ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. โอ ท่าซุง

    โอ ท่าซุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,291
    ค่าพลัง:
    +8,435
    สวัสดียามเช้าวันอาทิตย์ทุกท่านครับ ขอบคุณครับ
     
  2. moo noi

    moo noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    6,328
    ค่าพลัง:
    +23,902
    เพิ่งจะได้เข้ามาอ่านเป็นครั้งแรก อ่านหน้าแรกก็ติดในสำนวนการเขียนซะแล้ว...
     
  3. วีรวัช

    วีรวัช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,622
    ค่าพลัง:
    +5,029
    ไม่เคยได้ยินชื่อสวนสนุกที่คุณลุงว่าเลย :boo:
     
  4. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ........................................................................
    ผมจะเล่าในตอนที่จะถึงอยู่แล้วครับ..แต่จะไม่เล่าในรายละเอียดของโค๊ต..แต่เป็นเรื่องเจียฐาน.......เรื่องโค๊ต..มีแต่ความน่าจะเป็น..อย่างนี้กล่าวถึงได้ไม่ฟันธง.......
    ......................................................................
    สำหรับ..พระผงดำวัดสุทัศน์...นี่อันตราย..นะครับ..พระจริงๆมี..น้อยมาก..ท่านสังฆราชแพ..สร้างตั้งแต่..ยังไม่ขึ้นชั้น..สมเด็จฯ..ประมาณปี ๒๔๖- กว่าๆ..พระผงดำ..บางท่านว่า..ผสมรัก..ผมว่าไม่น่าใช่..น่าจะเป็นผงใบลานเผา..มากกว่า..มีวัสดุผสมด้วยหลาย..อย่าง...พระเนื้อแบบนี้..ของปลอมจะทำได้ใกล้เคียง..ระวังให้ดี..พระมีการสร้างน้อยมาก..จะหลงเหลือของจริงมาถึง..ก็ฟลุ๊คมากๆ...ทรงพระเป็น..พิมพ์ สามเหลี่ยม..เล็กไม่ใหญ่..ทรงรูปร่างคล้าย..พิจิตรหลังผ้า..ก็เลยเรียกันว่า..พิจิตรผงดำ...ของมีน้อย..สังฆราชแพทำเอง..พุทธคุณไม่ต้องพูดถึง......ของจริงมี๑ของปลอมมี๑๐๐
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2010
  5. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .........................................................................
    ถ้าอายุ..ต่ำกว่า ๕๐..และไม่ได้อยู่แถวนั้น..คงยาก...แต่ถ้าเคยได้ยิน..สวนอาหาร เซซาโว่...นั่นแหละครับที่เดียวกัน..
    ...ถ้าผมมา่เล่าสิ่งที่พวกท่านส่วนใหญ่..ทราบอยู่แล้ว..ก็เปล่าประโยชน์..จริงมั้ยครับ...
     
  6. เด็กบางแค

    เด็กบางแค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +1,989
    สวัสดีครับ เข้ามาติดตามครับ เรื่องเก่าๆหลายๆเรื่องไม่เคยทรายเลยครับ
    ขอบพระคุณมากนะครับ
     
  7. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    อยากศึกษาพวกพระกริ่งสายวัดสุทัศน์มาก ๆ เคยพยายามอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ไม่ได้เรื่องเลย พระกริ่งในองค์สังฆราชแพ และของเจ้าคุณศรี (สนธิ์) สร้างมาหลายรุ่น แทบทุกปี ลำพังจะจดจำพิมพ์ทรงในแต่ละปีก็เป็นเรื่องยากมาก ๆ อยู่แล้วค่ะ ยิ่งต้องจดจำกระแสทั้งเนื้อใน เนื้อนอกยิ่งยากเป็นทวีคูณ ยกเว้นในพิมพ์ทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของท่าน อย่างเช่น ก้นถ้วยเล็ก ก้นถ้วยใหญ่ น้ำท่วมปี 85 หรือหน้าอินเดีย เป็นต้น สำหรับพิมพ์พวกพรหมมุนี, ปี 79, ปี 81 ที่สร้างน้อยมาก ๆ แบบนี้ยิ่งจำได้ยากมากขึ้นค่ะ โดยเฉพาะพระในปีลึก ๆ ของท่าน เช่น พรหมมุนี, พระยาศุภกร กระแสเนื้อจะเป็นสำริดกลับดำ แตกต่างกันที่กระแสเนื้อในเท่านั้นเอง โดยสรุปก็คือพระกริ่งวัดสุทัศน์เป็นอะไรที่เล่นหาได้ยากมาก ๆ นอกจากเชี่ยวชาญจริง ๆ เท่านั้นเองค่ะ
     
