ของทนสิทธิ์ วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง ขี้หมากฤาษี วัตถุมงคลรวมชุด เชิญบูชาได้

รับทราบครับ แล้วจะรีบจัดส่งไปไห้ครับ
ขอบพระคุณมากครับ

 

อีกประมาณอาทิตหน้าจะมีของเข้ามาไหม่ครับ รอติดตามได้ก่อนหมดครับ

 

ท่านไดที่ต้องการปรอท ใหญ่แบบพิเศษ ที่มีขนาดใหญ่กว่าไข่ไก่ขึ้นไปกรุณาติดต่อสั่งทำพิเศษมาได้ครับ

 

ไม่มีอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ บ้างหรือครับ คุณ พญานาคราช

 

ตอนนี้ยังไม่มีมาครับ ต้องรออีกประมาณอาทิตหน้าจะมีมาครับ
ขอบพระคุณมากที่ไห้ความสนใจครับ

 

รายการที่ 83 ปรอทแท้ นพเก้า


ข้อมูลเพิ่มเติมอีก สืบทราบมาว่า ปรอทของอาจารย์ท่านนี้เป็นสายวิชาของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร เกจิอรหันต์แห่งลุมน้ำโขง ทราบว่าตอนหลวงปู่ฝั้นท่านธุดงอยู่ในป่าแถบประเทศลาวท่านได้วิชานี้มาจากแถบภูเขาควาย แดนอาถรรย์ และในประวัติของท่าน ยังเคยเขียนไว้ว่าหลวงปู่ฝั้นได้ธุดงอยู่ในป่า นับสิบปี แต่ท่านหาไม่ป่วยไข้เจ็บปวดเลย ซึ่งยิ่งในสมัยนั้นใข้มาเลเรียระบาด แต่ขณะที่ท่านอยู่ในป่านั้นท่านไม่เคยป่วยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะท่านมีของวิเศษอย่างหนึ่ง นั้นคือปรอทที่ท่านพกติดตัวตลอด ท่านสามารถชมปรอทของหลวงปู่ฝั้นได้ที่พิพิธพันธ์ หลวงปู่ฝั้น อาจารโรได้ที่ วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร ในพิพิธพันธ์ของท่าน พบของวิเศษที่ท่านติดตัว ตอนออกธุดง ในป่านานนับ สิบปีนั้นคือปรอท และยังพบว่านชนิดนึง ที่ท่านพกแต่ไม่ทราบว่าเป็นว่านอ่ะไร ก็มีเกจิท่านนึงได้เล่าเรียนต่อมาจากหลวงปู่ฝั้น ซื่งพระท่านนี้ เป็นผู้มีชื่อเสียงมากแต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าท่านชื่ออ่ะไร แต่รู้ว่าท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ขณะนี้ท่านล่ะสังขารไปแล้ว แต่สังขารไม่เน่า แต่ผมจำชื่อท่านไม่ได้ และต่อมาอาจารย์ฆราวาสที่ทำปรอทนี้ก็ได้เรียนมาจาก อาจารย์ท่านนี้ที่เพิ่งมรณะภาพไปแต่สังขารไม่เน่า เพราะฉนั้นสายวิชาท่านไม่ได้กว้าง และตอนนี้ไม่มีคนสืบวิชานี้แล้ว เนื้องจากไม่มีคนปฏิบัติได้ ท่านจึงไม่ถ่ายทอดไห้ใคร และไม่เปิดเผยตัว ใครที่ต้องการก็รีบๆๆเก็บ เพราะต่อไปจะหายากและไม่มีอีกแล้ว

ปรอทนี้ เป็นปรอทแท้ ล้าน % ผมได้มาจากอาจารฆราวาสท่านหนึ่งของไทย เป็นอาจารผู้เดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในประเทศไทย ที่มีวิชาเรียกปรอท โดยไม่ใช้ไข่เน่าดัก แต่เรียกขึ้นมากจากพื้นดินคล้ายเกล็กไหล และสามารถใช้วิชาทำไห้ปรอทแข็งโดยไม่ผสม สารตัวอื่นคือ เทปรอทลงในเบ้าแล้ว เส็กคาถา ประรอทก็จะแข็ง สำหรับปรอทนี้ มีพุทธคุณครอบจักวาล น้องๆๆเหล็กไหลที่เห็นขอยกันตามทั่วไปนั้น อาจป็นปรอที่ สังเคราะขึ้น จากแร่ตะกัวและอื่นๆๆและทำไห้แข็งตัวโดยแร่อื่นๆๆ แต่ที่นี้ เป็นปรอทปริสุทธิไม่มีส่วนผสมของอ่ะไรอื่น สามารถอมได้ กินได้ สารพัดรักษาโรค

สำหรับ การทดสอบว่าเป็นปรอทแท้ไม่แท้ ไห้นำปรอท มาถูกับการดาษซองบุหรี ด้านที่มีต่ะกั่ววางไว้บนผ่ามือแล้ว ถูไม่กี่ครั้ง จะร้อนมาก และร้อนแรงๆๆ
ส่วนอีกวิธีคือ เอาปรอท สองอันมาถูกัน แล้วสังเกตดูว่า ปรอทจะล่ะลาย เมื่อแยกออกจากกันปรอท จะเป็นดังเดิน ซื่งเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ
ส่วนการใช้ปรอทนั้นถ้าเป็นโรคปวดภายนอกต่างๆๆไห้เอาปรอทมาถูที่บริเวรปวด หรือบริเวร ที่ฟกช้ำ ถูไห้เป็นสีดำไม่ต้องล้านออก ปล่อยทิ้งไว้แล้วจะหายปวดอย่างน่าอัศจรรย์

ข้อห้าม ห้ามคนเกิดปีมะโรง ปีมะแม คนธาตุทอง คนชื่อทอง ห้ามใช้

เล่นแร่แปรธาตุ ปรอทวิเศษ (สำเร็จ)
การแปรธาตุหนึ่งไปสู่อีกธาตุหนึ่งที่มีคุณลักษณะทางกายภาพและเคมีให้ต่างไปจากเดิมนั้นชาวสยามในสุวรรณภูมิมีวิทยาการในเรื่องนี้มาช้านานจากตำนานพบว่าได้รับการถ่ายทอดมาจากชาวชมพูทวีปที่ได้รับความรู้นี้มาจากไอยคุปต์โบราณอีกทอดหนึ่ง เรื่องการเล่นแร่แปรธาตุนี้เป็นเรื่องจริงที่มิใช่เพียงตำนานที่เล่าขานนอกจากการแปรธาตุให้เป็นสิ่งที่มีค่ามากขึ้นยังพบว่ามีการใช้ในการสรรสร้างวัตถุที่ประจุพลังจิตอีก เรื่องราวเหล่านี้พบในเอกสารโบราณหลายฉบับทั้งยังมีกล่าวในพระไตรปิฏกตอนที่กล่าวถึงโลกจินไตยว่าอันคติเรื่องโลกนั้นแบ่งได้สองสาขา คือ

มนิกาวิชชาคือความรู้เรื่องจิตศาสตร์อันได้แก่ ความรู้ทางจิต การบำเพ็ญจิตในลักษณะต่างๆทั้งก่อนพุทธกาลและในขณะนั้นเช่นการสะกดจิต การฝึกปราณยามะ การเพ่งกสิณ

ตัชชารีวิชชา อันนี้คือความรู้เรื่องเครื่องลางของขลัง ๔ ประการ อ
มูลตัชชารี ความรู้เรื่องต้นไม้ว่านยาที่มีอานุภาพต่างๆ
มันตาตัชชารีวิชชาได้แก่ความรู้เรื่องเวทมนต์ต่างๆที่หลายท่านคุ้นเคยกันดี
อังกตัชชารีวิชชาได้แก่ความรู้เรื่องการทำเครื่องลางของขลังพวกพระเครื่อง ผ้ายันต์ ตะกรุดพิสมรต่างๆ
ธาตุตัชชารีวิชชา คือความรู้เรื่องแร่ธาตุต่างที่มีอิทธิฤทธิ์รวมทั้งวิชาเคมียุคดึกดำบรรพ์เรียกว่ารสายนเวทที่เป็นความรู้


เกี่ยวกับเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุต่างๆเช่นการแปรธาตุตะกั่วเป็นทองคำ(สีสัน- ลักษณะโครงสร้างภายนอก)การแปรธาตุปรอทเป็นของแข็งที่เรียกกันว่าปรอทสำเร็จธาตุกายสิทธิ์วิชาเรื่องการแปรธาตุนี้เกือบเหลือเป็นเพียงแค่ตำนานเพราะมีผู้รู้สืบทอดน้อยลงวิชาประการต่างๆก็พลอยสาบสูญไปกับผู้ที่รู้วิชาเหล่านั้น

การแปรธาตุนั้นถือเป็นการร่ำเรียนพระเวทขั้นสูงเพราะต้องใช้ทั้งความรู้และสติปัญญาในการไขปริศนาแห่งวิชาให้เข้าใจทั้งต้องมีพลังจิตในระดับอัปมัญญาสมาธิ(ฌานสมาบัติ)จึงจะสามารถทำสำเร็จ เท่าที่พบในประวัติศาสตร์ของชาวสยามนั้นมีวิชาการที่กล่าวถึงเรื่องนี้อยู่มากทั้งปรากฏหลักฐานในพระเครื่องรางของขลังที่ผู้มีความรู้พระเวทสายนี้สรรสร้างบรรจุไว้ตามกรุเจดีย์ต่างๆแสดงถึงความรุ่งเรืองของรสายนเวทในสมัยนั้น หากท่านเป็นนักนิยมพระเครื่องคงรู้จักเครื่องลางเช่นลูกปรอทกรอก็เป็นประดิษฐกรรมอย่างหนึ่งและพระเครื่องที่ทรงฤทธานุภาพสูงที่บรรจุในกรุโบราณมาแต่สมัยศรีอโยธยารามเทพ
นครที่สรรสร้างด้วยพระเวทสายเล่นแร่แปรธาตุก็คือ พระกรุวัดท้ายย่าน จังหวัดชัยนาทที่ปรากฏมีผู้เรืองวิทยาคมสูงส่งสืบทอดอย่างไม่ขาดสายจนปัจจุบันความเข้มขลังของพระกรุนี้นักนิยมพระรุ่นเก่าถึงขนาดดูแท้ปลอมด้วยการอาราธนากำพระเครื่องนี้แล้วนำเข็มฉีดยาแทงหากว่าเข็มทะลุผ่านชั้นเนื้อไปได้ก็ถือว่าพระเครื่องท้ายย่านองค์นั้นปลอม นี่คือกฤติยาคมที่ผ่านพ้นอดีตจนมาพิสูจน์ความจริงแท้ในโลกปัจจุบันนอกจากพระกรุวัดท้ายย่านจะมีอิทธิคุณเข้มขลังแล้วท่านทราบไหมว่าพระเครื่องชุดนี้สร้างจากวิชาเล่นแร่แปรธาตุที่ปรากฏในตำนานสยามคือวิชาปรอทสำเร็จธาตุกายสิทธิ์นั่นเองเมื่อผ่านกาลเวลานานนับร้อยปีประกอบกับความร้อนเย็นในกรุพระปรอทนั้นก็กินตัวกรอบไม่คงทนทำให้พระชุดนี้ตกแตก บรรดานักนิยมพระเครื่องที่ไม่เดียงสาก็คิดว่าพระท้ายย่านนั้นมีส่วนผสมสร้างจากแร่พลวง(วุลแฟรม)ชนิดหนึ่งเท่านั้นและท่านทราบอีกหรือไม่ว่าพระชุดนี้มิได้ใช้การหลอมเทด้วยความร้อน แต่เป็นการปั้นอัดพิมพ์โลหะกายสิทธิ์นั้นด้วยวิชาพระเวทขั้นสูงที่น่าตื่นตะหนกที่หลอมโลหะด้วยพระเวทแล้วชุบให้แข็งตัวหลายท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจบอกว่าเหลือเชื่อไม่น่าเป็นไปได้แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงครับ

ก่อนที่จะมาถึงการหลอมปรอทโดยไม่ใช้ไฟที่มีนักวิทยาคมหลายท่านสงสัยว่าจริงหรือ ? บางท่านถึงกับกล่าวปรามาสไปก็มีว่าเป็นเรื่องเล่นกลหลอกลวงหรือบางรายกล่าวแบบขอไปทีว่าถึงทำได้แล้วไงจะขลังจริงหรือ อันนี้เป็นเรื่องต่างความคิดต่างความเชื่อกันคงไปบังคับกะเกณฑ์กันไม่ได้แต่ที่นำมาเล่าให้ฟังนี่ก็เพื่อสืบตำนานเรื่องราวที่เป็นความเชื่อทางวัฒนธรรมประการหนึ่งของไทยเราจะขอปูพื้นความรู้เรื่องปรอทวิเศษหรือปรอทสำเร็จที่เป็นของวิเศษในความเชื่อของผู้ศึกษาวิทยาคมว่าใครหากทำได้เเล้วก็นับว่าบรรลุจุดสูงสุดในวิชาวิทยาคมประการหนึ่งเเบบเดียวกับที่เราศึกษาวิชาความรู้ภาคสามัญแล้วได้ปริญญาอย่างไรอย่างนั้นจึงขอคัดตำราการหุงปรอทสำเร็จแบบหนึ่งซึ่งจริงในเมืองไทยมีตำราแบบที่ว่าด้วยการหุงปรอทนี่เท่าที่พบไม่น้อยกว่ายี่สิบตำราครับการหุงปรอทตำรับนี้ที่ได้จากตำราเก่าอายุหลายร้อยปีเล่มหนึ่งกล่าวถึงการหุงปรอทและสรรพคุณไว้จึงขอคัดมาเป็นพื้นความรู้เพื่อกล่าวถึงเนื้อความต่อๆไปดังนี้ครับ

ปรอทเป็นของเหลวและไหลกลอกกลิ้งได้เช่นเดียวกับน้ำ หลักวิทยาศาสตร์ปรอทนั้นจะมีอาการหดตัวเมื่อถูกความเย็นและพองตัวเมื่อถูกความร้อน ตามวิชาการแพทย์ก็ต้องใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดระดับความร้อนของคนไข้ หลักอุตุนิยมวิทยาก็ใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดอุณหภูมิเป็นต้น

