แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 15 พฤษภาคม 2010.

  1. zea2516

    zea2516 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    319
    ค่าพลัง:
    +797
    อรุณสวัสดิ์ครับบบบบ................................
     
  2. นำทาง

    นำทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,181
    ค่าพลัง:
    +7,865
    .........................
    ยินดีกับแฟนฉลามชลด้วยครับ ดุจริงๆๆ ซัด 6 เม็ดทำไปได้
     
  3. นำทาง

    นำทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,181
    ค่าพลัง:
    +7,865
    ........................
    ยินดีด้วยครับ ที่ได้ตะรุดเงินโภคทรัพย์ของหลวงพ่อ
    แล้ว เสืออาคม ของหลวงพ่อมีประสบการณ์โดดเด่นด้านไหนครับ เล่าสู่กันฟังบ้างครับ
     
  4. chokaku

    chokaku เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +4,333

    สุดยอดเลยครับท่าน ต้องรีบหาบ้างแล้ว
     
  5. nicklc

    nicklc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +143
    พี่หนุ่มหายไปเลยครับ คิดถึ๊งคิดถึงกระทู้ก็เงี๊ยบๆ ยังดีที่มีหลายๆท่านเอาบทความมาให้อ่านครับ
    -------------
    เรียนพี่หนุ่มครับผมได้ร่วมส่งมวลสารไปที่บริษัทสยามอารยาตั้งแต่วันที่28กพ ไม่ทราบว่าได้รับรึยังครับ ผมส่งจากอเมริกาคิดว่าน่าจะถึงช่วงๆนี้ ตอนแรกผมเขียนกระดาษแนบโน้ตไปด้วยแต่ดันลืมใส่ไปในซอง ในซองจะเป็นพระและสีผึ้งของหลวงพ่อตัด 3 อย่างนะครับ
    ผมส่งไปแบบธรรมดาเลยไม่มีเลขพัสดุเช็ค ยังไงถ้าได้รับแล้วพี่หนุ่มแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ
     
  6. กทม

    กทม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +882
    วงการพระใหม่ช่วงนี้กำลังคึกคักเพราะเป็นช่วงก่อนเข้าพรรษา แทบทุกสำนักจะสร้างและป่าวประกาศกันโครมคราม ดูว่าจะดีหรือไม่แบบง่ายๆอย่างงี้ได้เลยครับ
    -แบบพระต้องมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ต้องปราณีตใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ ถือว่าคนทำให้ความสำคัญ มวลสารต้องดีและมีค่าจริง ต้องเป็นมวลสาร แบบมีที่มาที่ไปชัดเจน และเป็นที่ยอมรับกันมาก่อน ผู้ปลุกเสกต้องเก่งจริง ต้องปลุกเสกให้ครบทุกด้าน และเจตนาสร้างต้องเพื่อการกุศลจริงๆ

    มีหลายแห่งเอาชื่อพระเกจิ มาสร้างและเอาพระไปให้ท่านเสกให้ บางแห่งเอาพระแก่ๆมาเสริมดันและสร้างข่าวให้เก่งดีเลิศ และจับจองเป็นสิทธิ์ของตัวเองเอาไว้หากินในกลุ่มของตน ใครอย่ามาแหยม แต่พอถามคนในแวดวงพระเครื่องหัวเราะกันฮาๆ ในเวปนี้ก็มีสามสี่รายการลองดูๆเอาเอง
     
  7. กทม

    กทม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +882
    พรุ่งนี้คงมีคนเข้ากระทู้นี้กันมาก รอดูเลขปริศนาพารวยจากคุณหนุ่ม จะถูกจะผิดอยู่ที่โชคและจังหวะของคนที่ได้ไปครับ แต่มีพระดีๆมรณะภาพอีกแล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ กลัวอาถรรพ์ตรงนี้จริงๆ แต่อย่าไปกลัวว่าใครจะหาว่ามามอมเมาเลยครับ คนที่ว่านั่นก็แอบเข้ามาดูเหมือนกันแบบปากว่าตาขยิบ ใครบ้างไม่อยากมีโชคได้ลาภลอย ขออีกสักนิดก็ดีนะ
     
