ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ขอขอบคุณ
    ทุกท่านที่ได้postมา.............

    ..............การพิจารณาพระ....ของคนรุ่นก่อน...........................

    หู(ตอนพิเศษ).............

    ..................เทคนิคการกลบเกลื่อน..ผิวที่รอยต่อ................

    ...อันนี้..เป็นความเห็นส่วนตัวตามประสพการณ์..ในยุคก่อนที่ผม..ประสพ..มา...
    ........ไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับใคร..และไม่ได้บังคับ..ให้ใครเชื่อครับ...........

    ...เรื่อง..พระผง..ไม่ว่า..เป็น..วัดระฆัง..วัดบางขุนพรหม..วัดเกษ..วัดพลับ....
    .....ยุคโน้น..เขาไม่ได้เน้น..เรื่องความเป๊ะ..ของพิมพ์..มากมาย..กว่าเนื้อ..แบบยุคนี้
    ..เขาแค่พิจารณา..แบบทั่วไปตามพิมพ์ทรงมาตรฐาน..ไม่เน้นความเป๊ะจัดๆ...แต่
    มาเอาเป็นเอาตาย..เรื่องเนื้อ..คราบกรุ.แล้วค่อยมาดูเรื่อง..รัก..ทอง...รองลงไป...
    ..ผมจึงว่ายุคนี้..ความเชี่ยวชาญด้านเนื้อ..และ..คราบกรุ..จะสู้คนยุคโน้นไม่ได้...
    ไอ้ที่ว่า..นี้..มันมีที่มาที่ไป..ครับ....
    ...........สำหรับวัดระฆัง...OK..ครับ..พิมพ์..ความพิถีพิถันจะมีมากกว่า..เพราะทำทีละ
    ไม่มาก..ทยอยทำ..แต่เรื่องการตัดขอบจริงๆ..มีการพยายามเน้นกันแม้ในยุคก่อนว่า..
    ต้องเป็น..สี่เหลี่ยมผืนผ้า..แต่ของแท้..ที่ไม่เป็นผืนผ้า..ก็มี..และเป็นที่ยอมรับกัน...
    ...เพราะจะเอาแน่อะไร..กับมือคน..ไม่ได้ใช้เครื่องแบบปัจจุบัน....
    .......พอมา..วัดบางขุนพรหม..๘๔,๐๐๐ องค์..ก็มีให้เห็น..มีทั้งสอบ..เป็นขนม
    เปียกปูน..ก็มี(ไอ้เป็นขนมเปียกปูน..ก็มีที่มา..เพราะ..เมื่อตัดขอบเอาออกจาก..
    พิมพ์มา..พระยังไม่แข็งตัวดี..และพระแต่ละองค์..เนื้อยังต่างกัน..เพราะส่วนผสม
    กระจายไม่ทั่วถึง..เพราะผสม..ในปริมาณมาก..ความเข้มข้น..ก็ต่างกัน...เวลาแกะ
    พิมพ์ออกมา..ย่อมมีความนิ่ม..มากน้อยต่างกัน..ถ้าเราตอนจับพระ..มาตากถ้าองค์
    นั้น..เนื้อนิ่ม..ออกแรงไปหน่อย..ก็มีสิทธิ์ทำให้.."พระโย้"..ได้..จึงกลายเป็นรูป..
    ขนมเปียกปูน...........................
    ............................พระจำนวนมาก..คนทำก็ต้องมากไปด้วย..เป็นธรรมชาติมนุษย์
    ที่มีความพิถีพิถันต่างกัน..ผมเห็นพระบางขุนพรหม..หลายองค์ที่..เส้นหวายผ่า..นั้น
    เคลื่อน..ก็คงเพราะตอนถอดจากพิมพ์นี่เอง..มันไม่มีอะไร..เป๊ะหรอกครับ.......
    ............."มีกฎ..ย่อมมีข้อยกเว้น"...ฉันใด..ฉันนั้น...เพียงแต่ต้องเน้น..เหตุ..ที่มา
    แห่งเหตุ..และ..ผลอันเนื่อง..มาจากเหตุนั้น..มากกว่า....
    ...................อย่างเนื้อนี่..โอ้โห..ต้องมีการเรียก..กัน..หลายระดับเลย..เนื้อจัดมาก
    เนื้อจัด..เนื้อปานกลาง..เนื้อไม่จัด...ก็เล่นผสม..กันจำนวนมากขนาดนั้น..ก็แน่นอน
    ..ไม่มีทางที่..ส่วนผสม..จะลงตัว....
    ...................และไอ้ที่ต่างจาก..ยุคก่อน..เห็นได้ชัด..ในพระสมเด็จ..คือ..สมัยก่อน
    ..สมเด็จหักกลาง..สมเด็จแหว่ง...เซียนยุคก่อนชอบ..มากกว่า..เพราะเขาเชี่ยวชาญ
    ..เรื่องเนื้อ..คราบกรุ..ตัดสินกันง่ายกว่า...เซียนเดี๋ยวนี้..ถ้าพระหัก..ยิ่งตรงตำแหน่ง
    จุดตรวจสอบพิมพ์สำคัญหาย..ชักลังเลแล้ว..เพราะเชื่อถือเรื่องพิมพ์มาก..เรื่องเนื้อ
    ไม่เชี่ยวเท่า............
    .............ผมก็แค่..มาแทรก..เล่นๆพอเป็นเกร็ดประกอบ..ว่า..เทคนิคการกลบเกลื่อน
    รอยต่อยุคโน้น..ถ้ากลบเกลื่อนได้..คนที่ดูพระสมเด็จนั้น..เขาเน้น..เรื่องเนื้อที่เปิด..
    มากกว่า..มันจึงไม่ต้องมาเปิดโชว์ทุกซอกทุกมุม..แบบในยุคนี้..ต้องเห็นกันเต็มทั้ง
    หน้า..หลัง..ข้าง..คนที่ได้มรดกปู่..ทวด..ก๋ง..มาจะปล่อยพระที..ต้องแงะ..ทองออก
    ..ทั้งๆที่เลี่ยมมา..อย่างสวย..น่าเสียดายแทน..................
    ................................ต่อตอนหน้าครับ........................................................
    ..........................................................สวัสดี..............................................
     
