ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,355
    ค่าพลัง:
    +19,459
    พระบูชางามๆมาแล้วค่ะ อาจารย์ ลุง วันนี้ลินนำภาพพระบูชา ที่ลินเพิ่งได้ไปบูชามา มาให้คุณ ลุง ชม และ ให้คุณ ลุง สอนเกร็ดความรู้ค่ะ
    พระพุทธมงคลสกลจักรพรรดิ์ ปี 22 ธนาคารกรุศรี สร้างถวาย ลินยังหาวัดให้ท่านไม่ได้เลยค่ะ คุณ ลุง หรือสมาชิกท่านใด ทราบรบกวนบอกด้วยนะคะ องค์นี้เจ้าของเดิมไม่รู้เก็บอย่างไร ลิน งงมากเลยค่ะ ดูที่องค์พระ จะเห็นมีฝุ่น และ คราบทรายเกาะอยู่ ลินก็งง เลยถามว่าทรายมาได้อย่างไร เจ้าของพระเลย เฉลยให้ฟังว่า ที่เห็นเป็นทรายเกาะนั้น คือ " ปลวก " เขามาทำรังค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีตัวปลวกอยู่แล้วค่ะ ว่าแล้ว ลุง แกก็งายใต้ฐานองค์พระให้ชม ผลงานคุณ ปลวก (ดูตามรูปนะคะ ) สุดยอดงานศิลป์ เลยค่ะ ลินไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ว่าแล้วก็ขอบูชามาซะเลย พระบูชาองค์นี้ พระพักต์งดงามมากเลยค่ะ เลยอดใจไม่ไหวหุๆๆ
    วันนี้ลินเลยนำองค์ท่านมาทำความสะอาด โดยใช้น้ำและแปรงสีฟัน ขัดปัด สิ่งสกปรกออก เท่าที่ทำได้ เช็ดน้ำให้แห้งและ นำน้ำมันจันทร์ มาเช็ดและขัดเคลือบผิวอีกครั้งค่ะ ส่วนใต้ฐานพระ ลินขอเก็บเอาไว้แบบนั้นได้ไหมค่ะ ? รบกวนคุณ ลุง แนะนำวิธีเก็บ และ รักษาพระบูชาให้ ลินและ เพื่อนได้ทราบกันด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0119.JPG
      IMG_0119.JPG
      ขนาดไฟล์:
      137.4 KB
      เปิดดู:
      213
    • IMG_0120.JPG
      IMG_0120.JPG
      ขนาดไฟล์:
      120.4 KB
      เปิดดู:
      174
    • IMG_0121.JPG
      IMG_0121.JPG
      ขนาดไฟล์:
      154.6 KB
      เปิดดู:
      186
    • IMG_0122.JPG
      IMG_0122.JPG
      ขนาดไฟล์:
      118.1 KB
      เปิดดู:
      181
    • IMG_0123.JPG
      IMG_0123.JPG
      ขนาดไฟล์:
      137.6 KB
      เปิดดู:
      214
    • IMG_0124.JPG
      IMG_0124.JPG
      ขนาดไฟล์:
      118 KB
      เปิดดู:
      191
  2. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ....เข้าใจผิด..อะไรรึเปล่า...ผมว่ามัน"ดินหุ่น"..นะ..เวลาเททอง..ทองมันไล่ขี้ผึ้งที่ติดกับ"ดินหุ่น"..ก็เหลือแต่ดินหุ่น..ที่ติดเนื้อพระอยู่..แต่งานอาจไม่เรียบร้อย..กระเทาะดินหุ่น..เฉพาะด้านใน(ปกติ..ก็ต้องกระเทาะออกบ้างอยู่แล้ว..ไม่งั้นพระจะหนักเกินไป)ส่วนที่ใกล้ฐานควรกระเทาะออกให้เห็นเนื้อโลหะ..ส่วนที่ลึกเข้าไปก็ไม่ต้องกระเทาะ..เรื่องทรายนะดินหุ่นต้องผสมทรายเป็นเรื่องปกติ..อยู่แล้ว...
    ....เรื่องวัด..ก็คงไม่เกี่ยว..ธนาคารหลายแห่ง..เขาก็ทำบุญ..หล่อพระพุทธรูป..กันเยอะไป..ใครก็บูชาได้..แต่ที่แน่ๆคือ..ของธนาคารนี่พิธีดีแน่...ก็ทำอย่างที่ว่าแหละ..ไม่ต้องไปแกะเกอะ..อะไรออก...
     
