ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ขอขอบคุณ
ทุกท่านที่ได้postมา............................

...............................การพิจารณาพระ...ของคนรุ่นเก่า...............................

ตอนแทรกพิเศษ
.................การซ่อมพระหัก..เนื้อดินละเอียด..ไม่แกร่ง.....

.................ความจริง..จะเรียกซะง่ายๆ..ก็คือ...
.........................ฝังเดือย...............................ถ้าอยากกระแดะเป็นภาษาปะกิด..
...ก็คือ.............ANCHORAGE EMBEDED........................................
.......ซึ่ง"เดือย"..จะถูกฝัง..ทั้งสองส่วน..ที่หัก..โดยจะให้"ระยะฝัง"..เท่าๆกัน...
..เดือย..จะทำ..สองหน้าที่..หลักๆคือ....
๑. ทำหน้าที่..รับแรงกด..ที่บริเวณ..รอยต่อ..แทนกาวที่ผิวสัมผัสที่..รอยหัก..
เพราะ..แรง..จะถูกถ่ายเข้า..เดือยตลอดทั้งอัน..แล้วเดือย..จะกระจายแรง..เข้าสู่
..เนื้อพระ..รอบๆที่เดือย..สัมผัสอยู่แทน..และยังรับแรง..ที่จะบิดองค์พระได้ด้วย..
๒. รับแรงที่..จะดึงแยกทั้งสองส่วนที่หักออกจากกัน..เพราะ..เดือยจะยึดกับ
ผิวสัมผัส...รอบตัวมัน..ด้วย..กาว...แทนที่จะมีพื้นที่กาวช่วย..ยึดติด..แค่..ผิวรอย
ที่หักออกจากกัน..เราก็จะมีพื้นที่ๆจะมีกาวช่วยยึด..มากขึ้น.....ทำให้การยึดติดดี
ขึ้นมาก..กว่าติดแบบ..ธรรมดา.มากกว่า ๓-๔ เท่าตัว....
.............................................................................................................
......ทีนี้..เรามาพูดถึง..เดือย...เดือยนี้..ตามรูปร่างของพระ..ที่สว่นใหญ่..จะแบน
..ต้องทำให้มันผิวสากด้วย..จะได้ยึดเกาะกับกาวได้ดี..รูปทรงที่เหมาะสม..หน้าตัด
ขวางของมัน..จึง..ควรจะเป็น.."สี่เหลี่ยมผืนผ้า"..ซึ่งการทำ..หรือ..สร้างมันขึ้นมา
..จะได้ง่ายด้วย..
............คุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่ง..คือ..แข็งแรง..และ..ไม่เปราะ..และไม่อ่อนตัว
..เพราะ..ถ้ามันอ่อนตัวไป..ถึงแม้พระจะไม่หลุดจากกัน..เพราะเดือยยังยึดติดกัน..
แต่ผิว..รอยต่อจะปริ..โดยเป็นสิ่งที่สำคัญ..อันดับ ๑..ที่ในการต่อพระ..จะต้องนึถึง
เป็นอันดับแรก..คือ..ทำยังไงก็ได้จะให้ผิวแยกปริไม่ได้.........................
.............ถ้าเรา..ไม่คำนึงถึง..น้ำหนัก..เจ้าของยืนยัน..ซ่อมแล้วเอาไปแขวนใช้เอง
หรือ..จะเก็บไว้ก็แล้วแต่..คือไม่เอาไป..ปล่อยว่างั้นเหอะ..ก็ใช้เดือย..ที่เป็น"โลหะ"
ไปเลย...เพราะ..น้ำหนักพระ..จะหนักขึ้น..ถ้าเจอมือสัมผัสดีๆ..จับปั๊บ..รู้เลยว่า.
..หนักกว่าปกติ....
.............................แต่ถ้าให้น้ำหนัก..กล้อมแกล้มหน่อย..ก็ใช้.."ไม้"..ที่แข็ง..
เหนียว..ไม่งอ..หรือแอ่นตัว..ง่ายๆ..........ก็แล้วแต่จะเลือกครับ..แต่ไม้ที่ทำให้
เล็ก..แล้วค่อนข้างบาง...แต่เหนียว..ระเบิด..."ไม้ตาล"ครับ..แต่ถ้าเครื่องไม้..
เครื่องมือ..ไม่ค่อยดี..จริงๆแล้วใช้..."ไม้ไผ่"..สุกๆเนื้อดี..ก็พอ..บางท่านอาจ
งง..ว่า..เหลาให้บาง..มันก็หักง่ายซิ...นั่นมันยาวครับ..ลอง..ฝานไม้ไผ่..หนาสัก
๒ มม...กว้าง ๖ มม...ยาว ๑.๒ มม...แล้วคุณเอานิ้วชี้กับ..หัวแม่มือ..จับปลาย
ทั้งมือซ้าย..มือขวา..หักกลางดูซิครับ..ไม่ง่ายนะ..แล้วเมื่อติดตั้งแล้ว..มันจะถูก
กาวหุ้มทั้งหมด..จึงไม่ต้องห่วงเรื่อง..มอด..ไม่มีแน่..แค่ความชื้นธรมดา..ทำอะไร
ไม้ไผ่ไม่ได้หรอกครับ..คิดดูตัวหนังสือจีนที่เขาเขียนบนไม้ไผ่..๖๐๐-๗๐๐ปี..ยัง
อยู่เฉยเลย...ไม่มีมอดมากินแบบบ้านเรา...
........................ต่อตอนหน้าครับ................................................
.....................................................สวัสดี..........................................