  2. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,355
    ค่าพลัง:
    +19,459
    สวัสดีค่ะ คุณ ลุง ถ้าคุณ ลุง เหนื่อยก็พักบ้างก็ได้ค่ะ แต่ลินยังเข้ามาตามอ่านบทความมากด้วยสาระ ของคุณ ลุง ทุกวัน และ มาให้กำลังใจ คุณ ลุง ทุกวันเช่นกันค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  3. Na_mo_

    Na_mo_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    2,025
    ค่าพลัง:
    +4,750
    ขอบคุณคุณลุงอย่างสูงครับ ที่นำความรู้มาลงให้อ่านทุกๆวัน

    อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างมาก รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
     
  4. anoldman

    anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +4,558
    สาธุๆ



    สวัสดีครับ อาจารย์ลุง และทุกๆ ท่าน

    ติดตามอ่านตลอดๆ ครับ แต่ไม่ค่อยได้โพส ผมเป็นประเภทไม่ค่อยทักทายชาวบ้าน อะครับ^_^
    ______________________________
    hello9
    กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์
    กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์มาทำงานกัน



    แจกเหรียญน้ำมนต์รุ่น 4 รูปลักษณ์หลวงปู่เทพโลกอุดร ครับ
    แจกเหรียญน้ำมนต์รุ่น-4-รูปลักษณ์-หลวงปู่เทพโลกอุดร-ครับ<!-- google_ad_section_end --> ​
     
  5. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,355
    ค่าพลัง:
    +19,459

    สวัสดีค่ะ เม้นท์หน่อยก็ดีนะคะ จะได้เป็นกำลังใจให้คุณ ลุง ในงานเขียนด้วยค่ะ
     
  6. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    อ่านทุกวันครับ แต่ไม่ค่อยได้โพสครับ ขอบคุณมากครับลุง.. แวะมาให้กำลังใจครับ
     
  7. tong5959

    tong5959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +6,082
    เยี่ยมเหมือนเดิมครับพี่ [​IMG]
     
  8. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ขอขอบคุณ
    ทุกท่านที่ได้postมา............................

