แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 15 พฤษภาคม 2010.

  1. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ชั่วโมงเซียน - เหรียญจบที่...ขอบ


    ขออนุญาตคัดลอกบทความมาเผยแพร่ จากหนังสือพิมพ์ คมชัดลึกครับ ขอบคุณครับ


    ชั่วโมงเซียน - เหรียญจบที่...ขอบ

    คมชัดลึก : การศึกษาเรื่องราวของพระเครื่อง ประเภทเหรียญพระพุทธ และเหรียญพระคณาจารย์รุ่นเก่าๆ นั้น มีค่านิยมสูงมาก การทำปลอม จึงพัฒนาวิธีการทำให้ใกล้เคียงกับของแท้ยิ่งขึ้น โดยวิธีการที่ง่าย และเป็นที่นิยมที่สุด คือ การนำเหรียญแท้ไปถอดพิมพ์ ซึ่งจะทำให้ได้เหรียญปลอมที่มีจุดตำหนิทั้งด้านหน้าและด้านหลังใกล้เคียงกับ ของจริงมาก อย่างไรก็ตาม ความคมชัดของตัวหนังสือ เส้นแตก รูเจาะหูเหรียญ ตลอดจนด้านข้างของเหรียญ ก็ยังเป็นจุดสำคัญ ที่สามารถใช้ในการพิจารณาความแตกต่างระหว่างเหรียญแท้และเหรียญปลอมได้อย่าง ชัดเจนที่สุด

    ในอดีตผู้สนใจศึกษาพระเครื่องประเภทเหรียญพระพุทธ และเหรียญพระคณาจารย์ หลายคนเลือกที่จะใช้วิธีการจดจำรายละเอียดที่สำคัญของตำหนิเหรียญทั้งหมด ซึ่งในพระเหรียญ ๑ เหรียญอาจจะมีจุดตำหนิให้จดจำมากถึง ๑๐ จุด นั่นหมายความว่า หากเราต้องเรียนรู้เหรียญ ๑๐๐ เหรียญ เราจะต้องจดจำตำหนิทั้งหมดถึง ๑,๐๐๐ จุด เลยทีเดียว

    ดังนั้น แทนที่จะใช้วิธีการจดจำตำหนิทั้งหมด ผมกลับมีเทคนิคที่ใช้ในการศึกษาเหรียญแต่ละเหรียญ ด้วยวิธีการที่ง่ายกว่านั้น นั่นก็คือ การศึกษาธรรมชาติของเหรียญ โดยอาศัยหลักพื้นฐาน ๔ ประการ ได้แก่

    ๑.ความคมชัดของตัวหนังสือ หรืออักขระยันต์
    ๒.พื้นผิวของเหรียญที่เรียบตึง ไม่มีร่องรอยของการถอดพิมพ์ ไม่มีขี้กลาก
    ๓.การเจาะรูหูเหรียญ ต้องมีเนื้อปลิ้นเกินที่เป็นธรรมชาติ และ
    ๔.วิวัฒนาการของการตัดขอบเหรียญ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามเทคโนโลยีในแต่ละยุคสมัย

    ทั้ง ๔ ประการนี้ ถือเป็นจุดที่ใช้ในการพิจารณาเหรียญว่าแท้หรือปลอม ได้ชัดเจนยิ่งกว่าการจดจำตำหนิ

    ที่สำคัญ ยังสามารถนำไปใช้ในการพิจารณาได้ทุกเหรียญ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญในยุคสมัยใดก็ตาม เพราะถึงแม้ว่ากรรมวิธีการทำปลอมในปัจจุบันจะสามารถทำได้ใกล้เคียงกับของ จริงแค่ไหน แต่ธรรมชาติของการผลิตเหรียญแต่ละยุค ย่อมมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

    ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การซื้อ-ขายเหรียญในปัจจุบัน ผู้ชำนาญการจะใช้วิธีการพิจารณาด้านข้างของเหรียญเป็นบทสรุปว่า แท้หรือไม่

    เพราะ...ขอบด้านข้างของเหรียญเป็นสิ่งเดียวที่ยังไม่สามารถปลอมแปลงได้เหมือน

    เนื่องจากร่องรอยที่ด้านข้างของเหรียญนั้น คือ ร่องรอยที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ จากขั้นตอนการผลิตในแต่ละยุคสมัย