 

พี่ modpong ครับ ขอถามนิดนึง ระหว่างหลวงปู่อ้น วัดบางจาก กับหลวงปู่ภู วัดอินทร์ นี่ ใครเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดสมเด็จโต มากกว่ากันครับ และตามความเห็นของพี่ เนื้อพระสมเด็จของหลวงปู่อ้น กับหลวงปู่ภู องค์ไหนใกล้เคียงพระสมเด็จวัดระฆัง มากกว่ากันครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับ พี่

 

คำถามโดนใจครับ ผมก็สงสัยมานานแล้วครับระหว่างปู่อ้นกับปู่ภู

 

........................................
...โดยจากการศึกษา..แล้ว..ยังไงก็ตามต้องถือ..ว่า..หลวงปู่ภูใกล้ชิด..กว่า..และเป็นธุระ..ให้กับ..สมเด็จๆ..ในหลายเรื่อง..รวมทั้ง..ธุระในเรื่อง..การสร้า้งหลวงพ่อโต วัดอินทร์ด้วย..เพราะท่านรับธุระนี่ช่วยอาจารย์ท่าน..แต่องค์ไหน..จะเป็น..ศิษย์รักกว่าอันนี้ไม่ทราบ..
...เรื่องเนื้อ..นี่ต้องยอมรับกันอยู่แล้วมาตั้งแต่..ยุคก่อน..และ..ผมก็เห็นด้วย..ว่า..สมเด็จหลวงปู่อ้น..เนื้อใกล้เคียงวัดระฆังกว่า...แต่สมเด็จหลวงปู่ภู..ผมว่าเนื้อใกล้เคียงวัดเกษไชโย...แล้วแต่มุมมองครับ..นี่คือมุมมองของผม
......คิดดูยุค ๔๐ ปีก่อน..เคยมีคน..เอาหลวงปู่อ้น..ไปแกะตบแต่ง..ให้เป็น..วัดระฆัง..แล้ว..สามารถ..หลอกเซียนไปได้.หลายคน...มาแล้ว(เซียน..ระดับทั่วๆไป..นะ)

 

