ภูติ ผี ปีศาจ ในอิสลาม

ภูติ ผี ปีศาจ ในอิสลามก็คือญิน
มนุษย์เป็นแค่หนึ่งในสิ่งถูกสร้างทั้งหลาย และสิ่งถูกสร้างทั้งหมด ไม่จำเป็นว่ามนุษย์จะต้องมองเห็น สิ่งที่มองไม่เห็นก็เช่น ญินที่ถูกสร้างจากไฟ
มนุษย์ได้ถูกสร้างขึ้นมาจากดิน

ญินมีความสามารถมากกว่ามนุษย์ และเหมือนมนุษย์คือมีทั้งเกเร และดี
ญินที่เกเร จะหลอกลวงมนุษย์ การกลัวไม่ใช่เรื่องหลัก แต่การหลอกแล้วหันเหออกจากแนวทางของพระเจ้านั่นแหล่ะ คือวัตถุประสงค์ของมัน

ญินมีความสามารถในการแปลงกายได้ เป็นคน เป็นสัตว์

ส่วนคนตายในศาสนา อิสลามนั้น พวกเขาไม่ได้กลับมาพบกับคนเป็น
แต่พวกเขาเดินทางไปโลกใหม่ ที่เรียกว่า อะลัมบัรซัก
เป็นสถานที่ ที่ไม่มีใครทราบ เพราะไม่ได้ถูกระบุ

ดังนั้นสิ่งที่เราเห็นว่า คนตายมาทำแบบนู้น แบบนี้
ที่จริงแล้ว พวกมันคือญิน ที่คอยทำให้มนุษย์หลง
เมื่อเราเห็นมัน เราก็ไปตั้งศาล เอาอาหารให้มันกิน
และต่อมาคือ เราก็กราบไหว้มัน ทั้งๆที่มันไม่ได้มีอำนาจใดๆ

 

จริงหรือคะ

ขอบคุณค่ะ เขียนเรื่องนี้ขึ้นมา หวังว่าจะเป็นประโยชน์ ในอนาคตนะคะ

 

อยากทราบเรื่อง วิญญาณ หรือ ญิน
ว่าถ้าเป็นกรณีของ สัตว์อื่นๆที่ไม่ใช่มนุษย์ มีในทางศนาอิสลามแบบไหนบ้างครับ

 

الحمد لله
جزاك الله خيرا

ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนแก่ท่าน

 

มาอ่านค่ะ..............

 

ก่อนอื่นขออธิบายเรื่องวิญญาณก่อน
วิญญาณของมนุษย์ จะเคลื่อนที่สองครั้งคือตอนนอน และ ตอนตาย
วิญญาณเคลื่อนที่ได้ไม่ขึ้นกับ อดีตปัจจุบัน อนาคต
เช่นตอนนอนอาจจะได้เห็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น หรืออาจจะได้รับการดลใจบางอย่างจากพระเจ้า ส่วนตอนตายวิญญาณจะเคลื่อนที่ออกอย่างถาวร และเดินทางสู่โลกใหม่ ซึ่งเป็นที่พักของวิญญาณทั้งหมดของมนุษย์ ก่อนที่มนุษย์จะถูกทำให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้งซึ่งวิญญาณจะกลับไปในร่าง ร่างที่เน่าจะถูกทำให้เป็นเหมือนเดิม โดยอำนาจของพระองค์
สรุป วิญญาณมีการเคลื่อนที่ แต่การเคลื่อนที่นี้ไม่ใช่ล่องลอย แต่มีการควบคุม เมื่อตายแล้ว จะมีที่ไปอย่างชัดเจน ไม่มีลักษณะไร้ญาติ หรือรอที่ใหน หรือมาหลอกหลอน

ส่วนญิน
ญินเป็นสิ่งถูกสร้าง ซึ่งวัสดุในการถูกสร้างคือไฟ ในขณะที่มนุษย์นั้นวัสดุในการถูกสร้างคือดิน ไม่ว่าจะมนุษย์หรือญิณก็ตามล้วนแล้วแต่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการกราบไหว้ต่อพระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว
ญินแปลว่าสิ่งที่ถูกปิดบังไว้ มนุษย์ไม่มีความสามารถที่จะเห็นญินได้ ในขณะที่ญินเห็นความเป็นไปของมนุษย์ มีความรู้สึก มีครอบครัวเหมือนกันกับมนุษย์
ลองนึกสภาพเวลาที่คุณเข้าไปในป่าเขา และแสดงความยะโสโอหังไม่เคารพ คุณก็จะถูกเล่นงานจากญิน เหมือนกับเวลามีใครมาบ้านคุณแล้วเสียงดัง