  8. นะจักรวาล

    นะจักรวาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,911
    ค่าพลัง:
    +8,323
    มีอะไรบ้างที่เป็นของเรา

    เริ่มจากร่างกาย เพราะเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดและจับต้องได้ง่าย ร่างกายเราหล่อเลี้ยงด้วย อาหาร อากาศและน้ำ ซึ่งต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อแรงงาน ความรู้ ความสามารถ ที่สั่งสมมา แต่หากเรามอง ในมุมกลับกัน อาหาร อากาศ และน้ำ เป็ นของโลกใบนี้ ซึ่งโลกใบนี้เค้าก็มีอยู่แล้ว ทั้งมีมานานแล้ว จริงหรือไม่ พวกเราจะได้ซื้อผ้า อาหาร ยา น้ำ ต้องแลกด้วยเงินทองที่พวกเราหามาได้ และเงินทองต้องแลกมาด้วย แรงกายแรงใจ วิชาความรู้ที่พวกเราร่ำเรียนมา ประสบการณ์ ความชำนาญ ความเข้าใจ ความสามาถ ในสาขาวิชาชีพที่เราถนัด แต่พวกเราลืมมองไปหรือไม่ว่า วิชา ความรู้ เหล่านี้เป็นสมบัติของโลกเช่นเดียวกับ เพียงแต่พวกเราหยิบฉวย เอามาใช้เพียงแค่นั้นเอง ถ้าไม่มีเวลา กลางวันสว่าง กลางคืนมืด พวกเราจะมีเวลาเป็นเครื่องบ่งชี้ได้อย่างไร ถ้าไม่มีเวลาเราจะเอาอะไรมาเป็นมาตรวัด ความเร็ว ความช้า ความลึก ความโค้ง ความกว้าง เหลี่ยมมุม รูปทรงต่างๆเหล่านเกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติที่ไม่เที่ยง พวกเราเพียงรู้จัก ทำความเข้าใจ ตั้งค่า ทดแทนค่าเพื่อเรียกหา และตัดแปลงนำมาใช้ (วิศวกรรม งานช่าง) เส้นแวงต่างๆ
    มันก็เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในโลกใบนี้ เพียงเรานำมันมาพัฒนาเป็น อุปกรณ์ต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ชีวิตของพวกเรา เท่านั้นเอง หรือความรู้ในร่างกายของคนเรา เราก็แบ่งแยกเป็น เรื่องของตา หู จมูกปาก สมอง กระดูก กล้ามเนื้อ ซึ่งร่างกายของพวกเราประกอบไปด้วย ของแข็ง ของเหลว อากาศ อุณภูมิ เมื่อศึกษาจนเข้าใจมันก็กลายเป็นความรู้อีกแขนงหนึ่ง ในการเลี้ยงชีพ

    หรือชาวนาที่ปลูกข้าว ก็ต้องรู้จักเรื่องของ ดิน ฟ้า อากาศ น้ำ เรื่องของพวกความเปลี่ยนแปลงเป็นไรของธรรมชาติ

    ความเข้าใจสัดส่วนของสารเคมีและสารชีวิภาพ รู้จักผสม และคัดแยก รู้จักคุณสมบัติ ประโยชน์และโทษ พวกนี้เราพัฒนามาจากสิ่งที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติทั้งนั้น

    การรู้จัก คิดคำนวณ ความน่าจะเป็น ความเสี่ยง มันก็เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอน ของดินฟ้า อากาศ ความต้องการ ความไม่แน่นอนของบุคคล