  8. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .......................................................................
    ที่คุณน้ำ..เอ่ยมาแต่ละชื่อ(ที่รุ่นท่านยังไม่ขึ้นชั้น..สมเด็จ)..ชื่อละ..ไม่ถึง..ร้อยองค์....ผมว่า..ปลงเถอะ...หันไปเล่นพระชัย..ยังพอมีลุ้น..จำนวนเยอะกว่า..ดูยากน้อยกว่า...ของที่เอามาลงใน..หนังสือ..พวกรุ่นที่ท่าน..ยังไม่เลื่อนขึ้นชั้นสมเด็จ..ผมว่า..ไม่แท้ทั้งหมดหรอกครับ...ท่านแจกในยุคนั้น..ไม่ใช่คนธรรมดา..ยศฐาบรรดาศักดิ์ใหญ่โต...แล้ว..ตระกูลเหล่านี้เขาจะตกยาก..กันแทบทุกคน..จน..จนกระทั่ง..เอาพระมาขายกันหมด...ฝันไปแล้ว..มีครับแต่ไม่ใช่..เกือบหมด..แค่บางส่วน..การเล่นพระต้องนึกถึงหลักความเป็นจริงไว้ก่อน..ดูความเป็นไปได้สำคัญกว่าตำหนิ...พระแต่ละรุ่นมีไม่ถึงร้อย...พระ๘๐ องค์..พระออกมาจากเจ้าของเดิม..คิดอย่างเข้าข้างตัวเอง..ครึ่งหนึ่ง..๔๐..องค์...เสี่ยเมืองไทย..ยอดนักเก็บใส่ตู้นิรภัย..มีเป็นร้อย..พระเข้าไปแล้ว..แทบไม่มีทางกลับออกมาอีก...ยิ่งหายากพวกนี้ยิ่งชอบเป็นความภาคภูมิใจ..ถ่ายรูป..เก็บใส่คอมพ์..เอาไว้อวดพวกระดับเดียวกัน..แพงกูไม่ว่า..กูต้องเหนือกว่ามัน..ขอโทษผมเจอกับไอ้พวกนี้มาเยอะ...หายไป ๓๐..เหลือ ๑๐ องค์...ผมถามว่า ๑๐ องค์นี่
    จะกระเซ็นมา..หาคนทั่วไปหรือครับ..รุ่นพวกนี้..ซื้อขาย..มันกลายเป็น..การประมูลไปแล้ว..ราคาจริง..สำหรับของที่ยืนยันได้แน่นอน..มันสูงกว่า..ราคาที่เขียนตามหนังสือเยอะ...ไม่ต้องระดับนี้หรอกครับ..คุณดูพระร่วงรางปืน..เดี๋ยวนี้ของจริง..เหลือวิ่งในตลาดกี่องค์..เข้าตู้นิรภัยธนาคาร..ไปเกือบหมดแล้ว................................
    ....ผมเองอยู่กับพระมานาน..เห็นความเปลี่ยนไปเยอะ..ผมยังต้องปลง...เลยไม่รู้จะไปสนใจแยกแยะทำไม
    ..เหมือนหมาเห็นเครื่องบิน..(ผมพูดถึงตัวผมเองนะครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2010
  9. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ไว้รออ่านเรื่องชินราชอินโดจีนดีกว่าค่ะ อย่างน้อยก็แยกแยะเก๊แท้ได้ง่ายกว่า อีกทั้งมีจำนวนการหมุนเวียนถือว่าเยอะพอสมควร ชินราชเท่าที่จำได้จะมีของหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้วออกมาพิมพ์ทรงคล้ายกัน แต่ของหลวงปู่เผือกด้านหน้าจะไม่เหมือนกับของวัดสุทัศน์ ไม่ทราบว่าในสมัยนั้นพระเครื่องหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้วคนนิยมกันมากน้อยแค่ไหนค่ะ เคยได้ยินชื่อปรมาจารย์สายนี้ท่านนึงที่ชื่อว่า อ.ชัยยงค์ ตามเสรี (ขออนุญาตเอ่ยชื่อนิดค่ะ) ได้ยินมาว่าท่านเก็บพระหลวงปู่เผือกไว้เยอะมาก ๆ จึงอยากสอบถามคุณลุงว่าพระเครื่องหลวงปู่เผือกมีมากมายหลายสิบพิมพ์จริงหรือเปล่าค่ะ เพราะส่วนใหญ่เท่าที่ติดตามอ่านจะพบว่าคนจะรู้จักกันแค่ไม่กี่พิมพ์ โดยเฉพาะขุดสระเล็ก ขุดสระใหญ่ และแจกแม่ครัวเท่านั้นเองค่ะ
     
  10. trirut

    trirut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,420
    ค่าพลัง:
    +1,499
    มาลงชื่อรอข้อมูลดีๆๆครับ ^^
     