  3. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,519
    ค่าพลัง:
    +30,858
    หวัดดีครับพี่modpongและสมาชิกทุกท่าน กระทู้ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับพระเครื่องและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจริงๆครับ
    1111[1].jpg
     
  4. saweit

    saweit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    747
    ค่าพลัง:
    +2,338
    เข้ามาเก็บเกียวความรู้ครับ คุณลุง
     
  5. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,355
    ค่าพลัง:
    +19,459

    ขอบคุณค่ะ คุณ ลุง ลินก็ไม่ทราบความจริงว่าเป็นเช่นไรค่ะ แต่ลุงเจ้าของเก่าบอกว่า เป็นรังปลวก เพราะมาทีแรกใต้ฐานพระจะเป็นฐานกลวงธรรมดา ค่ะ อีกอย่าง ทรายที่เกาะอยู่หลุดออกได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงเอานิ้วถูไปมาก็ หลุดเป็นขุ่ยๆ ออกมาอย่างง่ายดายเลยค่ะื ขอบคุณค่ะ
     
  6. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ......................................
    ...อันนี้..จะเป็นยังไง..ไม่ทราบ..แต่ธรรมชาติ..ปลวก
    ๑. จะต้องทำรัง..ในที่ๆมีความชื้น..
    ๒. รังปลวก..จะไม่มีทราย..ปลวกจะเอาเฉพาะเม็ดดิน..มาทำรัง..เว้นแต่ปลวกอีสาน..ที่เป็นดินปนทรายละเอียดมากๆ...
     
  7. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    ขอบคุณมากๆเลยครับคุณลินที่แนะนำ เดี๋ยวผมจะลองเอาไปทำดูนะครับ:cool:
     
  8. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    ขอบพระคุณ คุณอามากๆเลยครับสำหรับความรู้เรื่องสนิมเขียวจะรออ่านตอนต่อไปครับผม:cool:
     
  9. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    สวัสดีครับคุณลุง
    แอบอ่านเสมอๆ แต่ไม่ได้มาโพสเยี่ยมเลย
    พออ่านถึงตอนเรื่องพระเนื้อว่านกับการดม
    ผมเลยแอบไปคิดถึง "แมงกินพระ" ไอ้แมงพวกนี้อยู่กับพระเนื้อว่าน
    หรือว่าอยู่กับพระเนื้อผงด้วยครับ ที่บ้านผมมีอยู่องค์นึง เป็นเนื้อผง
    คล้ายผงยา มีเม็ดดำๅๆ เต็มไปหมด.....วันดีคืนดีผมส่อง เห็นเจ้าตัวน้อย
    วิ่งเล่นบนองค์พระ ผมก็ตกกะใจ เฮ้ย...มาได้ไง

    พอลองๆ ค้นหาดู ก็ทราบแต่เพียงว่า เขาเรียกว่าแมงกินพระ
    เวลาเจอพระแล้วดม ระวังมันเข้าจมูก เดี๋ยวจะอันตรายถึงหาม
    แต่ผมก็ถือเป็นบุคคลโรคจิตคนนึงที่ชอบพระเนื้อว่าน...(แต่ที่บ้านแทบไม่มีพระเนื้อว่านเลย)
    พอส่องแล้วรู้สึกว่ามันในอารมณ์...โลกใบเล็กหน้ากล้องส่องพระนี่ช่างน่าค้นหา...
    เท่าที่ผมสังเกตก็จะมีพระทางสายใต้ ที่จะนำว่านมาทำพระค่อนข้างเยอะ
    หลวงปู่ทวดก็หลายวัดที่ทำออกมา แต่ไม่ดัง ไม่แพงเปรี้ยงปร้าง อาจจะดังในพื้นที่
    แต่พอดูรูปลักษณ์และมวลสารนี่สิ ช่างน่าเก็บไว้เสียจริง มีโอกาสเมื่อไร คงจะไปหาเก็บไว้ครับ
    แต่ชีวิตผม ใต้สุดในชีวิต...ไปถึงแค่ประจวบคีรีขันธ์เอง
     