เพราะความคุมตัวกันไม่ติดของปรอท และเป็นธาตุชนิดหนึ่งที่มีอาการประหลาดนี้เอง ในโบราณกาลจึงถือว่าปรอทนั้นหากผู้ใดมีวิชาสามารถทำคุมตัวกันได้ และประกอบพิธีโดยหลักไสยศาสตร์อันถูกต้องครบถ้วนแล้วฤทธิอันเกิดจากวิทยาคมซึ่งรวมอยู่ในปรอทนั้นอาจจะสามารถนำผู้ที่เป็นเจ้าของให้เกิดอิทธิฤทธิและกระทำปาฏิหาริย์ต่างๆได้ ดังอุปเท่ห์โบราณดังนี้

ผู้ใดอมปรอทไว้ ผู้นั้นจะมีรูปร่างดังพระมหาจักรพรรดิ (หมายถึง ความมีเดช ฤทธิ์ และความงามเป็นที่เสน่หากระมังอันนี้รวมถึงอานุภาพที่คล้ายกับเหล็กไหลในตำนานที่เด่นเรื่องคุ้มครองป้องกันด้วย) เสียงไพเราะ ดังท้าวมหาพรหม (หมายถึง พูดถูกใจบุคคล เป็นเสน่ห์ พูดอะไรมีคนเชื่อถือกระมัง) ไปป่าหิมพานต์ยาม ๑ ก็ถึง (คงหมายถึงการปาฏิหาริย์ ล่องหน) ไป ๔ ทวีป ในนิ้วมือเดียว (เช่นเดียวกับข้อ ๓ หรืออาจหมายถึงกายทิพย์ก็ได้) คิดอะไรสำเร็จความปรารถนา

ประวัติและความเป็นมาของ"ปรอท"
ปรอท ตามคติของการสร้างวัตถุมงคล เป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ โดยในสมัยโบราณท่านกล่าวไว้ว่า ให้นำแร่ปรอทมาใช้เป็นส่วนผสม ส่วนหนึ่งในการรักษาโรคต่างๆ ของยาแผนโบราณ และบางส่วนก้อใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ในอีกส่วนหนึ่งก็มีการทำให้แข็งตัวตามตำราที่สืบทอดกันมาจากโบราณ ที่เรียกขานกันว่าเป็นการเล่นแร่แปรธาตุ เพราะวงการนักนิยมเครื่องรางของลัง เชื่อถือกันว่า ปรอท เป็นแร่ธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีอานุภาพ อยู่ในตัวเอง แม้นจะเก็บไว้นานก้อคงสภาพไม่แปรเปี่ยนเป็นสีอื่น ปรอทที่แท้จริงจะมีสีขาว ถ้าขัดถูจะดูสดใสขึ้นในทันที จะดูเป็นสีใหม่อยู่เสมอ พิสูจน์ได้โดยเอาถูกับตะกั่วซองบุหรี่ จะร้อนไหม้ขึ้นในทันที เอาหลังแตะกันจะเห็นเป็นยาง เอาถูอลุมิเนียมจะเป็นขุยขึ้นมา เอาถูที่มือ จะป็นสีดำ จึงจะเป็นของแท้ถูกต้องตามตำรา สรรพคุณของปรอท ใช้ได้กว้างขวาง เหมาะแก่ท่านที่อยู่ตามชนบท ต่างๆ เช่น ตามไร่ นา ป่า เขา ควรมีพระปรอทติดตัวไว้บูชา ป้องกันอันตรายได้หลายอยาง บรรพบุรุษนับถือกันจริงๆ ยิ่งนำมาสร้างเป็นพระหลวงปู่ทวดเหยีย่บน้ำทะเลจืด ถือได้ว่าย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์หลายอย่าง เพราะหลวงปู่ทวด เป็นสุดยอดพระนิรันตราย พระเนื้อปรอทหลวงปู่ทวดนี้ นำพกติดตัว เมื่ออันตรายใช้ได้ทันที อาทิ แช่น้ำเป็นน้ำพุทธมนต์ หรือ ดื่มกินเพื่อักษาโรคต่างๆ อานุภาพ ของพระเนื้อปรอทตามตำนานที่เชื่อถือกันมาแต่โบราณ
1. เมื่อถูกของมีคม ใช้ถูปากแผล ห้ามเลือด และแผลจะปิดทันที
2. กันไข้ป่า ไข้พิษ ต่างๆ
3. ดูดพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ใช้น้ำสุราล้างพระปรอท ปิดแผล
4. ดูดพิษงู
5. ป้องกันภูติ ผีปิศาจ และคุณไสย
6. เวลาเดินทางไกล อาราธนาติดตัว หรือแช่ทน้ำมนต์ ประพรหมยานพาหนะป้องกันภยันตรายต่างๆ
7. ปวดฟันให้อมพระปรอทไว้
8. ป้องกันยาพิษ ยาสั่ง
9. ทารักษาโรคผิวหลังกลากเกลื้อน
10. เป็นฝี ใช้พระเนื้อปรอท ล้างน้ำสุรา ปิดที่หัวฝี การเล่นแร่แปรธาตุหุงหาปรอท ตามตำหรับโบราณนี้ เป็นเรื่องที่หาพระคณาจารย์ ผู้ที่มีวิชาทำได้ยากยิ่ง ดังนั้นพระปรอทจึงเป็นสิ่งสำคัญหายาก จึงควรเก็บักษาไว้ให้ดี เพราะตำราที่ใช้หุงปรอทนั้นเป็นตำรับที่ตกทอดมาแต่โบราณ เป็นการรักษา ของเก่าที่มีมาแต่ครั้งบรรพบุรุษไม่ให้สูญหายไปกับกาลเวลา
คาถาหัวใจปรอท วะโมตุ ทันตานัง
โทรสอบถาม ขอค่าจัดส่งเพิ่มอีก 50 บาท

สนใจติดต่อได้ที่ 0831409216 (เชษ)
ก่อนโอนเงินกรุณาโทรสอบถามก่อนว่าของอยู่มัย
สามารถโอนเงินได้ที่
ธนาคารกรุงไทย
สาขาคำชะอี
ชื่อบัญชี นายกฤตธัช(เชษฐพล) โมราสุทธิ์
บัญชี เลขที่ 436-0-11356-0
จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ
chetsu_kung@hotmail.com แอดมาสอบถามได้ ออนตลอดครับ<O</O<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
ถือจรรยาบรรที่ว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน น่ะครับ

 

รายการที่ 84 ปรอทแกะเป็นเสือ

ข้อมูลเพิ่มเติมอีก สืบทราบมาว่า ปรอทของอาจารย์ท่านนี้เป็นสายวิชาของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร เกจิอรหันต์แห่งลุมน้ำโขง ทราบว่าตอนหลวงปู่ฝั้นท่านธุดงอยู่ในป่าแถบประเทศลาวท่านได้วิชานี้มาจากแถบภูเขาควาย แดนอาถรรย์ และในประวัติของท่าน ยังเคยเขียนไว้ว่าหลวงปู่ฝั้นได้ธุดงอยู่ในป่า นับสิบปี แต่ท่านหาไม่ป่วยไข้เจ็บปวดเลย ซึ่งยิ่งในสมัยนั้นใข้มาเลเรียระบาด แต่ขณะที่ท่านอยู่ในป่านั้นท่านไม่เคยป่วยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะท่านมีของวิเศษอย่างหนึ่ง นั้นคือปรอทที่ท่านพกติดตัวตลอด ท่านสามารถชมปรอทของหลวงปู่ฝั้นได้ที่พิพิธพันธ์ หลวงปู่ฝั้น อาจารโรได้ที่ วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร ในพิพิธพันธ์ของท่าน พบของวิเศษที่ท่านติดตัว ตอนออกธุดง ในป่านานนับ สิบปีนั้นคือปรอท และยังพบว่านชนิดนึง ที่ท่านพกแต่ไม่ทราบว่าเป็นว่านอ่ะไร ก็มีเกจิท่านนึงได้เล่าเรียนต่อมาจากหลวงปู่ฝั้น ซื่งพระท่านนี้ เป็นผู้มีชื่อเสียงมากแต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าท่านชื่ออ่ะไร แต่รู้ว่าท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ขณะนี้ท่านล่ะสังขารไปแล้ว แต่สังขารไม่เน่า แต่ผมจำชื่อท่านไม่ได้ และต่อมาอาจารย์ฆราวาสที่ทำปรอทนี้ก็ได้เรียนมาจาก อาจารย์ท่านนี้ที่เพิ่งมรณะภาพไปแต่สังขารไม่เน่า เพราะฉนั้นสายวิชาท่านไม่ได้กว้าง และตอนนี้ไม่มีคนสืบวิชานี้แล้ว เนื้องจากไม่มีคนปฏิบัติได้ ท่านจึงไม่ถ่ายทอดไห้ใคร และไม่เปิดเผยตัว ใครที่ต้องการก็รีบๆๆเก็บ เพราะต่อไปจะหายากและไม่มีอีกแล้ว

ปรอทนี้ เป็นปรอทแท้ ล้าน % ผมได้มาจากอาจารฆราวาสท่านหนึ่งของไทย เป็นอาจารผู้เดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในประเทศไทย ที่มีวิชาเรียกปรอท โดยไม่ใช้ไข่เน่าดัก แต่เรียกขึ้นมากจากพื้นดินคล้ายเกล็กไหล และสามารถใช้วิชาทำไห้ปรอทแข็งโดยไม่ผสม สารตัวอื่นคือ เทปรอทลงในเบ้าแล้ว เส็กคาถา ประรอทก็จะแข็ง สำหรับปรอทนี้ มีพุทธคุณครอบจักวาล น้องๆๆเหล็กไหลที่เห็นขอยกันตามทั่วไปนั้น อาจป็นปรอที่ สังเคราะขึ้น จากแร่ตะกัวและอื่นๆๆและทำไห้แข็งตัวโดยแร่อื่นๆๆ แต่ที่นี้ เป็นปรอทปริสุทธิไม่มีส่วนผสมของอ่ะไรอื่น สามารถอมได้ กินได้ สารพัดรักษาโรค

สำหรับ การทดสอบว่าเป็นปรอทแท้ไม่แท้ ไห้นำปรอท มาถูกับการดาษซองบุหรี ด้านที่มีต่ะกั่ววางไว้บนผ่ามือแล้ว ถูไม่กี่ครั้ง จะร้อนมาก และร้อนแรงๆๆ
ส่วนอีกวิธีคือ เอาปรอท สองอันมาถูกัน แล้วสังเกตดูว่า ปรอทจะล่ะลาย เมื่อแยกออกจากกันปรอท จะเป็นดังเดิน ซื่งเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ
ส่วนการใช้ปรอทนั้นถ้าเป็นโรคปวดภายนอกต่างๆๆไห้เอาปรอทมาถูที่บริเวรปวด หรือบริเวร ที่ฟกช้ำ ถูไห้เป็นสีดำไม่ต้องล้านออก ปล่อยทิ้งไว้แล้วจะหายปวดอย่างน่าอัศจรรย์

ข้อห้าม ห้ามคนเกิดปีมะโรง ปีมะแม คนธาตุทอง คนชื่อทอง ห้ามใช้

เล่นแร่แปรธาตุ ปรอทวิเศษ (สำเร็จ)
การแปรธาตุหนึ่งไปสู่อีกธาตุหนึ่งที่มีคุณลักษณะทางกายภาพและเคมีให้ต่างไปจากเดิมนั้นชาวสยามในสุวรรณภูมิมีวิทยาการในเรื่องนี้มาช้านานจากตำนานพบว่าได้รับการถ่ายทอดมาจากชาวชมพูทวีปที่ได้รับความรู้นี้มาจากไอยคุปต์โบราณอีกทอดหนึ่ง เรื่องการเล่นแร่แปรธาตุนี้เป็นเรื่องจริงที่มิใช่เพียงตำนานที่เล่าขานนอกจากการแปรธาตุให้เป็นสิ่งที่มีค่ามากขึ้นยังพบว่ามีการใช้ในการสรรสร้างวัตถุที่ประจุพลังจิตอีก เรื่องราวเหล่านี้พบในเอกสารโบราณหลายฉบับทั้งยังมีกล่าวในพระไตรปิฏกตอนที่กล่าวถึงโลกจินไตยว่าอันคติเรื่องโลกนั้นแบ่งได้สองสาขา คือ

มนิกาวิชชาคือความรู้เรื่องจิตศาสตร์อันได้แก่ ความรู้ทางจิต การบำเพ็ญจิตในลักษณะต่างๆทั้งก่อนพุทธกาลและในขณะนั้นเช่นการสะกดจิต การฝึกปราณยามะ การเพ่งกสิณ

ตัชชารีวิชชา อันนี้คือความรู้เรื่องเครื่องลางของขลัง ๔ ประการ อ
มูลตัชชารี ความรู้เรื่องต้นไม้ว่านยาที่มีอานุภาพต่างๆ
มันตาตัชชารีวิชชาได้แก่ความรู้เรื่องเวทมนต์ต่างๆที่หลายท่านคุ้นเคยกันดี
อังกตัชชารีวิชชาได้แก่ความรู้เรื่องการทำเครื่องลางของขลังพวกพระเครื่อง ผ้ายันต์ ตะกรุดพิสมรต่างๆ
ธาตุตัชชารีวิชชา คือความรู้เรื่องแร่ธาตุต่างที่มีอิทธิฤทธิ์รวมทั้งวิชาเคมียุคดึกดำบรรพ์เรียกว่ารสายนเวทที่เป็นความรู้


เกี่ยวกับเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุต่างๆเช่นการแปรธาตุตะกั่วเป็นทองคำ(สีสัน- ลักษณะโครงสร้างภายนอก)การแปรธาตุปรอทเป็นของแข็งที่เรียกกันว่าปรอทสำเร็จธาตุกายสิทธิ์วิชาเรื่องการแปรธาตุนี้เกือบเหลือเป็นเพียงแค่ตำนานเพราะมีผู้รู้สืบทอดน้อยลงวิชาประการต่างๆก็พลอยสาบสูญไปกับผู้ที่รู้วิชาเหล่านั้น

