ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ผมก็คนหนึ่งเคยเจอเหตุแบบนี้ครับ ตอนนี้ปิดทองเรียบร้อยไปแล้ว
รอดูมวลสารด้วยคนครับ

 

สาธุๆ


น้อมรับคำสอนครับคุณลุง
ต่อไปจะเอาให้เนียบเลย ไม่รู้จะได้หรือเปล่า ^_^

สวัสดีครับคุณTanagrit
พึ่งรู้ว่าทองมีหลายเกรด แบ่งตามเปอร์เซนต์ทองหรือเปล่าครับ ผมจำไม่ได้เหมือนคุณลงบอกไว้เหมือนกัน ตอนไปซื้อเจ้าของร้านก็หยิบให้เลย เลยไม่รู้ว่าเกรดอะไร ^_^

ที่สำคัญผมขี้เหนียว ใช้ทอง 1 แผ่น ต่อ 1 องค์ ประหยัดไว้ทองแพง^_^

______________________________
hello9
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์มาทำงานกัน

โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัดฯ ทั่วภาคเหนือตอนล่าง
โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัด สำนักสงฆ์สำนักปฏิบัิติธรรม ทั่วภาคเหนือตอนล่าง

 

ได้อ่านเรื่อง ไขขาวของคุณ ลุง ก็ให้นึกถึง พระท่ากระดาน ของหลวงพ่อลำใย ที่เคยนำมาถามคุณ ลุง วันนี้ลินนำมาถ่ายภาพใหม่เพราะตอนนี้แสงกำลังดี สีขาวๆแบบในองค์พระแบบนี้ใช่ไหมค่ะ คุณ ลุง ที่เรียกว่าไขขาว เพราะถ้าจำไม่ผิด คุณ ลุง เคยบอกว่า พระองค์นี้เป็นเนื้อชิน
ลินไม่ทราบว่าพระองค์นี้นานกี่ปีมาแล้ว แต่ทราบว่าเป็น รุ่น ทูลเกล้าถวาย ร.ร. ฝึกหัดครูปริยัติธรรม สมเด็จพระสังฆราช ค่ะ

 

.................................................
..ครับ..นั่นแหละครับที่เห็นขาวๆ..แต่เวลาส่องๆจริง..เราจะแยกแยะได้ว่าเป็น..ไขที่มีอายุนาน..หรือ..อายุน้อย..ลองกลับไปดูที่ผม..เขียนตอนที่ผ่านมาได้ครับ..องค์นี้ด้านหลังขึ้นเยอะหน่อย..แสดงว่านอนหงาย..คือด้านหน้าสัมผัสอากาศ..ความชื้นไม่สะสมมาก..ด้านหลัง..ถูกวัสดุอื่น..มาประกบไว้..ความชื้นถูกกักไว้มากกว่าด้านหน้า..ไขเลยขึ้นด้านหลังเยอะ..ครับ..

 

นี่ล่ะครับลุง
สมเด็จปรกโพธิ์ที่กล่าวถึง
ผมถ่ายรูปมา พอจะเห็นมวลสารอยู่บ้าง
ขอคำแนะนำลุึงด้วยครับ เห็นเนื้อสวยดี
ครั้นว่าจะปิดทอง ก็เกรงจะปิดเนื้อพระซะหมด

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..ทุกๆท่าน
ที่post มา..ให้กำลังใจ..ชม..และติดตาม