ขอบคุณมากครับพี่ modpong แต่ว่ามีเรื่องถามอีกข้อนึงครับ ว่าพระของหลวงปู่อ้น นั้นมีผงเก่าของหลวงปู่สมเด็จโต ท่านผสมอยู่หรือไม่ครับ มากหรือน้อยอย่างไร หรือว่าแค่ทำด้วยสูตรเดียวกัน แต่ว่าของหลวงปู่ภู เคยอ่านในหนังสือพระเครื่องทั่ว ๆ ไปทีท่าน(หลวงปู่ภู)เคยพูดกับลูกศิษย์ใกล้ชิดของท่านว่า "พระของท่านก็หน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์เหมือนกัน" หมายถึงว่า มีผงเก่าของหลวงปู่สมเด็จโต ท่านผสมอยู่นั่นเองครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับพี่

 

.......................................
..มันเป็นธรรมชาติ..ของ..ลูกศิษย์..ที่มี..ต่ออาจารย์ในธรรมเนียมปฏิบัติ..ของ..พระไทย..ยุคโบราณอยู่แล้ว..สิ่งใดที่เป็นของอาจารย์..ย่อมได้รับการเคารพเทิดทูน..จะทำอะไร..ถ้ามีของที่เป็นของอาจารย์ประกอบอยู่ด้วย..ถือว่า..เป็นศิริมงคลต่อสิ่งนั้น..และการที่มีของๆอาจารย์อยู่..ย่อมถือเป็นการ..บูชาพระคุณอาจารย์อยู่แล้ว..ที่ถือเป็นสิ่งเคร่งครัด..ของคนไทย..ไม่ว่า..อาจารย์จะเก่ง..หรือ..ไม่เก่้ง...ก็คือ..อาจารย์...นี่คือ..ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยยุคก่อน..ไม่ว่าอะไรที่เป็นของอาจารย์..ย่อมเป็นศิริมงคลทั้งนั้น..
.....คงไม่ต้องแปลกใจนะครับ..ต่อให้อาจารย์ของทั้งสององค์..ไม่ได้ชื่อ..สมเด็จโต..แล้วทำผงไว้..แล้วได้มา..ยังไงก็ต้องผสม....
..อย่าว่าแต่..สององค์นี่เลย...
...พระพุทธบาทปิลันธ์....ที่สมเด็จท่านราคาเป็นรอง..แค่..ของอาจารย์ท่านเท่านั้น..เนื้อดำผงใบลาน..ท่านก็ใส่ผงของอาจารย์ท่าน(สมเด็จโต)..ลงในพระท่านด้วย...........
.......เรื่องสูตรการผสม..นี่ผมก็ทราบหรอกครับไม่แน่ใจด้วย
แต่เข้าว่า..โดยหลักก็..น่าใกล้เคียงกัน..เพราะก็..แข็งแกร่ง..เช่นเดียวกับวัดระฆัง...แต่ต้องระลึก..อย่างนึงว่า...ทั้งสององค์นี่..ไม่ได้มีแค่อาจารย์เดียว...ซึ่งต้องถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติอยู่แล้ว..ที่จะเสาะแสวงหา..วิชา..ต่างๆกันไป..ฉะนั้นต้องมี
..ที่ไม่เหมือนกัน...แน่นอน..

 

สวัสดีค่ะ คุณ ลุง ดีใจที่มีพี่ๆมาตั้งคำถามดีๆที่เป็นประโยนช์ ต่อคนรุ่นหลัง ขอขอบคุณ ทุกๆท่านมากๆเลยค่ะ

 

