ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

วันนี้มาตามอ่านกระทู้เพิ่งถึงหน้า 86
ถึงพี่ Me, myselfพี่อ้อย คุณฝน และกัลยาณมิตรทุกท่าน
1. หนูมีคำถามช่วยตอบให้หนูได้มั้ยคะ พอดีหนูเคยดูหมอดูตั้งแต่ที่ยังไม่เจอกระทู้นี้นะคะเค้าบอกว่าให้มีลูกสองคนจะได้ลูกที่เป็นเทพมาเกิดตอนนี้หนูมีหนึ่งคนแล้วค่ะว่าจะเอาแค่นี้แต่หมอดูบอกว่าเค้ามารอเกิดแล้วให้เอาอีกคนแต่หนูกลัวจะไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะเลี้ยงอีกคน...หนูเอาแค่นี้ได้มั้ยคะแล้วสมมุติว่ามีคนรอมาเกิดจริงๆเค้าจะรอมั้ยคะ..ขอโทษนะคะอาจจะดูหมกมุ่นเกินไป(ไม่ได้ตั้งใจจะดูหรอกค่ะมีเพื่อนร่วมงานขอให้เค้ามาดูอยู่ที่ทำงานก็เลยได้ดูด้วยค่ะ
2. เมื่อก่อนหนูเคยเห็นคนเฒ่าคนแก่จะจุดธูปเทียนก่อนสวดมนต์อยากถามพี่ว่าเราต้องจุดธูปเทียนก่อนสวดมนต์ไหมคะแล้วจุดกับไม่จุดต่างกันมั้ยคะที่บ้านเมื่อก่อนพ่อจะจุดธูป 3เทียน 1 ค่ะ ดอกไม่3คู่

3. ตอนนี้ก็กำลังฝึกมโนไปบ้างแต่เหนื่อยง่วงก็จะนอน หนูก็เลยฝึกจริงๆจังๆไม่ได้ซะทีคือตอนนี้หนูจัดห้องพระแล้วค่ะมีโต๊ะหมู่บูชาคืนแรกหนูก็สวดมนต์ตามหนังสือนะคะสวดผิดสวดถูกในใจก็กลัวว่าสิ่งศักดิ์ท่านจะว่าไม่ตั้งใจรึเปล่าเพราะปกติหนูจะไม่ค่อยสวดมนต์บทอื่นเลยค่ะก็เลยอาจฟังดูขัดๆแต่สวดมนต์ตามหนังสือเสร็จก็เอาลูกไปนอนแล้วหนูก็มายกพานอีกที แล้วจะสวดมนต์อีกตามที่พี่ me,myself เคยแนะนำก่อนทำมโนแต่จะมีบทสวดบางบทจะซ้ำของเดิมที่สวดไปตะกี้ จะเป็นไรมั้ยคะที่สวดบทเดิมอีกหนูยกพานเสร็จหนูก็จะไปนั่งฝึกมโน แต่หนูจะไปนั่งบนเตียงนอนค่ะเพราะกลัวลูกจะตื่นหนูทำอย่างนี้ได้มั้ยคะรบกวนพี่ตอบหนูหน่อยนะคะขอบคุณพี่สาวมากๆนะคะทุกๆท่านที่อดทนอ่านเพราะหนูค่อนข้างจะบรมโง่จริงๆค่ะ(อาจจะดูไร้สาระไปนิดนึงขอโทษทุกๆท่านด้วยนะเจ้าคะ)
อีกนิดนึงนะคะถ้าเราสวดแบบอ่านตามหนังสือจิตใจจดจ่ออยู่กับหนังสือก็เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่เราต้องจำบทสวดให้ได้ก่อนมั้ยคะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับท่านที่จะกรุณาตอบคำถามให้หนูได้กระจ่างชัดเจน
(kiss)

 

โอ๋... น้องนก.. พี่หนิงจำชื่อน้องได้แล้วจ้า..


ที่จริงเมื่อวานก็พิมพ์เข้ามาทีแล้ว พิมพ์เสร็จดันไปกดอะไรสักอย่า่งพลาดไป .....โฮ่..... หมดกัน ยิ่งพิมพ์ไม่เป็นด้วย ค่อยๆจิ้มเอาค่ะ

ไม่เป็นไรค่ะ น้องจิ้มช้า พี่หนิงจะค่อยๆ อ่านตามทีละตัวอักษร ถือว่าเราไปพร้อมๆ กันนะคะ

กราบขอบคุณพี่หนิงก่อนที่ให้ความกรุณาวันนั้นช่วยฝึกให้

ไม่เป็นไรค่ะ น้อง เราช่วยๆ กันค่ะ น้องติด พี่ช่วยคลายปมที่ติด แล้วเราค่อยๆ เดินไปพร้อมๆ กันดีไหมค่ะ

(สำหรับท่านอื่นๆ ที่มีคำถาม ทิ้งคำถามในกระทู้ได้นะคะ คำถามในกระทู้อาจจะตรงกับคำถามของหลายๆ ท่านที่อยากถามแต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร สำหรับท่านที่ฝากหลังไมค์ของท่านกัปตัน.. อดใจรอไม่ไหวตั้งคำถามในกระทู้ เผื่อว่าท่านผู้รู้ท่านอื่นมาช่วยแนะนำดีกว่าไหมค่ะ ช่วงนี้ ท่านกัปตันมีภาระกิจหลายอย่างค่ะ)

ที่จริงแล้วหนูมีข้อสงสัยเยอะเลยค่ะ แล้วบางทถ้านั่งไปแล้วรู้สึกอึดอัดหนูก็จะถอยสมาธิเลยค่ะชอบกระทู้ค่ะนี่เพิ่งจะไล่อ่าน มาแค่ 20 หน้าเองมาอ่านหลังจากได้เจอพี่ๆที่ศูนย์พุทธศรัทธาค่ะ หนูขอสวัสดีพี่ Me, myself ด้วยค่ะชอบที่พี่เขียนค่ะ เข้าใจง่ายและเข้าใจได้ หนูปัญญาน้อยแต่คำถามเยอะค่ะ

หนูจะเล่าเรื่องคร่าวๆนะคะเพราะหนูเองคงมีปัญหาข้อสงสัยมาถามอีกหลายข้อข้อค่ะ(ขอรบกวนผู้อ่านกระทู้ท่านอื่นด้วยคะ) ตั้งแต่ตอน