    ...............................การพิจารณาพระ...ของคนรุ่นเก่า...............................

    หู(ตอนพิเศษ)

    ......................เทคนิคการกลบเกลื่อน...รอยต่อ............................

    ........การปิดทอง..แบบง่าย.....
    ....................................................สมัยโน้น..คนเขาไม่สนิมสร้อย..กับการใช้พระ
    มากแบบ..คนยุคนี้..ต่อให้เป็นพระสมเด็จฯ..เพราะใช้งานกัน..เป็นปกติ...ส่วนนึงจะ
    เลี่ยมเงิน..หรือทอง..พอแผ่น"อซิเตท"..ด้านหน้าเสื่อม(เริ่ม..กรอบ..ฝ้า..และเปลี่ยน
    เป็นสีเหลืองคล้ำ..แล้ว)..บางคนรำคาญ..จะมองพระ..หรือ..อวดใคร..ก็ไม่เข้าท่า...
    ก็เอาออก..มันซะเลย.................................
    .......................ท่านจะเห็นจากในหนังสือ..พระสมเด็จฯ..จะเห็นว่า..จำนวนมาก..
    โดยเฉพาะ..วัดระฆัง..ด้านหน้าเลือนไปมาก..มีจำนวนไม่น้อย..ด้านหลังก็สึก...
    (ส่วนใหญ่แบบนี้..เดิมจะเลี่ยมเป็น..กรอบเงิน..และเปิดหลังจับ..เฉพาะขอบ...)
    ...เรียกว่าสัมบุกสัมบันมาก...แต่ก็มีที่รักของ...และต้องการเพิ่มความงาม..และ
    เสริมคุณค่า..ให้มากขึ้น....โดยการ...
    ......................................ปิดทอง...........................................................
    .........การปิดทอง...มีแบบจ้างเขา(ยกเว้น..ตัวเองมีทักษะ..ทำเอาเอง)..ซึ่งแบบ
    นี้..จะปิดแบบ..เป็นเรื่องเป็นราว...มีการลงรัก..ก่อน..แล้วปิดทองทับอีกครั้ง....
    ซึ่งจะมีความคงทนถาวร..พอควร..ทองจะติดแน่น..ไม่เลือน..เว้นแต่..รักจะหลุด
    ออกไปจาก..ผิวพระ.....
    .........และอย่าเข้าผิด..ว่า..พระสมเด็จวัดระฆัง..ที่มีการลงรัก..เฉยๆ..หรือ..ลงรักปิด
    ทอง..จะต้องเป็น..รักจีน..รักญี่ปุ่นอย่างเดียว..มันไม่เกี่ยวครับ...............
    ...เพราะ..มันอยู่ที่คนใช้...บางคนรับมาจาก..พ่อ..หรือ..ปู่...ของเดิมไม่ได้ปิด..
    เวลา..มันผ่าน..มาในยุคที่ไม่มีรักจีนแล้ว..อย่างสมัย..รัชกาลที่๖..มีแต่..รักน้ำ
    เกลี้ยง..สีน้ำตาล..ก็อยากจะลงรักปิดทอง..ให้สวย..ฉะนั้น..ก็รักที่มาใช้..ก็เลย
    เป็น..รักน้ำเกลี้ยงตามยุค...แต่ที่ไม่เคยเห็น..และไม่น่าจะมีแน่ๆ..ก็คือ..รักสมุก
    ..เพราะมารุ่นนี้..คนทั่วไป..เริ่มรู้คุณค่า..พระสมเด็จ..และไม่ใช่ยุคที่จะมาลงรัก
    ปิดทองแล้ว(..ยุคของ..รักสมุก(สีดำ)..ก็เริ่มมาก่อน..ปี๒๕๐๐ ไม่กี่ปี..กลับไป
    อ่าน..เรื่อง..รัก..ที่ผมเคยเขียนไว้..ประกอบด้วย..ก็จะดี)........
    ..............แล้วทำไม..หลักการที่บอกว่า..จะไม่มีการ..มาลงรัก..หรือ..ลงรักปิดทอง
    ..ที่ด้านหลัง..ถ้าไปเจอเข้า..ก็ตีเก๊ได้เลย..นี่เป็นหลักการในยุคนั้น...ความจริง
    ..มัน.มีที่มาครับ...แต่อย่าลืมว่า.."มีกฎ..ย่อมมีข้อยกเว้น"..ฉันใด..ก็..ฉันนั้น..เพราะ
    มีที่มา..เหมือนกัน...สมัยก่อน..ผมก็เชื่อตาม..แต่ก็มี..หลายเรื่อง..และเวลาผ่าน
    ไปมากๆ..ผมเป็นคนที่ยึดเหตุผล..และ..การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของที่มา..
    แห่งเหตุ..และผล..ของมัน..เพื่อมาประเมิน..หาข้อสรุป...................
    .............สมองคนเรา..มันไม่พัฒนา..หรอกครับ..ถ้าเราไม่เอาสมองเราเข้าไปวิ
    เคราะห์บ้าง...คิดแต่จะยึด..กฏ..หรือ..หลักการที่ได้รับทราบมา..แต่ก็เพียงแต่
    เอาแค่ภาพรวมไว้ก่อน..ในรายละเอียด..ถ้าเราคิดได้..วิเคราะห์แล้ว..ว่า..มันไม่
    ต้องเป็นเช่นนั้นเสมอไป..ก็..เชื่ออย่างที่เราคิดไว้ได้..ครึ่งนึงก่อนเลย....
    ...กลับไป..หาข้อมูลเพิ่มเติม..แล้ววิเคราะห์ใหม่..ถ้ายังออกมาเหมือนเดิม....
    ก็เพิ่มเปอร์เซนต์..เข้าไปเรื่อยๆ......
    .......ถ้าคนเราไม่คิดนอกกรอบ..บ้าง...โลกเราไม่มีทางพัฒนาได้แบบนี้หรอกครับ
    ..........หลายๆคนที่มีระดับ..ต่อหน้า..หรือ..ในวงการ..ก็ยึดหลักการ...แต่ลับหลัง
    ...ก็เก็บ..พระที่ไม่ตรงตามหลักการไว้...เพราะเมื่อเขามาวิเคราะห์เอง...เขาก็ต้อง
    ยอมรับ..ในหลักการที่แน่นอนกว่าไว้...........................
    ................มีกฎ.......ย่อมมีข้อยกเว้น...............................................
    ...........................................................ต่อตอนหน้าครับ.........................
    ...................................................................สวัสดี..........................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2011
  9. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    สวัสดีครับคุณอา และสมาชิกทุกท่าน ยังติดตามบทความดีๆของคุณอาอยู่ครับ แต่ช่วงนี่โดนไข้หวัดเล่นงานมาหลายวันแล้ว คุณอาดูแลสุขภาพด้วยนะครับ
     
