ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** โพธิ์ทะเล ****

    โพธิ์ทะเลเป็นต้นไม้
    ทำไมชื่อถึงอยู่ไกลทะเล
    ที่ จ.พิจิตร มี ทุ่งโพธิ์ทะเล อ.โพทะเล
    ที่ จ.สิงห์บุรี มี ต.โพทะเล

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "


    [​IMG]
    ใบโพธิ์ทะเล
    ดูเเล้วนึกถึงใครบางคนอยากรู้ว่าจริงใจเเบบเต็มใบเหมือนใบไม้นี้หรือเปล่า....
    ที่เห็นลิบๆ คือเกาะกลาง
    Bloggang.com : ����ѹ���ѹ : ��̾������� �پ�Шѹ��������ǧ ����ǹ�ҡ���/�ǹ�Ҹ�óи���-��к��


    โพธิ์ทะเล
    (ไม้พระราชทานของจังหวัดสมุทรปราการ)
    [​IMG]



    โพธิ์ทะเลยักษ์
    [​IMG]
    เกาะยาวน้อย มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เป็นที่รวมของเขตป่าสงวน ป่าชายเลน ปะการัง และพื้นที่หญ้าทะเล เป็นที่ตั้งของกลุ่มเกาะยาวโฮมสเตย์ต้นแบบ สถานที่ท่องเที่ยวภายในเกาะและใกล้เคียง ได้แก่ ทุ่งปะการัง บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์(บ่อน้ำจืดในทะเล) ที่บ้านอันเป้า หมู่ 7 สองจุดนี้ชมได้เฉพาะช่วงน้ำลง หาดป่าทรายมีหาดทรายขาวสะอาดมองเห็นวิวหมู่เกาะของจังหวัดกระบี่ หาดเท่าเขา ประกอบด้วยโขดหินน้อยใหญ่หลากหลายลวดลาย ห่างจากฝั่งเล็กน้อยมีเกาะนก เกาะเล็กๆ ที่สามารถเดินไปเที่ยวได้ยามน้ำลด บนเกาะมีไม้ป่าและกล้วยไม้อยู่ทั่วไป ถ้ำชาวเลเกาะนอกและถ้ำผีเกาะอันตูซึ่งเป็นที่ไว้กระดูกของชาวเล(Sea Gypsea)มาในอดีต ต้นโพธิ์ทะเลยักษ์ที่เกาะโรย ทะเลแหวกที่เกาะพลองซึ่งบางช่วงเวลาจะเห็นหาดทรายสีทองทอดยาวราว 2 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังนั่งเรือไปชมความงามของเกาะบิเละและเกาะผักเบี้ยในเขตจังหวัดกระบี่ได้สะดวก
    การเดินทาง เกาะยาวน้อยอยู่บริเวณอ่าวพังงาทางทิศใต้ของจังหวัด ประมาณ 43 กิโลเมตร
    http://www.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.phangngacity.org/resource/images/photo/47/%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C.jpg&imgrefurl=http://www.phangngacity.org/index.php%3Fmodule%3DYellowPHP%26func%3Dview%26ot%3DBusInfo%26id%3D47&usg=__-R68coUEYNCzHeHcD2xW_MMwffU=&h=450&w=600&sz=309&hl=th&start=0&zoom=1&tbnid=3J8ylTntnk5IqM:&tbnh=121&tbnw=161&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25B4%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B0%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A9%25E0%25B9%258C%26um%3D1%26hl%3Dth%26sa%3DG%26biw%3D1579%26bih%3D691%26tbs%3Disch:1&um=1&itbs=1&iact=hc&vpx=117&vpy=69&dur=78&hovh=194&hovw=259&tx=122&ty=78&ei=C5l2TNrGGIWGvAOk_53nBQ&oei=C5l2TNrGGIWGvAOk_53nBQ&esq=1&page=1&ndsp=34&ved=1t:429,r:0,s:0


    [​IMG]
    �����ҽҡ��Ѻ�Ѻ ��ػ��Ի ������麹 ��ظ��-��ɳ��š
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 151201-43.jpg
      151201-43.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.4 KB
      เปิดดู:
      1,118
    • _1_~2.JPG
      _1_~2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      308.8 KB
      เปิดดู:
      1,202
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2010
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แว่นสายตาคือของอันตราย?

    [​IMG]

    การใช้แว่นสายตา เป็นการปรับภาพให้กับดวงตาให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น แต่ผู้ใช้แว่นตาหารู้ไม่ว่า นั่นเป็นการหยุดขบวนการ การทำงานตามธรรมชาติของกล้ามเนื้อตา ทำให้กล้ามเนื้อตาเกร็งแข็งและยากต่อการบำบัด ...

    อาการบกพร่องทางตานั้นแก้ไขได้..โดยไม่ต้องใช้แว่นตา..โดยไม่ต้องผ่าตัด ...<WBR>มารักษาดวงตาโดยการโยนแว่นทิ้ง(ชั่วคราว)กันเถอะ ... อ่านรายละเอียดได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้นะครับ

    http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php?topic=5103.25;wap2
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2010
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** โพธิ์ทะเล กับ สัจจะ ****


    โพธิ์ทะเล
    คนโบราณเขาเชื่อสัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "




    [​IMG]


    108 จบขอฝนหลังแหล่งน้ำแห้งขอด โดยเป็นประเพณีโบราณ ชาวบ้านแปดอ้อม เมืองกำแพงเพชร พร้อมทั้งปั้นรูปปลาช่อนและสัตว์ต่างๆ เชื่อจะทำให้ฟ้าฝนตกต้องตามฤดูกาล...

    ผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อจาก ชาวบ้านหมู่ 7 บ้านแปดอ้อม ตำบลนิคทุ่งโพธิ์ทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชรว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ กำลังจะมีการทำพิธีสวดคาถาปลาช่อน เพื่อทำการขอฟ้าขอฝน จากเทวดาฟ้าดิน โดยเป็นประเพณีเก่าแก่และหายาก จึงอยากที่จะเผยแผ่ให้กับผู้คนทั่วไปได้ดู จากการเดินทางไปสังเกต ที่หมู่บ้านดังกล่าวพบชาวบ้านกลุ่มใหญ่กำลังสาละวนอยู่กับการนำดินมาปั้น เป็นรูปสัตว์หลายชนิดรวมทั้งรูปปั้นคนด้วย เพื่อเตรียมการประกอบพิธีสวดคาถาปลาช่อนขอฝนอยู่กลางทุ่งนา

    นายมานพ สายพูน อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 หมู่ที่ 7 ตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวัฒนธรรมหมู่บ้าน แปดอ้อม กล่าวว่า สิ่งที่เห็นอยู่นี้ คือ การเตรียมการสวดคาถาปลาช่อนเพื่อขอฝน เนื่องจากภัยแล้งปีนี้มีความรุนแรงถึงขั้นวิกฤติ ฟ้าฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล คลองชลประทานที่ไหลผ่านตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเลแห้งขอด แหล่งน้ำตามห้วย หนอง คลอง บึงก็เหือดแห้งหมดเช่นกัน ชาวบ้านส่วนใหญ่ จึงรื้อฟื้นการทำ พิธีขอฝนจากเทวดาขึ้นมา ทั้งนี้ก็มีอยู่หลายวิธี แต่จะไม่ใช้การแห่นางแมว เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่คิดว่าเป็นการทรมานสัตว์ จึงเลือกการสวดคาถาปลาช่อน 108 จบ มาทำพิธีขอฝน เพราะได้ทำกันมานานแต่แต่รุ่นปู่ย่าตายาย


    [​IMG]

    ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวัฒนธรรมหมู่บ้าน แปดอ้อม กล่าวต่อว่า การสวดคาถาปลาช่อนเพื่อขอฝนนั้น เล่ากันว่า ปีใดฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ต้องมีการทำบุญเพื่อขอฝน โดยเลือกสถานที่ที่เป็นศูนย์กลางของประชาชน ตั้งศาลเพียงตา และปักฉัตร นำดินเหนียวมาปั้นเป็นรูปปลาช่อน ปู เต่า วัวควาย คน รวมทั้งกบ และสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในอากับกิริยาการสมสู่ในท่าทางต่างๆ บ้างก็ทำ รูปปั้นแบบตลกขบขัน เอาวางไว้ข้างแอ่งน้ำและในแอ่งเก็บน้ำที่ขุดขึ้น ทำตะแกงสำหรับวางเครื่องเซ่นไหว้สักการะ เพื่อแยกระหว่างมนุษย์โลกชั้นล่าง และสวรรค์ชั้นฟ้าด้านบน เพื่อให้รุกขเทวดาได้เห็นว่าโลกมนุษย์นั้นเดือดร้อนเรื่องฝนฟ้าไม่ตกต้อง ตามฤดูกาล จึงต้องทำพิธีร้องขอจากเทวดา ให้ช่วยเหลือบันดานฝนฟ้าให้ตกลงมา จากนั้นจะนิมนต์พระมาเจริญพระพุทธมนต์ แต่ต้องมีการสวดขอฝน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า คาถาปลาช่อน รุ่งเช้าชาวบ้านก็นำสำรับอาหารไปถวายพระ เมื่อฉันเสร็จให้พร และสวดคาถาขอฝนอีกครั้ง

    นายมานพ กล่าวด้วยว่า สำหรับการสวดคาถาปลาช่อนมีตำนาน กล่าวไว้ว่า ในอดีตกาลพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นปลาช่อน แต่พระองค์ไม่เคยกินปลาเล็ก สัตว์เล็ก เคย กินตะไคร้น้ำและสาหร่ายอย่างอื่นแทน ครั้นฝนแล้ง น้ำแห้งปลาอื่นกำลังจะตาย พระโพธิสัตว์จึงโผล่ขึ้นมาจากเปลือกตมแหงนมองดูฟ้า แล้วตั้งสัจจะวาจาว่า "ดูกรเมฆฝน แม้ข้าพเจ้าเป็นปลา ข้าพเจ้าก็ไม่ได้กินปลาและบังเบียดปลา บัดนี้เพื่อนร่วมชาติและตัวข้าพเจ้ากำลังทุกข์หนัก และกำลังจะตายเพราะขาดน้ำ ด้วยอานุภาพแห่งศีลบารมี และสัจจะบารมีขอฝนจงตกลงมาให้ชีวิตชีวาแก่เราด้วยเถิด" ครั้นจบสัจจะวาจาของโพธิสัตว์ ฝนก็ตกลงมาอย่างงดงาม ไม่มีฟ้าร้อง ฟ้าแลบ และฟ้าผ่าเลย

    http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:6bD9dhc7BoIJ:www.bannangio.com/index.php%3Fmo%3D5%26qid%3D502170+%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B0+%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5&cd=2&hl=th&ct=clnk&gl=th
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2010
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** โครงการ กับ สัจจะ ****

    ดูเขามี นวัตกรรมการเรียนรู้
    ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
    โครงการสัจจะวันละ ๑ บาท

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "

    ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันมีผลกระทบให้บุคคลในชุมชนต้องหารายได้ เพื่อจุนเจือครอบครัวมากขึ้น โดยออกไปทำงานหาเงินนอกพื้นที่ เพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งมีทั้งลูก หลาน และปู่ ย่า ตา ยาย ถึงแม้ว่าจะพยายามหารายได้สักแค่ไหน บางครั้งก็ไม่เพียงพอ ฉะนั้นบุคคลที่ต้องมีภาระในการหาเงินเลี้ยงครอบครัวจึงต้องทำงานหนักมากขึ้น จึงเป็นผลกระทบส่งต่อไปยังครอบครัว คือการขาดความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ทั้งลูกหลาน และปู่ย่าตายาย ที่เคยมีสังคมแบบเศรษฐกิจพอเพียง กลายมาเป็นสังคมแบบทุนนิยมเอาเงินมาเป็นตัวตั้งในการดำรงชีวิต เมื่อขาดความสัมพันธ์ ความอบอุ่นของครอบครัวจึงก่อให้เกิดปัญหาครอบครัวแตกแยก ซึ่งเป็นผลต่อสังคมที่เสื่อมโทรมในปัจจุบัน เช่น ปัญหายาเสพติด โรคเอดส์ ปัญหาทั้งหลายล้วนเป็นผลมาจากครอบครัวไม่มีเวลาให้กันทั้งสิ้น เมื่อคนในครอบครัวประสบปัญหาไม่มีความสุขทางใจ ปัญหาทางกายก็ตามมา เพราะกายกับใจสัมพันธ์กัน เมื่อใจไม่มีความสุข กายก็เจ็บป่วยตามไปด้วยเกิดปัญหาซ้ำซ้อน ด้านสวัสดิการที่จะต้องได้รับการช่วยเหลือ เช่น สวัสดิการด้านการดูแลสุขภาพ การรักษาพยาบาล ฯลฯ


    ในปี 2549 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัด คือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์ เชียงใหม่ และบ้านทักษิณ จังหวัดยะลา โครงการส่งเสริมค่านิยมการใช้เพื่อสวัสดิการผู้สูงอายุ (ลดรายจ่าย) ในชุมชนหรือใช้ชื่อสั้นๆ ว่า “โครงการสัจจะวันละ 1 บาท” เพื่อแก้ไขปัญหาของสังคมด้านสวัสดิการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ โครงการสัจจะเงินออมวันละ 1 บาท มีหลักการ ดังนี้
    1. ประชาสัมพันธ์ ให้ทุกครัวเรือนในชุมชนลดรายจ่าย
    2. ให้นำรายจ่ายที่ลดลง มาออมวันละ 1 บาท
    3. นำเงินที่ได้มารวมกัน เป็นกองทุนของชุมชน โดยมีคณะกรรมการที่สมาชิกไว้ใจเลือกให้เป็นกรรมการ
    4. ครบ 6 เดือน สามารถนำเงินมาจ่ายสวัสดิการด้านต่างๆ ดังนี้

    สวัสดิการด้านการเกิด
    แม่ที่ลูกป่วยต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ได้เงินสวัสดิการ 500 บาท/ ครั้ง เมื่อเข้าเป็นสมาชิกตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อชราภาพจะได้สวัสดิการบำนาญตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้



    เจ็บ ป่วย ไม่สบายเข้าโรงพยาบาล
    ได้สวัสดิการค่าห้องพักในโรงพยาบาล คืนละ 100 บาท ไม่เกิน 10 คืน/ ปี

    ตาย
    เมื่อเสียชีวิต ได้รับสวัสดิการค่าทำศพตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
    และเมื่อมีเงินกองทุนมากขึ้นเรื่อยๆ สวัสดิการสามารถจ่ายได้ ตามความเดือดร้อนของสมาชิกและกรรมการที่จะตกลงกัน เพิ่มสวัสดิการได้ตามความเหมาะสมของกองทุนและชุมชนอีกทั้งยังสามารถกู้เงินมาเพื่อประกอบอาชีพได้อีกด้วยในอนาคต จะเห็นได้ว่าโครงการนี้สามารถแก้ไขปัญหาของสังคมได้ตามหลักการและเหตุผลที่วางไว้ และสามารถตอบสนองแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยกู้เงินกองทุนไปใช้เพื่อการประกอบอาชีพในชุมชน เช่น เกษตรผสมผสานในครอบครัว ทำให้สามารถอยู่ร่วมกับครอบครัวและชุมชนได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องออกไปทำงานนอกหมู่บ้าน เพียงแต่ใช้ความพอเพียงบวกกับสวัสดิการที่จะต้องมีภายในชุมชน คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย และการประกอบอาชีพหลักในชุมชน ก็จะเป็นชีวิตที่มีความสุข บนพื้นฐานของความพอเพียงของแต่ละครอบครัวในชุมชนได้อย่างยั่งยืนตลอดไป

    โครงการส่งเสริมค่านิยมการใช้จ่ายเพื่อสวัสดิการผู้สูงอายุ (ลดรายจ่าย) ในชุมชน หรือ “เงินออมสัจจะวันละ 1 บาท” เพื่อสวัสดิการประชาชนแบบเศรษฐกิจพอเพียง ของศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์ (เชียงใหม่) และผู้สูงอายุบ้านทักษิณ (ยะลา) ประสบความสำเร็จ เพราะใช้หลักคุณธรรม สามัคคีมีส่วนร่วม คนมีความสุข ยึดมั่นคุณธรรม 4 ประการ คือ สัจจะ ข่มใจตน อดกลั้นความชั่วและทำความดี


    ที่มา : ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์ (เชียงใหม่) และศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านทักษิณ (ยะลา)

    http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:h3duwf-VK5IJ:learning-center.info/kblog/work2/2009/01/15/+%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B0+%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5&cd=14&hl=th&ct=clnk&gl=th
     
