ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย คุณสนุก, 4 พฤศจิกายน 2010.

  1. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819


    อะโห...อาปาเช่แข้งขีด(เดา):cool:

    คนทักพลาดแระงานนี้
     
  2. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819

    สังเกตุชื่อสิ.. ล้างใจ.. แสดงว่าเลิกหมดแล้ว .เนี่ยสวดมนต์ทุกวันเช้าเย็น.555 ^^
     
  3. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    พระปิดตาหลวงพ่อทอง วัดป่ากอ สงขลา
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    หลวงพ่อทอง หลังหนุมาน

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    ประวัติพระอาจารย์ทองวัดป่ากอ สงขลา

    หลวงพ่อทอง สุสังวโร
    วัดป่ากอสุวรรณาราม ตำบลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา
    หลวงปู่ทอง สุสังวโร อายุ 92 ปี พรรษา 54 อดีตเจ้าอาวาสองค์แรกวัดป่ากอสุวรรณาราม ตำบลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา พระอาจารย์
    ์ชื่อดังมรณภาพด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2543 เวลา 12.08 น. ณ กุฎิของหลวงปู่ทองเอง ปัจจุบันร่างสังขารของหลวงปู่ทองบรรจุใน โลงแก้ว สภาพ
    สังขารของหลวงปู่ทองแห้งกลายเป็นหิน เส้นผม เล็บมือ เล็บเท้า งอกยาวขึ้น เห็นได้ชัดเจนมากทุกวันจะมีบรรดาศิษย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เช่น ชาวมาเลเซีย ชาวจีน
    ชาวสิงคโปร์ เดินทางมาเคารพร่างสังขารของหลวงปู่ทอง สุสังวโร จำนวนมากมาย เปรียบเสมือนท่านยังมีชีวิตอยู่ที่วัดสุวรรณาราม
    ประวัติของหลวงปู่ทอง สุสังวโร
    หลวงปู่ทอง สุสังวโร เกิดเมื่อวันเสาร์ เดือน 4 ปีระกา พ.ศ. 2452 เป็นบุตรของนายนวน และนางเภาทอง ห่อเพชร บิดาและมารดาของหลวงปู่ทอง มี
    บุตรด้วยกัน 3 คน คือ นายแดง นายทอง (หลวงปู่ทอง สุสังวโร) ส่วนคนที่ 3 นั้นเสียชีวิตตั้งแต่เด็กๆ เมื่อหลวงปู่ทอง สุสังวโร อายุได้ 3 ขวบ มารดา (นางเภาทอง
    ห่อเพชร) ได้ถึงแก่กรรม บิดา (นายนวน ห่อเพชร) พาไปฝากไว้กับลุงยอด กับป้าหนุ้ย เลี้ยงที่บ้านลุงและป้าของหลวงปู่ทอง สุสังวโร ด้านการศึกษา พออายุได้ 6 ขวบ ลุง
    ยอด ห่อเพชร ได้พาหลวงปู่ทองไปเข้าโรงเรียนที่วัดแม่เปียะ หลวงปู่ทองเรียนหนังสือยังมิได้จบชั้น ป.4 ป้าดำซึ่งเป็นญาติของหลวงปู่ทองอีกคนได้พาหลวงปู่ทองไปเรียน
    อยู่ที่บ้านไร่ คลองปอม ให้หลวงปู่ทองช่วยทำไร่จนอายุครบ 20 ปี บรรพชาและอุปสมบท ป้าดำได้พาหลวงปู่ทอง กลับมาบวชที่วัดแม่เปียะ ตำบลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม
    จังหวัดสงขลา ในสมัยนั้น มีท่านพระคุณใช้ เป็นพระอุปัชฌาย์ บวชเมื่อ พ.ศ. 2473 ได้ฉายาว่า พระทอง ธรรมเสโน อยู่ที่วัดแม่เปียะไม่นาน หลวงพ่อลี ซึ่งเป็นคนแม่เปียะ
    บวชที่วัดแม่เปียะ แต่ได้ไปสร้างวัดอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ได้กลับมาเยี่ยมเยียนบ้าน พบหลวงปู่ทอง และได้ชวนหลวงปู่ทองไปอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ณ วัดสีตะวัน ปัจจุบัน
    เรียกวัดบุญญาราม หรือวัดธรรมนุ่ม คนจีนจะเรียกวัดธรรมบุญ อยู่ที่รัฐอีโป ประเทศมาเลเซีย หลวงปู่ทอง สุสังวโร อยู่ที่วัดบุญญารามได้ไม่นาน พ่อท่านเพชร สิ้นบุญ (มรณภาพ) ที่วัดแม่เปียะ เผาศพพ่อท่านเพชรที่ต้นโพธิ์ใกล้ๆ กับวัด นั่นเอง หลวงปู่ทอง สุสังวโร ได้เดินทางกลับมาที่วัดแม่เปียะ เมื่อหลวงปู่อง เดินทางมาแล้ว ก็ได้สร้าง
    กุฎิอยู่ที่ต้นโพธิ์ใกล้ๆ เมรุเผาศพของหลวงพ่อเพชร ต่อมามีโยมมาตามหาพ่อท่านเส้ง ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของพ่อท่านฟลอย ซึ่งท่านเก่งในทางปฏิบัติวิปัสสนา และท่านเป็นคน
    บ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาอยู่ที่วัดพลีควาย (วัดพรหมประดิษย์ฐาราม) เมื่อได้พบกันแล้ว หลวงปู่ทองได้ฟังคำสอนและนึกเลื่อมใสพ่อท่านเส้งๆ สืบหาโยมคนหนึ่ง
    คือ แม่ชีเนียม พ่อท่านเส้งได้เดินทางมาจังหวัดสงขลา ที่บ้านนายปรีดาได้เจอกับแม่ชีเนียมตอนเช้าออกมาบิณฑบาต พ่อท่านเส้งได้นิมนต์แม่ชีเนียมมาเทศน์ที่วัดพลีควาย
    เพราะว่ามีชีเนียมทานอาหารเจ ถือปฏิบัติเทศน์สอนประชาชนเก่งมาก ชื่อของแม่ชีเนียมโด่งดังมาก แม่ชีเนียมได้รับนิมนต์พ่อท่านเส้งมาเทศน์ที่ วัดพลีควาย หลวงปู่ทองไป
    ที่วัดพลีควายที่พ่อท่านเส้งอยู่ได้พบแม่ชีเนียมเป็นครั้งแรก ได้ถามความเป็นจนมาเป็นที่เข้าใจ ต่อจากนั้นไม่นานพ่อท่านเส้งก็กลับ จังหวัดสุราษฏร์ธานี หลวงปู่ทอง สุสังวโร
    ก็ออกธุดงค์ไปจังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอทุ่งสง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้พบกับพ่อท่านเส้งอีกครั้ง พ่อท่านเส้งลูบหลังหลวงปู่ทอง สุสังวโร 3 ครั้ง พร้อมกับให้พร
    แล้วกลับไปบ้านดอน หลวงปู่ทองได้เดินทางกลับนาม่วง อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ได้พบกับแม่ชีเนียม ซึ่งกลับจากกรุงเทพมหานคร มาพร้อมกับนายคง แม่ชีเนียมได้
    ถามหลวงปู่ทองว่าปีนี้ท่านจะจำพรรษาที่ไหน หลวงปู่ทองตอบว่าท่านจะจำพรรษาที่บ้านไร่ เพราะว่าเป็นบ้านเดิมของป้าดำผู้มีพระคุณ แม่ชีเนียมบอกหลวงปู่ทองว่าอย่าไป
    คนเดียว จะไม่สบาย แต่หลวงปูทองบอกว่ารับปากโยมไว้แล้วก็ต้องไป พอใกล้วันเข้าพรราาหลวงปู่ทองก็ล้มป่วย พระอุปัชฌาย์ช่วยรักษาจนหายจากอาการป่วย ที่วัดแม่เปียะ
    อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา หลวงปู่ทองได้ลาสิกขาบท ออกไปอยู่ที่บ้านของป้าดำ ต่อมาได้ลาป้าดำตั้งใจจะตามหาพ่อท่านเส้ง หลวงปู่ทองได้ไปหาแม่ชีเนียมในตัวเมือง
    สงขลา เมื่อไปถึงบอกความประสงค์กับแม่ชีเนียม แม่ชีบอกจะไปด้วยให้อยู่ที่นี่ก่อนแล้วค่อยไป ตั้งแต่นั้นมาก็อยู่กับแม่ชีเนียมตลอดมา หลวงปู่ทอง สุสังวโร บวชครั้งแรก 7
    พรรษา พอสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2484 ช่วงนั้น หลวงปู่ทองได้ลาแม่ชีเนียมมาที่นาม่วง อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลาอีกครั้ง
    ต่อมาได้อุปสมบทเป็นครั้งที่ 2 ณ พัทสีมาวัดทุ่งฆ้อโฆษิตาราม มีพระครูวิจารย์ธรรมโฆษิต (แช่ม) เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านสุกแก้ว วัดพลีควาย เป็นพระคู่
    สวด กำนันผ่อง เป็นเจ้าภาพฝ่ายรับรอง ประมาณ พ.ศ. 2485 อยู่จำพรรษา 1 พรรษา แล้วไปอยู่ที่วัดพลีควายได้ออกธุดงค์ไปเกาะแก้วพิศดาร จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุราษฎร์
    ธานี จังหวัดชุมพร จังหวัดสุโขทัย ในสมัยนั้น การเดินทางแสนลำบากสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าเขาและสัตว์ดุร้าย แต่หลวงปู่ทอง ท่านไม่เคยกลัว ท่านเดินทางกลับจาก
    การธุดงค์ก็มาจำพรรษาอยู่ที่พรุเกษา อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ต่อมาออกจากพรุเกษาก็ก็มาอยู่วัดกลางใจงาม (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งอำเภอนาหม่อม) พอได้ 7 พรรษา ไป
    อยู่ที่ป่าบ้านนา 2 พรรษา และไปอยู่ที่ป่าช้าวัดโคกนาว อยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัย มอ. หาดใหญ่ ในสมัยก่อนเป็นเป็นป่าช้าใหญ่มาก วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2501-2502
    ออกพรรษาไปอยู่บ้านนาทองสุก ตำบลทุ่งขมิ้น อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา อยู่ได้ 9 พรรษา ก็ได้กลับมาอยู่ที่ป่าช้าวัดโคกนาวอีก ครั้งต่อมาได้ออกจากป่าช้าโคกนาว และ
    ได้ไปอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 ปี หลวงปู่ทองได้กลับมาที่เขารูปช้าง อยู่ได้ 6 พรรษา แล้วมาอยู่ที่ต้นแซะ (ปัจจุบันเป็นสำนักสงฆ์ต้นแซะ ใกล้วัดปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา
    จังหวัดสงขลา) อยู่ได้ 2 พรรษา มีพระธุดงค์แนะนำให้ไปหมู่บ้านกระเหรี่ยวแถวจังหวัดเพชรบุรี หลวงปู่ทองเกิดล้มป่วยเป็นไข้ป่าเกือบเอาชีวิตไม่รอด จึงได้ธุดงค์กลับจาก
    หมู่บ้านกระเหรี่ยง เมื่อกลับมาทุกคนช่วยกันรักษาหลวงปู่ทอง สุสังวโร จนหายจากอาการป่วย ด้วยโรคไข้ป่า หลวงปู่ทอง สุสังวโร ได้พบญาติ คือ นายแคล้ว อยู่บ้าน
