสูญเสียกำลังถาวร

“หลังจากไฟไหม้อาคารแล้วอาจยังไม่อันตราย แต่เมื่อมีคนเข้าไปหรืออาคารได้รับน้ำหนักเพิ่มขึ้นจะเป็นอันตรายได้ การฉีดน้ำอาจทำให้โครงสร้างเสียหายได้” รศ.ดร.ชัชชาติกล่าว

สำหรับอาคารใหม่นั้น รศ.ดร.ชัชชาติระบุว่า กฎหมายกำหนดให้อาคารต้องทนไฟได้ 3 ชั่วโมง แต่เป็นไปตามมาตรฐานไฟประเภทหนึ่งเท่านั้น ซึ่งไฟไหม้จริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นประเภทไหน ซึ่งมาตรฐานไฟแต่ละประเภทวัดจากในเวลา 1 นาทีอุณหภูมิจะสูงขึ้นไปเท่าไหร่ซึ่งแตกต่างกัน บางครั้งไฟไหม้รุนแรงอาจทำให้อาคารที่รองรับไฟไหม้หลายชั่วโมงพังลงภายในครึ่งชั่วโมงได้ หรือบางครั้งไฟไหม้ไม่รุนแรงนาน 5-6 ชั่วโมงแต่อาจยังคงอยู่ได้ นอกจากนี้ความรุนแรงของไฟขึ้นอยู่กับเชื้อเพลิงด้วย

ส่วนระบบดับเพลิงภายในอาคารนั้นเป็นระบบที่ช่วยให้อาคารสู้ไฟได้จากภายใน ซึ่งช่วยในการดับไฟได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าเชื้อเพลิงมีน้ำมันด้วย ระบบดับเพลิงเอาไม่อยู่ เพราะน้ำดับเพลิงจากน้ำมันไม่ได้ ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะในการดับเพลิง อีกทั้งเชื้อเพลิงบางประเภทไม่สามารถดับได้ด้วยน้ำ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สมาชิกเฟซบุคแนะวิธีเอาตัวรอดจากเพลิงไหม้
Science - Manager Online


</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 พฤษภาคม 2553 20:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ท่ามกลางสถานการณ์เคอร์ฟิวมีสถานที่สำคัญหลายแห่งถูกวางเพลิง กลายเป็นการจราจลกลางกรุง ซึ่งนอกจากการเตรียมเสบียงไว้ยามฉุกเฉินแล้ว เราควรตั้งสติรับมือกับเหตุการณ์เพลิงไหม้ทีอาจจะเกิดขึ้นได้ โดยสมาชิกเฟซบุครายหนึ่งได้แนะนำวิธีรักษาตัวรอด

สมาชิกเว็บไซต์เครือข่ายสังคมเฟซบุค (Facebook) ซึ่งใช้ชื่อว่า Suwattana Chumpolkulwong (สุวัฒนา ชุมพลกุลวงศ์) ได้แนะนำการรักษาตัวรอดเวลาเกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งระบุว่าได้รับข้อมูลจากอาจารย์มาแบ่งปันสมาชิกทุกคนดังนี้
การเกิดเพลิงไหม้ในสภาวะปกติ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การเดินลงมาจากตึกตามบันไดหนีไฟ โดยไม่ต้องรีบวิ่งหรือ ตื่นตระหนก เพราะอาจจะทำให้หกล้ม และตกลงมาจากช่องบันไดได้ง่าย ซึ่งการเดินลงบันไดจุดที่ปลอดภัยคือพิงผนัง มิใช่ราวที่อยู่ตรงกลาง เนื่องจากอาจจะถูกดันให้ตกบันไดได้

ทั้งนี้มีข้อพึงระวัง ควรมีผ้าชุบน้ำติดตัวไว้ด้วย เพื่อป้องกันควันพิษ ก่อนเปิดประตูใดๆ ควรเอาหลังมืออิงประตูก่อน ถ้าร้อนอย่าเปิดประตูนั้น
ในกรณีที่เจอควันไฟจำนวนมาก ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดและปิดจมูก ตลอดจนก้มตัวลงต่ำ เพื่อหลบควันไฟ และทำให้หายใจสะดวก เนื่องจากควันพิษจะลอยตัวสูงกว่าอากาศปกติ

หากแต่ในกรณีเดือนพฤษภาคมนี้ เมื่อลงมาจากตึกได้แล้ว อย่าวิ่งออกมาที่โล่งแจ้งทันที ค่อย ๆ หาแนวตึกและแนวกำบังก่อน คอยสังเกตว่าปลอดภัยดีแล้วจึงค่อยออกไป มิฉะนั้นอาจจะเป็นเหยื่อของสถานการณ์ ทั้งนี้ให้ใช้สติและปัญญา คุ้มครองตน

พร้อมกันนี้ได้มีการแบ่งปัน "ข้อควรปฏิบัติในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินและเคอร์ฟิว"

ซึ่งอัพเดตข้อมูลล่าสุดเวลา 17.00 น.วันที่ 19 พ.ค.53 โดยได้ประเมินสถานการณ์เบื้องต้น ว่าอาจจะมีการปล้นสดมภ์โดยเฉพาะพื้นที่มีการจราจล และเกิดเพลิงไหม้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันทหารจะปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กระสุนจริงอย่างเต็มที่ แต่อาจควบคุมสถานการณ์ไม่ได้