การแปรธาตุนั้นถือเป็นการร่ำเรียนพระเวทขั้นสูงเพราะต้องใช้ทั้งความรู้และสติปัญญาในการไขปริศนาแห่งวิชาให้เข้าใจทั้งต้องมีพลังจิตในระดับอัปมัญญาสมาธิ(ฌานสมาบัติ)จึงจะสามารถทำสำเร็จ เท่าที่พบในประวัติศาสตร์ของชาวสยามนั้นมีวิชาการที่กล่าวถึงเรื่องนี้อยู่มากทั้งปรากฏหลักฐานในพระเครื่องรางของขลังที่ผู้มีความรู้พระเวทสายนี้สรรสร้างบรรจุไว้ตามกรุเจดีย์ต่างๆแสดงถึงความรุ่งเรืองของรสายนเวทในสมัยนั้น หากท่านเป็นนักนิยมพระเครื่องคงรู้จักเครื่องลางเช่นลูกปรอทกรอก็เป็นประดิษฐกรรมอย่างหนึ่งและพระเครื่องที่ทรงฤทธานุภาพสูงที่บรรจุในกรุโบราณมาแต่สมัยศรีอโยธยารามเทพ
นครที่สรรสร้างด้วยพระเวทสายเล่นแร่แปรธาตุก็คือ พระกรุวัดท้ายย่าน จังหวัดชัยนาทที่ปรากฏมีผู้เรืองวิทยาคมสูงส่งสืบทอดอย่างไม่ขาดสายจนปัจจุบันความเข้มขลังของพระกรุนี้นักนิยมพระรุ่นเก่าถึงขนาดดูแท้ปลอมด้วยการอาราธนากำพระเครื่องนี้แล้วนำเข็มฉีดยาแทงหากว่าเข็มทะลุผ่านชั้นเนื้อไปได้ก็ถือว่าพระเครื่องท้ายย่านองค์นั้นปลอม นี่คือกฤติยาคมที่ผ่านพ้นอดีตจนมาพิสูจน์ความจริงแท้ในโลกปัจจุบันนอกจากพระกรุวัดท้ายย่านจะมีอิทธิคุณเข้มขลังแล้วท่านทราบไหมว่าพระเครื่องชุดนี้สร้างจากวิชาเล่นแร่แปรธาตุที่ปรากฏในตำนานสยามคือวิชาปรอทสำเร็จธาตุกายสิทธิ์นั่นเองเมื่อผ่านกาลเวลานานนับร้อยปีประกอบกับความร้อนเย็นในกรุพระปรอทนั้นก็กินตัวกรอบไม่คงทนทำให้พระชุดนี้ตกแตก บรรดานักนิยมพระเครื่องที่ไม่เดียงสาก็คิดว่าพระท้ายย่านนั้นมีส่วนผสมสร้างจากแร่พลวง(วุลแฟรม)ชนิดหนึ่งเท่านั้นและท่านทราบอีกหรือไม่ว่าพระชุดนี้มิได้ใช้การหลอมเทด้วยความร้อน แต่เป็นการปั้นอัดพิมพ์โลหะกายสิทธิ์นั้นด้วยวิชาพระเวทขั้นสูงที่น่าตื่นตะหนกที่หลอมโลหะด้วยพระเวทแล้วชุบให้แข็งตัวหลายท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจบอกว่าเหลือเชื่อไม่น่าเป็นไปได้แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงครับ

ก่อนที่จะมาถึงการหลอมปรอทโดยไม่ใช้ไฟที่มีนักวิทยาคมหลายท่านสงสัยว่าจริงหรือ ? บางท่านถึงกับกล่าวปรามาสไปก็มีว่าเป็นเรื่องเล่นกลหลอกลวงหรือบางรายกล่าวแบบขอไปทีว่าถึงทำได้แล้วไงจะขลังจริงหรือ อันนี้เป็นเรื่องต่างความคิดต่างความเชื่อกันคงไปบังคับกะเกณฑ์กันไม่ได้แต่ที่นำมาเล่าให้ฟังนี่ก็เพื่อสืบตำนานเรื่องราวที่เป็นความเชื่อทางวัฒนธรรมประการหนึ่งของไทยเราจะขอปูพื้นความรู้เรื่องปรอทวิเศษหรือปรอทสำเร็จที่เป็นของวิเศษในความเชื่อของผู้ศึกษาวิทยาคมว่าใครหากทำได้เเล้วก็นับว่าบรรลุจุดสูงสุดในวิชาวิทยาคมประการหนึ่งเเบบเดียวกับที่เราศึกษาวิชาความรู้ภาคสามัญแล้วได้ปริญญาอย่างไรอย่างนั้นจึงขอคัดตำราการหุงปรอทสำเร็จแบบหนึ่งซึ่งจริงในเมืองไทยมีตำราแบบที่ว่าด้วยการหุงปรอทนี่เท่าที่พบไม่น้อยกว่ายี่สิบตำราครับการหุงปรอทตำรับนี้ที่ได้จากตำราเก่าอายุหลายร้อยปีเล่มหนึ่งกล่าวถึงการหุงปรอทและสรรพคุณไว้จึงขอคัดมาเป็นพื้นความรู้เพื่อกล่าวถึงเนื้อความต่อๆไปดังนี้ครับ

ปรอทเป็นของเหลวและไหลกลอกกลิ้งได้เช่นเดียวกับน้ำ หลักวิทยาศาสตร์ปรอทนั้นจะมีอาการหดตัวเมื่อถูกความเย็นและพองตัวเมื่อถูกความร้อน ตามวิชาการแพทย์ก็ต้องใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดระดับความร้อนของคนไข้ หลักอุตุนิยมวิทยาก็ใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดอุณหภูมิเป็นต้น

เพราะความคุมตัวกันไม่ติดของปรอท และเป็นธาตุชนิดหนึ่งที่มีอาการประหลาดนี้เอง ในโบราณกาลจึงถือว่าปรอทนั้นหากผู้ใดมีวิชาสามารถทำคุมตัวกันได้ และประกอบพิธีโดยหลักไสยศาสตร์อันถูกต้องครบถ้วนแล้วฤทธิอันเกิดจากวิทยาคมซึ่งรวมอยู่ในปรอทนั้นอาจจะสามารถนำผู้ที่เป็นเจ้าของให้เกิดอิทธิฤทธิและกระทำปาฏิหาริย์ต่างๆได้ ดังอุปเท่ห์โบราณดังนี้

ผู้ใดอมปรอทไว้ ผู้นั้นจะมีรูปร่างดังพระมหาจักรพรรดิ (หมายถึง ความมีเดช ฤทธิ์ และความงามเป็นที่เสน่หากระมังอันนี้รวมถึงอานุภาพที่คล้ายกับเหล็กไหลในตำนานที่เด่นเรื่องคุ้มครองป้องกันด้วย) เสียงไพเราะ ดังท้าวมหาพรหม (หมายถึง พูดถูกใจบุคคล เป็นเสน่ห์ พูดอะไรมีคนเชื่อถือกระมัง) ไปป่าหิมพานต์ยาม ๑ ก็ถึง (คงหมายถึงการปาฏิหาริย์ ล่องหน) ไป ๔ ทวีป ในนิ้วมือเดียว (เช่นเดียวกับข้อ ๓ หรืออาจหมายถึงกายทิพย์ก็ได้) คิดอะไรสำเร็จความปรารถนา

ประวัติและความเป็นมาของ"ปรอท"
ปรอท ตามคติของการสร้างวัตถุมงคล เป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ โดยในสมัยโบราณท่านกล่าวไว้ว่า ให้นำแร่ปรอทมาใช้เป็นส่วนผสม ส่วนหนึ่งในการรักษาโรคต่างๆ ของยาแผนโบราณ และบางส่วนก้อใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ในอีกส่วนหนึ่งก็มีการทำให้แข็งตัวตามตำราที่สืบทอดกันมาจากโบราณ ที่เรียกขานกันว่าเป็นการเล่นแร่แปรธาตุ เพราะวงการนักนิยมเครื่องรางของลัง เชื่อถือกันว่า ปรอท เป็นแร่ธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีอานุภาพ อยู่ในตัวเอง แม้นจะเก็บไว้นานก้อคงสภาพไม่แปรเปี่ยนเป็นสีอื่น ปรอทที่แท้จริงจะมีสีขาว ถ้าขัดถูจะดูสดใสขึ้นในทันที จะดูเป็นสีใหม่อยู่เสมอ พิสูจน์ได้โดยเอาถูกับตะกั่วซองบุหรี่ จะร้อนไหม้ขึ้นในทันที เอาหลังแตะกันจะเห็นเป็นยาง เอาถูอลุมิเนียมจะเป็นขุยขึ้นมา เอาถูที่มือ จะป็นสีดำ จึงจะเป็นของแท้ถูกต้องตามตำรา สรรพคุณของปรอท ใช้ได้กว้างขวาง เหมาะแก่ท่านที่อยู่ตามชนบท ต่างๆ เช่น ตามไร่ นา ป่า เขา ควรมีพระปรอทติดตัวไว้บูชา ป้องกันอันตรายได้หลายอยาง บรรพบุรุษนับถือกันจริงๆ ยิ่งนำมาสร้างเป็นพระหลวงปู่ทวดเหยีย่บน้ำทะเลจืด ถือได้ว่าย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์หลายอย่าง เพราะหลวงปู่ทวด เป็นสุดยอดพระนิรันตราย พระเนื้อปรอทหลวงปู่ทวดนี้ นำพกติดตัว เมื่ออันตรายใช้ได้ทันที อาทิ แช่น้ำเป็นน้ำพุทธมนต์ หรือ ดื่มกินเพื่อักษาโรคต่างๆ อานุภาพ ของพระเนื้อปรอทตามตำนานที่เชื่อถือกันมาแต่โบราณ
1. เมื่อถูกของมีคม ใช้ถูปากแผล ห้ามเลือด และแผลจะปิดทันที
2. กันไข้ป่า ไข้พิษ ต่างๆ
3. ดูดพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ใช้น้ำสุราล้างพระปรอท ปิดแผล
4. ดูดพิษงู
5. ป้องกันภูติ ผีปิศาจ และคุณไสย
6. เวลาเดินทางไกล อาราธนาติดตัว หรือแช่ทน้ำมนต์ ประพรหมยานพาหนะป้องกันภยันตรายต่างๆ
7. ปวดฟันให้อมพระปรอทไว้
8. ป้องกันยาพิษ ยาสั่ง
9. ทารักษาโรคผิวหลังกลากเกลื้อน
10. เป็นฝี ใช้พระเนื้อปรอท ล้างน้ำสุรา ปิดที่หัวฝี การเล่นแร่แปรธาตุหุงหาปรอท ตามตำหรับโบราณนี้ เป็นเรื่องที่หาพระคณาจารย์ ผู้ที่มีวิชาทำได้ยากยิ่ง ดังนั้นพระปรอทจึงเป็นสิ่งสำคัญหายาก จึงควรเก็บักษาไว้ให้ดี เพราะตำราที่ใช้หุงปรอทนั้นเป็นตำรับที่ตกทอดมาแต่โบราณ เป็นการรักษา ของเก่าที่มีมาแต่ครั้งบรรพบุรุษไม่ให้สูญหายไปกับกาลเวลา
คาถาหัวใจปรอท วะโมตุ ทันตานัง
ปรอทบริสุทธิ์ ราคาองค์ล่ะ 1200 บาท ขอค่าจัดส่งเพิ่มอีก 50 บาท

สนใจติดต่อได้ที่ 0831409216 (เชษ)
ก่อนโอนเงินกรุณาโทรสอบถามก่อนว่าของอยู่มัย
สามารถโอนเงินได้ที่
ธนาคารกรุงไทย
สาขาคำชะอี
ชื่อบัญชี นายกฤตธัช(เชษฐพล) โมราสุทธิ์
บัญชี เลขที่ 436-0-11356-0
จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ
chetsu_kung@hotmail.com แอดมาสอบถามได้ ออนตลอดครับ<O</O<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
ถือจรรยาบรรที่ว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน น่ะครับ

 

รายการที่ 85 ปรอททรงปลัดขลิก

ข้อมูลเพิ่มเติมอีก สืบทราบมาว่า ปรอทของอาจารย์ท่านนี้เป็นสายวิชาของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร เกจิอรหันต์แห่งลุมน้ำโขง ทราบว่าตอนหลวงปู่ฝั้นท่านธุดงอยู่ในป่าแถบประเทศลาวท่านได้วิชานี้มาจากแถบภูเขาควาย แดนอาถรรย์ และในประวัติของท่าน ยังเคยเขียนไว้ว่าหลวงปู่ฝั้นได้ธุดงอยู่ในป่า นับสิบปี แต่ท่านหาไม่ป่วยไข้เจ็บปวดเลย ซึ่งยิ่งในสมัยนั้นใข้มาเลเรียระบาด แต่ขณะที่ท่านอยู่ในป่านั้นท่านไม่เคยป่วยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะท่านมีของวิเศษอย่างหนึ่ง นั้นคือปรอทที่ท่านพกติดตัวตลอด ท่านสามารถชมปรอทของหลวงปู่ฝั้นได้ที่พิพิธพันธ์ หลวงปู่ฝั้น อาจารโรได้ที่ วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร ในพิพิธพันธ์ของท่าน พบของวิเศษที่ท่านติดตัว ตอนออกธุดง ในป่านานนับ สิบปีนั้นคือปรอท และยังพบว่านชนิดนึง ที่ท่านพกแต่ไม่ทราบว่าเป็นว่านอ่ะไร ก็มีเกจิท่านนึงได้เล่าเรียนต่อมาจากหลวงปู่ฝั้น ซื่งพระท่านนี้ เป็นผู้มีชื่อเสียงมากแต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าท่านชื่ออ่ะไร แต่รู้ว่าท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ขณะนี้ท่านล่ะสังขารไปแล้ว แต่สังขารไม่เน่า แต่ผมจำชื่อท่านไม่ได้ และต่อมาอาจารย์ฆราวาสที่ทำปรอทนี้ก็ได้เรียนมาจาก อาจารย์ท่านนี้ที่เพิ่งมรณะภาพไปแต่สังขารไม่เน่า เพราะฉนั้นสายวิชาท่านไม่ได้กว้าง และตอนนี้ไม่มีคนสืบวิชานี้แล้ว เนื้องจากไม่มีคนปฏิบัติได้ ท่านจึงไม่ถ่ายทอดไห้ใคร และไม่เปิดเผยตัว ใครที่ต้องการก็รีบๆๆเก็บ เพราะต่อไปจะหายากและไม่มีอีกแล้ว