ญินมีความสามารถมากกว่ามนุษย์ ในอัลกุรอ่านนั้นพระเจ้าได้พูดถึงว่า ญินสามารถขึ้นไปยังชั้นฟ้าเพื่อหาข่าวบางอย่างได้ สามารถแปลงเป็นมนุษย์ได้ สัตว์ได้

เนื่องจากญินถูกสร้างจากไฟ ลักษณะของมันแตกต่างจากเรา จะเอาเราเป็นบรรทัดฐานไม่ได้ ความรู้ที่มนุษย์มีนั้นใช่ว่ามนุษย์จะเก่ง หากแต่ความรู้เหล่านั้นคือความรู้ที่พระผู้เป็นเจ้าได้เปิดไว้ให้มนุษย์รู้ ส่วนความรู้ที่ไม่อนุญาตให้รู้ แต่ให้มนุษย์อยู่อีกล้านปี ก็ไม่มีทางรู้ เช่นญินเป็นยังงัย บ้านพวกเขาเป็นยัง หรือคนตายวิญญาณนั้นไปใหน แต่คุณสามารถสัมผัสการมีอยู่ได้ เช่นคนที่โดนญินเข้า มีอาการตัวสั่น หรือคนตายซึ่งเมื่อวิญญาณออกจากร่างแล้ว ถึงแม้จะเปลี่ยนอวัยวะที่เป็นสาเหตของการตาย มนุุษย์ก็จะไม่ฟื้นอยู่ดี

 

ส่วนสัตว์นั้นก็มีวิญญาณ แต่วิญญาณของสัตว์ไปใหนนั้นไม่ได้บอกไว้ และสัตว์เหล่านั้นไม่ได้ถูกสอบสวน เหมือนกับญินและมนุษย์ สัตว์เหล่านั้นจะปฏิบัติตามคำบัญชาของพระเจ้าอย่างเดียว สิ่งที่ทำไปก็ล้วนแล้วแต่ทำตามวิสัยของมัน เช่นสิงโตถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัตว์กินเนื้อ มันจะไปกินหญ้าไม่ได้ หรือวัวซึ่งเป็นสัตว์กินหญ้า จะออกล่าเนื้อก็ไม่ได้ แต่มนุษย์เลือกได้เช่น เป็นเบาหวานก็กินน้ำตาลลดลง ไม่อยากกินเนื้อก็กินผักอย่างเดียว
ในอัลกุรอ่านนั้น บางครั้งพระเจ้าทรงเรียกแทนตัวพระองค์เองว่า พระผู้อภิบาล หมายความว่าพระองค์ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ของสรรพสิ่งถูกสร้างทั้งหมดในชั้นฟ้า พระองค์ทรงดูแลปัจจัยยังชีพ เช่นเด็กทารกเมื่อคลอดออกมาก็มีน้ำนมมากับมารดาให้ดื่มกิน หรือลูกเจี้ยบที่เพิ่งฟัก ซึ่งยังไม่กินอะไรเพราะมีเสบียงออกมาด้วยติดตัว เหล่านี้ทั้งหมดอยู่ในความดูแลของพระเจ้าเพียงองค์เดียว

 

ที่กล่าวทั้งหมดนี้ เป็นการแลกเปลี่ยนความคิด ไม่ได้มีเจตนาเพื่อลบหลู่ศรัทธาของผู้อื่นแต่อย่างใด หากแต่เป็นไปเพื่อชี้แจงในฐานะที่เป็นพี่น้องคนไทยด้วยกัน
ประเด็นที่ผมยกมาทั้งหมด ผมต้องการจะบอกว่า การทรงเจ้าก็ดี ของขึ้นของพวกสักยันต์ก็ดี การให้หมอดูทำนายก็ดี หรือไสยศาสตร์ก็ดี ทั้งหมดเหล่านี้คือการเรียกญินมาใช้งาน