    ไม่เคยมีสะสาร (รูป) นาม(ความรู้ องค์ความรู้ นาม) ใดที่ไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่ในโลกนี้มาแต่เก่าก่อน เพียงแต่ใครก็ตามที่เข้าใจแล้วรู้จักนำใช้สอย ก็กลายเป็นประโยชน์ในการดำรงชีพเท่านี้เอง ในเมื่อความรู้เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในโลก ผู้ที่ทำความเข้าใจความรู้เหล่านี้ก็คือจิต
    จะเข้าใจได้ก็ต้องคิด ไม่ว่าจิตจะคิดคำนวณ ทำความเข้าใจอะไร มันอยุ่ไม่เคยเกินจากโลกนี้หรือจักรวาลนี้อีกอยู่ดี เท่ากับว่าจิตก็เป็นของโลก ร่างกายที่พวกเราหล่อเลี้ยง จะเกิดพละกำลัง มันก็อาศัยสิ่งที่มีอยู่ในโลกนี้อีก สรุป ร่างกายก็เป็นของโลกใบนี้ ซึ่งเป็นของกลางๆ (คือไม่มีเจ้าของ) และความรู้สึกที่เป็นเราในใจนั้นแหละที่เป็นเจ้าโลก เจ้าปัญหาใหญ่ (ความหลง)

    เพราะความหลงที่เป็นสาเหตุให้พวกเราพยายามกอบโกย ชื่อเสียง เงินทอง ความร่ำรวย ด้วยความรู้ ความสามารถ ความเข้าใจ พละกำลัง จากโลกใบนี้ จนโลกใบนี้เสื่อมโทรม สุดอย่างมาก (ทุกคนคงได้รับทราบข่าวแล้ว) เรียกง่ายว่าความเห็นแก่ต้วของพวกเราเอง บางคนเห็นแก่ตัวแต่ยังมีศีลธรรมเป็นเส้นกั้น บางคนเหตุแก้ตัวตนลืมแม้แต่เรื่องของศีลธรรมไป ผลของการกระทำเหล่านี้ อาจกำลังเริ่มแสดงให้พวกเราเห็นอย่างชัดเจนแล้ว

    แล้วพวกเราคิดที่จะคืนสู่โลกใบนี้บ้างหรือยัง


    จากที่พวกเราคิดเพื่อตัวเอง หรือคนของตัวเอง 100 เปอร์เซ็น หรือทั้งวัน ลองเปลี่ยนมาคิดที่จะทำอะไรให้โลกใบนี้ซัก 5 นาที คิดแล้วอย่าลืมที่จะลงมือทำด้วย
    (คิดทำพูด) เหมือนเรานั่งแผ่เมตตา (คิดหรือพูด) ลองลงมือทำอะไรด้วยเมตตา ไม่ใช่นั่งอย่างเดียว

    แน่นอนว่าทุกคนอาจไม่มีความสามาถพอที่จะทำอะไรเพื่อโลกซึ่งใหญ่มาก
    แต่เราสามารถทำอะไรให้กับใครใกล้ๆตัวได้ ในจุดที่เราเอื้อมมือถึง

    จากปกติที่เราใช้ความรู้ ความสามารถ ความเข้าใจ ทำอะไรเพื่อตัวเราของเรา เพื่อสนองความต้องการของเรา ลองหันกลับมาทำให้กับคนอื่นบ้าง ที่ละเล็กละน้อย
    จนกลายเป็นความเคยชินที่ใจรู้จักที่จะให้ และกลายเป็นธรรมชาติของใจที่รู้จักที่จะแบ่งปัน
    เป็นปกติ หากความเป็นเรา ของเราเหมือนก้อนหิน การแบ่งปัน การให้ การเสียสละ ก็เหมือนน้ำที่ค่อยหยดลงจนวันหนึ่งความเป็นเรามันก็ค่อยๆผุกร่อนไปเองที่ละเล็กที่ละน้อย


    บางคนอาจไม่เคยคิดที่จะให้ หรือไม่เคยให้เลย หรือบางคนเคยให้แต่ก็มักหวังผลของการให้เสมอๆ (อยากได้บุญเยอะๆจะได้..ตามที่ต้องการ)ลองหันมาให้ก็แค่เพียงเพื่อให้ หรือให้เพื่อแบ่งปันดูบ้าง หัดที่จะตั้งเจตนา จงใจที่จะให้ จนวันหนึ่งความจงใจกลายเป็นนิสัยของใจที่รู้จักจะแบ่งปัน ทุกอย่างต้องมีครั้งแรก และการเริ่มต้น ครั้งแรกเป็นสิ่งที่ดี

