ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

<o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" name="City"></o:smarttagtype><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" name="place"></o:smarttagtype><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) ** </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;** </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..คุณโอ ท่าซุง..คุณThantod..คุณน้ำ..คุณSpecialized..คุณธรรมภณ..คุณเด็กบางแค<o></o>
คุณ<st1:city w:st="on"><st1lace w:st="on">Lynn</st1lace></st1:city>..คุณJirang(ยินดีต้อนรับครับ)<o></o>
ที่ชม..ให้กำลังใจ..และติดตาม..รวมถึงท่านผู้อ่านทุกท่าน<o></o>
.............................................เรื่องเก่า..สรรมามาเล่า..................................................<o></o>
.........นักมวยรุ่นเก่า..ไม่มีใครที่เป็นอาวุธ..แค่๒-๓..ครูมวยจะสอนให้ใช้ออกได้หมด..จะถนัดอันไหน<o></o>
ก็เน้นเอา..แต่นักมวย..เมื่อสัก๑๐ปีก่อน..ผมว่าตกต่ำมาก..ทำอะไรอย่างอื่นไม่เป็น..นอกจากเข่า..<o></o>
..เดินยกสองมือยกขึ้น..จะจับคอตีเข่าอย่างเดียว..เพราะกรรมการให้คะแนนเข่าเยอะ...เดินเข้าไปก็<o></o>
ทู่ซี้..ยอมเจ็บเพื่อจะจับคอตีเข่า..การป้องกันตัวไม่มี..แล้วก็ชกได้ยังไม่ทันอายุ..๒๐ (ชกตั้งแต่ ๑๖-<o></o>
๑๗)เมาหมัด..โดนน็อคตลอด..เลิกชกไปเอง....ผมว่าไอ้ตัวทำวงการมวยตกต่ำ..ก็..สนามมวยเอง<o></o>
..ตั้งแต่เรื่อง ยก๑-๓..ไม่มีคะแนน..มีแค่ ยก ๔-๕(แล้วจะต่อย..๕..ยกทำอ่าอะไร..ก็ต่อยมันแค่ ๒ ยก<o></o>
พอแล้ว..ดีซะอีก..ขาพนันจะได้มีมวยเล่นเยอะคู่ขึ้น...แฟนมวย..ที่เสียเงินเข้าสนาม..มาอยู่แถวริงก์<o></o>
ไซด์..จะได้ไม่เบื่อ..พอระฆังตีจะได้เดินหน้าซัดกันเลย..ตอนหลังที่ฝรั่งไม่อยากดูก็เพราะ..มันอยาก<o></o>
มาดูBOXERไม่ใช่DANCER..นอกจากนี้แฟนมวยแท้จะได้ดูเยอะคู่....กรรมการก็ไม่เหนื่อย..ไม่ง่วง..<o></o>
...นักมวยก็ไม่ต้องทนรำคาญ..กรรมการที่มาคอยสับมือให้ชก..ก็ชกไปไม่มีคะแนน..จะชกทำไม)<o></o>
..เกิดมาเป็นมวยหมัดต่อยดีต่อยเป็นชุด..แต่หมัดไม่ค่อยหนัก..ก็เลิกชกไปได้เลย..เพราะคะแนนจาก<o></o>
การต่อยน้อยที่สุด...คนไหนเป็นยูโดมาด้วย..ก็ไม่ต้องทำอะไร..จับทุ่มลูกเดียว..ไม่ต้องเตะไม่ต้องเข่า<o></o>
คู่ต่อสู้เสียอาการ..แค่นี้ก็ได้แต้ม(อย่าบอกนะว่านี่มวยไทย)..หรือไม่ก็ต้องทำอะไรถีบอย่างเดียว..ไม่<o></o>
ได้ออกอาวุธอย่างอื่นเลย..คู่ชกเสียอาการ..ได้คะแนน..ทั้งยกไอ้นี่เดินไล่ชกไอ้นั่น..ไอ้นั่นไม่โต้ตอบ<o></o>
ปิดหน้าปิดพุง..เอียงไปมา..พอท้ายยกไอ้นั่นเตะตัดขาไอ้นี่..ล้ม..ยกนี้คะแนนเป็นของไอ้นั่น.......<o></o>
...........ผมถามว่าวงการมวยไทยมันไม่ลงเหวได้ยังไง...ก็ช่วยขุดเหวให้ลึก..ทั้งสนาม..โปรโมเตอร์<o></o>
ครูสอน..นักมวย..เซียนพนัน....แถมไอ้ที่บัดซบที่สุด..คือให้นักมวยไทย..กลายเป็นไอ้พวกฉวยโอกาศ<o></o>
..ปล้ำเหวี่ยงกันล้มก็เจตนาเอาเข่าตามไปเลย..เห็นได้บ่อย..คู่ชกเสียอาการทรุดลงเอาตีนเสยเลย..<o></o>