  11. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .........................................................................
    คุณน้ำ..กลับไป..อ่านบทความตอนเก่าของผม..จะเอ่ยชื่อท่านไว้..ฐานะมีคณูปการต่อ..วงการพระ..ในยุคแรก..ชื่อเล่นแกชื่อ.."ย้ง"...ชินราชหลวงปู่เผือกมี..๒ เนื้อ..คือ ทองเหลือง..กับ..อัลปาก้า...อัลปาก้าจะมี.น้อยกว่า..และค่านิยม..มากกว่า..สร้างปีเดียวกัน..หุ่นผอม..และบางกว่า..เป็นพระกริ่ง...ดูความแตกต่างกันง่าย..ด้านหน้าตอนล่างจะมี...ตราอกเลา..ไม่ได้ตอก..หล่อมาด้วยก้น...หลวงปู่เผือกตั้งใจมาก..เจตนาแจกทหารไปรบกับ..ฝรั่งเศษโดยเฉพาะ..ท่านเป็นนักบู๊..เลือดรักชาติแรง...ค่านิยมไม่ได้เป็นรอง..ของวัดสุทัศน์โดยเฉพาะ..เนื้ออัลปาก้า..สวย..แพงกว่า..วัดสุทัศน์สวย(ไม่แต่ง)อีก
    ผมบอกแล้วว่า..ตั้งใจทำเป็นพิเศษ..ประสพการณ์..มากกว่า..วัดสุทัศน์อีก...ยิ่งแถบ..บางนา..บางพลี..ปากน้ำ..มากมาย..ราคาไม่เคยตก..มีแต่ขึ้นกับขึ้น...
    ดูง่าย..กว่า..ของวัดสุทัศน์ด้วย..ถ้ารู้จุด....
    หลวงปู่เผือก..เก่ง..ดังเร็ว..มาตั้งแต่หนุ่ม..ถือเป็นศิษย์อัจฉริยะ..ของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา...สงสัยคุณน้ำอ่านข้าม..ของผมเยอะ..เคยเขียนไว้แล้วว่าของท่านยิ่ง..ขุดสระ..ยอดนิยมมาตั้งแต่ผมเข้าสนามใหม่ๆ..ท่านดังมาตั้งแต่ก่อนสงครามอินโดจีนอีก..ผงขุดสระท่าน..สร้างมาตั้งแต่สมัย..ร.๖
    ......เรื่องพิมพ์พระ..ของหลวงปู่เผือก..เฉพาะออกที่วัดกิ่งแก้วเอง..ก็เป็น..สิบ..แล้ว..ท่ายสร้างพระผงจำนวนมากพอควร..และหลายพิมพ์ด้วยช่วงสงครามอินโดจีน..แจกชาวบ้าน..กันปืน..กันระเบิด...ออกที่วัด..อื่นๆมากกว่า..๑๐ เฉพาะ..พระผง..อย่างอื่นอีกเยอะ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2010
  12. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:9.0pt 1.3pt 9.0pt 36.0pt; mso-header-margin:35.4pt; mso-footer-margin:35.4pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอบคุณ..คุณOrkar..คุณโอ ท่าซุง..คุณน้ำ..คุณmoo noi(ยินดีต้อนรับครับ)..คุณวีรวัช..คุณTrirut<o:p></o:p>
    คุณ เด็กบางแค<o:p></o:p>
    ที่ชม..ให้กำลังใจ..และติดตาม..รวมถึงท่านผู้ติดตามอ่านทุกท่าน<o:p></o:p>
    ...............................................กรุงเทพ..ยุค..คลาสสิค...........................................<o:p></o:p>
    ...พอไอ้เพื่อนที่ไปมาวันเปิด..มันก็โม้กันแหลก..สนุกอย่างโน้นอย่างนี้..ความจริงมันไม่ถึงอย่างงั้นมัน<o:p></o:p>
    ยั่วผม..เพราะรู้ว่าผมไม่ได้ไป..พอถึงเวลาได้ไป..ผมยังงง..รู้สึกว่าถนนงามวงศ์วาน..หน้า..ทิมแลนด์<o:p></o:p>
    ตอนนั้นยังไม่ได้ลาดยางเลย..ผมว่า..มันก็คล้ายๆเขาดิน..แต่เขาเอา..ช้างมาเดินเล่น..ให้คนสัมผัสได้<o:p></o:p>
    ..แล้วก็มีที่เล่น..แบบคล้ายๆกับผมไป..งานภูเขาทอง..แต่น้อยกว่า..ที่กว้าง..ใกล้กับเขาดิน..สรุปคือ<o:p></o:p>
    ..ไม่ประทับใจเท่าไหร่..ไม่เหมือนราคาคุย..แล้วก็จริงอย่างว่า..รู้สึกว่า..เปิดอยู่ได้ซัก ๕หรือ๖ปี..ผม<o:p></o:p>
    จำไม่ได้แน่...ก็เรียบร้อย..เจ๊ง...ต้องแบ่งขายที่..ใช้หนี้..อนุสรณ์ที่เหลือคือ...ซอยทิมแลนด์..ผมว่า<o:p></o:p>
    ไปถามคนในซอย..ยังไม่รู้ที่มาของชื่อ..ที่ผืนใหญ่ที่เหลือ..ก็มีคนมาซื้อเปิดเป็น...สวนอาหาร..สไตล์<o:p></o:p>
    อยู่กลางป่า..ขายอาหารป่าด้วย(ตอนนั้นกฎหมายยังไม่ห้าม)..มาแบบแหวกสไตล์..ช่วง ๒-๓ปีแรก<o:p></o:p>
    คนแน่นเลย..ฮิตมาก....สวนอาหารเซซาโว่...คำว่า เซซาโว่...เป็นชื่อของป่าในไทยนี่ละครับ..เป็น<o:p></o:p>
    ภาษากะเหรี่ยง..เจ้าของคงคิดว่า..มันเท่ดี...และแล้ว..ต่อมาอีกไม่นานก็เหมือนเดิม..เจ๊งอีก..ไม่ทราบ<o:p></o:p>
    ว่า..สาเหตุใด...เลยกลายเป็นที่มาของ..ที่อาถรรพ์..ไม่มีใครทำกิจการอะไรอีก........<o:p></o:p>
    ..............ไปเรื่อง..ทิมแลนด์..ซะพอสมควร..กลับมาที่..เรื่องคนพระนคร..ธนบุรี.ไม่ค่อยมี..อะไรตื่น<o:p></o:p>
    เต้น..ต้องรองานใหญ่..ประจำปี..สมัยก่อนทุกคนเฝ้ารอกันจริงๆ..งานที่ใหญ่ที่สุด...คือ..งานวิชราวุธ<o:p></o:p>
    ..หรือ..งานวชิราวุธานุสรณ์..ไม่มีงานไหนยิ่งใหญ่..กว่า..งานนี้ถือว่า..เป็นงานประจำปีเป็นทางการ<o:p></o:p>
    ของประเทศเลย..นอกจากนี้..ในบริเวณจัดงานก็จะแบ่งส่วนเป็น..เวทีประกวดนางสาวไทย..หรือ..นาง<o:p></o:p>
    งามวชิราวุธ...อีกส่วนที่ใกล้สโมสรราษฎร์สราญรมย์..ก็มีการจัดประกวดนางงาม..อีก..เวทีหนึ่ง..แต่ที่<o:p></o:p>
    นี่..ไม่มีชุดว่ายน้ำ..เพราะเป็นการจัดประกวด..นางงาม ร.๖..ซึ่งผู้เข้าประกวดจะต้องแต่ง..เครื่องแต่ง<o:p></o:p>
    กายสำหรับเป็นทางการที่นิยม..กัน..ในสมัย..ร.๖....สถานที่จัด..คือ..วังสราญรมย์..ที่สร้างสมัย ร.๖<o:p></o:p>
    ..อยู่ตรงข้ามกับ..กรมรักษาดินแดนในปัจจุบัน..ฝั่งตะวันตกของ..วังสราญรมย์จะอยู่ตรงกันข้ามกับ<o:p></o:p>
    ..พระบรมมหาราชวัง...งานนี้เป็นการจัดร่วมกัน..ระหว่าง..สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธ..สโมสรราษฎร์<o:p></o:p>
    สราญรมย์..และ..รัฐบาล...........<o:p></o:p>
    ....ไว้ตอนหน้า..ผมจะมาเล่า..บรรยากาศ..และรายละเอียดของงานนี้...ซึ่งไม่มีทางหวนกลับมาอีก<o:p></o:p>