    เพราะการให้ การแบ่งปันเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยลดทอน ตัวเราของเราให้อ่อนโยนลง ลดความโลภ ความโกรธ ความทะยานอยากลง เมื่อสิ่งเหล่านี้ลดลง ทรัพยากรในโลกจะถูกใช้น้อยลง พลังงาน สารพิษ ของเสีย น้อยลง โลกก็อาจจะกลับคืนสู่ปกติได้เร็วขึ้น

    หรือพวกเราจะโลภมากจนโลกเป็นอย่างที่เห็น แล้วชื่อเสียง เงินทอง ที่มีจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อบ้านที่เราอยู่อาศัยเราพัง

    อ่านแล้วไม่เข้าใจ อ่านแล้วไม่รู้เรื่อง ก็วางทิ้งไว้ที่นี้หรือเลยผ่านไป
    หรืออ่านเกิดแรงบันดาลที่จะทำอะไรดีดีบ้างก็เป็นเรื่องดี
    แต่อ่านแล้วอย่ายึดมั่นถือมั่นจนเป็นตัวตน ก่อร่างสร้างกลุ่มแบบทุกวันนี้อย่าได้ทำ เพราะไม่มีประโยชน์อะไร ต้องเป็นการร่วมือของทุกฝ่าย ทุกชนชั้น ถึงจะพอเป็นไปได้ คนคนเดียวทำไม่ได้ หรือคนกลุ่มเดียว ประเทศเดียวทำไม่ได้ แต่ต้องคนทั้งโลกและเริ่มจากตัวเราก่อน
    ต่างคนต่างทำ ทำเหมือนกันวันหนึ่งก็รวมตัวกันอย่างเรียบๆง่ายๆได้เอง

    หรือถ้าใครคิดว่ายังได้ไม่พอ ยังกอบโกยไม่พอ แล้วร่างกายจิตที่ตัวเราของเราได้ใช้สอยอยู่นี่หละ ไม่ใช่เค้าสร้างความสุขให้กับตัวเราของเรามาอย่างมากมายแล้วหรอกหรือ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2011
  9. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    อนุโมทนากับบทความดี ๆ และจิตที่เป็นกุศลด้วยครับ
     
  10. โต้งชลบุรี

    โต้งชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,474
    ค่าพลัง:
    +18,351
    ปีนี้ฉลามชลไม่อยากไปแย่งแชมป์กับทีมอื่นครับ หวาดเสียวเปล่า ๆ
    สู้เอาแบบให้ขาดไปเลย จะได้ไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย....
     
  11. ครุฑา

    ครุฑา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +3,089
    เีรียนคุณเดชา
    ผม pm ไปหาเรื่องทำบุญสร้างศาลาการเปรียญวัดหนองสะเดานะครับ และขอชมมากๆเลยว่าการรวบรวม fileไว้ให้พวกเราได้อ่านกันอย่างจุใจไม่ต้องเปิดกระทู้เป็นหลายๆ สิบหลายร้อยหน้าเป็นประโยชน์มากเลยเพราะเว็บเข้าไม่ได้บ่อยก็อาศัยหน้านั้นอ่านๆกันจนเพลินครับ ขอบคุณมากครับ
     
  12. โต้งชลบุรี

    โต้งชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,474
    ค่าพลัง:
    +18,351
    อ่านแก้เหงาครับ....
    ตอน ประกาศเกียรติคุณหลวงปู่ทิม “สอนวิชาให้ลูกศิษย์”


    วัตถุ มงคลที่หลวงปู่ทิม ได้ปลุกเสกและอธิษฐานจิตไว้ ว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน แม้ว่าจะเป็นวัตถุมงคลที่ทำภายหลัง แต่เมื่อทางคณะศิษย์ที่ยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ได้อัญเชิญและประกอบพิธีเททองที่วัดละหารไร่เกือบจะทุกรุ่นซึ่งทุกคนทำด้วย ความบริสุทธิ์ใจ และต้องการประกาศเกียรติคุณของหลวงปู่ให้คณะศิษย์รุ่นหลังได้รับรู้