..................................................สวัสดีทุกท่าน............................................................
...............กุรข่า..นักรบเลือดดุ....................................................................................
.................................................เมื่อตอนอังกฤษ..ยึดครองอินเดียใหม่ๆ..และตั้งบริษัทอีสต์
อินเดีย..อังกฤษเองก็มีความคิดที่จะครอบครอง..เนปาล..หลังจากยึดอินเดีย..ทางอังกฤษ...
(หรือ บ.อีสต์อินเดีย..รัฐวิสาหกิจของรัฐบาลอังกฤษ..ที่ดูแลกิจการทุกอย่างในเอเซีย)..ก็ใช้วิธี
เดิม..ในการเริ่มแผน..เข้ามาเจรจากับกษัตริย์เนปาล..เพื่อจะมาตั้งสาขาเพื่อติดต่อค้าขายใน
เนปาล..แต่กษัตริย์เนปาลในตอนนั้น..ก็..ไม่ใช่..ราชากระบือ..เพราะศึกษาการวางแผนเข้ายึด
ครองอินเดีย..ของอังกฤษมาแล้ว..จึงปฎิเสธโดยสิ้นเชิง..ทำให้อังกฤษไม่พอใจมาก..เพราะไม่
เคยมีใครมาทำหยั่งงี้กับ..เดี๊ยนมาก่อน..หลังจากนั้นไม่นาน..บริเวณชายแดนเนปาล..กับ..
อินเดีย..ก็เกิดมีการปะทะของกองกำลังทั้งสองฝ่ายกัน..โดยอังกฤษรุกเข้ามาที่เมืองชายแดน
เนปาลในปี..ค.ศ.๑๗๖๕ ปรากฏว่า..ฝ่ายอังกฤษที่ไม่เคยรู้จักว่า..”กุรข่า”..เป็นยังไง..นึกว่าหมู
เหมือน..แขกอินเดีย..ก็พ่ายแพ้..ย่อยยับ..สูญเสียทหารเป็นจำนวนมาก..ถอยหนีกลับเข้าชาย
แดนอินเดียไป..ทหารอังกฤษที่หนีกลับไปได้..ก็แจ้งผลการรบให้ผู้บังคับบัญชา..ทำให้อังกฤษ
ต้องมาประเมิน..เนปาลใหม่..ในการวางแผนเข้ายึดเนปาล........
..........หลังจากน้น..อังกฤษก็เริ่มแผนใหม่..บอกว่าจะขอผ่าน..ไปตั้งสาขา..ที่ชายแดนระหว่าง
เนปาล..กับ..ทิเบต..เพราะต้องการเปิดความสัมพันธ์ทางการค้า.กับทิเบต..ก็มีการเจรจากัน
หลายรอบ..ที่ไม่คืบหน้าสรุปจนถึงปี..ค.ศ.๑๘๐๑..การเจรจา..ก็ยุติลงเพราะเนปาล..ไม่เล่นด้วย
..........หลังจากนั้นมา..อังกฤษ..จึงคิดว่าแผน...งูในรางหญ้า..ไม่สำเร็จแล้ว..ก็จึงตระเตรียมหา
ข่าว..ประเมินกำลัง..และวางแผนเข้าโจมตี..เนปาลต่อไป.........................................
..............นักประวัติศาสตร์บอกว่า..จุดสนใจจริงๆ..ที่อังกฤษ..อยากได้แผ่นดินเนปาล..ก็เพราะ
..ภูมิประเทศนั่นเอง..นอกจาก..จะมีชัยภูมิทางการรบที่ดีเพราะ..อยู่ที่สูง..สิ่งที่อังกฤษอยากมาก
ก็คือ..มาตั้งหลักปักฐาน..สำหรับขุนนาง..พ่อค้า..นายทหาร..โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัว..ด้วย
..อากาศที่แห้ง..และเย็นตลอดปี..ต่างจาก..ในอินเดียที่..ร้อน..ชื้น..อับ..และเหม็น(ขี้เต่าแขก)..
ทำให้หลายครอบครัว..พวกเมียๆ..ลูกๆ..ของพวกนี้มาอยู่ได้พักเดียว..ต้องเตลิดกลับอังกฤษ..
กันเกือบหมดเพราะไม่คุ้น..แถมยังมาเจอสารพัดโรคเขตร้อนทั้ง..มาลาเรีย..อหิวา..ไข้เลือดออก
....จึงสรุปว่า..ถ้าจะอยู่กันเป็นครอบครัว..ก็สมควรจะยึดเนปาล..เอามาปลูกบ้านอยู่ซะเลย
............................................ต่อตอนหน้าครับ.......................................................
..................................................................................................................................
.................................................................................................................................
......................................................ไขขาว.................................................................
.............การปลอมไขขาวนั้น...มีหลายระดับ..หลายเกรด.........ตั้งแต่ใช้...แป้งดินสอพอง..
มาคลุก..กับ.กาวลาเท็กซ์...แล้ว..เอาปลายเข็ม..ไปจิ้ม..ให้ติดปลาย..นิดเดียว..แล้วเอามา..
หยอด..ลงบนผิวตะกั่ว..ให้มันเป็นก้อนกลมแปะอยู่(..ถ้าไม่ใส่ดินสอพอง..ลาเท็ค..มันแห้งแล้ว
มันจะไม่ขุ่นขาว..มันโปร่งแสงมัวๆ......บางทีก็ใช้แป้งมัน..แล้วแต่..ขอให้ขาว..และ.ละเอียด..
เป็นใช้ได้)..เทคนิค..ก็จิ้มกระจายๆ..และบางที่ก็อาจจะทำ..เป็นกระจุกๆ..คือซ้อนๆกัน..บริเวณ
ที่ขึ้นหนา..วิธีการก็ไม่ยาก..พอชั้นแรกแห้ง..ก็เอามาจิ้มทับไปข้างบนและให้จุดมันติดๆกัน..จะ
ได้เหมือนจริง...แบบนี้..ข้อเสียคือ..มันจะหลุดง่าย..ถ้าให้ดีต้องเลี่ยมปิดไม่ให้มือ..มาโดน...
.........อีกแบบ..แน่นกว่า..ผสมน้ำอย่างเดียว..เอาง่าย..ติดดีกว่า..ก็นี่เลย..ซีเมนต์ขาว..ที่ติดกระ
เบื้องห้องน้ำ..ใช้หย่อนแบบเดียวกัน..คือ..ใช้ปลายเข็มหมุด..จิ้ม..แล้วไปหยอด...ถ้าแบบคลาส
สิค..ทำทีละหลายองค์เร็วด้วย..ก็เอาแปรงสีฟันใหม่..เอาแบบขนแข็งๆหน่อย..จุ่มลงไปที่เรากวน
ได้ที่แล้ว..เอานิ้วไปกรีดขนแปรงใกล้พระ..ปูนมันจะกระเด็น..เป็นจุดเล็กๆไปเอง..กระจายทั่วเป็น
..สามสิบสี่สบ..จุด..แต่แบบนี้ต้องชำนาญ..ซ้อมทดลอง..จนช่ำชองซะก่อน..
...........แบบนี้..เราเอาสีผสมอาหาร..อย่างสีเหลือง..ใส่นิดเดียวกวนกับน้ำก่อน..ให้มันออกมา
เหลืองนิดๆ..พอผสมซีเมนต์ขาวแล้ว..สีมียจะไม่ขาวแหง...ไม่งั้น..ก็ใช้น้ำคลอง..ก็ได้(คลอง
แสนแสบ..ใช้ไม่ได้...คลองประปาใช้ได้).....เพราะไขขาวที่อายุมันนานๆเป็น..ร้อยปีขึ้นนี่มันไม่
ขาวจั๊ว..แบบฟองเต้าหู้บางขุนพรหมกรุเก่า(อันนั้นมัน CALCIUM CARBONATE)...
..................ที่ผมยกตัวอย่างมานี่..มันแค่แบบ..เด็กๆ..ประถม..แค่ในแบบประถม..มันก็มีอีก
หลายวิธี..ถ้า..มัธยม..ปริญญา..นี่ไม่ต้องพูดดูยากทีเดียว..เพราะอย่างหนึ่งเขาดูของจริงมามาก
..รู้ว่า..ธรรมชาติ..ของจริงมันเป็นยังไง...กรุนี้..ไขจะเป็นสไตล์นี้..ฟอร์มแบบนี้..จุดที่ขึ้นไข...
ก็ต้องพิถีพิถัน...เพราะ..มันจะมีทั้ง..ก้อนใหญ่..ก้อนเล็ก..ก้อนจิ๋ว..สลับปะปนกันไป..ก้ต้องเลียน
แบบ..ให้ได้..............................................................
...................................................ต่อตอนหน้าครับ..............................................