  10. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,519
    ค่าพลัง:
    +30,858
    หวัดดีครับพี่modpong :cool:
     
  11. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    สวัสดีครับพี่ modpong อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ผมเองก็เข้ามาอ่านแต่ไม่ค่อยได้โพสต์ มึน ๆ หัวอย่างไรชอบกล ไปตรวจวัดความดันก็ปกติ คงจะเป็นเพราะอากาศเปลี่ยน อ่านบทความคุณภาพของพี่เสมอครับ
     
  12. saweit

    saweit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    747
    ค่าพลัง:
    +2,338
    ผมว่าที่จริงคนเข้ามาอ่านกันเยอะนะครับ
    แต่ไม่ได้ post กันนะครับ
    เข้ามาติดตามและให้กำลังใจคุณลุงครับ
     
  13. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .........................................
    ...ผมเคยไว้แล้ว..ครับ..ว่าจะไม่ดูพระให้..ทางเน็ต..ต้องขออภัยด้วย..
    ...แต่..เรื่องการแยกรุ่น..ว่ากรุเก่า..กรุใหม่..ผมว่า..ผมเคยเขียนไปแล้วนะครับ...มันตัดสินกันที่...คราบกรุ..ที่มาลองกลับไปอ่านดูครับ...ผมไม่อยากเขีำยนซ้ำอีก..มันยาว...เอาว่า..คร่าวๆ..คราบกรุสีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้ม..เป็น"กรุใหม่"..ไม่ว่าจะออกเป็นทางการจากวัดหรือ...ออกจากมือตก..ก็ตาม.....
    ...พระที่เอาออก..มาจำหน่าย..ที่วัดบางขุนพรหมเื่มื่อ ๒๕๐๐ ไม่มีกล่องพลาสติกครับ..และ..ด้านหลังต้อง..ปั๊มตราวัด..ด้วยตรายางที่ใช้หมึกพิมพ์สีม่วง..อย่างชัดเจนทุกองค์..ครับ....
     
  14. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,355
    ค่าพลัง:
    +19,459
    ขอบพระคุณค่ะ คุณ ลุง ได้ความรู้เพิ่มอีกเช่นเคยค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  15. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ขอขอบคุณ
    ทุกท่านที่ได้postมา............................

    ...............................การพิจารณาพระ...ของคนรุ่นเก่า...............................

    หู(ตอนพิเศษ)..........
    ....................................เทคนิคการกลบเกลื่อน...รอยต่อ..............................