    อย่างไรก็ตาม การศึกษาเหรียญต่างๆ ตามข้อสังเกต ๔ ข้อข้างต้นนั้น จะต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อไปเช่าหาเหรียญมาศึกษา

    อีกทั้งเหรียญที่เป็นที่นิยมของวงการ ล้วนแล้วแต่เป็นเหรียญที่มีราคาแพง ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้านแทบทั้งสิ้น

    ปัญหาจุดนี้ จึงเสนอแนะแนวทางที่ประหยัดกว่า และน่าสนใจ สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาแต่มีทุนน้อย นั่นก็คือ ให้ใช้วิธีไปเช่าเหรียญเก่าที่วงการไม่นิยม และมีราคาไม่แพงแทน เพื่อนำมาศึกษาธรรมชาติของเหรียญที่เกิดจากวิวัฒนาการในการปั๊ม และการตัดขอบเหรียญ

    เพราะเหรียญที่ออกมาในยุคสมัยที่ใกล้เคียงกัน ย่อมจะมีขั้นตอนการผลิตที่คล้ายคลึงกัน อาจจะแตกต่างกันก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

    ทั้งนี้ เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษา ทำความเข้าใจ จึงจำแนกเหรียญต่างๆ ตามกรรมวิธีการปั๊มตัดข้างเหรียญ โดยแบ่งออกเป็นออก ๓ ยุคสำคัญ คือ

    ยุคที่ ๑.ประมาณ พ.ศ.๒๔๔๐-๒๔๘๕
    ยุคที่ ๒.ประมาณ พ.ศ.๒๔๘๖-๒๔๙๙ และ
    ยุคที่ ๓.ประมาณ พ.ศ.๒๕๐๐-ปัจจุบัน

    ๑. ช่วงปี พ.ศ.๒๔๔๐-๒๔๘๕ เป็นช่วงที่นิยมสร้างเหรียญลักษณะรูปทรงกลม รูปไข่ รูปทรงอาร์ม และทรงเสมา ซึ่งรูปทรงเหรียญทั้ง ๔ ชนิดนี้ สามารถแยกตามกรรมวิธีการสร้างได้เป็น ๒ ชนิด คือ เหรียญชนิดปั๊มข้างเลื่อย และเหรียญชนิดปั๊มข้างกระบอก

    โดยเหรียญชนิดปั๊มข้างเลื่อย ก็คือ การนำแผ่นโลหะที่มีขนาดใหญ่กว่าขนาดของเหรียญมาปั๊มให้ได้ตามลักษณะรูปทรง ที่ต้องการ จากนั้นจึงนำไปเลื่อยฉลุให้สวยงามออกมาเป็นเหรียญตามรูปทรงนั้นๆ

    ส่วนการปั๊มข้างกระบอก ก็คือ การนำแผ่นโลหะมาเลื่อยให้ได้ตามรูปทรงของเหรียญที่จะทำการปั๊ม เพื่อเข้ากระบอก และการปั๊มเหรียญนั้นๆ ดังนั้น ด้านข้างของเหรียญปั๊มชนิดนี้จึงมีความเรียบเนียน เนื่องจากการกดปั๊มโดยมีตัวกระบอกเป็นตัวบังคับ

    อย่างไรก็ตาม บางเหรียญอาจมีเส้นทิวบางๆ ในขอบข้างเหรียญ ซึ่งเกิดจากการแต่งขอบให้สวยงามก็ได้

    ๒.เหรียญชนิดปั๊มข้างตัด (ปั๊มตัดยุคเก่า) เป็นยุคที่เริ่มพัฒนากรรมวิธีการจัดสร้างเหรียญ ด้วยการนำเครื่องจักรที่ทันสมัยมากขึ้น มาใช้แทนกรรมวิธีแบบเก่า ที่ใช้การเข้ากระบอก และต้องเลื่อยขอบออก เพื่อตกแต่งในขั้นตอนสุดท้าย ด้านข้างของเหรียญจะมีลักษณะมนๆ ไม่ค่อยมีริ้วรอยมากนัก