ทั้งนี้ประกาศเคอร์ฟิวของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 20.00 – 06.00 น. ดังนั้นจึงต้องประมาณเวลาในการเดินทาง หากต้องอพยพออกนอกพื้นที่ต้องทำให้ทันก่อนเวลา 20.00 น. พร้อมทั้งแนะการเตรียมการโดยให้สำรองอาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค และจัดใส่กระเป๋าเพื่อหยิบฉวยให้สะดวก เตรียมอุปกรณ์สื่อสารให้พร้อม เตรียมไฟฉายและผ้าปิดจมูก

นอกจากนี้ให้เติมน้ำมันรถให้เต็มถังและถอนเงินสดให้พร้อม เผื่อกรณีตู้เอทีเอ็มใช้การไม่ได้และปั๊มน้ำมันไม่ปิดทำการ ในกรณีเดินทางให้ศึกษาเส้นทางและเตรียมเส้นทางเดินเท้ากรณีรถยนต์ไม่สามารถใช้ได้

สำหรับเบอร์โทร.กรณีฉุกเฉินมีดังนี้

สายด่วน ศอฉ. 0-2551-1515
เหตุด่วนเหตุร้าย 191
หน่วยดับเพลิงศรีอยุธยา 199
หน่วยแพทย์กู้ชีพ กทม. 1554
กองปราบปราม 1195
ศูนย์นเรนทร 1669
มูลนิธิร่วมกตัญญู 0-2751-0951-3
ศูนย์วิทยุ ป.เต็กตึ้ง 24 ช.ม. 0-2226-4444-8
จส.100 1137
สถานีวิทยุชุมชน ร่วมด้วยช่วยกัน (FM96) 1677

สามารถตรวจสอบรายละเอียดข้อควรปฏิบัติเพิ่มเติมได้ที่
คลิกที่นี่!


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เห็นบอร์ดเงียบๆ ก็เลยไปขุดมาให้คนหลังๆ ได้ชมของดีๆสวยๆ (ประทานโทษนะครับ ตาลุงข้างบ้านคุณ nongnooo ที่อาจทำให้กริ้ว) หุหุหุ

 

สาธุครับ ขอให้กรรมบังเกิดผลโดยเร็วๆเถิด

ผมเคยนั่งรถไปกับพี่ท่านหนึ่ง (ผมนับถือเป็นทั้งเจ้านายและพี่ชาย) เป็นเศรษฐีรวยนับหมื่นล้าน(จากอสังหาริมทรัพย์และหุ้น)แต่ไม่คิดเผยตัว ถ้าบอกชื่อโรงแรม รีสอร์ทหรูๆทางเหนือ(สร้างด้วยเงินสด) ทางใต้ คงรู้จัก (รู้จักเฉพาะโรงแรมนะ แต่คงไม่รู้จักท่านเพราะชื่อเจ้าของไม่ใช่ชื่อท่าน ผมเองยังเคยเป็นกรรมการบริษัทด้านการสื่อสารของท่านเลย)

มีคนขับรถปาดหน้าท่าน ถ้าคนทั่วไปหรือผมเอง(ในบางครั้ง) คงได้ประลองความเร็ว หรือบีบแตรแป้นๆๆ หรือบ่นแน่ๆ
แต่ท่านกลับบอกว่า "เราไม่ต้องไปทำอะไรกะมันไอ้คนพวกนี้อ่ะ เดี๋ยวก็มีคนจัดการแทนเรา อย่าไปเสียเวลากับมันเลย" หุหุ

ผมคิดว่าคนเยี่ยงนี้ก็คงมีคนจะจัดการไม่น้อย รวมทั้งศัตรูภายในของเขาเอง เพียงแต่รอโอกาสอยู่ รอดูกันต่อไป ...

 

เช้านี้ ผมได้มอบพระบรมฯ ,พระธาตุพระอรหันต์ในยุคพุทธกาล พระโมคคัลลา พระสิวลี พระราหุล และพระพิมพ์วังหน้า

... แด่น้องที่ office แม่ฮ่องสอน เพื่อไปถวายวัดผาอ่าง (เพิ่มเติม พระท่านจะบรรจุในเกศพระบัวเข็มในวันวิสาขะบูชานี้) และวัดอื่นใน อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน รวม 3 ชุด

หมายเหตุ: 1 ชุดประกอบด้วย
1. พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
2. พระธาตุพระอรหันต์
3. พระพิมพ์ของวังหน้าหรือกรมท่า

โมทนาสาธุครับ

 

ASTVผู้จัดการ – “ประภัสสร เสวิกุล” ทนไม่ได้แดงเผาบ้านเผาเมือง ระบุ “ทักษิณ” บงการอยู่เบื้องหลังเพื่อระบายความเคียดแค้นส่วนตัว ชี้ไร้จิตสำนึกกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด-ในหลวง เตือนคนที่ขาดคุณธรรมและความกตัญญูเช่นนี้ไม่ควรเรียกตัวเองว่าเป็นมนุษย์ หรือ สัตว์ประเสริฐ

วันนี้ (21 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประภัสสร เสวิกุล นักเขียนชื่อดังและอดีตนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยได้เขียนบทความเรื่อง “ดั่งคนอกตัญญู” เผยแพร่ลงในคอลัมน์วันเว้นวัน จันทร์พุธศุกร์ หนังสือพิมพ์คมชัดลึก และเว็บไซต์ส่วนตัว www.psevikul.com