    แม้ว่าบางท่านจะไม่เคยพบไม่เคยเห็นหลวงปู่เลย แต่ถ้าให้ความเคารพท่านอย่างจริงใจแล้ว วิญญาณหลวงปู่คงจะรับรู้และคอยช่วยเหลือได้ เช่น เพื่อนผมคนหนึ่งชื่อ คุณคำพัน ทองเงิน แม้ว่าชีวิตนี้เกิดมาไม่เคยพบท่าน แต่ด้วยจิตใจที่นับถือหลวงปู่ทิม (เป็นผู้เดียวที่สักรูปหลวงปู่ทิมไว้ที่ไหล่ขวา) ได้ขับรถไปจังหวัดนครนายก กับแฟนและเพื่อนอีก 3 คน ไปประสบอุบัติเหตุที่โค้งบัวชุม แฟนที่นั่งข้างหน้าถึงกับเสียชีวิตทันที ส่วนเพื่อนๆ ที่นั่งข้างหลังต้องหามเข้าห้องไอซียู โดย "คุณคำพัน"”บาดเจ็บสาหัสซี่โครงหัก 3 ซี่ทิ่มปอด หลังจากที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลไม่กี่อาทิตย์ก็หายเป็นปกติ

    ผมจึงได้สอบถามว่าตอนนั้นมีอะไรติดตัวบ้าง “คุณคำพัน” ก็บอกว่า “ห้อยตะกรุดหลวงปู่ซึ่งภายในมีกระดาษสารพัดกันสอดอยู่เพียงดอกเดียว” คุณคำพันยังบอกอีกว่า ช่วงนี้พระดูดวงแล้วว่าจะเกิดเคราะห์ร้ายแรง ห้ามเดินทางไกล แต่วันนั้นจำเป็นต้องไปทำธุระที่จังหวัดนครนายก ปกติเป็นคนขับรถเร็วอยู่แล้ว เมื่อไปถึงทางโค้งบัวชุม รถเกิดแหกโค้งทำให้เสียหลักบังคับรถไม่อยู่ จึงได้เกิดเหตุการณ์ที่เศร้าสลดขึ้น ก็รู้สึกเสียใจเหมือนกันที่แฟนเสียชีวิต ส่วนตัวเองหลวงปู่คงช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา คิดว่าท่านช่วยได้แค่นี้ก็เป็นบุญของเราแล้ว

    คนเราเกิดมามีกรรมเป็นของตัวเอง ชั่วหรือดีก็อยู่ที่การกระทำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยเรา เราก็ต้องสะสมบารมีกับตัวเองให้มากๆ ถ้าตัวเราไม่มีบารมีสะสมมาตั้งแต่อดีตชาติหรือไม่เคยสร้างบารมีเลย เอาแต่สวดขอโดยไม่มีการให้แล้วใครเล่าจะช่วยท่านได้ “บุญ” เท่านั้นที่จะช่วยท่านได้ แต่ท่านก็ต้องสะสมบุญให้มากๆ เมื่อถึงคราวอับจนให้นึกถึงบุญ และสิ่งดีๆ ที่ท่านได้เคยทำและเคยสร้างไว้ กุศลผลบุญที่ทำมาก็จะช่วยให้ท่านพ้นได้ อันนี้เป็นคติธรรมนะครับ

    หลวงปู่ทิม ท่านเป็นพระสงฆ์ที่บริสุทธิ์ ท่านสะสมบารมีธรรมมาตลอดชีวิตที่เป็นเพศบรรพชิต ท่านฉันเจ มีชีวิตที่เรียบง่ายไม่สะสมอะไร เมื่ออยู่วัดละหารไร่ ท่านก็สงเคราะห์ชาวบ้านที่เจ็บป่วยด้วยว่านยาสมุนไพรที่ท่านได้เล่าเรียนมา เนื่องจากวัดละหารไร่ในอดีตอยู่ในป่าลึก ชาวบ้านที่เจ็บป่วยมักไม่ถึงหมอ บางคนเป็นหนักมากก็อาศัยยาแก้ปวดที่พอหาซื้อได้เมื่อมีรถฉายหนังเข้ามาขายยา เมื่อกินยาไม่ถูกโรคภัยที่ตนเป็นขึ้น บางคนก็เสียชีวิตไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็มี

