คุณยังเป็นแบบนี้อีกหรือเปล่า

เมื่อปฏิบัติมารักษาศีล และภาวนายังมีแบบนี้เหลือเยอะไหม
1. อยากมีบ้านหลังใหญ่ๆ งามๆอยู่ไหม
2. อยากมีรถคันงามๆ รุ่นใหม่ๆ อีกไหม หรือมีอยู่แล้วก็อยากเปลี่ยน
เวลาขับไป โอ้ รถทุกคันงามหมด ยกเว้นคันเดียวเอง
3.โห เสื้อผ้าโบราณมาก ต้องไปซื้อใหม่แล้ว ทั่งที่ของเก่าก็มีอยู่เต็มตู้
4.ไปทำบุญที่วัดบ่อยมาก แต่ไม่ยอมให้อาหารแมวอาหารแมว เวลาเขาเดินมาจ้องหน้า รำคาญไล่ตะเพิดอีก
5.สุนัขมาขี้หน้าบ้าน หงุดหงิดทั้งวัน
6.กลับจากวัดอารมณ์ดี เห็นลูกๆ นั่งเล่นเกมส์ด่าลูก แบบไม่ซ้ำคำ
7.ไม่เคยพูดคำหวานกับสามีภรรยาตัวเองเลย
8.งวดหน้าหวยจะออกอะไรเนี้ย ..
9. ช่วงนี้ดวงไม่ดีเลย ต้องไปตัดกรรมแล้วล่ะ
10.เวลารับศีล 5 แล้ว กลับมาเจอหน้าสามี สามีเกือบยกมือไหว้
11.เราเป็นคนดีนะ ใครเห็นไม่ตรงกับเรา นายเลวแล้วล่ะ
12.อยากสวดมนต์จัง เฮ้อ เดี่ยวๆ พรุ่งนี้ค่อยสวด แล้วกัน แต่ประโยคนี้พูดทุกวัน
13.วัดนี้ไม่น่าทำบุญเลย ไม่ทำดีกว่า
14.ชาตินี้จะเอานิพพานให้ได้นะ ..(พูดอย่างเดียว)
15.วันนี้เราจะนั่งสมาธิ ให้ได้สัก 30 นาที นั่งไป 5 นาที พอก่อนดีกว่า ละครมาแล้ว
16.อาหารไม่อร่อยเลยเธอ ไปทานข้าวนอกบ้านกัน
17.โทรตามสามีทุก 10 นาที โทรไปไม่รับสายอืม คุยกับใครอยู่เปล่านะ
18.งอลทุกเทศกาล
19.เวลาจะไปวัดตื่นแต่เช้า แต่เวลาไม่ไป 11 โมงยังง่วงอยู่เลย
20. ภรรยาเราน่าเบื่อมากๆ เยย เอาแต่จาย
21.พี่ยังไม่มีครอบครัวครับ แต่ตั้งมือถือแบบสั่น



หุหุ อันนี้เก็บรวบรวมมาได้ จากการสนทนา ก็ฮาดีนะ :'(
ลองมาดูว่า มีเราอยู่ในนี้หรือเปล่านะ
หากเรารู้ตัวเรา แบบไม่หลอกตัวเอง ก็ย่อมแก้ไขได้ง่าย
ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ฝึกตน

 

อยากมีบ้านหลังใหม่ให้เพียงพอกับบริวาร ก็น่าจะอยู่ในข้อที่1 หล่ะ นอกนั้น แน่นอนไม่มีค่ะ

 

16.อาหารไม่อร่อยเลยเธอ ไปทานข้าวนอกบ้านกัน เพราะนานๆ หลายสัปดาห์เจอแฟนที

19.เวลาจะไปวัดตื่นแต่เช้า แต่เวลาไม่ไป 11 โมงยังง่วงอยู่เลย ปกตินอนตีห้า ตื่นเที่ยง

 