เด็ก(อายุประมาณ 10กว่าๆเป็นต้นมา)คุณพ่อจะชอบและศรัทธาพระสายปฎิบัติ โดยจะหาโอกาสไปกราบไหว้เสมอ สมัยนั้นไปกับคณะหนังสือ

คนพ้นโลกค่ะ มีอาจารย์ปถัมท์เป็นผู้จัด ไปกราบครูบาพรหม หลวงปู่แหวน ครูบาธรรมชัย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่คำคนึง สมัยที่ยังมีชีวิต

อยู่ ตอนนั้นก็ไปแบบเด็กๆค่ะ แต่จะจำภาพหลวงปู่คำคนึงได้ เพราะตอนนั้นคิดว่า เจ๋งดีพระแก่ในชะง่อนเขา (ความคิดตอนเด็ก)แล้วตอนท่าน

เทศน์ป่าเงียบมาก ท่านเทศน์เป็นภาษาลาวค่ะ พอท่านเทศน์จบ ใบไม้ร่วงกราวเลยค่ะ คณะที่ไปเค้าบอกว่าเทวดามาฟังท่านเทศน์ด้วย

ตอนเด็กๆพ่อก็จะชอบให้นั่งสมาธิค่ะ ตอนเด็กจะไม่ชอบเข้าห้องพระเพราะเคยเห็นพระพูดได้ เลยกลัวพระค่ะ จะชอบเห็นวิญญาณค่ะ(ตอนเด็กก็

กลัวผีนะคะ แต่ตอนเห็นจริงๆจะไม่กลัว) เคยเห็นเท้าผู้หญิงเดินขึ้นบันไดในบ้าน เห็นหลายทีค่ะ บอกพ่อๆก็เลยนิมนต์พระมารดนำ้มนต์ หลัง

จากนั้นก็ไม่เห็น ตอนเด็กๆจะมีรายละเอียดเหตุการณ์อีกหลายอย่างที่เกิดกับญาติหรือคนรู้จัก มีทั้งเรื่องผีเข้า โดนของ เสกทอง แม้ตอนนั้นจะ

เด็กแต่ก็จะไม่ค่อยเชื่อเรื่องที่อภินิหารเท่าไหร่

​

ช่วงวัยรุ่นจะชอบซื้อดอกจำปีมาไว้ที่หัวนอน กลางคืนจะตื่นมาเห็นแต่เท้าใส่กำไลทองกลมๆ ลักษณะขยับไป มาเหมือนกับกำลังรำค่ะ บอก

พ่อๆก็ไปถามพระที่ไหนไม่ทราบ ท่านบอกว่าเป็นภูติ ก็เลยไม่กล้าซื้อมาไว้ในห้องอีก

ช่วงนั้นเรียนหนังสืออยู่ไทยวิจิตรศิลป์ มีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง เคยไปบ้านเค้าแล้วชวนกันไปนั่งสมาธิเค้าก็ร้องให้มากๆเลย ก็เลยไม่นั่งกับเค้าอีก

ตอนหลังหนูเองก็จะเห็นตัวหนูกับเค้าเป็นเด็กแบบผูกแกละ วิ่งเล่นอยู่ด้วยกันหน้าบ้านทรงไทย แล้วแม่ของเพื่อนก็จะชวนให้ไปรับขันท์แต่ตอน

นั้นหนูไม่ชอบหนูก็เลยเลี่ยงๆที่จะไปในวันไหว้ครู พอเรียนจบก็ไม่ได้เจอกันอีก พอคุณพ่อเสียหนูก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีกเลย จนมาเจอเพื่อน

เก่า(สาวปีใหม่ เรียนหนังสือกันมาสมัยประถม) ก็ชวนมารู้จักกับอาจารญ์เล็ก ก็ได้มีการนั่งเรียนสมาธิก็รู้สึกดีนะคะ แล้วครั้งหนึ่งได้มีโอกาสฝึก

มโน ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องเลย ยังไม่รู้จักสมเด็จองค์ปฐมด้วยค่ะ ครูผู้นำสอนบอกให้กราบองค์ปฐม หนูยังนึกไปถึงพระปฐมเจดีย์เลยค่ะ และใน

ครั้งนั้นขณะที่นั่งกำลังคิดว่ากราบพระ ในจิตขณะนั้นก็รู้เห็นว่าองค์พระใหญ่ขึ้น ใหญ่แบบเป็นภาพแวบ แวบ แวบ ในแต่ละแวบองค์จะใหญ่ขึ้น

จนพอหนูเงยหน้ามองตัวหนูเล็กกว่าพระบาทท่านอีก และในจิตนั้นได้เห็นท่านมองลงมาแล้วยิ้มนิดๆ แล้วได้ยินว่า หายไปไหนมา แต่ปากท่าน

ไม่ได้ขยับหรอกค่ะ พอได้ยินอย่างนั้นความรู้สึกทั้งหมดมันกลั้นไม่อยู่แล้ว เป็นความเศร้า เสียใจ รู้สึกผิด รู้สึกละอายใจร้องให้มากๆ แล้วก็

เลยกราบลามาค่ะ

พอไปต่อ(ในจิตเหมือนกลับมาบ้าน)ก็จะเห็นบ้านเรา แต่เห็นพ่อยืนอยู่ตรงบันไดทางขึ้นก็ละอายใจอีก (หนูดื้อค่ะตอนที่ท่านอยู่) รู้สึกอึดอัดไม่

สบายก็เลยออกจากสมาธิ (เค้าบอกกันว่านั่งแล้วจะเกิดปิติ แต่ในใจหนูรู้สึกผิดมากกว่า)เอาแค่นี้ก่อนนะคะ ตาลายค่ะ ตอนนี้กำลังรู้สึกว่าไป

ไหนไม่ถูกค่ะ

**ขอถามนะคะ ถ้าเราคิดว่าจิตยังไม่แข็งแรง ไม่ควรฝึกมโนคนเดียวหรือเปล่าวคะ หนูลองกลับมานั่งที่บ้านเองแต่ขณะนั้นรู้สีกว่ามีคนมายืนดู

อยู่ในห้องคะ **

**จะหยุดความรู้สึกเศร้าได้อย่างไรคะ บางครั้งยิ่งพิจารณาก็ยิ่งเศร้า...เศร้า...**

**ขณะฝึกจะเห็นพระใส่จีวรสีคล้ำเข้มมายืนมองตลอด**

​

น้องนกค่ะ.. พี่หนิงขออนุโมทนากับน้องด้วยค่ะ

ในบางคำถาม คงต้องขอให้กัลยาณมิตรผู้ที่มีความรู้มากกว่าพี่หนิงมาเป็นผู้แนะนำนะคะ (คือ ว่าพี่หนิงยังดีไม่เท่าน้องเลยจ้า..) ความรู้เท่าหางอึ่งเอง..