    หลวงปู่ทิม ท่านทราบถึงสาเหตุของชาวบ้านที่เจ็บป่วยเป็นอย่างดี ท่านจึงได้พยายามศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับสมุนไพรทีใช้รักษาโรคภัยไข้เจ็บ ต่างๆ ตลอดจนว่านยาและกระดูกบางอย่างที่สามารถมาทำเป็นยาได้ ท่านได้ศึกษาอย่างจริงจัง และได้ถ่ายทอดให้โยมสาย แก้วสว่าง, หมอพิน, หมอแก้ว รวมทั้ง หลวงตารอดซึ่งตอนนั้นเป็นรองเจ้าอาวาส ปรากฏว่าทุกคนสนใจและมีความสามารถเรียนรู้ได้เร็ว

    ทุกท่านที่กล่าวถึงนี้สามารถเป็นตัวแทนและทำการรักษาชาวบ้านแทนหลวงปู่ได้ ผมเคยเห็น “โยมสาย” รักษาคนไข้ผู้หนึ่งที่ถูกของเข้าตัว เป็นผู้หญิงหน้าตาดีมาก ไปหาหมอหลวงมาหลายครั้ง หมดเงินไปมากก็ไม่หาย พ่อแม่จึงได้พามาหาหลวงปู่ที่วัด พอเห็นหลวงปู่ ผู้หญิงนั้นก็ได้แต่นั่งก้มหน้า ไม่กล้ามองสบตาหลวงปู่

    หลวงปู่ ก็ใช้ให้ผมไปตาม “โยมสาย” ที่บ้านเมื่อโยมสายมาถึงเห็นหลวงปู่พูดอะไร 2-3 คำกับโยมสายและท่านก็ใช้มือตักน้ำมนต์ในขันสาดไปที่ผู้หญิงนั้น

    ผลหรือครับ หญิงคนนั้นนั่งสั่นและร้องว่ากลัวๆๆๆๆ แต่สิ่งที่ผมและทุกคนที่นั่งอยู่ในที่นั้นถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งหนึ่ง วิ่งขึ้นลงไปตามขาของผู้หญิง บางทีมันก็หยุด สักพักก็วิ่งอีก หลวงปู่จึงให้ลูกศิษย์และเด็กวัดที่นั่งอยู่รวมทั้งตัวผมด้วยช่วยกันหาม ผู้หญิงคนนั้นไปที่หอฉันหลังเก่า และให้โยมสายไปหาแป้งข้าวเหนียว พร้อมกับนำไม้ครูให้โยมสายไปรักษาส่วนตัวท่านก็นั่งอยู่ที่หน้าห้อง ผมเห็นเช่นนั้น จึงค่อยๆ คลานเข้าไปถามท่านว่า “หลวงปู่ผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไร” ท่านก็บอกว่า “โดนของให้สายจัดการเอง เดี๋ยวนี่จะนั่งดู” ผมกับเด็กวัดจึงเดินไปที่หอฉัน ซึ่งตอนนั้นญาติๆ ของผู้หญิงกำลังจับอยู่เห็นแล้วก็รู้สึกสงสาร เพราะได้ยินร้องโอยๆๆๆ ตลอดเวลา

    โยมสาย ได้นั่งทำน้ำมนต์ด้วยจิตที่เป็นสมาธิ ด้วยความที่คนเองอยากรู้อยากเห็นก็เลยแอบนั่งข้างๆ คือช่วงนั้นรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ และผมก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ที่เห็นโยมสายหยดเทียนลงไปที่น้ำ ปรากฏว่า หยดเทียนแทนที่จะหยุดนิ่งเฉยๆ แต่นี่มันไม่ใช่เพราะหยดเทียนที่ผมเห็นนั้นวิ่งไปชนที่ขอบขันทุกดอก หยดอีกก็วิ่งอีก (ภายหลังเมื่อเสร็จพิธี ผมลองเอาเทียนหยดดูในน้ำว่าจะเหมือนที่โยมสายทำหรือไม่ ปรากฏว่าปกติไม่วิ่งอยู่ตรงกลางขันเหมือนเดิมทุกอย่าง)