  10. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..สงสัยอ่าน..ไม่หมด..ผมเขียนไปก่อนหน้านี้..แล้วเรื่องแมลงชนิดนี้..
    ...ไม่ต้องห่วง..เพราะสมัยก่อนเวลาจะดมพระ..เค้าก็ต้องไล่ก่อน..คุณเคยเห็น..แปรงทา..แล็คเก้อร์..หรือ..แชล็ค..ที่มีขนแปรงสีขาวเป็นแผงกว้างๆด้ามเป็นไม้ไผ่เรียงติดกัน ๖-๗ แท่ง..นั่นแหละ..เวลาจะส่องพระ..เค้าก็ต้องเอาปัดขี้ฝุ่น..และ..ไอ้แมลงพวกนี้ด้วย..เพราะ..พระมาจาก ร้อยแปดแหล่งที่..เราเอาหน้าเอาตา..และจมูกไปใกล้มันอันตราย..ถ้าเล่นเป็นสูตร..เลยก็..เอาลูกเป่าลมแดง..เป่าก่อน ๓ ปู้ด..หน้า..๓ ปู้ด..หลัง..แล้วก็เอาแปรงที่ว่า..ปัดอีก ๓ หน้า..ปัดหลังอีก..๓..จะส่องดู..หรือ..จะดม..เค้าก็ทำแบบนี้..กันเป็นปกติ..ตามสนาม..ในสมัยก่อน..ไอ้คนยุคนี้..ซิ..ชุ่ย..ไม่รู้เรื่องอะไรเขา..รับพระมา..ก็ส่องเลย..คนสมัยก่อนเขามีหลักการครับ..เขาไม่โง่..
    ..สมัยก่อนผมเดินสนาม..ผมยังพกที่เป่า..และ..ปัด..เลนส์กล้องถ่ายรูปเลย..ทำจนชิน..ผมมันคนโบราณที่มีหลักการ..เลยไม่เคยกลัว..ที่จะดมพระ..ครับ....
     
  11. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ขอขอบคุณ
    ทุกท่านที่ได้postมา............................

    ......ตอนแทรกพิเศษ...อันเนื่องมาจาก..คำถามคุณเฉียวฟง......................

    ................การกำจัด..คราบสนิมสีเขียวอมฟ้า..ออกจาก..พระโลหะ..เหรียญพระ...
    ....และ..เหรียญสะสม..รวมถึง..เครื่องรางของขลัง..และ..วัตถุโบราณ............(ต่อ)