 

เปอร์เซนต์เท่ากันหมด แต่อยู่การเผาทอง(สีทองเปล่งสุก) การตีทองให้เป็นแผ่น(ราคาถูกเค้าจะใช้แผ่นทองมาต่อกันให้เต็มแผ่น ราคาแพงแผ่นทองจะไม่มีรอยต่อ พิสูจน์ด้วยการส่องกับแสงจะเห็นรอยต่อ)

ผมซื้อทองคำเปลวจากช่างทองที่เค้าปิดพระพุทธชินราช แผ่นละ10บาท

 

ตอนนี้พี่ modpong มีลูกศิษย์เยอะหลายคนแล้วนะครับ ยินดีด้วยครับ

 

..................................................
.....ขอบคุณครับ..น้องกำธร..ภูมิใจครับ..เวลา..ที่เอาผลงาน..มาให้ดู..รู้สึกว่า..คุ้มค่ามาก..ที่ได้พยายามเขียน..อธิบาย..ภูมิใจแทนลูกศิษย์ทุกคน..เก่งมากๆ..ความเพียร..เป็นเลิศ..ฝีไม้ลายมือก็ดีมาก.............................
แค่ี้นี้..ก็มีความสุขแล้วครับ......

 

สาธุๆ


คาราวะอาจารย์คุณลุงmodpong ครับ ^_^

สวัสดีครับคุณTanagrit ขอบคุณในความรู้ครับ เมื่อวานนี้ผมซื้อแผ่นทางถามคนขาย คนขายก็บอกได้แต่ว่าของแท้ ตราช้าง ^_^

______________________________
hello9
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์มาทำงานกัน

โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัดฯ ทั่วภาคเหนือตอนล่าง
โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัด สำนักสงฆ์สำนักปฏิบัิติธรรม ทั่วภาคเหนือตอนล่าง

 

เป็นกำลังใจให้ค่ะ คุณ ลุง ขอบคุณค่ะ :z5

 

..................................................


..อย่างงี้..ใช้..กาวช้าง..แน่นอนกว่า..ครับ
..มวลสาร..ออกไปทางแนวเดียว..กับ..หลวงปู่เผือก..แต่..หลากหลายกว่า..คือ..เนื้อแกร่ง..มีว่านดอกมะขาม..ผสมอยู่..ค่อนข้างมาก..สีออกชมพู..อาจเหมือน..ปิดตาวัดบ่อฝ้าย..ปธุมธานี..ที่ผสม..ว่านสบู่เลือด(ไม่ได้ฟันธงนะครับ..เอาความน่าจะเป็น)..เนื้อแกร่งแน่น..แบบนี้แสดง..ว่าตัวประสานเป็น..น้ำมันตังอิ้ว..อายุพระ..ต้องพอสมควรเลย..มีเศษคล้ายเป็นปูนขาว..แทรกๆอยู่..อาจเป็นผงประเภท..ผงพุทธคุณอะไรสักอย่าง..แบบที่เขียน..แล้ว..ลบ..วนไปวนมา..อาจารย์..บางท่าน..ท่านก็ปั้น(ผสมตัวประสาน)ไว้เลย..เพราะเก็บง่าย..(อย่างหลวงพ่อแก้ว)..ซึ่ง..เอามาใช้ก็ต้องทุบๆเอา..ไม่ได้ละเอียดมาก..เลยเห็นเป็น..ชิ้นขาวๆ..บนอยู่..ไอ้ที่ดำๆเล็กๆ..อาจเป็นพวกแร่โลหะอาถรรพณ์..ประเภทที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว..ก็ได้
...ทั้งหมดนี่เป็นการประเมิน..นะครับ..แต่เมื่อหักแล้วได้ดูจากเนื้อ..และพระก็มีอายุพอควร..ก็น่าต่อเก็บไว้ครับ..เพราะผู้สร้างต้องตั้งใจทำมาก..เลย..ผสมของหลายอย่างไว้ด้่วยกัน............

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..ทุกๆท่าน
ที่post มาให้กำลังใจ.ชม..และติดตาม