..คู่ชกเตะผิดขาไปติดเชือกกั้น..ไอ้นี่สอยเลย.....ผมเคยคุยกับคนในวงการ..ก็รู้ว่าไอ้ครูมวยนี่แหละ<o></o>
ตัวดี..คอยสอนว่า..ถ้าคู่ชกมึงพลาด..ซ้ำเลย...ผมไม่ได้ว่าทุกคนแต่มันมีแบบนี้แทรกเป็นยาดำอยู่..<o></o>
บางที..ครูไม่ได้สอน..แต่มันเห็นคนอื่นทำแล้ว..ไม่เป็นอะไรแถมชนะด้วยก็เอามั่ง...............<o></o>
.............ฝรั่งที่มันเรียนมวยไทย..มันเคารพว่า..มวยไทยเป็นกีฬาของลูกผู้ชาย..เป็นนักรบ..เป็นผู้มี<o></o>
เกียรติ..และเป็นสุภาพบุรุษ...ผมไม่เห็นมันเลียนแบบเลวๆ..อย่างไอ้ที่นักชกไทยหลายๆคนทำเลย<o></o>
.................................................อายเขามั่ง.................................................<o></o>
ผมขอเสริมLink..มวยในอดีตเพิ่มเติมจากเดิม..จะได้รู้ว่ามวยสมัยก่อนเขาต่อยกันแบบไหน
http://video.mthai.com/player.php?id=8M1173932740M0
http://video.mthai.com/player.php?id=8M1208772520M0
http://video.mthai.com/player.php?id=8M1173846281M0
http://video.mthai.com/player.php?id=8M1212458812M0
http://video.mthai.com/player.php?id=8M1207309933M0
เอาแค่นี้ก่อนงวดหน้ามีอีก............................................................................
.................................................................................................................
.............................................................................................................................<o></o>
......................หัวที่เสียบเครื่องกรอ..มันมีตัวขัดแบบหนึ่งไม่ได้เป็นผ้า..แล้วมาใส่ผงขัด..แต่มัน<o></o>
เป็นขนยาวคล้ายๆขน..แปรงสีฟันติดอยู่แผ่เป็นวง..นี่แหละครับตัวทีเด็ด..สำหรับขัด..แต่ต้องมีเทคนิค<o></o>
หน่อย..พระที่แช่น้ำยาที่เราเตรียมไว้จะทำให้ผิวนิ่มลงหน่อย..เราก็แตะน้ำยาที่หัวขัดเล็กน้อย..คราวนี้<o></o>
..ที่ควบคุมความเร็วหัวกรอ..ตัวควบคุมความเร็วอยู่ที่เท้า..แบบดึยวกับเราเย็บจักรนั่นและครับ...<o></o>
..ต้องค่อยๆเหยียบคันเร่งให้ความเร็วต่ำ..และอย่ากดหัวขัดลงแตะผิวพระแรง..ตัวขนมันจะขัดเอา<o></o>
เฉพาะที่เป็นมวลละเอียด(เฉพาะเนื้อดินล้วนๆเวลาออกมาเหมือนแป้ง)..ส่วนที่เป็นมวลหยาบเม็ด<o></o>
หยาบ..และแข็งเช่นเม็ดทรายที่หยาบ..Quartzหรือ..เศษหินเล็กๆ..จะยังติอยู่กับผิวเป็น..ลักษณะที่<o></o>
นูนออกมาจากผิว..เป็นธรรมชาติ..พวกขี้เถ้าแกลบ..ที่อ่อนก็จะหลุดออก..เหลือเป็นรอยโหว่เล็กๆ<o></o>
แคบๆ..ก็จะเป็นรอยว่านหลุด..ที่ตามซอกห้ามขัด..เพราะจะไม่เป็นธรรมชาติ...เสร็จแล้วเอามาผึ่งแดด<o></o>
ให้แห้ง..ต่อไปเครื่องกรอไม่ใช้แล้ว...ที่เหลือเหมือนเรื่องตลกใช้วิธีธรรมชาติ..ก็เหงื่อคนทำนี่แหละ<o></o>
เอาแถวจมูกหน้าผาก...เหงื่อ+ไขมันธรรมชาติ..ทำให้ฉ่ำอย่างดีเป็นธรรมชาติ..ผิวสวยด้วย..ไอ้พวกขี้<o></o>
ไคลนี่ยัดไปตามซอก..ผสมกับไขมันมันจะฝังแน่นไปตามรูพรุนของผิว..เอาสำลีปัด..ให้เงา..ทำอีก<o></o>
สองสามรอบ..ก็เสร็จ..เอาไปเลี่ยมเงิน..ไม่แพงครับสมัยก่อนถูก..หุ้มขอบองค์พระให้หมด..กลบ...<o></o>
