ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับการสร้างพระบรมรูปเจ้าแม่จามเทวี ด้วยครับ

พร้อมขอฝากความรู้และประสบการณ์เล็กๆน้อยๆดูจะคล้ายนอกตำรา การจะสร้างพระบรมรูปขององค์พระมหากษัตริย์มีกฎหมายบัญญัติไว้ครับ ดูเหมือนจะมีผลบังคับใช้สมัยรัฐบาล คมช.มีพิธีรีตองและขั้นตอนที่รัดกุมอยู่มากทีเดียว เช่นจะต้องผ่านสำนักพระราชวัง ผ่านกรมศิลปากร ฯลฯ กับจะต้องทำในรูปของมูลนิธิเพื่อดูแลพระบรมรูปต่อไป
ส่วนพิธีการก็จะต้องกระทำอย่างสมพระเกียรติ มีหลักฐานที่พอค้นหาได้ก็กรณีสร้างอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินที่วงเวียนใหญ่ พิธีเททองหล่อองค์ก็ต้องมีผู้แทนพระองค์มาเป็นประธาน ตอนกระทำพิธีเปิดและบวงสรวงก็ต้องมีพิธีพราหมณ์และทรงเสด็จพระราชดำเนินฯ (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)
ส่วนใหญ่ที่มีการสร้างในระยะหลังๆนี้ มักจะเป็นพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชครับ ก็ใช้วิธีการเลี่ยงบาลีกันโดยทำในรูปของวัดเป็นผู้ดำเนินการ อย่างประสบการณ์ของผมที่วัดเวียงคำ(วัดเวียงกาขาว) และวัดเวียงเชียงรุ้ง ที่เชียงรายทั้งสองวัด ก็ทำในรูปนี้ครับ สำหรับวัดเวียงเชียงรุ้งซึ่งจัดสร้างทีหลังก็ได้บทเรียนจากครั้งแรกจึงได้มาเน้นที่พิธีพราหมณ์ซึ่งถือว่าสำคัญมาก ครั้งนั้นก็ได้รับความเมตตาจากท่านรองราชครู(พราหมณ์ขจร) ไปเป็นเจ้าพิธีให้ครับ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ราบรื่นด้วยดีทุกประการ
สำหรับกรณีของคุณดอกไม้เมืองบนในครั้งนี้น่าจะเตรียมการที่กราบทูลหรือกราบบังคมทูลองค์ใดองค์หนึ่งเสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีก็จะเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงนะครับ (ขออนุญาตเสนอแนะนะครับ)

 

**************************************
ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ ขอเรียนถาม

1.กรณีที่เขาสร้างเป็นองค์ไว้ให้เช่าตามที่ต่าง ๆ ก็อยู่ในขอบข่ายที่ว่ามาใช่ไหมคะ

2.ถ้าเลี่ยงบาลี ให้ทางวัดเวียงท่ากาน ออกหน้า พอจะลด
ขั้นตอนได้บ้างไหมคะ ที่พยายามเลี่ยงเพราะเคยมีประสบการณ์
ตอนเป็นกรรมการจัดทำเหรียญรัชกาลที่ 6 ของธนาคาร
ในโอกาสครบรอบ 90 ปีที่ทรงก่อตั้งมา โดยกราบบังคมทูลสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ เป็นองค์ประธาน
ในพระราชพิธี ทรงโปรดเกล้าให้พระองค์หริภาเสด็จเป็นผู้แทน
พระองค์ ระเบียบขั้นตอนเข้มแบบที่คุณจงรักภักดีว่ามาแหละค่ะ ดีที่เป็นหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวเนื่องในพระองค์ล้นเกล้ารัชกาลที่6
ถึงต้องเตรียมงานใหญ่โตก็ยังสะดวกพอควร

แต่ครั้งนี้ เราทำแบบประชาชนธรรมดาไม่ใช่หน่วยงานรัฐ
เลยอดกังวลไม่ได้

ประสบการณ์ที่ยากกว่าคือตอนทำปฏิทินพระบรมสาทิศลักษณ์ ร.6 วาดแบบเสนอให้พิจารณาหลังจากทำหนังสือกราบบังคมทูล
ขอพระบรมราชานุญาตได้แล้ว แก้แบบเป็นสิบ สิบครั้ง
หนุ่มกว่าที่ควรเป็น ก็ต้องแก้ ทุกจุดตรวจหนักมาก
(ก็เข้าใจอีกนั่นแหละค่ะ ไม่ตำหนิเลย แต่..อดท้อไม่ได้
ทั้งนี้ก็หวังแต่พระบารมีพระแม่เจ้าทางสดวก อย่ามีอุปสรรคเท่านั้น)