สวัสดีครับ คุณลิน ที่ผมมาถามพี่ modpong นี้ ก็เพราะคิดว่าเจอคนที่มีความรู้กับปัญหาที่ผมจะถามครับ ซึ่งผมก็ได้อ่านของพี่เค้ามานาน เหมือนกับสมาชิกทุก ๆ ท่าน ที่รู้ว่าของพี่เค้า เป็นของจริงทั้งนั้น ไม่ได้โม้ เหมือนนักเขียนมืออาชีพ บางคน ที่ชอบนั่งเทียนเขียน เรื่องไม่รู้ ก็ทำว่าตัวเองนั้นรู้ ส่วนสำหรับพี่ modpong นั้น ผมคิดว่าปัญหาที่ค้างคาใจมานานของผม พี่เขาคงให้คำตอบที่ดีกับผมได้ และก็ไม่ทำให้ผมหรือผู้ที่มีปัญหาเดียวกับผม ผิดหวัง บอกได้เลยครับว่า ในบรรดากระทู้ของเว็บพลังจิต โดยเฉพาะเกียวกับพระเครื่อง และสาระต่าง ๆ ผมคิดว่า กระทู้นี้ ไม่ได้เป็นรองใคร จริง ๆ ครับ ถ้ามีการให้คะแนน ต้องได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ด้วยซ้ำ แถมยังไม่มีการทะเลาะกันเหมือนกับกระทู้อื่น ๆ ที่มีให้เห็น เพราะมีคนเสียผลประโยชน์ ตรงกันข้าม ในกระทู้นี้ มีแต่คนได้ประโยชน์จริง ๆ คุณลินก็คงจะรู้คำตอบว่าจริงหรือไม่ คนในเว็บนี้ที่รู้จักผมดี จะรู้ว่าผมพูดโกหกเพื่อเยินยอ คนไม่เป็น ถ้าไม่ชอบผมก็จะบอกว่าไม่ชอบครับ

ครับ คำตอบที่ผมรอคอยมานาน ทีนี้ผมก็จะได้รู้ว่าผมควรเก็บพระหลวงปู่อ้น หรือไม่ มีคำตอบในใจผมแล้วครับ ขอบคุณพี่ modpong มาก ๆ ครับ ผมนับถือพี่เหมือนพี่ชาย และเป็นอาจารย์ผมคนนึงจริง ๆ ครับ

 

สวัสดีครับคุณอาฯและทุกท่าน ผมมีเรื่องรบกวนคุณอาฯครับ คือผมอยากซ่อมพระของหลวงปู่ปานกรุวัดคู้สลอดครับ ที่พระพักตร์ท่านแตก(บิ่นหลุด)ไป ผมนำปูนปลาสเตอร์มาแต่ง แต่สีไม่เข้ากันเลย สีปูนปลาสเตอร์เป็นสีขาว เนื้อองค์พระสีเข้มกว่าครับ ไม่ได้แต่งเพื่อตบตาหรือนำไปหลอกใครนะครับ อยากซ่อมแซมองค์ท่านเท่านั้นครับ

 

.........................................
....ฮ่ะ..ฮ่ะ...สงสัย..มันจะยาว..อีกแล้ว..มั้ง..นี่.......................
..เอา..ก็..เอา.....................
....การซ่อมพระ...ในแบบ..เติม..ส่วนที่หาย....มีทางเลือก..ให้เดิน..๓ ทาง..คือ..
๑. ใช้ของจริง..คือ..อย่างที่ผม..เคยเขียนไป..ไปหาเศษหัก..จากของจริง..มาแต่ง..แลว้ใส่..ลงไปแทน.......
๒. ใช้ของที่ใกล้เคียง..ก็..หาเศษหัก..จากพระอื่น..ที่มีเนื้อ..และสีสันใกล้เคียง..มาแต่ง..แล้วใส่ลงไปแทน
๓. สร้างส่วนนั้น..ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด..ให้มีสีสัน..หรือ..เนื้อที่ใกล้เคียง..แ้ล้วใส่ลงไปแทน..
...ที่ควร..หลีกเลี่ยงที่สุดถ้าเป็นไปได้..คือ..ข้อ ๓...........
ความจริง..ในส่วนข้อ ๒..นั้น..ถ้ามานะ..มีควา่มพยายาม..ยิ่งไม่ต้องกำหนดเวลา..ว่าจะหาได้เมื่อไหร่..จะเหมาะสม..ที่สุด...
...ที่มาในการ..เสาะหา..ก็มี ๒ ทางคือ..
ก. ...หาของตัวเอง..ก่อน..ผมเชื่อว่า..ทุกท่านก็..ไม่ใช่เด็กมีการมีงาน..อยู่ในสังคม..ไปวัด..ทำบุญ..ไปงานศพ...ย่อมจะได้พระ..ที่พูดง่ายๆให้ตรงใจ..ก็คือ..รับไว้ยังงั้นแหละ..แต่ไม่เคยคิดจะห้อย..เก็บอยู่ในกล่องกัน..เยอะแยะ..และท่านก็..จะอยู่อย่างงั้น..ไปจนคุณตาย..โดย..แทบไม่มีการมาเหลียวดูอีก..ยกเว้น..นานๆรื้อมาดูซะที..เห็นหน้ากล่อง..ว่านี่ได้มาจากไหนบ้าง..ของใคร..แล้วเก็บไว้ตามเดิม..จะเอาไปให้ใคร..ก็เขิน..เพราะเป็น"พระโนเนม"...ทำใจไม่ได้...........
...ก็นี่ละ..จะแปลกตรงไหน..ไม่ได้บาปตรงไหน..ขอขมาท่านก่อน..บอกวัตถุประสงค์ท่าน..แล้วเราก็เอา..เฉพาะที่จำเป็น..องค์พระท่า่น..ก็ยังอยู่...
...ไปเลือกเอา.ที่เนื้อและสีสัน..ใกล้เคียง..แล้วขอแบ่งมา..เท่านั้นเอง..อย่างงี้ยังได้ประโยชน์..ดีกว่า..เก็บท่านไว้ไม่ได้ใส่ใจ...
....แต่บางคน..ทำใจไม่ได้..ก็ต้องเลือกแบบ ข.
.........เอาไว้ต่อพรุ่งนี้แล้วกัน....