เกลื่อนส่วนขอบได้ด้วย..วิธีทำเงินเก่าก็ขนมมาก...ใส่ลงไปในกล่องที่เราซื้อกำมะถัน(ก้อน)ใส่ไว้ปิด<o></o>
ฝาให้แน่น(ใช้ทุเรียนที่เรากินเหลือก็ได้ช้าหน่อยแต่ได้ผลเหมือนกัน..ผมทำมาหลายแล้ว)ทิ้งไว้..สี่ห้า<o></o>
วันก็..ดำปื๋อ..อยาลืมเขาหุ้มมาดีแต่เราต้องทำให้บุบๆบี้ๆหน่อยก่อนทำให้ดำ..จะได้เหมือนใช้มานาน<o></o>
เสร็จแล้ว..ก็เอาผ้ามาขัดเฉพาะ..ส่วนที่นูนๆ........จากนั้นก็ล้างน้ำอีกที..ตากแดดจนแห้ง..เพื่อเอา..<o></o>
กลิ่นกำมะถันออก..เอาสำลีปัดผิวพระอีกครั้งให้มันวาวแล้วก็พร้อมเอาไปให้เหยื่อชม..หลอกเซียนจริง<o></o>
ไม่ได้หรอกครับ..แต่เซียนไม่จริง..หรือ..ผู้ชมชอบพระเครื่อง..นักเล่นธรรมดาๆนี่..ไม่รอด..ก็ได้เป็น<o></o>
พัน..และหลายพันแล้ว..และยืนยันว่าเหลือมาถึงปัจจุบัน..และบางองค์ก็ถูกเลี่ยมขึ้นคอไปแล้ว...<o></o>
..............เรื่องเครื่องกรอ..ผมเองก็ลองไปซื้อมา..สามารถเอาไปแกะสลักได้..สารพัด..ขัดก็ได้มี<o></o>
ประโยชน์มาก....ผมเองเวลาไปสนามพระส่วนใหญ่ก็เห็นแต่พระเครื่อง..พระบูชาองค์ไม่เกินคืบ..แล้ว<o></o>
ลุงเจ้าของแผงบอกไม่ต้องไปดูให้เสียเวลา..ปลอมทั้งนั้น..แกก็บอกโน่นอยากดูของจริงที่พิพิธภัณฑ์<o></o>
ได้เห็นหลากหลาย..พระกรุ..หลายๆเนื้อ..สมเด็จวัดระฆังไม่ต้องดูของจริงเขาเอาไปหมดแล้ว....<o></o>
....ก็พอดีที่ผมชอบประวัติศาสตร์เป็นทุนอยู่แล้ว..แถมผมมีหนังสือเกี่ยวกับพระปางต่างๆในแต่ละยุค<o></o>
ที่เขาพิมพ์ลงในหนังสืองานศพ..เป็นของกรมศิลปด้วย..ตอนเด็กเล็กๆพ่อก็เคยพาไป..ก็เดินไปเรื่อย<o></o>
เปื่อย...พอโรงเรียนพาไปก็มัวแต่คุยเล่นหัวกับเพื่อนไร้สาระ..พออีตาลุงมาจุดประกาย..ก็เอาเลยเดิน<o></o>
ข้ามถนน..แล้วเลียบสนามหลวงผ่านหน้าธรรมศาสตร์นิดเดียวก็ถึงแล้ว...ผมคราวนี้ไปพิพิธภัณฑ์อย่าง<o></o>
มีจุดมุ่งหมาย..แต่ความที่ๆนี่มีของหลากหลาย..มันเติมเต็มความชอบผม..เพราะทำให้ผมเองได้รู้ว่าไม่<o></o>
ใช่พระอย่างเดียวที่ชอบ..ความรู้ต่างๆมันค่อยๆเข้ากบาลผมมาเรื่อยผมก็สะสมมันไว้อย่างดี....<o></o>
.......หลังจากนั้น..ถ้ามีเวลาเดินสนามพระเสร็จ..ผมก็จะมาเดินที่นี่ต่อ..ผมจะมาเดินครั้งละห้องครับ<o></o>
พกแว่นขยายที่มีด้ามจับไว้ด้วย..ดูอะไรที่ก็อ่านรายละเอียดจำไว้ไม่จด..อ่านหลายๆเที่ยว..ลืมมาอ่าน<o></o>
..ลืมมาอ่านเดินไปเดินมา..ผมจะดูมันอย่างละเอียดทุกอย่างที่ชอบ..ผมแวะเวียนมาที่นี่..ตลอด ๑๐<o></o>
กว่าปี..จนทำงานแล้ว..ถ้ามีโอกาศ..ของบางอย่างดูมันซ้ำซากมากกว่าสิบเทียวถึงยี่สิบเที่ยวมั้ง...<o></o>
ต้องย้ำเยอะๆหัวไม่ค่อยดีครับ..................................<o></o>
............................................ไว้ต่อตอนหน้าครับ..............................................<o></o>
....................................ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกัน...ขอบคุณ..ครับ..........<o></o>
......................................................สวัสดี.........................................................<o></o>

