ปิดรับบริจาค วัดบึงช้าง อ.บางกระทุ่ม พิษณุโลก ปี 4 ย่างปี 5 เครื่องกรองน้ำ U.F.

ยังเปิดรับบริจาคเพื่อจัดซื้อแท๊งก์น้ำสแตนเลสขนาดตั้งแต่ 2,000 ลิตรสัก 1-2 แท๊งก์ให้วัดบึงช้างครับ ราคาในตลาดน่าจะใบละประมาณ 15,000.- บาทครับ

เครื่องกรองน้ำขนาดครอบครัวสำหรับวัดบึงช้างนี้ ผมคาดว่าเราได้เงินบริจาคมาแล้วประมาณ 4,500.- บาท น่าจะพอสำหรับเครื่องกรองครับ

 

งั้นก็เหลือแท๊งค์น้ำ2ลูก ลูกละ 15000 บาท = 30000 บาท + ค่าขนส่งคงไม่มาก มาช่วยเหลือพระให้มีน้ำอุปโภคบริโภคกันดีกว่าครับ

 

โมทนากับผู้ร่วมบุญทุกท่านด้วยครับ

 

วันนี้ได้กราบเรียนสายโทรศัพท์กับพระอาจารย์มุกดา เจ้าอาวาสวัดบึงช้าง เท่าที่ได้กราบเรียนปรึกษากัน น้ำที่ดูดมาเป็นประปาชุมชนเป็นน้ำบาดาลความลึกแค่ 50 เมตร และเมื่อคนทำน้ำประปาชุมชนเจาะลงไปใต้ดินแล้ว ได้น้ำแล้วก็ถึงว่าสำเร็จแล้ว เพียงแต่คุณภาพน้ำที่ได้มานั้น มีสีแดงเหลืองมาก น่าจะเป็นสนิมเหล็ก ปนกับดินโคลน เพราะฉะนั้น แท๊งก์น้ำสแตนเลสขนาดประมาณ 2,000 ลิตรสัก 1-2 ใบ น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในการทำให้ตกตะกอน

ส่วนเครื่องกรองน้ำขณะนี้เราได้ปัจจัย 4,700.- บาทแล้ว

ยังขาดแค่แท๊งก์น้ำสแตนเลส หากได้ลูกนึงก่อนก็ยังดีครับ เอาแค่ 1,500 ลิตรก็ยังดี ลูกนึงก็ตกประมาณ 1 หมื่นบาทเศษครับ

 

ขออนุโมทนา กับทุกท่าน ที่ช่วยเป็นธุระดูแลวัดบึงช้าง ให้กับพระอธิการมุกดาหรือ หลวงพี่มุก ซึ่งเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติที่อาตมากราบได้อย่างสนิทใจ และเป็นวัดต้นกำเนิดของอาตมาเอง ทั้งพระอาจารย์บารมี และโยมสมบูรณ์ คือคนบุญที่น่าจะเป็นความหวังของวัดบึงช้าง วัดเล็กๆ ที่เคยร้างมาก่อน และมีประชากรน้อย แต่เป็นวัดที่มัครูบาอาจารย์ พระที่ธุดงค์สัญจร ไป-มา เกจิอาจารย์หลายๆท่านที่แวะมาหาความวิเวก ที่นี่ จริงๆแล้ว หลวงพี่มุกนั้น เป็นพระผู้ไม่ยึดติด ไม่ยึดมั่นถือมั่น อาตมาทราบดี เพราะ ท่านคือผู้ให้ธรรมมะกับอาตมาเป็นท่านแรก ต่อจาก ท่านพระเดชพระคุณหลวงปู่พยุง หรือพระครูญาณประภัศร์ หากไม่ได้พบเจอท่านที่วัดบึงช้างนี้แล้ว ธรรมทั้งหลายที่อาตมาเพียรตามรู้ และศึกษาในตอนนี้คงยังมิบังเกิด และท่านยังเป็นพระผู้เปรียบเสมือน บิดาทางธรรมหรือทางการบวชของพระสงฆ์อีกหลายๆรูป และยังมีพระเณรที่ท่านอุปการะ อีกมากมาย อาทิพระมหาอนนท์ ฐานวีโร วัดใหญ่ (วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร)พระอารามหลวง ก็คือ ศิษย์แท้ๆของท่าน ซึ่งอาตมาพระธานินทร์ โชติโก ซึ่งตอนนี้มีภาระด้านอื่นในการสร้างคนหรือช่วยเหลือกุลบุตรผู้มีความประสงค์จะบรรพชาและด้านอื่นๆซึ่งต้องตอบแทนและเป็นภาระให้ครูบาอาจารย์หลายๆท่านที่กำลังต้องการการสนับสนุน จึงทำให้อาตมาไม่สามารถจะดูแลช่วยเหลือตรงนี้ได้ดังที่เคยทำมา และรับรู้ว่า พระอาจารย์บารมี โยมสมบูรณ์ เป็นผู้ที่ทำงานด้านนี้ด้วยใจมั่น ขออนุโมทนาและยินดี ในการที่ท่านจะช่วยเหลือ วัดบึงช้างที่ขาดแคลนจริงๆ (หากที่ดีพัฒนาด้านต่างๆ ไปได้แล้ว จะมีประโยชน์แก่พระสงฆ์ สามเณร และชุมชนอ่างมาก) ขอให้ท่านจงช่วยพัฒนาด้าน เสนาสนะ และอุปกรณ์จำเป็นของทางวัด เพื่อพระที่น่ากราบ และน่าเครารพ เช่น หลวงพี่มุก หรือท่านพระอธิการมุกดา ฉันทธัมโม ให้สำเร็จเสร็จสมตามความอันควรด้วยเทอญ................ขออนุโมทนา