 

สาธุๆ


​

​

สวัสดีครับอาจารย์ลุง และทุกๆ ท่าน​

​

​

วันนี้เอาพระที่เผารอบที่สองมารายงานผลกับอาจารย์ลุงครับ รอบหน้าจะลองทำแบบพิมพ์ปูนปลาสเตอร์ เผาแล้วจะนำมารายงานผลอีกครั้ง รอบนี้ไม่กล้าเผานาน และใช้ไฟอ่อน แต่อาจไม่สุก ขอให้อาจารย์ลุง พิจารณาด้วยครับ ^_^
______________________________
hello9
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์มาทำงานกัน

แจกเหรียญน้ำมนต์รุ่น 4 รูปลักษณ์หลวงปู่เทพโลกอุดร ครับ
แจกเหรียญน้ำมนต์รุ่น-4-รูปลักษณ์-หลวงปู่เทพโลกอุดร-ครับ<!-- google_ad_section_end --> ​

 

สาธุๆ

ข้อ 3 นี้ผมคิดว่าถ้าผมตายตามอายุไข และไม่ผิดธรรมชาติ ถ้าลูกหลานไม่รับช่วงเก็บต่อก็เอาออกบอกบุญ หรือไม่อย่างนั้นก็บริจาคให้วัดไป คงไม่กล้าเอามาซ่อมพระ(ถ้าท่านยังปกติดีอยู่)

ยกเว้นส่งเป็นมวลสาร ^_^

อ่านดูแล้วคงขัดแย้งกันน่าดู ทำลายเองไม่กล้า แต่ส่งให้คนอื่นทำแทน
______________________________
hello9
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์มาทำงานกัน

แจกเหรียญน้ำมนต์รุ่น 4 รูปลักษณ์หลวงปู่เทพโลกอุดร ครับ
แจกเหรียญน้ำมนต์รุ่น-4-รูปลักษณ์-หลวงปู่เทพโลกอุดร-ครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

ในบรรดากระทู้ของเว็บพลังจิต โดยเฉพาะเกี่ยวกับพระเครื่อง และสาระต่าง ๆ ผมคิดว่า กระทู้นี้ ไม่ได้เป็นรองใคร จริง ๆ ครับ ถ้ามีการให้คะแนน ต้องได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ด้วยซ้ำ แถมยังไม่มีการทะเลาะกันเหมือนกับกระทู้อื่น ๆ ที่มีให้เห็น เพราะมีคนเสียผลประโยชน์ ตรงกันข้าม ในกระทู้นี้ มีแต่คนได้ประโยชน์จริงๆ