    ควนโตน ซึ่งเป็นญาติในฐานะน้องชาย อยู่ได้ไม่กี่วันจึงชวนสามเณร ที่มาพร้อมกับหลวงปู่ทอง ธุดงค์มาที่ป่ากอ ซี่งเป็นที่ของนายแดง หลวงปู่ทอง สุสังวโร จึงได้จำวัดที่
    ป่ากอ ที่บริเวณป่ากอนี้สมัยก่อน เคยเป็นวัด มีพ่อท่านองค์หนึ่งและสามเณรมาอยู่ในสมัยก่อน เสือได้กินสามเณร พ่อท่านเลยไปจากป่ากอ ต่อมาได้มีนายแดง เป็นคนหนุ่มโสด
    ยังไม่มีครอบครัว เพื่อนบ้านเรียกว่าท่านแดง ได้พาหลานชื่อ นายสี อินอุทัย มาอยู่ด้วย ตั้งรกราก ช่วยกันทำมาหากิน มีต้นไผ่อยู่หลายกอ พันธุ์ไม้อื่นๆ อีกจำนวนมาก หากใคร
    เข้ามาส่วนใหญ่จะหลงทาง เดินทางกลับไม่ถูก หลวงปู่ทอง สุสังวโร รู้ประวัติที่นี่ดี จึงเรียกนายแดง มาคุยเพื่อปลูกศาลา เมื่อหลวงปู่ทอง กลับจากธุดงคร์จะได้มาพักผ่อน
    และได้อยู่ใกล้ลูกหลาน เพราะว่าเป็นบ้านเกิด นายแดงได้ยกที่ดินให้ประมาณ 3 ไร่ ในปี พ.ศ. 2518 หลวงปู่ทอง สุสังวโร ได้มาจำพรรษาที่วัดป่ากอ เป็นครั้งแรก จึงได้ถือ
    กำเนิดสำนักสงฆ์ป่ากอขึ้นในปีนี้เอง
    ผลงานและการกุศล
    ในชีวิตสมณเพศของหลวงปู่ทอง สุสังวโร ได้ใช้ชีวิตคุ้มค่าในการปฏิบัติธรรมและบำเพ็ญประโยชน์แก่พระพุทธศานา และประเทศชาติ ในปี พ.ศ.
    2542 ได้ช่วยทางราชการเพื่อการกุศล ดังนี้
    - ซื้อที่ดินบ้านชายนา ให้ผู้ใหญ่บ้านทวี รับมอบและสร้างศาลาพักร้อน
    - ซื้อเครื่องเอ็กซเรย์ มอบให้โรงพยาบาลกองบิน 56 อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา
    - ช่วยเหลือชาติ มอบเงินให้นายชวน หลีกภัย (ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) เป็นผู้รับมอบ
    - สร้างที่พักสายตรวจให้ สภอ.นาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา
    - บริจาควัสดุอุปกรณ์ให้แก่โรงพยาบาลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา
    ความศรัทธาของชาวต่างชาติ
    หลวงปู่ทอง สุสังวโร เป็นพระปฏิบัติเช่นเดียวกับพระนักปฏิบัติโดยทั่วไป ความศรัทธาของ
    ประชาชน ชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่เกิดจากการที่ได้ฟังธรรมะของหลวงปู่ทอง ท่านจะแสดงธรรมง่ายๆ ให้นำไปปฏิบัติ เมื่อผู้ฟังนำไปปฏิบัติแล้วก็เกิดผล จึงทำให้ประชาชน
    ชาวต่างชาติดได้ทราบกิตติศัพท์ ของหลวงปู่ทอง สุสังวโร พากันเดินทางไปนมัสการและฟังธรรมกันจนวัดป่ากอสุวรรณารามเปลี่ยนแปลงจากสำนักสงฆ์ที่ไม่มีถาวรวัตถุ
    จนเวลานี้มีกุฎิ ศาลา และอาคารก่อสร้างต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมายด้วยแรงศรัทธา จากประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งชาวต่างชาติที่เข้ามากราบไหว้หลวงปู่ทอง
    ได้แก่ ชาวมาเลเซีย ชาวสิงคโปร์ ชาวจีนและชาวอินโดนีเซีย