 

อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะ

 

สวัสดียามเช้าครับ...

 

.................................................................
ส่วนนี้เรียก.."องค์ระฆัง"ครับ...ผมว่า..ผมเห็นมานานแล้วนะ..ตั้งแต่แรกที่เห็น...คิดว่า..น่าจะเ็็ป็นกระเบื้องเคลือบ...ไม่ดำนะครับ..ทำเป็นเหมือน..สังวาลย์..รัดองค์ระฆังไว้..เป็นเครื่องประดับ..องค์ระฆัง..ให้เป็นพิเศษ..เพื่อแสดงความสำคัญ..เหนือกว่าเจดีย์อื่นๆ........
...ดูให้ดี..สักษณะทำให้เหมือน.."พลอย"..ที่ประดับกับสร้อยสังวาลย์..เพราะจะเห็นแถบที่คาดโดยรอบ

 

สวัสดีครับคุณลุง และพี่ๆทุกๆท่าน คุณบอยพูดถึงวัดเจดีย์หลวงผมเคยไปแต่ที่เชียงใหม่ ผมเคยไปมาครั้งนึงตอนไปกับมหาวิทยาลัยตอนที่เก็บเส้นทาง สายภาคเหนือ ได้ไปวัดเจดีย์หลวงแบบหลงทางแล้วเดินเข้าไปกันกับกลุ่มเพื่อนทีแรกไปเดินถนนคนเดิน อยู่ๆพวกผมหลงทางกันประมาณสามสี่ทุ่ม ผมเดินไปเจอเจดีย์หลวงองค์จริงขนาดยอดเจดีย์หักลงมาแล้วยังใหญ่มาก ตอนที่ไปเป็นตอนกลางคืนทางวัดเค้าก็เปิดไฟส่องไปที่องค์เจดีย์ สวยงามมากไม่คิดเลยว่าเจดีย์หลวงองค์จริงจะมีขนาดใหญ่โตขนาดนี้ เคยดูแต่ในหนังสือเหมือนไม่ใหญ่มากเลยครับ