.....................................................สวัสดีทุกท่าน...........................................................
.............กุรข่า นักรบเลือดดุ...........................................................................................
............................................ในที่สุดหลังจาก..เตรียมการแล้ว..ก็หาเรื่องแบบดื้อๆ...โดยทาง
อังกฤษ..ส่งสารให้ทางเนปาล..ให้คนเนปาล..ออกจากพื่นที่ของเนปาลเอง..ที่เป็นจุดต่อกับเขต
การปกครองของอังกฤษ..คือเขตButWAL..ซึ่งมีทั้งหมด ๒๒ หมู่บ้าน..ภายใน ๒๕ วัน..ไม่งั้น
จะถูกกำจัด..และส่งทหารเตรียมยึดพื้นที่..เมื่อถึงเวลา..ทางเนปาลก็ได้เตรียการรับมือไว้แล้ว
โดยส่ง..กองทหารกุรข่า..เข้ามาในพื้นที่..ทำให้เกิดมีการ..ปะทะกัน..ผล..ทหารอังกฤษ..ถูกฆ่า
ตายในที่รบ ๑๘ คน(สมใจ..อังกฤษเอง)..ที่เหลือหนีข้ามพรมแดนกลับไป...เรื่องของเรื่อง..ก็คือ
..จะได้เป็น..ข้ออ้าง..ในการประกาศสงคราม..ของอังกฤษ..ว่า..ทหารอังกฤษ..ถูกทหารเนปาล
ฆ่าตาย..(..ขอโทษ....เน่ามาก..และ..ซ้ำซาก..เพราะใช้มาทุกที่..พม่า..อินเดีย..ศรีลังกา..อียิปต์
..ซูดาน..อาฟริกาใต้..จีน..แคนาดา....ฯลฯ...คือเหมือน..ก็มี..เกือบเหมือน..ก็ออกแนวนี้..อยู่ดี)
...เวลาไปเขียนในประวัติศาสตร์..เสือ^..บอกว่า..พื้นที่ไม่ใช่ของเนปาล..แต่คนเนปาล..เขาอยู่
มาตั้งแต่บรรพบุรุษ..แล้วมาโมเมอ้างเฉย(..ก็คนมันจะหาเรื่อง..ว่า..ง่ายๆ..อย่าลืมว่า..ทั้ง..มาเลย์
..สิงค์โปร์..เราก็เสร็จความเจ้าเล่ห์..ของ..อังกฤษ..มาแล้ว)..และแล้วอังกฤษก็ใช้ข้ออ้างนี้..ใน
การประกาศสงครามกับ..เนปาล...เมื่อ ๑ พฤศจิกายน ค.ศ.๑๘๑๔(พ.ศ.๒๓๓๙..ก่อนที่..อังกฤษ
จะเข้ายึดครอง..พม่า).........................................................................................
............การเตรียมพลของอังกฤษเบื้องต้น..แบ่งออกเป็น...๕..สาย..ดังนี้
...........สายแรก...กำลังพล..พร้อม..อาวุธหนัก-เบา..(ปืน..ปืนใหญ่)..จำนวน ๖,๐๐๐ นาย
...........สายที่สอง..กำลังพล..พร้อม..อาวุธ..หนัก-เบา...จำนวน ๓,๕๐๐ นาย
...........สายที่สาม..กำลังพล..พร้อม..อาวุธ..หนัก-เบา...จำนวน ๔,๐๐๐ นาย
...........สายที่สี่...กำลังพล..พร้อมอาวุธ..หนัก-เบา...จำนวน ๒,๐๐๐ นาย..สายนี้..พิเศษ..มีหน้า
ที่ปลุกระดม..สิกขิม..ให้มารบกับเนปาล(..ผมเคยเล่ามาแล้ว..ว่าสิกขิม..ลูกกระจ็อกของเนปาล
เคยกระด้างกระเดื่องมาแล้ว...ซึ่งทางอังกฤษทราบดี(..คล้ายกับ..ที่พม่า..ที่มันปลุก..ระดมพวก
..ยะไข่..มอญ..รวมถึงมาขอกำลังจากไทยด้วย..ในการตี..พม่า)...)
...........สายที่ห้า..กำลังมากที่สุด..พร้อมอาวุธ..หนัก-เบา..จำนวน ๘,๐๐๐ นาย.......
...รวม..กำลังหลักทั้งหมด...๒๓,๕๐๐ นาย...พร้อม..อาวุธ..หนัก-เบา....................
...ตอนหลัง..เมื่ออังกฤษเพลี่ยงพล้า..เยอะ..จึงเสริม..ทหารเข้าไปอีก..๒,๕๐๐ นาย..พร้อม...
อาวุธ หนัก-เบา...รวมทั้งหมด...๒๖,๐๐๐ นาย........................
....................ส่วน..เนปาลส่ง..กองกำลังทหารกุรข่า..ที่มีอาวุธประจำกายคือ..คูครี..และ..ดาบ
...มีหอก..บ้าง..ธนูบ้าง...และแทบไม่มี..ปืนยาว..(มีบ้าง..แต่..น้อย)..ปืนใหญ่..มีบ้างตามป้อม..
แต่เคลื่อนที่..แบบ..อังกฤษไม่ได้........กำลังพลที่มีจิตใจห้าวหาญเป็นหลัก ๑๒,๐๐๐ คน
..................................................ต่อตอนหน้าครับ....................................................
.................................................................................................................................