    ...............การขุดรากถอนโคน..ไอ้ตัวเขียว..เอามันออกมาจากหลุม..ให้หมด
    ..จึงเป็นวิธี..ที่ถูกต้อง.............................................
    ......................ตั้งแต่ผมเริ่มเล่นพระใหม่ๆ..ตั้งแต่เมื่อ..สี่สิบกว่าปี..ก่อน..ผมก็ได้รับ
    ความรู้เรื่อง..นี้..เพราะเป็นวิธี..ที่จะเรียกว่า..เก่าแก่..และเชื่อถือได้..ให้ผลดี..ที่สุด
    ..วิธี หนึ่งเลย....
    .
    ..........วิธีนี้...ก็คือ..วิธีเดียวกับที่..คุณลิน..ได้ไปแนะนำ..เพื่อนสมาชิก..คนหนึ่ง..
    และได้เอารูปมาลง..และผมได้ยืมรูปมาเป็นตัวอย่าง..ตอนที่แล้วนั่นแหละครับ
    .......................ใช้น้ำมันจันทน์..เช็ด..ถู..บริเวณที่เกิด..ไอ้ตัวเขียว.................
    ...ข้อดีของวิธี..นี้..คือล้างเสร็จ..แล้วก็ทาทับด้วย..ป้องกันการเกิดอีก..แต่ก็ไม่ได้ผล
    เต็มที่..เท่าไหร่..เพราะส่วนมาก..เช็ดแล้วดูด้วย..ตาเปล่ากัน...แล้วก็ทาน้ำมันบางๆทับ
    ..แผล..อีกที....น้ำมันจันทน์..ไม่ใช่..น้ำมันเครื่อง..มันมีการระเหย..ที่ค่อนข้างเร็ว..
    เพราะมันไม่ซึมลงไปในเนื้อ..(ไม่เหมือนพระผง..ที่มันซึมลงไปในเนื้อ..มันจึงไม่ระเหย
    ..ไปง่ายๆ)..ซึ่งต้องหมั่นทาแผลไว้..แต่ถ้าคุณเอาไอ้ตัวเขียวออกได้หมดจริงๆ..การเกิด
    อีก..ก็จะยากขึ้น...
    ..........แต่ส่วนใหญ่จะไม่เป็น..อย่างนั้น..ทาครั้งเดียว..เลิกไปเลย..หารู้ไม่ว่า..เชื้อพันธุ์
    มันยังอยู่..แม้จะมีประปราย..พอน้ำมันเริ่มแห้ง..ความชื้นที่มาสัมผัสแผล..พร้อมกับ...
    คาร์บอนไดอ็อกไซด์ในอากาศ..ก็ทำให้มันกลับมาเฟื่องฟู..อีกครั้ง......
    ...........เดี๋ยวตอนหลังผมจะมาพูดถึงวิธีนี้อีก........................................
    .............................................................หลังจากนั้นมาสัก..ยี่สิบกว่าปี..เราก็ได้รับ
    ทราบวิธีใหม่
    ..กัน...ซึ่งมันอาจจะเกิด..เพราะฟลุ้ก..หรือ..ลองไปเรื่อยเปื่อย..เกิดได้ผล
    มาไม่รู้ตัว...แล้วก็ใช้ผลดีประมาณหนึ่ง..แต่ก็ถือว่าใช้ได้เลย..และก็ได้รับความนิยมกัน
    ..แพร่หลาย..เพราะไอ้ตัวกำจัด..หาซื้อง่าย..แถม..วิธีการก็สะดวก(สำหรับคนขี้เกียจ)
    ..ก็คือแช่..ทิ้งไว้..แต่วิธีนี้..จะใช้เวลานาน..คือมันจะค่อยๆทำงานของมันไปเรื่อย...
    ..๕ชั่วโมง..คืนนึง..สองคืน..สี่ห้าคืน..ก็ว่าไป..ขึ้นกับปริมาณ..ไอ้ตัวเขียวที่เกิด..และ
    บาดแผลที่มันสร้าง..ลึกขนาดไหน..ลึกมาก..ก็นานหน่อย..แต่ถ้าไม่รีบร้อน..ก็เหมาะ
    ..เอาออกมาดูต้องเอากล้องเช็คด้วย..ยังมีเหลือมั้ย..ถ้ายังเหลือ..ก็ปล่อยให้มันเล่น
    ต่อ..แต่ควรจะซื้อใหม่..ถ้าหลัง สองสามวันแล้ว..ยังไม่หมด..เพราะ..ไอ้ตัวกำจัดนี่มัน
    มันจะไม่เข้มข้นเหมือนเดิม..เพราะมันใช้ของดีในตัวไปเล่นงาน..ไอ้ตัวเขียวเยอะ...
    ..เอามาแช่ในของใหม่ต่อ...............................
    ..................ผมเคยถามเพื่อน...มันก็บอกว่า..ไอ้นี่ละเจ๋งเลย..ผมถามมันต่อว่า..แล้ว
    มึงรู้มั้ย..ว่าเพราะอะไรมันถึงกำจัดได้..มันก็บอกว่า..ไม่รู้วะ..มันกำจัดได้ก็พอแล้ว...
    ........วิธีนี้..ก็เพิ่งมีคนแนะนำ..เพื่อนสมาชิก..ได้ไปแนะนำ..ให้เพื่อนสมาชิกอีกคนใช้
    ..ในกระทู้อื่น..พอดี..ผมไปอ่านเจอเข้า......................................
    ..................เอาพระที่มีไอ้ตัวเขียว...แช่ใน..กระทิงแดง...............................
    .................................ต่อตอนหน้าครับ.......................................................
    ..........................................................สวัสดี............................................
     