ปรอทนี้ เป็นปรอทแท้ ล้าน % ผมได้มาจากอาจารฆราวาสท่านหนึ่งของไทย เป็นอาจารผู้เดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในประเทศไทย ที่มีวิชาเรียกปรอท โดยไม่ใช้ไข่เน่าดัก แต่เรียกขึ้นมากจากพื้นดินคล้ายเกล็กไหล และสามารถใช้วิชาทำไห้ปรอทแข็งโดยไม่ผสม สารตัวอื่นคือ เทปรอทลงในเบ้าแล้ว เส็กคาถา ประรอทก็จะแข็ง สำหรับปรอทนี้ มีพุทธคุณครอบจักวาล น้องๆๆเหล็กไหลที่เห็นขอยกันตามทั่วไปนั้น อาจป็นปรอที่ สังเคราะขึ้น จากแร่ตะกัวและอื่นๆๆและทำไห้แข็งตัวโดยแร่อื่นๆๆ แต่ที่นี้ เป็นปรอทปริสุทธิไม่มีส่วนผสมของอ่ะไรอื่น สามารถอมได้ กินได้ สารพัดรักษาโรค

สำหรับ การทดสอบว่าเป็นปรอทแท้ไม่แท้ ไห้นำปรอท มาถูกับการดาษซองบุหรี ด้านที่มีต่ะกั่ววางไว้บนผ่ามือแล้ว ถูไม่กี่ครั้ง จะร้อนมาก และร้อนแรงๆๆ
ส่วนอีกวิธีคือ เอาปรอท สองอันมาถูกัน แล้วสังเกตดูว่า ปรอทจะล่ะลาย เมื่อแยกออกจากกันปรอท จะเป็นดังเดิน ซื่งเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ
ส่วนการใช้ปรอทนั้นถ้าเป็นโรคปวดภายนอกต่างๆๆไห้เอาปรอทมาถูที่บริเวรปวด หรือบริเวร ที่ฟกช้ำ ถูไห้เป็นสีดำไม่ต้องล้านออก ปล่อยทิ้งไว้แล้วจะหายปวดอย่างน่าอัศจรรย์

ข้อห้าม ห้ามคนเกิดปีมะโรง ปีมะแม คนธาตุทอง คนชื่อทอง ห้ามใช้

เล่นแร่แปรธาตุ ปรอทวิเศษ (สำเร็จ)
การแปรธาตุหนึ่งไปสู่อีกธาตุหนึ่งที่มีคุณลักษณะทางกายภาพและเคมีให้ต่างไปจากเดิมนั้นชาวสยามในสุวรรณภูมิมีวิทยาการในเรื่องนี้มาช้านานจากตำนานพบว่าได้รับการถ่ายทอดมาจากชาวชมพูทวีปที่ได้รับความรู้นี้มาจากไอยคุปต์โบราณอีกทอดหนึ่ง เรื่องการเล่นแร่แปรธาตุนี้เป็นเรื่องจริงที่มิใช่เพียงตำนานที่เล่าขานนอกจากการแปรธาตุให้เป็นสิ่งที่มีค่ามากขึ้นยังพบว่ามีการใช้ในการสรรสร้างวัตถุที่ประจุพลังจิตอีก เรื่องราวเหล่านี้พบในเอกสารโบราณหลายฉบับทั้งยังมีกล่าวในพระไตรปิฏกตอนที่กล่าวถึงโลกจินไตยว่าอันคติเรื่องโลกนั้นแบ่งได้สองสาขา คือ

มนิกาวิชชาคือความรู้เรื่องจิตศาสตร์อันได้แก่ ความรู้ทางจิต การบำเพ็ญจิตในลักษณะต่างๆทั้งก่อนพุทธกาลและในขณะนั้นเช่นการสะกดจิต การฝึกปราณยามะ การเพ่งกสิณ

ตัชชารีวิชชา อันนี้คือความรู้เรื่องเครื่องลางของขลัง ๔ ประการ อ
มูลตัชชารี ความรู้เรื่องต้นไม้ว่านยาที่มีอานุภาพต่างๆ
มันตาตัชชารีวิชชาได้แก่ความรู้เรื่องเวทมนต์ต่างๆที่หลายท่านคุ้นเคยกันดี
อังกตัชชารีวิชชาได้แก่ความรู้เรื่องการทำเครื่องลางของขลังพวกพระเครื่อง ผ้ายันต์ ตะกรุดพิสมรต่างๆ
ธาตุตัชชารีวิชชา คือความรู้เรื่องแร่ธาตุต่างที่มีอิทธิฤทธิ์รวมทั้งวิชาเคมียุคดึกดำบรรพ์เรียกว่ารสายนเวทที่เป็นความรู้


เกี่ยวกับเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุต่างๆเช่นการแปรธาตุตะกั่วเป็นทองคำ(สีสัน- ลักษณะโครงสร้างภายนอก)การแปรธาตุปรอทเป็นของแข็งที่เรียกกันว่าปรอทสำเร็จธาตุกายสิทธิ์วิชาเรื่องการแปรธาตุนี้เกือบเหลือเป็นเพียงแค่ตำนานเพราะมีผู้รู้สืบทอดน้อยลงวิชาประการต่างๆก็พลอยสาบสูญไปกับผู้ที่รู้วิชาเหล่านั้น

การแปรธาตุนั้นถือเป็นการร่ำเรียนพระเวทขั้นสูงเพราะต้องใช้ทั้งความรู้และสติปัญญาในการไขปริศนาแห่งวิชาให้เข้าใจทั้งต้องมีพลังจิตในระดับอัปมัญญาสมาธิ(ฌานสมาบัติ)จึงจะสามารถทำสำเร็จ เท่าที่พบในประวัติศาสตร์ของชาวสยามนั้นมีวิชาการที่กล่าวถึงเรื่องนี้อยู่มากทั้งปรากฏหลักฐานในพระเครื่องรางของขลังที่ผู้มีความรู้พระเวทสายนี้สรรสร้างบรรจุไว้ตามกรุเจดีย์ต่างๆแสดงถึงความรุ่งเรืองของรสายนเวทในสมัยนั้น หากท่านเป็นนักนิยมพระเครื่องคงรู้จักเครื่องลางเช่นลูกปรอทกรอก็เป็นประดิษฐกรรมอย่างหนึ่งและพระเครื่องที่ทรงฤทธานุภาพสูงที่บรรจุในกรุโบราณมาแต่สมัยศรีอโยธยารามเทพ
นครที่สรรสร้างด้วยพระเวทสายเล่นแร่แปรธาตุก็คือ พระกรุวัดท้ายย่าน จังหวัดชัยนาทที่ปรากฏมีผู้เรืองวิทยาคมสูงส่งสืบทอดอย่างไม่ขาดสายจนปัจจุบันความเข้มขลังของพระกรุนี้นักนิยมพระรุ่นเก่าถึงขนาดดูแท้ปลอมด้วยการอาราธนากำพระเครื่องนี้แล้วนำเข็มฉีดยาแทงหากว่าเข็มทะลุผ่านชั้นเนื้อไปได้ก็ถือว่าพระเครื่องท้ายย่านองค์นั้นปลอม นี่คือกฤติยาคมที่ผ่านพ้นอดีตจนมาพิสูจน์ความจริงแท้ในโลกปัจจุบันนอกจากพระกรุวัดท้ายย่านจะมีอิทธิคุณเข้มขลังแล้วท่านทราบไหมว่าพระเครื่องชุดนี้สร้างจากวิชาเล่นแร่แปรธาตุที่ปรากฏในตำนานสยามคือวิชาปรอทสำเร็จธาตุกายสิทธิ์นั่นเองเมื่อผ่านกาลเวลานานนับร้อยปีประกอบกับความร้อนเย็นในกรุพระปรอทนั้นก็กินตัวกรอบไม่คงทนทำให้พระชุดนี้ตกแตก บรรดานักนิยมพระเครื่องที่ไม่เดียงสาก็คิดว่าพระท้ายย่านนั้นมีส่วนผสมสร้างจากแร่พลวง(วุลแฟรม)ชนิดหนึ่งเท่านั้นและท่านทราบอีกหรือไม่ว่าพระชุดนี้มิได้ใช้การหลอมเทด้วยความร้อน แต่เป็นการปั้นอัดพิมพ์โลหะกายสิทธิ์นั้นด้วยวิชาพระเวทขั้นสูงที่น่าตื่นตะหนกที่หลอมโลหะด้วยพระเวทแล้วชุบให้แข็งตัวหลายท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจบอกว่าเหลือเชื่อไม่น่าเป็นไปได้แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงครับ

ก่อนที่จะมาถึงการหลอมปรอทโดยไม่ใช้ไฟที่มีนักวิทยาคมหลายท่านสงสัยว่าจริงหรือ ? บางท่านถึงกับกล่าวปรามาสไปก็มีว่าเป็นเรื่องเล่นกลหลอกลวงหรือบางรายกล่าวแบบขอไปทีว่าถึงทำได้แล้วไงจะขลังจริงหรือ อันนี้เป็นเรื่องต่างความคิดต่างความเชื่อกันคงไปบังคับกะเกณฑ์กันไม่ได้แต่ที่นำมาเล่าให้ฟังนี่ก็เพื่อสืบตำนานเรื่องราวที่เป็นความเชื่อทางวัฒนธรรมประการหนึ่งของไทยเราจะขอปูพื้นความรู้เรื่องปรอทวิเศษหรือปรอทสำเร็จที่เป็นของวิเศษในความเชื่อของผู้ศึกษาวิทยาคมว่าใครหากทำได้เเล้วก็นับว่าบรรลุจุดสูงสุดในวิชาวิทยาคมประการหนึ่งเเบบเดียวกับที่เราศึกษาวิชาความรู้ภาคสามัญแล้วได้ปริญญาอย่างไรอย่างนั้นจึงขอคัดตำราการหุงปรอทสำเร็จแบบหนึ่งซึ่งจริงในเมืองไทยมีตำราแบบที่ว่าด้วยการหุงปรอทนี่เท่าที่พบไม่น้อยกว่ายี่สิบตำราครับการหุงปรอทตำรับนี้ที่ได้จากตำราเก่าอายุหลายร้อยปีเล่มหนึ่งกล่าวถึงการหุงปรอทและสรรพคุณไว้จึงขอคัดมาเป็นพื้นความรู้เพื่อกล่าวถึงเนื้อความต่อๆไปดังนี้ครับ

ปรอทเป็นของเหลวและไหลกลอกกลิ้งได้เช่นเดียวกับน้ำ หลักวิทยาศาสตร์ปรอทนั้นจะมีอาการหดตัวเมื่อถูกความเย็นและพองตัวเมื่อถูกความร้อน ตามวิชาการแพทย์ก็ต้องใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดระดับความร้อนของคนไข้ หลักอุตุนิยมวิทยาก็ใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดอุณหภูมิเป็นต้น

เพราะความคุมตัวกันไม่ติดของปรอท และเป็นธาตุชนิดหนึ่งที่มีอาการประหลาดนี้เอง ในโบราณกาลจึงถือว่าปรอทนั้นหากผู้ใดมีวิชาสามารถทำคุมตัวกันได้ และประกอบพิธีโดยหลักไสยศาสตร์อันถูกต้องครบถ้วนแล้วฤทธิอันเกิดจากวิทยาคมซึ่งรวมอยู่ในปรอทนั้นอาจจะสามารถนำผู้ที่เป็นเจ้าของให้เกิดอิทธิฤทธิและกระทำปาฏิหาริย์ต่างๆได้ ดังอุปเท่ห์โบราณดังนี้

ผู้ใดอมปรอทไว้ ผู้นั้นจะมีรูปร่างดังพระมหาจักรพรรดิ (หมายถึง ความมีเดช ฤทธิ์ และความงามเป็นที่เสน่หากระมังอันนี้รวมถึงอานุภาพที่คล้ายกับเหล็กไหลในตำนานที่เด่นเรื่องคุ้มครองป้องกันด้วย) เสียงไพเราะ ดังท้าวมหาพรหม (หมายถึง พูดถูกใจบุคคล เป็นเสน่ห์ พูดอะไรมีคนเชื่อถือกระมัง) ไปป่าหิมพานต์ยาม ๑ ก็ถึง (คงหมายถึงการปาฏิหาริย์ ล่องหน) ไป ๔ ทวีป ในนิ้วมือเดียว (เช่นเดียวกับข้อ ๓ หรืออาจหมายถึงกายทิพย์ก็ได้) คิดอะไรสำเร็จความปรารถนา