    ที่มา...ขอบคุณ G-Pra.com:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 เมษายน 2011
  6. Aimee2500

    Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,703
    ค่าพลัง:
    +1,765
    <center><center>[​IMG]<center>[​IMG]<center>[​IMG]<center>[​IMG]<center>[​IMG]</center></center></center></center></center></center><center>[​IMG]</center>
    <center>[​IMG]<center>[​IMG]<center>[​IMG]<center>[​IMG]


    พระ เนื้อว่านหลวงพ่อปานวัดนาประดู่ ปัตตานี หลังจากหลวงปู่ทิมท่านสร้างพระเครื่องในนาม "หลวงพ่อทวด" ขึ้นแล้ว และประจักษ์ถึงอภินิหารศักดิ์สิทธิ์กันไปทั่ว หลวงปู่ทิมก็คิดถึงวัดนาประดู่ วัดเก่าก่อนที่ท่านจะมาจำพรรษาที่วัดช้างให้ ท่านจึงติดต่อกับวิญญาณของหลวงพ่อปานทางวิปัสสนาแล้ว ก็ได้รับอนุญาต จึงได้จัดสร้างขึ้นในปี 2504 ในนาม "หลวงพ่อปาน วัดนาประดู่"ในการสร้างนอกจากจะหาว่านมาทำผงขึ้นใหม่แล้ว ได้นำผงที่สร้าง "หลวงพ่อทวด" ที่เหลืออยู่และหลวงปู่ทวดปี 2497 ที่แตกหักจำนวนมากผสมด้วย เมื่อทำเสร็จตามพิธีกรรมแล้ว จึงได้นำออกให้ทำบุญเพื่อบรูณะกำแพงวัดที่กำลังทรุดโทรม
    กรรมวิธีการสร้างตามแบบเดียวกับพิธีสร้างหลวงปู่ทวดเนื้อว่านรุ่นแรกปี 2497เนื้อว่านที่ใช้ก็แบบเดียวกัน และการปลุกเสกก็มีการอัญเชิญดวงวิญญาณหลวงปู่ทวดมาเป็นประธานในธี และมี อ.ทิม ปลุกเสกร่วมกับเกจิหลายรูป รวมทั้งอ.นอง วัดทรายขาว ถือได้ว่าเป็นพระที่มีพุทธคุณสูงอีกรุ่น
    [​IMG]

    </center>
    </center>
    </center>
    </center>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2011
  7. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    ผ้ายันต์พ่อท่านทอง 6 ผืน ผืนละ1 เมตรกว่าเท่ากับม่านหน้าต่าง

    ในผ้ายันต์มีความสวยงาม...มีรอยฝ่ามือพ่อท่านทองด้วยค่ะ....

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    ผ้ายันต์พ่อท่านทอง....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819





    อ่านจบแล้วครับ :cool:
     
  10. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819

    สวัสดีคุณมี่ หายไปไหนหลายวัน ^^

    ขอบคุณสำหรับข้อมูลฮะ.มีของดีโดยไม่รู้ตัวเนอะเรา.^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2011
  11. tong5959

    tong5959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +6,082
  12. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    ค่ะวันนี้จะให้รางวัลอะไรอีกค่ะ คุณโต้ง
    ชอบมายามวิกาล....นะคะ
    คุณหมอยังไม่นอนหรือค่ะ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. ksongrit

    ksongrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    841
    ค่าพลัง:
    +7,402
    อาปาเช่ แข้งขีด สภาพใช้
    ไม่งามเท่าไหร่
    แต่มีคุณค่าทางจิตใจครับ
     
  14. ksongrit

    ksongrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    841
    ค่าพลัง:
    +7,402

    ใกล้แล้วครับพี่ พรุ่งนี้อยู่เวรต่ออีก
     
  15. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819
    แค่นี้ก็ มองตาปริบๆ แล้วครับ^^:cool:.............