    .................................................................................................................................<o:p></o:p>
    .................................................................................................................................<o:p></o:p>
    ....................ผมทิ้งท้ายคราวที่แล้วไว้..เรื่องชินราชอินโดจีน..เรื่องการเจียใต้ฐาน..ผมว่าหลายคน<o:p></o:p>
    ทราบแล้ว..แต่บางคนอาจไม่ทราบ..เพื่อประกอปเรื่อง..เลยขอกล่าวถึงบ้างครับ.....................<o:p></o:p>
    ..........พระชินราชอินโดจีน..เดิม..ไม่ว่าพิมพ์ไหน..แบบหล่อครั้งแรก..ใต้ฐาน..จะมีตรา อกเลาวิหาร<o:p></o:p>
    วัดใหญ่(ผมชิน..เพราะเคยไปทำงานที่พิษณุโลก..นาน..ก็เลยติดเรียกตามชาวบ้าน..แต่ผมว่าสั้นดี..<o:p></o:p>
    วัดพุทธชินราช)เป็นสัญญลักขณ์..ซึ่งนูนมาก..ปรากฎว่า..เอาพระวางแล้ว..พระล้ม..มันก็ไม่เข้าท่า<o:p></o:p>
    ทางพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย..ผู้เป็นประธานใหญ่ในการจัดสร้าง..มาปรึกษา..กับทาง..วัดสุทัศน์<o:p></o:p>
    ..ผู้ร่วมจัดสร้าง..รวมทั้งวัดใหญ่ฯผู้มีสิทธิอันชอบธรรม..ของพระพุทธชินราช..และตรา..อกเลาวิหาร<o:p></o:p>
    ซึ่งถือว่า..เป็นตราของวัดใหญ่ฯ(พระชุดนี้ได้ไปทำพิธีที่หน้าพระพุทธชินราช..พิษณุโลกด้วย)...<o:p></o:p>
    ปรากฏได้ข้อสรุปมาว่า..ให้เจียตราที่ฐานออกให้เรียบ..แต่เพื่อ..คงสัญญลักขณ์..ของพระพุทธชินราช<o:p></o:p>
    ..และ..วัดใหญ่ฯ..ไว้ให้..ทำตัวตอก..เป็นรูป..อกเลาวิหารฯ..ตอกประทับแทน..แต่ให้ทำ..ตัวตอกเพิ่ม<o:p></o:p>
    อีก ๑ อย่างเพื่อ..เป็น..สัญญลักขณ์..ของผู้จัดสร้างคือ..ธรรมจักร..ที่เป็น..สัญญลักขณ์เป็นทาง<o:p></o:p>
    การ..ของ พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย..เข้าไปด้วย(ผมว่าหลายท่านคงหายสงสัย..ว่าตรา ธรรม<o:p></o:p>
    จักร..มาได้ยังไง)...โดย..ตอกตรา..ทั้งคู่ไว้เคียง..ใต้ฐานพระทุกองค์..(แต่พิมพ์ต้อ..หลายองค์ไม่ได้<o:p></o:p>
    ตอก..แล้วปลุกเสกรึเปล่า..ปลุกเสกครับ..ถ้าเป็นพระที่มาจากพุทธสมาคม..มันมีเหตุ..ถ้าคนไม่ทราบ<o:p></o:p>
    ..ต้องรอ..ไปอีกหลายตอนผมจะเฉลยเพราะอยู่ใน..เหตุการณ์ที่ผมต้องไปแย่งเช่าพระที่พุทธสมาคม<o:p></o:p>
    ได้..ทั้งเหรียญชินราชอินโดจีน..และรูปหล่อ...รอหน่อย)..จากนั้นจึง..ดำเนินการเอา..พระที่หล่อแล้ว<o:p></o:p>
    ทั้งหมด..มาเจียฐานให้เรียบ..เพื่อ..นำไป..ตอกตรา อกเลาฯ..และธรรมจักรต่อไป...ตัวตอกนี่..ทำจาก<o:p></o:p>
    เหล็กกล้า..เหล็กกล้าเป็นยังไง..ก็ดูเหล็กตะไบ..เป็นตัวอย่างนั่นแหละครับ..เหล็กกล้าเมื่อทำการ..<o:p></o:p>
    แกะ..เป็นทั้ง..ตรา..ทั้งสอง..ก็งทน..สึกยาก..ผมไม่ยืนยัน..เรื่อง..จำนวนที่ใช้..ทั้งหมด..มีกี่ชุด...<o:p></o:p>
    แต่ตามความเป็นจริง..ทองเหลือง..อ่อนกว่าเหล็กกล้ามาก..ถ้ามีมากกว่า ๑ชุด..ผมก็ว่าไม่น่าจะเกิน<o:p></o:p>
    ๓ เพราะไม่ได้สร้างจำนวนมหาศาล..เป็นหลายๆหมื่น..แบบปัจจุบัน..ผมเคยเห็นพระปลอมจากใน<o:p></o:p>
    WEB...รอยตอกทั้งอกเลา..และ ธรรมจักร..ทำได้ใกล้เคียงมาก(จากการดูในภาพ..ถ้าส่องจริงอาจไม่<o:p></o:p>
    ยากก็ได้)...แต่ผมเห็นส่วนนึงคือ..การที่คนเรามุ่งจะดูอะไร..อย่างหนึ่งจะมองข้าม..สิ่งที่อยู่ใกล้ไป<o:p></o:p>
    คนปลอมพระ..รู้ว่า..เกือบทั้งหมด..จะส่องที่ตราตอก..อกเลา..และ ธรรมจักร..เขาก็เน้นจุดที่คนจะดู<o:p></o:p>
    ...ก็แค่นั้น..แต่มีน้อยคนอย่างผม..ที่ดูรอยเจียแทน..อย่าลืมอย่างหนึ่งพระชินราชอินโดจีน..มีจำนวน<o:p></o:p>
    ไม่น้อย..ที่วิ่งอยู่ในตลาดทั่วประเทศ..ของจริงไม่ได้หายากมาก..ถ้าเราอดทนก็สามารถ..เลือกองค์ที่<o:p></o:p>
    มาเข้าทางปืนเราได้..ที่ผมพูดถึงก็คือ..หลายองค์มีการไปขัดที่ฐานจนมัน..ไม่เข้าทางเราที่ต้องดูรอย<o:p></o:p>
    เจีย..เราก็ไม่สน..รอไปสักพักเดี๋ยวก็มีมาอีก...ไม่เข้า..ไม่เอา..คุณลักษณะ..นักเลงพระที่ดี..ต้องอึด<o:p></o:p>
    ต้องตีอ..ต้องทน..ต้องนิ่ง....ปัญหาสำคัญคือ..คุณต้องไปหาองค์ที่ชัวร์..และยังไม่ได้เลี่ยมหุ้ม....<o:p></o:p>
    มาส่อง..และจำให้ได้..และติดตา...ผมจะบอกให้..หินเจีย..ยุคก่อนสงคราม..กับ.สมัยนี้ไม่..<o:p></o:p>
    เหมือนกัน..วัสดุก็ไม่เหมือนกัน..คุณต้องละเอียด..ในการส่อง..ลองไปเช่า..พระปลอมมา<o:p></o:p>
    เทียบ..ซิครับ..ไม่เหมือนหรอก..แต่อย่ามองแบบลวกๆ..เป็นสำคัญที่สุดเก็บรายละเอียดให้<o:p></o:p>
    หมด...ผมยืนยันว่าพระชินราชอินโดจีนไม่มีของเสริมครับ...<o:p></o:p>
    ...............ผมมันเป็นคนชอบเก็บรายละเอียด..และไม่ค่อยมองอะไรเหมือนชาวบ้าน...อย่างที่เพื่อน<o:p></o:p>
    สมาชิกคนหนึ่ง..สนใจตำหนิส่วนตัว...นี่แหละครับ..ต้องมองในจุดที่คนอื่นทั่วไปเขาไม่มอง..ถึงจะ<o:p></o:p>
    มีคนอื่น..มาเจอเหมือนเราก็เป็นส่วนน้อย...ต้องตามเรื่องผมไปเรื่อยๆในการพัฒนาการเล่นพระ..และ<o:p></o:p>
    เครื่องราง...คงมีเรื่องแปลกๆให้อ่านอีกมาก..............<o:p></o:p>
    ..............................วันนี้ขอลาไปก่อน..........ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน..ขอบคุณ..ครับ..<o:p></o:p>
    ...........................................................สวัสดี.................................................<o:p></o:p>
     