 

สักครู่อาตมาจะนำภาพ น้ำ ก๊อกน้ำ ห้องน้ำ และบรรยากาศรวมๆส่งให้เพิ่มเติมทาง อีเมลของคุณโยมสมบูรณ์ หรืออาจโพสมาส่งในกระทู้

 

ขอกราบขอบพระคุณพระธานินท์ครับที่ช่วยส่งรูปวัดบึงช้างให้
ภาพเกี่ยวกับวัดบึงช้างครับ

 

โอ้ ! แม่เจ้า นี่หรือคือน้ำประปาชุมชน

อาการหนักกว่าที่คิดเยอะเลยครับ

 

น้ำในถังน้ำนั้น แสดงให้เห็นชัดเจนว่า มีดินโคลนอย่างหนักปะปนมากับน้ำประปาชุมชน

วิธีที่คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย คือการใช้แท๊งก์น้ำสแตนเลสอย่างน้อย 1 ถัง ขนาดใบละไม่ต่ำกว่าถังละ 1,000 ลิตร เพราะเมื่อดินโคลนตกตะกอน เมื่อถ่ายเอาดินโคลนที่ตกตะกอนออกทางรูก้นแท๊งก์แล้ว เราอาจเหลือน้ำไว้ใช้ไม่เกิน 500 ลิตร เพราะฉะนั้นถังใหญ่ไว้จะได้เปรียบ เช่น ขนาด 2,000 ลิตรขึ้นไป

 

สภาพพื้นกระเบื้องห้องน้ำที่ถูกราดโดยน้ำประปาชุมชน จะมีคราบดินโคลนและสนิมเหล็กในน้ำอย่างมาก

 

ถ้าเป็นทุกท่านจะใช้หรือดื่มน้ำแบบนี้หรือไม่ครับ ควรอย่างยิ่งที่จะช่วยกันช่วยเหลือวัดและพระสงฆ์กันนะครับ

 

****************************************

จริงอย่างที่คุณหมอศุภชัยพูดครับ อย่าว่าแต่เอามาดื่มเลย เอามาอาบ หรือมาชำระล้างร่างกาย ผมคิดว่า ไม่มีใครกล้าใช้ครับ

พระไทยทำไมถึงอึด

ด้วยอานิสงส์ที่จะได้ทำให้พระทั้งวัดและแม่ชีรวมทั้งคนได้ใช้น้ำสะอาดนี้ ขอให้ตราบใดยังไม่เข้าพระนิพพาน ขอให้จงอึด สีทนได้ ข้าพเจ้าจงอึดอย่างสบาย ๆ

เออ เอาใหม่ ขอให้คำว่า สกปรก อย่าได้พบได้เจอ

 

เห็นภาพแบบนี้แล้วคงต้องช่วยกันคนละไม้ละมือแล้วล่ะครับ

 

เมื่อวานได้กราบเรียนสายกับพระอาจารย์มุกดา เกี่ยวกับเรื่องน้ำดื่ม พระอาจารย์บอกว่า น้ำที่ใช้ดื่มนั้น ไม่ได้ใช้น้ำประปาชุมชนที่เห็นในภาพ ทางวัดได้ใช้ภาชนะ ( กำลังรอภาพถ่าย ) ยังไม่ทราบว่าภาชนะอะไร นำภาชนะนั้นไปรองน้ำฝนไว้ดื่มทั้งปี แต่น้ำที่รองมาได้นั้น จะกลายเป็นสีเขียวภายในไม่กี่สัปดาห์หลังหน้าฝน และอีกประมาณ 10 เดือนที่เหลือล่ะ ก็จำเป็นต้องใช้น้ำจากภาชนะนั้นนั่นแหละ ใช้ดื่ม จะล้างภาชนะก็ไม่ได้เพราะจะไม่มีน้ำใหม่มาเติม ดังนั้น การดื่มน้ำจากภาชนะไปตลอด 10 เดือนต่อปี เป็นเรื่องเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บมากเพียงใด ก็ขอให้ได้โปรดพิจารณาครับ