......................................................ไขขาว................................................................
........ไม่ว่า..ของปลอม(ระดับ..มัธยมลงมา)จะทำยังไง...มันก็แค่คล้าย..ความเป็นธรรมชาติ..
มันไม่เหมือน..ดูออก..เราจะดูความเป็นธรรมชาติได้ยังไง.........ก็ดู..ของจริง(ไม่ใช่..ในหนังสือ
..ในInternet)..ใช้ตาดูแบบ..ตาเปล่า..ใช้แว่น20x..ขึ้นไปส่อง..ดูหลายๆแบบ..(แบบ..ขึ้นประ
ปราย..ขึ้นหุ้มหนา..ขึ้นเป็นกลุ่มๆ(กระจุกๆ)...)..หลายๆกรุ..ยังไม่ต้องกล้าหาญ..ไปเช่าถ้าไม่มี
ความพร้อม..ถ้าพึ่งพร้อม..หาผู้ชำนาญไปด้วย(..ทั้งสนิมแดง..และ..ไขขาว)..ใช้วิชา..ลูกตื๊อ..
หน้าด้าน..หน้าทน..ประจบประแจง..เรียกว่าทุกท่า..เป็น..เบ๊ไปซื้อ..ผัดไทย..โอเลี้ยง..นวดแข้ง
นวดขา...กับคน..ที่รู้จัก..ว่าเขามีของจริง....และกับไอ้พวกเซียนมีระดับ..ตามสนามต่างๆ...ไม่
งั้น..คุณไม่มีโอกาศดูของจริง(..เว้นแต่..มี..มรดก..หรือ...พ่อ..ปู่..ทวด..สะสมกันมาก่อน....แบบ
ผม..)..ขนาดผมเอง..มีดูเยอะพอควร..ก็ยังไม่พอ..ผมก็ต้องแบบๆนี้แหละ..หน้าด้านไปสนาม..
ไปตีสนิท..เค้า.............................................................
.......................จำไว้ครับ..ทั้งสนิมแดง..ไขขาว..แหม่ง..นิดเดียว..ต้องหยุด..อย่าเสี่ยง..ราคา
มันสูง..พระร่วง..ซุ้มนครโกษา..ท่ากระดาน...ราคาหฤโหด..ทั้งนั้น......สวยมาก..เดินหนีไปเลย
เพราะ..ของจริง..มันจะไม่มาหาคุณแน่นอน(ถ้า..คุณไม่ใช่..เสี่ยดังๆ..นักการเมืองดังๆ..ดาราดัง
)...และอีกอย่าง..แค่พอประมาณ..ยังเป็นแสน..สวยมาก..ล้านขึ้นทั้งนั้น..................
.....ขี้เหร่มากๆ(..แหว่ง..ซ่อม(คอหัก)ไม่ดี...บิด..บุบ..แบบดูไม่ได้)..ก็อย่าเช่า..แค่ชื่อ..พระดัง..
มันทำ..ให้เราพัฒนา..หรือ..เท่ห์..ไม่ได้..แถม..พอผ่านช่วงเห่อไปซักพัก...คุณจะต้อง..มาน้ำตา
ตกใน......เพราะ
๑. ปล่อย..ให้ใคร..ก็ไม่มีใครเอา
๒. เอาไปอวดใคร..ก็ไม่มีใครปลื้ม(ยกเว้น..คนที่ต่ำกว่าคุณ..หรือ..คนที่อยากได้ผล
ประโยชน์จากการ..ประจบคุณ....เช่น..ลูกน้อง..ผู้รับเหมา..ผู้เช่าที่ดิน..อพารต์เมนท์ของคุณ..
ฯลฯ..เป็นต้น...)...ยิ่งถ้า..ระดับเดียวกัน..กับคุณ..หรือ..สูงกว่า..อาจถูกเบิ้ลให้ช้ำชอก..ว่ามี
สภาพแค่นี้..ยังมีหน้าเอามาโชว์..ทำให้ช้ำใจ..เปล่าๆ
๓. แรกๆก็ดี..เพราะความภูมิใจ..ว่าเป็นพระในฝันที่..จะมีแท้ๆสักองค์..ดูบ่อยๆ..ผ่าน
ไปซักพัก..ความรู้สึกเริ่มจะไม่ใช่..เพราะพระขี้เหร่..ดูทีไรก็ตะขิด..ตะขวงลูกกะตา..ถ้าเห่อ
ขนาดไปหุ้มทอง..เดี๋ยวก็ต้องเอาทองออก..ตอนหลังเก็บไปเลย..เพราะมันจะสะเทิ้นใจ..ว่า..กูไม่
น่าไปเช่ามาเลย..รู้งี้เก็บตังค์ไว้ดีกว่า.......
๔. หมด ไป ห้า หก พันบาท..ได้พระขี้เหร่..มา๑ องค์..ห้อยโชว์ใครไม่ได้..แค่เก็บ
ไว้ดู..เป็น..ตัวอย่าง..สนิมแดง..ไขขาว...ผมถามว่า..มันคุ้มมั้ย........กับ..เอาเงินเท่านี้..อาจจะ
เพิ่มอีกสักพัน..ไปเช่า..รอดหนองมน..แบบพอประมาณ..เชียงแสนปรกโพธิ์แบบดูได้..ท่ากระ
ดานน้อยแบบ..ใช้ได้........ไม่ดีกว่าเรอะ....สนิมแดง..ก็มี..ไขขาว..ก็มี..พระก็มีชื่อเสียง..แถมใส่
ทอง..ก็ยังไปอวด..ไปโชว์เค้าได้...ไม่มีใครมาเบิ้ล................................
........เอาแค่นี้ก็พอ..ผมไม่ได้มีเจตานาทางร้าย..อันใด..เตือนให้เป็น..อุทาหรณ์...มันเป็นเรื่อง
จริง..ที่เกิด..อยู่เสมอ..แม้กับคนที่..รู้จัก..เพื่อนฝูง...หรือกับใครก็ได้..ที่ใช้ความฝัน..มากลบ
เกลื่อน.....ความเป็นจริง.................................
........................................................................สวัสดี.................................................