ประวัติและความเป็นมาของ"ปรอท"
ปรอท ตามคติของการสร้างวัตถุมงคล เป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ โดยในสมัยโบราณท่านกล่าวไว้ว่า ให้นำแร่ปรอทมาใช้เป็นส่วนผสม ส่วนหนึ่งในการรักษาโรคต่างๆ ของยาแผนโบราณ และบางส่วนก้อใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ในอีกส่วนหนึ่งก็มีการทำให้แข็งตัวตามตำราที่สืบทอดกันมาจากโบราณ ที่เรียกขานกันว่าเป็นการเล่นแร่แปรธาตุ เพราะวงการนักนิยมเครื่องรางของลัง เชื่อถือกันว่า ปรอท เป็นแร่ธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีอานุภาพ อยู่ในตัวเอง แม้นจะเก็บไว้นานก้อคงสภาพไม่แปรเปี่ยนเป็นสีอื่น ปรอทที่แท้จริงจะมีสีขาว ถ้าขัดถูจะดูสดใสขึ้นในทันที จะดูเป็นสีใหม่อยู่เสมอ พิสูจน์ได้โดยเอาถูกับตะกั่วซองบุหรี่ จะร้อนไหม้ขึ้นในทันที เอาหลังแตะกันจะเห็นเป็นยาง เอาถูอลุมิเนียมจะเป็นขุยขึ้นมา เอาถูที่มือ จะป็นสีดำ จึงจะเป็นของแท้ถูกต้องตามตำรา สรรพคุณของปรอท ใช้ได้กว้างขวาง เหมาะแก่ท่านที่อยู่ตามชนบท ต่างๆ เช่น ตามไร่ นา ป่า เขา ควรมีพระปรอทติดตัวไว้บูชา ป้องกันอันตรายได้หลายอยาง บรรพบุรุษนับถือกันจริงๆ ยิ่งนำมาสร้างเป็นพระหลวงปู่ทวดเหยีย่บน้ำทะเลจืด ถือได้ว่าย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์หลายอย่าง เพราะหลวงปู่ทวด เป็นสุดยอดพระนิรันตราย พระเนื้อปรอทหลวงปู่ทวดนี้ นำพกติดตัว เมื่ออันตรายใช้ได้ทันที อาทิ แช่น้ำเป็นน้ำพุทธมนต์ หรือ ดื่มกินเพื่อักษาโรคต่างๆ อานุภาพ ของพระเนื้อปรอทตามตำนานที่เชื่อถือกันมาแต่โบราณ
1. เมื่อถูกของมีคม ใช้ถูปากแผล ห้ามเลือด และแผลจะปิดทันที
2. กันไข้ป่า ไข้พิษ ต่างๆ
3. ดูดพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ใช้น้ำสุราล้างพระปรอท ปิดแผล
4. ดูดพิษงู
5. ป้องกันภูติ ผีปิศาจ และคุณไสย
6. เวลาเดินทางไกล อาราธนาติดตัว หรือแช่ทน้ำมนต์ ประพรหมยานพาหนะป้องกันภยันตรายต่างๆ
7. ปวดฟันให้อมพระปรอทไว้
8. ป้องกันยาพิษ ยาสั่ง
9. ทารักษาโรคผิวหลังกลากเกลื้อน
10. เป็นฝี ใช้พระเนื้อปรอท ล้างน้ำสุรา ปิดที่หัวฝี การเล่นแร่แปรธาตุหุงหาปรอท ตามตำหรับโบราณนี้ เป็นเรื่องที่หาพระคณาจารย์ ผู้ที่มีวิชาทำได้ยากยิ่ง ดังนั้นพระปรอทจึงเป็นสิ่งสำคัญหายาก จึงควรเก็บักษาไว้ให้ดี เพราะตำราที่ใช้หุงปรอทนั้นเป็นตำรับที่ตกทอดมาแต่โบราณ เป็นการรักษา ของเก่าที่มีมาแต่ครั้งบรรพบุรุษไม่ให้สูญหายไปกับกาลเวลา
คาถาหัวใจปรอท วะโมตุ ทันตานัง
ปรอทบริสุทธิ์ ราคาองค์ล่ะ 1400 บาท ขอค่าจัดส่งเพิ่มอีก 50 บาท

สนใจติดต่อได้ที่ 0831409216 (เชษ)
ก่อนโอนเงินกรุณาโทรสอบถามก่อนว่าของอยู่มัย
สามารถโอนเงินได้ที่
ธนาคารกรุงไทย
สาขาคำชะอี
ชื่อบัญชี นายกฤตธัช(เชษฐพล) โมราสุทธิ์
บัญชี เลขที่ 436-0-11356-0
จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ
chetsu_kung@hotmail.com แอดมาสอบถามได้ ออนตลอดครับ<O</O<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
ถือจรรยาบรรที่ว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน น่ะครับ

 

รายการที่ 86 ปรอท ทรงช็อก

ข้อมูลเพิ่มเติมอีก สืบทราบมาว่า ปรอทของอาจารย์ท่านนี้เป็นสายวิชาของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร เกจิอรหันต์แห่งลุมน้ำโขง ทราบว่าตอนหลวงปู่ฝั้นท่านธุดงอยู่ในป่าแถบประเทศลาวท่านได้วิชานี้มาจากแถบภูเขาควาย แดนอาถรรย์ และในประวัติของท่าน ยังเคยเขียนไว้ว่าหลวงปู่ฝั้นได้ธุดงอยู่ในป่า นับสิบปี แต่ท่านหาไม่ป่วยไข้เจ็บปวดเลย ซึ่งยิ่งในสมัยนั้นใข้มาเลเรียระบาด แต่ขณะที่ท่านอยู่ในป่านั้นท่านไม่เคยป่วยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะท่านมีของวิเศษอย่างหนึ่ง นั้นคือปรอทที่ท่านพกติดตัวตลอด ท่านสามารถชมปรอทของหลวงปู่ฝั้นได้ที่พิพิธพันธ์ หลวงปู่ฝั้น อาจารโรได้ที่ วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร ในพิพิธพันธ์ของท่าน พบของวิเศษที่ท่านติดตัว ตอนออกธุดง ในป่านานนับ สิบปีนั้นคือปรอท และยังพบว่านชนิดนึง ที่ท่านพกแต่ไม่ทราบว่าเป็นว่านอ่ะไร ก็มีเกจิท่านนึงได้เล่าเรียนต่อมาจากหลวงปู่ฝั้น ซื่งพระท่านนี้ เป็นผู้มีชื่อเสียงมากแต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าท่านชื่ออ่ะไร แต่รู้ว่าท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ขณะนี้ท่านล่ะสังขารไปแล้ว แต่สังขารไม่เน่า แต่ผมจำชื่อท่านไม่ได้ และต่อมาอาจารย์ฆราวาสที่ทำปรอทนี้ก็ได้เรียนมาจาก อาจารย์ท่านนี้ที่เพิ่งมรณะภาพไปแต่สังขารไม่เน่า เพราะฉนั้นสายวิชาท่านไม่ได้กว้าง และตอนนี้ไม่มีคนสืบวิชานี้แล้ว เนื้องจากไม่มีคนปฏิบัติได้ ท่านจึงไม่ถ่ายทอดไห้ใคร และไม่เปิดเผยตัว ใครที่ต้องการก็รีบๆๆเก็บ เพราะต่อไปจะหายากและไม่มีอีกแล้ว

ปรอทนี้ เป็นปรอทแท้ ล้าน % ผมได้มาจากอาจารฆราวาสท่านหนึ่งของไทย เป็นอาจารผู้เดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในประเทศไทย ที่มีวิชาเรียกปรอท โดยไม่ใช้ไข่เน่าดัก แต่เรียกขึ้นมากจากพื้นดินคล้ายเกล็กไหล และสามารถใช้วิชาทำไห้ปรอทแข็งโดยไม่ผสม สารตัวอื่นคือ เทปรอทลงในเบ้าแล้ว เส็กคาถา ประรอทก็จะแข็ง สำหรับปรอทนี้ มีพุทธคุณครอบจักวาล น้องๆๆเหล็กไหลที่เห็นขอยกันตามทั่วไปนั้น อาจป็นปรอที่ สังเคราะขึ้น จากแร่ตะกัวและอื่นๆๆและทำไห้แข็งตัวโดยแร่อื่นๆๆ แต่ที่นี้ เป็นปรอทปริสุทธิไม่มีส่วนผสมของอ่ะไรอื่น สามารถอมได้ กินได้ สารพัดรักษาโรค

สำหรับ การทดสอบว่าเป็นปรอทแท้ไม่แท้ ไห้นำปรอท มาถูกับการดาษซองบุหรี ด้านที่มีต่ะกั่ววางไว้บนผ่ามือแล้ว ถูไม่กี่ครั้ง จะร้อนมาก และร้อนแรงๆๆ
ส่วนอีกวิธีคือ เอาปรอท สองอันมาถูกัน แล้วสังเกตดูว่า ปรอทจะล่ะลาย เมื่อแยกออกจากกันปรอท จะเป็นดังเดิน ซื่งเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ
ส่วนการใช้ปรอทนั้นถ้าเป็นโรคปวดภายนอกต่างๆๆไห้เอาปรอทมาถูที่บริเวรปวด หรือบริเวร ที่ฟกช้ำ ถูไห้เป็นสีดำไม่ต้องล้านออก ปล่อยทิ้งไว้แล้วจะหายปวดอย่างน่าอัศจรรย์

ข้อห้าม ห้ามคนเกิดปีมะโรง ปีมะแม คนธาตุทอง คนชื่อทอง ห้ามใช้

เล่นแร่แปรธาตุ ปรอทวิเศษ (สำเร็จ)
การแปรธาตุหนึ่งไปสู่อีกธาตุหนึ่งที่มีคุณลักษณะทางกายภาพและเคมีให้ต่างไปจากเดิมนั้นชาวสยามในสุวรรณภูมิมีวิทยาการในเรื่องนี้มาช้านานจากตำนานพบว่าได้รับการถ่ายทอดมาจากชาวชมพูทวีปที่ได้รับความรู้นี้มาจากไอยคุปต์โบราณอีกทอดหนึ่ง เรื่องการเล่นแร่แปรธาตุนี้เป็นเรื่องจริงที่มิใช่เพียงตำนานที่เล่าขานนอกจากการแปรธาตุให้เป็นสิ่งที่มีค่ามากขึ้นยังพบว่ามีการใช้ในการสรรสร้างวัตถุที่ประจุพลังจิตอีก เรื่องราวเหล่านี้พบในเอกสารโบราณหลายฉบับทั้งยังมีกล่าวในพระไตรปิฏกตอนที่กล่าวถึงโลกจินไตยว่าอันคติเรื่องโลกนั้นแบ่งได้สองสาขา คือ

มนิกาวิชชาคือความรู้เรื่องจิตศาสตร์อันได้แก่ ความรู้ทางจิต การบำเพ็ญจิตในลักษณะต่างๆทั้งก่อนพุทธกาลและในขณะนั้นเช่นการสะกดจิต การฝึกปราณยามะ การเพ่งกสิณ

ตัชชารีวิชชา อันนี้คือความรู้เรื่องเครื่องลางของขลัง ๔ ประการ อ
มูลตัชชารี ความรู้เรื่องต้นไม้ว่านยาที่มีอานุภาพต่างๆ
มันตาตัชชารีวิชชาได้แก่ความรู้เรื่องเวทมนต์ต่างๆที่หลายท่านคุ้นเคยกันดี
อังกตัชชารีวิชชาได้แก่ความรู้เรื่องการทำเครื่องลางของขลังพวกพระเครื่อง ผ้ายันต์ ตะกรุดพิสมรต่างๆ
ธาตุตัชชารีวิชชา คือความรู้เรื่องแร่ธาตุต่างที่มีอิทธิฤทธิ์รวมทั้งวิชาเคมียุคดึกดำบรรพ์เรียกว่ารสายนเวทที่เป็นความรู้


เกี่ยวกับเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุต่างๆเช่นการแปรธาตุตะกั่วเป็นทองคำ(สีสัน- ลักษณะโครงสร้างภายนอก)การแปรธาตุปรอทเป็นของแข็งที่เรียกกันว่าปรอทสำเร็จธาตุกายสิทธิ์วิชาเรื่องการแปรธาตุนี้เกือบเหลือเป็นเพียงแค่ตำนานเพราะมีผู้รู้สืบทอดน้อยลงวิชาประการต่างๆก็พลอยสาบสูญไปกับผู้ที่รู้วิชาเหล่านั้น

การแปรธาตุนั้นถือเป็นการร่ำเรียนพระเวทขั้นสูงเพราะต้องใช้ทั้งความรู้และสติปัญญาในการไขปริศนาแห่งวิชาให้เข้าใจทั้งต้องมีพลังจิตในระดับอัปมัญญาสมาธิ(ฌานสมาบัติ)จึงจะสามารถทำสำเร็จ เท่าที่พบในประวัติศาสตร์ของชาวสยามนั้นมีวิชาการที่กล่าวถึงเรื่องนี้อยู่มากทั้งปรากฏหลักฐานในพระเครื่องรางของขลังที่ผู้มีความรู้พระเวทสายนี้สรรสร้างบรรจุไว้ตามกรุเจดีย์ต่างๆแสดงถึงความรุ่งเรืองของรสายนเวทในสมัยนั้น หากท่านเป็นนักนิยมพระเครื่องคงรู้จักเครื่องลางเช่นลูกปรอทกรอก็เป็นประดิษฐกรรมอย่างหนึ่งและพระเครื่องที่ทรงฤทธานุภาพสูงที่บรรจุในกรุโบราณมาแต่สมัยศรีอโยธยารามเทพ
นครที่สรรสร้างด้วยพระเวทสายเล่นแร่แปรธาตุก็คือ พระกรุวัดท้ายย่าน จังหวัดชัยนาทที่ปรากฏมีผู้เรืองวิทยาคมสูงส่งสืบทอดอย่างไม่ขาดสายจนปัจจุบันความเข้มขลังของพระกรุนี้นักนิยมพระรุ่นเก่าถึงขนาดดูแท้ปลอมด้วยการอาราธนากำพระเครื่องนี้แล้วนำเข็มฉีดยาแทงหากว่าเข็มทะลุผ่านชั้นเนื้อไปได้ก็ถือว่าพระเครื่องท้ายย่านองค์นั้นปลอม นี่คือกฤติยาคมที่ผ่านพ้นอดีตจนมาพิสูจน์ความจริงแท้ในโลกปัจจุบันนอกจากพระกรุวัดท้ายย่านจะมีอิทธิคุณเข้มขลังแล้วท่านทราบไหมว่าพระเครื่องชุดนี้สร้างจากวิชาเล่นแร่แปรธาตุที่ปรากฏในตำนานสยามคือวิชาปรอทสำเร็จธาตุกายสิทธิ์นั่นเองเมื่อผ่านกาลเวลานานนับร้อยปีประกอบกับความร้อนเย็นในกรุพระปรอทนั้นก็กินตัวกรอบไม่คงทนทำให้พระชุดนี้ตกแตก บรรดานักนิยมพระเครื่องที่ไม่เดียงสาก็คิดว่าพระท้ายย่านนั้นมีส่วนผสมสร้างจากแร่พลวง(วุลแฟรม)ชนิดหนึ่งเท่านั้นและท่านทราบอีกหรือไม่ว่าพระชุดนี้มิได้ใช้การหลอมเทด้วยความร้อน แต่เป็นการปั้นอัดพิมพ์โลหะกายสิทธิ์นั้นด้วยวิชาพระเวทขั้นสูงที่น่าตื่นตะหนกที่หลอมโลหะด้วยพระเวทแล้วชุบให้แข็งตัวหลายท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจบอกว่าเหลือเชื่อไม่น่าเป็นไปได้แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงครับ

ก่อนที่จะมาถึงการหลอมปรอทโดยไม่ใช้ไฟที่มีนักวิทยาคมหลายท่านสงสัยว่าจริงหรือ ? บางท่านถึงกับกล่าวปรามาสไปก็มีว่าเป็นเรื่องเล่นกลหลอกลวงหรือบางรายกล่าวแบบขอไปทีว่าถึงทำได้แล้วไงจะขลังจริงหรือ อันนี้เป็นเรื่องต่างความคิดต่างความเชื่อกันคงไปบังคับกะเกณฑ์กันไม่ได้แต่ที่นำมาเล่าให้ฟังนี่ก็เพื่อสืบตำนานเรื่องราวที่เป็นความเชื่อทางวัฒนธรรมประการหนึ่งของไทยเราจะขอปูพื้นความรู้เรื่องปรอทวิเศษหรือปรอทสำเร็จที่เป็นของวิเศษในความเชื่อของผู้ศึกษาวิทยาคมว่าใครหากทำได้เเล้วก็นับว่าบรรลุจุดสูงสุดในวิชาวิทยาคมประการหนึ่งเเบบเดียวกับที่เราศึกษาวิชาความรู้ภาคสามัญแล้วได้ปริญญาอย่างไรอย่างนั้นจึงขอคัดตำราการหุงปรอทสำเร็จแบบหนึ่งซึ่งจริงในเมืองไทยมีตำราแบบที่ว่าด้วยการหุงปรอทนี่เท่าที่พบไม่น้อยกว่ายี่สิบตำราครับการหุงปรอทตำรับนี้ที่ได้จากตำราเก่าอายุหลายร้อยปีเล่มหนึ่งกล่าวถึงการหุงปรอทและสรรพคุณไว้จึงขอคัดมาเป็นพื้นความรู้เพื่อกล่าวถึงเนื้อความต่อๆไปดังนี้ครับ

ปรอทเป็นของเหลวและไหลกลอกกลิ้งได้เช่นเดียวกับน้ำ หลักวิทยาศาสตร์ปรอทนั้นจะมีอาการหดตัวเมื่อถูกความเย็นและพองตัวเมื่อถูกความร้อน ตามวิชาการแพทย์ก็ต้องใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดระดับความร้อนของคนไข้ หลักอุตุนิยมวิทยาก็ใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดอุณหภูมิเป็นต้น

เพราะความคุมตัวกันไม่ติดของปรอท และเป็นธาตุชนิดหนึ่งที่มีอาการประหลาดนี้เอง ในโบราณกาลจึงถือว่าปรอทนั้นหากผู้ใดมีวิชาสามารถทำคุมตัวกันได้ และประกอบพิธีโดยหลักไสยศาสตร์อันถูกต้องครบถ้วนแล้วฤทธิอันเกิดจากวิทยาคมซึ่งรวมอยู่ในปรอทนั้นอาจจะสามารถนำผู้ที่เป็นเจ้าของให้เกิดอิทธิฤทธิและกระทำปาฏิหาริย์ต่างๆได้ ดังอุปเท่ห์โบราณดังนี้

ผู้ใดอมปรอทไว้ ผู้นั้นจะมีรูปร่างดังพระมหาจักรพรรดิ (หมายถึง ความมีเดช ฤทธิ์ และความงามเป็นที่เสน่หากระมังอันนี้รวมถึงอานุภาพที่คล้ายกับเหล็กไหลในตำนานที่เด่นเรื่องคุ้มครองป้องกันด้วย) เสียงไพเราะ ดังท้าวมหาพรหม (หมายถึง พูดถูกใจบุคคล เป็นเสน่ห์ พูดอะไรมีคนเชื่อถือกระมัง) ไปป่าหิมพานต์ยาม ๑ ก็ถึง (คงหมายถึงการปาฏิหาริย์ ล่องหน) ไป ๔ ทวีป ในนิ้วมือเดียว (เช่นเดียวกับข้อ ๓ หรืออาจหมายถึงกายทิพย์ก็ได้) คิดอะไรสำเร็จความปรารถนา

ประวัติและความเป็นมาของ"ปรอท"
ปรอท ตามคติของการสร้างวัตถุมงคล เป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ โดยในสมัยโบราณท่านกล่าวไว้ว่า ให้นำแร่ปรอทมาใช้เป็นส่วนผสม ส่วนหนึ่งในการรักษาโรคต่างๆ ของยาแผนโบราณ และบางส่วนก้อใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ในอีกส่วนหนึ่งก็มีการทำให้แข็งตัวตามตำราที่สืบทอดกันมาจากโบราณ ที่เรียกขานกันว่าเป็นการเล่นแร่แปรธาตุ เพราะวงการนักนิยมเครื่องรางของลัง เชื่อถือกันว่า ปรอท เป็นแร่ธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีอานุภาพ อยู่ในตัวเอง แม้นจะเก็บไว้นานก้อคงสภาพไม่แปรเปี่ยนเป็นสีอื่น ปรอทที่แท้จริงจะมีสีขาว ถ้าขัดถูจะดูสดใสขึ้นในทันที จะดูเป็นสีใหม่อยู่เสมอ พิสูจน์ได้โดยเอาถูกับตะกั่วซองบุหรี่ จะร้อนไหม้ขึ้นในทันที เอาหลังแตะกันจะเห็นเป็นยาง เอาถูอลุมิเนียมจะเป็นขุยขึ้นมา เอาถูที่มือ จะป็นสีดำ จึงจะเป็นของแท้ถูกต้องตามตำรา สรรพคุณของปรอท ใช้ได้กว้างขวาง เหมาะแก่ท่านที่อยู่ตามชนบท ต่างๆ เช่น ตามไร่ นา ป่า เขา ควรมีพระปรอทติดตัวไว้บูชา ป้องกันอันตรายได้หลายอยาง บรรพบุรุษนับถือกันจริงๆ ยิ่งนำมาสร้างเป็นพระหลวงปู่ทวดเหยีย่บน้ำทะเลจืด ถือได้ว่าย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์หลายอย่าง เพราะหลวงปู่ทวด เป็นสุดยอดพระนิรันตราย พระเนื้อปรอทหลวงปู่ทวดนี้ นำพกติดตัว เมื่ออันตรายใช้ได้ทันที อาทิ แช่น้ำเป็นน้ำพุทธมนต์ หรือ ดื่มกินเพื่อักษาโรคต่างๆ อานุภาพ ของพระเนื้อปรอทตามตำนานที่เชื่อถือกันมาแต่โบราณ
1. เมื่อถูกของมีคม ใช้ถูปากแผล ห้ามเลือด และแผลจะปิดทันที
2. กันไข้ป่า ไข้พิษ ต่างๆ
3. ดูดพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ใช้น้ำสุราล้างพระปรอท ปิดแผล
4. ดูดพิษงู
5. ป้องกันภูติ ผีปิศาจ และคุณไสย
6. เวลาเดินทางไกล อาราธนาติดตัว หรือแช่ทน้ำมนต์ ประพรหมยานพาหนะป้องกันภยันตรายต่างๆ
7. ปวดฟันให้อมพระปรอทไว้
8. ป้องกันยาพิษ ยาสั่ง
9. ทารักษาโรคผิวหลังกลากเกลื้อน
10. เป็นฝี ใช้พระเนื้อปรอท ล้างน้ำสุรา ปิดที่หัวฝี การเล่นแร่แปรธาตุหุงหาปรอท ตามตำหรับโบราณนี้ เป็นเรื่องที่หาพระคณาจารย์ ผู้ที่มีวิชาทำได้ยากยิ่ง ดังนั้นพระปรอทจึงเป็นสิ่งสำคัญหายาก จึงควรเก็บักษาไว้ให้ดี เพราะตำราที่ใช้หุงปรอทนั้นเป็นตำรับที่ตกทอดมาแต่โบราณ เป็นการรักษา ของเก่าที่มีมาแต่ครั้งบรรพบุรุษไม่ให้สูญหายไปกับกาลเวลา
คาถาหัวใจปรอท วะโมตุ ทันตานัง
ปรอทบริสุทธิ์ ราคาองค์ล่ะ 1400 บาท ขอค่าจัดส่งเพิ่มอีก 50 บาท

สนใจติดต่อได้ที่ 0831409216 (เชษ)
ก่อนโอนเงินกรุณาโทรสอบถามก่อนว่าของอยู่มัย
สามารถโอนเงินได้ที่
ธนาคารกรุงไทย
สาขาคำชะอี
ชื่อบัญชี นายกฤตธัช(เชษฐพล) โมราสุทธิ์
บัญชี เลขที่ 436-0-11356-0
จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ
chetsu_kung@hotmail.com แอดมาสอบถามได้ ออนตลอดครับ<O</O<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
ถือจรรยาบรรที่ว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน น่ะครับ

หมายเหตุ รายการทุกอย่างกรุณาสอบถามก่อนว่าของยังอยู่มัย

 

รายการที่ 87 ไม้นวดปรอทขนาดใหญ่


ข้อมูลเพิ่มเติมอีก สืบทราบมาว่า ปรอทของอาจารย์ท่านนี้เป็นสายวิชาของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร เกจิอรหันต์แห่งลุมน้ำโขง ทราบว่าตอนหลวงปู่ฝั้นท่านธุดงอยู่ในป่าแถบประเทศลาวท่านได้วิชานี้มาจากแถบภูเขาควาย แดนอาถรรย์ และในประวัติของท่าน ยังเคยเขียนไว้ว่าหลวงปู่ฝั้นได้ธุดงอยู่ในป่า นับสิบปี แต่ท่านหาไม่ป่วยไข้เจ็บปวดเลย ซึ่งยิ่งในสมัยนั้นใข้มาเลเรียระบาด แต่ขณะที่ท่านอยู่ในป่านั้นท่านไม่เคยป่วยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะท่านมีของวิเศษอย่างหนึ่ง นั้นคือปรอทที่ท่านพกติดตัวตลอด ท่านสามารถชมปรอทของหลวงปู่ฝั้นได้ที่พิพิธพันธ์ หลวงปู่ฝั้น อาจารโรได้ที่ วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร ในพิพิธพันธ์ของท่าน พบของวิเศษที่ท่านติดตัว ตอนออกธุดง ในป่านานนับ สิบปีนั้นคือปรอท และยังพบว่านชนิดนึง ที่ท่านพกแต่ไม่ทราบว่าเป็นว่านอ่ะไร ก็มีเกจิท่านนึงได้เล่าเรียนต่อมาจากหลวงปู่ฝั้น ซื่งพระท่านนี้ เป็นผู้มีชื่อเสียงมากแต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าท่านชื่ออ่ะไร แต่รู้ว่าท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ขณะนี้ท่านล่ะสังขารไปแล้ว แต่สังขารไม่เน่า แต่ผมจำชื่อท่านไม่ได้ และต่อมาอาจารย์ฆราวาสที่ทำปรอทนี้ก็ได้เรียนมาจาก อาจารย์ท่านนี้ที่เพิ่งมรณะภาพไปแต่สังขารไม่เน่า เพราะฉนั้นสายวิชาท่านไม่ได้กว้าง และตอนนี้ไม่มีคนสืบวิชานี้แล้ว เนื้องจากไม่มีคนปฏิบัติได้ ท่านจึงไม่ถ่ายทอดไห้ใคร และไม่เปิดเผยตัว ใครที่ต้องการก็รีบๆๆเก็บ เพราะต่อไปจะหายากและไม่มีอีกแล้ว

ปรอทนี้ เป็นปรอทแท้ ล้าน % ผมได้มาจากอาจารฆราวาสท่านหนึ่งของไทย เป็นอาจารผู้เดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในประเทศไทย ที่มีวิชาเรียกปรอท โดยไม่ใช้ไข่เน่าดัก แต่เรียกขึ้นมากจากพื้นดินคล้ายเกล็กไหล และสามารถใช้วิชาทำไห้ปรอทแข็งโดยไม่ผสม สารตัวอื่นคือ เทปรอทลงในเบ้าแล้ว เส็กคาถา ประรอทก็จะแข็ง สำหรับปรอทนี้ มีพุทธคุณครอบจักวาล น้องๆๆเหล็กไหลที่เห็นขอยกันตามทั่วไปนั้น อาจป็นปรอที่ สังเคราะขึ้น จากแร่ตะกัวและอื่นๆๆและทำไห้แข็งตัวโดยแร่อื่นๆๆ แต่ที่นี้ เป็นปรอทปริสุทธิไม่มีส่วนผสมของอ่ะไรอื่น สามารถอมได้ กินได้ สารพัดรักษาโรค

สำหรับ การทดสอบว่าเป็นปรอทแท้ไม่แท้ ไห้นำปรอท มาถูกับการดาษซองบุหรี ด้านที่มีต่ะกั่ววางไว้บนผ่ามือแล้ว ถูไม่กี่ครั้ง จะร้อนมาก และร้อนแรงๆๆ
ส่วนอีกวิธีคือ เอาปรอท สองอันมาถูกัน แล้วสังเกตดูว่า ปรอทจะล่ะลาย เมื่อแยกออกจากกันปรอท จะเป็นดังเดิน ซื่งเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ
ส่วนการใช้ปรอทนั้นถ้าเป็นโรคปวดภายนอกต่างๆๆไห้เอาปรอทมาถูที่บริเวรปวด หรือบริเวร ที่ฟกช้ำ ถูไห้เป็นสีดำไม่ต้องล้านออก ปล่อยทิ้งไว้แล้วจะหายปวดอย่างน่าอัศจรรย์