คำถามที่น้องนก ถามมาในเรื่องของการฝึกมโนคนเดียวได้ไหม หรือการหยุดความรู้สึกเศร้าได้อย่างไรบ้าง : พี่หนิงขออนุญาตให้คำแนะนำ ตามที่อึ่งตัวน้อยนี้ รับทราบมานะคะ
-> อยากให้น้อง ทำจิตใจให้สบาย ให้ผ่อนคลาย ถ้านึกความรู้สึกไม่ออกว่าสบายเป็นอย่างไร ระดับไหน ให้คิดถึงว่าเราไปพักผ่อนที่ชายทะเล ที่เราชอบ นั่งปล่อยอารมณ์ ชมเกลียวคลื่นในทะเลสิคะ ไม่ต้องคิดเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น ปล่อยจิตปล่อยใจไปเรื่อยๆ หรือหากคิด ก็คิดไปเลย จิตจะไปไหนก็ปล่อยไป

หากนึกได้ หรือรู้ตัว เอ้า..มาลองใหม่ปล่อยวางทุกอย่างให้สบาย สบายแบบเบริ์ดๆ (ฮา) พออารมณ์สบายๆ แทนที่ใจจะไปคิดถึงเรื่องอื่นๆ เปลี่ยนมานึกถึงพระที่น้องเคารพมากๆ (พี่หนิงจำได้ว่า จิตน้องอยู่กับหลวงปู่หลายๆ องค์เลยนะคะ) แล้วลองกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก เอาให้จิตสบาย สบาย

ทำไปจนกว่าจะรู้สึกว่าไม่อยากทำแล้ว.. หากมีความรู้สึกอยากทำอีกเมื่อไหร่ ก็ลองทำใหม่ค่ะ

เรื่องความเศร้า.. พี่หนิงก็เคยเป็นค่ะ เศร้า หดหู่ แต่ก็ตัดทิ้งไป เพราะพี่หนิงไม่อยากอยู่ กับความเศร้า.. จะบอกว่าตัวเองเป็นคนอารมณ์ดี ไม่เครียด ก็น่าจะใช่ เครียด ณ เวลานั้น.. พอแก้ไขได้ผ่านไป ก็อารมณ์ดีเหมือนเดิมค่ะ มีบ้างที่ความเครียดตกค้าง..ฮา. เหมือนตะกอนก้นถ้วยอ่ะ.. หาคนระบาย แล้วก็จบแระ.. กลับมาหัวเราะได้เหมือนเดิม

เศร้าได้ค่ะ น้อง..แต่อย่าไปติดกับอารมณ์เศร้านั้น..

ไม่รู้ว่าน้องจะได้คำตอบหรือเปล่านะคะ แต่พี่หนิงอยากบอกว่า รัก และเป็นห่วงค่ะ อย่าเศร้าเลยนะ

ขอตัวกับหัวพร้อมแขนขา.. กลับบ้านก่อนนะคะ ดึกแล้ว วันนี้มาเริ่มขยันสางกองเอกสาร โดยไม่ได้ดูเวลาว่า 5 โมงเย็นแล้ว.ฮา..

 

น้องจ๋า.. พี่หนิงไม่ใช่ ท่านพี่ทั้งสามทั้ง แต่จัดอยู่ในกลุ่มกัลยาณมิตร ที่มีแต่ให้
ขออนุญาต ตอบแทนท่านกัปตันนะคะ

1. หนูมีคำถามช่วยตอบให้หนูได้มั้ยคะ พอดีหนูเคยดูหมอดูตั้งแต่ที่ยังไม่เจอกระทู้นี้นะคะเค้าบอกว่าให้มีลูกสองคนจะได้ลูกที่เป็นเทพมาเกิดตอนนี้หนูมีหนึ่งคนแล้วค่ะว่าจะเอาแค่นี้แต่หมอดูบอกว่าเค้ามารอเกิดแล้วให้เอาอีกคนแต่หนูกลัวจะไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะเลี้ยงอีกคน...หนูเอาแค่นี้ได้มั้ยคะแล้วสมมุติว่ามีคนรอมาเกิดจริงๆเค้าจะรอมั้ยคะ..ขอโทษนะคะอาจจะดูหมกหมุ่นเกินไป(ไม่ได้ตั้งใจจะดูหรอกค่ะมีเพื่อนร่วมงานขอให้เค้ามาดูอยู่ที่ทำงานก็เลยได้ดูด้วยค่ะ

หมอดูคือคนที่พยากรณ์ / ทำนายเหตุการณ์ เพื่อนพี่หนิงก็เป็นหมอดูยูเรเนียนที่มีชื่อคนหนึ่ง ซึ่งการเชื่อถือในคำพยากรณ์นั้น พี่หนิงเชื่อปนแปลกใจว่าทำไมถึงแม่นยำถึง 98% ขนาดนี้ (วันนี้ยังเพิ่งคุยกับน้องที่ออฟฟิส เรื่องดูหมอ และเรื่องหมอดู)

การที่หมอดูบอกเรื่องใดกับพี่หนิง พี่จะใช้เป็นแนวทางในการประคองการดำเนินชีวิต เพื่อระวังไว้ค่ะ (ไม่ได้เชื่อแบบหมดใจ แต่เชื่อแบบกึ่งๆ แรกๆ ไม่เชื่อด้วยซ้ำไป จนกระทั่งรุ่นพี่ที่ดูดวงจากการอ่านดวงดาว ไปเรียนพยากรณ์โหราศาสตร์มาแล้ว มาขอดวงไปดู แล้วมาบอกว่า ดวงแปลกมาก ของเป็นกรณีศึกษาได้ไหม จากนั้นมาพี่คนนี้ก็เลยบอกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าให้ทราบ แต่การบอกไม่ได้บอกตรงๆ นะคะ จะบอกมาลักษณะของการเตือนมากกว่า เช่น รถจะเจออุบัติเหตุก็จะบอกว่า ขับรถระวังด้วยนะ ช่วงนี้ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับเราละคะ พอเราระวังมากๆ กลายเป็นเกร็งไปหรือเปล่าไม่รู้ค่ะ ฝืนดวง ฝืนกรรมคงจะไม่ได้)