เห็นด้วยอีก1เสียงครับ ​

 

สวัสดีค่ะ คุณ กำธร คุณลุงเป็นผู้ใหญ่ที่ ลินนับถือ และ คุณครู ที่ ลินเคารพค่ะ ดีใจในทุกๆครั้งที่คุณ ลุง นำบทความที่มีสาระมาลงให้ได้อ่านกัน ขอบคุณค่ะ

 

สวัสดีครับคุณอา

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ บทความอันเป็นประโยชน์ยิ่ง ที่กระผมเฝ้าติดตามอ่านมาตลอด โดยไม่ได้แสดงตน(แอบอ่าน แต่ไม่แสดงออก) ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายท่านที่เป็นแบบผม แต่วันนี้คงต้องแสดงตนเพื่อขอบคุณและให้กำลังใจคุณอาเสียที..

วันนี้ผมมีคำถามมาถาม เรื่อง"การนำพระเนื้อผง ออกจากกรอบ" ที่เลี่ยมพลาสติกไว้ หรือในกรณีของผมน่าจะเป็น แผ่่นอซิเตท เพราะพระองค์นี้เป็น พระผงวัดสามปลื้ม ได้ข้อมูลมาว่าเป็นพระที่ เปราะ แตกหักง่าย ตอนนี้อซิเตทด้านหลังแตกรานร้าว กลัวน้ำจะเข้า ตอนแรกว่าจะนำไปเลี่ยมพลาสติกครอบ จึงขอความเห็น และวิธีการนำพระออกจากกรอบ แบบปลอดภัยด้วยครับ

ขอบพระคุณที่สละเวลา ขอให้คุณอาสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขในปีใหม่ไทยนี้ด้วยเทอญ..

 

.......................................
...สวยงาม..ยอดเยี่ยม..ดูดีมีชาติตระกูล............
............สีสัน..ก็..คลาสสิค...เรียบร้อยดี
ครั้ง..ต่อๆไป..จะดีขึ้นแ่น่นอน..เพราะเป็นคนมีแนวคิด..และไอเดียดี...
....ครั้งหน้า..แนะนำ..การสร้างเอกลักษณ์..ทำตัวตอก..ไว้ที่ด้านหลัง..ตอนพระเริ่มแห้งหมาดๆ..เอาเป็นตัวย่อ..ก็ได้..เช่น..อ.ม.(โอลด์แมน)..เป็นต้น(แต่..ต้องเขียนกลับด้าน..นะ
..ไม่งั้น..ตอกออกมา..ต้องเอากระจกเงา..ส่อง)

 

................................
..ขอบคุณ..และ...ยินดีต้อนรับครับ..
...ต้องถ่ายรูป..ชัดๆ..ขยายใหญ่..เต็มองค์..หน้า..หลัง..และด้านข้าง..มาให้ผมดูก่อน..ครับ...ผมถึง..จะแนะนำวิธี..ที่เหมาะสมให้...ครับ

 

ขอขอบคุณ
ทุกท่านที่ได้postมา............................