บทความชิ้นดังกล่าวของนักเขียนชื่อดังกล่าวถึงเหตุการณ์การจลาจลของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง ที่พยายามสร้างความรุนแรงและความพินาศให้แก่บ้านเมือง โดยไม่คำนึงถึงเพื่อร่วมชาติและประเทศชาติว่า เกิดจากความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการระบายความเคียดแค้นส่วนตัว

นายประภัสสรชี้ให้เห็นว่า การกระทำดังกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นการอกตัญญูต่อแผ่นดินเกิดที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูอุ้มชูครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณมาก รวมถึงเป็นการอกตัญญูต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย และคนที่ขาดคุณธรรม ขาดความกตัญญูรู้คุณนั้นไม่ควรจะเรียกตัวเองว่าเป็น “มนุษย์ หรือ สัตว์ประเสริฐ”

ดั่งคนอกตัญญู
โดย ประภัสสร เสวิกุล

คุณธรรมเป็นเครื่องค้ำชูจิตใจมนุษย์ และทำให้มนุษย์เป็นสัตว์ที่ประเสริฐกว่าเดรัจฉาน

และคุณธรรมสำคัญประการหนึ่งซึ่งมนุษย์ยึดถือกันอย่างแน่นแฟ้นก็คือความกตัญญูรู้คุณ ซึ่งในสมัย
โบราณนั้นขนาดข้าวสักจานน้ำสักขันก็จดจำกันไปตลอดชีวิต และยิ่งแผ่นดินเกิดหรือแผ่นดินที่อยู่อาศัยได้พึ่งพาทำมาหากินตั้งแต่เล็กจนโต ยิ่งต้องมีความกตัญญูเป็นอย่างสูง รวมทั้งมีความกตัญญูต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของพสกนิกรทุกหมู่เหล่าให้อยู่ร่วมกันด้วยความผาสุกร่มเย็นมาจนถึงทุกวันนี้
ทุกชาติและทุกศาสนาล้วนสอนให้คนรำลึกถึงบุญคุณของแผ่นดินที่ตนอาศัย ไม่ทำความเดือดร้อนแก่แผ่นดิน และหาทางตอบแทนแผ่นดินตามกำลังและโอกาส ถ้ายังไม่สามารถทำตรงจุดนั้นได้ ก็ขอเพียงแค่เป็นคนดีไม่ก่อปัญหาแก่บ้านเมือง เท่านี้ก็ถือได้ว่ามีความกตัญญูต่อแผ่นดินแล้ว

ภาพของความจลาจลวุ่นวาย การตั้งแนวรบ การเผาอาคารสถานที่ การสังหารหรือรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการตามหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่เราท่านได้เห็นจากสื่อต่างๆ ในระยะนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงการกระทำของคนบางกลุ่มที่ไม่มีความกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด แผ่นดินที่อาศัย มุ่งหมายแต่จะทำร้าย สร้างความรุนแรง ความพินาศฉิบหายแก่บ้านเมือง เพื่อนำไปสู่สิ่งที่ตนต้องการ โดยไม่คำนึงถึงชีวิตและทรัพย์สินของผู้ร่วมชาติ หรือความเสียหายของประเทศชาติ

เราสามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยากว่าสิ่งที่คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องการก็คือการระบายความเคียดแค้นที่สุมอยู่ในอก และให้คนที่เขาคิดว่าเป็นศัตรูได้รับการตอบแทนในสิ่งเดียวกัน เมื่อมีกลุ่มพันธมิตรฯ เสื้อเหลือง ออกมาขับไล่ท้ากสินได้ ก็มีกลุ่ม นปช.และเสื้อแดง ออกมาขับไล่อภิสิทธิ์ได้เหมือนกัน เมื่อพันธมิตรฯ เข้าไปใช้พื้นที่ในสนามบินสุวรรณภูมิ นปช.ก็เข้ามาใช้พื้นที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อเขาถูกยึดทรัพย์ 4 หมื่นกว่าล้าน การชุมนุมและการจราจลก็จะทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียเงินไม่น้อยหรืออาจจะมากกว่าจำนวนเงินที่เขาถูกยึดไป เมื่อเขาต้องหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกลางครัน คุณอภิสิทธิ์ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานานก็จะต้องหล่นจากเก้าอี้ในลักษณะเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน

และที่สำคัญ เมื่อเขาไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ก็จะต้องทำให้มีคนบางคนไม่มีแผ่นดินอยู่เช่นเดียวกันด้วย