 

ความละเอียด + ประสบการณ์ สุดยอดขลังความรู้เลยค่ะ คุณลุง
ขอบคุณค่ะ

 

สวัสดีค้าบคุณลุง... สวัสดีค้าบทุกคน....

 

ยอดเยี่ยมครับ ยังแอบมาติดตามเหมือนเดิม

 

......
........................................................
....ฝีมือถ่ายรูปเยี่ยมมาก..จัดองค์ประกอบ..วางภาพ...อย่างมืออาชีพ...ภาพเจดีย์ตอนกลางคืนสวยมากครับ..เทคนิคดี........
....ขอบคุณมาก..คุณ บอย..อธิบายประวัติชัดเจน..

 

<o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" name="City"></o:smarttagtype><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" name="place"></o:smarttagtype><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) ** </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;** </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..คุณน้ำ..คุณโอ ท่าซุง..คุณSpecialized..คุณเด็กบางแค..คุณ<st1lace w:st="on"><st1:city w:st="on">Lynn</st1:city></st1lace>..คุณธรรมภณ<o></o>
คุณTackled<o></o>
ที่ติดตาม..ชม..และให้กำลังใจ...รวมถึงท่านผู้ติดตามอ่านทุกท่าน<o></o>
.........................................................สรรเรื่องเก่า..มาเล่าให้อ่าน................................<o></o>
....มวยที่อยู่ในรุ่น..วิชาญน้อย..มีมากที่มีฝีมอดี...นักมวยอีกคนที่ผมจะเอ่ยถึง...เป็นยอดฝีมือที่วงการ<o></o>
ยอมรับ..ว่าลีลาการเตะของแกสวยกว่าใคร...ว่ากันว่ามวยบางนัดที่มีแกชกด้วย..จะมีแฟนมวยที่ติดใจ<o></o>
ในลีลา..มานั่งดูที่ริงก์ไซด์เป็นประจำ..แกมีฉายา..ว่า..ขวัญใจช่างกล..น่าจะเพราะแกเรียนช่างกล<o></o>
ด้วย(ถ้าผมจำไม่ผิด)...แต่มีอยู่อีกอย่างไม่ว่าจะเจอกับใคร..ก็ไม่มีทางเทียบ..คือ..ความหล่อ....<o></o>
ชนะขาดทุกคน..ผิวพรรณก็ดีขาว..หุ่นดีอีกต่างหาก...ผุดผาดน้อย วรวุฒิ...หรือฉายาเป็นทางการ<o></o>
..ว่า..”ไอ้หมู แข้งทอง”...คงไม่ต้องบอกว่า..อาวุธเด็ดประจำตัว..แกคืออะไร..ดูจากฉายาก็รู้.....<o></o>
..แกเตะได้รุนแรง..หนักหน่วง..ทั้งสองขา...และเป็นคนที่..เตะเบิ้ล..เก่งมาก..เบิ้ล๒..เบิ้ล๓..เร็วมาก<o></o>
..แต่เคยดูแกเตะเบิ้ลมากที่สุด..ถึง ๕ ครั้งเรียกว่าเป็นปืนกลเลย..เตะสลับซ้าย-ขวา..ธรรมดามาก<o></o>
...คู่ต่อสู้ไม่แกร่งพอจะน่วม..ไปเอง..ถ้าเป็นทั่วๆไป..มวยหมัด..แกจะเตะทั้งการ์ด..เข้าต้นแขนบ่อยๆ<o></o>
..พออยากจะต่อยก็ต่อยไม่ออก..เพราะกล้ามเนื้อต้นแขน..ระบม..นอกจากแข้ง..อาวุธทั่วไปก็ใช้ได้ดี<o></o>
หมด..แต่ระยะประชิดแกมีทีเด็ดคือ..ศอก..ตีได้รุนแรงถึงน็อคได้เลย..จิตใจไม่ต้องพูดถึงไม่มีถอย<o></o>
..ใจเพขรอยู่แล้ว..จิตใจงดงามทั้งนอก..และในเวที..แชมป์เข็มขัดหลายเส้นเช่นกัน..ชื่อชกมวยก็ได้<o></o>
มาจาก..หน้าตาของแก..ช่วงปลายชีวิตชกมวยก็ได้ไปชกอยู่ในยุโรบนำศิลปะ..มวยไทยไปเผยแพร่<o></o>
เรียกว่าที่..ยุโรป..มาคลั่งมวยไทยแกมีส่วนอย่างมาก..เป็นอาจารย์ใหญ่ที่ฝรั่งเศษ..ลูกศิษย์ฝรั่งที่<o></o>
ฝึกสำเร็จ..จากแกไปเปิด..ค่ายสอนมวยไทยทั่วยุโรป..เวลาพวกคณะมวยไทยที่ไปชกยุโรปยุคแรกๆ<o></o>
แม้กระทั่งปัจจุบัน..ก็ได้รับความอนุเคราะห์ช่วยเหลือสนับสนุน..จากผุดผาดน้อย..เป็นอย่างดี...<o></o>
...ขนาดมี..การแต่งเพลงให้เลย........ถือว่าเป็นคนมวยที่มีคุณูปการ..ต่อวงการมวยไทยอย่างยิ่ง..<o></o>
....................................................ไว้ต่อตอนหน้าครับ...............................................<o></o>
.............................................................................................................................<o></o>
..............................................................................................................................<o></o>
..........ความรู้ที่ได้จาก..พิพิธภัณฑ์..ในครั้งแรกๆทำให้ผม.เข้าใจ..ยุคของพระ..เนื้อพระได้อย่างดี<o></o>
..เพราะยกตัวอย่าง..พระสุโขทัย..มีเอกลักษณ์ที่บอกให้รู้ยังไง..แถม..ตัวอย่างในยุคต่างๆอย่างดี<o></o>
ทั้ง..ยุคแรก..เป็นอย่างไรที่จะบ่งบอก..มีให้ดูตั้งหลายองค์..เนื้อนี่ผมส่องแล้วส่องอีก..ของเก่าจริงๆ<o></o>
เป็นยังไง..สนิมสัมฤทธ์..ที่เป็นธรรมชาติจริงๆเป็นยังไง..ส่องเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ..เรียกว่าตอนผมเด็กๆ<o></o>
นี่..เอาพระบูชาปลอม..มาหลอกผมไม่ได้แล้วกัน..ความที่เป็นคนชอบศิลปะ..ชอบของเก่า..มันก็ลง<o></o>
ตัว..ทำให้ไม่มีเบื่อ..อย่างพระเครื่อง..พระกรุ..พระพิมพ์..ก็ได้เห็นแม่พิมพ์..ของจริง..พลอยให้รู้<o></o>
กรรมวิธีสร้างพระไปด้วย...อย่างพระชินเงิน..ชินเงินผิวปรอท..มีตัวอย่างให้ดู..ร่วมร้อยองค์..จากกรุ<o></o>
วัดราขบูรณะ..อยุธยา..ผิวที่ระเบิดเป็นยังไง..ผิวปรอท..ที่จับผิวพระ..รอยปริของผิวปรอทเป็นยังไง<o></o>
..พระเนื้อดิน..ก็หลายยุค..และหลายกรุ..จากทั่วประเทศ...ได้ดูของจริง..มันย่อมดีที่สุดในความเห็น<o></o>
ผม...นอกจากพระพุทธรูป..พระเครื่อง.พระกรุ..แล้ว..สิ่งที่ตามมาที่ผมได้ความรู้เยอะ..และสนุกในการ<o></o>
ศึกษา..ก็คือเครื่องถ้วย..ทั้งดินเผาแบบเก่า..สังคโลก..เครื่องถ้วยจีน..รูปแบบ..ลวดลาย..การจะแบ่ง<o></o>
ยุคของเครื่องถ้วย..ทั้งไทย..และจีน..ยิ่งของจีนนี่..ในเมืองไทยเราพบ..เกือบทุกรุ่น..ตั้งแต่สมัย..ถัง<o></o>
..เราจะรู้ได้ยังไง..ว่าอันนี้เป็นสมัยถัง..จากเคลือบ..รูปทรง..ลวดลาย..สี..เนื้อกระเบื้อง..ผมค่อยๆศึก<o></o>
ษาไปเรื่อยๆ..จนสามารถแยกแยะสมัยได้..จาการดูด้วยตาเปล่า..ว่าเป็นสมัย..หมิง..หรือ..หยวน..<o></o>
เพราะแม้กระทั่งสีใต้เคลือบ..ยังบอกได้..โทนสีแบบนี้ราชวงศ์นี้..ราชวงศ์นั้น...อีกอย่างที่ชอบมาก<o></o>
คือ..ผ้าไหมโบราณ..มีให้ดูเพียบ..ของลาว..ของเขมร..ของไทย..ผ้าไหมดิ้นทอง..ผ้าเยียรบับ..ที่<o></o>
ต้องสั่งทำจากอินเดีย..ผ้ายก..ผ้ายกทอง..ผ้าจก.............................ถ้าพิพิธภัณฑ์จัดให้มีการมอบ<o></o>
รางวัลผู้ได้รับประโยชน์จากที่นี่มากที่สุด..ผมต้องได้ติด ๑ ใน๑๐ คนสุดท้ายแน่นอน...ทุกครั้งที่ไปดู<o></o>
..แล้วกลับมาสนามพระ..ผมก็รู้สึกว่าฉลาดขึ้นทุกที...ตอนผมเด็กผมไม่คิดว่า..ไอ้พวกทำพระปลอม<o></o>
เป็นคนไม่ดี..แต่ผมมองพวกนี้เป็นคนเก่ง..เขาช่างสังเกต..และเป็นนักดัดแปลงที่เก่ง..เอาไอ้นี่มาแทน<o></o>
โน่น..เอาไอ้โน่นมาแทนไอ้นี่..ผมถึงชอบให้ลุงเจ้าของแผงขาซี้ผมเรื่องพระปลอม..และวิธีการปลอม<o></o>
..........................ผมมานอกเรื่องไปพิพิธภัณฑ์ซะนาน..กับเรื่อง..การจะทำพระดินเผาของผม...ต่อ<o></o>
ผมรู้วิธีทำ..แต่ที่บอกที่บ้านไม่อำนวยที่จะทำได้....ตกลงผมก็ได้..พระผง..๑ องค์..พระเนื้อชินตะกั่ว<o></o>
..๑ องค์.....คราวนี้ผมมาคิดว่าน่าจะทำพิธีซะหน่อย...ไม่เห็นต้องให้หลวงพ่อที่ไหนเสกเลย...ผมคิด<o></o>
...ก็เสกเองก็ได้(คิดแบบเด็ก..อย่าไปคิดอะไรมาก)..สมัยนั้นไม่เคยได้เห็น..ว่าพิธีปลุกเสกเป็นยังไง<o></o>
เคยแต่ได้ยินมา...ผมก็ทำของผมเองขึ้นไปห้องพระ..เห็นสายสิญจ์พ่อวางอยู่..ปลายด้านหนึ่งพันอยู่<o></o>
กับ..พระประธานศักสิทธิ์ที่บ้านอยู่แล้ว(องค์นี้คุย..ซะหน่อย...เชียงแสนสิงห์๑..หน้าตัก ๒ คืบ..ของ<o></o>
แท้ครับ..ลูกน้องพ่อที่เคารพพ่อมาก..และพ่อมีบุญคุณกับเขาเยอะ..ยกมามาให้เอง..วันขึ้นบ้านใหม่)<o></o>
..ก็โยงมาพันกับพานพระเบื้องที่ใส่พระไว้..จุดธูปเทียน..แล้วก็เอาม้วนสายสิญจ์มาพนม..แล้วก็สวด<o></o>
มนต์เสร็จ...จบพิธี..........หลังจากนั้นก็ได้..กระปุกตั้งฉ่าย..ที่หมดแล้วยังไม่ได้ทิ้งถังขยะมา ๑ อัน<o></o>
ล้างอย่างดี..ตากแห้งเสร็จ..เอาพระมาใส่..หาฝามาปิด..ปิดเสร็จ..กันไม่ให้น้ำเข้า..และกันอากาศด้วย<o></o>
การเผาครั่ง(ครั่งเป็น..แท่งสีแดงๆ..ที่เขาใช้หยด..ที่เชือกมัด..พัสดุส่งไปรษณีย์..กันแกะ)หยดที่รอย<o></o>
ต่อฝากับกระปุกจนรอบ...เสร็จแล้ว..รอพ่อกับแม่ไม่อยู่ทั้งวัน(ความตอนผมทำโน่นทำนี่ก็พ่อแม่ไม่อยู่<o></o>
เหมือนกัน)..แล้วก็ตอนที่คนใช้ไม่อยู่ด้วย..อยู่คนเดียว..ผมก็เลือกสนามที่มุมบ้าน...ขุดหลุมลึกเลย<o></o>
ซักเกือบเมตร..เอากระปุกใส่แล้วกลบ...วัตถุประสงค์ที่ทำพระก็มาจากสาเหตุนี้..ผมต้องการทำพระ<o></o>
บรรจุกรุ..กะว่าซัก..๒๐ ปี..ผมจะมาขุดดูว่า..จะเป็นยังไง.........แต่ปรากฎว่าหลังจากนั้น..ผมกลับมาที่<o></o>
บ้านอีกครั้งคราวนี้ฐานะ..เจ้าบ้าน..มาขุดที่เดิมดู...ปรากฎว่าหายครับ..ไม่รู้ใครมาเอาไป..บ้านผมนี่แม่<o></o>
ให้ญาติมาอยู่..นานเป็นสิบกว่าปี...เสียดายนิดหน่อย..แต่โตแล้วเลยไม่คิดอะไรมาก.......<o></o>
..............อ่านเล่นเพลินๆเป็นความซนของเด็กคนหนึ่งเท่านั้นเอง...................................<o></o>
...........................................ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกัน..ขอบคุณ..ครับ.............<o></o>
.....................................................สวัสดี..........................................................<o></o>

 

ที่แม่ฮ่องสอน ผมก็ได้มีโอกาสไปเจอแนวอิฐเหมือนกันครับ แต่คงไม่เก่าเท่ารูปอื่นๆที่โชว์ไว้ครับ

ประวัติศาสตร์ของทางแม่ฮ่องสอนนี่แปลกครับ มี อ. จาก ม. ศิลปากร มาค้นพบหลักฐานมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์จำนวนมากตามถ้ำในอำเภอปางมะผ้า แล้วยุคหลังจากนั้นก็ไม่มีหลักฐานอะไรอีกเลยหายไปยาวมาก และประวัติศาสตร์ยุคหลังเพิ่งจะมาโผล่อีกทีก็ไม่กี่ร้อยปีมานี้เองครับ

แนวอิฐในรูปผมไม่ทราบว่าเป็นอะไร เอาเอาว่าเป็นลานอะไรซักอย่าง บริเวณที่พบอยู่บนเขาไม่ไกลจากศูนย์ผู้อพยพบริเวณชายแดนครับ

 

อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะ

 

สวัสดีครับ..ขอบคุณครับ..ตอนนี้พระกรุคุณอาฯสงสัยมีคนไปขุดแล้วเอาไปบูชาซะแล้ว...หรือเอาไปเช่าหากันหลักล้านแล้วมั๊งครับ..เหอๆๆ

 

สวัสดียามเช้าครับลุง,,,^_^สวัสดียามเช้าครับทุกคน,,,^_^,,,