 

สวัสดีครับพี่modpong
มาขอเก็บเกี่ยวความรู้ครับ

 

สวัสดียามเย็นครับคุณอา...และทุกท่าน

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..ทุกๆท่าน
ที่post มาให้กำลังใจ..ชม..และติดตาม

........................................................สวัสดีทุกท่าน......................................................
...............................................กุรข่า......................นักรบเลือดดุ..................................

........ตอนที่แล้ว..คงเห็นข้อเปรียบเทียบ..ทั้งด้านกำลังพล..ทั้งด้านอาวุธ...นี่เทียบกันไม่ได้เลย
...................ปรากฎว่า..สิบวันก่อนประกาศ..สงครามเป็นทางการ..อังกฤษก็บุกเข้าดินแดน
เนปาลที่..Dheradun..ที่นั่นมีป้อมอยู่ชื่อว่า KHALUNGA..ผู้บัญชาการป้อมเป็นกุรข่าชื่อ...
Balbhadra..ซึ่งคนในป้อม..มีทั้งทหาร..ผู้หญิงและเด็ก..รวม..ประมาณ๖๐๐ คน..ส่วนของอัง
กฤษก็มาจาก..สายที่๒..บังคับบัญชาโดย..นายพลGilespie..ซึ่งมีกำลังพล ๓,๕๐๐ คน..ทั้งปืน
ยาว..และปืนใหญ่ติดล้อ...สมรภูมิเลือด..จึงเริ่มขึ้น..ระหว่าง อังกฤษ..กับ..กุรข่า(ผมไม่ใช้คำว่า
..เนปาล..เพราะช่วงนี้เป็นแต่เรื่องของนักรบ..จึงมี..แค่...กุรข่า)..ที่นี่..เป็นครั้งแรกของสงคราม
ครั้งนี้........
........การยุทธที่ KHALUNGA..............
....พอเริ่มการ..ต่อสู้ไปไม่นานนัก..ปรากฎว่า..ผู้บัญชาการของอังกฤษGilespie..ก็ตายในสนาม
รบ..ซะแล้ว..อังกฤษต้องส่งนายพลMaubiมาแทน..การรบเป็นไปอย่างดุเดือด..กุรข่าขาดแคลน
อาวุธระยะไกล..สู้กับอังกฤษ..เลยต้องพึ่ง..ก้อนหิน..ท่อนไม้..มาสวนตอบ..ห่ากระสุน..ทั้งจาก
ปืนยาว..และปืนใหญ่..เวลาผ่านไปเป็นอาทิตย์..อังกฤษ..ก็ยังไม่สามารถ..ยึดป้อมจากกุรข่าได้
Maubi..เลยเล่นบทโหด..ตัดทางน้ำที่เข้าป้อม..ทำให้..เวลาผ่านไปทั้ง..ทหาร..พลเรือน..ผู้หญิง
และเด็ก..ต้องอดน้ำ..ตายเป็น..จำนวนมาก..นอกเหนือ..จากโดนลูกปืนใหญ่..ปืนยาว..ตาย...
..ผบ.ป้อม..ดูแล้ว..ว่าไม่มีทางรอดแน่..ก็รวบรวมกำลังพล..ที่เหลือ ๗๐ คน..ก็เปิดประตูป้อม..
แล้ววิ่งไปที่แม่น้ำใกล้ๆ..ท่ามกลางความตกตะลึง..ของทหารอังกฤษ..ขณะพักผ่อนกัน....
..Balbhadra..หันหลังกลับมา..ตะโกนว่า..”อยากได้ป้อม..มึงเอาไปเลย..เพราะไม่มีอะไรเหลือ
ให้มึงแล้ว”...กองกำลังกุรข่า..ที่หนีออกไป..ก็ไม่ได้แสดงการยอมแพ้..กับอังกฤษ..เมื่อทหาร
อังกฤษเข้าไปในป้อม..การรบผ่านไปแล้ว ๓๙ วัน..สิ่งที่เหลือในป้อม..ก็มีเพียงแค่..ศพ..เท่านั้น
......ทหารอังกฤษ..ได้จารึกไว้บน..ก้อนหินใหญ่ที่ป้อมว่า..”เราขอสดุดี..ต่อ.Balbhadra..และ
เหล่าทหารกล้ากุรข่า..ทุกคน..”
.......อย่าแปลกใจครับ..เพราะ..กำลังที่มากกว่า..ตั้ง๖เท่า..อาวุธ..หนัก-เบา..ดีกว่า..มากกว่า..
มากมายก่ายกอง..แต่ไม่สามารถชนะด้วย..วิธีปกติได้..ทั้งๆที่รู้ว่า..มีสตรี.และเด็ก..อยู่ในป้อม
ด้วย..ทหารอังกฤษคง..ละอายใจที่ต้องเอาชนะด้วยวิธี..สกปรก..แทนรูปแบบ..ของ..นักสู้ที่แท้
....................................................ต่อตอนหน้า..........................................................