แต่สิ่งที่เราไม่สามารถทำความเข้าใจได้ก็คือ ทำไมคนที่มีความรู้อย่างคุณทักษิณถึงได้ไม่คิดบ้างว่า แผ่นดินที่คุณทักษิณกำลังทำร้ายทำลายอยู่ในเวลานี้ คือแผ่นดินที่คุณทักษิณถือกำเนิดขึ้นมา และเป็นแผ่นดินที่ให้ความร่มเย็นเป็นสุขแก่ครอบครัวคุณทักษิณมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินเงินทอง ที่คุณทักษิณมีอยู่ ก็ล้วนเกิดจากแผ่นดินนี้ทั้งสิ้น และหากใกล้ตัวคุณทักษิณมีกระจกพอที่จะส่องดูตัวเอง คุณทักษิณก็จะเห็นว่าสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับคุณทักษิณทั้งการเมืองและธุรกิจนั้น ล้วนเป็นเรื่องที่คุณทักษิณทำขึ้นมาเองทั้งสิ้น หากคุณทักษิณอยู่ในครรลองคลองธรรม ถือความสุจริต คำนึงถึงผลประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชนเป็นที่ตั้ง อนาคตของคุณทักษิณก็คงจะไม่วูบดับลงแบบนี้

คุณทักษิณอาจจะโกรธ อาจจะเคืองแค้น หรือกล่าวโทษใครต่อใคร ว่าเป็นศัตรู เป็นคนที่ทำร้ายคุณทักษิณจนไม่มีแผ่นดินจะอยู่เช่นในเวลานี้ แต่หากคุณทักษิณพิจารณาให้ถี่ถ้วนจะพบว่าศัตรูตัวจริงและคนที่ทำร้ายคุณทักษิณจริง ๆ นั้น คือตัวคุณทักษิณเอง ไม่ใช่ใครที่ไหนทั้งสิ้น และการที่คุณทักษิณกำลังทำร้ายประเทศไทยอย่างในเวลานี้นั้น ไม่ได้ช่วยทำให้คุณทักษิณดีขึ้นแม้แต่น้อย นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นคนอกตัญญูต่อแผ่นดินและต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

คนที่ขาดคุณธรรม ขาดความกตัญญูรู้คุณนั้น จะเรียกตัวเองว่าเป็นมนุษย์หรือสัตว์ประเสริฐไม่ได้หรอกครับ

วันเว้นวัน จันทร์ พุธ ศุกร์
คมชัดลึก ประจำวันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2553

นายประภัสสร เสวิกุล เป็นชาวกรุงเทพฯ รับราชการเป็นเจ้าหน้าที่การทูต กระทรวงการต่างประเทศ เป็นนักเขียนที่ผลิตผลงานวรรณกรรมชื่อดังมากมายมากว่า 30 ปีแล้ว เช่น เด็กชายมะลิวัลย์ ชี้ค ลอดลายมังกร ขอหมอนใบนั้น...ที่เธอฝันยามหนุน อำนาจ เวลาในขวดแก้ว ฯลฯ ทั้งเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย (2525-2526) และ นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย (2544-2548)

 

ไฟไหม้กรุงเทพฯ MAY19_2010

 

ได้เวลาฟื้นฟู เยียวยาบ้านเมืองอันเป็นที่รักของเราทุกคนแล้ว เมื่อครั้งญี่ปุ่นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ใช้เวลาฟื้นฟูถึง 25 ปี ของเราเสียหายน้อยกว่าของญี่ปุ่นมาก หากร่วมมือร่วมใจกันต้องสามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นในทุกๆด้าน หากเรามีสิ่งยึดเหนี่ยวในองค์ในหลวงองค์เดียวกัน เราต้องสามารถทำได้ในเวลาอันสั้นอย่างแน่นอน นำกำลังใจนี้มาเป็นกำลังสำคัญของพี่น้องร่วมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแดง เสื้อเหลือง เสื้อน้ำเงิน เสื้อหลากสี ทุกๆสี ให้คิดถึงชาติ คิดถึงส่วนรวมก่อน เวลานี้เรื่องส่วนตัวขอให้ทิ้งเอาไว้ข้างหลังก่อน เว้นแต่ว่าบุคคลนั้นจะไม่ใช่คนไทย ก็เอาเถอะครับ ท่านต้องหาแผ่นดินที่ไหนในโลกอยู่ก็แล้วกัน แต่ที่แน่ๆประเทศไทยเราไม่ต้อนรับ และไม่ต้องการ

ลองอ่านดูว่า ชาวต่างชาติเขาคิดอย่างไรกับในหลวงของเรา

“เธอรู้ไหมว่าฝรั่งประทับใจอะไรกับในหลวงมากที่สุด”

“ที่ท่านประสูติที่ Cambridge, Massachusetts เหรอ”

“ไม่ใช่ เขาประทับใจที่สุดที่พระองค์ทรงมีกระแสพระราชดำรัสว่า พระราชาก็ทำผิดได้ เพราะในภาษาอังกฤษมีภาษิตเก่าแก่ว่า “The King can do no wrong” ซึ่งขัดต่อความรู้สึกของคนอเมริกันมาก ดังนั้นพอในหลวงของเราตรัสว่า “The King can do wrong” ฝรั่งรู้ทันทีเลยว่า นี่แหละ เป็น enlightened monarch คือ เป็น พระราชาที่รู้แจ้งเห็นจริง เป็นนักประชาธิปไตยตัวจริง ไม่ใช่พระราชาธรรมดา”