......................ตอนพิเศษ..อันสืบเนื่องมาจาก..กระทู้ของคุณกำธร...................
..................................................................................................................
..............เพื่อมีความเข้าใจ..เบื้องต้น..ควรอ่านกระทู้ตอบ..เรื่องหลวงปู่ภู..และหลวง
ปู่อ้น..ที่ผมได้ตอบไว้..มาประกอบด้วย.....................
...................................................................................................................
......ที่ผมผมเอามาลงในกระทู้ประจำวัน..ของผม..ผมว่าน่าจะได้ประโยชน์..บ้าง...
ไม่มากก็น้อย...ในด้าน..แนวคิด..เรื่อง......................
.........................ความเก่งที่มองไม่เห็น..หรือ..ชื่อเสียงนั้น..คือ..ทางเลือกเหรอ....
..........................................
......อาจารย์ที่มีชื่อเสียง..โด่งดังในอดีต...มีมากมาย..หลายท่าน...แต่ละท่าน...
...ก็มี..ลูกศิษย์..ที่..หลากหลาย..หลายองค์มีชื่อเสียง..โด่งดัง..ใกล้เคียงอาจารย์
..บางองค์..ถ้าไม่ได้ถามประวัติ..ก็ไม่ทราบมาก่อน..ว่ามีอาจารย์ที่โด่งดัง............
.......ถึงแม้บางองค์..ท่านเป็นเอกทัตคะ..หรือ..อภิชาติศิษย์(ศิษย์ที่เก่งกว่า
อาจารย์)..อย่างงี้..ก็ต้องยอมรับไป..ถือ..ว่าเป็น..พิเศษ...แต่..รู้หรือไม่ว่า..
.....ธรรมเนียม..ของผู้ไฝ่หาวิชา..ของไทย..ไม่ได้มีอาจารย์เดียว...ซึ่ง..มันสืบทอด
มาทุกยุค..ทุคสมัย...หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ...
.............................หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม......
.............................หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี.....
...........และอีก เป็น..ร้อย..หลวงพ่อ..มีอาจารย์..มากกว่า..สาม..สี่องค์...........
.............และบางที..ไม่ได้เป็นอาจารย์..แต่เกิดจากการแลกวิชากัน............
..กรณีนี้..อาจารย์คือ..ผู้ให้กำเนิดวิชานี้..ไม่ใช่ผู้ที่เอา..วิชามาแลก.......
........................แต่ชื่อเสียง..ที่มาสู่อาจารย์..แต่ละองค์..ก็เป็นด้วย..วิถี..ของท่าน
..ความบังเอิญ..หรือที่เรียกว่า..สถานการณ์สร้าง..วีรบุรุษ..........ก็มีส่วนไม่น้อย..
......หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า..อาจไม่ดังทั่วประเทศ..ถ้ากรมหลวงชุมพรไม่ไปเจอ
ท่าน...ถ้าท่านไม่เจอกรมหลวงชุมพรฯ..ท่านก็..อาจจะดังพอๆกับ..หลวงพ่อกลั่น วัด
พระญาติ..ก็ได้..........................
..........................หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก..อาจจะเป็นพระอาจารย์ดังท้องถิ่น..
ธรรมดา..ถ้าไม่มีนักบินไอพ่น..ไปเจอ"ปลัดขิก"ท่านบินแข่งด้วย...............
...........................หลวงปู่แหวน..ก็อาจเป็นพระปฏิบัติธรรมดา..ถ้านักบิน..ไม่ได้ไป
เจอท่าน..บนฟ้า..........................
...........................หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่..ก็อาจจะเป็นแค่พระอาจารย์ที่มีชื่อ..
ของ..ระยอง..ธรรมดาๆ..ถ้าไม่ได้..ไปเจอกับ..ชินพร สุขสถิตย์..เจ้าของนิตยสารราย
เดือนพระเครื่องชื่อดัง..........................
.......................แต่..มีอาจารย์อีกมากหลาย..ที่เก่ง..แต่ไม่ได้มีวิถีแบบนั้น..ทำให้เรา
ไม่ทราบ..ได้ว่าท่านเก่ง..เว้นแต่พระอาจารย์ที่เก่งด้วยกัน..จะรู้..และท่านเหล่านั้น..ก็
..จะแนะนำ..ให้กับ"ผู้ไฝ่รู้"..ที่มาเรียนด้วย..ไปหา.."ผู้ไฝ่รู้"..ก็ไปหาและไปเรียนวิชา..