    โยมสายได้ใช้น้ำมนต์ที่ตนเองทำขึ้นมาผสมกับแป้งข้าวเหนียวก่อนที่จะผสมกับ น้ำมนต์ ได้นำแป้งมาเสกก่อน หลังจากนั้นจึงค่อยๆ ใช้น้ำมนต์ผสมลงไปที่แป้งดินเหนียวและภาวนาคาถาตลอดเวลา เมื่อนวดจนแป้งได้ที่แล้ว จึงใช้สายสิญจน์มัดที่ข้อเท้าของผู้หญิงนั้น ซึ่งตอนนั้นต้องใช้คนจับหลายคนทีเดียว หลังจากนั้นจึงได้นำแป้งเสกนำมาคลึงตามตัวของคนป่วยและค่อยๆ ไล่ๆ ปี่ขา ตอนนั้นเสียงคนป่วยร้องแบบเจ็บปวดและโหยหวนมาก ใครที่เห็นเหตุการณ์ตอนนั้นบอกจริงๆ ว่ารู้สึกขนลุกไปตามๆ กัน เมื่อใช้แป้งเสกไล่ไปเกือบจะถึงปลายขาแล้ว ซึ่งพวกเราในที่นั้นได้เห็นอะไรที่กระดุกกระดิกตรงบริเวณที่เป็นแป้งเสกกด อยู่ โยมสายจึงเอาไม้ครูกดลงที่บริเวณนั้นและก็ภาวนาคาถาสักพักหนึ่ง จึงใช้หม้อดินที่เตรียมมาไว้ที่ปลายเท้าคนป่วย และก็ใช้ไม้ครูกดไปเรื่อย ท่ามกลางความเจ็บปวดของผู้ป่วยและส่งผ้าขาวซึ่งลงอักขระไว้ให้ลุงคนหนึ่งที่ นั่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับสั่งว่า “ถ้าฉันจับแป้งลงที่หม้อดินแล้ว ให้ใช้ผ้าขาวปิดทันทีและให้ใช้สายสิญจน์มัดที่ผ้าขาวให้แน่น”

    พอถึงพิธีสำคัญ ผมเห็นโยมสาย ใช้ไม้ครูกดที่แป้งเสกตั้งนานแล้วก็ดึงสายสิญจน์ที่มัดข้อเท้าให้ขาดและรีบ รูดแป้งเสกไปที่ปลายเท้าพร้อมกับนำแป้งเสกใส่ไว้ในหม้อดินทันที ซึ่งเหตุการณ์ก็จบด้วยดี คนป่วยร้องหวีดอย่างสุดเสียงและก็แน่นิ่งไป ก็พอดีหลวงปู่ท่านเดินเข้ามา และท่านก็ใช้น้ำมนต์พรมไปที่คนป่วยอีกครั้งหนึ่ง

    ท่านก็สั่งญาติคนป่วยว่า นั่งรอดูอยู่ตรงนี้ไม่ต้องไปไหน แล้วท่านก็สั่งให้โยมสายเอาหม้อดินไปฝังที่ป่าช้า ผมอยากจะตามไปดูด้วย แต่โยมสายไม่ยอมให้ไป เพราะความอยากรู้อยากเห็นนี่สิ ทำให้คนเราเสียผู้เสียคนไปมากแล้ว

    สักพักใหญ่ หญิงคนป่วยผู้นั้นก็ฟื้นขึ้นมา หลวงปู่ท่านจึงทำน้ำมนต์ให้อาบและบอกว่า พ้นเคราะห์แล้วถ้ามารักษาช้าจะแก้ไม่ทัน เพราะของที่คนทำมาถูกเรามันแรงมาก เข้าผีตายโหงทีเดียว สอบถามจากญาติของผู้หญิงผู้นั้นก็ได้ความว่า ผู้หญิงคนนี้ชื่อ “นางหมาย” เป็นลูกสาวคนเดียวของ “นายเสี่ยง” ซึ่งมีบ้านอยู่หลังเขาเจ็ดลูกเนิน เป็นคนที่สวยและก็หน้าตาดี มีคนมาชอบหลายคนแต่ปรากฏว่า นางหมายไม่ชอบ จึงทำให้ผู้ชายที่มาชอบนางหมายผิดหวังและเกิดความแค้นเก็เลยไปให้หมอไสย ศาสตร์ที่เห็นแก่เงินทำของใส่