กรณีที่มีนายพลนอกราชการท่านหนึ่งรวมคณะจัดสร้าง
พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวร เพื่ออัญเชิญไปไตแลง
หมายความว่า เขาต้องมีผู้แทนพระองค์หรือ ทรงเสด็จ
พระราชดำเนิน ด้วยเหมือนกันหรือคะ

2.ตอนที่คุณจงรักภักดีดำเนินการที่วัดดังกล่าว ต้องม
ีพระองค์ใดเสด็จฯหรือไม่คะ

3.พิธีพราหมณ์ไม่ค่อยกังวล เพราะคงต้องพึ่งท่านพระราชครูวามฯ
อยู่แล้ว หมายความว่าตอนคุณจงรักฯดำเนินการ ท่านพราหมณ์ขจร
เป็นผู้ประสานงานให้ทั้งหมด ?

4.มีอีกวิธี คือเดี๋ยวนี้มีพวกบริษัทรับจัด เขาเดินเรื่องให้หมดทุกจุด
ทุกขั้นตอน เราจ่ายค่าจ้างอย่างเดียว (ตัวอย่างก็จากที่เจอตอน
ทำของธนาคารเช่นเคย สะดวก แต่เสียค่าใช้จ่ายมาก (กระเป๋าเราแฟบกว่ากระเป๋าแบงค์ )


5.ขอรบกวนทราบรายละเอียดกรณีวัดเวียงเชียงรุ้งได้ไหมคะ

ขอนอกประเด็นนิด วัดนี้อยู่ตรงไหนของเชียงรายคะ
ได้เห็นชื่อแล้วชอบจังเลย แล้วพระองค์ท่านไปเกี่ยวกับวัดนี้อย่างไร

ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ

 

***********************************

จริงนะ น้องโมเย อย่าพูดเล่นให้พี่ดีใจ พี่อยากทำจริง ๆ
วัน ๆ ได้แต่เขียนกลอนบ้าง ร้อยแก้วบ้าง ตามแต่อารมณ์ห่วง
และสงสารพวกเขาจะพาไป เทศกาลทีก็ ใส่กรอบส่งไปให้บนดอย

จนวันหนึ่ง เห็นบทกลอนของตัวเองไปลงเว็ปฯของไตแลง
แล้วหน่วยPR ของกองกำลัง mail มาขออนุญาต เป็นความปิติ
ความสุขในใจ ที่เห็นว่า พวกเขารับรู้ ความหวังดีของเราได้
และเขามีความสุข พึงใจ ที่มีคนนอกเข้าใจพวกเขา

เขาเข้าใจในสิ่งที่เราพยายามสื่อความเห็นใจปรารถนาดีไปให้พวกเขา

จึงอยากสร้างสรรอะไรดีดีไปให้เป็นการเซอร์ไพรซ์ คนบนโน้น

เอานะโมเย เดี๋ยวพี่จะจัดพาน้องขึ้นไปร้องเพลงกล่อมขวัญทหาร
ไต บนฐาน นอกจากได้กุศลแล้ว แหะ แหะ ยังเท่ซะไม่มี

ต่อจากนั้นค่อยไปเดินสายที่รัฐฉานด้านใน ๆ (รับรองไม่ให้เจอตาหานพม่าหรอก พวกนี้น่ากลัว มี
ใบอนุญาตจากกองทัพ ให้ละเมิดผู้หญิงและเด็กได้ ใครมีผลงานถือเป็นชิ้นโบแดง...ซาตานจริง ๆ)


[ame=http://www.youtube.com/watch?v=tCR764PAlTA]YouTube - เพลงไทยใหญ่ เอาหัวใจน้องกว่าแล[/ame]

 

คุณจงรักภักดีคะ

มาหวนคิดตามที่กรุณาแนะมาอีกที พอมองเห็นช่องทางแล้ว
ถ้าเป็นไปได้ คงมีแต่พระองค์หริภาเท่านั้นที่ทรงเหมาะสมด้วย
ประการทั้งปวง

เพราะปัจจุับัน ทรงให้ความสนพระทัย เวียงท่ากานมาก
ทรงทำอะไรหลายอย่างให้ที่นี่ ทั้งที่เป็นเมืองโบราณเล็ก ๆ นี่นับเป็นสิ่งอัศจรรย์เช่นกันค่ะ

องค์หริภา ทรงช่วยชุมชนเวียงท่ากาน อนุรักษ์โบราณสถานมรดกลํ้าค่านับพันปี

 