ต่อ.....
22. อย่าเรียกฉันพี่นะ ฉันยังไม่แก่สักหน่อย - -*
23. ว้า ซักผ้าลืมใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม เดี่ยวไม่หอม
24. ทำผมสีอะไรดีนะ ดูซิ ผมสีขาวมันขึ้นมาอีกแระ
25. กริ๊ง....กดออดหน้าบ้าน คุณคราบ สนใจช่วยเหลือภัยน้ำท่วมไหม คราบ (แกล้งหลับดีกว่า
26. รถวิ่งผ่านวัด ไหว้ทุกวัน คนข้างมองหน้างง(เข้าไหว้อะไรนะ ไหว้พระพุทธเจ้า หรือไหว้สถานที่)
27.อยู่ข้างนอกพูดเพราะกับทุกคน ยกเว้นคนในบ้าน
28.พาแฟนไปร้านหรู พ่อแม่ นั่งตาดำๆ อยู่บ้าน(มีต้อกระจกด้วย)
29.จำวันเกิดแฟนได้ ลืมวันเกิดพ่อแม่ จำไม่ได้สักที
30.อย่าทำให้โกธรนะ ไม่งั้นฉันจะร้องไห้ให้ดู (แหะๆๆๆ)
..

 

7.ไม่เคยพูดคำหวานกับสามีภรรยาตัวเองเลย


เป็นอยู่นะ


6

 

ถ้าความจำเป็น ไม่เกี่ยวกับความอยากก็ถือว่าดีแล้วค่ะ

ก็สำหรับคนที่ทำอะไรผิดปกติเวลา ปกติของตัวเองอ่ะค่ะ ลองให้แฟนทำให้ทาน
หรือทำกับข้าวด้วยกันน่าสนุกดีนะคะ

อืม ถ้าจริงใจก็ok เหมือนกันเนอะ พี่เต้าเจี้ยว แต่ปิยะวาจา ก็เหมือนหยดน้ำในทะเลทราย นิดนุงแต่ชื่นใจ ทานข้าวหรือยังที่รัก ..

 

ข้อ ?? อยากมีที่สักห้าไร่ จะปลูกพืชเศรฐกิจพอเพียง จะอยู่อย่างพอเพียง อยากไปวัดก็ได้ไปวัด อยากไปทำบุญไหนก็ได้ไปทำ ไม่ต้องเป็นลูกน้อง ลูกจ้าอยู่ตาม บริษัท โรงงาน
ข้อ ??? ไม่อยากจะกินข้าวอีกแล้ว อยากอยู่ได้ด้วยธรรมปิติ

 

คุณยังเป็นแบบนี้อีกหรือเปล่า<!-- google_ad_section_end -->

<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
>>>คุณยังหลงไหลพวกดารา โดยเฉพาะดาราเกาหลีอยู่หรือเปล่า?
>>>คุณยังไม่พอใจในรูปแทนตัวavatar ยังเปลี่ยนมันอยู่หรือเปล่า?


อย่าโกรธนะหนูหลบภัย
ล้อเล่นนิดหน่อยเอง

 

อ้อ ก็ธรรมดาค่ะภาพน่ารักก็เกิดตัณหา เป็นเนอะ
ถามว่าพอใจไหม ที่เปลี่ยนบ่อยเพราะเปลี่ยนไปสภาพแวดล้อมอ่ะค่ะ
แต่ถ้าหลบภัยเอารูปตัวเองมาลง กลัวสิ่งแวดล้อมจะเปลี่ยนตามหลบภัย หุหุหุ
อ้อ รูปนี้พี่สาวบอก หน้าตาคล้ายๆ หลบภัยเยย หุหุหุ
หลบภัยชอบคนเก่งยกย่อง น้าบุญก็เก่ง ยืมรูปหน่อยจิจะเอามาลง
display ....ขันธ์มิใช่ของเรา ไม่มีตัวตนเนอะ ดังนั้นสรุป น้าบุญใจดีอยู่แล้ว
ชิมิ

 

27.อยู่ข้างนอกพูดเพราะกับทุกคน ยกเว้นคนในบ้าน

ก็ไม่ทุกครั้ง ออกแนวบ่นมากกว่า

***กำัลังพยายามไม่ทำแบบนี้

 

สำหรับท่านที่คิดว่ากรรมตัดได้ อาจตรงนี้สักนิด นะคะ

<CENTER>๓๗. มรรคตัดกรรมใดในอดีตชาติหรือ</CENTER>
ถาม มรรคจิตชื่อว่าอกาลิโก คือให้ผลทันที ไม่รอกาลเวลา มรรคนี้ไปตัดกรรมในอดีตชาติหรือไม่ ช่วยกรุณาอธิบายด้วย