  13. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ได้ความรู้เพิ่มเยอะเลยค่ะ ทีนี้อยากถามอีกนิดค่ะ เรื่องพระชินราชอินโดจีน พอดีเด๋วนี้เขามีการนำไปแต่งให้สวยงามซึ่งเรียกว่าพิมพ์แต่ง ส่วนใหญ่จะเป็นพระพิมพ์ต้อ หรือไม่ก็พิมพ์สังฆาฏิยาว นำไปแต่งให้สวยงาม เพื่อเพิ่มมูลค่าในการเช่าหาให้สูงยิ่งขึ้น ไม่ทราบว่ามีความคิดเห็นเช่นไรค่ะกับการนำพระไปแต่งเช่นนี้ แล้วอีกเรื่องอยากสอบถามว่าพระเหรียญ 25 ศตวรรษที่จัดสร้างขึ้น ในส่วนเนื้อทองคำได้ยินมาว่าบางองค์ไม่มีโค้ต แบบนี้แสดงว่าเป็นพระที่เสริมมาแต่เดิมตอนแรกใช่ป่าวค่ะ เพราะเคยเห็นเหรียญ 25 ศตวรรษมาเหรียญนึง เป็นเนื้อทองคำ มีเข็มด้วย สภาพดูแล้วน่าจะเก่ามาก ๆ เพราะเนื้อทองคำไม่เงาวาว แสดงถึงความเก่าว่าอย่างน้อยน่าจะ 30 ปีขึ้นไป ก็เลยสงสัยว่าเขาทำเหรียญทองคำปลอมหรือป่าวสมัยนั้น หรือว่าเหรียญนี้มีการจัดสร้างจริง ปกติเหรียญทองคำจะไม่มีเข็มค่ะ ทราบมาว่าเหรียญเนื้อทองคำถ้ามีเข็มแสดงว่าเป็นเหรียญปลอม ก็เลยสงสัยว่าเขาลงทุนปลอมหรือเสริมกันเลยหรอค่ะสมัยนั้น เพราะราคาทองคำคงไม่ใช่ถูกแน่นอน