ครับ เป็นคำตอบสุดท้ายเหมือนเช่นที่คิดไว้ คุณดอกไม้เมืองบนตีความได้ตรงประเด็นครับ ขั้นตอนแรกๆก็ใช้วิธีเดิมๆไป ส่วนขั้นตอนสุดท้ายใช้วิธีตามที่คิดไว้นั่นแหละครับ

มีผู้หวังดีฝากเตือนมาในเรื่อ่งรายละเอียดและข้อตกลงในการว่าจ้างกับผู้แกะสลัก ไม่ทราบว่าผ่านคนกลางหรือดีลโดยตรงกับช่าง ตรงนี้ก็อาจจะเป็นอีกปัญหาหนึ่งได้ เช่นจ่ายเงินตามงวดไปแล้วแต่ยังไม่ถึงมือช่างดังนี้เป็นต้น
ข้อนี้ลองสอบถามคุณFrorence125 ผู้มีประสบการณ์ตรงอีกครั้งนะครับ

กรณีวัดเวียงเชียงรุ้ง ขอเรียบเรียงก่อน แล้วจะบอกเล่าเก้าสิบต่อไปนะครับ

 

สำหรับข้อ 1 และ ข้อ 2 บางตอน น่าจะเป็นเช่นนั้นนะครับ ส่วนกรณีดอยไตแลง เข้าใจว่าได้ทำไว้ก่อนที่จะเกิดมี พรบ. นี้ขึ้นมา แล้วขอเดาต่อไปว่าตอนที่หล่อพระองค์ก็อาจจะประกอบพิธีที่วัดเช่นเดียวกันกับกรณีวัดเวียงคำและวัดเวียงเชียงรุ้งครับ

ตอบข้อ 2 อีกข้อตอนเททองทั้ง 2 ครั้ง ไม่มีผู้แทนพระองค์ ด้วยการเลี่ยงให้พระสงฆ์เป็นประธานในพิธี ฆราวาสเป็นเพียงผู้ร่วมงาน
ส่วนขั้นตอนการประดิษฐานและเปิดพระบรมรูป ซึ่งจะต้องมีพิธิบวงสรวงอีกครั้งและมีประธานในพิธี ที่ควรจะเป็นระดับเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน ผมไม่ได้ไปร่วมทั้งสองวัด แต่ก็ได้ชี้แนะไปแล้วว่าควรจะต้องทำอย่างนี้ เดิมทราบว่าที่วัดเวียงคำได้เตรียมการที่จะกราบบังคมทูลฯ สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ แต่ได้ทราบภายหลังว่าไม่ได้ทำตามนั้น ส่วนที่วัดเวียงเชียงรุ้ง ผมไม่แน่ใจ แต่ที่แน่นอนคือพิธีพราหมณ์อาศัยท่านพราหมณ์ขจรครับ

ตอบข้อ 3 รายละเอียดทั้งหมดด้านพิธีพราหมณ์ ท่านพราหมณ์ขจรรับผิดชอบเป็นผู้ดำเนินการให้ทั้งสิ้น

ตอบข้อ 4 สะดวกดีครับ (ถ้ามีเงิน) แต่เรื่องใดที่จะมอบให้วัดเป็นผู้ดำเนินการ ก็ควรต้องรัดกุมหน่อยนะครับ เดี๋ยวงบจะบานปลาย

ขออนุญาตเสนอแนะข้อคิดที่ตัวผมเองคิดว่าเป็นหัวใจหรือเป็นลอจิก ของงานนี้ น่าจะอยู่ที่เรื่องของธรรมเนียมกับประเพณีเป็นหัวใจสำคัญ ถ้าเป็นเรื่องของการหล่อ ต้องถือว่าพิธีเททอง เป็นเรื่องสำคัญของขั้นตอนนี้ ขั้นตอนประดิษฐานก็เป็นหัวใจของขั้นตอนสุดท้าย จะขอพูดเฉพาะขั้นตอนหล้งครับ ก็จะมีทั้งพิธีพราหมณ์และพิธีสงฆ์ควบคู่กันไป ใช่ไหมครับ พิธีพราหมณ์ ก็ควรต้องมอบให้พราหมณ์ ท่านต้องรู้ดีกว่าคนอื่น พิธิสงฆ์ สงฆ์ท่านก็ต้องรู้หน้าที่ของท่านดี เราเพียงคอยประสานงานและกำกับดูแล ส่วนองค์ประธานในพิธีนับว่าสำคํญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะจะต้องเป็นผู้มีบุญบารมีเท่าเทียมหรือใกล้เคียงกันกับเจ้าของตัวตนของพระบรมรูปนั้นๆ เรื่องนี้ก็เป็นหน้าที่ของท่านเจ้าภาพครับ
(คำตอบสุดท้าย)