"นายมาร์ติน วีลเลอร์" ชาวอังกฤษ ผู้มีปริญญาตรีเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยลอนดอน แต่มาปักหลักเป็น "เกษตรกรไทย" แต่งงานกับคนไทยอยู่ที่ขอนแก่นขณะนี้มาให้อ่านเพื่อได้คิดกันคนไทยโชคดีมากๆ ที่ได้ในหลวงเป็นผู้นำ พระองค์ท่านเป็นคนที่ทำงานหนักมากเพื่อช่วยให้คนคิดได้ ช่วยให้คนอยู่ได้ จะหากษัตริย์ในประเทศอื่นไม่ค่อยมีแบบนี้ ปัญหาคือคนไทยส่วนมากนับถือในหลวง แต่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสอนของในหลวง พระองค์ท่านบอกมา ๒๗ ปีถึงเศรษฐกิจพอเพียง แต่คนไทยก็ไม่รู้จักพอเพียง

เอาอย่างเดียว ถึงยกมือไหว้ในหลวง แต่เวลาดำรงชีวิตไม่ได้ทำตามในหลวง ก็ในหลวงบอกไว้แล้วว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเสือ ขอให้มีอยู่มีกินไว้ก่อน

ถ้าทุกคนเริ่มคิดจริงๆ ถึงสิ่งที่ในหลวงพูด เราน่าจะช่วยให้ประเทศไทยอยู่ได้ เพราะความคิดของในหลวงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงต้องอาศัยพลังแผ่นดิน ทำได้เฉพาะประเทศไทยนะ เศรษฐกิจพอเพียง ที่อื่นทำไม่ได้หรอก เพราะเขาไม่มีที่ดิน ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติเยอะเหมือนประเทศไทย

พวกคุณโชคดีที่ได้แผ่นดินดีๆ ได้ผู้นำ (ในหลวง) ที่ดีด้วย และเรื่องที่ ๓ เรื่องศาสนา ผมคิดว่า ศาสนาพุทธมีความสำคัญมากๆ สำหรับคนไทย ไม่ใช่แค่นับถือไหว้พระ แค่นั้นไม่พอ แต่อยู่ที่การปฏิบัติด้วยนะ มักน้อย สันโดษ พอเพียง ธรรมะคือธรรมชาติ เป็นเรื่องง่ายๆ พึ่งตนเองก็ได้ ปรัชญาของศาสนาพุทธทำได้นะ แต่คนไทยจำนวนน้อยที่เข้าใจ จริงๆ แล้วศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ออกแบบให้เหมาะสมสำหรับคนบ้านนอก ให้ใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติโดยไม่ทำลาย ไม่เอาเปรียบ แต่ให้เราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมขาติ

คุณโชคดีมากๆ ที่เกิดในประเทศไทยที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องไปรบกับใคร ไม่ต้องไปเอาน้ำมันจากใคร ไม่ต้องไปเบียดเบียนคนอื่น ประเทศไทยอยู่ได้ กินอิ่ม มีเหลือแจกด้วย อย่าไปคิดเรื่องเงินอะไรมาก อย่าลดคุณค่าความเป็นไทยของตัวเองลง คนไทยส่วนมากนิสัยดีจริงๆ คนไทยมีน้ำใจ หายากนะ

คนไทยมีพระเจ้าอยู่หัว มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ มีศาสนาพุทธที่ดีมาก ทั้ง ๓ อย่างนี้ พยายามรักษาเอาไว้ให้ได้

ชีวิตที่ไม่ทะเยอทะยานเกินไป คือชีวิตที่มีคุณภาพ ชาวบ้านทุกคนทำได้ ผมเองถึงยังทำไม่สำเร็จ แต่มั่นใจว่าจะทำได้แน่ในอนาคต ถ้าผมทำได้ คนอื่นก็คงทำได้ง่ายกว่าผมเยอะ ทุกอย่างอยู่ที่เรา ถ้าเราไม่อยากได้อะไรมากเกินไปในชีวิต ชีวิตมันก็ง่าย พยายามทำให้ชีวิตมันง่ายขึ้น อย่าให้มันสับสน อย่าให้มันลำบาก พยายามรักษาสิ่งแบบนี้ให้ดี และ อย่าเชื่อฝรั่งมากเกินไป และอีกมาก

เงินทองของมายา ข้าวปลาสิของจริง

ฝรั่งมังค่ารักเมืองไทย รักในหลวงมากมายขนาดนี้ แต่คนไทยที่เกิดในเมืองไทยแท้ๆ ไม่รัก ซ้ำร้ายยังทำลาย ขาดจิตสำนึกในการแยกแยะความดี ความชั่ว ทั้งๆที่เกิดในพุทธศาสนา น่าเสียดายที่เกิดเป็นคนไทย....

ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีบ่อน้ำมันมากมายอย่างกลุ่มประเทศอาหรับ ไม่มีเหมืองทองคำมากมายอย่างจีน ไม่มีความคิดสร้างสรรค์สุดยอดอย่างญี่ปุ่น ไม่มีเทคโนโลยีหรูแบบเยอรมัน ไม่มีสิ่งมีค่าใดๆที่สังคมประเทศใดๆให้การยกย่องยอมรับว่ามีค่ามาก แต่เรามีองค์ในหลวงเพียงองค์เดียว เราจะมีทุกสิ่งทุกอย่าง แม้จะไม่ได้มากมาย แต่ก็พอเพียง พอสำหรับคนทั้งชาติ ทั้งยังสามารถจุนเจือให้กับประเทศอื่นๆยามศึกสงคราม หรือยามเกิดภัยพิบัติได้ ไม่อดอยาก ไม่แร้นแค้น

 

_/|\_

.....โมทนาสาธุครับ.......