    หมายเหตุ พอดีเหรียญทองคำ 25 ศตวรรษ แบบมีเข็ม เหรียญนี้น้ำเห็นด้วยตาตัวเองเมื่อปีที่ผ่านมานี้เองค่ะ เจ้าของเดิมเป็น ผอ.ส่วนอุทยานแห่งหนึ่งสังกัดกรมป่าไม้ มีบ้านพักอยู่แม่ฮ่องสอน แล้วเหรียญนี้ปัจจุบันมีคนบูชาต่อเรียบร้อยแล้วเป็นป่าไม้จังหวัดแห่งหนึ่งในภาคเหนือนี่แระค่ะ บูชาไปตอนนั้นอยู่ที่สองแสนเศษนิดหน่อย แต่น้ำรู้มาว่าเหรียญนี้เจ้าของเดิมเช่าต่อมาอีกทีในราคาเพียง 30000 เท่านั้น แต่สำคัญที่ว่าแท้จริงหรือเปล่านี่แระค่ะ เก็บความสงสัยมานานแล้ว เนื่องจากสภาพความเก่าของทองคำเก่าจริง ไม่ใช่แกล้งเก่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 มิถุนายน 2010
  14. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ........................................................................
    พิมพ์แต่ง..มีปัญหามานาน..แล้วครับ..เรื่องสังฆาฏิสั้น-ยาวนี่..เพียงแต่ก่อนมันมีไม่มาก..พอตอนหลังเห็นว่า..เอ๊ะเข้าท่า..ก็เอามั่ง..เพราะคนทำไม่ได้มองพระเป็นพระ..มองพระแค่วัตถุซื้อ-ขาย..ก็คนซื้ออยากเสี่ยงช่วยไม่ได้..ผมไม่เคยชอบมาตั้งแต่ต้น..พระแต่ง..ธรรมดาๆนี่ก็สวยดีแล้ว..ดูง่ายกว่าด้วย
    ....................................................................
    พระ๒๕พุทธศตวรรษ..เรื่องบล็อคเขามีการจัดการแน่นอน..มีหลักฐาน..เพราะเป็นพระระดับชาติ..มีการตรวจสอบ..ผมว่ามาทำทีหลังเอามากกว่า...ตอนเมื่อ ๓๐ กว่าปีก่อน..ไม่เห็นมีปํญหา...คือ..เนื้อทองคำ..นี่..วงการเล่นมาตลอดนะครับ..แต่เนื้อดิน(ผง)..กับ.ตะกั่ว..นี่สมัยก่อนถูก..แต่มีปลอม..มาตั้งนานแล้ว....ผมว่าเรื่องมามีสมัยนี้เพราะ..เทคโนโลยีสูงส่ง..มีคอมพิวเตอร์มาช่วย..อาจทำบล็อกขึ้นมาใหม่..ก็ได้..แล้วไอ้ตัวตอกนะ..หมูตู้..ขนาดอกเลายังทำซะแทบดูไม่ออก...................ไอ้เรื่องผิวทอง..วาวไม่วาว..ไม่ใช่เรื่องยาก..ผมเคยเห็นของที่เขาเก็บไว้อย่างดี..ไม่จับ..อยู่กล่องตลอด..วาววับเลย..เหรียญทองคำไม่ว่าที่ไหน..วัดไหน..เขาจะเคลือบผิวครับ..ให้ดูสุขปลั่ง..เหมือนกรอบพระทองคำ..ถ้าขายไม่ออก..และไม่เคยหยิบมาให้ลูกค้าดู...อีก๑๐๐ปี..ก็ยังวาววับ..อย่างนั้น....แต่ทองที่ไม่เคลือบเอามือจับๆ..แล้ววางไว้ก็ไม่วาวแล้ว..เพราะเหรียญพระ..ไม่ใช่ทองแท่ง..เนื้อแข็งเปอร์เซนต์ทอง..ส่วนใหญ่ไม่เกิน ๙๕ %
     