    ๓. หรียญปั๊มตัดยุค พ.ศ.๒๕๐๐-ปัจจุบัน ในยุคนี้ได้มีการพัฒนาตัวตัดข้างเหรียญที่ทันสมัย เพื่อความสะดวกในการตัดขอบเหรียญในจำนวนมากๆ ตัวตัดยุคนี้จึงค่อนข้างคมชัด
     
  2. มะบอม

    มะบอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +5,352
    ไม่ใช่อย่างนั้นครับ คอมเม้นท์ภาษอังกฤษก็ได้ครับ ไม่ได้รกตาอะไรเลยครับ ผมเรียนเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้วครับ ^^ สู้ๆนะครับ
     
  3. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    [​IMG]

    อุโมงค์ข้อมืออักเสบ จากการเล่นคอมพิวเตอร์

    การที่มือเราใช้งานได้นั้น เกิดจากการที่มีกล้ามเนื้อจากแขนและเส้นเลือดเส้นประสาทเข้าไป วางตัวอยู่รวมกันเป็นจุดๆอยู่ในปลอกเอ็นที่ขึงผ่านเข้าไปใน ข้อมือในรูปแบบเดียวกับท่อน้ำ
    เราเรียกส่วนนี้ว่า อุโมงค์ข้อมือ(Carpal Tunnel)

    ในคนปกติ อุโมงค์ข้อมืออันประกอบไปด้วยเส้นเลือด เส้นประสาท และ เส้นเอ็น จะอยู่กันอย่างหลวมๆ ...ดังนั้นเมื่ออยู่อย่างหลวมๆ เส้นเลือดก็พาเลือดไปเลี้ยงกล้ามเส้นประสาทมือได้ดี เส้นประสาทก็รับสัมผัสและบังคับมือให้ขยับได้ เส้นเอ็นก็ลื่นไหล นิ้วมือกำแบได้สะดวก ใน ทางกลับกัน หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นในช่องนี้จนกระทั่งเกิดการบวมขึ้นภายใน ก็จะเกิดปัญหาขึ้น เนื่องจากในช่องที่ว่านี้เป็นช่องที่จำกัด เมื่อมีการบวมเกิดขึ้นก็จะมีแรงดันสูงจนรบกวนการทำงานของอวัยวะภายในเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆของมือก็ไหลเวียนไม่สะดวก เส้นประสาทที่รับสัมผัสมือก็จทำงานได้ไม่ดี เกิดการชาและปวดเส้นเอ็นขยับได้ฝืดกว่าเดิม และอาจจะใช้งานได้ไม่สะดวกเพราะอาการชาและปวด ทำให้เกิดเป็นกลุ่มอาการที่เราเรียกว่า Carpal Tunnel Syndrome อาการโดยทั่วๆไปของโรคกลุ่มนี้ได้แก่

    1. มีอาการปวดที่บริเวณข้อมือ อาการปวดเป็นมากขึ้นเวลาทำงานมากๆ
    2. อาการที่ว่าอาจจะร้าวไปที่อุ้งมือปลายนิ้ว หรือร้าวย้อนกลับไปที่ต้นแขนก็ได้
    3. อาการเจ็บหรือชานี้เป็นมากขึ้นในตอนกลางคืน บางครั้งเป็นมากจนตื่นขึ้นมา
    4. มีอาการเหมือนมือบวมๆตื้อๆใหญ่ๆ
    5. กำมือหรือใช้นิ้วได้ไม่สะดวก เหมือนมือไม่มีแรง อาการ อาจจะมีข้อเดียวหรือหลายข้อก็ได้ การที่มีอาการเหล่านี้เป็นตัวที่ทำให้ต้องตระหนักแล้วว่ากำลังมีความผิดปกติ เกิดขึ้นในมือของเรา ซึ่งเมื่อมีอาการแล้วควรจะต้องหาทางแก้ไข เพราะหากไม่แก้ไขแล้วโรคมักจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ

    สาเหตุของโรค
    1. โรคทางร่างกายบางชนิด : การเป็นเบาหวาน , การตั้งครรภ์ , รูมาตอยด์ , การเป็นโรคของไทรอยด์ พวกนี้ทำให้เกิดความผิดปกติในช่องข้อมือได้
    2. การใช้งานข้อมือหนักเกินไป : งานที่ทำท่าเดิมนานๆ และทำซ้ำๆ ออกแรงมากๆ จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ ... เช่น คนที่ทำงานก่อสร้าง , พนักงานที่ยกเอกสารหนักๆ , ผู้ใช้ฝีมือแรงงานทั้งหลาย (การใช้คอมพิวเตอร์ก็อยู่ในหมวดนี้)
    3. การบาดเจ็บ : การได้รับอุบัติเหตุรุนแรงที่ข้อมือ อาจจะทำให้เกิดแผลเป็นหรือกระดูกกดทับในช่องข้อมือได้
    4. ไม่รู้ : บางคนไม่มีปัจจัยเสี่ยงอะไรเลย จู่ๆก็เป็นซะงั้น ใน ปัจจุบันดูๆแล้วมีการโต้เถียงเรื่องสาเหตุและนิยามของโรคกันอยู่ ดังนั้นทำให้แพทย์/นักวิชาการ/แพทย์ทางเลือก อาจจะใช้ศัพท์ไม่เหมือนกันในการเรียกชื่อโรค บางคนอาจจะเรียกว่า กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับ บางคนอาจจะบอกว่าไม่ใช่ เป็นแค่เอ็นอักเสบจากการใช้งานมากเกินไป .... แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตามในบทความนี้ไม่สน เพราะผู้ป่วยที่เป็นจะรู้แค่ว่าตนเองเจ็บปวดข้อมือและต้องการให้หาย แถมการรักษาก็คล้ายๆกัน ถึงนิยามได้ชัดเจนก็ไม่ค่อยเปลี่ยนการรักษาอยู่ดี การตรวจรักษาและการแก้ไขแบ่งได้เป็นสองวิธี ก็คือแบบใช้หมอ กับแบบไม่ใช้หมอ แบบไม่ใช้หมอ : ถ้าหากว่าอาการที่เป็นนั้นเป็นไม่มากเป็นๆ หายๆ อาจจะแก้ไขได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพบแพทย์ การ แก้ไขก็ทำได้โดยการแก้จากสาเหตุที่พบได้บ่อยๆก่อน ได้แก่ลดการใช้งานข้อมือที่หนักๆลงเสียก่อน /และปรับท่าทางการทำงานของมือให้เหมาะสม สำหรับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์จนปวดข้อมือ ก็ทำได้โดยการปรับเก้าอี้และโต๊ะให้พอเหมาะ , ระหว่างการทำงานข้อมือจะต้องไม่งอมากจนเกินไป , เวลาทำงานข้อมือควรมีที่วางพัก ไม่ใช่พิมพ์มือลอย , ตัวเมาส์ที่ใช้ก็ต้องมีขนาดใหญ่ที่พอดีๆมือ ไม่เล็กจนเกินไปเพราะจะทำให้ต้องเกร็งข้อมือมาก ..... นอกจากนี้เวลาทำงานไปได้สักพักก็ควรหยุดพักมือ สะบัดๆบีบนวดแล้วก็ค่อยทำต่อครับ ... หากใครมีทุนพอ ก็หาซื้ออุปกรณ์เสริมป้องกันความเมื่อยล้าของข้อมือในการทำงาน ของพวกนี้มักจะใช้ชื่อประมาณว่า "Ergonomics" - ผู้ที่ทำงานหนักประเภทอื่นๆก็เช่นกันควรจะลดการใช้งานเพื่อป้องกันการเป็น เช่น ลดน้ำหนักของที่จะยก , ยกของแต่ละครั้งควรใช้สองมือช่วยหรือสลับกันแม้จะยกมือเดียวไหว , หยุดพักข้อมือเป็นระยะๆเพื่อให้ข้อมือได้พักครับ หากลองวิธีนี้แล้วอาการ ทุเลาลง ก็ถือว่าเป็นการปวดข้อมืออันเกิดจากการใช้งานบ่อย ถ้าหายได้เองไม่มีอาการใดๆเพิ่มอีก จะไม่ไปหาแพทย์ก็ไดนะ
     
  4. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    [​IMG]

    แก้อาการ ปวดหลัง ปวดไหล่ จากการเล่นคอมพิวเตอร์
    นั่งนาน..ปวดเมื่อยนาน จากการเล่นคอมพิวเตอร์