 

​

...มักน้อย สันโดษ พอเพียง ธรรมะคือธรรมชาติ

...เงินทองของมายา ข้าวปลาสิของจริง

...คนไทยมีพระเจ้าอยู่หัว มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ มีศาสนาพุทธที่ดีมาก ทั้ง ๓ อย่างนี้ พยายามรักษาเอาไว้ให้ได้

ขอบคุณครับ

บุญเหลือเกินที่ได้เกิดมาภายใต้ร่มเงาแห่งฝ่าพระบาทองค์ในหลวง...ภูมิพล อดุลยเดช มหาราชา
เดินตามรอยพระบาทพระบรมศาสดา ก็เหมือนเดินตามรอยฝ่าพระบาทองค์ในหลวงของเราโดยแท้

ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ

 

๕๕๕ ใช้เน็ตแบบแอร์การ์ดไม่สะดวกเท่าใดเป็น แค่ชั่วคราวหลบมาอยู่
ที่ห่างไกลความเจริญ แต่ก็อบอุ่นจากพระบูชา และจระเข้ทอง ครับเลยไม่ได้พบตาลุงข้างบ้าน เพียงแต่ทราบว่าช่วงนี้ท่านกำลังรอความเมตตาจากหลวงปู่โสณ ครับ หุ หุ

 

อาจสงสัยนะครับว่าอาราย ก็รอความเมตตาพระทวารวดีที่หลวงปู่โสณท่านเป็นประธานในพิธีไงครับ หุ หุ

 

อย่าลืม ฝากความคิดถึงท่านโดจิด้วยครับ

.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ทับทิมกรอบ"สีสวย รวยรส/กุ๊กเล็ก
Travel - Manager Online

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 พฤษภาคม 2553 01:10 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย:กุ๊กเล็ก


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>

</TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ทับทิมกรอบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>เรื่องช่างประดิดประดอยด้านอาหาร ชาติหนึ่งที่ "กุ๊กเล็ก" เห็นว่าไม่เป็นสองรองใคร ก็คือคนไทยเรานี่เอง ตั้งแต่การแกะสลักผักผลไม้ ตลอดจนการจัดตกแต่งเมนูอาหารอย่างตระการตา เพิ่มคุณค่าให้น่ากิน คนไทยทำได้หมด มื้อนี้ "กุ๊กเล็ก" เองก็มีเมนูของหวานง่ายๆสีสันสวยๆอย่าง "ทับทิมกรอบ" ภูมิปัญญาแบบไทยมาให้ลองทำกินกัน

ส่วนผสม

แห้วหั่นสี่เหลี่ยมเต๋า 1ถ้วย
น้ำหวานสีแดง 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1ถ้วย
น้ำ 1ถ้วย
แป้งมัน 3/4 ถ้วย
เกลือป่น ¼ ช้อนชา
กะทิ 3 ถ้วย

วิธีทำ

ขั้นตอนแรกนำแห้วไปแช่ในน้ำหวานสีแดงประมาณ 15 นาที พอให้แห้วติดสี เทแป้งมันใส่จาน นำแห้วขึ้นจากน้ำหวานแล้วนำมาคลุกแป้งมันให้แป้งติดแห้วให้ทั่ว จากนั้นเปิดเตาที่ไฟแรง ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ ต้มให้เดือด พอน้ำเดือดแล้วให้ใส่แห้วที่คลุกแป้งไว้ลงไปต้มประมาณ 3 นาที จนแป้งใสและแห้วลอยขึ้นมา

ตักแห้วที่สุกแล้วขึ้นมาแช่น้ำเย็นให้แป้งอยู่ตัวซักพักก็สะเด็ดน้ำพักไว้ ทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำตาลทรายและน้ำเปล่าลงในหม้อ คนจนน้ำตาลละลายเป็นน้ำเชื่อมก็เทใส่ถ้วย พักไว้

ทำน้ำกะทิโดยเทกะทิใส่หม้อ เติมเกลือป่นลงไป คนเรื่อยๆ อย่าให้กะทิเดือดจนแตกมัน พอกะทิเดือดซักพักก็ปิดเตาได้ จากนั้น ตักทับทิมกรอบ ใส่น้ำเชื่อมและน้ำกะทิลงไป ชิมรสหวานตามชอบ ใส่น้ำแข็งทุบโรยหน้าลงไปก็เป็นอีกเรียบร้อยได้ทับทิมกรอบสีสวยๆมากินเป็นของดับร้อนแล้ว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"กูเกิล" ทำเก๋ฉลอง 30 ปีแพคแมนด้วยเกมจริง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 พฤษภาคม 2553 23:58 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=700> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>คงปฏิเสธไม่ได้ว่า "แพคแมน" คือหนึ่งในวีดีโอเกมที่นักเล่นยุคแรกทุกคนต้องรู้จัก และเนื่องในโอกาสที่เขามีอายุครบ 30 ปีวันนี้ ทางเว็บไซต์ Google.com จึงได้แสดงความยินดีด้วยการบรรจุเกมนี้ลงหน้าเว็บเสียเลย

วิธีการเล่นก็เพียงเข้าไปที่เว็บ Google.com แล้วกดคำว่า "เติมเงิน" (หรือ Insert Coin สำหรับผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษ) ข้างๆคำสั่งค้นหา บังคับด้วยปุ่มลูกศรบนล่างซ้ายขวาบนแป้นพิมพ์ และนอกจากนี้ถ้ากดปุ่มเติมเงินอีกครั้งจะมี "มิสแพคแมน" โผล่มาเป็นผู้เล่นคนที่สอง ซึ่งจะบังคับด้วยปุ่มกดแบบ WASD แทนบนซ้ายล่างขวา

ผู้สร้างจากกูเกิลระบุว่าเกมนี้จะมีให้เล่นเป็นเวลา 48 ชั่วโมง เนื่องจากคิดว่าแค่วันเดียวคงน้อยเกินไป

ข้อมูลจาก
Google Blog
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ไปลองเล่น ย้อนอดีต ดูแล้วครับ

.