  15. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  16. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    อยากฟังคุณลุงเล่าเรื่องพระสมเด็จบางขุนพรหมแบบตกกรุที่โดนขโมยใช้เบ็ดเกี่ยวขึ้นมาทีละองค์ ๆ จนต่อมาทางวัดต้องทำการเปิดกรุที่เรียกกันว่าพระกรุใหม่บ้างค่ะ แล้วก็อยากฟังเรื่องสมเด็จหลวงปู่ภู วัดอินทร์, ปิลันทน์ ,สมเด็จอรหัง รวมทั้งพระเครื่องกรุวัดท้ายตลาดบ้างค่ะ ค่อย ๆ เล่าทีละเรื่องก็ได้ค่ะ เป็นคนชอบพุทธศิลป์ในพระเครื่องกรุวัดท้ายตลาดอยู่พิมพ์นึงค่ะ พิมพ์นั้นคือพิมพ์สมาธิบัวสองชั้นซึ่งมีเอกลักษณ์รูปทรงในองค์พระที่งดงามมาก ๆ ปัจจุบันแทบไม่เคยได้ยินข่าวคราวเลยค่ะ เคยเห็นของแท้มาเพียงองค์เดียวเท่านั้นเอง แต่ฟังราคาแล้วแทบตกเก้าอี้เลยค่ะ ไม่นึกว่าจะเปิดราคามาหลักแสน หลายด้วยค่ะ สมัยนั้นไม่ทราบว่าเขานิยมกันหรือเปล่าค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 มิถุนายน 2010
  17. โอ ท่าซุง