ตอบข้อ 5 ขอติดไว้ก่อนนะครับ

 

"หัวเจ้าซุง" คือสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ขออนุญาต ทะลุกลางปล้องพี่ๆคุยกัน เมื่อคืนไปเจอข้อมูลที่ค่อนข้างจะชัดเจนอีกเรื่องหนึ่งค่ะ ขออนุญาติโพส ขัดจังหวะนิ๊ดนึงค่ะ

จากหน้า 58 หนังสือ เจาะตำนาน สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เขียนโดย ทันตแพทย์สม สุจีรา<!-- google_ad_section_end -->

ทำให้ที่เคยอ่านข้อมูลจากบันทึกราชวงศ์หมิงหรือ หมิงสือลู่ ว่าวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๑๑๖ Hua Zhao Song ผู้นำเครื่องราชบรรณาการไปเมืองจีนก็คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช คือพระองค์ท่านนั่นเองที่ไปเมืองจีนปีนั้น ขนลุกเลย เมื่อคืนท่านดลใจให้เอาหนังสือเจาะตำนานมานั่งอ่านอีกครั้ง อ่านไปหลับไป จะหลับก็หลับไม่ได้ จะอ่านก็ไม่อยากอ่าน แต่ต้องอ่านเหมือนใครบังคับ อ่านแบบเอื่อยๆไปจนพบหน้า 58 เขาเขียนไว้ว่า คนจีนเรียกพระองค์ท่านว่า หัวเจ้าซุง ข้าพเจ้าขนลุกพรึบ มิน่าเล่าให้นั่งอ่านใหม่อีกครั้ง กว่าจะอ่านได้ 58 หน้า อ่านตั้งแต่ 4 ทุ่ม อ่านแบบหลับๆตื่นๆ ไปเจอหน้า 58 ตอนตีสอง ง่วงยังไงก็นอนไม่ได้ ต้องอ่าน จิตมันไม่หลับ แต่พอเจอข้อมูลปุ๊บก็เข้านอนได้

อ้างอิง หมิงสือลู่

Hua zhao song อ่านว่า หัวเจ้าซุง หรือ หัวเจ้าสง ก็ได้ค่ะ

 

Another ruler of Siam appears in the MSL in 1573. However, the various editions differ on how his name should be rendered. The standard Taiwan edition gives his name as "Hua-zhao-song" while variants in other editions include "Hua-zhao-zhu" and "Hua-tai-song" It is difficult to determine what name or title any of these might have represented. The similarity of the characters by which the three differ shows that the variants derive simply from copying errors, but the
original characters cannot be ascertained. According to the MSL, the purpose of the mission which he sent to China at this time was to request a seal and tally-slips to replace those destroyed by "Dong-niu" (Toungoo). [87] In the MSL we read of three other rulers in Siam during the late
​

 

มีอีกชื่อหนึ่งที่ยังไม่แน่ใจ จึงไม่เคยพูดถึง นั่นคือชื่อ Niu-da-la
ทางสายธาตุไม่เคยเขียนถึงชื่อนี้เพราะไม่แน่ใจว่าเป็นชื่อของใคร
แต่ถ้า Hua zhao song คือสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแล้ว
ทางสายธาตุค่อนข้างแน่ใจขึ้นว่า Niu-da-la จะหมายถึงพระองค์ใด

 

ทางสายธาตุคิดว่าในสมัยนั้นพระนางมณีรัตนาทรงช่วยแบ่งเบาพระราชภาระของสมเด็จพระนเรศวรในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะด้านเสบียงอาหาร การค้าระหว่างประเทศ และอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือเรื่องการทหาร คิดว่าทรงช่วยแบบไม่ได้ออกไปรบทัพจับศึก แต่ทรงช่วยแบบที่ทรงช่วยได้ เกริ่นออกแขกไว้ ท่านๆจะได้อยากรู้ว่า ทรงช่วยพระราชสวามีอย่างไรที่เรียกว่าแบบที่ทรงช่วยได้ วันนี้วันตรุษจีน เรียกว่าออกโรงหน้าเวทีดีกว่าค่ะ จะเขียนเรื่องนี้อย่างไรดีหนอ เพื่อให้เป็นเพียงข้อสมมุติฐานที่มีบันทึกราชวงศ์หมิงสนับสนุน โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านนะคะ เพราะจะเป็นการแปลพงศาวดารบันทึกราชวงศ์หมิงในตอนหนึ่งแล้ววิเคราะห์สั้นๆด้วยตนเองให้ท่านลองพิจารณาดู ขอเวลาหาข้อมูลที่เกี่ยวกับ พระองค์ Niu-da-la ในบันทึกหมิงสือลู่ก่อนค่ะ