ท่านสังเกตหรือไม่ว่า ที่กล่าวมาทั้งหมดต้องการเครื่องเซ่นไหว้ทั้งนั้น ถ้าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะต้องไม่ขออาหารมนุษย์กิน แต่ที่มากินนั้นคือญินเพราะพวกนี้แหล่ะที่อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายของมนุษย์

การกระทำของมันนั้นมีสองอย่าง คือหนึ่งต้องการดูถูกมนุษย์ กับสองคือดูถูกพระเจ้า
มนุษย์จะเรียกพวกมันมาใช้ได้ ถ้าไม่ดูถูกตัวเอง ต้องดูถูกพระเจ้า ผมจะยกตัวอย่างให้เห็น
1. คนสักยันต์ เพื่อมีของดี คุณต้องเอาผิวหนังดีๆ ที่ติดมาแต่เกิดยอมให้อะไรซักอย่างมาวาดลวดลายติดตัวไปตลอดชีวิต การดูถูกตัวเองในที่นี้คือของเซ่นไหว้ที่ญินรับไว้
2. ผู้หญิงที่ไปทำไสยศาสตร์ให้คนอื่นมารักเรา เช่นทำเสน่ห์ ซิ่งที่คุณต้องพร้อมใจก็คือการหลับนอนกับหมอไสยศาสตร์ เพราะญินมาร่วมหลับนอนด้วย นั่นคือเครื่องเซ่นไหว้
3. รักยม ลูกกรอก ถ้าไสยศาสตร์แข็งๆ ก็คือเอาเด็กตายมาย่าง ถ้าธรรมดาก็ปลุกเสกแค่มีน้ำแดง ใข่ต้ม ถามว่าใครกิน คำตอบคือญิน

 

ท่านจะไม่เห็นว่านักไสยศาสตร์ หมอผี ต้องการสิ่งดีจากตัวคนที่ไปทำ
ไสยศาสตร์ยิ่งแก่กล้ายิ่งต้องใช้ของเลวๆ ที่ญินยอมรับเป็นเครื่องเซ่นไหว้
เช่น การนำเลือดประจำเดือนมาเขียนกุรอ่าน เพื่อเป็นของขลัง
การใช้อวัยวะมนุษย์ เช่นนิ้วคนตาย เพื่อสกัดน้ำมันมาทำน้ำมันพราย หรือเด็กตายมาย่างเป็นลูกกรอก

เหล่านี้ทั้งหมด คือญิน (ชัยตอน) ต้องการทำให้มนุษย์หลงออกจากสัจธรรม
โดยอาศัยการที่มนุษย์มองไม่เห็นพวกมัน มาเป็นประโยชน์ และเพื่อให้นำอาหาร เครื่องเซ่นไหว้ ไปให้มันกิน

 

เรื่องรอยสัก
แต่ผม
ชอบมากๆเลย ยันต์แถว ที่อยู่กลางหลังของนักรบโบราญของเรา กับดาบคู่ไพล่หลัง สวยงามดีออก

อืมๆชาวพุทธเราๆ ก็ทำความรู้จักพระเจ้านะครับ แต่ไม่พยายามขออะไร หรือโทษการกระทำใดๆว่าเป็นจากพระเจ้า เราจะไม่ให้พระเจ้าเหนื่อยกับเรา เราจะไปนิพพานกัน...

เปิดใจกันครับ ศึกษากันไป เพราะเราต้องอยู่ด้วยกัน ต้องยอมรับกันให้ได้
ประเทศนี้จะได้เป็นประเทศที่มีความหลากหลายที่สุดในโลก

 

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเวปพลังจิตที่เปิดกว้างแก่เราในการสนทนา
และขอบคุณคุณ paura ที่ร่วมสนทนา
และยินดีที่จะตอบคำถามแก่ผู้ที่สนใจอยากรู้หลักความเชื่อของอิสลาม
ผมจะตอบในกรณีที่รู้เท่านั้นนะครับ หากเกินกว่านั้นต้องเป็นหน้าที่ของคนที่รู้มากกว่าผม

ก่อนอื่นต้องชี้แจงคุณ paura ก่อนนะครับว่า
พระเจ้านั้นไม่เหนื่อย ไม่พักผ่อน ไม่นอนครับ