การที่น้องจะมีลูกหรือไม่มี ขึ้นกับบุญกรรมของน้องมากกว่ามั้ง ว่าจะมีลูกกี่คน บางคนอยากมีแทบแย่ เสียเงินเป็นล้านๆ มีเงินเลี้ยงดูเด็กได้ แต่ไม่มีมาเกิด กับบางคนไม่ได้อยากให้เกิด กลับมีมากมายหลายคน เรื่องนี้ปล่อยวางปล่อยให้เป็นไปตามวาระดีกว่าไหมค่ะ

2. เมื่อก่อนหนูเคยเห็นคนเฒ่าคนแก่จะจุดธูปเทียนก่อนสวดมนต์อยากถามพี่ว่าเราต้องจุดธูปเทียนก่อนสวดมนต์ไหมคะแล้วจุดกับไม่จุดต่างกันมั้ยคะที่บ้านเมื่อก่อนพ่อจะจุดธูป 3เทียน 1 ค่ะ ดอกไม่3คู่

หากจุดธูปเทียนแล้ว ยังสวดมนต์ในห้อง คือไม่ปล่อยให้ธูปเทียนดับไปเองและคิดว่าปลอดภัยจากเพลิงไหม้ น้องสบายใจแบบไหน ทำไปเถอะค่ะ พี่ๆ เอง บางทีเข้าห้องพระสวดมนต์ กราบพระมือเปล่าๆ นี่ละค่ะ

3. ตอนนี้ก็กำลังฝึกมโนไปบ้างแต่เหนื่อยง่วงก็จะนอน หนูก็เลยฝึกจริงๆจังๆไม่ได้ซะทีคือตอนนี้หนูจัดห้องพระแล้วค่ะมีโต๊ะหมู่บูชา

คืนแรกหนูก็สวดมนต์ตามหนังสือนะคะสวดผิดสวดถูกในใจก็กลัวว่าสิ่งศักดิ์ท่านจะว่าไม่ตั้งใจรึเปล่าเพราะปกติหนูจะไม่ค่อยสวดมนต์บทอื่นเลยค่ะก็เลยอาจฟังดูขัดๆ แต่สวดมนต์ตามหนังสือเสร็จก็เอาลูกไปนอนแล้วหนูก็มายกพานอีกที แล้วจะสวดมนต์อีกตามที่พี่ me,myself เคยแนะนำก่อนทำมโนแต่จะมีบทสวดบางบทจะซ้ำของเดิมที่สวดไปตะกี้ จะเป็นไรมั้ยคะที่สวดบทเดิมอีกหนูยกพานเสร็จหนูก็จะไปนั่งฝึกมโน แต่หนูจะไปนั่งบนเตียงนอนค่ะเพราะกลัวลูกจะตื่นหนูทำอย่างนี้ได้มั้ยคะรบกวนพี่ตอบหนูหน่อยนะคะขอบคุณพี่สาวมากๆนะคะทุกๆท่านที่อดทนอ่านเพราะหนูค่อนข้างจะบรมโง่จริงๆค่ะ(อาจจะดูไร้สาระไปนิดนึงขอโทษทุกๆท่านด้วยนะเจ้าคะ)


อีกนิดนึงนะคะถ้าเราสวดแบบอ่านตามหนังสือจิตใจจดจ่ออยู่กับหนังสือก็เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่เราต้องจำบทสวดให้ได้ก่อนมั้ยคะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับท่านที่จะกรุณาตอบคำถามให้หนูได้กระจ่างชัดเจน

อนุโมทนากับน้องด้วยค่ะ

เรื่องการสวดมนต์ตามหนังสือ จะผิดจะถูกหากจิตเรายังอยู่ที่บทสวด รอให้ท่านผู้รู้ท่านอื่นมาให้คำแนะนำดีกว่าค่ะ ตัวพี่หนิงเองก็ยังมีตกๆ หล่นๆ แต่จิตพี่มั่นคงมีสมาธิ ในขณะที่สวดมนต์อยู่ค่ะ แรกๆ อาจจะติดๆ ขัดๆ ไม่ได้ลื่นไหล เหมือนผู้อื่นที่น้องเห็นว่าสวดมนต์คล่องจัง อยากทำแบบนั้นได้ พี่ว่าไม่ยากนะคะ ตัดละวางทุกอย่าง ไว้นอกห้องพระ นำแต่ร่างกายและจิตใจที่สงบ ทีมีความมุ่งมั่นว่าอยากกราบพระ อยากสวดมนต์ เดินเข้าห้องพระดีกว่า

หากยังกังวลเรื่องลูกที่ยังเล็กอยู่ ในขณะที่น้องพาลูกมานอน ยังสามารถสวดมนต์ได้ค่ะ (พี่หนิงว่า น้องพาลูกเข้านอนให้เรียบร้อยก่อนดีกว่าค่ะ แล้วค่อยมาสวดมนต์ จะได้ไม่กังวล หรือหากลูกโตพอแล้ว ชวนลูกมาสวดมนต์ด้วยกันสิค่ะ) พี่หนิงเองช่วงหลังๆ นี้ขณะที่นั่งทำงานก็สวดมนต์ในใจบ่อยๆ แต่ที่ทำทุกเวลาทุกขณะ คือไม่ปล่อยในลมหายใจของตัวเองทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ หายใจเข้าและออก คือ พุทโธ ค่ะ

ทำจิตในสงบ อย่ากังวลกับเรื่องอื่นใด โดยเฉพาะ เรื่องที่เราทำได้ หรือเราจะทำไม่ได้ ให้ลงมือทำก่อนค่ะ ติดขัดในเรื่องใด ลองถามมาในกระทู้นี้ ท่านที่ปฏิบัติมามากกว่าเราสองคน และผู้ที่ผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว ท่านทั้งหลาย ยินดีให้คำแนะนำ เพื่อเป็นธรรมทานค่ะ