    โดย : คลินิกกายภาพบำบัดดีสปายน์ ไคโรแพรคติก

    หนุ่มสาววัยทำงานกว่า 80% ไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ หารู้ไม่ว่าการนั่งทำงานนานเกิน 1 ชั่วโมง โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ จะนำมาซึ่งโรคปวดเมื่อย

    ดร.แพทริก อิริคสัน ไคโรแพรคเตอร์ จากสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า อาชีพที่เสี่ยงเป็นโรคปวดหลังมากที่สุดก็คือ นักกราฟฟิกดีไซน์ พนักงานคีย์ข้อมูล และนักบัญชี

    คนเหล่านี้มักจะใช้เวลานั่งอยู่ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ เกิน 1 ชั่วโมง บางทีข้ามคืนเลยก็มี และที่แย่ไปกว่านั้นยังมีวิธีการนั่งแบบผิดลักษณะท่าทาง นอกจากนั้นยังมีการใช้เก้าอี้ไม่ตรงกับสรีระจึงทำให้เกิดอาการปวดหลังตามมา ได้

    การปรับเก้าอี้ จัดวางคอมพิวเตอร์ และจัดองค์ประกอบต่างๆ จะช่วยทำให้การนั่งทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น โดยมีหัวใจหลักๆ 3 ข้อดังต่อไปนี้

    โต๊ะทำงาน และเก้าอี้

    1. ควรปรับพนักเก้าอี้ของคุณให้เอียง 100-110 องศา ควรปรับพนักเก้าอี้ขึ้นลงให้เหมาะสม หากมีหมอนเล็กๆ ก็ควรนำมาพิงหลังหากจำเป็น เพื่อให้หลังตั้งตรง หรือหากเก้าอี้ทำงานมีระบบปรับหลังพนักพิงให้ปรับตำแหน่งเก้าอยู่เสมอ ให้พนักพิงสามารถรองรับช่วงโค้งของกระดูกสันหลังช่วงเอวได้ดี

    2. ปรับที่วางแขนเพื่อให้ไหล่อยู่ในท่าที่ผ่อนคลาย หากที่วางแขนทำให้ทำงานไม่ถนัดก็ควรถอดออก

    3. ควรปรับระดับความสูงของเก้าอี้ เพื่อให้ขาของคุณถึงพื้น และทำให้เข่าขนานหรืออยู่ในระดับต่ำกว่าสะโพกเพียงเล็กน้อย และควรวางสะโพกให้ไกลจากคอมพิวเตอร์ ก็จะสามารถป้องกันอาการปวดหลังที่เกิดจากการนั่งทำงานหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ ได้

    4. ปรับระยะห่างของช่วงโต๊ะไม่ควรให้ชนกับต้นขา ควรนั่งให้ระยะของขาตั้งฉากกับเก้าอี้ และควรปรับเบาะเก้าอี้ให้ได้ระดับการตั้งฉาก 90 องศาของเข่า

    5. นอกจากนั้นควรจะมีที่พักเท้ารองใต้เท้าเพื่อไม่ให้เท้าลอยขึ้นมาจากพื้น เมื่อปรับเบาะให้อยู่ในระดับเดียวกับความสูงของเก้าอี้แล้ว ควรจะหาอะไรมารองเพื่อให้ช่วงเข่าและเท้าผ่อนคลาย


    การจัดวางตำแหน่งของแป้นพิมพ์ หรือ คีย์บอร์ด

    1. ควรดึงถาดวางคีย์บอร์ดให้เข้ามาอยู่ใกล้ๆกับคีย์บอร์ด และวางให้อยู่ในตำแหน่งที่อยู่ข้างหน้า ดูว่าส่วนใดของคีย์บอร์ดที่ใช้งานบ่อยมากที่สุด ให้ปรับส่วนที่ใช้งานบ่อยๆ นั่นให้มาอยู่ตรงกลาง

    2. ควรปรับความสูงของคีย์บอร์ดเพื่อให้ไหล่สามารถผ่อนคลาย ให้ข้อศอกอยู่ในลักษณะอ้าออกเล็กน้อยประมาณ 100-110 องศา ควรให้ข้อมือ และมืออยู่ในลักษณะตรง ถ้าหากแขนและข้อศอกสามารถตั้งฉาก 90 องศา ได้ก็จะทำให้ไม่เกิดอาการเมื่อยบริเวณแขนได้