  5. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ฮือฮา!! หมอเทวดา รักษามะเร็ง นายแพทย์สมหมาย ทองประเสริฐ
    เป็นข่าวฮือฮา หลังกิตติศัพท์ของ นายแพทย์สมหมาย ทองประเสริฐ หรือที่ชาวบ้านหลายคนเรียก หมอเทวดา ในความสามารถวินิจฉัยและวิธีการรักษาโรคมะเร็งมากว่า 30 ปี จนผู้ป่วยหลายรายหายป่วย บางรายอาการดีขึ้น เมื่อข่าวเผยแพร่ออกไปทั้งทางหนังสือพิมพ์ และรายการข่าว3มิติ ทำให้คนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งแห่มารักษาแน่นคลีนิค บางรายมารอคลีนิกเปิดตั้งแต่ตี 2
    นายแพทย์สมหมาย กล่าวว่า อย่าเรียกตนว่าเป็นหมอเทวดาเลย เพราะตนเป็นเพียงแค่ หมอธรรมดา เท่านั้น โดยตนได้เริ่มทดลองใช้สมุนไพรรักษาโรคมะเร็งมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2512 จนประสบความสำเร็จในปี พ.ศ.2520 และได้ลาออกจากราชการมาเพื่อรักษามะเร็งโดยเฉพาะ
    นายแพทย์สมหมาย ยังเปิดเผยว่า การรักษาเป็นแบบผสมผสาน ระหว่างยาสมุนไพรที่ทดลองศึกษามานาน ควบคู่กับยาแผนปัจจุบัน ซึ่งตัวยาประกอบด้วยสมุนไพร 8 อย่าง อาทิ แพงพวย ยอดพุทธรักษา เป็นต้น
    “ผมดีใจที่อีกหน่อยสูตรยา ของผม องค์การเภสัชจะนำไปผลิตและจำหน่ายให้คนไทย เพราะผมยกสูตรยานี้ให้องค์การเภสัชไปแล้ว แทนที่สูตรยาจะตายไปกับผม แต่ไม่แล้ว สมุนไพรนี้จะยังอยู่ จะมีคนรับไปต่อยอดจากผมอีกที” นายแพทย์สมหมาย กล่าว
    ซึ่งการรักษาจะเริ่มตั้งแต่การพูดคุย สอบถามอาการ โดยนายแพทย์สมหมาย ยอมรับว่า หากเป็นระยะเริ่มต้นก็มีโอกาสรักษาหาย บางรายอาการหนักจนเดินไม่ได้ ท้องบวม ก็คงหมดทางช่วยให้หาย อาจจะได้แค่ยืดเวลาชีวิตออกไป
    สำหรับค่ารักษาพยาบาลที่ ผ่านมานั้น หากเป็นการรักษาในโรงพยาบาลมีชื่อทั่วไป ค่ารักษาคงไม่น้อยกว่าหลักหมื่นหรือหลักแสน แต่สำหรับ นพ.สมหมาย กล่าวติดตลกไว้ว่า “ใครนั่งรถเบนซ์มา ก็แพงหน่อย ใครไม่มีตังค์มา ก็ให้ฟรี (ยิ้ม)”
    ก่อนจะขยายความเสริมว่า “รักษามาเกือบ 40 ปี มีพอกินพอใช้ แต่สิ่งที่ได้มากกว่านั้น มันอยู่ที่ใจ ได้น้ำใจ ได้ทางความรู้สึก แค่นั้นพอแล้ว”
    สถานที่ตั้งคลีนิก : บ้านเลขที่ 931 ต.บางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี
    ————————————————-
    [​IMG]
    นายแพทย์สมหมาย ทองประเสริฐ เป็นคนจังหวัดสิงห์บุรี เกิดเมื่อ ๒๗ ธันวาคม ๒๔๖๔ จบการศึกษาเภสัชศาสตรบัณฑิต จากจุฬาลง กรณ์มหาวิทยาลัย และจบแพทยศาสตรบัณฑิตเหรียญทอง จากโรงพยาบาลศิริราช ในระหว่างศึกษาได้ทำงานในร้านขายยาเพื่อส่งเสียตัวเอง กระทั่งสำเร็จการศึกษาในปี 2494 เคยเป็นแพทย์ประตำตัว จอมพล ป.พิบูลสงคราม
    ประวัติการทำงาน ของ นายแพทย์สมหมาย ทองประเสริฐ
    - ปีแรกที่สำเร็จเภสัชศาสตร์บัณฑิต รับราชการเป็นอาจารย์อยู่คณะเภสัชศาสตร์ ๑ ปี แล้วกลับมาเรียนแพทย์ต่อที่ศิริราช
    - ทำงานที่สถานเสาวภา สภาชาดไทย ค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับ วัคซีน, เซรุ่ม 1 ปี
    - กลับมาเป็นแพทย์ประจำอยู่โรงพยาบาลศิริราชอีก ๓ ปี
    - รับราชการที่โรงพยาบาลตำรวจได้ ๘ เดือน
    - รับราชการในกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
    - พ.ศ. ๒๕๑๘ เลื่อนขึ้นเป็นนายแพทย์ใหญ่จังหวัดสิงห์บุรี
    - เปิดคลินิกรักษาโรงมะเร็ง จ.สิงห์บุรี (เชี่ยวชาญการใช้ยาสมุนไพรรักษาโรคมะเร็ง)
    ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์,กรุงเทพธุรกิจ
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News
    <LI class=news_src_item>[​IMG]

    [​IMG]
    เมล์บีอาร์ที ส่อแววยกเลิก หลังคนกรุงโวย ทำรถติด
    หลังจากที่รถเมล์ ด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) เส้นทางสาทร-ราชพฤกษ์ ที่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวกทม.กันอย่างหนาหูถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากไม่พอใจที่รถเมล์บีอาร์ทีเข้ามาเบียดพื้นที่ช่องทางการจราจรไป 1 ช่องทาง ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก
    นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม.พร้อมจะพิจารณาทบทวนโครงการดังกล่าวหากผลการสำรวจจากประชาชนยังไม่พอใจก็จะไม่ดันทุรังเดินหน้าโครงการต่อ ทั้งนี้จะขอเวลาพิจารณาการประเมินผลอีก 4 เดือน เนื่องจากประชาชนอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการเดินทาง
    อย่างไรก็ตาม โครงการรถเมล์บีอาร์ทีสายต่อไป หากเป็นไปได้จะพิจารณาปรับปรุงไม่ให้มีการแย่งช่องทางจราจรของรถยนต์ทั่วไป ส่วนโครงการบีอาร์ทีเส้นทางศูนย์ราชการนั้น จะมีการทบทวนโครงการอีกครั้ง เนื่องจากหากทับซ้อนกับโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส สายมีนบุรี-แจ้งวัฒนะ กทม.ก็อาจต้องยกเลิกโครงการ
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  6. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <OBJECT id=sIFR_replacement_0 class=sIFR-flash classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000 width=930 height=34>
























    </OBJECT>ผัวเมียซาอุฯโหดตอกตะปูสาวใช้ศรีลังกา24ดอก



    [​IMG]
    ผัวเมียซาอุฯ โหด ตอกตะปู สาวใช้ศรีลังกา ท่ีมือ ขา และหน้าผาก รวมถึง 24 ดอก หลังไม่พอใจถูกร้องทุกข์ว่าใช้งานหนักเกินไป...

    สำนักงานว่าจ้างงานในต่างประเทศของศรีลังกา เปิดเผย เมื่อ 26 ส.ค.ว่า นางแอล.ที. อริยาวาธี คุณแม่ลูก 3 วัย 49 ปีชาวศรีลังกา ถูกสามีภรรยาเจ้าของท่ีดินชาวซาอุดิอาระเบีย ตอกตะปูเข้าท่ีมือ ขา และหน้าผากถึง 24 ดอก หลังเธอร้องทุกข์ว่าถูกใช้งานหนักเกินไป ขณะเป็นหญิงรับใช้ภายในบ้านของทั้งคู่

    โดยเธอเพิ่งกลับบ้านท่ีเมืองบัตติโคลัว เมื่อ 20 ส.ค. และบ่นเจ็บแผล ทางครอบครัวพาไปพบแพทย์ จากการเอ็กซ์-เรย์ พบตะปูยาว 1-2 นิ้วท่ีมือและขา 23 ดอก อีกดอกฝังอยู่เหนือนัยน์ตา แพทย์ถอนตะปูออกทั้งหมดแล้ว ส่วนรัฐบาลศรีลังกาจะร้องเรียนเรื่องนี้ต่อรัฐบาลซาอุฯ ต่อไป

    ปีท่ีแล้ว มีชาวศรีลังกาไปหางานทำในต่างแดนเกือบ 2 ล้านคน โดยราว 1.4 ล้านคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นหญิงรับใช้ไปทำงานที่ตะวันออกกลาง แต่จำนวนมากร้องทุกข์ว่าถูกทำร้ายร่างกายหรือกดขี่


    "โหรดัง"ชี้คนไทยใจเย็นๆการเมืองวุ่นอีก 2 ปี กลั้นใจรอปี 2555 เศรษฐกิจรุ่งเรือง ลุยได้เต็มที่!!!

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 สิงหาคม ที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ สีลม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการเปิดสัมมนาทางวิชาการด้านโหราศาสตร์ระหว่างประเทศ ไทย – อินเดีย โดยนายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ และประธานสภาโหราจารย์ กล่าวถึงดวงเมืองของประเทศไทย ว่า ขณะนี้ ดวงเมืองมีพระเคราะห์สำคัญ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวอังคารกับดาวเสาร์ ซึ่งในส่วนของดาวอังคาร เป็นดาวประจำราศีของดวงเมือง และดาวเสาร์ เป็นเจ้าเรือนกรรมมะ หมายถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ตอนนี้อยู่ในภพอริ หมายถึงมีอุปสรรค ปัญหาซึ่งจะต้องต่อสู้ แก้ไข กับปัญหานานาชนิด เพราะฉะนั้น ใครที่จะมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องอดทด ต่อสู้แก้ไขกับอุปสรรค

    นายภิญโญ กล่าวว่า ช่วงดาวเสาร์ โคจรอยู่ตรงนี้ จะยาวนานไปถึงปี 2555 ดวงเมืองก็ยังจะต้องมีปัญหาวุ่นวายไปอีก 2 ปี แต่ยังมีดาวที่ให้คุณ คือดาวพฤหัส ที่จะโคจรเข้าสู่ราศีเมษ ในเดือน พ.ค.ปีหน้า ก็จะไปทับลักขณากำเนิดของดวงเมือง และไปทับอาทิตย์ เหตุการณ์ทางการเมืองก็น่าจะดีขึ้น เพราะในตำราดาวพฤหัสกับอาทิตย์ เป็นคู่มิตรกัน หมายถึงเรื่องของชื่อเสียง ผลประโยชน์ แต่ก็ยังมีดาวที่ให้โทษคงอยู่ด้วย โดยมองว่า ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองและความแตกแยกทางสังคมยังคงมีอยู่ต่อไปจนถึงปี 2555 เพราะฉะนั้น ก็ต้องประสานกันหน่อย และระมัดระวังไม่ให้เกิดความรุนแรงจนถึงขั้นนองเลือด เพราะดาวนพเคราะห์กำลังบีบอยู่ ตอนนี้จะเห็นว่าดาวเสาร์อยู่ตรงราศีกันต์กุมกับดาวอาคาร ราหูอยู่ตรงราศีคนยิงธนู อีกไม่นานราหูก็จะเคลื่อนไปราศีพฤศจิก ในเดือนพ.ค.ปีหน้า ก็จะทำมุมปลายหอก ไปสู่ดวงเมือง เพราะฉะนั้นแม้ว่าดาวพฤหัสจะให้คุณ แต่ดาวให้โทษก็ยังคงให้โทษอยู่เช่นกัน ดังนั้น ต้องประคับประคองให้ดี

    ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีวิธีแก้ปัญหาความขัดแย้ง ความรุนแรงทางโหราศาสตร์ ได้อย่างไร นายภิญโญ กล่าวว่า อยู่ที่คน คือดวงดาว ก็คือดวงดาวบนฟากฟ้า แต่คนต้องมีจิตสำนึก เพราะฉะนั้น การแก้ไขต้องแก้ที่ตัวคน ส่วนดวงดาวเราใช้เป็นเครื่องมือในการพยากรณ์เท่านั้นเอง ถ้าคนรู้สำนึก มีจิตที่ดี และเปลี่ยนเงื่อนไข ที่เห็นว่า นำไปสู่แนวทางที่ไม่ดี ก็ให้ปรับเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ทิศทางที่ดี ก็จะช่วยประคับประคองให้การเมืองไทยดีขึ้น

    ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการวิเคราะห์ดวงของผู้นำประเทศ อย่างดวงของนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายภิญโญ กล่าวว่า ดวงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลักขณาอยู่ราศีกรกฎ มีอาทิตย์คุมอยู่ ท่านผ่านวิกฤติมาตอนดาวอังคาร อยู่ราศีกรกฎ ซึ่งก็ผ่านมาแล้ว ขณะนี้ระมัดระวังอย่างเดียว คือ เรื่องความปลอดภัย ส่วนนายกรัฐมนตรีจะอยู่จนครบวาระหรือเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองหรือไม่ นายภิญโญ ทำนายว่า รัฐบาลคงจะอยู่ได้อีกสักพัก เพราะหากดวงดาวเคลื่อน เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็จะเคลื่อนตามไปด้วย

    ขณะที่ นายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ผู้อำนวยการสถาบันศาสตร์แห่งชาติ แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีขาล ธาตุทอง เป็นปีเสือดุ แต่ดุอย่างมีคุณธรรม เพราะฉะนั้น ใครทำอะไรที่ไม่ดี ก็มักจะถูกตอบสนองอย่างรวดเร็วในแง่ของดวงชะตาแต่ละบุคคล จะเห็นว่าดวงเมืองจากที่วิเคราะห์ตั้งแต่ต้นปีว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในแต่ละเดือน ซึ่งในเดือนสิงหาคม ถือว่าเป็นเดือนวอก เป็นเดือนแห่งความวุ่นวาย จุกจิก ข่าวลือ ออกมาวุ่นวายหนัก พอเดือนกันยายน ก็จะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ การรับปากอะไรต่าง ๆ แล้วไม่ได้ทำตามที่ตกลงไว้ ก็จะมาก่อความปั่นป่วน ทั้งในส่วนของข้าราชการ หรือนักธุรกิจ ที่ไม่สามารถ ทำตามได้ ก็จะโยงไปถึงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเดือน 9 ซึ่งเป็นดวงที่วุ่นวายกับพวกผู้ชายโดยเฉพาะ สังเกตดูจะมีปัญหาทั้งเดือนตุลาคม และพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นเดือน 3 เดือน 6 เดือน 9 ของคนจีน ประกอบกับเดือนตุลาคม คนจีนเชื่อว่า เป็นดวงจอ เป็นธาตุไฟ

    สำหรับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นปีมะโรง ธาตุไม้ พอธาตุไม้ แต่เดือนจอชง กับมะโรง และเป็นธาตุไฟที่เผาธาตุไม้ และช่วงอายุของนายกรัฐมนตรี ก็อยู่ในช่วงเคราะห์ด้วย ควบคู่ไปกับการเจอเดือนที่ไม่ดี ก็จะประสบปัญหาหลายด้าน เพราะฉะนั้น เดือนตุลาคม จะเป็นเดือนที่หนักที่สุดของตัวนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลรัฐบาลอยู่ พอแกนนำรัฐบาลมีปัญหาก็จะนำไปสู่คนอื่น ๆ เพราะฉะนั้นถ้าจะทำอะไรอยู่ก็ต้องระวัง เช่น ถ้ารับผิดชอบภาระบ้านเมืองก็จะมีเรื่องปั่นป่วนเกิดขึ้น ถึงขั้นอาจจะมีเรื่องของอาวุธ ระเบิด ปืนไฟ มาสร้างปัญหากับบ้านเมือง โยงไปถึงขั้นบุคคลในเครื่องแบบ ทั้งทหาร ตำรวจ จะต้องออกมาดูแลบ้านเมือง และหากหนัก ๆ ก็อาจถึงขั้นต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และสุดท้ายอาจจะมีการรัฐประหารเกิดขึ้นในปลายปีนี้ ก็อยากให้ระมัดระวังในเรื่องนี้

    นายภาณุวัฒน์ กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาในมุมมองด้านโหราศาสตร์ เห็นว่า การเอาน้ำเย็นเข้าลูบไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ ควรจะต้องอดทนใจเย็น ในลักษณะเอาน้ำแข็งเข้านาบ รวมทั้ง ต้องหาบุคคลที่มีความสามารถ ความพร้อมที่จะประสาน 10 ทิศ คุยทุกฝ่ายได้มาช่วยเจรจา รวมทั้ง ผู้นำต้องเบรกตัวเอง ไม่ว่าจะ

    ผู้สื่อข่าวถามว่า หากวิเคราะห์ดวงเมืองแล้วช่วงเวลาไหนบ้านเมืองจะดีขึ้น จนเป็นปกติ นายภาณุวัฒน์ กล่าวว่า ปีหน้าเป็นปีกระต่าย 2554 ธาตุทอง เป็นปีแห่งคุณธรรม ปีแห่งการเจรจา ซึ่งเป็นปีแห่งการประนีประนอม ทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง รัฐบาล ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น ฝ่ายเคือง ปัญหาก็จะคลี่คลายไปได้ในระดับหนึ่ง ขณะที่ เศรษฐกิจ ของไทย ในปี 2555 ซึ่งเป็นปีมังกร ธาตุน้ำ เศรษฐกิจ การเงิน ทุกอย่าง จะเคลื่อนตัวไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง ช่วงนั้นลุยได้เต็มที่ ใครจะทำอะไรก็ได้ จึงขอให้ใจเย็น ๆ

    ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนั้นผู้นำประเทศยังเป็นคนเดิมหรือไม่ นายภาณุวัฒน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่ว่ากับว่าผู้นำประเทศจะฟันฝ่าปัญหาในช่วงเดือนตุลาคม ถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ไปได้หรือไม่ ถ้าผ่านพ้นตรงนั้นไปได้ ก็จะค่อย ๆ ฟื้น และแข็งแรงตามลำดับ ซึ่งขณะนี้ดวงรัฐมนตรีกว่าครึ่ง ดวงเข้าเคราะห์ มากกว่าดวงดี เพราะมีรัฐมนตรีดวงดีอยู่ไม่ถึงครึ่ง มีคนดวงตกกว่า 20 คน ซึ่ง ตัวของนายกรัฐมนตรี เองคาดว่า หลังวันที่ 13 พ.ย. 2553 ก็คงจะพ้นเคราะห์ ทุกอย่างจะนิ่งขึ้น ก็อยากให้ประคอง ไปให้ได้ เพราะหากปล่อยให้เกิดความวุ่นวาย คุมเกมอะไรไม่อยู่ ส.ส. ก็อาจจะตกงานหลายปี

    ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีจะต้องระวังเป็นพิเศษ ก่อนถึงวันที่ 13 พ.ย. 2553 นี้ คืออะไร นายภาณุวัฒน์ กล่าวว่า ที่ตนเคยให้สัมภาษณ์ตั้งแต่ต้นปีเมื่อช่วงเสื้อแดงที่กำลังวุ่นวาย กับเสื้อเหลือง กับซีกรัฐบาลอยู่ ตนได้เตือนนายอภิสิทธิ์ ว่า ให้ระวังเรื่องการถูกปองร้าย เดินทางไปไหนให้ระวัง ซึ่งก็ควรหมั่นทำบุญทำทาน สะเดาะเคราะห์ และทำอะไรด้วงความรอบคอบ คิดว่า สิ่งเหล่านี้จะสามารถคลี่คลายได้ ส่วนการแก้ดวงเมืองนั่น มันคือธรรมชาติมา ช่วงนี้ สิงหา กันยายน ตุลาคม เกิดน้ำท่วม ก็ต้องเพิ่มมาตรการระวัง และอดทน ใจเย็น ค่อย ๆ ชี้แนะให้ทุกคนใจเย็น อย่าไปตื่นตามกระแสที่มีคนปลุกขึ้น คิดว่า บ้านเมืองเราผ่านได้ เมืองไทยเรามีดีหลายอย่างที่สามารถทำให้คลาดแคล้วมาโดยไม่ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของเมืองอื่นมา เมืองไทย มีบุญญาธิการ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมืองคู่เมืองที่ทำให้เราผ่านพ้นปากเหยี่ยวปากกามาได้ ทั้งนี้นายชวรัตน์ เป็นคนโหวงเห๊งดี

    [/FONT]
    <!-- <script Language="JavaScript">function BackPage() {history.back();}</script>
    กลับสู่หน้าแรก ​
    -->


    <OBJECT id=sIFR_replacement_0 class=sIFR-flash classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000 width=930 height=34>
























    </OBJECT>อัศจรรย์ พบน้ำประหลาดไหลออกจากต้นโพธิ์ร้อยปี



    [​IMG]
    เกิดเหตุอัศจรรย์ พบน้ำประหลาดไหลออกจากต้นโพธิ์อายุนับร้อยปี ใน จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านแตกตื่น แห่กราบไหว้ เชื่อ เจ้าแม่พระโพธิ์สรวงสวรรค์...

    โดยเหตุการณ์ประหลาด ที่สร้างความอัศจรรย์ให้กับชาวบ้าน ใน จ.ฉะเชิงเทรา ในครั้งนี้ ได้รับการเปิดเผยขึ้นเมื่อชาวบ้านตลาดเกาะขนุน หมู่ 2 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้เกิดแตกตื่น หลังต้นโพธิ์อายุเกือบ 100 ปี ที่ชาวบ้านเคารพนับถือถูกเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเกาะขนุนตัด กิ่งเหลือแต่ตอ 2 ตอ สูงประมาณ 8 เมตร เมื่อวันศุกร์ ที่ 20 สค.ที่ผ่านมาได้เกิดมีน้ำใสๆไหลออกมา จากลำต้นไม่ขาดสาย จนชาวบ้านทราบข่าวต่างพากันไปเคารพกราบไหว้ รวมทั้งนำดอกไม้ธูปเทียนมาสักการะและบูชาจำนวนมาก นอกจากนี้ ที่บริเวณโคนต้นโพธิ์ มีชาวบ้านช่วยกันบริจาคเงินซื้อศาลเจ้า เพื่อไหว้สักการะและมีตู้บริจาคเพื่อรับเงินที่ชาวบ้านช่วยกันบริจาค รวมทั้งยังมีตุ่มใส่น้ำมนต์บริเวณโคนต้นโพธิ์ เพื่อรองรับที่ไหลออกมาจากลำต้น ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ อีกด้วย

    นายวิเชียร ฉิมกุล อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 414/2หมู่ 2 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ใกล้ต้นโพธิ์เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเกาะขนุน ได้มาตัดแต่งกิ่งไม้ริมถนนในเขตเทศบาลตำบลเกาะขนุน เพื่อมิให้ถูกสายไฟฟ้าและต้นโพธิ์ต้นดังกล่าว ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตัดแต่งจนเหลือแต่ตอไว้ 2 ตอ แต่หลังจากที่ถูกตัดแล้วได้มีชาวบ้านพร้อมทั้งตนเห็นมีน้ำใสๆไหลออกมาจากโคนต้นและรอยที่ถูกตัดตลอดเวลา

    ห่างกันประมาณ 200 เมตรมีต้นโพธิ์ถูกตัดเช่นกันแต่ไม่มีน้ำไหลออกมาเหมือนต้นนี้ จึงทำให้เกิดความประหลาดใจในหมู่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก และเมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. มีแม่ค้าขายผักในตลาดสดอ้างว่าพบหญิงสาวจำนวน 3 คน ยืนร้องไห้อยู่โคนต้นโพธิ์ รุ่งเช้าชาวบ้านและพวกตนจึงช่วยกันเรี่ยไรเงินกันซื้อศาลเจ้าที่ในราคา 3 พันบาทเศษ นำมาใว้ที่โคนต้นโพธิ์และนำร่างทรงมาทำพิธีและตั้งชื่อว่าเจ้าแม่พระโพธิ์สรวงสวรรค์ นายวิเชียร คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างกล่าว
     
  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <OBJECT id=sIFR_replacement_0 class=sIFR-flash classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000 width=930 height=34>
























    </OBJECT>สั่งลอกคูรอบสนามบินสุวรรณภูมิรับมือน้ำท่วม



    [​IMG]
    ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เผย สั่งลอกแหล่งน้ำรอบสนามบินเตรียมรับมือน้ำท่วมหลังหลายหน่วยงานสั่งเฝ้าระวัง ด้านกรมทางหลวง สั่ง เร่งเคลียร์ถนนให้ใช้ทางได้เร็วที่สุดหากเกิดน้ำท่วม

    เมื่อวันที่ 26 ส.ค. นายนิรันดร์ ธีระนาทสิน ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากขณะนี้มีน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมในบริเวณท่าอากาศยานฯ ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบขุดลอกแหล่งน้ำรอบ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อรองรับน้ำที่ไหลเข้ามาในพื้นที่สนามบิน แต่ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าจะมีน้ำท่วมจนกระทั่งทำให้เกิดวิกฤติและกระทบต่อ การบินและการให้บริการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

    ด้าน นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงแผนการดูแลถนน ในสถานการณ์น้ำท่วมว่า กรมฯได้ให้นโยบายแขวงการทางและสำนักบำรุงทางหลวงทั่วประเทศ 105 แห่งแล้วว่า หากมีเหตุการณ์น้ำท่วม จะต้องเร่งดำเนินการให้ใช้ทางได้เร็วที่สุด เช่น เกลี่ยดินออกจากผิวถนน ซึ่งหากถนนตัดขาด จะมีการนำสะพานชั่วคราวไปแก้ปัญหาทันที โดย ในแต่ละปี กรมฯ จะได้รับงบประมาณในการซ่อมแซมถนนในความรับผิดชอบของกรมฯ ประมาณ 50,000 กม. จากเหตุการณ์น้ำท่วมประมาณ 200 ล้านบาท แต่ปีงบประมาณ 2553 กรม ฯ ใช้งบประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งส่วนที่เกินจะของบประมาณกลาง จากรัฐบาล สำหรับ พื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมบ่อยครั้งคือ อ.แม่เสรียง จ.แม่ฮ่องสอน ส่วนที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่ก็ค่อนข้างพอในการดำเนินงานของกรมทางหลวง

    ขณะที่ นายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า ปกติทุกปี จะมีเหตุการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่อยู่แล้ว ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ เบื้องต้นได้รับ รายงานว่า เกิดขึ้นประมาณ 10 แห่ง ในพื้นที่ภาคเหนือ และอีสาน เช่น ในจังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก น่าน เชียงราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ของกรมฯ จะจัดเตรียมเครื่องจักร เพื่อดำเนินการให้ใช้ทางเร็วที่สุด โดยตั้งเป้าไว้ภายใน 24 ชั่วโมง รวมทั้งนำรถยนต์ใหญ่ เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดในพื้นที่ และแจกจ่ายอาหาร เครื่องดื่มในกรณีที่ประชาชนติดในพื้นที่หลายวัน

    “เรื่องน้ำท่วม จะเกิดในพื้นที่ทุกปี เจ้า หน้าที่ทุกคนจะมีหน้าที่เร่งแก้ไขอย่างทันท่วงทีอยู่แรก โดยเป้าหมายแรกต้องเคลียพื้นที่ให้เร็วที่สุด จากนั้นพอน้ำแห้งแล้ว ก็จะซ่อมพื้นผิวถนนให้เร็วที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม เจ้าหน้าที่ของกรมฯ จะประสานจังหวัด รวมทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับข้อมูล หรือความช่วยเหลือต่างๆ ” นายวิชาญ กล่าว.


    ก.พลังงานทุ่ม25ล้าน หนุนใช้อี85ในรถมอไซค์ นำร่องชุมชนในโคราช

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้จัดสรรงบประมาณจำนวน 25 ล้านบาท ให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ดำเนินโครงการ "พลังงานทดแทนสำหรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 85 จากพืชเศรษฐกิจสำหรับรถจักรยานยนต์ โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีและชุมชนเครือข่ายนำร่องระดับจังหวัดนครราชสีมา ระยะที่ 2" โดยเป็นการติดตามผลการใช้รถจักรยานยนต์ที่ใช้อี 85 ในโครงการระยะ 1 รวม 7 อำเภอใน จ.นครราชสีมา รวมทั้งจะขยายเครือข่ายต้นแบบนำร่องให้ครอบคลุม 32 อำเภอ จ.นครราชสีมา

    <!-- <script Language="JavaScript">function BackPage() {history.back();}</script>
    กลับสู่หน้าแรก ​
    -->

    <OBJECT id=sIFR_replacement_0 class=sIFR-flash classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000 width=930 height=34>
























    </OBJECT>ก.วิทย์เผยโฉม'มุ้งนาโน'รายแรกของโลก ผสมสารฆ่ายุงในเส้นใย



    [​IMG]
    รมว.วิทย์ฯ เผยโฉมมุ้งและเส้นใยนาโนฆ่ายุง รายแรกของโลก ผลิตจากสารสังเคราะห์เลียนแบบธรรมชาติ ตั้งเป้าลดการนำเข้ามุ้งจากต่างประเทศ และเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมสิ่งทอ พร้อมส่งออกปีละแสนหลัง...

    เมื่อวันที่ 25 ส.ค. นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงความสำเร็จของผลงานวิจัยพัฒนาเพื่อผลิตมุ้งและเส้นใยนาโนฆ่ายุง ว่า มุ้งดังกล่าว เกิดจากกระบวนการวิจัยและพัฒนาทางด้านนาโนเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในกระบวนการผลิตเส้นใยสังเคราะห์ทั้งแบบเส้นใยเดี่ยว และเส้นใยผสม ทำให้สามารถผสมสารฆ่ายุงให้ฝังในเม็ดพลาสติก ก่อนฉีดออกมาเป็นเส้นใย ทำให้คงทนต่อการใช้งาน และรับรองว่ามีความปลอดภัย 100% เพราะจะทำปฏิกิริยากับยุงเท่านั้น
    [​IMG]


    จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) เรื่องการระบาดของมาลาเรีย พบว่า คร่าชีวิตมนุษย์มากที่สุดในโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา และด้อยพัฒนา ประชากรกว่า 2 พันล้านคน หรือคิดเป็น 40% ของประชากรโลก อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง มีกว่า 90 ประเทศ จากรายงานปี 2545 ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ป่วยโรคมาลาเรียกว่า 300-500 ล้านคน โดยเฉลี่ยทุกปีคร่าชีวิต 1.5-2.7 ล้านคน ส่วนมากอยู่ในทวีปแอฟริกา สำหรับประเทศไทยมีผู้ป่วย 39,209 คนต่อปี พบแถบชายแดนพม่า และชายแดนเขมร ในไทย พบมากตามลำดับที่ จ.ตาก ยะลา กาญจนบุรี แม่ฮ่องสอน ชุมพรนราธิวาส ศรีสะเกษ จันทบุรี สุรินทร์ และประจวบคีรีขันธ์ โดย WHO แนะนำว่า มุ้งคือ เครื่องมือป้องกันยุงได้

    นายวีระชัย กล่าวว่า ไทยถือเป็นรายแรกของโลกที่ผลิตมุ้งกันยุงด้วยนาโนเทคโนโลยี ขณะที่อุตสาหกรรมสิ่งทอในประเทศไทย มีส่วนช่วยสร้างรายได้อันดับต้นๆ และมีแนวโน้มที่ตลาดโลกให้ความสนใจ อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ด้านการส่งออก มียอดส่งออกมากกว่า 1 ล้านหลังต่อปี แต่ส่วนใหญ่เป็นมุ้งทั่วไปที่ไม่มีการเคลือบสารกำจัดยุง ขณะเดียวกันประเทศไทยนำเข้ามุ้งฆ่ายุงประมาณ 200,000-250,000 หลังต่อปี ราคาประมาณ 250-500 บาท สำหรับมุ้งนาโนดังกล่าวได้จดลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการต่อยอดเชิงพาณิชย์
    [​IMG]


    "ถือว่าป็นผลงานชิ้นแรกของโลกที่ใช้นาโนเทคโนโลยี และผลิตจากสารสังเคราะห์เลียนแบบธรรมชาติ มีความคงทนต่อการใช้งาน และมีความปลอดภัย สามารถใช้กางให้ทารกนอนได้ ช่วยลดการนำเข้าจากต่างประเทศ จากเดิมที่เคยนำเข้าจากต่างประเทศกว่า 2 แสนหลังต่อปี" รมว.วิทย์ กล่าว

    จากข้อมูลดังกล่าว ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงศึกษาข้อมูล และความเป็นไปได้ โดยวิจัยพัฒนาวัสดุและผลิตภัณภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติฆ่ายุง โดยผลิตจากสารสังเคราะห์เลียนแบบธรรมชาติ เพื่อหาทางออกและลดต้นทุนการผลิตและลดการนำเข้า รวมถึงมีอายุการใช้งานยืนยาว สามารถทำความสะอาดได้มากกว่า 30 ครั้ง นอกจากนี้ ยังสามารถประยุกต์ให้เกิดผลิตภัณภัณฑ์กำจัดยุงอีกหลายชนิด เช่น ผ้าม่าน เสื้อ หรือสายรัดข้อมือ อีกทั้ง ยังส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่นักท่องเที่ยวกลัวการติดเชื้อมาลาเรีย หรือไข้เลือดออก รวมถึงประยุกต์ใช้ในเครื่องแบบทหารตำรวจ เพื่อป้องกันการเจ็บไข้ ขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ป่าได้อีกด้วย.
    [​IMG]
     
  8. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    บทความนี้ดีมากๆเลยค่ะ คุณแม่ท่านใส่แว่นตลอดเลย ก็เลยเล่าให้ท่านฟัง ไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะว่า การใส่แว่นจะไม่ดี
    โดยส่วนตัวแล้วไม่ชอบใส่แว่นเลย และไม่เคยใส่แว่น ไม่มีแว่นส่วนตัว ทั้งๆที่มีคนแนะนำให้ใส่มากมาย (ด้วยความปรารถนาดี) เนื่องจากเป็นคนชอบอ่านหนังสือตลอดเวลา แล้วยังมาทำคอมอีก แต่ก็ยังรู้สึกว่า สายตายังเป็นปกติอยู่ ยังไม่มีปัญหาต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ก็เลยดันทุรังไม่ใส่ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าอายุซัก 40 กว่าก็คงต้องใส่ เพราะสายตายาว
    ในบรรดาพี่น้อง 4 คนของดิฉัน มีดิฉันไม่ใส่แว่นอยู่คนเดียว ทั้งๆที่ใครๆก็ว่า น่าจะต้องใส่เป็นคนแรก เพราะเป็นพี่คนโตด้วย (แก่สุด) แต่ดิฉันก็ไม่เคยทำอะไรให้ต้องปวดตานะคะ คือ ไม่ฝืน ถ้าอ่านหนังสือก็จะอ่านไปพักไป ถ้ารู้สึกไม่สบายตาก็พักค่ะ ก็ยังเห็นชัดเจนปกติทั้งใกล้ไกลมาจนบัดนี้



     
  9. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    Glaciers Retreating in Asia
    Could Impact Water Supplies for Millions and Cause Flood Conditions


    Released: 8/25/2010 10:33:00 AM
    <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="4"> <tbody><tr> <td valign="top" width="50%"> Contact Information:
    U.S. Department of the Interior, U.S. Geological Survey
    Office of Communication
    119 National Center
    Reston, VA 20192</td> <td valign="top" width="50%"> Jessica Robertson [​IMG]
    Phone: 703-648-6624

    Jane Ferrigno [​IMG]
    Phone: 703-648-6360

    </td> </tr> </tbody> </table> <hr width="100%" size="1"> <!-- AddThis Button BEGIN --> <script type="text/javascript">addthis_pub = 'oc_web';</script> <!--script type="text/javascript">addthis_pub = 'oc_web'; addthis_logo = 'http://www.usgs.gov/images/header_graphic_usgsIdentifier_white.jpg'; addthis_brand = 'USGS';</script --> <script type="text/javascript" src="http://s7.addthis.com/js/152/addthis_widget.js"></script> <!-- AddThis Button END -->
    <!--introstart-->Many of Asia’s glaciers are retreating as a result of climate change.