    ขออนุญาติไปนอนก่อนนะทุกคน พรุ่งนี้ต้องทำงานอีก ปั๊มเงิน
    เอามาเช่าพระ..เฮิ๊กๆๆ
     
  16. tong5959

    tong5959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +6,082
    ระดับผม แจกเป็นล้านครับ [​IMG]
     
  17. Aimee2500

    Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,703
    ค่าพลัง:
    +1,765
    ที่มา : Luangpudu.com / Luangpordu.com

    [FONT=&quot]กระแส ตื่นกลัวภัยธรรมชาติต่างๆ นับวันจะมีมากขึ้น เรื่องที่ไม่คิดว่าจะได้พบเห็น ก็ได้พบเห็น อย่างเช่นมีการทำนายว่าโลกจะแตกและเกิดภัยพิบัติเร็ว ๆ นี้ ทำให้มีผู้คนจำนวนมากหลงเชื่อ แตกตื่นอพยพหนี ทิ้งงานการที่ทำ ทิ้งบ้านทิ้งเรือน ดังที่เป็นเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์[/FONT]
    [FONT=&quot]พฤติกรรม และความเชื่อแปลก ๆ นี้ นับวันจะเพิ่มขึ้นและขยายวงกว้างออกไป ใน อดีตมักเกิดขึ้นกับคนที่มีการศึกษาไม่มากนัก แต่หากสังเกตดูในปัจจุบัน ผู้คนที่เชื่อเรื่องนี้ มีกลุ่มผู้มีการศึกษา มีตำแหน่งหน้าที่การงาน ทำไมถึงเป็นเช่นนี้...[/FONT]
    [FONT=&quot]หากพิจารณาให้ดีจะพบว่าสาเหตุมาจากสองส่วนใหญ่ ๆ [/FONT]
    [FONT=&quot]ส่วนแรก[/FONT][FONT=&quot] คือ ตัวบุคคลคนผู้นั้นเองที่ขาดปัญญาที่จะวินิจฉัยแยกแยะถูกผิด ด้วยเหตุที่มีนิสัยเป็นศรัทธาจริตนำ ทำให้หลงเชื่อและคล้อยตามผู้อื่นได้ง่าย[/FONT]
    [FONT=&quot]ส่วนที่สอง[/FONT][FONT=&quot] คือ อิทธิพลจากสื่อต่าง ๆ ในยุคปัจจุบัน ทั้งภาพยนตร์ โทรทัศน์ หนังสือ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์ต่าง ๆ ที่ผุดอย่างรวดเร็ว มากมายทุกเวลานาที ประกอบกับในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้มีเหตุการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั้งแผ่นดิน ไหว น้ำท่วม สึนามิ...สิ่งที่ไม่เคยเกิดในรอบหลายสิบปีหรือร้อยปี ก็เกิดบ่อยขึ้น รุนแรงขึ้น...ฤดูหนาวที่ควรหนาว ก็ไม่หนาว พอถึงหน้าร้อน ก็กลับหนาวเย็นธรรมชาติวิปริตแปรปรวนอย่างน่ากลัว[/FONT]
    [FONT=&quot]ทำให้อดนึกถึงคำสอนของหลวงพ่อที่ครั้งหนึ่งท่านถามข้าพเจ้าว่า[/FONT]
    [FONT=&quot]แกลองตรองดูให้ดี ทุกอย่างที่เราทำวันนี้ ...เพื่อไว้กินวันข้างหน้าใช่มั้ย[/FONT]
    [FONT=&quot]ใช่ครับ ข้าพเจ้าตอบท่าน[/FONT]
    [FONT=&quot]นั่นซิ ที่ข้าสอนแกภาวนาวันนี้ ก็เพื่อวันข้างหน้านี่แหละ ฝากแกไปคิดดู...[/FONT]
    [FONT=&quot]หลวงพ่อกล่าวต่อด้วยรอยยิ้มที่เมตตายิ่ง[/FONT]
    [FONT=&quot](บทความโดยคุณเมธาฯ)[/FONT]