 

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงหลังการประชุม ศอฉ.ซึ่งมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศอฉ. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และผู้นำเหล่าทัพ เข้าร่วมประชุม ว่า ที่ประชุม ศอฉ.ได้ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการการควบคุมตัวแกนนำ นปช.ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับทราบถึงปัญหาและข้อสังเกตที่เกิดขึ้นว่า การควบคุมตัวแกนนำ นปช.ยังไม่ดีเพียงพอ จึงได้สั่งให้มีการดำเนินการในเรื่องมาตรการควบคุมตัวให้เกิดความรัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยให้เป็นไปตามขั้นตอนของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการชี้แจงในเรื่องนี้

“ที่ประชุมยังรับทราบการตรวจพบวัตถุระเบิด ที่ พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ระบุว่า มีการประกอบระเบิด ที่มีลักษณะการประกอบที่สมบูรณ์ เป็นระเบิดคาร์บอมบ์ ซึ่ง ศอฉ.เห็นว่า การดำเนินการดังกล่าว จะมีการใช้ระเบิดคาร์บอมบ์ของผู้ชุมนุม โดยเฉพาะแยกราชประสงค์ ซึ่งพบรถยนต์ที่จะนำมาเป็นระเบิดคาร์บอมบ์ อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้ก่อเหตุค่อนข้างสมบูรณ์” นายปณิธาน กล่าว

นายปณิธาน กล่าวว่า ศอฉ.ยังได้รับรายงานจากผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จริง ว่า ในการเผายางรถยนต์ของกลุ่มผู้ชุมนุม เป็นการวางเพลิงเพื่อให้เกิดควันไฟ และเป็นกำบังที่จะยิงระเบิดเอ็ม 79 อย่างไรก็ตาม ศอฉ.ได้พิจารณายกเลิกข้อบังคับการควบคุมเส้นทางในพื้นที่ราชประสงค์ และโดยรอบ โดยวันนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งระดมตรวจสอบเพื่อให้เกิดความปลอดภัย และทำความสะอาด คาดว่า วันพรุ่งนี้ (23 พ.ค.) จะคืนเส้นทางการจราจรให้กลับสู่ภาวะปกติได้ทั้งหมด

ส่วนกรณีที่ยังมีการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.นายปณิธาน กล่าวว่า ศอฉ.ยังติดตามอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งมีการเคลื่อนไหวไม่กี่จังหวัด อาทิ ฉะเชิงเทรา กาญจนบุรี พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ซึ่งหลังจากนี้ ศอฉ.จะเฝ้าระวังกองกำลังติดอาวุธ ที่จะแยกแตกตัวเป็นกลุ่มย่อยๆ แฝงตัวไปตามจุดต่างๆ ซึ่งจะสังเกตได้ยาก เพราะจะเคลื่อนไหวใต้ดินมากขึ้น และมีเป้าหมายทำร้ายบุคคลสำคัญ

นายปณิธาน กล่าวว่า ศอฉ.ยังได้รับทราบถึงการตั้งคณะกรรมการขึ้นอีก 2 คณะ คือ คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนเป็นเรื่องเร่งด่วน มีปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง และคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนที่ได้รับความเสียหาย โดยมี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

นอกจากนี้ นายสาทิตย์ ยังมีหน้าที่ในเรื่องการทำความเข้าใจกับประชาชนและสื่อมวลชน ทั้งในและนอกประเทศ โดยจะทำการชี้แจงและประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจถึงการทำงานของ ศอฉ. รวบรวมข้อมูลทั้งหมดจัดทำเป็นซีดีและแผ่นพับ

ทั้งนี้ พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะกรรมการ ศอฉ. เปิดเผยว่า ทาง ศอฉ.ได้สั่งการให้ตน และทีมงานแถลงรายละเอียดถึง กรณีตรวจพบรถยนต์ที่มีวัตถุระเบิด และพร้อมระเบิด หรือที่เรียกว่า คาร์บอมบ์ ในพื้นที่การชุมนุมของกลุ่ม นปช.ซึ่งเป็นบริเวณโดยรอบของสถานที่ชุมนุมแยกราชประสงค์ 4 จุด คือ บริเวณถนนเพลินจิต พบจำนวน 2 คัน ซึ่งมีถังแก๊สอยู่ในรถเต็มไปหมด บริเวณแยกหน้าโรงเรียนมาแตร์ จำนวน 2 คัน ซึ่งทั้งใน และนอกตัวรถที่พบนั้น จะมีถังสารเคมีอยู่จำนวนมาก บริเวณสะพานชิดลม มุ่งหน้าถนนเพชรบุรีตัดใหม่ จำนวน 1 คัน ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนว่า ประกอบเป็นคาร์บอมบ์ และบริเวณสะพานเฉลิมโลก ซึ่งเป็นเส้นทางระหว่างราชประสงค์-ประตูน้ำ จำนวน 1 คัน เป็นรถปิกอัพที่ภายในมีระเบิดซีโฟร์อยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ จะมีการแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดในช่วงบ่ายวันเดียวกัน