กับอาจารย์ที่ไม่มีชื่อเสียงนั้น..ถ้าอาจารย์ผู้นั้นตรวจด้วย"ฌาน"..ว่าลูกศิษย์องค์นี้เก่ง
ก็เป็นธรรมดา..ที่จะแนะนำไปหา..อาจารย์ที่เก่ง..แต่อาจจะไม่มีชื่อเสียง..ต่อไปเรื่อยๆ
...แล้ว..วันหนึ่ง.."ผู้ไฝ่รู้"..นั่น..มีวิถี..มาสู่ความมีชื่อเสียง..เป็น..
.....................................สมเด็จโต.............
.....................................เจ้าคุณเฒ่า วัดหนัง..............
......................................หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว......
......................................หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก..............
......................................หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่..................................
................................................ฯลฯ..........................................
............นี่คือ...สัจจธรรม...............และเป็น..วงจร..ต่อไปเรื่อยๆ..ไม่มีที่สิ้นสุด.....
..............ตราบใดที่ยังมี.."ผู้ไฝ่รู้"..................................................................
.........................และอาจารย์ที่ไม่มีชื่อเสียง..แต่เก่ง..และเป็น..อาจารย์..สร้างศิษย์
ที่มีชื่อเสียงได้...........ก็จะมีวิถี..แบบไม่มีชื่อเสียง...ต่อไป...............
...........แล้วเรา..จะมีไอเดีย..อะไร..ที่จะได้พบ..อาจารย์ที่เก่ง...แต่ไม่มีชื่อเสียง....
................หลักเบื้องต้น..ที่คนไทย..รู้ดี..ก็คือ.."รูปหล่อ..จะสวย..ต้องมาจาก...
..แม่พิมพ์..ที่ดี"...แม่พิมพ์คือ..อาจารย์......อย่างน้อยที่สุดก็เป็น..ไอเดีย..ว่า...
ควรจะเริ่ม..สนใจพระอาจารย์..องค์ไหน.............
................"อาจารย์..ของท่านเป็นใคร"..ก็ช่วยไม่ได้..เราไม่ได้มี..ฌาน..จะหยั่งรู้ได้
...เราจะไปไหว้หลวงพ่อไหน..ที่มา..ก็ต้องมาจากชาวบ้าน..ก็ต้องพอรู้บ้าง..มีชื่อเสียง
เล็กๆ..ก็พอ..ไปคุยกับท่าน..สืบจากชาวบ้าน..ว่าท่านมาจากไหน..ใครเป็นอาจารย์..
ถ้าไม่รู้..คุยกับท่านก็ถามท่าน..ตรงๆก็ได้..พระท่านไม่ถือหรอก..ถ้าเกิดท่านมีอาจารย์
ที่มีชื่อเสียง..อย่างน้อย..ก็มีหลักประกัน..อย่างนึงแล้ว..ก็..เริ่มให้ความสนใจท่านต่อ
ไป...ในอนาคตได้...........................................................................
...........................ดังนั้น..พระที่..เก่งอย่าง..หลวงปู่อ้น วัดบางจาก..แต่แทบไม่มีชื่อ
เสียง..แม้จะมีอาจารย์..ที่ชื่อ..สมเด็จโต..ก็ยังมีอีก..แต่คุณไม่ทราบ..แต่ถ้าไปเทียบ
ชื่อเสียง..กับ..พระพุทธบาทปิลันธ์...หรือ..หลวงปู่ภู....ไม่มีใครตอบได้ว่า..องค์ไหน
เก่งกว่ากัน........หรอกครับ..แต่ถ้าถามผม...ถ้าผมรู้ว่า..องค์ไหน..มีอาจารย์ชื่อ...
.......สมเด็จโต................ผมจะเก็บให้หมด....................................................
..ฉันใดฉันนั้น...ถ้าผม..รู้ว่า..หลวงพ่อองค์ไหน..เป็น..อาจารย์ของ..หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว...ผมก็จะตามเก็บให้หมด..เหมือนกัน....
........................................................................
สวัสดี...................................

 

สวัสดีคุณลุงยามดึกครับ....
ขอบพระคุณอย่างมากครับ ต่อทุกๆความรู้ที่มีคุณค่าเหล่านี้....

 

สวัสดียามดึกค่ะ คุณ ลุง มาอ่านทุกวันและให้กำลังใจ คุณ ลุง ทุกๆวันค่ะ ขอบคุณค่ะ