    <!--introend-->
    This retreat impacts water supplies to millions of people, increases the likelihood of outburst floods that threaten life and property in nearby areas, and contributes to sea-level rise.


    The U.S. Geological Survey, in collaboration with 39 international scientists, published a report on the status of glaciers throughout all of Asia, including Russia, China, India, Nepal, Bhutan, Pakistan, Afghanistan, Georgia, Kyrgyzstan, Tajikistan, and Kazakhstan.


    “Of particular interest are the Himalaya, where glacier behavior impacts the quality of life of tens of millions of people,” said USGS scientist Jane Ferrigno. “Glaciers in the Himalaya are a major source of fresh water and supply meltwater to all of the rivers in northern India.”


    As glaciers become smaller, water runoff decreases, which is especially important during the dry season when other water sources are limited. Climate change also brings warmer temperatures and earlier water runoff from glaciers, and this combined with spring and summer rains can result in flood conditions. The overall glacier retreat and additional melt can increase the amount of water dammed in the vicinity of a glacier, and the added pressure enhances the likelihood of disastrous outburst flooding.


    While most glaciers in Asia are in recession, some glaciers have been found to advance. Some of the advancing glaciers are surge-type glaciers, which move forward more rapidly than average in a short period of time. The reason for this is being studied by glaciologists, and is likely due to unique and local condition


    Glacier studies in each area started at different times depending on accessibility of glaciers and scientific interest. For example, the earliest description of glaciers in China was in 630 A.D., while studies in the Caucasus area of Russia began in the mid 1800s and modern studies in Nepal started in the 1950s.


    The time period for retreat also differs among each glacier. In Bhutan, 66 glaciers have decreased 8.1 percent over the last 30 years. Rapid changes in the Himalaya is shown in India by the 12 percent retreat of Chhota Shigri Glacier during the last 13 years, as well as retreat of the Gangotri Glacier since 1780, with 12 percent shrinkage of the main stem in the last 16 years.


    Glaciers in Russia and in the four republics once part of the Former Soviet Union have the largest area of glaciers in Asia, covering 30,478 square miles, which is about the size of South Carolina. The glaciers of China have the second largest area of glaciers in Asia, covering 22,944 square miles, which is about twice the size of Massachusetts. In Afghanistan, the more than 3,000 small mountain glaciers that occur in the Hindu Kush and Pamir mountains provide vital water resources to the region.


    “This report was a collaboration between U.S. and foreign authors, the most knowledgeable glaciologists for each geographic region covered,” said USGS scientist Richard S. Williams, Jr. “The USGS published historical and modern data authored by local experts. Some analyses of past climate conditions were conducted by studying ice cores from high-mountain areas of Asia.”


    [​IMG]
    Details

    Title: Debris-Free Plateau Glacier
    Description: Small debris-free plateau glacier with glacier lakes at Gangrinchemzoe Pass at 5,200 m, south of the main Himalayan divide, Bhutan. Image courtesy of Shuji Iwata, Tokyo Metropolitan University, Japan.

    Location: Bhutan
    Photographer: ,
    Usage: This image is public domain/of free use unless otherwise stated. Please refer to the USGS Copyright section for more details.

    [​IMG]

    Details

    Title: Landsat Ice Caps
    Description: Landsat image of ice caps in northern Savernaya Zemlya, Russian Arctic Islands (80 degrees N.). The scene shows zones of melting on the ice caps. The largest ice cap is about 80 km across. Image courtesy of Julian Dowdeswell, Scott Polar Research Institute, Cambridge, UK.

    Location: Russia
    Photographer: ,
    Usage: This image is public domain/of free use unless otherwise stated. Please refer to the USGS Copyright section for more details.

    [​IMG]

    Details

    Title: Panoramic of Glaciers in the Caucasus Moutains
    Description: Panoramic photographic mosaic of several glaciers on the northern slope of Gora Elbrus, a volcanic massif in the Central Caucasus Mountains. The photographic survey was done by N. Nikulin in 1957 during the International Geophysical Year. Photograph courtesy of V.M. Kotlyakov, Russian Academy of Sciences, Moscow.

    Location: Russia
    Date Taken: 1/1/1957
    Photographer: ,
    Usage: This image is public domain/of free use unless otherwise stated. Please refer to the USGS Copyright section for more details.

    [​IMG]

    Details

    Title: Bivachnyy Glacier
    Description: Photograph of Bivachnyy Glacier, a surging valley glacier in the central Pamir Mountains. The glacier has a thick debris cover derived from adjacent mountains. Photograph courtesy of V.M. Kotlyakov, Russian Academy of Sciences, Moscow.

    Location: Tajikistan
    Photographer: ,
    Usage: This image is public domain/of free use unless otherwise stated. Please refer to the USGS Copyright section for more details.

    [​IMG]
    Details

    Title: ASTER Image of Gangotri Glacier
    Description: Sept 9, 2001 ASTER image showing the position of the terminus of Gangotri Glacier, India, between 1780 and 2001. Image from Jesse Allen, NASA's Earth Observatory. Glacier retreat boundaries courtesy of the U.S. Land Processes Distributed Active Archive Center

    Location: India
    Date Taken: 9/1/2001
    Photographer: ,
    Usage: This image is public domain/of free use unless otherwise stated. Please refer to the USGS Copyright section for more details.


    สรุปเอาย่อๆ นะ

    ธารน้ำแข็งหลักของเอเชียกำลังละลายอย่างรวดเร็ว จะมีผลทำให้น้ำจืดจะขาดแคลนคนจำนวนหลายล้านในเอเชียจะมีผลกระทบนี้ และยังเป็นสาเหตุของน้ำท่วมใหญ่ๆ ในเอเชียด้วย และทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอีกต่างหาก


    และจุดที่ให้ความสนใจมาก คือ เทือกเขาหิมาลัย เป็นที่ๆ การเปลี่ยนแปลงของธารน้ำแข็งมีผลต่อ คุณภาพชีวิตของคนถึงหลายสิบล้านคน



    ธารน้ำแข็งจากภูเขาหิมาลัยเป็นแหล่งน้ำจืด ขนาดใหญ่และส่งน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งไปยังแม่น้ำต่างๆ ในอินเดียเหนือ มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ


    คือ น้ำแข็งที่เป็นแหล่งต้นน้ำของเอเชียละลายเร็วมาก ทำให้น้ำมหาศาลท่วม แถมยังจะมีขนาดเล็กลง อีกหน่อย เราจะขาดแคลนน้ำจืดกันแน่ๆ ฮือ
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** แผนเผชิญ ****

    เกรงว่า...วันหนึ่ง สุวรรณภูมิจะใช้การไม่ได้
    เหตุเพราะ ข้างใต้เป็นเลนโคลน
    เครื่องบินบนอากาศ ผู้ปฏิบัติงานและอุปกรณ์ภาคพื้น
    ถนนการจราจร สนามบินสำรอง สถานที่พักและพยาบาล ฯลฯ
    จะทำอย่างไร คือต้องมีแผนชัดเจน มีคำตอบให้ทุกคนทุกฝ่าย ได้เตรียมความพร้อม

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "



    [​IMG]
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** ภัยแม่น้ำโขง ****

    ยิ่งใหญ่กว่านี้ หลายเท่า น้ำท่วมยอดมะพร้าว
    หุบเขา เกิดวังน้ำวน หินใหญ่ จะหลุดจากภูเขา กลิ่งไปกองแถวตาก
    กรวดทราย ไปกองกำแพงเพชร

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "




    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2010
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ครับ...ปัญหาของเรื่องนี้ อยู่ที่การขาดความรู้ ขาดความเข้าใจของผู้ที่เป็นพ่อแม่ ที่พอเห็นลูกๆ มีปัญหาเรื่องสายตา ก็จะรีบไปตัดแว่นสายตาให้ทันที ทั้งๆที่ยังมีวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องของสายตาด้วยวิธีการอื่นๆ เช่นการบริหารสายตา การควบคุมอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลมากเกินไป การออกกำลังกายกลางแจ้งด้วยการเล่นกีฬา การควบคุมเวลาในการดูทีวี หรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ฯลฯ

    ใสแว่นสายตาแต่เฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ควรใส่ตลอดเวลา ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้กล้ามเนื้อของดวงตา ได้มีโอกาสฟื้นฟูสมรรถภาพของตัวเองขึ้นมาได้ จนไม่ต้องใส่แว่นได้ในที่สุด เพราะร่างกายของคนเรามีกลไกในการซ่อมแซมตัวเองอยู่แล้วตามธรรมชาติโดยเฉพาะผู้ที่ยังเยาว์วัย แต่ถ้าคนเรายังคิดว่าเมื่อมีปัญหาเรื่องสายตาแล้ว จะต้องแก้ไขด้วยการใส่แว่นสายตาแต่เพียงอย่างเดียวแล้ว ก็นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายและน่าเสียใจเป็นอย่างยิ่งครับ ทั้งนี้คงเป็นเพราะธุรกิจเกี่ยวกับแว่นตาของเมืองไทย เติบโตมากเกินความจำเป็นไปเสียแล้ว...

    วิธีถนอมดวงตา 7 ประการ

    [FONT=Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif][FONT=Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif][​IMG][/FONT][/FONT]

    1. ครอบดวงตา ด้วยการโค้งอุ้งมือทั้งสองครอบดวงตาไว้เฉย ๆ ระวังอย่าให้อุ้งมือกดทับดวงตา นึกถึงบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เช่น วันพักผ่อนสุดสัปดาห์ตามป่าเขาหรือชายทะเลอยู่ในท่านี้สักประมาณ 10 นาที ​

    2. ต่อจากท่าที่ 1 ยังคงครอบดวงตาอยู่แล้ว สร้างจินตภาพว่าตนเองกำลังมองวัตถุบางอย่างที่มีสีสันสดใส มีรายละเอียดต่าง ๆ ที่ชัดเจน เช่น มองเห็นดอกเบญจมาศสีเหลืองสวย เห็นกลีบดอกแต่ละกลีบละเอียดชัดเจน สายตาที่คมชัดจากจินตนาการของเราเองจะช่วยเยียวยาสายตาจริง ๆ ของเราได้เป็นอย่างดี

    3. กวาดสายตา มองแบบไม่ต้องจ้อง เพราะคนที่สายตาสั้นมักจะจ้องและเขม้นตา กวาดสายตาไปตามวัตถุที่อยู่ไกล ๆ ทางโน้นบ้าง ทางนี้บ้าง ทำให้ตาของเราได้ผ่อนคลาย

    4. กะพริบตา ฝึกนิสัยให้กะพริบตา 1-2 ครั้ง ทุก 10 วินาที ช่วยให้แก้วตาสะอาดและมีน้ำเหลืองหล่อเลี้ยง โดยเฉพาะคนที่สวมแว่นตาสะอาดและมีน้ำหล่อเลี้ยง โดยเฉพาะคนที่สวมแว่นหรือคอนแทคเลนส์ยิ่งจำเป็น

    5. โฟกัสภาพที่ใกล้และไกล เหยียดแขนซ้ายไปให้ไกลที่สุด ตั้งนิ้วชี้มือซ้ายขึ้นเพื่อเป็นจุดโฟกัส ขณะเดียวกันตั้งนิ้วชี้มือขวา ให้ห่างจากใบหน้า สัก 3 นิ้ว โฟกัสภาพที่แต่ละนิ้วสลับกันไปมา ทำบ่อย ๆ เมื่อโอกาสอำนวย

    6. หลังตื่นนอนทุกเช้าให้ใช้มือวักน้ำชโลมดวงตาด้วยน้ำอุ่นสัก 20 ครั้ง สลับกับการวักน้ำเย็นชโลมดวงตาอีก 20 ครั้ง ทั้งนี้เพื่อช่วยให้เลือดหมุนเวียนมาเลี้ยงดวงตาดีขึ้น การวักน้ำเย็นช่วยให้กล้ามเนื้อดวงตาและหนังตากระชับไม่หย่อนยาน ก่อนเข้านอนให้กวักน้ำชโลมดวงตาอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ชโลมด้วยน้ำเย็นก่อนแล้วตามด้วยน้ำอุ่น จะทำให้กล้ามเนื้อตาและหนังตาได้ผ่อนคลายก่อนเข้านอน

    7. แกว่งตัว ยืนแยกเท้าเท่ากับช่วงไหล่ แกว่งตัวไปมาจากซ้ายไปขวา ถ่ายน้ำหนักตัวบนขาแต่ละข้างสลับไปมา สายตามองไปไกลๆ แต่ไม่ต้องจ้อง ปล่อยให้จุดที่เรามอง แกว่งไปมาซ้ายขวาตามการแกว่งตัว ท่านี้จะทำให้ดวงตาได้พัก และมีการปรับตัวดีขึ้น ทำบ่อย ๆ เมื่อมีโอกาส เปิดเพลงคลอไปด้วยก็ได้

    ที่มา http://www.ratanavej.co.th/9_eye.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2010
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** เมืองสวรรค์ ****

    เมืองในอดีต ที่ต้องกลับมาทำใหม่
    เหตุเพราะแผ่นดินสูง เคยรอดพ้นน้ำทะเลในอดีต

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "



    [​IMG] [​IMG]





     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** การลงทุนที่คุ้มค่า ****

    สนามบินเมืองอมร - สนามบินเมืองสวรรค์
    สายด่วน อนาคตได้ใช้แน่นอน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "

    [​IMG]<EMBED height=340 type=application/x-shockwave-flash width=480 src=http://www.youtube.com/v/Mr5TnLyy9Y8?fs=1&hl=fr_FR allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true">

    เร็วเท่าเครื่องบิน

    <EMBED height=385 type=application/x-shockwave-flash width=500 src=http://www.youtube.com/v/-WbP_NJGDT0?fs=1&hl=fr_FR allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true">

    http://palungjit.org/threads/ตามรอย-พระมหาชนก.248273/page-15#post3709891
    </EMBED><!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2010
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เมื่อหนูน้อย ต้องรับมือกับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่

    [​IMG]

    ช่วงนี้ เป็นช่วงระบาดของเชื้อไวรัสตัวร้ายอีกครั้ง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างพากันติดหวัดกันเป็นทิวแถว โดยเฉพาะ เด็กๆ ที่ภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรงเท่าวัยผู้ใหญ่ จึงมักทำให้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มาจากสถานที่ชุมชนได้ง่าย

    พญ.ปิติยา โรจน์พรประดิษฐ์ กุมารแพทย์สาขาภูมิแพ้และอิมมูโนวิทยา โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า ก่อนอื่นเราคงต้องทำความรู้จักโรคนี้กันก่อน โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่พบได้บ่อย มักจะระบาดในช่วงอากาศเย็นๆ ซึ่งในประเทศไทยของเราจะเริ่มพบผู้ป่วยในช่วงฤดูฝนแบบนี้ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มีระยะฟักตัวของโรคประมาณ 1-3 วัน ผู้ป่วยที่ติดเชื้อจะมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ เจ็บคอ จาม น้ำมูกไหล ถ้าใครเริ่มมีอาการป่วยก็แนะนำให้ไปพบแพทย์

    การรักษาในเบื้องต้น

    คือ รับประทานยารักษาตามอาการ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ แต่ในกรณีที่มีอาการรุนแรง เช่น ปอดอักเสบ ก็จำเป็นต้องนอนรักษาในโรงพยาบาล แต่โดยทั่วไปผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะหายจากโรคได้เอง โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน มีเพียงส่วนน้อยที่มีอาการรุนแรง ซึ่งมักจะพบในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคไต ผู้สูงอายุและเด็กเล็กๆ เป็นต้น

    ลักษณะของไข้หวัดใหญ่ที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน

    ไอ ไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ น้ำมูกไหล ติดเชื้อที่โพรงจมูก เจ็บคอ เจ็บหน้าอก ไอมีเสมหะ หากผู้ป่วยเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบ มักจะมีอาการชัก มีภาวะแทรกซ้อนทางปอดซึ่งจะต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล เด็กมักจะไอมาก อาเจียน และบางรายมีอาการคอแห้งในบางรายอาจมีไข้สูงนานหลายวัน

    ลักษณะของไข้หวัดใหญ่ที่มีภาวะแทรกซ้อน

    ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยได้แก่ ภาวะแทรกซ้อนต่อทางเดินหายใจส่วนล่าง ระบบหัวใจ หลอดเลือด และระบบประสาทส่วนกลาง แต่ส่วนใหญ่จะเกิดที่ทางเดินหายใจ ทั้งนี้ เนื่องจากขณะที่ไวรัสไข้หวัดใหญ่เพิ่มจำนวน เยื่อบุทางเดินหายใจจะถูกทำลายอย่างมาก

