คนเคยรับขันธ์

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย สุปราณี (ปู), 30 มิถุนายน 2010.

  1. fullmoonsun

    fullmoonsun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +2,321
    good information......Anumothana Sathu
     
  2. Cutie Kung

    Cutie Kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +1,283
    เห็นด้วยกับ คุณ lek_awapa
    อนุโมทนาค่ะ
     
  3. สุปราณี (ปู)

    สุปราณี (ปู) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +1,296
    ดิฉันรับแล้ว และลาแล้ว ก็ไม่ตาย อย่างที่เข้าใจค่ะ อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่า ไม่อยากได้กรรมที่คอยตามแก้ให้ใคร มาเป็นกรรมของตัวเราเอง แค่กรรมของตัวเองก็หนักพออยู่แล้ว แล้วยังต้องคอยแก้กรรมคนอื่นอีก แล้วทางแก้ ก็ต้องทำทุกครั้งหลังจากช่วยคนอื่นเขา คิดว่ามันเหนื่อยมากจริงๆ ส่วนที่อาจารย์ที่เป็นร่างทรงอยู่ ไม่ขบลบหรู่ค่ะ เพราะท่านทั้งหลายมีบารมีมาก ซึ่งดิฉันก็ไม่ขอพูดจาบจ้วงท่านได้ แล้วแต่ผู้ที่พิจารณาค่ะ ว่าจะรับขันธ์หรือไม่ แต่โดยส่วนตัวรู้ และมองเห็น และทบทวนส่วนได้ ส่วนเสีย ประมวนจึงตัดสินใจค่ะ มิใช่คิดวันนั้น ตัดสินใจวันนั้น เรื่องนี้ เป็นเรื่องของตลอดทั้งชีวิตค่ะ เห็นวิบากกรรมมีมาก จึงตัดสินใจลาขันธ์ และองค์ปู่ท่านก็อนุญาติ ให้ลาขันธ์แล้วด้วย ถึงได้ลาค่ะ ปู่ท่านก็บอกให้ดิฉันมั่นคงในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสมอค่ะ ที่บอกเล่าสู่กันฟังนี้ไม่ได้ปลูกฝังความเชื่อให้มาขึ้นหรือน้อยลง ในเรื่ององค์เทพค่ะ ส่วนการตัดสินใจขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบุคคล แต่ละคนค่ะ มิใช่การตัดสินใจของใคร คำตอบอยู่ที่ตัวเราเอง ไม่ใช่องค์เทพท่าน ท่านมาก็ต้องการคนที่จะยินดีช่วย ไม่ใช่บังคับใครให้ช่วยค่ะ เพราะหากบังคับ ท่านเทพเองก็ไม่สามารถพ้นไปจากกรรมได้เลย เรื่องอย่างนี้จึงเป็นเรื่องต่อรองกับท่านได้โดยท่านไม่โกรธค่ะ เพียงแต่อย่าลืมท่าน สวดมนต์ ละลึกถึงท่าน ทำบุญเผื่อท่าน ท่านก็ได้รับและอนุโมทนาด้วยค่ะ
     
  4. เด็กหัวจุก

    เด็กหัวจุก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +1,436
    ตามความเข้าใจ ขันธ์ที่พูดกันก็ อันเดียวกันนั่นแหละ

    เกิดเป็นมนุษย์ก็มีขันธ์ 5 ครบไง

    เทพ เทวดา ภูติผี ไม่มีขันธ์ 5 ครบ ก็เลยมาอาศัยร่างกายมนุษย์สร้างบารมี เพราะเค้าอยากนิพพาน ใครทำใครก็ได้ไง

    เพราะงั้น ในเมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ก็ต้องสร้างกรรมดี เพราะเป็นร่างที่สมบูรณ์ที่สุดที่มีโอกาสได้ทำ เพราะงั้น ใคร ๆ ก็เลยอยากมีร่างแบบนี้