Niu อ่านว่า หนิว
da อ่านว่า ต้า d ในระบบออกเสียง pinyin อ่านออกเสียงเป็น ต.เต่า
la อ่านว่า ลา

Hua อ่านว่า หัว
zhao อ่านว่า เจ้า zh ในระบบออกเสียง pinyin อ่านออกเสียงเป็น จ.จาน
song อ่านว่า ซ่ง s ในระบบออกเสียง pinyin น่าจะเป็น ซ.โซ่ แต่ถ้า sh น่าจะเท่ากับ ส.เสือ

 

ขอตอบเท่าที่พอจะจำได้นะครับ

<TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0 width="90%" bgColor=#ffffff align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffff><TD class=dee height=40 vAlign=center borderColor=#ffffff align=middle>ขอเชิญร่วมทำบุญเททองหล่อพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช</TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD height="100%" borderColor=#ffffff align=left>พระโกเมศ สุเมธโส เจริญพรว่า เนื่องด้วยพระอาจารย์สังกา มหาปญฺโญ คณะศรัทธาวัดเวียงเชียงรุ้ง บ้านห้วยเคียนใต้ ม. 10 ต.ทุ่งก่อ อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย และ คณะศิษยานุศิษย์ มีความประสงค์จะสร้างพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประดิษฐานไว้วัดเวียงเชียงรุ้ง เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและเผยแผ่พระบุญญาธิการ และ พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ โดยจะทำพิธีเททองหล่อพระบรมรูป ในวันอังคาร ที่ 23 มิถุนายน 2552 เวลา 09.09 น. ณ วัดเวียงเชียงรุ้ง จึงใคร่ขอเรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมพิธีในวันเวลาดังกล่าว

ทั้งพิธีสงฆ์และพิธีพราหมณ์ต่างก็ทำกันไป ขั้นตอนนี้ดูพิธีพราหมณ์จะเป็นหลักครับ เพราะจะต้องอัญเชิญเทพ เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ครับ ถ้ากระทำพิธีไม่ถูกต้องท่านก็จะไม่เสด็จมา เป็นเหตุเป็นผลชัดเจนดีนะครับ
อย่างที่ได้เรียนให้ทราบไว้แล้วรายละเอียดต่างรวมทั้งเครื่องไหว้บูชาต่างๆ ทางท่านพราหมณ์ขจรท่านกรุณารับจัดการหมด ไม่ต้องมานั่งเถียงกันเรื่องหัวหมู บายศรีฯลฯ

ภายหลังเมื่อขั้นตอนการหล่อพระองค์เรียบร้อยแล้วก็มีการอันเชิญเคลื่อนย้ายเข้าประดิษฐานในศาลาที่ประทับที่เตรียมไว้ ของคุณดอกไม้เมืองบนก็คงจะต้องเริ่มกันที่ขั้นตอนนี้ โดยปกติเมื่อเคลื่อนย้ายเข้าสู่สถานที่ที่ประทับเรียบร้อยแล้ว จะต้องมีพิธีเปิดและบวงสรวง ซึ่งผมว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญไม่น้อยและพิธีการก็ต้องทำให้สมพระเกียรติทั้งขององค์พระบรมรูปและขององค์ผู้เป็นประธานครับ คุณดอกไม้เมืองบนคงเข้าใจและนึกภาพออกนะครับ

แต่ที่วัดเวียงเชียงรุ้งขั้นตอนสุดท้านนี้ผมไม่ได้ไปร่วมด้วย แต่ก็ได้กำชับผู้ที่เกี่ยวข้องให้เกิดความเข้าใจและให้ความสำคัญ พร้อมแนะนำทั้งวิธีเลี่ยงบาลีไว้ด้วยครับ

ต่อคำถามที่ว่าพระองค์ท่านมีความเกี่ยวพันกับวัดนี้อย่างไร
ได้ทราบจากผู้ที่เป็นกำลังสำคัญในการดำเนินการและผู้แทนของทางวัดที่มาชวนผมไปร่วมพิธี พอสรุปได้ว่า พระอาจารย์สังกา องค์ที่เป็นกำลังหลักในการสร้างพระบรมรูปในครังนี้ท่านได้มาปักกลดธุดงควัตร อยู่ ณ บริเวณที่สร้างพระบรมรูป คืนหนึ่งได้นิมิตรว่าพระองค์ท่านทรงม้าผ่านมาและหยุดนมัสการและสนทนาธรรมกับพระอาจารย์สังกา และพระองค์ท่านยังได้มอบคาถาให้กับพระอาจารย์สังกาไว้บทหนึ่ง (ท่านใดอยากทราบคาถาบทนี้ แนะนำให้ไปกราบพระอาจารย์สังกา ที่วัดนะครับ)

แผนที่เส้นทางไปวัด อยู่ที่ตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียงรุ้งครับ ห่างออกไปจาก อำเภอเมือง โดยทางรถยนต์ประมาณครึ่งชั่วโมง

เอวัง ครับ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมขออย่าได้เกรงใจนะครับ ใช่คนอื่นไกล ลูกหลานพระองค์ดำด้วยกัน

"ข้าฯ จักรักษามรดกของพระองค์ท่าน..ไว้ด้วยเลือด"

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

**************************
ขอบคุณทุกประเด็น ชัดเจนทุกกรณี ทราบแล้วเปลี่ยน ครับผม !

ขอให้การเตรียมงานเป็นรูปเป็นร่าง ใกล้ความจริงแล้ว
คงได้เชิญท่านที่สนใจให้ไปร่วมพิธี บวงสรวง
ตรงนี้ เดี๋ยวขอไปกราบหารือ ท่านพระราชครูวามเทพมุนี
ก่อน ได้ความรู้อะไรมาจะนำมาเผื่อพวกเราค่ะ

 

๔๐๐ ปีเวียนมาครบบรรจบสิ้น .............ที่ลูกรักหันแปรมาหนีหาย
ครานี้ได้พบปะสาธยาย..................ถึงเวลาเบิกฟ้านครกรุง
โอ้ลูกรักครานี่มิหาญหัก..................อย่าน้อยใจพ่ออีกเปนแน่นหนา
มาครานี้พ่อหวังเจ้าเฝ้าศรัทธา............ร่วมเบิกฟ้าวันใหม่ขวัญนคร
อโยธยากาลนี้แม้สิ้นแล้ว...............แต่ดวงแก้วยังคงอยู่มีเลือนหาย
อันหน้าที่ยังประจักษ์มิเสื่อมคลาย.......องค์พระนเรศไซร้ร่วมฟื้นคืนแผ่นดิน
พระพี่นางร่วมด้วยวิเศษสร้าง...........พระแม่เจ้าวิสุทธิกษัตริย์อยู่แห่งไหน
มาร่วมกันเสกสรรร่างแผ่นดิน.........พ่อนั้นไซร้เสด็จเปนร่มฉัตรเกศธรนินทร์
สมเด็จยายนั้นเล่าอยู่กลางหทัย...........อันวิเศษสิ้นยิ่งกว่าครั้งไหนไหน
ให้แผ่นดินพลิกฟื้นความเปนไทย........มิเป็นทาสต่างไทยดายแผ่นดิน
ปราสาททองรอที่ไหนโอ้ลูกเอ๋ย........มาหากันด้วยนิจปิ่นสยาม
ทหารกล้าของเราใจเบิกบาน............ได้ฟื้นชาติ พลิกผืน คืนแผ่นดิน
ให้คงอยู่ไว้ซึ่ง ศาสน์ กษัตริย์...........มิลดละใครมาย่ำยีสิ้น
จะต่อตีต่อสู้เพื่อผืนดิน.................รักษาไว้ซึ่งกษัตริย์ เลือดขัตติยา
ทหารพระนเรศอยู่ไหนหนา...............จงมาร่วมช่วยกันขันอาสา
ทหารแต่ก่อนเดิมนั้นก็มา................เพื่อพลิกฟื้นคืนแผ่นดินปิ่นมณฑล
นับจากนี้ต่อไปภายภาคหน้า............ปวงราษฎร์ไซร้ดีเลิศเป็นสุขศรี
คงสืบไว้ซึ่งศาสน์อันมั่งมี..............กษัตราตั้งไว้คู่แผ่นดิน
..............................................................................

 

ขออนุโมทนากับโครงการดีๆเช่นนี้ครับ

 

<TABLE id=post3571609 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2> </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: 0px; BORDER-TOP: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt1 align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=thead>ทางสายธาตุ</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ดูรายละเอียดของ</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ ทางสายธาตุ</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ทางสายธาตุ Donation Stats</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>View ทางสายธาตุ's Videos </TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE id=post3573395 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: 0px" class=thead> 22-07-2010, 04:23 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: 0px; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->puken<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3573395", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jan 2005
ข้อความ: 268
พลังการให้คะแนน: 183


</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3573395 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->และแล้วความคิดผมที่ว่าสมเด็จพระนเรศวรทรงเคยมาที่เมืองจีนก็เป็นจริงน่ะซิ...จากข้อมูลที่คุณทางสายธาตุนำมาโพสต์..
<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2> </TD></TR></TBODY></TABLE>
​

ยังระลึกถึงคุณ puken ที่เคยให้ความเห็นในเรื่องนี้ได้เสมอค่ะ ตอนนั้นดิฉันยังตอบคุณ puken ไปเกี่ยวกับพระนางมณีรัตนาดังที่เคยเขียนไว้ที่ หน้า 109 กระทู้นี้นี่เองค่ะ

<TABLE id=post3574721 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2> </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: 0px; BORDER-TOP: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt1 align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=thead>ทางสายธาตุ</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ดูรายละเอียดของ</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ ทางสายธาตุ</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ทางสายธาตุ Donation Stats</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>View ทางสายธาตุ's Videos </TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE id=post3574770 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: 0px" class=thead> 22-07-2010, 10:11 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: 0px; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ทางสายธาตุ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3574770", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 2,068
พลังการให้คะแนน: 574


</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3574770 class=alt1><CENTER><!-- google_ad_section_start -->พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่หาที่สุดมิได้<!-- google_ad_section_end -->

</CENTER>
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ puken
และแล้วความคิดผมที่ว่าสมเด็จพระนเรศวรทรงเคยมาที่เมืองจีนก็เป็นจริงน่ะซิ...จากข้อมูลที่คุณทางสายธาตุนำมาโพสต์..
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ยินดีที่เข้ามาพูดคุยกันค่ะ ทางสายธาตุยังเจอข้อมูลอีกอันหนึ่งที่คล้ายๆจะพูดถึงพระนางมณีรัตนา แต่ยังไม่แน่ใจจึงไม่เขียนรอให้แน่ใจก่อนค่ะ แล้วเข้ามาคุยกันใหม่นะคะ

สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงรักแผ่นดินและราษฎรของพระองค์ท่านมาก ทรงมานะอุตสาหะหาวิถีทางที่จะช่วยแผ่นดินและราษฎรที่รักยิ่งของพระองค์ท่านอย่างสุดพระกำลัง เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>
​

 

๑ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๑๓๔

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TH>Wan-li: Year 19, Month 5, Day 11</TH><TD>(1 Jul 1591)</TD></TR></TBODY></TABLE>

« Previous | Record 3025 of 3279 | Next »

In Yun-nan, the Ava-Burma chieftain had waged an attack, but the government troops had achieved success in blocking him. It was ordered that the troops be liberally rewarded. It was also proposed that in the Autumn or Winter an envoy be sent to proclaim instructions to Niu-da-la of Siam requiring him to engage in a pincer attack. These arrangements were made in accordance with a request by the grand defender and the Grand Coordinator Wu Ding.

ที่ยูนนาน กองทัพอังวะเข้าโจมตีแต่ว่ากองกำลังของรัฐบาลจีนประสบความสำเร็จในการหยุดยั้งการโจมตีนั้นได้จึงให้ปูนบำเน็จแก่กองกำลังที่ประสบความสำเร็จนี้ และวางแผนไว้ว่าฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาวนี้ได้จัดส่งราชทูตไปพบกับ Niu-da-la ของสยามประเทศ ต้องการให้เขายกกองทัพสยามเข้าจู่โจมอังวะในอีกทางหนึ่ง คำสั่งนี้เป็นไปตามคำบัญชาการรบของท่านแม่ทัพใหญ่หวู่ติ้ง

 

In the MSL we read of three other rulers in Siam during the late sixteenth and early seventeenth centuries. In 1591 King "Niu-da-la" (presumably referring to Naresuan) is recorded as having been "required" by the Chinese to combine with Chinese troops pushing south from Yunnan in pincering the Burmese forces. [88] Someone known simply as "Pu-ai"
(obviously representing phuyai, "leader" or "chief") is noted as the ruler in 1612, [89] while in 1623 the MSL records the name of the ruler of Siam as "Sen-lie Pa-la" (Somdet Phara?) [90] The references in which these names appear are all very short and there is little in the names or context to identify them with names from the chronicular record.