  12. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    ขอบคุณมากครับคุณลุง
    ผมเองก่อนจะถาม...ยังคิดๆอยู่ว่าเหมือนเคยถามเรื่องแมงกินนพระเองซะด้วยซ้ำ
    แบบนี้...ทำให้จำนานเลยครับ คนสมัยก่อนท่านก็รอบคอบ ช่างสังเกตกันดีจริงๆ
     
  13. anoldman

    anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +4,558
    สาธุๆ




    สวัสดีครับอาจารย์ลุง และทุกๆ ท่าน

    ช่วงนี้กำลังฝึกดมกลิ่น อ่านข้อความนี้เสียวเลย เพราะไม่เคยเป่าเคยปัด ก่อนดม ใครเอาอะไรมาให้ดู ดมหมดเลย ^_^

    และมีอีกอย่างที่ผมพึ่งได้เห็นคือ พระดินเผาที่ผสมทรายจนพระเป็นเกร็ดทรายเต็มไปหมด น่าจะเป็นทรายหยาบ ลองเอาหลังเล็บลากผ่านพระ เสียงเหมือนเจอกระดาษทรายหยาบเลยครับ แถมพระก็ไม่มีรอยด้วย

    ______________________________
    hello9
    กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์
    กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์มาทำงานกัน


    แจกเหรียญน้ำมนต์รุ่น 4 รูปลักษณ์หลวงปู่เทพโลกอุดร ครับ
    แจกเหรียญน้ำมนต์รุ่น-4-รูปลักษณ์-หลวงปู่เทพโลกอุดร-ครับ<!-- google_ad_section_end --> ​
     
  14. เขมทัต

    เขมทัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2007
    โพสต์:
    623
    ค่าพลัง:
    +2,252
    คุณอาครับ เคยได้ยินวิธีแช่ในกระทิงแดงเหมือนกัน

    แล้วมันจริงไหมครับที่เขาบอกมันกัดเนื้อพระ

    เลยแนะให้แช่ในครีมทาผิวนีเวียแทน (วิธีนี้ผมทดลองแล้ว ได้ผลดีมาก)
     
  15. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ......................................
    ..ก็..อย่างนี้แหละ..เรียกว่าอยู่ในตระกูล..เนื้อแกร่ง...มีทรายเยอะ..เผาแรงสูงได้..ถ้าเนื้อละเอียดทำไม่ได้..เว้นแต่..ต้องมี..หิน..หรือ..แร่ธาตุ..ช่วยในการกระจายความร้อน..และสัดส่วนเนื้อดิน..จะน้อยลง..
    ตัวอย่าง...ลำพูนเนื้อเขียว(เนื้อหิน..เนื้อครก)..เนื้อแกร่ง..เพราะปนด้วย..ผงหิน.....
    ...พระเนื้อดินแกร่ง..เครื่องปั้น..บ้านด่านเกวียน..โคราช..ใช้แร่เหล็ก..ที่มีในดิน..แถบนั้นช่วย..
     
  16. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ........................................
    ..ใช่..นั่นคือสิ่งที่ต้อง..ระวัง..
    ..เรื่องครีม..เครอม..อะไรนี่..มันเป็นหลักการทั้งนั้น..อ่านตอนต่อไปเรื่อยๆ..แล้วคุณจะรู้ที่มา..ที่ไป..ทำไม..อะไร..อย่างไร..ผมไม่ได้สอนใครให้จำ..สอนให้รู้ที่มาที่ไป..อะไรคือเหตุ..ที่มาแห่งเหตุ..อะไรคือผล..ทำไมจึงเกิดผล..เช่นนั้น..วิเคราะห์..ข้อมูล..ดำเนินการแก้ไข..ปรับปรุงผลงาน..
    ...ที่ผมเริ่มมา..นั่นคือ.."ประวัติศาสตร์"(เกริ่น..ที่มา)..คนเราถ้าไม่เรียนรู้เข้าใจ..ในสิ่งเหล่านี้..ก็จะพัฒนาต่อไปยาก..
    ....และเราต้องเข้าใจ..ในสิ่งนั้น(ไอ้ตัวเขียว)..ไม่งั้นเราจะหาแนวทาง..จะกำจัดมัน..อย่างเป็นหลักการ..ไม่ได้..นอกจาก"ฟลุ้ค"..หรือ..ลองไปเรื่อยๆ..และไม่เข้าใจ..ว่าทำ..มันถึงทำได้....
    ..นั่น..ไม่ใช่..ผม..ครับ..
     