    .....ที่ผมบอกทิ้งท้ายไปคราวที่แล้ว..มันมี..สาเหตุดังนี้...........................
    ................ที่ว่าพระสมเด็จ..จะลงรักปิดทองแต่ด้านหน้า..เพราะ..ทำครั้งเดียวเสร็จ
    ทำได้ง่าย..เร็ว..เพราะแค่..เอาพระวาง..เอารัก..ทาทิ้งไว้..แล้วปิดทอง...แค่นี้ก็เสร็จ
    ...ถ้า..จะทำทั้งองค์...คุณจะต้องทำด้านหน้าก่อน..เสร็จแล้ว..ถึงมาจัดองค์พระใหม่..
    แล้วมาทำด้านข้าง..ด้านหลัง..อีกครั้ง.....
    ....แล้วอีกอย่างธรรมชาติมนุษย์ทั่วไป..ก็ให้ความสำคัญกับ..ด้านที่มีองค์พระมาก
    กว่าอยู่แล้ว..จึงไม่มีความไปจำเป็น..ต้องไปทำด้านหลัง.........
    ...อีกส่วน..ความรู้สึก..คนยุคเก่า..แค่..เลี่ยมทองพระ..เลี่ยมกรอบพลาสติก..ยังต้องมี
    เปิด..เพราะกลัวพุทธคุณ..ไม่ออก..เพราะฉะนั้น..เขาก็เลย..ไม่ลงรักหุ้ม..ทั้งหมด
    .............ไอ้ที่เปิดหลังไว้..แล้วมาบอกกันว่า..ไว้ดูเนื้อ..ไม่ใช่หรอกครับ...สมัย ร.๕
    ..ร.๖....สมัยนั้น..หาแว่นขยาย..ยังแทบไม่ได้..แล้วจะมาดูอะไร..มองไปก็เห็น
    แค่..ขาวๆ..........เป็นการสันนิษฐานที่ไม่สมเหตุ..สมผลจริงๆ.....
    .................................แต่ที่ผม..ว่า..การที่จะมีรัก..ปิดหุ้มทั้งองค์...นั้นทำไมมันจะ
    เป็นไปไม่ได้..หรือ..ไม่มี..ก็คนเรามันเหมือนกันที่ไหน..ใช่คนส่วนใหญ่จะคิดแบบ
    นั้น..แต่มันจะคนสมัย รัชกาลที ๕ ที่ ๖ คิดแหวกๆ..บ้างไม่ได้บ้างรึไง...
    ..........สมมุติ..ผม(เป็นคนที่คิดไม่เหมือนใคร..อยู่แล้ว)..ไปเกิดในยุคนั้น..ผมได้รับ
    พระสมเด็จมา..จากพ่อ..รู้ว่าเป็นของดี..เก็บใส่พานบูชาไว้ที่บ้าน..รวมกับพระอีก..
    ๒-๓ องค์..วันดีคืนดี..ผมหยิบพานลงมาดู..เห็นมีแมลงที่มันชอบกินเนื้อพระ..เริ่มมา
    กิน..พระองค์อื่น..ผมอยากจะป้องกัน..พระผม..ผมก็เลยเอารัก..ไปทาหุ้มปิด..ทั้งหมด
    ..เพื่อกันแมลง..มากิน..(รัก..เป็นตัวป้องกันแมลงกินพระ..ได้อย่างดี)...แล้วมันแปลก
    ตรงไหน..คนสมัยก่อน..เขาไม่ได้เอาพระสมเด็จ..ติดตัวไปไหนมาไหน..ทุกคน..ผม
    เคยไปสอบถามคนรุ่นเก่าๆมาหลายคน..พระได้มา..ส่วนใหญ่ก็ใส่พานบูชา..เป็นส่วน
    ใหญ่............
    ......นอกจากที่ผมว่ามานั้น..ต้องมีคนที่..ลงรักหุ้มพระสมเด็จ..ทั้งองค์..อีกอย่างคือ
    ผมเคย..สังเกตจาก..รูปพระวัดระฆัง..ขนาดขยายใหญ่..ที่เอามาลงในหนังสือ...
    ด้านหลัง..บางองค์..เห็น..คราบรัก..เล็กๆที่ฝังอยู่..ในส่วนที่ลึกลงไปในเนื้อด้วย..