...............................................................................................................................
.................................................เรื่องคั่น...................................................................
.....ก่อนจะไปว่า..เรื่อง..ชินเขียว..กับ..ไขไข่แมงดา..ผมก็ตามสไตล์..คือ..จะมีเรื่องคั่น..สักตอน
สองตอน...ความจริง..ผมเคยเกริ่นมาหน่อย..เรื่องข้อสันนิษฐาน..เกี่ยว..พิมพ์พระ..ที่คล้ายกัน
แต่อยู่..ห่างกัน..อย่าง..พระรอดลำพูน..และ..พระรอดหนองมน..ลพบุรี.....ความจริงก็ยังมีแบบ
นี้เช่นกัน..แต่คนละยุค..เช่น..ปริศนาของ..พระกริ่งคลองตะเคียน..ที่ยอมรับกันว่า..สร้างสมัย
อยุธยา..แต่..มีความคล้ายคลึง..กับ..พระคงลำพูน..ทั้งๆที่เวลาห่างกันหลายร้อยปี..หรือว่า..มี
การไปแอบ..ขุดกรุ...ที่วัดพระคง..ตั้งแต่สมัยอยุธยา..หรือ..ช่างที่ทำพระคงที่ลำพูน..เอาพระต้น
แบบเก็บไว้กับตัว..มีลูกหลาน..เหลน.แล้วย้ายถิ่นฐาน..มาอยู่แถวอยุธยา..ก็เลยทำพระตามต้น
แบบ..ที่ได้รับมรดกตกทอดมา..และเพื่อเป็นเกียรติให้..บรรพบุรุษตัวเอง...ซึ่งตรงนี้..ลำบากที่
จะสันนิษฐาน..เพราะ..มีหลายแนวทางอย่างที่ว่า..........................................
................แต่สำหรับ..พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล..สร้างโดย..สมเด็จพนรัตน์ วัด
ป่าแก้ว..และ..สมเด็จพระเนรศวรมหาราช..เพื่อเถลิงชัย..และเป็นอนุสรณ์..แห่งการชนะศึกพม่า
..พระทั้งหมด..ถูก..บรรจุที่เจดีย์องค์ใหญ่..ที่วัดใหญ่ชัยมงคล..ที่สมเด็จพระเนรศวร..สร้าง..เท่า
ที่ปรากฎ..ในแผ่นดินอยุธยา..ไม่เคยมีการบันทึก..พิธีปลุกเสก..สร้างพระ..ที่ยิ่งใหญ่เท่าครั้งนี้..
..........แต่กว่าที่..คนจะรู้จักพระดินเผาเคลือบเหลืองพิมพ์สะดุ้งมาร..ในซุ้มเรือนแก้ว..ที่สวยงาม
ยิ่งนี้...เราได้พบพระลักษณะเดียวกันมาก่อน..แต่อยู่ที่เมืองสุพรรณบุรี..วัดที่พบก็เป็นวัดราษฎร์
ธรรมดา..ขนาดไม่ใหญ่โต..แล้วคนก็นิยมเพราะพุทธคุณ..ที่ยอดเยี่ยม..กอรปกับการพบ..เป็น
การพบที่เมืองสุพรรณบุรี..ก็เลยให้ชื่อกันเอง(พระเอง..ไม่ได้มีป้ายบอกไว้..ว่าชื่ออะไร)...
..ว่า..พระขุนแผน..ซึ่ง..สถานที่พบคือ..วัดบ้านกร่าง..จังหวัดสุพรรณบุรี..ซึ่งมีอยู่หลายพิมพ์
แต่..ทุกพิมพ์..ก็อยู่ในซุ้มเรือนแก้ว..เช่นเดียวกัน..และ..รูปพระก็เป็น..ทรงห้าเหลี่ยม..โดย
เฉพาะ..พิมพ์หลัก.คือ.องค์เดี่ยวปางสะดุ้งมาร...ซึ่ง..มีความคล้ายคลึงกันมาก..กับ..พระดินเผา
ปางสะดุ้งมารที่กรุวัดใหญ่ชัยมงคล...เมื่อนักเล่นพระยุคนั้น..เห็น..พระชุดนี้..ก็ทำให้เขานึกถึง
พระที่สุพรรณ..ที่ต่างกันชัดๆ..คือพระกรุวัดใหญ่ฯพิมพ์นี้นั้น..เคลือบสีเหลืองแตกลายงางดงาม
..........พระพิมพ์นี้..จึงได้ชื่อ..ตามเหตุผลข้างต้น..คือ..ขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล..
อยุธยา...........
..........................ตอนหน้า....ผมจะมาประมวล..ข้อมูล..ความสมเหตุสมผล..เพื่อประเมินหา
ข้อสันนิษฐาน..ว่า..ใคร..มาก่อนใคร..และ..ความเหมือน..จะบังเอิญได้หรือเปล่า.............