  17. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,355
    ค่าพลัง:
    +19,459
    สวัสดีค่ะ คุณ ลุง และ เพื่อนๆสมาชิกทุกๆท่าน เมื่อคืน รอจนเซง หันซ้ายหันขวา หาอะไรทำรอเวป..... ลืมไปว่ามีงานที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะทำแต่ยังไม่ได้ลงมือสักที สบโอกาส เริ่มกันวันนี้เลยดีกว่าค่ะ พระแก้ว 25 พุทธศตวรรษ รุ่นพิเศษ องค์นี้เนื้อแก้วใสดี ไม่มีเคลือบมุข พอปิดทองลงไปทำให้องค์พระงามกระจ่างขับสีมากเลยค่ะ เดี๋ยวงานเสร็จจะนำมาโชว์ใหม่นะคะ
    เกือบลืมเลยค่ะ คุณ ลุง ไม่รู้ลินทราบข้อมลูมาถูกหรือเปล่า ว่า รุ่นพิเศษนี้ไม่ทันพิธีใหญ่ เนื่องจากองค์พระแก้ว ในพิธีหมดไปแล้วแต่มีประชาชนต้องการบูชามาก เลยมาสร้าง รุ่น พิเศษนี้ตามหลัง ใช่ไหมค่ะ ขอบคุณค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0195.JPG
      IMG_0195.JPG
      ขนาดไฟล์:
      131.4 KB
      เปิดดู:
      108
    • IMG_0196.JPG
      IMG_0196.JPG
      ขนาดไฟล์:
      124.5 KB
      เปิดดู:
      88
  18. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .....................................
    ...นี่แหละ..พระแก้ว..ถึงต้องใส่เครื่องทรง..ไม่งั้นก็เขียวไปหมด..ดูแล้วจืด..สวยงามดีมาก...ทำต่อไป..เอาประสพการณ์..จะได้พัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อยๆ.....
    ...เรื่อง..ข้อมูลที่ถาม..ผมไม่ทราบจริงๆครับ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2011
  19. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ขอขอบคุณ
    ทุกท่านที่ได้postมา............................

    ......ตอนแทรกพิเศษ...อันเนื่องมาจาก..คำถามคุณเฉียวฟง......................

    ................การกำจัด..คราบสนิมสีเขียวอมฟ้า..ออกจาก..พระโลหะ..เหรียญพระ...
    ....และ..เหรียญสะสม..รวมถึง..เครื่องรางของขลัง..และ..วัตถุโบราณ............(ต่อ)