ข้อห้าม ห้ามคนเกิดปีมะโรง ปีมะแม คนธาตุทอง คนชื่อทอง ห้ามใช้

เล่นแร่แปรธาตุ ปรอทวิเศษ (สำเร็จ)
การแปรธาตุหนึ่งไปสู่อีกธาตุหนึ่งที่มีคุณลักษณะทางกายภาพและเคมีให้ต่างไปจากเดิมนั้นชาวสยามในสุวรรณภูมิมีวิทยาการในเรื่องนี้มาช้านานจากตำนานพบว่าได้รับการถ่ายทอดมาจากชาวชมพูทวีปที่ได้รับความรู้นี้มาจากไอยคุปต์โบราณอีกทอดหนึ่ง เรื่องการเล่นแร่แปรธาตุนี้เป็นเรื่องจริงที่มิใช่เพียงตำนานที่เล่าขานนอกจากการแปรธาตุให้เป็นสิ่งที่มีค่ามากขึ้นยังพบว่ามีการใช้ในการสรรสร้างวัตถุที่ประจุพลังจิตอีก เรื่องราวเหล่านี้พบในเอกสารโบราณหลายฉบับทั้งยังมีกล่าวในพระไตรปิฏกตอนที่กล่าวถึงโลกจินไตยว่าอันคติเรื่องโลกนั้นแบ่งได้สองสาขา คือ

มนิกาวิชชาคือความรู้เรื่องจิตศาสตร์อันได้แก่ ความรู้ทางจิต การบำเพ็ญจิตในลักษณะต่างๆทั้งก่อนพุทธกาลและในขณะนั้นเช่นการสะกดจิต การฝึกปราณยามะ การเพ่งกสิณ

ตัชชารีวิชชา อันนี้คือความรู้เรื่องเครื่องลางของขลัง ๔ ประการ อ
มูลตัชชารี ความรู้เรื่องต้นไม้ว่านยาที่มีอานุภาพต่างๆ
มันตาตัชชารีวิชชาได้แก่ความรู้เรื่องเวทมนต์ต่างๆที่หลายท่านคุ้นเคยกันดี
อังกตัชชารีวิชชาได้แก่ความรู้เรื่องการทำเครื่องลางของขลังพวกพระเครื่อง ผ้ายันต์ ตะกรุดพิสมรต่างๆ
ธาตุตัชชารีวิชชา คือความรู้เรื่องแร่ธาตุต่างที่มีอิทธิฤทธิ์รวมทั้งวิชาเคมียุคดึกดำบรรพ์เรียกว่ารสายนเวทที่เป็นความรู้


เกี่ยวกับเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุต่างๆเช่นการแปรธาตุตะกั่วเป็นทองคำ(สีสัน- ลักษณะโครงสร้างภายนอก)การแปรธาตุปรอทเป็นของแข็งที่เรียกกันว่าปรอทสำเร็จธาตุกายสิทธิ์วิชาเรื่องการแปรธาตุนี้เกือบเหลือเป็นเพียงแค่ตำนานเพราะมีผู้รู้สืบทอดน้อยลงวิชาประการต่างๆก็พลอยสาบสูญไปกับผู้ที่รู้วิชาเหล่านั้น

การแปรธาตุนั้นถือเป็นการร่ำเรียนพระเวทขั้นสูงเพราะต้องใช้ทั้งความรู้และสติปัญญาในการไขปริศนาแห่งวิชาให้เข้าใจทั้งต้องมีพลังจิตในระดับอัปมัญญาสมาธิ(ฌานสมาบัติ)จึงจะสามารถทำสำเร็จ เท่าที่พบในประวัติศาสตร์ของชาวสยามนั้นมีวิชาการที่กล่าวถึงเรื่องนี้อยู่มากทั้งปรากฏหลักฐานในพระเครื่องรางของขลังที่ผู้มีความรู้พระเวทสายนี้สรรสร้างบรรจุไว้ตามกรุเจดีย์ต่างๆแสดงถึงความรุ่งเรืองของรสายนเวทในสมัยนั้น หากท่านเป็นนักนิยมพระเครื่องคงรู้จักเครื่องลางเช่นลูกปรอทกรอก็เป็นประดิษฐกรรมอย่างหนึ่งและพระเครื่องที่ทรงฤทธานุภาพสูงที่บรรจุในกรุโบราณมาแต่สมัยศรีอโยธยารามเทพ
นครที่สรรสร้างด้วยพระเวทสายเล่นแร่แปรธาตุก็คือ พระกรุวัดท้ายย่าน จังหวัดชัยนาทที่ปรากฏมีผู้เรืองวิทยาคมสูงส่งสืบทอดอย่างไม่ขาดสายจนปัจจุบันความเข้มขลังของพระกรุนี้นักนิยมพระรุ่นเก่าถึงขนาดดูแท้ปลอมด้วยการอาราธนากำพระเครื่องนี้แล้วนำเข็มฉีดยาแทงหากว่าเข็มทะลุผ่านชั้นเนื้อไปได้ก็ถือว่าพระเครื่องท้ายย่านองค์นั้นปลอม นี่คือกฤติยาคมที่ผ่านพ้นอดีตจนมาพิสูจน์ความจริงแท้ในโลกปัจจุบันนอกจากพระกรุวัดท้ายย่านจะมีอิทธิคุณเข้มขลังแล้วท่านทราบไหมว่าพระเครื่องชุดนี้สร้างจากวิชาเล่นแร่แปรธาตุที่ปรากฏในตำนานสยามคือวิชาปรอทสำเร็จธาตุกายสิทธิ์นั่นเองเมื่อผ่านกาลเวลานานนับร้อยปีประกอบกับความร้อนเย็นในกรุพระปรอทนั้นก็กินตัวกรอบไม่คงทนทำให้พระชุดนี้ตกแตก บรรดานักนิยมพระเครื่องที่ไม่เดียงสาก็คิดว่าพระท้ายย่านนั้นมีส่วนผสมสร้างจากแร่พลวง(วุลแฟรม)ชนิดหนึ่งเท่านั้นและท่านทราบอีกหรือไม่ว่าพระชุดนี้มิได้ใช้การหลอมเทด้วยความร้อน แต่เป็นการปั้นอัดพิมพ์โลหะกายสิทธิ์นั้นด้วยวิชาพระเวทขั้นสูงที่น่าตื่นตะหนกที่หลอมโลหะด้วยพระเวทแล้วชุบให้แข็งตัวหลายท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจบอกว่าเหลือเชื่อไม่น่าเป็นไปได้แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงครับ

ก่อนที่จะมาถึงการหลอมปรอทโดยไม่ใช้ไฟที่มีนักวิทยาคมหลายท่านสงสัยว่าจริงหรือ ? บางท่านถึงกับกล่าวปรามาสไปก็มีว่าเป็นเรื่องเล่นกลหลอกลวงหรือบางรายกล่าวแบบขอไปทีว่าถึงทำได้แล้วไงจะขลังจริงหรือ อันนี้เป็นเรื่องต่างความคิดต่างความเชื่อกันคงไปบังคับกะเกณฑ์กันไม่ได้แต่ที่นำมาเล่าให้ฟังนี่ก็เพื่อสืบตำนานเรื่องราวที่เป็นความเชื่อทางวัฒนธรรมประการหนึ่งของไทยเราจะขอปูพื้นความรู้เรื่องปรอทวิเศษหรือปรอทสำเร็จที่เป็นของวิเศษในความเชื่อของผู้ศึกษาวิทยาคมว่าใครหากทำได้เเล้วก็นับว่าบรรลุจุดสูงสุดในวิชาวิทยาคมประการหนึ่งเเบบเดียวกับที่เราศึกษาวิชาความรู้ภาคสามัญแล้วได้ปริญญาอย่างไรอย่างนั้นจึงขอคัดตำราการหุงปรอทสำเร็จแบบหนึ่งซึ่งจริงในเมืองไทยมีตำราแบบที่ว่าด้วยการหุงปรอทนี่เท่าที่พบไม่น้อยกว่ายี่สิบตำราครับการหุงปรอทตำรับนี้ที่ได้จากตำราเก่าอายุหลายร้อยปีเล่มหนึ่งกล่าวถึงการหุงปรอทและสรรพคุณไว้จึงขอคัดมาเป็นพื้นความรู้เพื่อกล่าวถึงเนื้อความต่อๆไปดังนี้ครับ

ปรอทเป็นของเหลวและไหลกลอกกลิ้งได้เช่นเดียวกับน้ำ หลักวิทยาศาสตร์ปรอทนั้นจะมีอาการหดตัวเมื่อถูกความเย็นและพองตัวเมื่อถูกความร้อน ตามวิชาการแพทย์ก็ต้องใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดระดับความร้อนของคนไข้ หลักอุตุนิยมวิทยาก็ใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดอุณหภูมิเป็นต้น

เพราะความคุมตัวกันไม่ติดของปรอท และเป็นธาตุชนิดหนึ่งที่มีอาการประหลาดนี้เอง ในโบราณกาลจึงถือว่าปรอทนั้นหากผู้ใดมีวิชาสามารถทำคุมตัวกันได้ และประกอบพิธีโดยหลักไสยศาสตร์อันถูกต้องครบถ้วนแล้วฤทธิอันเกิดจากวิทยาคมซึ่งรวมอยู่ในปรอทนั้นอาจจะสามารถนำผู้ที่เป็นเจ้าของให้เกิดอิทธิฤทธิและกระทำปาฏิหาริย์ต่างๆได้ ดังอุปเท่ห์โบราณดังนี้

ผู้ใดอมปรอทไว้ ผู้นั้นจะมีรูปร่างดังพระมหาจักรพรรดิ (หมายถึง ความมีเดช ฤทธิ์ และความงามเป็นที่เสน่หากระมังอันนี้รวมถึงอานุภาพที่คล้ายกับเหล็กไหลในตำนานที่เด่นเรื่องคุ้มครองป้องกันด้วย) เสียงไพเราะ ดังท้าวมหาพรหม (หมายถึง พูดถูกใจบุคคล เป็นเสน่ห์ พูดอะไรมีคนเชื่อถือกระมัง) ไปป่าหิมพานต์ยาม ๑ ก็ถึง (คงหมายถึงการปาฏิหาริย์ ล่องหน) ไป ๔ ทวีป ในนิ้วมือเดียว (เช่นเดียวกับข้อ ๓ หรืออาจหมายถึงกายทิพย์ก็ได้) คิดอะไรสำเร็จความปรารถนา

ประวัติและความเป็นมาของ"ปรอท"
ปรอท ตามคติของการสร้างวัตถุมงคล เป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ โดยในสมัยโบราณท่านกล่าวไว้ว่า ให้นำแร่ปรอทมาใช้เป็นส่วนผสม ส่วนหนึ่งในการรักษาโรคต่างๆ ของยาแผนโบราณ และบางส่วนก้อใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ในอีกส่วนหนึ่งก็มีการทำให้แข็งตัวตามตำราที่สืบทอดกันมาจากโบราณ ที่เรียกขานกันว่าเป็นการเล่นแร่แปรธาตุ เพราะวงการนักนิยมเครื่องรางของลัง เชื่อถือกันว่า ปรอท เป็นแร่ธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีอานุภาพ อยู่ในตัวเอง แม้นจะเก็บไว้นานก้อคงสภาพไม่แปรเปี่ยนเป็นสีอื่น ปรอทที่แท้จริงจะมีสีขาว ถ้าขัดถูจะดูสดใสขึ้นในทันที จะดูเป็นสีใหม่อยู่เสมอ พิสูจน์ได้โดยเอาถูกับตะกั่วซองบุหรี่ จะร้อนไหม้ขึ้นในทันที เอาหลังแตะกันจะเห็นเป็นยาง เอาถูอลุมิเนียมจะเป็นขุยขึ้นมา เอาถูที่มือ จะป็นสีดำ จึงจะเป็นของแท้ถูกต้องตามตำรา สรรพคุณของปรอท ใช้ได้กว้างขวาง เหมาะแก่ท่านที่อยู่ตามชนบท ต่างๆ เช่น ตามไร่ นา ป่า เขา ควรมีพระปรอทติดตัวไว้บูชา ป้องกันอันตรายได้หลายอยาง บรรพบุรุษนับถือกันจริงๆ ยิ่งนำมาสร้างเป็นพระหลวงปู่ทวดเหยีย่บน้ำทะเลจืด ถือได้ว่าย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์หลายอย่าง เพราะหลวงปู่ทวด เป็นสุดยอดพระนิรันตราย พระเนื้อปรอทหลวงปู่ทวดนี้ นำพกติดตัว เมื่ออันตรายใช้ได้ทันที อาทิ แช่น้ำเป็นน้ำพุทธมนต์ หรือ ดื่มกินเพื่อักษาโรคต่างๆ อานุภาพ ของพระเนื้อปรอทตามตำนานที่เชื่อถือกันมาแต่โบราณ
1. เมื่อถูกของมีคม ใช้ถูปากแผล ห้ามเลือด และแผลจะปิดทันที
2. กันไข้ป่า ไข้พิษ ต่างๆ
3. ดูดพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ใช้น้ำสุราล้างพระปรอท ปิดแผล
4. ดูดพิษงู
5. ป้องกันภูติ ผีปิศาจ และคุณไสย
6. เวลาเดินทางไกล อาราธนาติดตัว หรือแช่ทน้ำมนต์ ประพรหมยานพาหนะป้องกันภยันตรายต่างๆ
7. ปวดฟันให้อมพระปรอทไว้
8. ป้องกันยาพิษ ยาสั่ง
9. ทารักษาโรคผิวหลังกลากเกลื้อน
10. เป็นฝี ใช้พระเนื้อปรอท ล้างน้ำสุรา ปิดที่หัวฝี การเล่นแร่แปรธาตุหุงหาปรอท ตามตำหรับโบราณนี้ เป็นเรื่องที่หาพระคณาจารย์ ผู้ที่มีวิชาทำได้ยากยิ่ง ดังนั้นพระปรอทจึงเป็นสิ่งสำคัญหายาก จึงควรเก็บักษาไว้ให้ดี เพราะตำราที่ใช้หุงปรอทนั้นเป็นตำรับที่ตกทอดมาแต่โบราณ เป็นการรักษา ของเก่าที่มีมาแต่ครั้งบรรพบุรุษไม่ให้สูญหายไปกับกาลเวลา
คาถาหัวใจปรอท วะโมตุ ทันตานัง
ปรอทบริสุทธิ์ ราคาองค์ล่ะ 2500 บาท ขอค่าจัดส่งเพิ่มอีก 50 บาท