    3. ระดับของคีย์บอร์ดควรขึ้นอยู่กับการนั่งของคุณ หากนั่งอยู่ด้านหน้าหรือลักษณะตรง พยายามวางตำแหน่งคีย์บอร์ดให้ห่างจากตัวไปอีกทาง หากเอนตัวนอนเวลาพิมพ์งาน ก็ควรให้ตำแหน่งของคีย์บอร์ดอยู่ในลักษณะที่ถูกต้อง เพื่อให้ข้อมืออยู่ในลักษณะตั้งตรง

    4. ที่วางข้อมืออาจจะช่วยทำให้คุณอยู่ในท่าที่เหมาะสมได้ ที่วางข้อมือควรใช้เป็นที่พักฝ่ามือจากการพิมพ์งานเท่านั้น ไม่ควรใช้ที่วางข้อมือในขณะที่พิมพ์งาน และไม่ควรใช้ที่วางข้อมือที่กว้างมากเกินไป หรืออยู่ในระดับที่สูงกว่าคีย์บอร์ด เพราะอาจจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณแขนล้าได้

    5. การวางเมาส์ควรวางให้ใกล้กับคีย์บอร์ดมากที่สุด และวางบนพื้นผิวที่เรียบลาดเอียงเล็กน้อย หรือใช้เมาส์วางบนที่วางเมาส์ แผ่นรองเมาส์ ก็อาจจะช่วยทำให้เมาส์อยู่ใกล้ตัวขึ้นได้

    6. หากไม่สามารถวางคีย์บอร์ดที่สามารถปรับได้ อาจจะต้องปรับระดับความสูงของโต๊ะทำงาน ความสูงของเก้าอี้ หรือใช้หมอนรองนั่งแทน เพื่อให้คุณนั่งได้สบายมากที่สุด

    7. ไม่ควรยกหัวไหล่เมื่อพิมพ์งาน ควรผ่อนคลายบริเวณบ่า และไหล่ให้มากที่สุด

    การจัดวางจอคอมพิวเตอร์ที่ถูกต้อง

    1. ควรปรับจอภาพด้านบนสุดให้อยู่ในแนวเดียวกับระดับสายตา

    2. ควรวางจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่เหนือคีย์บอร์ด และอยู่ตรงหน้า ตรงกับระดับสายตาในขณะที่นั่งประมาณ 2-3 นิ้ว

    3. ควรนั่งให้แขนห่างจากหน้าจอให้ยาวที่สุด และควรปรับระยะการมองเห็น พยายามหลีกเลี่ยงการเพ่งจ้องคอมพิวเตอร์ โดยการวางตำแหน่งจอให้เหมาะสม ถ้าจะให้ดีควรจะมีแผ่นกรองแสงเพื่อป้องกันการเสื่อมของตาด้วย

    4. ปรับมุมจอคอมพิวเตอร์ในแนวตั้ง และปรับอุปกรณ์ควบคุมจอเพื่อลดการมองแสงที่ออกจากคอมพิวเตอร์ หรือควรปรับม่านหากมีแสงสว่างมากจนเกินไปทำให้มองไม่เห็นจอคอมพิวเตอร์

    อย่างไรก็ตามการนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ ก็อาจจะทำให้เกิดอาการปวด เมื่อย หรือ กล้ามเนื้อเกร็งได้ แม้ว่าจะมีการจัดวางตำแหน่งของคอมพิวเตอร์ ปรับเก้าอี้ พนักพิง และการนั่งที่ถูกต้องแล้ว แต่การนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ก็อาจจะทำให้การไหลเวียนของเลือดหยุดชะงัก และทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าได้ ซึ่งการหยุดพักและผ่อนคลายเป็นวิธีป้องกันได้ดีที่สุด

    ดร.แพทริก อิริคสัน ได้ให้คำแนะนำถึงวิธีการผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้กับพนักงานออฟฟิศง่ายๆ ที่สามารถปฏิบัติได้จริง ดังนี้

    1. ควรจะพักบริหารร่างกายสัก 1-2 นาที ในทุกๆ 20-30 นาที หลังจากที่นั่งทำงานในแต่ละชั่วโมง เพื่อให้ร่างกาย และกล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย พยายามหางานอย่างอื่นทำแทนในขณะที่หยุดพัก หรือจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ยืดเส้น บิดตัวไปมา ก็อาจจะช่วยให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายมากขึ้น