    เหตุที่พระพุทธองค์ ให้ละขันธ์ นั่นเพื่อเราจะได้ไม่ยึดติด ถ้ายังยึดติดอยู่ก็จะเป็นเทพ เป็นเทวดา เป็นภูติ เป็นผีไง เพราะกรรมที่เราทำ จะกรรมดีหรือกรรมชั่ว ก็ยังเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารไม่จบสิ้น ใครที่อยากหลุดพ้น ก็ต้องละทิ้งขันธ์ 5 นิวรณ์ 5 โภชชงค์ 7 และ อื่น ๆ

    หากเราต้องการ นิพพาน......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2010
  5. bu_rana

    bu_rana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +92
    ขอบคุณสำหรับบทความดีๆคะ
     
  6. บรม

    บรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,926
    ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ครับ
     
  7. iemmalai

    iemmalai สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    รับขันธ์

    อนุโมธนา การรักษาศีลอย่างเคร่งครัดได้ย่อมเป็นสิ่งที่ดีครับ
     
  8. monsy

    monsy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +341
    ขอแชร์เรื่องขันธ์

    ขออนุโมทนากับทุกท่าน ถูกทุกท่านค่ะทุกอย่างในโลกนี้มีจริงและเก๊ส่วนใหญ่จริงแต่เป็นดาบสองคมค่ะองค์เทพ พรหม มีจริงค่ะ จะรับหรือไม่รับก็มาค่ะเพราะการสื่อได้มาจาของเดิมที่เราสั่งสมและสัมพันธภาพในอดีตชาติกับปัจจุบันบางทีเป็นกรรมดีและชั่วที่เคยร่วมกันมาก่อน คนที่ปฏิบัติอย่างแน่วแน่ก็จะสื่อได้จริงและจะสามารถคุมองค์ฌาณได้ก็ไม่จำเป็นที่จะมีอะไรมาเข้าค่ะ สติจะอยู่กับเราตลอดต่อให้ท่านเข้ามาผ่านเราเพียงแต่สิ่งที่พูดไม่ใช่เรา ถึงไม่รับขันธ์ก็มีค่ะแต่ถ้าเราไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ทุกข์มันรุมเร้ามากๆต่างๆวิธีกันและที่สำคัญเราไม่สามารถปฏิบัติจนองค์ฌาณแกร่งได้ก็อาจจะต้องรับขันธ์ไม่ใช่ให้เป็นคนทรงค่ะมันขึ้นอยู่กับเราบางทีเราต้องให้เขาช่วยเพื่อความอยู่รอดแต่เราก็จะต้องตอบแทนโดยการสร้างบารมีคืนไม่ใช่การเอารัดเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ที่ทุกข์ ไม่เรียกร้องเพราะความโลภ แต่ที่เห็นอยู่ว่าเหมือนจะไม่จริงเป็นเราเองที่เกิดความอยากได้ เกิดโลภะ และโมหะไปยึดติดเอง จะรับหรือไม่รับไม่สำคัญตรงนั้นเลยขึ้นอยู่กับจิตตัวเดียวที่รู้อยู่ว่าเราทำอะไร ถามว่าคนที่รับแล้วปฏิบัติดีก็เจริญ คนไม่รับปฏิบัติดีย่อมเจริญเช่นกันเพียงแต่คนบางคนอ่อนแอและเข้มแข็งต่างกัน เราเองก็รับแต่ความเป็นชาวพุทธก็อยู่ในจิตเสมอมา คำสอนองค์สมเด็จแน่นอนที่สุดอยู่แล้ว ไม่ได้ต่างจากทางที่เดินเพียงใดเลยเพราะจุดหมายก็เดียวกันคือนิพานในสักชาติ คนเราเกิดมาต่างกรรมต่างหน้าที่กันนะ ไม่รู้สิคิดอย่างนี้นะอาจไม่ถูกต้องทั้งหมดแต่เราเป็นคนมีเหตุผลในการจะเชื่ออะไรก็ตามต้องมีข้อพิสูทเหมือนพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์จริงๆแล้วมันเกี่ยวกันนะ มากๆเลย:cool:
     