    คาด..ว่า..จะทำความสะอาดเก็บ..เศษรักที่ติดอยู่ด้านหลังออกซะหมด..ให้ดูเข้ากับ
    หลักการณ์..ไม่งั้นเดี๋ยวเขาไม่ยอมรับกัน...
    ...........................ก็อย่าไปคิดอะไรมาก..หรือ..มาเชื่อผม..แค่เล่าแนวความคิดผม
    ให้ทราบ..แต่ไม่ได้ต้องการให้ใครมายอมรับ..หรอกครับ
    ............................
    ...............................................................................................................
    .......อย่างที่ผมบอก..ว่า..การลงรักปิดทอง..นั้น..ถ้าอยากจะลองทำ..กับ..พระทั่วไป
    ที่ได้รับแจก..เวลาไปงานเผาศพ..ก็พอได้..แต่..เราจะมำลองกับ..พระที่มีระดับ..ก็เป็น
    สิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง...เมื่อเป็นอย่างงี้..กับ..พระที่รักและทรงคุณค่า..ก็สู้จ้างเขาดี
    กว่า..ส่วนใหญ่ไม่ยากครับ..คนสมัยโบราณ..เขาแค่ไปตามวัด..ที่เคยมีการสร้างพระ
    ..หรือ..อย่างวัดใหญ่..คนที่อาศัยที่วัด..ลูกศิษย์วัด..เขาก็พอมีประพการณ์กันบ้าง..
    พอไปใช้ได้..หรือไม่งั้นก็ไปแถว..เสาชิงช้า..บ้านบาตร..บ้านช่างหล่อ..ซึ่งมีช่างเยอะ
    แยะ(แถว..สะพานดำ..ข้างวัดสระเกศ..ก็มี)..ที่จะช่วยได้......
    .................................แต่ถ้าขี้เกียจ..แค่อยากปิดทองเฉยๆ..ไม่ต้องการความเนียบ
    ความทนทาน..มากมาย....ก็วิธี..ที่คนยุคเก่า..รู้กันทุกคน.............................
    .....................................ปิดทองแบบไม่ใช้รัก............................................
    ....ก็แค่...หาหอมแดง(หรือ กระเทียม)..มาทา..ที่ผิวพระ...แล้วเอา..ทองแผ่นลงปิด...แค่นี้..ก็ออกมา
    สวยงาม
    ..แถม..ข้อดี..คือ..แนบกับ..รูปทรงพระ(..ใช้พู่กันช่วย..ในการไล้แผ่นทอง
    ตาม..ซอก..ก็เรียบร้อย)..ปิด.ซัก๒ชั้น..ก็..กำลังดี...ผมเคยเห็น..พระสมเด็จที่อยู่ใน
    คอผู้ใหญ่..ที่เขาปิดทอง..แบบนี้..มาแล้ว..ดูง่ายครับ..เพราะทองบางส่วนที่ลอก..
    หรือ..สึกออก...ก็เห็นเนื้อพระเลย.....และในหนังสือรุ่นเก่า..ก็บางองค์ที่ทำแบบนี้
    ..................................ต่อตอนหน้าครับ.....................................................
    ................................................................สวัสดี.......................................
     