 

ขอนุญาตนำธรรมะบางส่วนที่หลวงปู่ฤาษี สอนเรื่องอานาปานุสสติกรรมฐานมาให้อ่านกันค่ะ

================================

หลวงพ่อฤาษีฯ สอนอานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๑​

<CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER>
อันดับแรก องค์สมเด็จพระสวัสดิโสภาค ทรงแนะนำให้นักเจริญกรรมฐาน ทรงอานาปานุสสติกรรมฐานเป็นปรกติ ในมหาสติปัฏฐานสูตร พระพุทธเจ้าทรงหยิบเอาอานาปานุสสติกรรมฐานขึ้นมาก่อน ถ้าอานาปานุสสติกรรมฐานไม่ดีแล้ว องค์สมเด็จพระชินวรก็ไม่นำยกขึ้นมาให้ปฏิบัติก่อนเป็นอันดับต้นของกรรมฐานอื่นๆ


<CENTER>หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
สอนอานาปานุสสติกรรมฐาน
ในระหว่างเข้าพรรษาปี ๒๕๒๑
ตอนที่ ๑</CENTER>

สำหรับอานาปานุสสติกรรมฐาน ผมขอแนะนำให้ทุกท่านใช้ทุกอิริยาบถที่ทรงอยู่ จำไว้ให้ดีด้วยนะ ถ้าว่าท่านใช้ทุกอิริยาบถที่ทรงอยู่ล่ะก็ อารมณ์จิตมันเลี้ยวเข้าไปหาความเลวไม่ได้

จะมีเวลาว่างเพื่อสร้างความเลวตรงไหน จะกินอยู่ก็ดี จะเดินอยู่ก็ดี จะนั่งอยู่ จะนอนอยู่ จะทำการงานอยู่ จะพูดจาปราศรัยก็ดี ให้เอาใจของทุกท่านกำหนดจับอานาปานุสสติกรรมฐานไว้เป็นปรกติ จำได้ไหม

และก็ลองคิดดูสิว่า ถ้าเราเอาจิตไปจับอานาปานุสสติกรรมฐานไว้เป็นปรกติ จิตมันไม่มีเวลาว่างจากการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าหายใจออก แล้วจิตดวงนี้มันจะเอาอารมณ์เลวมาจากไหน อกุศลกรรมใดๆ มิให้มาเข้าแทรกจิตได้

โปรดจำไว้ด้วยว่า การกำหนดจิตรู้ลมหายใจเข้าลมหายใจออก จงทำเป็นปรกติ นี่ผมไม่ได้บอกว่าให้ท่านเลือกเวลาทำ ขณะใดที่ใจของท่านยังตื่นอยู่แม้ตาจะหลับ แต่ว่าใจยังตื่นอยู่ ให้เอาจิตกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกไว้เสมอ เวลาหายใจเข้ารู้อยู่ว่าหายใจเข้า เวลาหายใจออกรู้อยู่ว่าหายใจออก

ในด้านของมหาสติปัฏฐานสูตรเท่านี้ก็พอ รู้ไว้เสมอแม้แต่เวลาที่เราจะพูดจะคุยกัน จิตใจก็ต้องกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกไว้ด้วย

บางท่านคิดว่าจะเครียดเกินไป แต่อย่าลืมว่าผมทำมาแล้ว มันไม่ใช่ของหนักของคนที่มีความประสงค์ดีกับตัว ระยะเวลาใหม่ๆ ก็จะลืมบ้าง ถ้าเราตั้งใจไว้ ทรงสติสัมปชัญญะไว้ว่าเราจะกำหนดรู้ลมหายใจเข้าหายใจออก เมื่อหายใจเข้ารู้อยู่ว่าหายใจเข้า หายใจออกรู้อยู่ว่าหายใจออก หายใจเข้ายาวหรือสั้น หายใจออกยาวหรือสั้นก็รู้อยู่

ถ้าหากว่าจิตรู้สึกว่าจะว่างไปนิดหนึ่ง ถ้าเราจะกำหนดรู้เฉพาะลมหายใจเข้าหายใจออก รู้สึกว่าจะว่างๆไปสำหรับท่านที่ต้องการภาวนา

แม้ท่านผู้เจริญวิปัสสนาญาณก้าวไปสู่ระยะไกล เขาก็ไม่ทิ้งลมหายใจเข้าหายใจออก การเจริญพระกรรมฐานตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งจบความเป็นอรหันต์ และก็ทรงความเป็นพระอรหันต์แล้ว เขาก็ไม่ทิ้งลมหายใจเข้าหายใจออก

แม้แต่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง ก็ทรงตรัสกับพระสารีบุตรว่า สารีปุตตะ ดูก่อน สารีบุตร เราเองก็เป็นผู้มากไปด้วยอานาปานุสสติกรรมฐาน คำว่ามากก็หมายความว่า พระพุทธเจ้าทรงกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกเป็นปรกติ

ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าอานาปานุสสติกรรรมฐาน และการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกนี่ เป็นกรรมฐานระงับกายสังขาร คือเป็นกรรมฐานคลายอารมณ์เครียดของจิตใจ และก็เป็นกรรมฐานคลายอารมณ์เครียดทางด้านร่างกาย มีทุกขเวทนาเป็นต้น เราทรงฌานในอานาปานุสสติกรรมฐานได้ ก็คล้ายๆคนฉีดมอร์ฟีน ซึ่งเป็นยาระงับปวด ยาระงับเวทนา อานาปานุสสติกรรมฐานจงทำให้มาก จงอย่าละ

ต่อแต่นี้ไปเราจะสังเกตกันได้ ว่าพระเณรองค์ใดก็ดี อุบาสกอุบาสิกาคนใดก็ดี ที่พูดเลว ทำเลว คิดเลว แสดงอาการเลว จะได้รู้ได้ว่า คนนั้นทิ้งการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าหายใจออก จำไว้ให้ดีนะว่าปีต่อไป ระยะต่อไปนี้มีความจำเป็น ที่จะต้องเคร่งเครียดต่อปฏิปทาหนัก เพราะว่าเวลานี้ พระพุทธศาสนากำลังถูกย่ำยี ถ้าพระเณรอุบาสกอุบาสิกาของเราไม่ดี มันก็พาพระพุทธศาสนาเศร้าหมองไปด้วย