    [FONT=&quot]เกี่ยว กับเรื่องที่นับวันโลกยิ่งวุ่นวาย โลกยิ่งวิปริตนี้ ผู้คนต่างเอารัดเอาเปรียบ แก่งแย่งแข่งขันกัน ต่อไปคงหาอยู่หากินกันลำบาก หากไม่นับภัยธรรมชาติแล้ว ภัยที่เกิดจากมนุษย์ด้วยกันเองก็มีมากมายทีเดียว ข้าพเจ้าเคยหาโอกาสเรียนถามหลวงพ่อว่า ต่อไปข้างหน้าจะเตรียมตัวอย่างไรดี[/FONT]
    [FONT=&quot]หลวงพ่อตอบคำถามข้าพเจ้า ด้วยการถามกลับว่า...[/FONT][FONT=&quot]แกตอบข้าที คนเรากลัวอะไร [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้าตอบท่านว่า... ส่วนมากกลัวตาย ถ้าไม่กลัวตายก็กลัวทุกข์ กลัวต้องลำบากครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]หลวงพ่อได้เมตตาสอนข้าพเจ้าต่อว่า...[/FONT][FONT=&quot]คน สมัยนี้ สมัยไหนก็เหมือนกัน เหมือนกันที่เมื่อมีความกลัวแล้วต่างก็หาที่พึ่ง สุดท้ายไม่มีอะไรเป็นที่พึ่งได้จริง ข้าว่าอย่างนี้ แกจะว่าอย่างไร...[/FONT]
    [FONT=&quot]ข้าพเจ้านั่งเงียบ เพราะคิดแล้วจริงอย่างที่ท่านพูดทุกอย่างท่านจึงกล่าวต่อว่า...[/FONT][FONT=&quot]จะมีก็แต่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์พุทธัง ธัมมัง สังฆัง นี่แหละเป็นที่พึ่งจริง ๆ ไปตรองดูให้ดีเถอะ![/FONT]
    [FONT=&quot](บทความโดยคุณเมธาฯ)[/FONT]


    ***************************************

    [FONT=&quot]นึกถึงคำกล่าวของหลวงปู่นะครับ..."เวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว ให้รีบพากันปฏิบัติ"[/FONT]
    [FONT=&quot]มอง ได้ทั้งมรณานุสติ และนัยที่แฝงอยู่จากคำพูดนี้ เพราะยิ่งนับวันก็ยิ่งเห็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่แปรปรวนและมีความรุนแรง มากขึ้น แต่ยังไงก็แล้วแต่ การรีบพากันปฏิบัติตามที่หลวงปู่ท่านเตือนสติก็มีแต่ประโยชน์กับผู้ปฏิบัติ ทั้งนั้น[/FONT][FONT=&quot]ไม่ว่าจะ คิดปรุงแต่งหรือฟุ้งกลัวว่า น้ำจะท่วมโลก โลกจะแตก แต่ผมว่าถ้าจะฟุ้งให้ได้ประโยชน์น่าจะคิดว่า...หากน้ำจะท่วมหรือโลกจะแตก จริงๆ เราได้สะสมกำลังสติของเราเพียงพอยัง เพื่อพร้อมจะตายไปด้วยสติ ?[/FONT]
    [FONT=&quot]หากคิดเป็นธรรมก็ควรจะคิดอย่างนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]บาง คนบอกใคร ๆ ว่าปล่อยวางได้หมด แต่อาการภายนอก คืออาการหนีตายอย่างร้อนรนชนิดพร้อมทิ้งลูกทิ้งสามีทิ้งภรรยา ที่สำคัญคือทิ้งพ่อแม่ที่แก่เฒ่า แล้วอย่างนี้ ถึงจะรอดตายจริง ๆ จะมีความสุขได้จริงหรือ [/FONT]
    [FONT=&quot]หากเป็นกรรมของ โลก กรรมของประเทศ มันจะมีที่ต้านทานหรือ ดูอย่างประเทศญี่ปุ่นที่เจริญทางด้านเทคโนโลยีสูงสุดสิ ยังเอาตัวไม่รอดเลย แต่น่าอัศจรรย์ที่คนส่วนใหญ่ยังประคองสติอยู่ได้ ไม่เกิดจราจลภายในเหมือนอย่างกรณีที่เกิดกับประเทศอื่นทั้งหลาย แล้วจะมีใครคิดบ้างว่า วินัยของคนเหล่านั้นมาจากพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในจิตใจของชาวญี่ปุ่น ตั้งแต่ที่พุทธศาสนาจากจีนเข้าไปสร้างอารยธรรมที่เจริญให้แก่ญี่ปุ่นเมื่อ กว่าพันปีมาแล้ว ประกอบกับความพร้องเพรียงกันสร้างชาติของพวกเขาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้ง ที่ ๒[/FONT]
    [FONT=&quot]หากเป็นคนปล่อยวางจริง และตั้งอยู่ในความไม่ประมาทจริง จะมุ่งเน้นการสั่งสมคุณทาน คุณศีล คุณภาวนา ทั้งสติ สมาธิ และปัญญาที่มากเท่าที่จะมากได้เพื่อเป็นเชื้อต่อไปในภายภาคหน้า มากกว่าจะอยู่อย่างระทึกใจ รวมทั้งอาจเผลอภาวนาให้เป็นจริงดังคำพยากรณ์ของตนหรือของครูอาจารย์ตนจะได้ สะใจว่าฉันเตือนเธอแล้วนะ เธอไม่ฟังฉันเอง ฯลฯ[/FONT]
    [FONT=&quot]อัน ที่จริงแล้ว เรื่องของธรรมชาติที่วิปริตนั้น ไม่ต้องพยากรณ์ก็ได้ ใคร ๆ ก็ตระหนักในข้อนี้อยู่แล้ว เพราะปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งที่รู้ ๆ กันอยู่ก็คือ สิ่งที่มนุษย์ได้เข้าไปทำลายสมดุลของธรรมชาติไว้เอง และมนุษย์ก็มีทีท่าว่าจะยังคงทำลายต่อไป ๆ ไม่มีที่จะหยุดยั้ง [/FONT]
    [FONT=&quot]สรุป สุดท้าย การ "ตื่น" แบบ "รู้ ตื่น เบิกบาน" นั้นเป็นสิ่งที่พึงประสงค์ แต่ตื่นเรื่องโลกแตกนั้น ไม่ควรเกิดกับชาวพุทธผู้มีสติปัญญาเลย[/FONT]
     