    โรคไข้หวัดใหญ่มีระยะเวลาการติดต่อของโรคหลังจากเริ่มมีอาการประมาณ 7 วัน และสามารถติดต่อกันโดยการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย ของผู้ป่วยผ่านทางเยื่อบุปาก จมูก ตา ของผู้ที่สัมผัส ดังนั้น เรามีวิธีการป้องกันเด็กๆ และตัวเราเองจากไข้หวัดใหญ่ได้ดังนี้

    เวลาไอ จาม ควรใช้กระดาษทิชชูปิดปากและจมูก แล้วนำทิชชูทิ้งลงถังขยะให้เรียบร้อย อย่าลืมล้างมือด้วยน้ำสบู่ให้สะอาดทุกครั้ง ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่เราอาจสัมผัสมาโดยไม่ตั้งใจ

    หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณปาก จมูก และตา ซึ่งเป็นทางเข้าของเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ พยายามระมัดระวังไม่เข้าใกล้ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ หลีกเลี่ยงการไปในที่มีคนหนาแน่น เช่น โรงภาพยนตร์ การชมคอนเสิร์ต ตลาดนัด เป็นต้น

    ป้องกันโดยการรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเริ่มให้ได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ไปตามแต่ละฤดูกาล เพราะฉะนั้น วัคซีนที่ฉีดเมื่อปีที่แล้ว จะไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลของปีนี้ได้

    ผู้ป่วยที่มีอาการของไข้หวัดใหญ่ ควรหยุดพักอยู่บ้าน 7 วัน หลีกเลี่ยงการออกไปสู่ที่ชุมชน ไปพบแพทย์เมื่อเริ่มมีอาการไข้

    วิธีสังเกตสัญญาณของ ไข้หวัดธรรมดา และ ไข้หวัดใหญ่

    อาการ ไข้ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลียคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน คัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ ไข้หวัด พบได้บ่อยในเด็กไม่ค่อยพบมีน้อย เป็นอยู่ระยะสั้นๆไม่ค่อยพบพบบ่อยระยะแรกๆ ไข้หวัดใหญ่ ไข้สูงทั้งเด็กและผู้ใหญ่ พบได้บ่อยและปวดมาก เป็นมากและนานเป็นสัปดาห์พบบ่อยในเด็กพบบ่อยระยะหลังๆ

    ศูนย์กุมารเวชกรรม โรงพยาบาลเวชธานี
    www.vejthani.com

    ไทยรัฐออนไลน์ วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2553
    ที่มา http://www.thairath.co.th/content/life/106428
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 632.jpg
      632.jpg
      ขนาดไฟล์:
      18 KB
      เปิดดู:
      1,562
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2010
  16. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 18:20 น. ข่าวสดออนไลน์


    หมอดูทำนายดวงเมือง ตุลาฯอาจเกิดปฏิวัติ

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อวันที่ 26 ส.ค. โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ นายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ และประธานสภาโหราจารย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเปิดงานสัมมนาโหราศาสตร์ ระหว่างประเทศ ถึงดวงเมืองของประเทศไทย ว่า ขณะนี้ ดวงเมืองมีพระเคราะห์สำคัญ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวอังคารกับดาวเสาร์ ซึ่งในส่วนของดาวอังคาร เป็นดาวประจำราศีของดวงเมือง และดาวเสาร์ เป็นเจ้าเรือนกรรมมะ หมายถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ตอนนี้อยู่ในภพอริ หมายถึงมีอุปสรรค ปัญหาซึ่งจะต้องต่อสู้ แก้ไข กับปัญหานานาชนิด เพราะฉะนั้น ใครที่จะมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องอดทด ต่อสู้แก้ไขกับอุปสรรค

    นายภิญโญ กล่าวว่า ช่วงดาวเสาร์ โคจรอยู่ตรงนี้ จะยาวนานไปถึงปี 2555 ดวงเมืองก็ยังจะต้องมีปัญหาวุ่นวายไปอีก 2 ปี แต่ยังมีดาวที่ให้คุณ คือดาวพฤหัส ที่จะโคจรเข้าสู่ราศีเมษ ในเดือน พ.ค.ปีหน้า ก็จะไปทับลักขณากำเนิดของดวงเมือง และไปทับอาทิตย์ เหตุการณ์ทางการเมืองก็น่าจะดีขึ้น เพราะในตำราดาวพฤหัสกับอาทิตย์ เป็นคู่มิตรกัน หมายถึงเรื่องของชื่อเสียง ผลประโยชน์ แต่ก็ยังมีดาวที่ให้โทษคงอยู่ด้วย โดยมองว่า ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองและความแตกแยกทางสังคมยังคงมีอยู่ต่อไปจนถึงปี 2555 เพราะฉะนั้น ก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความรุนแรงจนถึงขั้นนองเลือด เพราะดาวนพเคราะห์กำลังบีบอยู่ ตอนนี้จะเห็นว่าดาวเสาร์อยู่ตรงราศีกันต์กุมกับดาวอาคาร ราหูอยู่ตรงราศีคนยิงธนู อีกไม่นานราหูก็จะเคลื่อนไปราศีพฤศจิก ในเดือนพ.ค.ปีหน้า ก็จะทำมุมปลายหอก ไปสู่ดวงเมือง เพราะฉะนั้นแม้ว่าดาวพฤหัสจะให้คุณ แต่ดาวให้โทษก็ยังคงให้โทษอยู่เช่นกัน ดังนั้น ต้องประคับประคองให้ดี


    ผู้สื่อข่าวถามว่า ถามถึงดวงผู้นำประเทศของนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายภิญโญ กล่าวว่า ดวงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลักขณาอยู่ราศีกรกฎ มีอาทิตย์คุมอยู่ ท่านผ่านวิกฤติมาตอนดาวอังคาร อยู่ราศีกรกฎ ซึ่งก็ผ่านมาแล้ว ขณะนี้ระมัดระวังอย่างเดียว คือ เรื่องความปลอดภัย ส่วนนายกรัฐมนตรีจะอยู่จนครบวาระหรือเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองหรือไม่ นายภิญโญ ทำนายว่า รัฐบาลคงจะอยู่ได้อีกสักพัก เพราะหากดวงดาวเคลื่อน เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็จะเคลื่อนตามไปด้วย

    ด้านนายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ผู้อำนวยการสถาบันศาสตร์แห่งชาติ แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีขาล ธาตุทอง เป็นปีเสือดุ แต่ดุอย่างมีคุณธรรม เพราะฉะนั้น ใครทำอะไรที่ไม่ดี ก็มักจะถูกตอบสนองอย่างรวดเร็วในแง่ของดวงชะตาแต่ละบุคคล เดือนสิงหาคม ถือว่าเป็นเดือนวอก เป็นเดือนแห่งความวุ่นวาย จุกจิก ข่าวลือ ออกมาวุ่นวายหนัก พอเดือนกันยายน ก็จะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ การรับปากอะไรต่าง ๆ แล้วไม่ได้ทำตามที่ตกลงไว้ ก็จะมาก่อความปั่นป่วน ทั้งในส่วนของข้าราชการ หรือนักธุรกิจ ที่ไม่สามารถ ทำตามได้ ก็จะโยงไปถึงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเดือน 9 ซึ่งเป็นดวงที่วุ่นวายกับพวกผู้ชายโดยเฉพาะ สังเกตดูจะมีปัญหาทั้งเดือนตุลาคม และพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นเดือน 3 เดือน 6 เดือน 9 ของคนจีน ประกอบกับเดือนตุลาคม คนจีนเชื่อว่า เป็นดวงจอ เป็นธาตุไฟ

    สำหรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นปีมะโรง ธาตุไม้ พอธาตุไม้ แต่เดือนจอชง กับมะโรง และเป็นธาตุไฟที่เผาธาตุไม้ และช่วงอายุของนายกรัฐมนตรี ก็อยู่ในช่วงเคราะห์ด้วย ควบคู่ไปกับการเจอเดือนที่ไม่ดี ก็จะประสบปัญหาหลายด้าน เพราะฉะนั้น เดือนต.ค.จะเป็นเดือนที่หนักที่สุดของตัวนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลรัฐบาลอยู่ พอแกนนำรัฐบาลมีปัญหาก็จะนำไปสู่คนอื่น ๆ เพราะฉะนั้นถ้าจะทำอะไรอยู่ก็ต้องระวัง ถึงขั้นอาจจะมีเรื่องของอาวุธ ระเบิด ปืนไฟ มาสร้างปัญหากับบ้านเมือง โยงไปถึงขั้นบุคคลในเครื่องแบบ ทั้งทหาร ตำรวจ จะต้องออกมาดูแลบ้านเมือง และหากหนักๆ ก็อาจถึงขั้นต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และสุดท้ายอาจจะมีการรัฐประหารเกิดขึ้นในปลายปีนี้ ก็อยากให้ระมัดระวังในเรื่องนี้

    โหรดังเตือนดวงมาร์ค-ดวงเมือง

    คอลัมน์ รายงานพิเศษ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]





    </TD></TR></TBODY></TABLE>สถานการณ์การเมืองไทยแม้หลายฝ่ายจะมองว่าเริ่มนิ่ง เพื่อเข้าสู่โหมดเลือกตั้งที่คาดการณ์กันว่าอาจจะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้าหรือปลายปี 2554 รอให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครบวาระในเดือนพ.ย.2554

    แต่จากการเคลื่อนไหวของกลุ่มทางการเมือง ไม่ว่ากลุ่มคนเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย ที่เริ่มตั้งเวทีในพื้นที่ที่ไม่มีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลที่เดินเกมกดดันให้รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์แก้ไขรัฐธรรมนูญ

    ย่อมส่งผลต่อสถานะและเสถียรภาพของรัฐบาลเช่นกัน

    ขณะเดียวกันในทางโหราศาสตร์เคยทำนายดวงเมืองไว้เมื่อต้นปีว่า จะเกิดเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมือง จนนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหารขึ้น อีกครั้งในช่วงปลายปีนี้

    ล่าสุดทั้ง นายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ และ นายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ผู้อำนวยการสถาบันศาสตร์แห่งชาติ แห่งประเทศไทย

    ทำนายถึงดวงเมืองของประเทศไทยว่าจะยังคงมีปัญหาความแตกแยก ขัดแย้งในสังคมต่อเนื่องไปถึงปี 2555 ให้ระวังจะเกิดเหตุความรุนแรงจนถึงขั้นนองเลือด

    โดยเฉพาะในเดือนต.ค.นี้จะเป็นเดือนที่หนักสุดของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์



    ภิญโญ พงศ์เจริญ

    นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ

    และประธานสภาโหราจารย์



    ดวงเมืองของประเทศไทยขณะนี้ มีพระเคราะห์สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวอังคารกับดาวเสาร์ ในส่วนของดาวอังคารเป็นดาวประจำราศีของดวงเมือง และดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนกรรมะ

    หมายถึงการบริหารราชการแผ่นดินตอนนี้อยู่ใน ภพอริ หมายถึงมีอุปสรรคปัญหาซึ่งจะต้องต่อสู้แก้ไขปัญหานานาชนิด ฉะนั้น ใครที่จะมาเป็นรัฐบาลต้องอดทนต่อสู้แก้ไขกับอุปสรรค

    ช่วงดาวเสาร์โคจรอยู่ตรงนี้จะยาวนานไปถึงปี 2555 ดวงเมืองยังจะต้องมีปัญหาวุ่นวายไปอีก 2 ปี

    แต่ยังมีดาวที่ให้คุณคือดาวพฤหัสฯ ที่จะโคจรเข้าสู่ราศีเมษในเดือนพ.ค.ปีหน้า จะไปทับลัคนากำเนิดของดวงเมือง และไปทับอาทิตย์ เหตุการณ์ทางการเมืองน่าจะดีขึ้น ในตำราดาวพฤหัสฯ กับอาทิตย์เป็นคู่มิตรกัน หมายถึงเรื่องของชื่อเสียง ผลประโยชน์ แต่ยังมีดาวที่ให้โทษคงอยู่ด้วย

    ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองและความแตกแยกทางสังคมยังคงมีอยู่ต่อไปจนถึงปี 2555 ฉะนั้น ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความรุนแรงจนถึงขั้นนองเลือด เพราะดาวนพเคราะห์กำลังบีบอยู่

    ตอนนี้จะเห็นว่าดาวเสาร์อยู่ตรงราศีกันย์กุมกับดาวอังคาร ราหูอยู่ตรงราศีคนยิงธนู อีกไม่นานราหูจะเคลื่อน ไปราศีพิจิก ในเดือนพ.ค.ปีหน้าจะทำมุมปลายหอกไปสู่ดวงเมือง ดังนั้นแม้ดาวพฤหัสฯ จะให้คุณแต่ดาวให้โทษก็ยังคงให้โทษอยู่เช่นกัน จึงต้องประคับประคองให้ดี

    ส่วนวิธีแก้ปัญหาความขัดแย้งความรุนแรงนั้น ในทางโหราศาสตร์อยู่ที่คน ซึ่งคนต้องมีจิตสำนึก การแก้ไขต้องแก้ที่ตัวคน ส่วนดวงดาวเราใช้เป็นเครื่องมือในการพยากรณ์เท่านั้น

    ถ้าคนรู้สำนึก มีจิตที่ดีและเปลี่ยนเงื่อนไขที่เห็นว่านำไปสู่แนวทางที่ไม่ดี ก็ให้ปรับเงื่อนไขเพื่อนำไปสู่ทิศทางที่ดี ก็จะช่วยประคับประคองให้การเมืองไทยดีขึ้น

    สำหรับดวงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ลัคนาอยู่ราศีกรกฎ มีอาทิตย์คุมอยู่ ท่านผ่านวิกฤตมาตอนดาวอังคาร อยู่ราศีกรกฎ ซึ่งผ่านมาแล้ว

    ขณะนี้ระมัดระวังอย่างเดียวคือเรื่องความปลอดภัย

    ส่วนนายกฯ จะอยู่จนครบวาระหรือเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองหรือไม่นั้น ทำนายได้ว่ารัฐบาลคงอยู่ได้อีกสักพัก เพราะหากดวงดาวเคลื่อน เหตุการณ์ต่างๆ ก็จะเคลื่อนตามไปด้วย



    ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล

    ผอ.สถาบันศาสตร์แห่งชาติ แห่งประเทศไทย



    ปีนี้เป็นปีขาล ธาตุทอง เป็นปีเสือดุ แต่ดุอย่างมีคุณธรรม ใครทำอะไรที่ไม่ดีมักถูกตอบสนองอย่างรวดเร็ว

    ในแง่ของดวงชะตาแต่ละบุคคลจะเห็นว่าดวงเมืองจากที่วิเคราะห์ตั้งแต่ต้นปี 2553 ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในแต่ละเดือน ซึ่งในเดือนส.ค.ถือว่าเป็นเดือนวอก เป็นเดือนแห่งความวุ่นวาย จุกจิก ข่าวลือออกมาวุ่นวายหนัก

    พอเดือน ก.ย.จะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ การรับปากอะไรต่างๆ แล้วไม่ได้ทำตามที่ตกลงไว้ก็จะมาก่อความปั่นป่วน ทั้งในส่วนของข้าราชการหรือนักธุรกิจที่ไม่สามารถทำตามได้

    และจะโยงไปถึงเดือน ต.ค.ซึ่งเป็นเดือน 9 เป็นดวงที่วุ่นวายกับพวกผู้ชายโดยเฉพาะ

    สังเกตดูจะเห็นว่ามีปัญหาทั้งเดือนต.ค.และเดือนพ.ค. ซึ่งถือเป็นเดือน 3 เดือน 6 เดือน 9 ของคนจีน ประกอบกับเดือนต.ค. คนจีนเชื่อว่าเป็นดวงจอ เป็นธาตุไฟ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เป็นปีมะโรง ธาตุไม้

    แต่เดือนจอชงกับมะโรงและเป็นธาตุไฟที่เผาธาตุไม้ และช่วงอายุของนายกฯ อยู่ในช่วงเคราะห์ด้วย ควบคู่กับการเจอเดือนที่ไม่ดี จะประสบปัญหาหลายด้าน

    ฉะนั้นเดือนต.ค.จะเป็นเดือนที่หนักที่สุดของตัวนายกฯ ที่ดูแลรัฐบาลอยู่ พอแกนนำรัฐบาลมีปัญหาจะนำไปสู่คนอื่นๆ

    ดังนั้น ถ้าจะทำอะไรอยู่ก็ต้องระวัง เช่น ถ้ารับผิดชอบภาระบ้านเมือง จะมีเรื่องปั่นป่วนเกิดขึ้น ถึงขั้นอาจมีเรื่องของอาวุธ ระเบิด ปืนไฟ มาสร้างปัญหากับบ้านเมือง

    โยงไปถึงบุคคลในเครื่องแบบทั้งทหาร ตำรวจ จะต้องออกมาดูแลบ้านเมือง และหากหนักๆ อาจถึงขั้นต้องเสียเลือดเสียเนื้อ สุดท้ายอาจมีการรัฐประหารเกิดขึ้นในปลายปีนี้ จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องนี้

    แนวทางการแก้ปัญหาในมุมมองด้านโหราศาสตร์ เห็นว่าการเอาน้ำเย็นเข้าลูบไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ ควรอดทนใจเย็น ในลักษณะเอาน้ำแข็งเข้านาบ

    รวมทั้งต้องหาบุคคลที่มีความสามารถ ความพร้อมที่จะประสานสิบทิศ คุยทุกฝ่ายได้มาช่วยเจรจา รวมทั้งผู้นำต้องเบรกตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์หรือการทำงาน

    ซึ่งอยากให้มีการลาพักร้อนในช่วงเดือนต.ค.