 

ส่วนน้ำประปาชุมชนที่เป็นสีแดงนั้น พระอาจารย์ยอมรับตรง ๆ ว่า ไม่ทราบว่ามีอะไรเจือปนอยู่บ้าง แต่ที่แน่ ๆ คือ โคลนแดง ซึ่งมีจำนวนมากมายมหาศาล ส่วนจะมีสนิมเหล็กหรือไม่ พระอาจารย์ไม่ทราบ และพระอาจารย์บอกว่า บางฤดูสีแดงโคลนก็จางกว่าในภาพหน่อย บางฤดูแรงกว่านั้น เอาไว้ใช้สรงน้ำ ( อาบน้ำ ) และใช้ในห้องน้ำ ส่วนน้ำที่ใช้ล้างถ้วย จาน ชามนั้น มีตุ่มน้ำที่ใส่น้ำนี้ ใช้วิธีแกว่งสารส้มให้ตกตะกอน แล้วใช้เฉพาะส่วนบน ๆ ครับ

 

โมทนากับพระคุณเจ้าด้วยครับที่ส่งรูปมาให้ได้เห็นสภาพของวัดที่แท้จริง

 

ยังเปิดรับบริจาคเพื่อจัดซื้อแท๊งก์น้ำสแตนเลสขนาดตั้งแต่ 2,000 ลิตรสัก 1-2 แท๊งก์ให้วัดบึงช้างครับ ราคาในตลาดน่าจะใบละประมาณ 15,000.- บาทครับ

เครื่องกรองน้ำขนาดครอบครัวสำหรับวัดบึงช้างนี้ ผมคาดว่าเราได้เงินบริจาคมาแล้วประมาณ 4,500.- บาท น่าจะพอสำหรับเครื่องกรองครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ผมมาคำนึงถึงเครื่องกรองน้ำของวัดบึงช้างแล้ว ทำให้นึกว่า หากเราไม่สามารถทำให้ได้น้ำที่สะอาดมากรอง เครื่องกรองก็จะไม่มีประโยชน์โดยสิ้นเชิง เพราะฉะนั้นในขั้นแรก เราควรหาแท๊งก์น้ำสแตนเลสขนาดสักประมาณ 1,000 ลิตรให้ได้ก่อน อย่างน้อยแท๊งก์น้ำตัวนี้จะทำให้ได้น้ำสะอาดในระดับหนึ่งด้วยการแกว่งสารส้มให้สกปรกตกตะกอน

นี่คือก้าวแรกที่จะทำให้เราได้น้ำสะอาดมาดื่มมาใช้ก่อน แล้วต่อไปค่อยคิดถึงเครื่องกรองน้ำดื่มขนาดครอบครัวจะดีกว่า

 

เช้านี้ได้กราบเรียนสายโทรศัพท์กับพระอาจารย์มุกดา ปรึกษาเกี่ยวกับแท๊งก์น้ำสแตนเลสที่จะมาแกว่งสารส้มให้สกปรกตกตะกอน พระอาจารย์มุกดาบอกว่า ทางวัดมีถังปูนอยู่แล้ว หากใช้ถังปูนแกว่งสารส้มให้สกปรกตกตะกอน แล้วสูบน้ำจากถังปูนมาเก็บไว้ที่แท๊งก์น้ำสแตนเลสน่าจะดีกว่า จากนั้นจึงสูบน้ำจากแท๊งก์น้ำสแตนเลสไปกรองทำน้ำดื่ม ส่วนน้ำใช้ก็ไม่จำเป็นต้องกรองแล้ว

ผมเห็นด้วยทันที เพราะพระอาจารย์มุกดาพูดออกมาจากความเข้าใจที่ถูกต้อง คือเมื่อสูบเอาน้ำดีไปเก็บแท๊งก์สแตนเลสย่อมดีกว่าไปเก็บในถังปูน แต่ถ้าได้แท๊งก์น้ำสแตนเลสสัก 2 ลูกยิ่งดีใหญ่ เพราะจะได้แท๊งก์น้ำสแตนเลสมาทั้งเป็นที่แกว่งสารส้ม และเป็นที่เก็บน้ำที่ดีแล้ว

 

ซื้อหนังสือเพื่อการกุศลครับ เพื่อกระทู้นี้ร่วมบุญได้ที่บัญชีนี้ครับ

ธ. กรุงเทพฯ สาขา เดอะ คริสตัล
เลขบัญชีออมทรัพย์ 906-x-xxxxxx
ชื่อบัญชี นายสมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล