ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

คิดถึงภาพคลาสิคภาพเชอร์ล๊อกโฮม คาบไป้ล ใช้ความคิดตอนสืบคดีเลยค่ะ คุณ ลุง หุๆๆๆ

 

สุดยอดครับ เพิ่งจะรู้นะครับว่า ถ้าเป็นพระสมเด็จวัดระฆังแท้ ๆ แตกยาก แถมยังแข็งแกร่ง ขนาดที่ว่าแกะจนเครื่องมือทื่อ แต่พระที่ลูกชายทำหล่นเหมือนกับพระบางขุนพรหม ครับ ผมเองไม่มีความรู้เรื่องดูพระสมเด็จซักเท่าไรครับ และก็คงจะหาคนที่ให้ความรู้เป็นวิทยาทานอย่างพี่ modpong ได้ยากเต็มทนในสมัยนี้ เพราะไม่ได้อะไร อย่างที่พี่บอกจริง ๆ ขอบคุณมากครับพี่ modpong

 

หวัดดีครับพี่modpong

 

มารอเก็บเกี่ยวความรู้จากคุณอาอีกครับ

ยังเป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมครับ

 

........................................................
...น้องกำธร..กลับไปอ่านที่พี่เขียนอีกที..พี่บอกแล้วไง..ว่า..พระบางขุนพรหม..เนื้อแกร่งไม่เท่ากัน..ถ้าเป็นองค์ที่เนื้อจัด..ถึง..ค่อนข้างจัด..จะแกร่ง..มากกว่า..ที่เนื้อแก่ปูน(ก็ทำกันที..๘๔,๐๐๐ องค์..จะไปเหมือนกัน..ได้ยังไง)...ซึ่งเนื้อแบบนี้..ความแกร่งก็เป็นรองแค่..วัดระฆัง..เท่านั้น...อย่างนี้ก็ตกไม่แตกได้เช่นกัน...มีสิทธิ์..ส่องเช็คเนื้ออีกที..ถ้าจัดไม่แก่ปูน(แก่ปูน..เนื้อขาวกว่า)อมเหลือง..ละก็มีลุ้นเลย..

 

ขอขอบคุณ
ทุกท่านที่ได้postมา.............

............................การพิจารณาพระ...ของคนรุ่นก่อน....................................

หู(ต่อ).................

....................ตอนที่แล้ว..ผมพูดถึง..เนื้อพระดินเผา..กรุรุ่นเก่า..อยุธยาขึ้นไป..
..ซึ่งเป็นภาพ..ของพระดินเผาแกร่ง..เนื้อค่อนข้างหยาบ..จนถึง..หยาบ....ต่อไป
ผมจะพูดถึง.....
..........................พระดินเผา..เนื้อละเอียด...............
.........ส่วนใหญ่..เป็นพระภาคเหนือ..ซึ่งมีทั้งตอนบน..และตอนล่าง....ส่วนภาค
กลาง..ก็มีสอดแทรก..อยู่กรุหนึ่ง..(ที่เรียก..ของผมเองนะครับ..ทั่วไป..จะแยกแยะ
ละเอียดยังไง..ไม่ทราบ..อย่าสับสน..ใครเคยเรียกอะไร..ก็เรียกไป)..ที่ผมเรียก
ว่าเป็น..เนื้อดินเผา..ละเอียด...ก็คือ
...............................พระผงสุพรรณ........................................................
...สำหรับภาคเหนือ..ทั้งตอนล่าง..และตอนบน..เกือบทั้งหมด..จะเป็นเนื้อนี้แทบ
จะทั้งหมด..ก็ว่าได้..พระลำพูน..กรุเก่า(..กรุใหม่..สำหรับคนอื่น..ผมไม่ทราบ..
สำหรับ..ผมใช้เหตุผลหลายๆประการ..ทั้งด้านความเป็นมา..และ..วิทยาศาสตร์
ประกอบ..ผมถือ..ว่าเป็นพระคนละยุค...อย่าถามผมว่า..ทำไม..เป็นความเชื่อส่วน
ตัว...ไม่ได้บังคับให้ใครเชื่อครับ)..พระกรุเมืองสุโขทัย..และ..พระกรุกำแพงเพชร
..เป็นต้น....
........................การเผาพระที่มีดินเนื้อละเอียดเป็น..ผงแป้ง..แบบนี้..โดยให้ไม่
แตกร้าว..ถือว่า..ยากยิ่ง..เพราะ..การถ่ายเท..และการกระจาย..ความร้อนในเนื้อ
พระต้องดีเยี่ยม..เตา..การวาง..การซ้อนพระเข้าเตา..การควบคุมไฟต้องพิถีพิถัน
และที่สำคัญ..ก่อนหน้าคือ..การตากพระ..ให้แห้ง...ระยะเวลาตาก..ระยะเวลาเผา
........ท่านที่ได้..อ่าน..เรื่องการเผาพระเนื้อดิน..ที่บ้านของผมไปแล้ว...จะเห็นว่า
ตั้งแต่..ตอนผสมเนื้อดิน..ผมให้ใส่ทรายลงไปด้วย..เพราะ..ทรายจะช่วยกระจาย
ความร้อนให้ทั่วถึง...ซึ่งจะลดการขยายตัว..และหดตัว..ทั้งนอก..และใน..ไม่ให้
แตกต่างกันมาก...แต่พระดินเนื้อละเอียด..แทบจะไม่มีทรายเลย..บางกรุจะมี..
ก็น้อยมาก..แถมทรายก็ละเอียดมาก............เนื้อดินที่ใช้ก็เป็น..ดินที่ผ่านการ
ร่อน..หลายครั้ง..จนถึงขั้นตอนสุดท้ายเป็น..การร่อนผ่านผ้าขาวบาง..ซึ่งวิธีนี้
ช่างของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพ..ของ..สมเด็จพระราชินี..ก็นำมาใช้..เพื่อปั้น
"ตุ๊กตาชาววัง"..เนื้อดินเผา..ซึ่งสอบถามแล้วว่า..เป็นเช่นเดียวกับวิธีโบราณ
...............ดินนี้เมื่อผสมน้ำ..คลุกเคล้าแล้ว..ต้องเรียกว่า..เป็นดินเหนียว
(CLAY-ตามหลักการของ..ปถพีกลศาสตร์..ที่พิจารณา..จากขนาดมวลดิน
..และการยึดเหนี่ยวกัน...ฯลฯ)....นอกจาก..ภายในจะแห้งยากมาก..ใช้เวลา
ในการตากแห้ง..นานด้วย...ทำให้..พระที่มีขนาดใหญ่..และหนา..ไม่น้อยที่..
ข้างในไม่สุกดี..
...........สำหรับ..ผมเองโชคดี..ที่ได้พระตระกูล..กำแพง..มาหนึ่งองค์จากพ่อ
..เดิมเพื่อนพ่อ(เป็นนักเลงพระตัวยง..ให้พ่อผมก่อนพ่อไปสงครามที่เวียตนาม)
เลี่ยมทองไว้หนา..และ..หนักมาก..ใส่ไปใส่มาพระตีหน้าอกซะแย่..ก็เลยเปลี่ยนมาเลี่ยมพลาสติกแทน..ปรากฏว่า..ตอนเลี่ยมทอง..หลังพระมีส่วนปูดออกมา
..(พระองค์นี้..เป็นครูผม..ในการดู"รารัก"ของ..พระเนื้อดิน)..เขาไถเนื้อพระออก
ออก..เพื่อให้รูปทรงสมดุลย์(พระตระกูลกำแพง..ก็องค์นี่แหละเป็นครูผมเช่นกัน)
..จนได้เห็น..เนื้อใน..ซึ่งปรากฏว่า..เนื้อในไม่สุกเท่าข้างนอก..ซี่งปรากฏ..สีออก
เทาๆนิด..นอกจากนี้..ผมก็เคยเห็น..พระกำแพงที่ชำรุด..บางองค์..ก็มีลักษณะ
คล้ายกันอีก...จึงเป็น..ข้อสนับสนุน..การวิเคราะห์ของผมว่า..การเผาพระเนื้อ
ละเอียดเช่นนี้..มันยากจริงๆ.......................................
..........มันยาวจัด..พระดินเนื้อละเอียด..ต้องต่อตอนหน้าครับ.....

...........................................สวัสดี........................................................

 

ติดตามมาตลอดครับ
ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

 

สวัสดีค่ะ คุณลุง .....
จะไปแล้วหรือค่ะ ยังไม่ได้คุยเลยค่ะ....

ยังนั่งทำงานที่ทำงาน.......แวะเข้ามาอ่าน...ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ ......

ขอบคุณค่ะ...

 

...............................................
..จะไป..นี่..จะให้ไปไหน..ถ้านอนไม่ใช่..แน่นอน..ผมนอน..ตี๔..ตื่น ๕ โมงเช้า.....

 

หวัดดีตอนดึกครับพี่Modpong...ตามอ่านอยู่นะครับ

 

ค่ะคุณลุง....เพิ่งเขียนป้ายผ้าเสร็จค่ะ พรุ่งนี้รณรงค์ด้วยขบวนจักรยานเชิญชวนวิ่งเพือ่การกุศลค่ะ.....งานร้อน.....จะขี่ไหวหรือเปล่า... เที่ยงคืนแล้ว............
ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ.....

ขอตัวก่อนค่ะ..;aa40

 

ขอบคุณครับคุณลุง ตอนแรกผมไม่รู้เหตุผลครับคราวหลัง ท่านเพิ่งอธิบายให้ฟังว่าเสียงมันเป็นอย่างไร ต่างกันยังไงแต่เสียงไม่เหมือนกันจริงๆนะครับ ท่านให้ปล่อยลงหินอ่อนครับ เสียงต่างกันอย่างกันอย่างชัดเจนเลยครับนอกจากนี้ ท่านยังให้ลองล้างดูด้วยครับว่าของปลอมล้างแล้วเป็นอย่างไรของแท้ ล้างแล้วพวกคราบไขดิน คราบกรุ จะกลับคืนมาในลักษณะใหนได้ความรู้มากมายเลยครับขอบคุณคุณลุงที่ร่วมแบ่งปันข้อมูลครับ

 

..........................................
..นี่เป็น..สัญญลักษณ์ของ..อาจารย์ที่ดี..ให้ทดลองเอง..ให้เข้าใจ..แล้วเสริม..ยอดเยี่ยมครับ..มีอาจารย์ดี..

 

ก็เหมือนพี่modpongอ่ะครับ มีข้อมูลดีๆนำมาให้น้องๆได้ศึกษาเรียนรู้กัน

 

".........................................
...ขอบคุณครับ..โอ้ว..ผมคงสู้ไม่ได้หรอกครับ..เพราะไม่ได้รับ..ลูกศิษย์เป็นตัวเป็นตน..เลย..
...แต่ผมก็ภูมิใจนะ..เพราะ..ลูกศิษย์..ที่ผมไม่ได้เห็นหน้าค่าตา..มีหลายคน..(คล้ายๆ..ครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมไง)..........

 

สวัสดีครับคุณลุง ..........................

 

....................................................
...สวัสดีเช่นกัน...และยินดีต้อนรับครับ....

 

สวัสดีค่ะ คุณ ลุง และ เพื่อนๆสมาชิกทุกๆท่าน การอธิบายและวิเคราะห์ของคุณ ลุง ทำให้นั่งนึกภาพไปด้วย จนอยากจะเห็นองค์จริงๆเลยค่ะ สุดยอดจริงๆค่ะ ครูบาอาจารย์ สมัยก่อนท่านมีความมานะอดทนสูง ( ไม่รู้ใช้คำพูดถูกหรือเปล่าค่ะ ) รูปแบบพิมพ์ก็แกะเอง โดยไม่ได้เน้น ความคมชัด แต่ เน้น ด้านพุทธคุณเป็นหลัก ลินเคยได้รับฟัง เรื่องการสร้างพระของหลวงปู่คำพันธ์ ท่านมาค่ะ ท่านจะแกะพิมพ์เอง โดยพิมพ์ แรกๆของท่านจะตื้นๆ ไม่ค่อยจะสวย แต่ ท่านจะพิถีพิถัน เรื่องการหามวลสารมากกว่าค่ะ ท่าน ผสมเอง กดพิมพ์เอง และ เผาเอง เรียกว่าทำเองทุกขั้นตอนเลยค่ะ คุณ ลุง ขอบคุณค่ะ

 

.........................................
...ผมเคยเล่าไปแล้วว่า..นี่คือพระอริสงฆ์..ที่ผมเห็นรัศมี..ออกจากตัวท่าน..เมื่ออยู่ตรงหน้า ๒ ต่อ ๒..จะด้วย..บรรยากาศ..หรือ..อะไรก็ไม่ทราบ..ผมว่า..มีไม่มากครับ..ที่เมื่อเราไป..พบพระ..ที่ไม่เคยรู้จัก..มาก่อนเลย..ในขณะนั้น..ท่านแค่พอมีชื่อเสียงในนครพนมเท่านั้น(ปี๒๕๒๐)..ฉะนั้น..จิตจะไม่พาไปก่อน..แล้วสิ่งนั้นเกิดขึ้นมากับผม..โดยไม่มีชื่อเสียงมานำพาแต่อย่างใด............ท่านเป็นอริยสงฆ์ที่เป็นอัจฉริยะ..ที่เมื่อคิดทำพระผง..ครั้งแรก..ของท่าน..ใช้เกษร..ดอกไม้บูชาพระของท่านเอง..มาสร้างพระ..เพราะดอกไม้บูชาพระท่านใส่จิตใจ..เพื่อถวายให้แก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า..ย่อมบริสุทธิ์..และด้วยพลังจิตที่เข้มแข็งของท่าน..ผ่านสื่อ..ที่เป็นสิ่งบูชาที่เป็นดอกไม้...ดอกไม้นั้นย่อมได้รับพลังบริสุทธิ์นี้..ไปเต็มๆ....และพระผงรุ่นแรกของท่านนี้..ท่านทำเอง..ไม่มีส่วนผสม..อื่นใด(เกษรดอกไม้..ล้วนๆ)..หลายท่านคง..งง..ว่าทำไมใช้..แต่เกษร..ส่วนนึงก็คือ..เกษรจะละเอียดมาก..เมื่อตากแห้งแล้ว..ก็มีความชื้นอยู่บ้างเล็กน้อย..พอถูกอัดแน่น..ในแบบ..ด้วยความชื้นและความละเอียด..จะทำให้..คงรูปอยู่ได้..เมื่อถอดแม่พิมพ์ออก..เพื่อจะทำให้ไม่เปื่อย..ท่านจึงใช้"แชล็ค"..ทาหุ้ม(หลายชั้น..ผมส่องดูแล้ว)..ผมว่าไม่มีพระเครื่ององค์ไหน..ที่จะเบาเื่ท่า..พระองค์นี้อีกแล้ว.....
พระนางพญาผงเกษรดอกไม้บูชาพระ..รุ่นแรก(๒๕๒๐)....เมื่อท่านให้ผม..ท่านยังย้ำว่า.."นี่อาตมา..ทำเป็น..ครั้งแรก"...ผมยังถาม..คนที่ดูแล..ท่านด้วย..เขาก็ยืนยัน...
....ถึงองค์ใหญ่..แต่เบากว่า..วัดปากน้ำรุ่น ๑ อีก.....
...คุณลิน..ถ้ามีโอกาศ..ก็หาไว้นะครับ..ผมว่านี่คือ..๑ในวัตถุมงคล..ที่สุดยอด..ของท่านแล้ว....

 

หลวงปู่คำพันธ์ และ หลวงปู่ ญาท่านสวน เป็นครูบาอาจารย์ที่ลินเคารพนับถือท่านมากๆเลยค่ะ คุณ ลุง
ลินมีแต่รุ่นรอง ลงมาค่ะ พระรุ่นแรกของท่านหาไม่ได้แล้วค่ะ ลินเคยสอบถามท่านพระอาจารย์กินเรศ ที่เป็นพระหลานชายท่าน ท่านก็บอกว่าหาไม่ได้แล้วโยม ที่มีก็ชำรุดเสียหายเพราะแมลงกินพระ จะเหลือก็มี บางองค์ที่ท่านได้นำมาเคลือบผิวไว้ แต่เซียนตีเป็นของเก๊ หุๆๆๆ
ลินไปหาภาพมาประกอบการเล่าเรื่องพระเนื้อดินเผามาให้คุณ ลุง ค่ะ บังเอิญลินได้บูชาพระปิดตาของหลวงปู่คำพันธ์ ท่านเอาไว้ ตอนบูชามาทีแรกด้วยความไม่ประสา เห็นสีองค์พระแปลกดี มีทูโทนด้วยก็เลยเลือกมาบูชา แต่ด้วยความชอบสงสัย และ ติดเป็นคนช่างถาม จึงนำไปถามลุงที่รู้จักเรื่องพระ ท่านก็ได้บอกให้ฟังว่า เกิดจากการเผาไม่ทั่วและไม่สุกหมดค่ะ คุณ ลุง ขอบคุณค่ะ