Politics - Manager Online

ค่ำนี้ผมได้ฟังบทสัมภาษณ์ของคุณหญิงหมอซึ่งได้บอกรายละเอียดที่มากกว่าในข้อข่าวนี้ แต่รายละเอียดอื่นที่อาจจะทำให้เสียรูปคดีเปิดเผยไม่ได้ สิ่งสำคัญที่พี่น้องชาววังหน้าควรจะได้ทราบเพิ่มเติมก็คือ

1) คุณหญิงหมอบอกว่า ที่หนักกว่านั้น มีการใช้น้ำกรดในปริมาณมาก ซึ่งสนธิสัญญาเท่าที่มีมาในโลกยังไม่เคยกำหนดให้ใช้น้ำกรดเลย ถือว่าอำมหิตสุดๆครับ

2) การวางสายชนวนระเบิดผู้ก่อการร้ายเขาวางเป็นกิโลเมตร โดยต่อกับถังแก๊ส และพ่วงกับ car bomb อีกระยะหนึ่ง จุดนี้ เขาใช้การกดทับของน้ำหนักรถเป็นตัวกดทับ จากนั้นต่อด้วยระเบิดซีโฟอีกระยะหนึ่ง หากวันนั้นเกิดระเบิดเป็นชุดๆ ชิดลมน่าจะเสียหายหนักที่สุด เพราะรับแรงระเบิด 4 ทาง คือตรงชิดลมมาร์แตเดอีโดยตรง รัศมีแรงระเบิดจากทางเพลินจิต รัศมีระเบิดจากทางสารสิน และรัศมีระเบิดจากทางเพชรบุรีตัดใหม่ พี่น้องชาววังหน้าครับ รัศมีระเบิดกินระยะ 500 เมตร แรงระเบิดจะกินอาณาบริเวณสนามศุภัชลาศัย กินมาถึงซอยนานา ถนนสุขุมวิทจะราบพนาสูญ

ด้วยความรุนแรงของภัยพิบัติที่เกิดจากการก่อการร้ายนี้อาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้า เหตุที่ผมสังหรณ์ใจก็เพราะว่า ผู้ก่อการร้ายชุดดำจับกุมได้เพียง 20 คน จากจำนวนเท่าไหร่เราก็ไม่ทราบ และยังตามจับกุมไม่ได้ และมั่นใจว่ามันยังไม่เคลื่อนออกจากกรุงเทพ ขณะที่ทหารก็ยังล้อมกรอบอยู่ ในขณะที่เราท่านประมาทในการทำสมาธิ มีความสุขหลงระเริงว่าเหตุบ้านการเมืองสงบแล้ว ความวุ่นวายชุลมุนในวันนั้นคงจะโกลาหลน่าดู ผมก็มีความทุกข์ใจมากแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านั้น ได้แต่ทำสมาธิ หาเครื่องป้องกันภัย ถึงเวลาแล้วที่ต้องนำพระเครื่ององค์ที่มีอิทธิคุณ พุทธคุณด้านการคุ้มกันตัว แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี มาติดตัวไว้บ้าง เผื่อแผ่ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงเอาไว้บ้าง แนะนำพระเครื่องคุ้มกันเหตุรังสีระเบิดดังกล่าวเท่าที่นึกได้ ท่านใดนึกออกก็ช่วยกันบันทึกไว้นะครับ

-พระสมเด็จองค์ปฐม รุ่น 1-2-3 วัดท่าซุง
-พระรูปเหมือนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ รุ่นปืนแตก
-เหรียญของขวัญวันเกิดทั้ง 4 รุ่น
-ธงมหาพิชัยสงคราม ผูกติดไม้ยาว ชูขึ้นเหนือหลังคาบ้าน
-พระร่วงหลังรางปืน สุโขทัย-ลพบุรี
-พระรอด ลำพูน
-ปฐวีธาตุเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต
-ปฐวีธาตุหลวงปู่คำพันธ์
-พระธาตุโมคคัลลานะ ที่พระพุทธเจ้าพระองค์ท่านยกย่องให้เป็นเอกัคฑัคคะด้านฤทธิ์
-พระนางพญาพระธาตุพนม ทำจากเหล็กเปียกยอดพระเจดีย์พระธาตุพนม
-พระโคนสมอ-พระซุ้มไทรย้อย-พระซุ้มไข่ปลา วังหน้า อยุธยา


ที่ดีมากๆคือ ผ้ายันต์คลอบจักรวาลที่มีรูปหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร และหลวงปู่สุภา และยันต์เกราะเพชร

พระสมเด็จหลังเบี้ย หลังประทุน ของวังหน้าน่าจะมีอิทธิคุณด้านนี้รายการอื่นๆของพระวังหน้าให้คุณหนุ่มเป็นผู้แนะนำดีกว่าครับ