    โอ ท่าซุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,291
    ค่าพลัง:
    +8,435
    สวัสดียามเช้าคุณอาและทุกท่านครับ ขอบคุณครับ...
     
  18. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ................................................................................
    ทีละเรื่อง.....ค่อยยังชั่วหน่อย..เอาบางขุนพรหม...ก่อน
    ...ผมเคยเขียนไว้..หลายตอนก่อน...ว่าไม่อยากเขียน..เพราะมีเขียนกันเยอะแล้ว...แต่จะอธิบายเรื่อง..ตกพระก่อน...คงพอทราบอยู่แล้ว..ว่ากรุเก่า..เกิดช่วง..เหตุการณ์ รศ.๑๑๒ ฝรั่งเศษเอาเรือรบมาขู่(เขียนไปแล้ว)..คนกลัว..หาของมาป้องกันตัว..เกิดการเจาะเจดีย์ครั้งแรก...บอกแล้ว..ว่า..คนไทย..ฉลาด..เจาะรูไม่ใหญ่..ครั้งแรก..นี่..ค่อยๆเอา..ดินเหนียวหุ้มปมปลายเชือก..ทิ้ง(ไม่ไช่ค่อยๆหย่อน)ดินเหนียวตกลงไปอย่างแรง..ก็จะไปติด..พระ.(.ตอนนั้น..พระไม่ได้จับเป็นก้อน..เป็นกรุสะอาด..พระลงกรุ..ไม่ถึง ๔๐ ปี..คราบกรุเป็นคราบ..ที่เกิดจากปูน+ความร้อน+ความชื้น.. )..ก็ทยอยเอา..ออกมาเรื่อยๆ..แต่เศษดินเหนียวที่หลุดลงไปในกรุมีเยอะ(พลาด..บางที..หุ้มไม่ดี..ทิ้งลงไปดินหลุดซะก่อน..ต้องทำใหม่)..กรุชื้นขึ้น..เพราะน้ำฝนไหลลงรูที่เจาะไปขังในกรุ..สสารที่อยู่ในดินเหนียวละลายกับน้ำ..ไป..เคลือบ..พระ..ขบวนการ..เกิดคราบกรุเปลี่ยนเป็น..สารละลายจากดิน+ปูน+ความร้อน+ชื้น
    ...กลายเป็นคราบกรุสีน้ำตาล"คราบกรุขี้เป็ด"..อย่างที่เห็นใน..กรุใหม่
    .............................................................................
    ยังไม่ได้เข้า..เรื่อง"เบ็ด"..พักก่อน..มันยาว...เดี๋ยว..มาเล่าต่อ
     
  19. เด็กบางแค

    เด็กบางแค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +1,989
    สวัสดีครับ ผมขออนุญาติเรียกคุณลุงนะครับ และขอสวัสดีทุกๆท่านด้วยครับ
     
  20. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    สวัสดีครับพี่ modpong ไม่ได้เข้ามาอ่านซะหลายวัน เพราะไปต่างจังหวัดมา แถมวันอาทิตย์เน็ตที่บ้านก็เล่นไม่ได้อีก แย่จัง พูดถึงเรื่องพระพุทธชินราช อินโดจีน เป็นเพราะน่าใช้มาก ราคาไม่แพง พิธีดี เกจิที่มาปลุกเสกก็ระดับแนวหน้าของเมืองไทยในยุคนั้น เป็นของจริงทุกองค์ ไม่เหมือนสมัยนี้ เกจิส่วนใหญ่เป็นพระเชียร์ขึ้นมาแทบทั้งนั้น ที่เก่งจริงก็มีแต่หาได้น้อยมาก ต้องใช้สติปัญญาพิจารณาเอาเอง ขอบคุณพี่มาก ๆ ครับ สำหรับบทความดี ๆ ที่เด็กรุ่นหลังอย่างผม และอีกหลาย ๆคนควรอ่าน และเก็บไว้เป็นความรู้ครับ อย่างไรช่วงนี้พี่ก็รักษาสุขภาพด้วยนะครับ อย่าดูบอลดึกจนเกินไป ถ้าจะให้ดีก็ดูรอบดึกเป็นบางคู่ก็พอ เหมือนอย่างผมก็ดูเฉพาะวันที่บราซิลลงเตะ ส่วนอังกฤษ เลิกดูแล้วครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...