สำหรับอุบาสกอุบาสิกาที่เข้ามาอยู่นี้จงรู้ตัวไว้ด้วย อย่าสร้างตนทำตนให้ผิดระเบียบวินัย จะมาจากไหนไม่สำคัญ มีฐานะเช่นใดไม่สำคัญ มีความสำคัญอยู่อย่างเดียว ปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัยมีความสะอาดมัธยัสถ์หมดจดมั้ย มีจริยาวาจาดีมั้ย ถ้าไม่ดีเชิญไปได้ทันที ถ้าไม่ไปก็จะเชิญไป ระมัดระวัง คนที่ทำตัวทำใจเลวๆนั้นมีอยู่

ต่อนี้ไป ถ้าหากว่าเห็นว่าการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าหายใจออกมันว่างเกินไป ก็ใช้คำภาวนาควบ คำภาวนาเป็นของไม่ยาก เวลาหายใจเข้านึกว่าพุท เวลาหายใจออกนึกว่าโธ หากว่าทุกท่านมีความขยันหมั่นเพียรด้วยการตั้งใจจริง พยายามกำหนดรู้ลมหายใจเข้าลมหายใจออกไว้เป็นปรกติ และเวลาหายใจเข้านึกว่าพุท เวลาหายใจออกนึกว่าโธ

ถึงเวลาปีนี้เราสอนกันเฉพาะกิจ ไม่อนุญาตในระบบใดๆทั้งหมด อนุญาตกันตามใจนี่รู้สึกว่าจะเลอะเทอะเกินไป ระวังนะ พระก็ดี เณรก็ดี อุบาสกอุบาสิกาก็ดี ใครก็ตามถ้าเลอะ ถ้าเลอะเมื่อไรขับกันเมื่อนั้น ไม่เลือกว่าเวลาเข้าพรรษาออกพรรษา ตอนนี้คบคนชั่วไม่ได้แล้ว เพราะว่าการบีบรัดภายนอกบีบรัดเข้ามามาก จำเป็นที่จะต้องกำจัดคนชั่วภายในให้หมดไป ตั้งตัวตั้งใจทำความดีไว้ให้ดี

และก็เมื่อบรรดาท่านทั้งหลายกำหนดรู้ลมหายใจเข้าหายใจออกอยู่อย่างนี้เป็นปรกติ อะไรที่ไหนมันจะเกิดขึ้น สิ่งที่มันจะเกิดขึ้นก็คือฌานสมาบัติ ตั้งใจกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกไว้เสมอ นั่งอยู่ ยืนอยู่ เดินอยู่ นอนอยู่ ทำงานอยู่ พูดอยู่ หรือว่ากินอยู่ก็ไม่ยอมละกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก

ถ้าพอใจในคำภาวนาก็ภาวนาไปด้วย อย่างนี้ฌานโลกีย์ที่จะบังเกิดขึ้นกับท่านในอันดับของฌานสี่ อย่างเลวที่สุดในระยะหนึ่งเดือน ทุกท่านจะทรงฌานสี่หมด

ถ้าจะถามว่าผมรู้ได้ยังไง ผมขอพูดชัดๆว่าผมทำมาแล้ว และก็ผมทำอย่างนี้เพียงแค่วันที่สามของการอุปสมบทในพระพุทธศาสนา ผมเองนี่แหละกับเพื่อนอีกสองคนเข้าถึงฌานสี่ด้วยกันทั้งหมด แล้วพวกท่านจะมาเถียงว่ามันเป็นไปไม่ได้น่ะไม่ได้ ผมทำมาแล้ว และที่ได้มาไม่ใช่ผู้วิเศษวิโส เอาจริงเอาจังตามคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์เท่านั้น

แล้วคนที่จะทรงจิต อารมณ์ทรงอยู่ในฌานน่ะเขาไม่พูดมาก ไม่รุ่มร่ามกับอำนาจของความรัก ไม่รุ่มร่ามกับอำนาจของความโกรธ ไม่รุ่มร่ามกับอำนาจของความโลภ ไม่มีความหลงในตัวเอง ไม่แสวงหาทรัพย์สินนอกขอบเขตในความเป็นสมณะ ไม่แสวงหาลาภโดยการขอไม่มีขีดจำกัด ไม่ว่าใครต่อใคร เห็นหน้าใครก็ขอดะ ไอ้คนที่มีความโลภแบบนี้มันไม่ใช่พระ มันเป็นโจร และต้องไม่มีการค้าขายใดๆ ที่เราอยู่ไม่อยู่ในฐานะแห่งความจำเป็น ผลรายได้ถ้าจะได้มาในกรณีพิเศษ ผลนั้นจะต้องอยู่ในส่วนกลาง ไม่ใช่เอาไปรวบรวมไว้เป็นสมบัติของตน

นี่เราจะเห็นว่าคนที่ทรงฌานเขามีความเรียบร้อยของจิตอย่างนี้ จะเป็นที่สังเกตได้ และก็ผู้ทรงฌานจะเข้าสังคมใดๆ ก็ตาม จะไม่มองดูความดีและความเลวของบุคคลอื่น ไม่ติใคร จะมีความกตัญญูรู้คุณต่อบุคคลผู้มีคุณ ไม่อกตัญญูต่อผู้มีคุณ แม้แต่ผู้มีคุณก็เอาไปนินทาทั้งที่เขายังไม่ทำอะไร กำลังใจอย่างนี้ไม่ใช่กำลังใจของผู้ทรงฌาน เป็นกำลังใจของผู้มีสันดานเป็นสัตว์ในอบายภูมิ

=========================

อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ หลวงพ่อฤาษีฯ สอนอานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ ๑

 

ขอบคุณพี่หนิงมากๆนะคะที่มาให้คำแนะนำ...แบบว่าบางทีก็เป็นห่วงเด็กที่อยากจะมาเกิดนะคะกลัวเค้าไม่ได้เกิดก็เลยคิดสงสัยขึ้นมา...ขอบคุณพี่หนิงอีกครั้งบุญรักษานะคะ

 

สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆกัลยาณมิตรทุกท่าน หายไปตั้งนานพอมีเวลาก็พยายามไล่ตามอ่านเรื่อยๆจนมาถึงหน้านี้เข้า ก็ทำให้นึกขี้นมาได้ว่า หนูเองเคยฝันเห็นคลื่นลมและฝนที่กรรโชกรุนแรงและกำแพงคลื่นที่น่ากลัวมากไล่ตามหลังมาติดๆ ทุกสิ่งรอบตัวก็ดูมืดมิด

อารมณ์ในฝันเป็นอะไรทีน่ากลัวมากๆ หนูกับแม่จับมือกันวิ่งหนีกำแพงคลื่นกันสุดชีวิต แล้วก็รอดกันมาได้ ฝันคล้ายๆแบบนี้สองครั้งแล้ววค่ะ หากความฝันนี้จะเป็นการบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ก็ทำให้ปลงดีค่ะ

แต่หากเลือกได้คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุร้ายๆขึ้น แต่หากอะไรที่จะต้องเกิด
แล้วเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การได้ทำตามที่พี่อ้อยพิมพ์บอกไว้ข้างบน คงจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด หนูเองก็พยายามจะประพฤติปฎิบัติสิ่งที่ดีให้มากขี้น พยายามสวดมนต์ ภาวนา นั่งสมาธิเท่าที่ทำได้และมีเวลา พยายามละสิ่งที่ไม่ดีไป

อย่างน้อยก็ได้อุ่นใจที่ได้อยู่กับความดี หากวันนั้นมาถึงเราก็คงไม่หวั่นกับอะไรแล้ว เพราะมีความดีเป็นหลักยึดให้เกาะไว้ ถึงแม้ในตอนนี้จะทำได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ก็จะพยายามทำต่อไปค่ะ เผื่อพลังเล็กๆอันนี้จะมีส่วนช่วยพี่สี่ยอดกุมารและบรรดาทหารหาญทั้งหลายที่ต้องช่วยกันสำหรับภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่นั้นที่รออยู่เบื้องหน้า สู้ๆค่ะ chearrchearrchearr

กี้ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวอีกรอบนะคะ มีปัญหาในการปฎิบัติเมื่อไหร่คงได้รบกวนพี่ๆกัลยาณมิตรในที่นี้แนะนำด้วย ตอนนี้คงต้องขอตัวไปไล่อ่านกระทู้ให้ทันหน้าสุดท้ายได้เร็วๆ ก่อนนะคะ

ปล.อยากเขียนถึงคุณฝนค่ะว่า ใช้รูปดิสเพลย์แทนต้วเองได้เหมาะดีนะคะ ดูซนๆเซี้ยวๆ น่ารักดีค่ะ เหมือนกับที่ได้เคยติดตามเรื่องราวของคุณฝนมาตลอดเลย

 

ฝันคล้ายๆกันเลยค่า เห็นทีเราต้องเร่งปฎิบัติให้ดีขึ้นกว่าเดิมซะแล้ว เพราะคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ ที่มีหลายๆคนฝันถึงเหตุการณ์คล้ายๆกันนี้ รีบเร่งปฎิบัติเข้าไว้จะได้ช่วยๆกันเนาะ ไม่มากก็น้อย เต่าน้อยต้วมเตี้ยมอีกตัวขอช่วยอีกแรงค่า chearrchearrchearr

 

แวะเข้ามาทักทายค่ะ พอดีช่วงนี้ยุ่ง ๆ ก็เลยไม่ได้เข้ามา ดีใจค่ะที่ได้พบ พี่สาว พี่หนิง พี่อ้อย และอีกหลายท่าน เมื่อวันวิสาขบูชา ถ้ามีโอกาสก็อยากไปร่วมงานบุญอีกค่ะ วันนั้นถึงยังฝึกไปไม่ถึงไหน แต่ได้ความอิ่มอกอิ่มใจกลับบ้านค่ะ พี่สาวของน้องเค้าชมใหญ่เลย บอกพวกพี่ ๆ ทุกคนน่ารักดีจัง

 

"ตัดละวางทุกอย่าง ไว้นอกห้องพระ นำแต่ร่างกายและจิตใจที่สงบ ทีมีความมุ่งมั่นว่าอยากกราบพระ อยากสวดมนต์ เดินเข้าห้องพระดีกว่า"
ชอบคำพูดประโยคนี้จังเลยครับพี่...

 

เอาบุญมาฝาก ได้โอนเงินทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐมชำระหนี้สงฆ์ 100 บาท ครับ

 

ขอเสริมพี่หนิงนิดนึงครับ เรื่องการจุดธูปเป็นการบูชาพระรัตนตรัยด้วยของหอมครับ ส่วนการจุดเทียนเป็นการบูชาพระรัตนตรัยด้วยแสงสว่างของเทียนครับ ซึ่งตรงจุดนี้ก็มีอานิสงค์มากกว่าการกราบพระธรรมดาแน่นอนครับ
การจุดธูปเทียนบูชาพระมีอานิสงส์อย่างไร ?<!-- google_ad_section_end -->

<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1">


ถาม : เวลาไหว้พระที่หน้าหิ้งบูชา การไหว้ที่จุดธูปจุดเทียนและไม่ได้จุดธูปจุดเทียน จะมีความแตกต่างกันไหมคะ ?

ตอบ : ต่างกันอยู่ตรงอานิสงส์ที่ได้รับ การจุดธูปเทียนเป็นการบูชาด้วยของหอมและแสงสว่าง มีอานิสงส์เพิ่มขึ้น นอกจากการบูชาด้วยดอกไม้แล้ว ได้อานิสงส์การบูชาด้วยของหอมและแสงสว่างด้วย

แต่ถ้าว่าเราคิดว่าการจุดธูปเทียนจะทำให้การ รักษาลำบากอาจจะทำให้เกิดไฟไหม้ได้ ของเราเองใช้วิธีปฏิบัติบูชา คือ การปฏิบัติถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา แทนอานิสงส์จะสูงกว่ามากมหาศาล อานิสงส์ของอามิสบูชา คือการบูชาด้วยสิ่งของ ส่วนใหญ่ก็จะกลายเป็นเรื่องลาภยศเงินทอง แต่การปฏิบัติบูชานี่จะเป็นเรื่องของปัญญาความฉลาดในการตัดกิเลส หรือในการทำมาหากิน เพราะฉะนั้นอานิสงส์ของปฏิบัติบูชาจะได้มากกว่า

หรือว่าถ้าหากว่ากลัวว่าไฟมันจะไหม้ ก็ใช้ธูปเทียนที่ทำด้วยไฟฟ้า อย่างเก่งก็ช็อตดับไปเฉย ๆ จะมีอานิสงส์ตรงบูชาด้วยแสงสว่างอยู่ แต่กลิ่นไม่มี

ถาม : แล้วอย่างนี้ก็ไปซื้อเทียนที่เขาทำหลอดก็ใช้ได้เหมือนกันไหมคะ ?