ตอบ ในปัญหานี้ขอเรียนให้ทราบดังนี้ มรรคจิต ชื่อว่าอกาลิโก เพราะทำให้ผลคือผลจิตอันเป็นวิบาก เกิดขึ้นทันทีในเวลาที่มรรคจิตดับลง โดยไม่มีจิตอื่นมาเกิดคั่น
ส่วนที่ถามว่ามรรคตัดกรรมในอดีตชาติได้หรือไม่ ถ้าจะตอบรวมๆ กัน<WBR>ก็<WBR>ต้อง<WBR>บอก<WBR>ว่า มรรคตัดกรรมในอดีตไม่ได้ อย่างมรรคแรกคือโสดาปัตติมรรค เมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมตัดกรรมที่จะนำ<WBR>ให้<WBR>เกิด<WBR>ใน<WBR>อบาย<WBR>ได้<WBR>ทั้ง<WBR>หมด อนาคามิมรรคย่อมตัดกรรมที่จะ<WBR>นำ<WBR>ให้<WBR>เกิด<WBR>ใน<WBR>กาม<WBR>สุคติ<WBR>ภูมิ<WBR>ได้<WBR>หมด อรหัตตมรรคย่อมตัดกรรมที่จะนำให้เกิดในภพภูมิได้หมด
เป็นที่น่าสังเกตว่า มรรคแต่ละมรรคที่ตัดกรรมบางส่วนได้นั้น ตัดเฉพาะกรรมที่ทำหน้าที่ปฏิสนธิ คือนำเกิดในอบายเป็นต้นเท่านั้น ไม่ได้ตัดกรรมที่จะเกิดในปวัตติกาล คือไม่ได้ตัดกรรมที่จะให้ผลหลังจากที่เกิดมาแล้ว เพราะมิฉะนั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าก็คงไม่ต้องเสวยข้าวแดงสำหรับเลี้ยงม้า หรือท่านพระมหาโมคคัลลานะคงไม่ถูกโจรทุบตีจนร่างกายแหลกละเอียด ท่านพระสารีบุตรคงไม่ต้องอาพาธจนถ่ายเป็นโลหิตในเวลาใกล้จะปรินิพพานเป็นต้น แต่เมื่อพระอรหันต์ปรินิพพานแล้ว กรรมที่จะให้ผลทั้งในปฏิสนธิกาล และปวัตติกาลเป็นอันหมดโอกาสให้ผล คือไม่มีโอกาสให้ผลอีกเลย เพราะฉะนั้น พระอรหันต์ท่านปรินิพพานแล้ว ท่านจึงไม่เกิดอีก <CENTER>________________________________________</B></CENTER>
ที่มา อ้างอิง และแนะนำ :-
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๔
ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
พุทธาปทานชื่อปุพพกรรมปิโลติที่ ๑๐
ว่าด้วย บุพจริยาของพระองค์เองhttp://www.84000.org/tipitaka/book/v.php?B=32&A=7849&Z=7924</PRE>

 

น้ามีอยู่รูปหนึ่งถ่ายไว้นานแล้ว รูปนี้กะว่าจะเอาไว้ตอนสวด
พระอภิธรรม กุสลาธัมมา อกุสลาธัมมาฯ หนูหลบภัยอยากได้ให้ยืมก่อนก็ได้

 

น้องหลบภัยว่า สิ่งที่คุณแดงแกทำมีความจำหรือครับ
น้องหลบภัยลองพิจารณาในแง่ของกฎอิทัปปัจจยตาดูสิครับ
อะไรคือความจำเป็น อะไรเป็นเหตุแห่งทุกข์
แล้วอะไรคือทุกข์ ลองกลับไปพิจารณาใหม่ครับ

 

น้าบุญคะ ขอบคุณที่ช่วยเตือนค่ะ
แต่หลบภัยพิจารณาดังนี้การที่มีบริวารมากขึ้น ก็ต้องมีการขยับขยาย
หลบภัยบอกว่าถ้าจำเป็นก็ไม่เป็นไร ค่ะ ความหนาแน่นทำให้เกิดทุกข์ทาง
กาย ทุกข์ทางใจ การอยากให้ครอบครัวสุขสบายกายและใจ
นั้นไม่เป็นเรื่องเสียหายอะไรค่ะ คนที่เข้าใจธรรมก็จะเข้าใจโลก
คนไม่เข้าใจโลก เพราะว่า คิดว่าคนอื่นต้องรู้และเข้าใจตามตน
ทุกคนสามารถละ ได้ไม่เท่ากัน แต่เราสามารถละ การกระทำของผู้อื่นได้มากแค่ไหน