    หากวิเคราะห์ดวงเมืองแล้ว ปีหน้าเป็นปีกระต่าย 2554 ธาตุทอง เป็นปีแห่งคุณธรรม ปีแห่งการเจรจา เป็นปีแห่งการประนีประนอม ทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง รัฐบาล ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น ฝ่ายเคือง ปัญหาจะคลี่คลายได้ในระดับหนึ่ง

    ขณะที่เศรษฐกิจไทยในปี 2555 ซึ่งเป็นปีมังกร ธาตุน้ำ เศรษฐกิจการเงินทุกอย่างจะเคลื่อนตัวไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง ช่วงนั้นลุยได้เต็มที่ ใครจะทำอะไรก็ได้ จึงขอให้ใจเย็นๆ

    แต่เมื่อถึงช่วงนั้นจะยังเป็นผู้นำประเทศคนเดิมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่านายอภิสิทธิ์จะฟันฝ่าปัญหาในช่วงเดือนต.ค. ถึงต้นเดือนพ.ย.ไปได้หรือไม่ ถ้าผ่านพ้นตรงนั้นไปได้จะค่อยๆ ฟื้นและแข็งแรงขึ้นตามลำดับ

    ขณะนี้ดวงรัฐมนตรีกว่าครึ่ง ดวงเข้าเคราะห์มากกว่าดวงดี เพราะมีรัฐมนตรีดวงดีอยู่ไม่ถึงครึ่ง มีคนดวงตกกว่า 20 คน

    ซึ่งตัวนายอภิสิทธิ์เอง คาดว่าหลังวันที่ 13 พ.ย. 2553 จะพ้นเคราะห์ ทุกอย่างจะนิ่งขึ้น จึงอยากให้ประคองไปให้ได้ เพราะหากปล่อยให้เกิดความวุ่นวาย คุมเกมอะไรไม่อยู่ ส.ส.อาจจะตกงานหลายปี

    สิ่งที่นายกฯ ต้องระมัดระวังก่อนถึงวันที่ 13 พ.ย. ซึ่งเคยเตือนตั้งแต่ต้นปีว่าให้ระวังเรื่องการถูกปองร้าย เดินทางไปไหนให้ระวัง และควรหมั่นทำบุญทำทาน สะเดาะเคราะห์ ทำอะไรด้วยความรอบคอบ คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะสามารถคลี่คลายได้

    ส่วนการแก้ดวงเมืองนั้น มันคือธรรมชาติมา ช่วงเดือนส.ค. ก.ย. และต.ค. จะเกิดน้ำท่วม ต้องเพิ่มมาตรการระวัง ต้องอดทน ใจเย็น ค่อยๆ ชี้แนะให้ทุกคนใจเย็น อย่าตื่นตามกระแสที่มีคนปลุกขึ้น

    คิดว่าบ้านเมืองเราผ่านได้ เมืองไทยเรามีดีหลายอย่างที่ทำให้คลาดแคล้วโดยไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของเมืองอื่น เมืองไทยมีบุญญาธิการและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง

    ทำให้เราผ่านพ้นปากเหยี่ยวปากกามาได้

    แบตเตอรี่ใยสาหร่าย



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]





    </TD></TR></TBODY></TABLE>เป็นเวลานานแล้วที่นักวิจัยพยายามค้นคว้าพัฒนาแบตเตอรี่ที่สามารถจุไฟฟ้าและมีลักษณะแบนบางน้ำหนักเบา หนึ่งในความหวังนั้น คือ สารโพลิเมอร์นำไฟฟ้า ซึ่งเป็นสารชีวภาพแต่มีข้อเสีย คือ ไม่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าไว้ได้นาน กระทั่งนางมารี สโตรม ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีนาโนจากมหาวิทยาลัยอัปป์ซารา ของสวีเดน ค้นพบคำตอบของปัญหาดังกล่าวอยู่ในสาหร่ายที่พบอยู่ทั่วไปตามชายฝั่งทะเล สายพันธุ์แคลโดโฟห์รา ซึ่งมีเส้นใยเซลลูโลสที่หนาแน่นมากกว่าในกระดาษทั่วไปถึง 100 เท่า ส่งผลให้นักวิทยาศาสตร์สามารถนำไปขยายผลสร้างสารโพลิเมอร์นำไฟฟ้าในสาหร่ายดังกล่าวให้สามารถเก็บประจุไฟฟ้าไว้ได้สำเร็จ

    แบตเตอรี่สาหร่ายดังกล่าว ประกอบด้วยสารโพลิเมอร์นำไฟฟ้าบางเพียงแค่ 40-50 นาโนเมตร แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่าแบตเตอรี่โพลิเมอร์นำไฟฟ้าชนิดอื่นราว 50-200 เท่า และหากถูกพัฒนาต่อจนสามารถใช้งานได้เต็มที่จะเป็นคู่แข่งที่สูสีกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ทั้งยังใช้เวลาชาร์จประจุน้อยเพียง 11 วินาที จนถึง 8 นาที ขณะที่ลิเธียม-ไอออน และแบตเตอรี่อื่นนั้นใช้เวลาชาร์จประจุน้อยที่สุด 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีอัตราการเสื่อมสภาพช้ากว่า โดยแบตเตอรี่สาหร่ายดังกล่าวมีอัตราเสื่อมสภาพราวร้อยละ 6 ต่อการชาร์จ 100 รอบ เทียบกับแบตเตอรี่โพลิเมอร์นำไฟฟ้าชนิดอื่นที่เสื่อมลงร้อยละ 50 ต่อการชาร์จเพียง 60 รอบ

    รับมือน้ำท่วมสุวรรณภูมิ



    นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากขณะนี้มีน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมในบริเวณท่าอากาศยานฯ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้นิ่งนอนใจได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบขุดลอกแหล่งน้ำรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อรองรับน้ำที่ไหลเข้ามาในพื้นที่สนามบิน แต่ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าจะมีน้ำท่วมจนกระทั่งทำให้เกิดวิกฤตและกระทบต่อการบินและการให้บริการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

    นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยถึงแผนการดูแลถนน ในสถานการณ์น้ำท่วมว่า กรมได้ให้นโยบายแขวงการทางและสำนักบำรุงทางหลวงทั่วประเทศ 105 แห่งแล้ว ว่า หากมีเหตุ การณ์น้ำท่วมจะต้องเร่งดำเนินการให้ใช้ทางได้เร็วที่สุด โดยในแต่ละปีกรมจะได้รับงบประมาณในการซ่อมแซมถนนในความรับผิดชอบของกรม ประมาณ 50,000 ก.ม. จากเหตุการณ์น้ำท่วมประมาณ 200 ล้านบาท แต่ปีงบประมาณ 53 กรมใช้งบประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งส่วนที่เกินจะของบประมาณกลางจากรัฐบาล

    ซูเปอร์บัส



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]





    </TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพวาดคอบเซ็ปต์พาหนะขนส่งมวลชนแห่งอนาคตของจีน ออกแบบโดยบริษัทเซินเจิ้น ฮะชิ ฟิวเจอร์ ปาร์กิ้ง อิควิบเมนต์ มีกำหนดจะทดสอบวิ่งจริงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าทางภาคตะวันตกของมหานครกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ที่มีปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนัก พอๆ กับสภาพในกรุงเม็กซิโกซิตี เมืองหลวงเม็กซิโก มหานครที่รถติดที่สุดในโลกแล้ว เมื่อต้นสัปดาห์มีเหตุการณ์ที่รถติดยาวกว่า 100 กิโลเมตร <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]





    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    รถขนส่งมวลชน ที่จะเข้ามารองรับเป็นรถ "ซูเปอร์ บัส" วิ่งไปบนรางแนวตั้งบนแผงกั้นเกาะข้างถนน ตัวรถกินพื้นที่กว้าง เท่าพื้นที่จราจรสองเลน และเป็นอุโมงค์ว่าง ให้รถยนต์สัญจรลอดไปได้ รับผู้โดยสารได้ ราว 1,400 คน (ภาพ-เอเอฟพี)




    "ชิลี"ฉลองแล้วลุ้นต่อ คนงานใต้เหมือง33ชีวิต

    สกู๊ปพิเศษ



    [​IMG]แม้ชาวชิลีจะไชโยกันยกใหญ่ที่รู้ว่า คนงาน 33 รายที่ติดใต้เหมืองยังมีชีวิตอยู่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ส.ค. นับจากหินถล่มปิดทางเข้าเหมืองตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.

    แต่ความรู้สึกที่ตามมาจากนั้นกลับเป็น "วิตก" และ "หวั่นใจ"

    เนื่องจากเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องใช้เวลาอีกนานหลายเดือนถึงจะช่วยคนทั้งหมดได้

    ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 เดือน กว่าจะเจาะหินเข้าไปช่วยเหลือออกมา

    ระหว่างนี้ มีรายงานออกมาจากใต้ดินว่า นายมาริโอ โกเมซ คนงานที่อาวุโสที่สุดในกลุ่มผู้รอดตาย อายุ 63 ปี กลายเป็นฮีโร่และเป็นสัญลักษณ์ของความอึด

    นายโกเมซเป็นผู้เขียนข้อความด้วยหมึกสีแดง ที่เป็นสัญญาณแรกว่า คนงานเหมืองใต้ดินลึก 700 เมตรในกรุงซานโฮเซ่ ยังมีชีวิตอยู่

    หลังจากหน่วยกู้ภัยด้านบนได้ยินเสียงค้อนก้องขึ้นมา จึงหย่อนอุปกรณ์ตรวจสอบลงไปในเหมือง นายโกเมซจึงส่งกระดาษข้อความติดขึ้นไป <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    บน-คนงาน 33 คน อายุตั้งแต่ 19 ถึง 63 ปี

    มุมล่างขวา-ภาพวิดีโอคนงานจากใต้เหมือง






    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ข้อความดังกล่าวเป็นตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด ว่า "เราทั้งหมด 33 คนยังสบายดีอยู่ใต้ที่กำบัง" ส่งขึ้นมาถึงผู้ที่อยู่ข้างบนได้

    ประธานาธิบดีปิเนรา ผู้นำชิลี โชว์กระดาษโน้ตดังกล่าวกับสื่อมวลชนด้วยความยินดี

    นอกจากนี้ ยังมีภาพเคลื่อนไหวจากกล้องที่หย่อนลงไปใต้ดิน ขณะที่ชาวเหมืองโบกมือให้กล้อง

    ญาติพี่น้องของคนงานใต้เหมืองต่างร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ หลังจากสิ้นหวังกันไปแล้ว ส่วนผู้ชมภาพข่าวดังกล่าวก็ดีใจตามไปด้วย



    ลึกลงไปใต้เหมืองที่ถูกหินปิดทับ ลุงมาริโอ โกเมซ ต้องทำหน้าที่เป็นเหมือนโค้ช และผู้นำกลุ่ม ท่ามกลางผู้ประสบภัย 33 คนที่มีอายุตั้งแต่ 19 ปีจนถึง 63 ปี ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงวัย 40

    ทั้งหมดเป็นชาวชิลี ยกเว้นนายคาร์ลอส มามานี วัย 24 ปีที่เป็นชาวโบลิเวีย เพิ่งมาทำงานที่เหมืองทองและทองแดงแห่งนี้ได้เพียง 5 วัน

    จีโน่ เอราโซ คนงานเหมืองที่เคยทำงานและรู้จักกันดีกับลุงโกเมซ กล่าวว่า โกเมซเป็นเหมือนพ่อที่คอยดูแลลูกๆ สถานการณ์ใต้ดินอาจต้องพึ่งลุงมากทีเดียว <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ประธานาธิบดีอวดข้อความจากคนงาน






    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ด้านคลอดิโอ กัมปิเลย์ ลูกเขยของนายโกเมซ กล่าวถึงพ่อตาว่าเป็นคนมีน้ำใจมาก ได้รับความเคารพจากเพื่อนร่วมงานมาก

    ส่วนนางลิเลียน่า ภรรยาของนายโกเมซ กล่าวว่า สามีเป็นพวกบ้างาน เป็นคนงานเหมืองมาตลอดชีวิต เรียนรู้งานจากพ่อมาตั้งแต่อายุ 12 ปี

    "ฉันคิดว่า เขาจะเป็นแกนนำใต้เหมืองนั่น" นางลิเลียน่ากล่าว และว่าสามีเขียนข้อความอีกแผ่นมาถึงตน

    "เขาบอกว่า เขารักฉัน ซึ่งฉันไม่เคยได้ยินคำแบบนี้มาก่อน แม้ว่าเราจะแต่งงานกัน เขาก็ไม่เคยแสดงความโรแมนติกอะไร เขาเป็นคนขี้อาย ไม่ใช่คนแสดงความรู้สึก"

    ส่วนโรมิน่า ลูกสาวของนายโกเมซ ส่งข้อความกลับไปให้พ่อ ว่า "สวัสดีค่ะพ่อ นี่โรมิน่านะคะ หนูดีใจมากที่พ่อสบายดี เป็นความสุขที่สุดของครอบครัวแล้วค่ะ"

    ระหว่างการคิดหาหนทางช่วยทั้ง 33 ชีวิต เบื้องต้นนี้ หน่วยกู้ภัยส่งอาหาร เจลอนามัย และเครื่องมือสื่อสาร กล้องและไมโครโฟนลงไปให้คนงานเหมืองทางท่อพลาสติกขนาดเล็ก

    ส่วนเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โชคดีที่ผู้อยู่ใต้เหมือง มีผู้รู้วิชาการแพทย์อยู่บ้าง 2 คน คนข้างบนจึงจะส่งเทอร์โมมิเตอร์และเครื่องวัดความดันลงไปให้ ไว้ช่วยวัดเพื่อนๆ ในนั้น

    พอล่า นิวแมน แพทย์ที่มีหน้าที่เฝ้าอาการของคนงานเหมืองกลุ่มนี้ กล่าวว่า ได้ส่งกลูโคส และยาที่จำเป็นลงไปแล้ว ตามด้วยอาหารที่มีโปรตีนและแคลอรีสูง

    "ทั้งหมดสุขภาพแข็งแรงดีมาก ไม่มีใครอยู่ในอาการตื่นตระหนก เรื่องบ่นต่างๆ น้อยกว่าที่เราคาดไว้มาก" หมอนิวแมนกล่าว

    " รวมถึงวันที่ 25 ส.ค. ที่ผู้คนข้างบนแจ้งกับคนงานข้างล่างว่า ต้องใช้เวลาหลายเดือนที่จะช่วยขึ้นมาบนพื้นดิน เหล่าคนงานต่างรับฟังด้วยท่าทีสงบ ไม่ได้ตีโพยตีพายหรือเสียขวัญอะไร

    ม็อบแดง

    คนงานชาวแอฟริกาใต้ใส่เสื้อแดงเดินขบวนเรียกร้องเพิ่มค่าจ้าง ในนครโจฮันเนสเบิร์ก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]





    </TD></TR></TBODY></TABLE>คนงานชาวแอฟริกาใต้ใส่เสื้อแดงเดินขบวนเรียกร้องเพิ่มค่าจ้าง ในนครโจฮันเนสเบิร์ก พร้อมประกาศแผนขยายการประท้วงครั้งใหญ่ในสัปดาห์หน้า ที่จะมีผู้ใช้แรงงาน 1.3 ล้านคนเข้าร่วม เมื่อ 26 ส.ค.