ตอบ : ใช้ได้เหมือนกัน ปลอดภัยกว่า เผลอแล้วไฟไม่ไหม้ด้วยอย่างเก่งหลอดขาดแล้วก็ดับ

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔​

 

วันนี้ได้ร่วมทำบุญ http://palungjit.org/threads/มหาทานบริจาคสร้างพิพิธภัณฑ์พระรัตนตรัยบูชากตัญญุตารมย์สถาน.240449/ เป็นจำนวนเงิน 200 บาทเอาบุญมาฝากกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ
(kiss)

 

เอาบุญมาฝาก

เมื่อวานได้ตื่นแต่เช้าไปบริจาคเลือดที่สภากาชาติมาค่ะ

(เผื่อสมาชิคท่านอื่นอยากไปนะคะ เค้าเปิดตั้งแต่เช้า 7.30 เลยค่ะ)

แล้วแวะไปร.พ.จุฬา บริจาคดวงตา อวัยวะ และอุทิศร่างกายเมื่อตายมาค่ะ

หนูเพิ่งจะทราบความสำคัญของการอุทิศส่วนกุศล แต่ยังไม่ได้อุทิศเลยค่ะ



ขอบคุณพี่หนิงค่ะสำหรับคำตอบ คงจะปรับตัวปรับใจไปเรื่อยๆค่ะ

ช่วงนี้ก็โหลดเสียงคำสอนของหลวงพ่อครูบาเพชรฟังไปด้วยเวลาฝึกค่ะ

พี่ๆเคยมีประสพการณ์ฝึกอสุภกรรมฐานมั้ยคะ คิดถึงจังอยากได้เจอกับพี่ๆอีกจังค่ะ

 

----อนุโมทนาบุญกับท่าน Me, myself แล้วก็เพื่อนสมาชิกทุกท่านนะครับ สาธุ ----

อ่านแล้วเกิดปิติ ขึ้นทุกครั้งรู้สึกดีจนบอกไม่ถูกปลื้มใจมากครับ ที่ยังมีคนอุตส่าห์เอาประสบ

การ์ณดีๆมาแบ่งปันกัน ^^ ขอบคุณครับ

 

ขออนุญาตค่ะ ลองฟังไฟล์สอนสมาธิของอ.คณานันท์ค่ะ


<TABLE class=tborder id=post10837 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->nuttadet<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_10837", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Mar 2007
โพสต์: 1,380
ได้ให้อนุโมทนา: 8,665
ได้รับอนุโมทนา 16,537 ครั้ง ใน 1,270 โพส



</TD><TD class=alt1 id=td_post_10837 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"> <CENTER><!-- google_ad_section_start -->ไฟล์เสียงแนะนำสมาธิ โดย กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ<!-- google_ad_section_end -->

</CENTER>

<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>Artist: คุณคณานันท์ ทวีโภค


<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>ไฟล์แนบข้อความ</LEGEND><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=20><INPUT id=play_22959 onclick=document.all.music.url=document.all.play_22959.value; type=radio value=attachment.php?attachmentid=22959 name=Music>ฟัง</TD><TD></TD><TD>01-อานาปานสติ-ภาคเช้า.mp3 (28.48 MB, 11846 views)</TD></TR><TR><TD width=20><INPUT id=play_22960 onclick=document.all.music.url=document.all.play_22960.value; type=radio value=attachment.php?attachmentid=22960 name=Music>ฟัง</TD><TD></TD><TD>02-กสิน อรูปฌาน มโนมยิทธิ-ภาคบ่าย.mp3 (29.85 MB, 8068 views)</TD></TR></TBODY></TABLE></FIELDSET>
<!-- google_ad_section_start -->เป็นไฟล์นำสมาธิของ อ.คณานันท์ ทวีโภค มีด้วยกัน 2 ไฟล์

ไฟล์ที่ 1 แนะนำ จับลมสบายจนถึงฌาณ ๔ และการแผ่เมตตา ทรงพรหมวิหาร ๔

ไฟล์ที่ 2 แนะนำการทำกสิณ อรูปฌาณ และมโนมยิทธิ<!-- google_ad_section_end -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

ตอนนี้ก็ยังฝึกไม่ค่อยคืบหน้าเลยยังเป็นเต่าต้วมเตี้ยมอยู่เลยจะพยายามนะคะ สู้ๆ
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะchearr

 

สู้ๆค่ะ ปูก็ฝึกได้นิดๆหน่อยๆค่ะ

 

นำมาฝากกัลยาณชนทุกท่านครับ
กิเลสเท่ามหาสมุทร
แต่ความเพียรเท่าฝ่ามือ
มันห่างไกลกันขนาดไหน
คนสมัยนี้ เพียงใช้ฝ่ามือแตะมหาสมุทร
ทำความเพียรเพียงเล็กน้อย
แต่หมายมั่นปั้นมือว่าจะข้า<WBR>มโลกสงสาร
เมื่อไม่ได้ตามใจหวังก็หา
เรื่องตำหนิศาสนาและกาลสถาน<WBR>ที่

หลวงปู่มั่นพระอาจารย์ใหญ่
เทศน์สอนหลวงปู่ขาว

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต


หลวงปู่ขาว อนาลโย

 

เมื่อคืนรู้สึกว่าทำสมาธิแล้วเริ่มจะเห็นแสงนวลๆแล้วค่ะเหมือนตัวพองใหญ่มากๆเลยมีใครเคยเป็นแบบนี้บ้างคะ....เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะอาจจะเป็นเต่าอยู่...แต่จะพยายามให้มากๆค่ะ:z2
อนุโมทนาบุญกับกัลยาณมิตรทุกๆท่านด้วยค่ะ