..........................................................สวัสดี............................................................

 

รอติดตามต่อครับ ขอบคุณครับ...

 

สวัสดีครับคุณอา..และทุกท่าน มารอฟังตอนต่อไปครับ

 

รอติดตามชมครับ เรื่องขุนแผนสองวัดนี้อยากรู้จริง ๆ ครับ

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..ทุกๆท่าน
ที่ได้postมา ให้กำลังใจ..ชม..และติดตาม

...............................................................สวัสดีทุกท่าน................................................
.........กุรข่า นักรบเลือดดุ..............................................................................................
......................................หลังจาก..ยุทธภูมิ.ที่..KHAlanga..แล้ว..อังกฤษ..ที่เป็นสุภาพบุรุษ
..หรือ..ผู้ดี..แต่ชื่อ..ใช้แผนสกปรก..เล่นงาน..พวกกุรข่า..แล้ว..การรบ..ก็เปิดเต็มที่..ตลอดชาย
แดน..โดยที่อังกฤษ..รุกคืบหน้าอย่างช้ามาก..ทั้งๆที่..เหนือกว่าทุกด้าน..ยกเว้นใจ..กุรข่าที่มี
กำลังพลน้อย..กว่าก็ทำการยันไว้..ด้วยจิตใจที่กล้าหาญดุดัน..ของพวกเขาโดยแท้..จึงทำให้
อังกฤษ..มีเปรียบ..ไม่มาก...หลังจาก..ยึดป้อมที่khalangaw..อังกฤษ..ก็รุกคืบมาถึงที่...
แนวป้องกันที่เมือง..Jaithak..
...ยุทธภูมิ..ที่...Jaithak….
.................ที่เมืองJaithak...ซึ่งมีJaspau Thapa และ Ranajor Singh Thapa..เป็น ผบ.ร่วม
กัน..มีกำลังกุรข่ารวม..๒,๒๐๐ คน..ที่รวม..สตรี..และเด็ก..ไว้ด้วย..วางแนวป้องกัน..ไว้..เผชิญ
หน้ากับทัพอังกฤษ..ที่ส่วนหนึ่งเคยผ่านสมรภูมิKhalangaมา..รู้ซึ้งถึงฝีมือความห้าหาญกุรข่า
ดี..จึงต้องเรียกกำลังอีกสาย..มาเสริม..ทำให้มีกำลังรวมถึง..๖,๐๐๐ คน..คราวนี้ต่างจาก..ครั้ง
ที่แล้ว..ที่ต้องป้องกันป้อม..การรบ..เป็นฝ่ายรับ..และอยู่ในวงล้อม..ครั้งนี้..เปิดการรบทางแนว
ราบกัน..ซึ่ง..ผลักกันรุกและรับ..พวกกุรข่า..ก็เกือบทั้งหมดมีแต่..คูครี..ต้องวัดดวงกับ..ดาบ
ปลายปืน..และ..ปืน..รวมทั้ง..ปืนใหญ่ด้วย..การรบครั้งนี้..อังกฤษต้องเสียไพร่พล..จำนวนมาก
จาก..ฝีมือ..กุรข่า..มีทั้งหัวขาด..หัวแบะ..ด้วย..คูครี..ฝ่ายกุรข่า..ก็เสีย..ไพร่พลไม่น้อยเชนกัน
แต่..น้อยกว่า..ทางอังกฤษ..ซึ่ง..แม้..อังกฤษ..จะรวบรวมโจมตีแนวต้านพร้อมกัน..แบบเต็มที่
ถึง..๓..ครั้ง..แต่ทางกุรข่าครั้งนี้..ไม่ได้โดนตัดน้ำแบบคราวก่อน..ก็มีเสบียง..พร้อม..จึงสามารถ
ต้านทานไว้ได้หมด..ส้รางความเข็ดขยาด..เหนื่อยล้า..และหวาดกลัวให้ทหารอังกฤษ..เพราะ
เวลาที่กุรข่า..ดาหน้า..เงื้อ..คูครี..ไว้ในมือ..จะแหกปากตะโกน..ด้วยความคลั่งแค้น..และขู่ขวัญ
ศัตรู..ทุกครั้ง.................................................................................................
.......................................ต่อตอนหน้า.....................................................................
..............................................................................................................................
................................................................................................................................
..........................................ขุนแผน VS. ขุนแผน.......................................................
.............ในการสร้าง..ขุนแผนเคลือบ..วัตถุประสงค์..ผมได้บอกไปตอนที่แล้ว..พิธี..ก็มีสมเด็จ
พระพนรัตน์..(ซึ่งสมัยนั้น..ท่านคงใหญ่ที่สุด..และเป็นประธานของสงฆ์ทั้งมวล..ไม่มีปรากฏว่า
มี..พระสังฆราช)..ฝ่ายสงฆ์..ฝ่ายฆาราวาส..ก็ต้องถือว่า..สมเด็จพระเนรศวร..เป็นประธาน..คง
จะไม่ต้องพูดถึง..ความยิ่งใหญ่และสำคัญ..ฉะนั้น..พระที่จะนำมาปลุกเสกและบรรจุลงเจดีย์
..ก็ต้อง..สำคัญ..ยิ่งใหญ่ด้วย..จะต้องมีการแกะพิมพ์..และทดลองทำออกมา..เพื่อให้..ตรวจขอ
ข้อทรงพระวินิจฉัย..ทั้งสมเด็จพระพนรัตน์..และ..พระนเรศวร...ความจริงก็ต้องทรงมีข้อวินิจฉัย
ตั้งแต่แบบ..ร่างแล้ว...(ความจริง...ตรงนี้..มีข้อถกเถียงกัน..ในวงการพระ..นักโบราณคดี...
นักประวัติศาสตร์..เกี่ยวกับ.......ขุนแผนใบพุทรา...ที่อยูในกรุวัดใหญ่ฯ..เช่นเดียวกัน...สร้าง
ครั้งเดียวกัน..หรือ..ไม่...หรือ...สร้างภายหลังยุค..พระเนรศวร..พระเอกาทศรถ..แต่ยังอยู่ในยุค
อยุธยา..แล้วเอามาบรรจุในกรุเดียวกัน...(..ต้องยอมรับกัน..นะครับ..ว่าเป็นไปได้..หลังราชวงศ์
สุโขทัย..ปกครองอยุธยา..ถือว่าหมดยุค..เพราะกษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์สุโขทัย(พระ
เจ้าอาทิตยวงศ์)..ถูกปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ปราสาททอง(ออกญากลาโหม-พระเจ้าปราสาททอง)
..สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทร์ที่วัดโคกพระยา...ถ้าพระเจ้าปราสาททองเกรงใจ..วิญญาณสมเด็จ
พระนเรศวร..ก็คงไม่ทำขนาดนั้น..ฉะนั้นถือว่าหมดยุค..การที่..พระ..ขุนนางผู้ใหญ่..จะเปิดกรุ
แล้วสร้าง..พระ..ลงไปบรรจุร่วมกัน..ก็ไม่เสียหายอะไร..เพราะเจดีย์ใหญ่..เจดีย์จะสร้างโดยใคร
..ก็ไม่ใช่ปัญหา..การเมืองสมัยนั้น..หมดยุค..คือ..หมดอำนาจ..ยุคของราชวงศ์ใหม่..ย่อมมี..
อำนาจเต็มที่..ตามสิทธิ..)..........การที่ว่า..สร้างไม่พร้อมกัน..หรือ..คนละคราว..มีเหตุผลเป็นไป
ได้..เพราะ
๑. รูปทรง..พระ..แตกต่างกัน..อย่างชัดเจน..รวมถึงฝีมือการแกะพิมพ์..ความละเอียด
พุทธศิลป์...รายละเอียดต่างๆ..ไม่มีความเหมือน..หรือ..ออกไปในแนวทางเดียวกันเลย...........
๒. เนื้อพระ...เช่นกัน..พระขุนแผนเคลือบ..ทั้งสองพิมพ์(พิมพ์ใหญ่...และ..แขนอ่อน)
เนื้อพระเป็น..ดินเผาสีขาวอมเหลือง..และเคลือบ(นึกถึง..กระเบื้องเคลือบมุงหลังคาโบสถ์ที่มี
เคลือบเขียว..เนื้อกระเบื้องจะไม่แดง..แต่ออกเหลืองๆ..แต่ขุนแผนเคลือบ..เนื้อสีจางกว่า..)
...........เนื้อ..จะเป็นดินที่ร่อนแล้ว.....จึงมีความละเอียด..
........ส่วนขุนแผนใบพุทรา..เนื้อแดงหยาบกว่า..มาก..............
..............................................................................................................................
...................ตอนหน้า..ผมจะมาว่า..อาจสร้างพร้อมกันได้..เพราะสาเหตุอันใด..ต้องคอย...

....................................................สวัสดี....................................................................