    เขามีม็อบแดงด้วยแระมีม็อบเหลืองริปะไม่รู้ติดตามดู

    http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=322&contentID=87586

    ภาระภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

    เรื่องของสภาวะโลกร้อนหรืออุณห ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้โลกได้รับผลกระทบมาก และเรื่องนี้ก็กลายเป็น เรื่องการตั้งงบประมาณเตรียมการรับกับสิ่งเหล่านี้ในหลายประเทศ ซึ่งเป็นการป้องกันผลกระทบที่เลวร้ายในอนาคตของโลก

    ก็ยังจำได้เมื่อคราวที่ท่าน ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ได้มาที่กรุงเทพฯ ปาฐกถาให้กับนานาชาติ เกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาฝีมือแรงงาน ให้กับกระทรวงแรงงานประเทศไทย ที่ตึกองค์การสหประชาชาตินั้น ได้ระบุชัดว่า เศษฐกิจโลกที่เป็นอยู่นั้น ยังมีอีกหลายเรื่อง ที่ยังไม่ได้มีการนำมาผนวกเข้ากับแผน งบประมาณประเทศ ด้วยความที่ยังไม่ได้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    และก็พอดีได้รับอีเมล จากเพื่อน คุณวีรศักดิ์ โควสุรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) ซึ่งก็ได้ช่วยขยายความสำคัญของเรื่องนี้มา โดยมีข้อมูลสำคัญดังนี้

    คำว่า “ภาวะโลกร้อน” หรือ “Global Warming” ยังเป็นคำที่ให้ความหมายยังไม่ชัดเท่ากับคำว่า “ภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง” หรือ “Climate Change” เพราะผลกระทบที่โลกได้รับนั้น มีทั้งความร้อนและความหนาว และการศึกษาวิชาการในเรื่องนี้เป็นไปได้ในหลายสาขา เช่น วิทยาศาสตร์ พฤติกรรมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สถิติศาสตร์ และอื่น ๆ อีก

    ข้อมูลที่น่าสนใจขององค์การกองทุนอนุรักษ์สัตว์ป่าโลก หรือ World Wildlife Fund (WWF) บอกว่าถ้ามนุษย์ทุกคนอยู่แบบคนอเมริกัน เราจะต้องหาดาวเคราะห์ ที่เป็นอย่างโลกใบนี้อีก 5 ดวง จึงจะมีทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศที่ใหญ่พอให้บริโภค และโยนขยะใส่อย่างที่เราทำกับโลกใบนี้

    ในอีก 40 ปีข้างหน้า หรือ ปี ค.ศ. 2050 โลกจะมีประชากร 9 พันล้านคน ประชากรส่วนใหญ่จากประเทศยากจนจะ เพิ่มขึ้นอีกมาก จะมีการอพยพแรงงานจากประเทศยากจนไปยังประเทศเจริญแล้ว ทำให้การลงทุนหรือการวางแผนการใช้ทรัพยากรในประเทศใหม่ลำบากขึ้น การรักษาทรัพยากรของโลกจะยิ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก

    ประเทศที่กำลังจะจมน้ำประเทศแรกในโลก ก็คือ มัลดีฟส์ ซึ่งรัฐบาลกำลังจะต้องหาที่อยู่ใหม่ให้กับประเทศนี้ประมาณ 3 แสนคน

    การผลิตพืชอาหาร ไม่ว่าจะเป็นพืชอาหารคน หรือพืชอาหารปศุสัตว์นั้น ต้องใช้น้ำเกินมากกว่ามนุษย์ดื่มตรง ๆ กว่า 500 เท่า คือ ต้องมีน้ำรดต้นหญ้าและนาข้าวทุกวัน มีน้ำไว้ล้างและเลี้ยงคอกปศุสัตว์ทุกระยะ กว่าจะได้เนื้อแต่ละกรัมข้าวแต่ละกระสอบต้องใช้น้ำเยอะ การส่งออกอาหารในวงจรความคิดนี้จึงเสมือนการส่งออกน้ำดิบด้วย

    ก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมาสู่ชั้นบรรยากาศโลกนั้น 29.3% มาจากสหรัฐอเมริกา 26.5% มาจากยุโรป ส่วนจีนและอินเดียรวมกัน อยู่ที่ 9.8% ทั้งนี้ไม่นับการย้ายฐานการผลิตจากประเทศเจริญไปสู่ประเทศยากจนกว่า ทำให้มีการค้าขายโควตาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปด้วย

    สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา หรือ ไอทีดี International Institute for Trade and Developmentก็ได้มีการวางแผน เพื่อออกแบบกำหนด
    นโยบาย ร่วมมือกันกับรัฐบาลอีกหลายประเทศเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ คุณวีรศักดิ์ จึงสรุปทิ้งท้ายว่า อยากให้ทุกคนมาเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อให้มีความรับผิดชอบต่อโลกมากขึ้น

    ตั้งใจทำดีเพื่อส่วนรวม ก็ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วยครับ.

    รศ.ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล
    อธิการบดี
    มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด
    boonmark@stamford.edu


    สั่งเตรียมป้องกันน้ำท่วมเมืองกรุงเก่า

    พ่อเมืองกรุงเก่าสั่งเตรียมป้องกันน้ำท่วม พร้อมประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมแล้ว 3 อำเภอ
    เมื่อวันที่ 27ส.ค.ที่หน้าพระตำหนักสิริยาลัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ. นายณรงค์ อ่อนสอาด รอง ผวจ.นางวิมล ไชยวัฒน์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัด นายไมตรี ปิตินานนท์ ชลประทานจังหวัด พร้อมเจ้าหน้าที่ ออกตรวจสอบสภาพน้ำที่หน้าพระตำหนักสิริยาลัย ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝังตรงข้ามวัดไชยวัฒนาราม หลังได้รับรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น

    นายวิทยา กล่าวว่า ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านหน้าพระตำหนักสิริยาลัย กระแสน้ำไหลด้วยความเร็ว 1,336.48 ลบ.เมตรต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 189 ซม. จึงได้สั่งการให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ขอกำลังทหารจากจังหวัดทหารบกสระบุรี เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และหน่วยกู้ภัยต่าง ๆ ร่วมมือกันป้องกันน้ำด้วยการวางแนวกระสอบทราย

    ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมบ้างแล้วมี 3 อำเภอ คือ อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.บางปะอิน น้ำได้ท่วมบ้านเรือนประชาชนไปแล้ว จำนวน 2,128 หลังคาเรือน ส่วนในพื้นที่ ต.กุฎี อ.ผักไห่ มีน้ำไหลท่วมแปลงนาข้าวกว่า 8,000 ไร่ ที่กำลังจะเก็บเกี่ยว เนื่องจากประตูระบายน้ำกุฎีเกิดชำรุด น้ำไหลใต้ประตูเข้าไปในแปลงนาข้าว จึงได้ให้ทางอำเภอผักไห่ช่วยกันนำกระสอบทรายลงไปอุดทางไหลของน้ำ แล้วใช้เครื่องสูบน้ำจากชลประทานสูบน้ำออก เพื่อให้เกษตรกรได้เก็บเกี่ยวข้าวได้ทัน ขณะนี้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ประกาศเขตภัยพิบัติทั้ง 3 อำเภอไปแล้ว.

    [​IMG]


    เชียงรายน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร
    เชียงรายยังจมบาดาล น้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร จนท.ระดมกำลังออกช่วยเหลือ
    เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.เชียงราย ว่า พายุโซนร้อนมินดอนเลที่พัดถล่ม ทำให้ในหลายอำเภอของจังหวัดเชียงรายมีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะที่ อ.พญาเม็งราย แม่น้ำต๊ากได้เอ้อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน กระทั่งเช้าวันนี้ พบว่า น้ำได้ลดลงบางส่วนแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังใน 2 ตำบล คือ ต.แม่เปา และ ต.เม็งราย ระดับน้ำบางแห่งยังสูงเกินกว่า 1 เมตร บ้านเรือนได้รับความเสียหายหลายหลังคาเรือน โรงเรียนได้ทำการปิดการเรียน-การสอนจำนวน 6 แห่ง

    ทั้งนี้ นางรัตนา จงสุทธนามณี นายก อบจ.เชียงราย พร้อมคณะ ได้นำถุงยังชีพจำนวน 6,500 ชุด และรองเท้ากันน้ำ จำนวน 6,500 คู่ ออกทำการแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมกับได้ทำการประสานไปยังองค์การปกครองท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยจะได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการรับลงทะเบียนประชาชนที่เดือดร้อน พร้อมกันนี้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง ได้นำอุปกรณ์จัดทำน้ำดื่มสะอาดออกช่วยเหลือผู้ประสบภัย.

    [​IMG]

    เตือนชาวบ้านริมแม่นำโขงระวัง
    จนท.ออกตรวจแม่น้ำโขงพบมีปริมาณสูงขึ้นเกือบ 10 เมตร เริ่มทะลักท่วมพื้นที่เกษตร เตือนชาวบ้านระวัง
    เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานหลังฝนตกหนักทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลลงมารวมกันที่แม่น้ำน่าน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมบ้านสถานีดงตะขบ ต.บางไผ่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ทำให้มีบ้านเรือนประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมขัง

    ส่วนที่ จ.อำนาจเจริญ นายนิรันดร์ บุญสิงห์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมคะออกสำรวจสภาวะน้ำท่วมตามลำแม่น้ำโขง หลังเกิดฝนตกตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา พบปริมาณน้ำสูงขึ้นเกือบ 10 เมตร บางจุดน้ำเริ่มทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรบางแห่งแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้วิทยุเตือนให้ชาวบ้านที่อยู่ตลิ่งระวังน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน

    [​IMG]

    ขอขอบคุณเรื่องแว่นสายตาเป็นสิ่งจำเป็นถ้าเกิดรอดจาก 7749 ถ้าไม่มีแว่นมันจะปวดหัว เห็นในหลวงใส่แว่นตาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ อยากทราบว่าตอนโตสายตาจะเป็นอย่างไรมันจะหายเป็นปกติริปะ
    ก็ไม่เห็นเป็นปกติเลยนะ อย่างคนสายตาสั้นแล้วโตแล้วเป็นอย่างไร สายตายาวโตแล้วสายตาสั้นริปะ
    ช่วยตอบด้วยไปดูอย่างอื่นดีกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2010
  17. bluejet

    bluejet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +2,181
    เพิ่งไปเจอวีดีโอนี้
    ดร. มิชิโอะ คากุ นักฟิสิกส์ระดับโลก ให้สัมภาษณ์เมื่อปีที่แล้ว เตือนว่า ในปี ค.ศ. 2012 อาจจะเกิดพายุสุริยะขนาดใหญ่ ทำลายระบบไฟฟ้าของสหรัฐ และของโลกทั้งหมด และระบบดาวเทียมทั้งหมด

    <object width="640" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/4_TzIUlaQok?fs=1&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/4_TzIUlaQok?fs=1&amp;hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="640" height="385"></embed></object>
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำทำนายวันเวลาที่ 11-11
    โดย อ.ปริญญา ตันสกุล

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    จักรวาลได้เผยให้มนุษย์ได้ทราบล่วงหน้าแล้วว่า วันแห่งหายนะซึ่งจะชำระโลกสถานหนักคือเวลาที่ 11-11

    ดวงอาทิตย์ดวงใหญ่นอกระบบเอกภพ พร้อมด้วยดวงจิตจักรวาลจำนวนมาก จะร่วมมือกันส่งคลื่นพลังงานความรักความถี่สูงพร้อมไอเย็นมายังดวงอาทิตย์ ของระบบสุริยะ เพื่อสร้างปฎิกิริยาให้เกิดการระเบิดขึ้นบนพื้นผิวของดวงอาทิตย์ ก่อให้เกิดคลื่นความถี่วิทยุและพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กที่เข้มข้นสูงสุด ในรอบหนึ่งหมื่นสองพันปีแผ่กระจายออกมาจากจุดดับบนดวงอาทิตย์ เป็นพายุสุริยะมุ่งสู่ดวงจันทร์และโลก ด้วยอัตราความเร็ว 1 หนึ่งล้านกิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคลื่นวิทยุความถี่สูง ซึ่งเป็นคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กเช่นกัน จะเป็นผู้นำทางให้พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าที่เข้มข้นถึงเป้าหมายที่ต้องการได้

    ทันทีที่ดวงจันทร์ได้รับคลื่นพลังงานที่เข้มข้น ซึ่งแผ่ผ่านมาจากดวงอาทิตย์ พลังงานภายในระบบของดวงจันทร์จะถูกอัดกระแทกอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดการรวมตัวกันเป็นคลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กที่เข้มข้น ยิ่งกว่าที่ถูกส่งมาจากจุดดับบนดวงอาทิตย์ มันจะดันทะลุจากด้านหนึ่งของดวงจันทร์ที่รับคลื่นพายุสุริยะ พุ่งผ่านมายังดาวโลกอีกทอดหนึ่ง ระหว่างเกิดกระบวนการนี้สามารถจะรับรู้แรงสั่นสะเทือนทางกายภาพของดวงจันทร์ ได้ไม่น้อย

    พายุแม่เหล็กทั้งที่เดินทาง มาจากดวงอาทิตย์โดยตรง และจากการเสริมพลังของดวงจันทร์บริวารของโลกมีความเข้มข้นสูงมากกว่าปรกติ ส่วนใหญ่จึงสามารถฝ่าแนวแม็กนิโตสเฟียหรือสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งห่อหุ้มบรรยากาศโลกเข้ามาได้ เมื่อพายุจากฟ้าพุ่งผ่านเข้ามาสู่บรรยากาศโลกได้ มันจะพุ่งตัวเข้าอัดกระแทกกับพื้นโลกในทันที

    ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอันเป็นผลลัพธ์ของกระบวนการที่เกิดขึ้น จากการกระทำทางเทคนิคต่อดาวเคราะห์โลกจากนอกระบบโลก จะก่อให้เกิดพายุแม่เหล็กในอากาศอย่างรุนแรง ท้องฟ้าวิปริตแปรปรวน และพายุฝนฟ้าคะนองบดบังแสงอาทิตย์อยู่ยาวนาน คลื่นทะเลจะปั่นป่วน ภาวะน้ำท่วมใหญ่จะเกิดขึ้นไปทั่ว ขณะที่สายฟ้าผ่าจะอัดกระแทกมายังพื้นโลกนับครั้งไม่ถ้วน ทุกสิ่งที่ถูกอัดกระแทกมันจะพังทลายลงมากองกับพื้นดินชั่วพริบตาเดียว ไม่ละเว้นแม้แต่สิ่งที่มีชีวิตที่จะต้องล้มลงกับกองเถ้าถ่าน ของซากปรักหักพังเหล่านั้น ผู้ที่เคยสบถสาบานขอให้ฟ้าผ่าตาย แต่ไร้สัจจะพึงระวังตนให้ดี

    นอกจากนั้น ผลการกระทำทางเทคนิคจากนอกระบบโลก ยังจะก่อให้เกิดพายุแม่เหล็กในอากาศกลายเป็นพายุหมุนทอร์นาโดรูปกรวยยักษ์ พุ่งเข้ากระแทนพื้นโลกอย่างรุนแรงด้วยเช่นกัน มันจะกวาดชำระทุกสิ่งในเส้นทางการเคลื่อนตัวของมันให้กลายเป็นพื้นที่ราบ ตามอำนาจความรุนแรงของมันดังที่มนุษย์รู้กันอยู่ภายในชั่วพริบตาเดียว เหตุการณ์ร้ายแรงเหล่านี้ มันจะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ และถี่ขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีใครคาดเดาได้ล่วงหน้าว่ามันจะเกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ ผู้ไม่ประมาทและมีสติเท่านั้น จึงจะมีชีวิตรอดได้ ในท่ามกลางความเลวร้ายที่กล่าวมาแล้ว มนุษย์โลกไม่อาจหลีกเลี่ยงการกระทำทางเทคนิคของจักรวาล อันเป็นปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติที่กล่าวนี้ไปได้

    ดินแดนที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของนักรบแห่งแสงสว่าง ผู้ปฎิบัติตนอยู่ในความดีงามตามคำสอนของพระศาสดาแท้จริงเท่านั้น จะเป็นดินแดนปลอดภัยบนโลกใบนี้หลังจากที่โลกเกิดภาวะวิกฤตอย่างต่อเนื่อง จนถึงการชำระโลกครั้งสุดท้าย พื้นแผ่นดินเป้าหมายที่ถูกกำหนดไว้จะเป็นอาณาเขตแห่งหายะภัยที่มนุษย์โลกคาด ไม่ถึง ในวันเวลาที่ 11 นั้นวันเวลาดังกล่าว การกระทำทางเทคนิคจากนอกระบบโลกและการกระทำทางเทคนิคจากในระบบโลกเอง มันจะเกิดขึ้นพร้อมกัน คลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่ เหล็กความถี่สูงที่เป็นพลังเย็นในระดับ 7 จะถูกส่งผ่านเข้ามาพุ่งตรงเข้าหาเป้าหมาย มันจะก่อให้เกิดพายุความเย็นจัดอย่างรุนแรงครอบคลุมไปทั่วเป้าหมายนั้น ขั้วโลกเหนือและขั้นโลกใต้จะปั่นป่วนแนวแกนแม่เหล็กโลกในใจกลางโลก จะเกิดการบิดตัวอย่างรุนแรงขึ้นพร้อมกัน เพราะมันถูกกระตุ้นให้เกิดการระเบิดขึ้นบริเวณของไหลที่อยู่ด้านบน เพื่อเปลี่ยนทิศทางของแนวแกนไปสู่ตำแหน่งที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว

    มันจะทำให้แผ่นดินใหญ่ของทวีปซึ่งมีมหาสมุทรคั่นกลาง เกิดการบิดตัวอย่างรุนแรงตามไปด้วย ขณะที่โลกจะปลดปล่อยคลื่นพายุแม่เหล็กออกมาอย่างรุนแรง อันเกิดจากการระเบิดภายในนั้นโดยมันจะรวมตัวกันเป็นคลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่ เหล็กที่เข้มข้น ดันทะลุผ่านชั้นเปลือกโลกแต่ละชั้นขึ้นมายังพื้นผิวดิน ทำให้แต่ละชั้นของเปลือกโลกซึ่งกำลังบิดตัวอยู่จะถูกคลื่นพลังงานอันมหาศาล กระแทกอัดให้เกิดการสั่นสะเทือนที่รุนแรง ยิ่งกว่าแผ่นดินไหวครั้งใดๆ ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นมันจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จากในใจกลางโลกออกมาสู่พื้นผิวด้านบน โดยใช้ระยะเวลาของกระบวนการเพียง 9 นาทีเท่านั้น แต่การสั่นสะเทือนของแผ่นดินจะต่อเนื่องยาวนานร่วม 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว

    ผลที่ปรากฎคือ แผ่นดินบางส่วนของภาคพื้นทวีปจะแยกตัวออกจากกัน ตามรอยร้าวของเปลือกโลกแต่ดั้งเดิมน้ำทะเลจะถาโถมเข้ามาแทนที่ บริเวณที่ราบริมฝั่งทะเลของทวีปนั้นจะจมลงใต้น้ำ ขณะที่บริเวณบางแห่งของเมืองใหญ่ พื้นแผ่นดินจะยุบตัวจมหายลงไปเบี้องล่าง พร้อมวัตถุที่ปลูกสร้างฝุ่นฟุ้งเปลวไฟ หมอกควัน และเสียงกัมปนาทมันจะเกิดขึ้นอื้ออึง ภายในเวลาไม่นานนักความสงบเงียบจะเริ่มก่อตัวขึ้นหลังจากนั้น 3 วันเต็ม ทั้งหมดที่กล่าวไว้ไม่ใช่มายา.....ไม่ใช่มายา.... มันคือกระบวนการกระทำทางเทคนิคของจักรวาล เพื่อการชำระระบบโลกเป็นครั้งที่ 4 นับแต่มีมนุษย์ดำรงอยู่บนโลกใบนี้