    2. ควรพักสายตา อย่างน้อย 5 นาที หลังจากที่จ้องดูหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ เนื่องจาก แสง และรังสีต่างๆ ที่ออกจากจอ อาจทำให้ตาเมื่อยล้า และทำให้สายตาสั้นลงได้ ควรจะพักสายตา โดยการหลับตา หรือ มองไปบริเวณรอบๆ เป็นระยะๆ หากรู้สึกปวดตา ให้มองไปบริเวณที่มีสีเขียว ก็อาจจะทำให้รู้สึกสบายตาขึ้น ไม่ควรจ้องมองไปที่แสงสว่าง หรือที่มีแดดจ้า

    3. หากรู้สึกเมื่อย ก็ให้หยุดพัก ออกไปเดินสูดอากาศข้างนอก ล้างหน้า เพื่อเพิ่มความสดชื่น อย่าฝืนนั่งทำ เพราะอาจจะทำให้เสียสุขภาพได้

    ท่านั่ง ท่านอน ล้วนมีผลต่อสุขภาพทั้งสิ้น ซึ่งควรมีการฝึกปฏิบัติให้ถูกต้องตั้งแต่ยังเล็ก แม้ว่าร่างกายจะยังไม่ส่งสัญญาณด้วยอาการปวดออกมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวันพรุ่งนี้จะไม่มีปัญหา
     
  5. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ต้องขอโทษด้วยครับ ผมตอบไปทาง pm แล้วครับ
     
  6. JP Tiger

    JP Tiger เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +1,490
    เท่าที่อ่านเรื่องของคุณหนุ่มมาโดยตลอด สังเกตว่าคุณหนุ่มไม่ค่อยเขียนถึงพระกรุ ไม่ทราบว่าเคยมีประสบการณ์หรือเคยทดลองพุทธคุณของพระกรุุบางหรือปล่าวครับ หรือมีพระกรุองค์ไหนที่มีพุทธคุณสูงน่าบูชาขึ้นคอบ้างครับ
     
  7. พุทธิวงษ์

    พุทธิวงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,200
    ค่าพลัง:
    +7,879
    ฮ่าๆไม่รกหูรกตาใครหลอกนะครับ....แค่มาคุยมาอยู่เป็นเพื่อนกันก็มากมายสำหรับทุกท่านแล้วครับ....ไม่ว่าจะใช้ภาษาใดก็คนไทยด้วยกัน....เอาตามสะดวกนะครับ....ดีซะอีกผมว่าจะได้ฝึกภาษากันอีกหลายท่านนะครับ...รวมทั้งผมด้วย......ไม่ว่าจะภาษาอะไรหรือแบบไหนยังงัย ผมก็ดีใจที่มาเป็นเพื่อนพี่น้องร่วมกันในนี้นะครับ......ถ้าหายหน้ากันไปก็เหงานะครับ:cool:
     
  8. พุทธิวงษ์

    พุทธิวงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,200
    ค่าพลัง:
    +7,879
    เอายังงี้ดีมัยครับถ้าคุณSpringDove ไม่สะดวก (อันนี้เข้าใจนะครับ) พิมพ์ภาษาอังกฤษก็ได้ครับ แล้วพี่รบกวนน้องมะบอมแปลให้พวกเราอ่านได้มัยครับ มีแต่สิ่งดีๆนะครับช่วยกันเนอะ:cool:
     
  9. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    หลวงปู่ทิมท่านได้รับนิมนต์ไปร่วมพิธีแน่นอนครับ มีบันทึกไว้ในเอกสารของจังหวัดด้วย และเป็นเอกสารของทางราชการที่ไม่โกหกแต่งเติม รวมทั้ง ลป.พรหม วัดช่องแค และ ลป.กวย ชัยนาท
     
  10. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857

    เรื่องนี้ต้องรบกวนลูกศิษย์ของ ลป.กวย ช่วยขยายความด้วยครับ
     
  11. นมสดปั่น

    นมสดปั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +1,623
    คุณมะบอมเก่งภาษาอังกฤษจังเลย ติวให้หน่อยสิครับจะสอบโทอิคอ่ะ
     