  16. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    สวัสดียามเช้าทุกๆๆท่าน สำหรับกระทู้คุณภาพและสาระน่ารู้ครับ:cool:
     
  17. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,519
    ค่าพลัง:
    +30,858
    ยังตามกระทู้ดีๆมีสาระของพี่อยู่นะครับ:cool:
     
  18. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,355
    ค่าพลัง:
    +19,459
    สวัสดีตอนสายๆค่ะ คุณ ลุง และ เพื่อนๆสมาชิกทุกๆท่าน มาเป็นกำลังใจให้คุณลุงค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  19. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952
    สวัสดีครับคุณลุง ไม่ได้เล่นเน็ตนานเลย
    เข้ามาอีกที ชักจะตามเรื่องไม่ทันเลยครับ
    คุณลุงพอจะมีข็อมูลหลวงพ่อตาด วัดบางวันทอง บ้างรึปล่าวครับ
    ผมได้ยิน "เขาเล่าว่า" ท่านเป็นอาจารย์ของหลวงปู่ทองสุข วัดโตนดหลวง
    คุณลุงมีความคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะ อย่างไรบ้างครับ
     
  20. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .........................................
    ....ลองดู..ตามLinkนี้แล้ว..กันครับ
    ..มีทั้งประวัติ..รูปท่าน..และเหรียญ
    http://p.moohin.com/087.shtml
    ..............................................
    ..เรื่องประวัติท่าน..ที่เป็นมา..ก็น่าจะเป็นมาอย่างนั้น..เพราะเป็นประวัติมาแต่ดั้งเดิม...แต่การเป็น..อาจารย์..นั้น..ผมว่า..หลวงพ่อศุข..คงได้เรียนมาเป็นบางส่วน..ไม่ใช่..เป็นส่วนใหญ่..ท่านอาจ..จะได้มาเพิ่มเติมภายหลัง..ระหว่างธุดงค์..มากับ..หลวงพ่อจันทร์..หรือ..อาจจะมีบางส่วนที่ท่านได้มาก่อนท่านบวช..ก็เป็นไปได้...เพราะ..ให้สังเกต..ยันต์ที่เหรียญหลวงพ่อตาด..จะเป็น
    คนละแบบ..กับ..หลวงพ่อศุข..ซึ่งยันต์ครู..ของหลวงพ่อศุขถือ
    เป็นยันต์หลัก..และ..วิชาหลักของท่าน..การลง..ต่างๆ..ทั้งกระหม่อม..ผ้ายันต์..ตะกรุด...รวมถึง..ที่ปรากฎที่หลังรูปที่พ่อผมถ่ายท่าน...ก็เป็นยันต์ครู..ทั้งหมด..ซึ่งต่างจากของ..หลวงพ่อตาด..ที่ผมว่า..ที่น่าจะเป็นอาจารย์อีกองค์..ของหลวงพ่อศุข
    ด้วย..แต่ท่านก็ไม่ได้ใช้ยันต์ครูแบบหลวงพ่อศุข..คือ
    หลวงพ่อตุย วัดปราโมทย์ บางคณฑี สมุทรสงคราม..ครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...