    ที่มา:- หนังสือวันเวลาที่สิบเอ็ด รหัสแห่งหายะโลก ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากจิตจักรวาลโดย อ.ปริญญา ตันสกุล MBA.,M.S. PARINYA TANSAKUL MBA .,M.S
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2010
  19. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    <TABLE border=1 cellSpacing=0 borderColor=blue cellPadding=5 width=600 bgColor=white><TBODY><TR><TD bgColor=blue align=middle>Tropical Depression 07W # 01 : ประกาศเตือนภัย เรื่อง “ดีเปรสชันเขตร้อน 07W ” ฉบับที่ 1 </TD></TR><TR><TD>
    <TABLE border=0 width=590 align=center><TBODY><TR><TD>Tropical Depression 07W # 01 : ประกาศเตือนภัย เรื่อง “ดีเปรสชันเขตร้อน 07W ” ฉบับที่ 1
    ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น ฮาวาย, สหรัฐฯ (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
    สภาวะโดยทั่วไปของพายุหมุนเขตร้อนเมื่อเวลา 13.00น.
    ประจำวันที่ 27 สิงหาคม 2553 ออกประกาศเวลา 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

    ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ ทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย วันที่ 27 สิงหาคม 2553 / 15.32 น. ปรากฎพายุหมุนเขตร้อน 1 ลูก / หย่อมความกดอากาศต่ำ 2 ลูก
    1)Tropical Depression 07W(15.0N 117.4E,25kts) : เมื่อเวลา 13.00น.วันนี้(27ส.ค.2553) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง 91W ซึ่งมีศูนย์กลางปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนบน ล่าสุดได้พัฒนาเป็น ดีเปรสชันเขตร้อน 07W แล้ว อยู่ที่ละติจูด 15.0องศาเหนือ ลองจิจูด 117.4 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันตกจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปินส์ ห่ างประมาณ 371 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 6 นอต(20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 25 นอต(46 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 35นอต(65กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 1004 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 2 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา... / คาด ดีเปรสชันเขตร้อน 07W จะยังคงมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือโดยส่วนใหญ่ต่อไปอีก 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า และจะเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือมาขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าพายุนี้มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศจีนตอนใต้ หรือเกาะไต้หวัน หรือเกาะไหหนาน (ตามลำดับ) ในช่วง 31 ส.ค.53-02 ก.ย.53 นี้ ….. : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

    2)Tropical Dsiturbance 99W (24.2N 129.4E,15-20kts) : เมื่อเวลา 13.00น.วันนี้(27ส.ค.2553) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรง 99W มีศูนย์กลางปกคลุมทะเลแปซิฟิคทางด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน อยู่ที่ละติจูด 24.2องศาเหนือ ลองจิจูด 129.4 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากเกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ห่ างประมาณ - กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกด้วยความเร็ว 4 นอต(7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 15-20 นอต(28-37 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 25-30นอต(46-56กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 1005 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ - เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา... / คาด หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรง 99W จะยังคงมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกค่อนทางเหนือโดยส่วนใหญ่ต่อไปอีก 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนใน 24-48 ชั่วโมงนี้ ….. : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

    3)Tropical Dsiturbance 98W (9.0N 142.0E,10-15kts) : เมื่อเวลา 13.00น.วันนี้(27ส.ค.2553) หย่อมความกดอากาศต่ำ 98W มีศูนย์กลางปกคลุมทะเลแปซิฟิคทางด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ อยู่ที่ละติจูด 9.0องศาเหนือ ลองจิจูด 142.0 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปินส์ ห่ างประมาณ - กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 8 นอต(15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 10-15 นอต(19-28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 20-25นอต(37-46กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 1010 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ - เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา... / คาด หย่อมความกดอากาศต่ำ 98W จะยังคงมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกโดยส่วนใหญ่ต่อไปอีก 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า ยังไม่มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนใน 24-48 ชั่วโมงนี้ ….. : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

    <เพิ่มเติม/ความเห็น> พายุทั้งหมดไม่มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย / สำหรับวงสีเขียวคือบริเวณที่มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอนาคต (ถ้ามี)
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    [​IMG]

    ขอตอบแบบรวมๆเลยแล้วกันว่า การสวมแว่นตาตั้งแต่เด็ก จะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น (ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังนิยมทำกันอยู่) อาการสายตาผิดปรกติก็จะคงอยู่ตลอดไป เพราะไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด... ลองอ่านข้อมูลต่อไปนี้ดูนะครับ เพราะมีคนทำตามแล้วหายจากสายตาสั้นได้จริงๆ ดังนี้ครับ

    วิธีง่ายๆที่จะช่วยบำบัดอาการสายตาสั้น สิ่งที่ต้องทำเป็นนิสัย.. สวมแว่นสายตาเมื่อจำเป็นเท่านั้น พยายามอย่าสวมแว่นเมื่อไรก็ตามเท่าที่ทำได้ เพราะมันจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อตา และระบบประสาทรอบดวงตาของคุณ รู้สึกผ่อนคลาย

    วิธีอ่านหนังสืออย่างถูกต้อง เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณต้องอ่านหนังสือ ต้องถอดแว่นออกทุกครั้ง แล้วพยายามอ่านหนังสือโดยที่ พยายามให้ตาทั้งสองข้างอยู่ห่างจากหนังสือมากที่สุด แต่ต้องเป็นระยะที่สามารถอ่านตัวหนังสือได้อย่างชัดเจน หากทำจนเป็นนิสัยแล้ว คุณจะรู้สึกว่า คุณจะค่อยๆ สามารถอ่านหนังสือได้ห่างมาก ขึ้นไปเรื่อยๆ (สำหรับที่คนสายตาสั้นไม่เท่ากัน ระยะห่างที่ชัดเจนของตาแต่ละข้างนั้น ค่อนข้างจะแตกต่างกัน ดังนั้นเวลาอ่านหนังสือ ให้ใช้มือข้างใดก็ได้ปิดตาข้างหนึ่งไว้ แล้วค่อยๆ อ่านด้วยตาทีละข้างสลับกันไป แต่ถ้าสายตาทั้งสองข้างต่างกันแค่นิดเดียว อ่านพร้อมกันทั้งสองข้างเลยก็ไม่เป็นไร)
    กระพริบตาให้บ่อย การฝึกกระพริบตาให้บ่อย (ประมาณ 1 ครั้ง ต่อ 10 วินาที) จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อตารู้สึกผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียด

    วิธีบำบัดที่ต้องทำเป็นประจำ (ต้องทำทุกวิธี)

    การบริหารกล้ามเนื้อดวงตา ให้ชำเลืองตาขึ้นไปข้างบน ค้างไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วชำเลืองตาลงข้างล่าง ค้างไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วชำเลืองตาไปทางซ้าย ค้างไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วชำเลืองตาไปทางขวา ค้างไว้ประมาณ 5 วินาที เสร็จแล้วพักตาสักพัก แล้วเริ่มทำใหม่ไปอีกเรื่อยๆ วันละ 10 นาที
    การบำบัดด้วยน้ำเย็น เมื่อล้างหน้าเสร็จ ก่อนจะอาบน้ำ ให้เตรียมน้ำเย็น (ไม่ใช่น้ำอุ่น) ใส่กาละมังเล็กๆ ไว้ ก้มหน้าลงไปเล็กน้อย ทำมือทั้งสองให้เป็นรูปถ้วย แล้วกวักน้ำให้เต็ม ให้มืออยู่ห่างจากดวงตาประมาณ 6 เซนติเมตร หลับตาลง แล้วค่อยๆ สาดน้ำมากระทบเปลือกตาเบาๆ น้ำเย็นจะช่วยให้กล้ามเนื้อรอบดวงตารู้ผ่อนคลายได้มา กขึ้น (ให้ทำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 10 นาที

    การบำบัดด้วยการสร้างมโนภาพ ให้หาหนังสืออะไรก็ได้มา 1 เล่ม เปิดหน้าไหนก็ได้ที่มีตัวหนังสือ ถอดแว่นออก แล้วเลือกคำอะไรก็ได้ 1 คำจากหน้านั้น จำรูปร่าง ของคำนั้นไว้ให้ดี ยื่นหนังสือออกไปให้ไกล ในระยะที่คุณมองเห็นไม่ชัดและเบลอ แล้วหลับตาลง นึกภาพในใจให้รู้สึกว่าคุณเห็นคำนั้นได้อย่างชัดเจน การทำเช่นนี้ จะช่วยให้กล้ามเนื้อตาค่อยๆ ปรับโฟกัส ให้ดีขึ้นได้อย่างอัตโนมัติ (ให้ทำทุกวัน วันละประมาณ 10 นาที)

    การบำบัดด้วยอุ้งมือ ก่อนนอน ให้นั่งลงบนเก้าอี้ที่นั่งสบายๆ หลับตาลง แล้วใช้อุ้งมือซ้ายปิดตาซ้ายเบาๆ และใช้อุ้งมือขวาปิดตาขวาเบาๆ จะช่วยทำให้ไม่มี แสงเล็ดลอด เข้าสู่ตาได้ ความมืดมิดที่เห็น จะทำให้ดวงตารู้สึกสบายกว่าปกติ (ให้ทำทุกวันก่อนนอน วันละอย่างต่ำ 45 นาที)

    โดยคุณ ผิงๆ วันที่: 19 มิถุนายน 2553 / 15:00

    สั้น ประมาณ 300 อยากให้มันสั้นคงที่ทำไงดี กลุ้มมากๆๆ กลัวว่าจะสั้นขึ้นไปอีก

    โดยคุณ patty วันที่: 7 กรกฎาคม 2553 / 20:30

    ทำตามที่คุณ ผิงๆ บอกอ่ะค่ะ ถ้าไม่หายก็ต้องน้อยลงบ้างล่ะค่ะ เพราะเราก็ลองมาแล้วเหมือนกัน เมื่อก่อนสั้นประมาณ 125 กับ 100 ตอนนี้เหลือ 100 กับ 75

    โดยคุณ HongoKanata วันที่: 11 กรกฎาคม 2553 / 23:16

    ที่มา http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1545937

    วิธีทำให้หายสายตาสั้น(แบบธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด)

    ไปอ่านเจอมาในพันติ๊บ นานแล้ว คนที่แนะนำคือคุณ tansy จำกระทู้ไม่ได้มันนานมาก แต่จำได้แต่วิธีทำว่าทำอย่างไรถึงจะหายสายตาสั้น คือคุณ tansy เนี่ย แกเคยสายตาสั้นมาก่อน แล้วแกก็ค้นพบวิธี (โหดๆ) ที่ทำให้คุณ tansy หายสายตาสั้นได้ โดยไม่ต้องไปทำ Lasik ให้เสียตังค์ ลองมาดูกันนะ

    คุณ tansy บอกว่า (ต่อจากนี้จะเป็นข้อเขียนของคุณ tansy ทั้งหมดนะก๊ะ)

    สายตาคน มันจะสั้นหรือจะยาว มันขึ้นอยู่กับ shape ของ eyeballs เมื่อมันเปลี่ยน shape ไป มันจะเปลี่ยน focal length ไป ความสั้นความยาวของสายตาก็จะปรับเปลี่ยนไป

    การที่ eyeballs จะเปลี่ยน shape ได้นั้น ทำได้ด้วยวิธีการแบบธรรมชาติบำบัดคือ

    1. ควบคุมอาหาร
    2. ใช้ acupuncture (การรักษาโดยแทงเข็ม)
    3. ใช้ acupressure (การรักษาโดยนวดกดจุดบริเวณรอบๆตา หัว และคอ)

    เรารักษาด้วยวิธีที่ 1. นั่นก็คือ ฝึก Macrobiotics (แม็กโครไบโอติก) เคร่งๆ การหยุดกินน้ำตาลกับผงชูรส หยุดกินข้าวขาว (แล้วเปลี่ยนไปกินข้าวกล้อง) และฝึกเดินลมปราณ มันช่วยเปลี่ยน eyeball shape ได้จริงๆ

    สภาพสายตาของเราขณะนี้ปกติดีมากๆ (เพราะว่าเราไม่ได้กินน้ำตาลมา 20ปีแล้ว) แต่ถ้าวันไหนเราเกิดอุตริ อยากกินน้ำตาล แล้วไปกินของหวานเข้า พอกินไป ตาเราจะพร่ามองไม่เห็นไปหลายวัน เมื่อซวยกินน้ำตาลเข้าไปแล้วตาพร่ามองไม่เห็น

    วิธีแก้ให้เร็วที่สุด แก้ได้โดยการกินอาหารแบบที่ชาวแม็กโครไบออติกเรียกว่า diet No.7 นั่นก็คือกินแต่ธัญพืช(ที่มีรำข้าว) ล้วนๆ แล้วไม่กินน้ำเลยเป็นเวลา 2-3 วัน แล้ว (นี่เป็นสูตรลับในการขับสารพิษออกจากร่างโดยเร็วที่สุด) มันจะขับสารพิษของน้ำตาลออกจากร่างได้อย่างรวดเร็ว จนตาเรามองเห็นชัดเจนอีกภายในเวลาประมาณ 1 วันครึ่ง ...แต่ถ้าไม่ใช้ diet No.7 แต่กินอาหารแม็คโครไบออติกแบบ อาหารสุขภาพปลอดสารพิษโดยทั่วๆไป เราอาจใช้เวลานานถึง 7 วันกว่าจะขับพิษของน้ำตาลออกไปจากร่างจนตาหายพร่า แล้วมองเห็นได้ชัดเจน

    แฟนเราสายตาสั้นมากๆ แว่นเล็นซ์พิเศษเลยอ้ะ เราพยายามจะรักษาเธอด้วย Macrobiotics แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ นั่นก็เพราะว่า

    "เธอโปรดปราน Coke (มันมีน้ำตาลและสารพิษอย่างอื่น) กับขนมหวาน...เป็นชีวิตจิตใจ...555+++...."

    เราเลยสอนเธอทำ acupressure แทน แต่รู้สึกว่าเธอไม่ค่อยจะขยันฝึกมากเท่าไหร่นะก้อเลยยังสายตาสั้นอยู่

    ที่โรงเรียนในประเทศจีน ครูสอนนักเรียนที่สายตาสั้น ให้รู้วิธีทำ acupressure ผลปรากฎว่า นักเรียนเกือบทุกคนที่เคยใช้แว่น โยนแว่นทิ้งกันหมด เพราะว่าแก้ไขสายตาได้จริงๆ เราอ่านเจอข้อมูลนี้ในหนังสือเรื่อง Sports of China (ไม่แน่ใจว่าสะกดถูก) เมื่อประมาณ 20 กว่าปีมาแล้ว

    ส่วนเรื่อง acupuncture (การแทงเข็ม) นั้น เรื่องมันตลก คือว่าเพื่อนเราคนหนึ่งเขาตาเข มาตั้งแต่เด็กๆ โดนเพื่อนๆล้อมาตั้งแต่เด็กๆ ครั้นเมื่ออายุประมาณ 30 กว่าๆ เขาไปผ่าตัด ให้หมอที่อังกฤษผ่าให้ตาหายเข (ตอนนั้นทั้งเขาและเราอยู่ในอังกฤษ) พอกลับบ้านมา เพื่อนเราได้รับผลข้างเคียงที่รุนแรงมากๆ ตาแสบบวมไปหลายอาทิตย์ (ต้องกินยา) กว่าจะหาย

    แล้วอยู่มาวันหนึ่งพวกเราดูรายการ BBC เขาไปถ่ายสารคดีที่จีนมา แพทย์จีนสาธิตว่าเข็มมันทำอะไรได้บ้าง หมอเอาเข็มแทงไปตามจุดต่างๆบนหัวของคนไข้ พอแทงจุดหนึ่งตาคนไข้เขไปทางหนึ่ง พอแทงอีกจุดตาก็เขไปอีกทางหนึ่ง

    เพื่อนเราส่ายหัว แล้วพูดว่า "โธ่เอ๊ย ทำไมมันง่ายยังงี้ฟระ รู้งี้กรูไม่ไปผ่าตัดหรอก แสบตาจะตายห่ะ ทรมานอยู่ตั้งหลายอาทิตย์"

    /me โดยส่วนตัว เราสนใจเรื่อง acupressure แต่คุณ tansy ไม่ได้บอกว่ามันคืออะไร คงต้องไปหาเอง เพราะคนอย่างข้าเจ้า ให้งดหวาน ขอตายดีกว่า ซิก ซิก

    posted on 02 Feb 2008 18:59 by augusthalem

    ที่มา http://augusthalem.exteen.com/20080202/entry
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ปกสายตา.jpg
      ปกสายตา.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.1 KB
      เปิดดู:
      868
    • 48-49.jpg
      48-49.jpg
      ขนาดไฟล์:
      127.8 KB
      เปิดดู:
      72
    • 50-51.jpg
      50-51.jpg
      ขนาดไฟล์:
      188.9 KB
      เปิดดู:
      73
    • 52-53.jpg
      52-53.jpg
      ขนาดไฟล์:
      165.4 KB
      เปิดดู:
      67
    • 54-55.jpg
      54-55.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.5 KB
      เปิดดู:
      91
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...