  18. Aimee2500

    Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,703
    ค่าพลัง:
    +1,765
    เหลือเราอยู่คนเดียวอ่ะจน= หมายถึงจนน้อยที่สุดใช่ไหมค่ะ ถล่มตัวอยู่เรื่อยนะค่ะเสี่ยขาาาาาาาาาาาาาาา ;)

    ปูเสื่อรอค่ะ
    อุ๊ย...กินถก กินเศียรค่ะ...อิอิ สี่นม สี่นม สี่มะเขือ สององคต สองตา สองคน เอี่ยวพญา เอี่ยวพญา 555
    (deejai)(||)
    ล้างใจอย่างเดียว = 50:50 ค่ะ
    ต้องล้างมือ+ล้างใจค่ะถึงเต็ม 100
    :love:(||);):VO



    สงสัยคงชอบจริง ๆ เชิญค่ะท่านสารวัตร

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=G_QSl47Ph0k"]YouTube - กล้วยไทย - กำเนิดหนุมาน[/ame]

    (deejai)(smile)(y)
     
  19. Aimee2500

    Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,703
    ค่าพลัง:
    +1,765
    ไปเรียนวิชาทรงเจ้าเข้าทรงใบ้หวยค่ะ พอดีท่านพ่อเลี้ยงยกให้เป็นเจ้าแม่ค่ะ เอ้าฉลองศรัธทาเสียเลย งวดนี้นะค่ะ.....อิอิ
    หลวงพ่อดวงดี ๓ ฯ ๒ ๖
    อายุ ๑๐๔ ปี พรรษา ๘๔





    ong5959, Aimee2500, nuanpan ต้องหนึ่งพ่อเลี้ยงสองเจ้าแม่อยู่กันครบเลยจร้า[​IMG]ถึงจะถูกค่ะ (smile)(smile)
     
  20. Aimee2500

    Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,703
    ค่าพลัง:
    +1,765
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...