    สมัยนั้นของพวกนี้ยังมีอยู่บ้างตามชาวบ้าน โดยเฉพาะ “ยาสั่ง” นั้น แถวระยอง จันทบุรี จัดว่าเป็นถิ่นของมันทีเดียว ใครโดนไม่ต้องรักษา “ตายลูกเดียว” คณาจารย์แถวระยองจึงมีหลายรูปเก่งทางยา ได้ทำยาแก้ “ยาสั่ง” โดยเฉพาะ วัดโพธิ์ทอง ซึ่งมีหลวงพ่อนวล พระผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการแก้ยาสั่ง ซึ่งใครที่ถูกยาสั่งนี้ถ้าได้รับการรักษาจากหลวงพ่อนวลแล้วยมบาลไม่ถามหา อย่างแน่นอน

    หลังจากที่หลวงพ่อนวลมรณภาพแล้ว วิชานี้ก็ตกไปอยู่กับหลวงพ่อเง็ก, หลวงพ่อยงค์ ปัจจุบันนี้ไม่ทราบว่าจะมีใครเรียนรู้อีกหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ไว้ให้ผมค่อยๆ สอบถามกับผู้รู้แล้วจะนำมาเล่าสู่กันฟัง
     
  13. PITINATTH73

    PITINATTH73 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    2,991
    ค่าพลัง:
    +9,624
    สวัสดียามเย็นครับ ญาติธรรมทุกๆท่าน
     
  14. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735

    เรื่องคดีเก่าๆ..สำหรับผมก็เสียวสันหลังว๊าบบบบบ..เช่นกันครับท่านประธาน..555..(^_^)..
     
  15. PITINATTH73

    PITINATTH73 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    2,991
    ค่าพลัง:
    +9,624
    Norragate สมาชิก

    [​IMG]


    ภาพนี้ภาษาวัยรุ่นเขาบอกว่า.....แหล่ม.....ครับ :cool:
     
  16. มังกรน้อย101

    มังกรน้อย101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +4,390
    สวัสดียามเย็นครับทุกๆท่าน ไล่ตามอ่านเรื่องราวที่พี่โต้งเอามาให้อ่าน ต้องยอมรับว่าเพลิน และได้ความรู้จริงๆ ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 102468214.jpg
      102468214.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19.1 KB
      เปิดดู:
      37
  17. ลูกน้ำเค็ม

    ลูกน้ำเค็ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    3,022
    ค่าพลัง:
    +14,548
    เหอ เหอ คุณโต้งจะมีความหลังฝังใจในความเย็นของฝนนี่เอง...

    ปีนี้สนามเหย้าของฉลามชลมีความจุน้อยไปหน่อยครับแค่ 6500 เอง
     
  18. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735

    สวัสดีครับคุณ PITINATTH73....
    ถ้าหากเห็นหน้าของผมเต็มๆด้วยล่ะก็...เกรงว่าความแหล่มของเธอจะลดน้อยลงอ่ะครับ...ฮ่า ๆ(^_^)
     
  19. PITINATTH73

    PITINATTH73 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    2,991
    ค่าพลัง:
    +9,624

    เรียกว่าสาวแหล่ม(สวย)คู่กับหนุ่มหล่อ เหมาะสมกันครับ :cool::cool::cool:
     
  20. IEC

    IEC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    409
    ค่าพลัง:
    +1,155
    Display ในรูปนี่ ผบทบ. ขอบคุณ Norragate หรือครับ ?

    งี้ ถ้าผมเจอคุณ Norragate ทาง msn เมื่อไหร่ ต้องปรึกษาเรื่องเทคนิคกันยาว ... ผมยกให้เป็นอาจารย์ของผมเลยครับ อิอิ :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...