  12. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ตามคำตอบของเพื่อนๆเลยครับ
    เป็นพระปี 2506 ครับ เนื้อพระคนละประเภท และแม่พิมพ์ได้รับการแต่งแล้ว
     
  13. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341

    ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ไม่ได้ทำผิดอะไร ผมก็อ่านพอเข้าใจครับ แม้จะไม่ได้เก่งอะไร จนได้เรียนโปรแกรมทางภาษาอังกฤษมา พอจับใจความรวมพอเข้าใจ และก็เข้าใจว่าความสะดวกทางสิ่งแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เพราะอยู่ไกลบ้าน แต่อยากจะเข้ามาทักทายเพื่อนสมาชิก แค่นี้ก็สุขใจแล้วที่ได้อ่านข้อความของคุณ SpringDove ก็สะดวกอย่างไหนก็เอาอย่างนั้นละครับ มุมมองของผมไม่ได้มองว่าใครจะเก่งอะไร ยังไง แต่ผมมองว่าเรามีสิ่งดีๆในการส่งผ่านข้อความสร้างความสุข สร้างรอยยิ้มในหัวใจให้กัน เพียงแค่นั้นก็พอแล้วครับ
     
  14. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    การสังเกตุตัวเองให้ละเอียดว่า มีอะไรเกิดขึ้นกับตนเองบ้าง ดีขึ้นหรือไม่
    และสังเกตุดูคนรอบข้างที่ได้สัมผัสกับเราในเวลานั้น ว่าเปลี่ยนไปทางดีหรือไม่
    เทียบกับเมื่อก่อน ตอนที่เราไม่ได้แขวนบูชาพระองค์นั้น ต้องรู้ได้ด้วยตัวเอง
     
  15. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ขอบคุณครับในข้อมูลที่นำมาเตือนกัน คงจะยังไม่สายเกินแก้ไข
     
  16. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    องค์จริงก็สวยครับ รวมความหมายดีๆไว้หลายอย่าง
    รวมสรรพสิ่งมงคลชีวิตไว้ครบถ้วน ดังเช่นมงคล 38 ประการ
    ขนาดก็กำลังเหมาะ และลวดลายคมลึกชัดเจน ดูหนักแน่น สวยงาม
     
  17. โต้งชลบุรี

    โต้งชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,474
    ค่าพลัง:
    +18,351
    ภาพด้านหน้าผมเอามาจากเจ้าของเดิมเขามา ส่วนด้านหลังผมถ่ายเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC02620.JPG
      DSC02620.JPG
      ขนาดไฟล์:
      141.9 KB
      เปิดดู:
      59
    • DSC02624.JPG
      DSC02624.JPG
      ขนาดไฟล์:
      127.2 KB
      เปิดดู:
      54
    • DSC02625.JPG
      DSC02625.JPG
      ขนาดไฟล์:
      129.5 KB
      เปิดดู:
      71
  18. นมสดปั่น

    นมสดปั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +1,623
    ขอบคุณครับพี่โต้งๆๆๆๆๆ
     
  19. ตรีวัดไผ่

    ตรีวัดไผ่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +30
    ขอบคุณคุณหนุ่มเมืองแกลงและเพื่อนๆพี่ๆทุกคนครับ ยังต้องพยายามหาต่อไปครับขอบคุณครับ
     
  20. โต้งชลบุรี

    โต้งชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,474
    ค่าพลัง:
    +18,351
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 42 คน ( เป็นสมาชิก 30 คน และ บุคคลทั่วไป 12 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> โต้งชลบุรี, 2zani, 678, Akkarate_kmitnb, appletoty, ghostlinux, gungwan, human cycle, jikky.so, kamolnetr, krishna, Maestro, man_12, noppornl, pei, seedgogo, sitthiphol, Tawatchai1889, ton3170, Warra, ตรีวัดไผ่, นมสดปั่น, นสิทธิ, บังรอน, พุทธิวงษ์, ลูกน้ำเค็ม, หนุ่มเมืองแกลง, เฉียวฟง, เอกสุกิตติมา

    คึกคักดีจริง ๆ ครับ
    </td> </tr> </tbody></table>
     

แชร์หน้านี้

Loading...