 

แหม..แหม....
ก็ไม่รู้มีความจำเป็นหรือเปล่า
แต่ ถ้าขยับ ขยาย ได้ก็ปราถนาจะทำ เพราะทำด้วยอาชีพสุจริตค่ะ
ก็แค่อยากให้พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูกหลานมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากเดิมเองจ๊ะ
แต่ถ้า ไม่มีโอกาสก็อยู่อย่างเดิม ได้ไม่ได้ทุกข์อะไรมากมายหรอกค่ะ
เดี๋ยวจะยกกันไปใหญ่.....เนอะ

 

ถ้าเป็นพี่ขวัญพูด ที่รักคะ ที่รักขา
นี่คุณสามีคงตาเหลือก สำลักน้ำ แล้วรีบมาจับหัวว่ามีไข้ตัวร้อนสูงหรือเปล่า
กะอีกอย่าง อาจคิดไปได้ว่า พี่ขวัญโดนผีที่ไหนมาสิง อ๊ะป่าว
แบบว่ามันไม่ใช่ธรรมชาติปกติ ของเธอว์ไง (ถ้าแว๊ดๆ พูดไม่มีหางเสียง อะ ตัวจริงเสียงจริงของยัยแม่มด)

อิอิ

 

ผมเข้าใจคำ บริวาร ไปว่าหมายถึงลูกน้องลูกจ้างที่ช่วยประกอบอาชีพเสียนี่
แล้วเห็นเอยว่ามีความจำเป็น
ซึ่งดูตามเหตุว่ามีลูกน้องมาก ก็ต้องขยับขยายที่อยู่ให้ใหญ่ขึ้น
ถ้าดูแค่นี้ก็ต้องกล่าวว่าจำเป็น แต่มันไม่ใช่เหตุที่แท้จริงครับ

ถ้ากล่าวในทางธรรมแล้วมันไม่ใช่ ลูกน้องมากไม่มีที่อยู่ตัวเจ้านายก็เป็น
ทุกข์ ผมถึงบอกให้ดูถึงหลักอิทัปปัจจยตา ถ้าดูดังนี้ก็จะเห็นว่า...
ที่อยู่คับแคบ ก็เพราะคนมากลูกน้องเยอะ
ลูกน้องเยอะ ก็เพราะเราจ้างเพิ่มขึ้นจากเดิม
จ้างเพิ่มขึ้น ก็เพราะเราสร้างงานเพิ่มขึ้น
เราสร้างงานเพิ่มขึ้น ก็เพราะ ต้องการเงินเพิ่ม
การต้องการเงินเพิ่มเขาเรียก ตัณหาความอยากไงครับ

ถ้าแก้หรือดับทุกข์ เราต้องดับที่เหตุ และเหตุต้องเป็นเหตุต้นตอ
นั้นคือดับตัณหา


ถ้าเป็นวงศาคณาญาติก็ไปเทียบเคียงเอาเองครับ
ผมว่ามันก็ไม่หนีกันไปไหนหรอก

 

ขออธิบายความหน่อยครับน้องหนูหลบภัย ที่ผมพูดผมก็พูดไปตามที่เว็บ
เขากำหนดไว้ครับ อย่างเช่นห้องนี้ เป็นห้องศาสนา อภิญญาและการปฏิบัติ

ผมว่าผมกระทำชนิดที่เรียกว่า ถูกกาละเทศะ ถูกสถานที่ พูดไปตามที่เขา
กำหนด เรื่องมันก็เป็นเรื่องแนวการปฏิบัติล้วนๆไม่ได้นอกลู่นอกทาง
ผมแน่ใจว่า ถูกที่แต่อาจไม่ถูกใจ อันนี้ก็ต้องขออโหสิครับ

ผมไม่ได้บังคับใครให้เข้าใจตามผม ผมเสียงดวงเอาครับเพื่อฟรุ๊ค
ใครดันดวงตาเห็นธรรมของผมเข้า ผมอาจไดอนิสงค์
การให้ธรรมะเป็นทานบ้างก็ได้

 

It's Your Right and Aren't you tired?

 

แหะๆ ยอมรับว่าข้อ 18 ยังมีอยู่บ้างค่ะ​