  9. jiwcrop

    jiwcrop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +792
    ประสบการณ์ตรงครับ เคยรับ แต่มารับมาแล้วรู้สึิกไม่ดี มีท่านที่นับถือ ท่านบอกว่าไม่ดี ทางแก้ท่านบอกว่า ให้เอาขันธ์ ที่รับมา 1 บอกกล่าวพระแม่คงคา ขอฝากลอยทิ้งไป แล้วลอยน้ำไปซะ

    แค่ขันธ์ 5 ที่มีอยู่ก็แบกกันไม่ไหวอยู่แล้ว ก็ขอแนะนำอย่าไปรับ มาเลยครับ ไม่ดี
    การบูชา สิ่งต่างๆ อาทิ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เทพ เทวดา ในสากลโลกนี้ สิ่งที่สำคัญ ที่สุดคือใจ ให้ใจเรามีความเคารพอย่างนอบน้อมจริงใจต่อสิ่งที่เราเคารพ แค่นี้ก็เข้าถึงแล้วครับ

    ปล.ขันธ์ ที่ส่วนมากไปรับกันมา เท่าที่ได้รู้มา คือสมัยโบราณ ผู้คนเดินทางไปค้าขายกัน แล้วมีโจร ปล้นฆ่า ทำให้คนๆ นั้นตาย และเมื่อ คนๆ นั้นตายต่างถิ่น ก็ จะมีการแนะนำให้เอาขันธ์ ไปรับวิญญาณ ของผู้ตายคนๆนั้นๆ มา เพื่อ มาประกอบพิธี ให้ไปสู่้สุขคติครับ

    สรุปก็คือ ขันธ์ที่รับกัน คือขันธ์ ที่รับวิญญาณครับ
     
  10. มาพบพระ

    มาพบพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    643
    ค่าพลัง:
    +1,973
    เรื่องการรับขันธ์จากร่างทรงนี้ ผมเคยได้รับทราบจากหลวงน้าหยุด ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่ (ผมไม่ได้ไปนมัสการท่านนานแล้ว) วัดสะแก อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ตอนนั้นหลวงปู่ท่านยังทรงสังขารอยู่) ท่านเมตตาเล่าว่า หลวงปู่บอกเรื่องการรับขันธ์จากร่างทรงว่า เป็นการยอมรับเอาวิญญาณสัมภเวสีที่ร่างทรงเลี้ยงไว้ วิญญาณนั้นจะมาเกาะร่างเราและตามไปตลอด ร่างทรงจะบังคับวิญญาณให้บังคับเราให้ทำในสิ่งที่ต้องการ เช่น ให้หาทรัพย์ หรือหาสิ่งอื่นที่เขาต้องการ หากไม่ทำตามก็จะบังคับวิญญาณให้ทำอันตรายกับร่างกายเรา ให้ปรากฏเป็นอาการต่างๆ เช่น ปวดตามร่างกาย ปวดหัว บางครั้งก็ทำให้เสียทรัพย์ มีผู้รับขันหลายรายไปพบหลวงปู่และท่านเมตตา แผ่ส่วนกุศลให้แก่วิญญาณที่เกาะเหล่านั้น และแนะนำผู้ที่ไม่เคยรับขันว่าอย่าไปรับมา
    เหตุที่บุคคลเป็นเช่นนั้นเพราะกำลังจิตไม่เข้มแข็งพอ และอดีตกรรมของแต่ละบุคคลเข้าสนองจึงให้เป็นไปเช่นนั่น หลวงปู่ท่านแก้ด้วยการสอนให้ภาวนา นำเอาบารมีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง ส่วนผู้ที่เทพมาสงเคราะห์นั้น ท่านจะส่งกระจิตมาที่เราและบังคับจิตเราให้ประกอบกิจสงเคราะห์คนตามที่ท่านต้องการ แล้วก็กลับ แต่ถ้าสังเกตุให้ดีเมื่อท่านถอนไปแล้ว เราจะเป็นปรกติหรือสภาพจิตแจ่มใส ถ้าเป็นสัมภเวสีจะทำให้เราเมามัวหลงไหล
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีฯ) ท่านได้เมตตาเล่าให้ศิษย์ใกล้ชิดฟังและมีเขียนลงในหนังอ่านเล่น หรือหนังสือตอบปัญหาธรรมไม่แน่ใจ ท่านเมตตาบอกว่า การเข้าทรงของร่างทรงนั้นมีทั้งที่มาประทับจริง และร่างทรงที่หลอกลวง และวิญญาณที่มาก็มาจากหลายชั้นด้วยกัน ทั้งจากสัมภเวสีเพราะว่าสัมภเวสีต้องการอาหารหรือเครื่องสักการะ และมีฤทธิ์ในขอบเขตของตน เช่น เห็นเหตุในระยะใกล้ได้ เทวดาก็มีแต่จะมีฤทธิ์มากกว่า ส่วนใหญ่เป็นการช่วยสงเคราะห์หรือเป็นกรรมร่วมกัน
    เรื่องการมีองค์กับร่างทรง นั้น ถ้าเราไปรับขันของร่างทรงจะตัดทางช่วยเหลือของเทพที่รักษาเราอยู่ครับ ต้องพึงระวังนะครับ แต่ก็นั้นแหละ คนเรามีกรรมเป็นเครื่องนำไป หากเรามีกรรมเช่นนั้นย่อมหลีกหนีไม่พ้น ต้องหมั่นประกอบการกุศลอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร รักษาศีล ปฏิบัติกรรมฐานเพื่อเสริมบารมีให้แก่ตนเอง เสริมกำลังใจให้ตนเองเถอะครับ เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว เพราะพุทโธอัปมาโณ ธัมโมอัปมาโณ สังโฆอัปมาโณ ปัจเจกพุทโธอัปมาโณ พึ่งบารมีพระท่านได้ทุกที่ครับ
     
  11. tkkodchanin

    tkkodchanin สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +9
    ถือทำไม

    รับขันธ์ไม่รับขันธ์อยู่ที่ตัวบุคคลเป็นปัจจัตตัง
    พุทธองค์สอนว่าให้วาง เราไม่ควรไปค่องไปถือหรือไปยึดมั่นถือมั่น
    ทุกคนก็ต้องการสร้างบารมีเทพพรหมณ์ก็เช่นกัน ดังนั้นบารมีอยู่ไหนง่ะ
    อยู่ที่ องค์เทพ ขันธ์ หรือการปฏิบัติธรรมสร้างกุศลล่ะ
    ฉนั้นหน้าที่ของเรา ก็คือ สร้างบารมีและสลายตัวตน หากเราไปยึดมั่นถือมั่นในพิธีกรรมที่มีอวิชาเป็นที่พี่พึ่งที่อิงอาศัย สู้เราหมั่นรักษาจิต ดูที่จิตละที่จิต วางที่จิต ทุกสิ่งสำเร็จที่จิต แล้วเราจะพบบรมครูธรรมที่แท้จริงพบหนทางที่จะพาเราหลุดพ้นได้พบบรมสุขที่แท้จริงครับ

    ขอบรมครูเทพบรมครูธรรมผู้เป็นศิษย์แห่งองค์สัพพัญญูโปรดชี้ทางสว่างในหนทางที่ถูกต้องแก่ผู้ประพฤติชอบในธรรมทุกท่านทุกคนเทอญ

    พิจารณามหาพิจารณา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กรกฎาคม 2010
  12. พระนาญ

    พระนาญ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +36
    ขันธ์ของเรามีอยู่แล้ว จาไปรับของเขามายึดติดไว้ทำไม ขอแค่ทำดีไมีผิดศีลธรรมก็ได้แล้วครับ สาธุ
     
  13. wavepoo

    wavepoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +113
    การรับขัน สำหรับผมนะครับ ผมคิดว่า เป็นการที่ จะตั้งใจเปลี่ยนแปลงตัวเองครับ ให้ อยู่ในศีล ตั้งใจ ปฎิบัติ ให้ใช้ชีวิต อยู่ในกรอบ ศีลธรรมมากขึ้น ต้องตั้งใจจริงๆ ครับ เหมือน ปฎิญาณตน ว่า ผมจะตั้งใจปฎิบัติ ให้มากขึ้น ในกรณีที่ท่านมีสิ่งศักดิ์สิทธิ มาอยู่จริงๆ นะครับ ( ถ้า ทำผิดอาจถูกลงโทษ เพราะ ตั้งใจรับมาแล้วก็ต้องทำให้ได้ ส่วนใครลงโทษนั้น ก็ อาจจะเป็นครูบาอาจารย์ ภายในตัวเรา เพราะเรา ตัดสินใจรับไปแล้ว คือ อนุญาติให้ท่านมาดูแลเรานะครับ อันนี้สำคัญ ) ส่วนเรื่อง ครูบาอาจารย์ ผม ว่าต้องดูอีกที ถ้ามี ครู ที่ แนะนำ พาปฎิบัติ ให้พ้นทุกข์ก็ ดีนะครับ เรื่องเทพ นั้น ท่านมาอยุ่ มา ร่วมอนุโมทนาบุญ ผมว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าการที่ยึดติดกับเรื่อง องค์ เทพมาก ก็ไม่สารมาถ หลุดพ้นได้นะครับ ให้ ยึดพระพุทธเจ้าเป็นหลัก ถ้ารับแล้ว แต่ยังอยู่ในกรอบของ พระ พุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ในทางธรรม ในหลักที่ถูก ก็จะดีนะครับ เพราะผมมีความเชื่อว่า ชีวิตผมเปลี่ยนแปลง เมื่อรู้ว่ามี สิ่งศักด์สิทธิ มาอยู่ด้วย แล้วก็เริ่มมาแล้ว เหมือนถูกบังคับ ให้ถือศีล 5 และ ปฎิบัติ อย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่งชีวิตผมเปลี่ยนแปลงไปมาก ผมมีความสุขที่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น ความเชื่อส่วนบุคคล นะครับอันนี้ สิ่งที่ดี ย่อมพาไปสู่ที่ดีดี พาทำแต่สิ่งที่ดี นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 กรกฎาคม 2010
  14. Loogkai

    Loogkai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +317
    ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ การรับขันธ์อะไรก็แล้วแต่ก็หมายความว่าตัวเรามีข้อผูกมัดเพิ่มขึ้นมาอีกใช่ไหมครับ ถ้าดีก็ดีไป ถ้าไม่ดีก็แย่หน่อยนะครับ ผมเคยประสบมา เกือบตายก็ว่าได้(เปรียบเสมือนอาหารที่เรารับประทาน) จะอะไรแล้วแต่ ความดี เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ผมอยากจะเตือนหน่อยนะครับ...จะทำสิ่งใดให้มีสติ ใคร่ครวญ อย่างมีเหตุมีผล คิดดี พูดดี ทำดี ชีวิตก็เป็นสุขแล้วครับ อย่าเลยครับ...ขอร้อง ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ใจเราครับ (ถือศีล สวดมนต์ นั่งกรรมฐาน แผ่เมตตา แค่นี้ก็สุดยอดแล้วครับ) ขอโทษด้วยนะครับ...ถ้าแสดงความคิดเห็นไม่โดนใจ
     
  15. kiatti1234

    kiatti1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,839
    ค่าพลัง:
    +811
    ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ......
     