เอกสารหมิงสือลู่นี้ใช้ในการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยฮ่องกง ภายใต้หัวข้อวิชา The Ming shi-lu as a Source for Thai History-Fourteenth to Seventeenth Centuries

โดยนัยยะที่มหาวิทยาลัยฮ่องกงแปล เขาแปลประโยคที่กล่าวถึง Niu-da-la of Siam ว่าคือสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แต่ ณ เวลานั้นพระองค์ทรงขึ้นครองราชย์แล้วตั้งแต่ ๒๙ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๑๓๓ ในเอกสารบันทึกจึงควรเขียนว่า Niu-da-la,the king of the country of siam, ส่วน Niu-da-la of Siam อาจจะใช่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชหรืออาจจะหมายถึงอีกพระองค์หนึ่งที่ทรงเป็นธุระในการจัดเตรียมเครื่องราชบรรณาการไปจีนในทุกๆปี ทรงรับทราบเรื่องราวความเคลื่อนไหวทุกอย่างอันเกี่ยวข้องกับการต่างประเทศที่ติดต่อกันทั้งการค้าและการทหารระหว่างจีนและสยาม

ที่ทางสายธาตุมองว่าอาจจะหมายถึงพระนางมณีรัตนาก็ได้ เพราะการที่ประเทศจีนจะมาสั่งกษัตริย์ไทยให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ในแง่หนึ่งถ้าสาส์นนั้นไปสู่องค์พระมหากษัตริย์โดยตรงก็เป็นหมิ่นพระเกียรติกัน เพราะสยามไม่ได้ถือว่าตนเองเป็นเมืองขึ้นของจีน ไม่จำเป็นต้องรับพระบัญชาของจักรพรรดิจีน แต่คบกันเหมือนจีนเป็นประเทศใหญ่ต้องพึ่งพาอาศัย จะต้องดำเนินวิเทโศบายแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น ดังนั้นการส่งพระบัญชาหรือคำสั่งของแม่ทัพจีนมาสยามนั้น ให้ไปที่บุคคลสำคัญรองลงมาจากพระมหากษัตริย์ แล้วบุคคลผู้นั้นจึงนำความกราบบังคมทูลทรงทราบในภายหลัง เป็นการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไว้และพร้อมกันนั้น ก็เพื่อทรงไว้ซึ่งพระเกียรติยศแห่งองค์พระประมุขของประเทศไม่ใช่แม่ทัพที่ไหนก็มาสั่งพระมหากษัตริย์ได้ ต้องกันไว้ให้เกิดความยำเกรงกัน​

 

อีกประการหนึ่งคืออักษรที่เขียนเป็นภาษาจีน (牛達喇) Niu-da-la เป็นคำพ้องเสียง ไม่ใช่ชื่อที่ใช้กันทั่วไป

牛 หนิว แปลว่าวัว
達 ต้า แปลว่า ส่ง หรือโทร (กริยาหมุนโทรศัพท์)
喇 ลา ไม่มีความหมาย เป็นคำพ้องเสียงให้เหมือนเสียงออกจากปากเฉยๆ

จึงคล้ายต้องการสร้างคำให้พ้องกับชื่อภาษาไทยของใครหรือพระองค์ใดพระองค์หนึ่งมากกว่า

ส่วน Hua-zhao-song (華招宋) เป็นคำที่เรียบเรียงขึ้นให้มีความหมายที่ดีและสูงส่ง แต่ทางสายธาตุยังแปลไม่ออกนะคะ

อ้างอิงตัวอักษรจีนจาก
http://www.epress.nus.edu.sg/msl/person/2484
http://www.epress.nus.edu.sg/msl/person/1402

 

ก็คงจะมีนัยตามเหตุและผลที่คุณทางสายธาตุได้วิเคราะห์ดังนั้น และเนื่องมาจากผลการวิเคราะห์นี้ ก็ทำให้มองได้ว่าพระนางมณีรัตนาจะต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญอยู่อย่างน้อยสองประการ กล่าวคือประการแรกจะต้องเข้าใจภาษาจีนเป็นอย่างดี ประการที่สองจะต้องเป็นบุคคลที่จีนให้ความไว้วางใจ มิใช่เป็นแค่ระดับล่าม แล้วใครเล่าที่จะเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนอย่างนี้ หลายๆท่านที่ได้ติดตามข้อเขียนของคุณทางสายธาตุมาอย่างสม่ำเสมออาจจะพอเดาได้ ซึ่งผมเองก็รักที่จะเดาอย่างนั้นเช่นกันว่า บุคคลท่านนี้จะเป็นใครไหนอื่นไปไม่ได้นอกจากเจ้าขรัวมณีจันทร์ และถ้าเป็นเช่นนี้แล้วสิ่งแรกก็คือเจ้าขรัวมณีจันทร์และพระนางมณีรัตนาอาจจะเป็นบุคคลคนเดียวกันก็ได้ หรืออาจจะเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่มีตัวตนเพิ่มขึ้นมา ผมขอยุติการคาดเดาไว้เพียงแค่นี้ก่อน เผื่อท่านใดจะมีความเห็นแย้งเป็นอย่างอื่น (หากผิดพลาดต้องขออภัยให้กับผู้มีปัญญาน้อยด้วยนะครับ)