สนใจติดต่อได้ที่ 0831409216 (เชษ)
ก่อนโอนเงินกรุณาโทรสอบถามก่อนว่าของอยู่มัย
สามารถโอนเงินได้ที่
ธนาคารกรุงไทย
สาขาคำชะอี
ชื่อบัญชี นายกฤตธัช(เชษฐพล) โมราสุทธิ์
บัญชี เลขที่ 436-0-11356-0
จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ
chetsu_kung@hotmail.com แอดมาสอบถามได้ ออนตลอดครับ<O</O<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
ถือจรรยาบรรที่ว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน น่ะครับ

หมายเหตุ รายการทุกอย่างกรุณาสอบถามก่อนว่าของยังอยู่มัย

 

รายการที่ 88 เขาวัวแดงแกะเป็นรูปพระ


วัวแดงเป็นสัตว์ป่าไกล้สูญพัน และอยู่ในป่าลึกพบเจอได้ยาก และยิ่งเป็นเขาวัวแดงแล้วโบราณท่านว่ามีคุณ เหลือหลายถือเป็นของทนสิทธิ์ ที่หาได้ยากยิ่ง ท่านว่าเขาวัวแดงถ้าเอามาทำด้ามีด จะดีกันคุณไสย ถ้าทำเป็นพระบูชา เอาแช่ในอ่างน้ำมนต์ รดหายสิ้นแล ผีเข้า ปัดสะเนียน แช่ทำน้ำมนต์รดหายสิ้นแล เสาเฮี้ยนตกน้ำมัน เอาเขาวัว แดง ทำน้ำมนต์ รดเสา แล้วเอาเขา ตีเสา ผีออกแล ถ้าจะบูชาเป็นมหาลาภไห้สักการะตามกำลังวันเถิด ขอได้ตามปราถหนา เป็นพระเก่า แกะด้วยฝีมือช่างอีสาน ทำตามวิธีแกะพระโบราณ และผ่านการจารย์อักขระปลุกเสก ผู้ได บูชาจะมั่งมีศรีสุขเหลือกินเหลือใช้ ป้องกันคุณไสย เสนียดจันไลทุกรูปแบบ นับว่หากันไม่ได้ง่ายๆ หมดแล้วไม่มีอีก เป็นของโบราณหายาก
เขาวัวแดง โทรสอบถาม ขอค่าจัดส่งเพิ่มอีก 50 บาท

สนใจติดต่อได้ที่ 0831409216 (เชษ)
ก่อนโอนเงินกรุณาโทรสอบถามก่อนว่าของอยู่มัย
สามารถโอนเงินได้ที่
ธนาคารกรุงไทย
สาขาคำชะอี
ชื่อบัญชี นายกฤตธัช(เชษฐพล) โมราสุทธิ์
บัญชี เลขที่ 436-0-11356-0
จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ
chetsu_kung@hotmail.com แอดมาสอบถามได้ ออนตลอดครับ<O</O<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
ถือจรรยาบรรที่ว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน น่ะครับ

หมายเหตุ รายการทุกอย่างกรุณาสอบถามก่อนว่าของยังอยู่มัย

 

รายการที่ 89 เขาวัวแดง แกะเป็นพระสิวลี


วัวแดงเป็นสัตว์ป่าไกล้สูญพัน และอยู่ในป่าลึกพบเจอได้ยาก และยิ่งเป็นเขาวัวแดงแล้วโบราณท่านว่ามีคุณ เหลือหลายถือเป็นของทนสิทธิ์ ที่หาได้ยากยิ่ง ท่านว่าเขาวัวแดงถ้าเอามาทำด้ามีด จะดีกันคุณไสย ถ้าทำเป็นพระบูชา เอาแช่ในอ่างน้ำมนต์ รดหายสิ้นแล ผีเข้า ปัดสะเนียน แช่ทำน้ำมนต์รดหายสิ้นแล เสาเฮี้ยนตกน้ำมัน เอาเขาวัว แดง ทำน้ำมนต์ รดเสา แล้วเอาเขา ตีเสา ผีออกแล ถ้าจะบูชาเป็นมหาลาภไห้สักการะตามกำลังวันเถิด ขอได้ตามปราถหนา เป็นพระเก่า แกะด้วยฝีมือช่างอีสาน ทำตามวิธีแกะพระโบราณ และผ่านการจารย์อักขระปลุกเสก ผู้ได บูชาจะมั่งมีศรีสุขเหลือกินเหลือใช้ ป้องกันคุณไสย เสนียดจันไลทุกรูปแบบ นับว่หากันไม่ได้ง่ายๆ หมดแล้วไม่มีอีก เป็นของโบราณหายาก
เขาวัวแดง โทรสอบถาม ขอค่าจัดส่งเพิ่มอีก 50 บาท

สนใจติดต่อได้ที่ 0831409216 (เชษ)
ก่อนโอนเงินกรุณาโทรสอบถามก่อนว่าของอยู่มัย
สามารถโอนเงินได้ที่
ธนาคารกรุงไทย
สาขาคำชะอี
ชื่อบัญชี นายกฤตธัช(เชษฐพล) โมราสุทธิ์
บัญชี เลขที่ 436-0-11356-0
จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ
chetsu_kung@hotmail.com แอดมาสอบถามได้ ออนตลอดครับ<O</O<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
ถือจรรยาบรรที่ว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน น่ะครับ

หมายเหตุ รายการทุกอย่างกรุณาสอบถามก่อนว่าของยังอยู่มัย

 

รายการที่ 90 กระดูกช้างแกะเป็นเล็บ


เป็นกระดูกที่นำมาแกะเป็นเล็บ เป็นของคนเก็บของเก่า แถวภาคกลาง ได้มามา มีจารย์อักขระ เก่าพอควร ไม่ทราบแน่ชัดว่าใครสร้าง
- บาท ขอค่าจัดส่งเพิ่มอีก 50 บาท

สนใจติดต่อได้ที่ 0831409216 (เชษ)
ก่อนโอนเงินกรุณาโทรสอบถามก่อนว่าของอยู่มัย
สามารถโอนเงินได้ที่
ธนาคารกรุงไทย
สาขาคำชะอี
ชื่อบัญชี นายกฤตธัช(เชษฐพล) โมราสุทธิ์
บัญชี เลขที่ 436-0-11356-0
จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ
chetsu_kung@hotmail.com แอดมาสอบถามได้ ออนตลอดครับ<O</O<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
ถือจรรยาบรรที่ว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน น่ะครับ

หมายเหตุ รายการทุกอย่างกรุณาสอบถามก่อนว่าของยังอยู่มัย

 

รายการที่ 91 แหวนฟันกรามช้าง




ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ทรงพลังมีอานุภาพน่าเกรงขาม ดังเช่นที่กล่าวมา ฟันกรามช้างเป็นที่ใฝ่หาของนักเล่นทนสิทธิ์ที่หากันอย่างมาก เพราะไม่ได้มาง่ายๆๆ เนื่องจากสมัยนี้ เมื่อช้างตายลงก็จะเอาไปฝั่ง ไม่มีการชำแระ แต่สมัยก่อนช้างจะตายตามป่าเขาเหลือแต่ซาก และฟันกรามช้างถือเป็นของทนสิทธิ์ชนิดหนึ่งที่หาได้ยาก โดยตามโบราณ ได้กล่าวถึงคุณประโยชน์ของพันช้างไว้เหลือคนา ท่านว่าฟันช้าง ถ้ามีการคันแพ้น้ำเกลี่ยง แพ้ผื่นคัน ท่านไห้ เอาไบส้มเสี้ยวต้มกับฟันช้าง แล้วอาบ ลดหายสิ้น จากการแพ้คัน ถ้าจะบูชาเหมาะแก่เจ้าขุณมูลนาย นายทหารข้าราชการตำรวจ ผู้ที่เป็นใหญ่เป็นโตจึงจะได้ครองครอง ท่านว่าผูได้ครองครองจะเป็นผู้มีบารมี เลื่อนยศถาบรรดาศักดิ์ ลูกน้องเกรงขาม เดินทางสะดวกปลอดภัย ไปไหนมาไหนมีแต่คนรักมีเมตตาหากินง่าย มีอำนาจวาสนา นับว่าหาได้ยากยิ่ง และราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับการที่ได้มา

โทรสอบถาม ขอค่าจัดส่งเพิ่มอีก 50 บาท

สนใจติดต่อได้ที่ 0831409216 (เชษ)
ก่อนโอนเงินกรุณาโทรสอบถามก่อนว่าของอยู่มัย
สามารถโอนเงินได้ที่
ธนาคารกรุงไทย
สาขาคำชะอี
ชื่อบัญชี นายกฤตธัช(เชษฐพล) โมราสุทธิ์
บัญชี เลขที่ 436-0-11356-0
จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ
chetsu_kung@hotmail.com แอดมาสอบถามได้ ออนตลอดครับ<O</O<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
ถือจรรยาบรรที่ว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน น่ะครับ

หมายเหตุ รายการทุกอย่างกรุณาสอบถามก่อนว่าของยังอยู่มัย

 

รายการที่ 52 หางปลากระเบน




หางปลากระเบน ของดีเมืองใต้ เป็นหางกระเบนราหู ขอดเป็นวงค์ โดยที่รูกันมาว่าเป็นเครื่องรางชาวใต้ที่นิยมและหายากกันมาก เพราะช่วยกันคุณใสยเขี้ยวงาต่างๆและยังมีราคาแพง ชาวใต้นิยมนำมาทำแหวน และท่านว่า เมื่อทำแหวน ยังโตได้อีกอ่ย่างไม่น่าเชื่อเป็นของทนสิทธิที่นับว่าหาได้อยากอีกอย่างหนึ่ง เป็นที่รู้กันของชาวเลว่า หางปลากระเบนเป็นของศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติ ช่วยป้องกันคุณสัย แล้วยังสามารถเรียกโชคลาภได้อีกด้วย คนใต้มักจะนำไปทำหัวแหวนแล้วพกติดตัวคับ ของดี และหายากพอสมควร

ต้องการเป็นหัวโทรสอบถามเพื่อการตัดแบ่ง

โทรสอบถาม ขอค่าจัดส่งเพิ่มอีก 50 บาท

สนใจติดต่อได้ที่ 0831409216 (เชษ)
ก่อนโอนเงินกรุณาโทรสอบถามก่อนว่าของอยู่มัย
สามารถโอนเงินได้ที่
ธนาคารกรุงไทย
สาขาคำชะอี
ชื่อบัญชี นายกฤตธัช(เชษฐพล) โมราสุทธิ์
บัญชี เลขที่ 436-0-11356-0
จองได้ไม่เกิน 3 วันครับ
chetsu_kung@hotmail.com แอดมาสอบถามได้ ออนตลอดครับ<O</O<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
ถือจรรยาบรรที่ว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน น่ะครับ

หมายเหตุ รายการทุกอย่างกรุณาสอบถามก่อนว่าของยังอยู่มัย

 

สำหรับรายการวันนี้ก็หมดเพียงเท่านี้ ท่านได ต้องการหรือสนใจวัตถุมงคลกรุณาสั่งจองหรือโทรสอบถามได้เลยครับ

 

โชว์ ปรอทองค์ใหญ่ที่สุด คิดว่าใหญ่ที่สุดแล้วในไทย

มีท่านนักปฏิบัติผู้หนึ่งที่สนใจและหลงไหลในปรอท ได้สั่งทำใหญ่พิเศษ ซึ่งแม้แต่ผมยังอยากได้ ไม่ได้ทำกันง่ายๆ เพราะต้องใช้ปรอทจำนวนมาก ใช้เวลาทำ ถึงหนึ่งเดือนในการหาปรอท มีขนาดใหญ่มาก และหนักถึง 1.3 กิโลกรัม และที่สำคัญปรอทองค์นี้ ใหญ่มากเป็นพิเศษ เมื่อโดนความร้อน จะร้อนเร็วและร้อนมาก เมื่อโดนเย็นจะเย็นเร็วและเย็นมาก ห้ามนำไปถูฟอยทดลอง เพราะปรอทมีขนาดใหญ่มาก อาจทำไห้มือไหม้ได้ และที่สำคัญอาจารย์ท่านว่า ทำน้ำมนต์ได้เป็นอ่าง อิอิ (ถ้าทำน้ำมนต์ได้เป็นอ่างๆก็อย่าลืมนำไปแจกจ่ายไห้ผู้ที่ป่วยใข้ได้ดืมกินและทา๔ด้วยน่ะคราบ) และที่สำคัญ ปรอทเค้าวัดกันที่ความมันวาวของผู้ทำถ้าผู้ไดทำปรอทได้มันวาวมากยิ่งเป็นปรอทชั้นดีเคยมีผู้รู้ ที่บูชาไปกล้าการันตีเลยว่าดีที่สุด และ ถ้าเป็นปรอทอีกขันสุดยอดคือปรอทแก้ว ท่านๆลองไปอ่านตำนานวิทยาธรได้ที่จะทำปรอทบริสุทใสได้เหมือนแก้ว ซึ่งเป็นขั้นหนึ่งเมื่อสำเร็จปรอทแล้วก็จะก้าวไปสู่การทำปรอทแก้ว และท่านว่าปรอทแก้วถ้าอมใส่ปากสามารถเหาะเหิรเดินอากาศได้ซึ่งก็เป็นขั้นหนึ่งที่จะนำไปสู่การเป็นวิทธยาธร ผู้เรื่องเดช และที่สำคัญ อาจารย์ท่านว่า ปรอทจะแรงไม่แรงขึ้นอยู่กับขนาดยิ่งใหญ่ยิ่งแรง ผมแอบเห็นแล้ว อยากได้ กว่าจะขอไห้ท่านทำไห้ ถ้าท่านได้สนใจอีกก็โรมาสอบถามคุยกันได้ครับ แต่ไม่รับปากว่า ท่านจะทำไห้หรือเปล่า ก็เอามาไห้ชมกันเป็นขวัญตาครับ ส่วนเรื่องราคานั้นก็ขอไม่เปิดเผยน่ะครับ

 

เพิ่งเข้ามาค่ะ ได้อ่านครบทุกหน้าแล้ว สนใจปรอทค่ะ
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
ขอให้เจริญในธรรมค่ะ

 

ขอบพระคุณมากที่ไห้ความสนใจครับ

 

อิ่งอ้อย องค์ล่ะ 100 บาท รบกวนขอค่าส่ง 30 บาท
ยังมีอยู่ไหมครับถ้ามี จอง 1 องค์ครับ