  16. tax108

    tax108 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +86
    ผมก็รับขันธ์มาคนหนึ่งครับ แต่เป็นขันธ์ครูเนื่องด้วยงานที่ทำเป็นงานเกื่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีซึ่งมีกรอบมีกฎในตัว การรับขันธ์ของผมจึงหมายถึงการระลึกถึงผู้ให้ความรู้ทุกท่านตั้งแต่เกิดจนตายทั้งครูที่อยู่และที่ล่วงลับไปแล้วก็นับตั้งแต่ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ บิดามารดา ครูเทพเทวาทั้งหลายทั้งปวงตลอดจนครูพักลักจำ
    ฯลฯ และคอยเตือนสติตัวเองไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง การรับขันธ์ไม่จำเป็นต้องมีองค์มาลง ผมก็ไม่มีองค์มาลง แต่ที่ผมรู้สึกได้คือ ผมมีครู ครับ
     
  17. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    487
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,872
    การรำลึกถึงเทพนั้นมิใช่เรื่องเสียหาย...เพราะเป็นการเจริญ..เทวตานุสสติ...
    (หมายถึงรำลึกถึงธรรมที่ให้ได้ไปเกิดเป็นเทวดา)

    หนึ่งในสมถะพระกัมมัฏฐาน ๔๐ อันเป็นคำสอนที่มีในศาสนานี้..

    เกล้าฯก็เป็นอีกผู้หนึ่งขอรับ..ที่คนทรงบอกให้รับขัน...เขาว่าเป็นขันครู.....แต่เกล้าฯก็มิได้รับ.....
    ..เพราะยึดนิยม..กองกัมมัฏฐาน...

    พุทธานุสสติมากกว่า...เทวตานุสสติ...จึงมิได้รับ....
    [​IMG]
    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา

    ป.ล. เรื่องคนทรงเจ้านี้มีอยู่จริงนะขอรับ...แต่ส่วนใหญ่จะมีพวกหลอกลวงเยอะ.....หากินกับความทุกข์ยาก...ทางจิต..ของผู้คน.....
    ..จะไปหาคนทรงหรือไม่ค่าเท่ากัน...เพราะคำตอบสุดท้าย...ก็บอกให้ไปทำบุญ...แทบทุกสำนัก...มักเป็นเช่นนี้ขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2010
  18. โพชน์

    โพชน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +1,904
    คำว่าขันธ์ มีความหมาย หลายนัย..หมายถึงธาตุที่ประกอบกันเป็นร่างกาย หรือขันธ์ครูที่เรา
    รับนับถือบูชากันกันมาตามประเพณีแต่โบราณ..มีขึ้นเพื่อให้เราได้ระลึกถึงคุณครูบาอาจารย์..ตั้งแต่สมัยโบราณกาลเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที..ออกมาในรูปแบบพิธีกรรมต่างๆที่เห็นกันมานั้นแหละ..ครับ ตั้งแต่ก่อนเกิดเราก้อมีครูบาอาจารย์ตามมาจนเกิดครูคนแรก..ก้อพ่อแม่เรา..เข้าโรงเรียนก้อครูเรา..ครูก ครูข ครูพักลักจำก้อครูเรา หมายความให้ถูกคือการไหว้ครูระลึกคุณครูนี้เอง
     
  19. daino09

    daino09 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +34
    กรรมของผู้ใดก็เป็นของผู้นั้น ใครกินข้าวผู้นั้นก็อิ่ม ไม่สามารถรับกรรมแทนกันได้ ไม่สามารถอิ่มแทนกันได้ ทำอะไรทั้ง ดี และ ชั่ว ก็รับไปอย่างนั้น ไม่มีใครลักขโมยไปจากใครได้ พระพุทธเจ้าท่านสอนอย่างนี้ครับและผมก็เชื่ออย่างนี้มาตลอดครับ.!
     
  20. singhol

    singhol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +1,941
    ทุกอย่างในโลกล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไปเป็นธรรมดา สะสมบุญเป็นอริยทรัพย์ในภพหน้ากันเถิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...