กระทู้นี้เป็นเรื่อง ผีๆ จึงพูดถึงเรื่องของพระเจ้าในส่วนที่เกี่ยวโยงกับวิญญาณ ญิน และสัตว์เท่านั้นครับ

ใครที่สงสัยในเรื่องของความเร้นลับ เชิญครับ

 

เราต้องการคนแบบท่านอีกมาก :boo:

 

ผมจะพูดถึงเรื่องของญิน ที่มีผลกระทบต่อมนุษย์ และอะไรเป็นสาเหตุต่อไปนะครับ

 

ได้เปิดโลกทัศน์ มุมมองอื่นที่น่าสนใจ ยินดีครับ

ตัวผมเองก็ชอบศึกษาหาความรู้ในเชิงศาสนาและประวัติศาสตร์

อยู่แล้ว เชิญครับ ผมจะติดตามมุมของเพื่อนต่างศาสนาครับ

 

ก่อนจะกล่าวถึงเรื่องอื่น ผมพูดถึงลักษณะทั่วไปของญินก่อน
พวกญินนั้นเหมือนเรา คือมีสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ มีทั้งเกเร และไม่เกเร
พวกเกเร จะเรียกว่าชัยตอน ภาษาอังกฤษคือ ซาตาน
คำว่าซาตาน อย่าคิดว่ามันคือปีศาจที่ต่อกรกับพระเจ้า เหมือนที่ดูในนิยายนะครับ
เพราะมนุษย์ที่เกเร กินเหล้าเมายา ระราน รวมทั้งพวกที่ชอบชักชวนคนอื่นให้ทำเรื่องเลวๆ ก็เป็นซาตานเหมือนกัน ในอัลกุรอ่านนั้นพระเจ้าได้กล่าวว่า ซาตานคือพวกที่มาจากมนุษย์และญิน

ญินนั้นอาศัยอยู่ที่ใหน
เมื่อพูดถึงญิน ทุกท่านลืมทฤษฎีของมนุษย์ทั้งหมดได้เลยครับ เพราะญินถูกสร้างจากไฟ
ความรู้ของมนุษย์ที่ภาคภูมิใจนั้น แท้จริงแล้วแค่เสี้ยวเดียวของความรู้ทั้งหมด ณ ที่พระเจ้า ญินสามารถเข้ามาอาศัยในตัวมนุษย์ได้ จำคำตรงนี้ไว้ให้ดีนะครับ เมื่อผมพูดถึงไสยศาสตร์แล้วทุกคนจะเข้าใจ

ญินที่ดีทั่วไปที่เหมือนกับคนที่ดี ญินพวกนี้จะอาศัยในทีที่มนุษย์ไม่อาศัย เช่นในป่า ภูเขา
ในแม่น้ำ ทะเล บนอากาศ ญินจะผ่านมาในหมู่มนุษย์บ้างแต่ก็จะผ่านไป

แต่ญินพวกหนึ่งซึ่งเกเร พวกนี้แหล่ะคือที่มาที่ทำให้คนที่ไม่รู้ต้องไปตั้งศาล เอาอาหารไปให้กิน ซึ่งญินนั้นพวกมันหากินเหมือนมนุษย์ แต่พวกมันทำให้มนุษย์กลัว เช่นมาปรากฎกายให้เห็น โดยเฉพาะการกระทำบางอย่างของมนุษย์ที่เป็นเหตุให้ญินใช้สร้างสถานการณ์ เช่นมีอุบัติบริเวณทางโค้ง ก็ไปตั้งศาล พอวันดีคือดี มันก็จะปรากฎตัวให้มนุษย์เห็นเพื่อสร้างความเฮี้ยน แล้วเราก็เอาอาหารไปให้มัน จุดธูปไหว้มัน ขอให้ทุกคนลองคิดง่ายๆว่า ในประเทศอื่นก็มีการตายบริเวณโค้งเหมือนกัน แต่ทำไมจึงไม่เห็นพวกมัน
สาเหตุก็เพราะว่าพวกมันไม่เคยได้รับของเซ่นไหว้จากมนุษย์ในบริเวณนั้น

 