    ...............ที่กล่าวไปตอนที่..แล้ว..เป็นวิธี..ยอดนิยม ๒ วิธีเท่านั้น.ยังมีวิธี..อื่นที่ใช้กัน
    ในกลุ่มเล็ก..ไม่แพร่หลายออกไป..อย่างพวกเซียน..ก็มีวิธี..ของเขา..เขาก็ไม่ได้แพร่
    ออกไป..บางคน..ก็มีวิธี..หรือ.การใช้วัสดุที่แตกต่างออกไปอีก...มันก็ไม่หยุดแค่นี้....
    ..ในอนาคต..ก็จะมีคนหา..ของที่ไว้ใช้และวิธีแปลกๆไปเรื่อยๆ..............................
    ..............แต่โดยหลักแล้ว...จริงๆแล้ว...คือ..มันมีแค่ .......๒ แบบ เท่านั้น.............
    .................ที่ผมเอาเรื่อง...น้ำมันจันทน์..ทา..แล้วเช็ด....................
    ....กับ...............................แช่กระทิงแดง...ทิ้งไว้..แล้วมันค่อยๆหลุดไปเอง....
    ..................ก็เพราะ.ทั้ง สอง วิธีนี้........คือ..ตัวอย่างของทั้ง..๒ แบบที่พูดถึง..ครับ..
    .........เนื่องจาก..ผมเคยบอกไว้หลายครั้งว่า........................
    .................กระทู้ผม..ไม่เคยสอนให้จำ..แต่สอนให้เข้าใจ..ที่มา..ที่ไป...เหตุเกิด..
    เพราะอะไร..อย่างไร..อะไรทำให้มันเกิด..แล้ว..ผล..ของมันเป็น..ยังไง..ทำไมถึงเป็น
    อย่างนั้น..ข้อมูล..การวิเคราะห์..เป็นเรื่องจำเป็น..แล้วจะแก้ไขมันยังไง..ก็ได้มาจาก
    ข้อมูล..และการวิเคราะห์................................
    ...................ฉะนั้น...ผมจึงจะบอกว่า..เป็น..น้ำมันอื่นได้มั้ย...เพราะอะไร..ทำไม
    ..........................เป็นอย่างอื่น...ที่ไม่ใช่..กระทิงแดง...ได้มั้ย..เพราะอะไร..ทำไม
    ............แต่ก่อนอื่น..ต้องมาเข้าใจ..พื้นฐานของไอ้ตัวเขียว..ให้มากกว่าที่เล่าไปใน
    ตอนที่ผ่านมาก่อน..คนที่ไม่ค่อยมีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์..ทางฟิสิคส์..และเคมี..
    อาจต้องอ่านหลายรอบ..ถ้าอยากจะเข้าใจ..แต่ใครที่อ่าน..บทความผมมาตลอด..
    จะรู้ว่า..ผมจะใช้วิธี..เปรียบเทียบ..เพื่อให้เข้าใจ..ง่ายขึ้น..ซึ่งไม่ด้องห่วงเพราะตัว
    ผมเอง..เวลาเขียน..ผมจะแปลงร่างเป็นคนที่พื้นฐานทางนี้..ไม่ค่อยมี..แล้วอ่านตาม
    ไปด้วย
    ..........................
    .............ตามที่ผมบอกเรื่องนี้...มันเป็นเรื่องของ..เคมี..และ..ฟิสิคส์.....
    ..................ฉะนั้น..ยี่ห้อ..หรือ..มันเป็น..อะไร..เอาไว้..ทำอะไร...ก็จะไม่มีความ
    หมาย..ในการอธิบาย..ต่อไป.....................
    .........................มันมีแต่..องค์ประกอบมันคือ..อะไร..ประกอบด้วยอะไร....
    ..มีคุณสมบัติ..ยังไง.....เพียงแต่..ผมจะยกชื่อ..ประเภท..ยี่ห้อ..มาเป็น..ตัวอย่าง
    ประกอบ
    ....แล้วทุกท่าน..ก็จะได้ไม่ต้องไปยึดติด..บ้าบอ..ท่องจำ..ถ้าไม่ใช่ไอ้นี่
    ...ก็ไม่ดี..เขาบอกว่า..แบบนี้..ไม่ดี..แบบนี้..ดี...............ผมว่าต้องหัดเปลี่ยนทัศน
    คติบ้าง..ไม่มีอะไรดีสมบูรณ์..ไปหมด..ในโลกใบนี้..ทุกอย่างมีข้อดี.และข้อด้อย
    เสมอ..เพียงแต่เราเข้าใจมัน..เลือกใช้ให้เหมาะสม..กับ..สภาวะ..และระมัดระวัง
    ในส่วนด้อย..ของมัน..และไม่ยึดติด..รูปแบบ..ท่านก็จะเป็น..อย่างที่ฝรั่งใช้ว่า..
    ..........................MAN FOR ALL SEASON.......ได้อย่างดี.
    .........................
    ............แถม..เมื่อท่านรู้หลักการ..ท่านก็สามารถ..หา..ทดลอง..ของตาม
    หลักการที่ว่า..ได้อีก..มากมายก่ายกอง...........................
    ..........ผมเองนั้น..ที่ผมทราบได้..ก็ต้องเริ่มต้นอย่างที่ผมจะอธิบายให้ท่านฟังในตอน
    ต่อไปเหมือนกัน..แต่ผมเริ่มเอง..ทั้งหมด..ทดลองเอง..ทั้งหมด..เพราะคนอย่างผม
    ต้องทำเอง..เข้าใจมัน..จึงจะกล้า..มาเล่าให้ท่านทราบ..เหมือนที่ผมทำมาตลอด..
    ตั้งแต่เริ่มบทความนี้..จะไม่เอาขี้ปากใคร..มาพูด..มาเล่าอธิบายเป็น..ตุ..เป็น..ตะ
    ..เหมือนกับ..หลายๆคนที่ทำอยู่..เด็ดขาด............
    ......................................ต่อตอนหน้าครับ............................................
    .............................................................สวัสดี......................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2011
  20. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,355
    ค่าพลัง:
    +19,459
    กำลังลุ้น อ่านบทความต่อไปค่ะ เพราะคุณ ลุง เขียนและ อธิบายได้เข้าใจง่ายดีค่ะ ขอบคุณค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...