ญินที่เกเรนั้น พวกมันจะเข้ามาหลอกลวงมนุษย์ให้ไปกราบไปไหว้มัน
เข้าไปอาศัยในที่ที่พวกมันชอบ เช่นรูปปั้น เสาบ้านที่ผูกผ้ากราบไหว้ ศาลที่มนุษย์ตั้งขึ้นแล้วคิดว่ามีคนตายอาศัย หรือผีบ้านผีเรื่อน ทั้งหมดที่กล่าวมาและอื่นๆอีก แท้ที่จริงแล้วพวกที่อาศัยก็คือ ญินนั้นเอง เมื่อท่านตั้งโต๊ะไหว้ในบ้าน มันก็เข้าไปอยู่ในบ้านท่าน ถ้าเอาไสยศาสตร์บางอย่าง เช่นรักยมมาเลี้ยง ท่านก็เอาน้ำแดง ใข่ต้ม นั่นแหล่ะมาเลี้ยงพวกมัน เมื่อขาดน้ำ ขาดอาหารเมื่อไหร่ มันอาจจะแสดงตัวให้เห็น เพื่อสร้างความเฮี้ยนทันที

 

ให้ลองคิดง่ายๆว่า ของที่ท่านว่าขลังทั้งหลายนั้น
หากท่านไม่กราบไม่ไหว้มัน ทิ้งไว้ละเลย เช่นลายสักที่สักไว้ แล้วไม่เคยปลุกของเลย
หรือรักยมเลี้ยงไว้ แล้วท่านก็ย้ายบ้านไม่เอาไป ทิ้งไว้ซักเดือนมันก็เลิกเฮี้ยนแล้วครับ เพราะว่าญินขาดน้ำ ขาดเสบียง ขาดมนุษย์ไปกราบไปไหว้มัน ญินจำเป็นต้องย้ายถิ่นฐาน ไปเกเรที่อื่น

 

ผมเชื่อว่าทุกคนมีคำถามเกิดขึ้นในใจว่าทำไมบางครั้งญินปรากฎกายแล้วเหมือนมนุษย์ที่ตายบริเวณนั้น
ท่านนบีมูฮำมัดได้กล่าวว่า มนุษย์ทุกคนจะมีญินที่อยู่ร่วมกับเขา ซึ่งเรียกญินพวกนี้ว่าอามิร ญินพวกนี้รู้จักเราดีกว่าพ่อแม่เราซะอีก เมื่อเรารับประทานอาหาร ดื่มน้ำ พวกมันก็ร่วมวงกับเราเช่นกัน เมื่อความตายได้มาถึงยังมนุษย์ พวกญินยังมีชีวิตอยู่เพราะญินนั้นมีอายุใขมากกว่ามนุษย์ เมื่อเราตาย พวกญินยังไม่รู้จะไปที่ใด พวกมันยังคงวนเวียนบริเวณนั้น บริเวณที่มนุษย์ที่มันได้เคยอยู่ร่วมด้วยนั้นเสียชีวิต ถ้าท่านตั้งศาลหรือกราบไหว้เมื่อไหร่ มันจะอาศัยอยู่ตรงนั้นอย่างถาวร

 

เป็นสิ่งที่ดีที่ได้เรียนรู้ในคำสอนของศาสนาอี่นๆ พวกเราชาวพุทธเปิดกว้างอยู่แล้วครับเพราะพระพุทธองค์ทรงสอนพวกเรายืดถือในหลักของความเป็นจริงและนำไปปฎิบัติ์ ท่านไม่เคยห้ามไม่ให้ชาวพุทธไปเรียนรู้ในศาสนาอื่น.

 

มาถึงตรงนี้ ผมอยากให้ทุกคนลองคิดง่ายๆนะครับ
วิญญาณของเรานั้น มันคือศาสตร์ที่พระเจ้าไม่ได้เปิดโอกาสให้เราไปรับรู้
มันเป็นอย่างไร ลักษณะอย่างไร ตายแล้วจะไปอยู่โลกใหม่ โลกใหม่อยู่ที่ใหนไม่มีใครรู้
แต่ที่แน่ๆคือวิญญาณนั้นไม่มีร่างอีกแล้ว เมื่อไม่มีร่างแล้ววิญญาณจะมาแสดงตัวให้มนุษย์เห็นได้อย่างไร แท้ที่จริงแล้วที่เห็นก็คือญิน