ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ทะเลซุง​

รูปและเรื่องจากในเน็ตครับ มาจากหลายแห่งขออนุญาตและขอบคุณด้วยครับ​

​

​

​

พระรุ่นนี้ตามประวัติ ผู้รอดจากพายุเกย์ทางภาคใต้ ปีนั้นเกิดดินถล่มทำให้ท่อนซุงไม้ได้ไหลมาตามดิน ทำให้มีผู้เสียชีวิตเยอะมา แต่มีผู้ที่รอดชีวิตได้ใช้พระรุ่นนี้ จึงเป็นที่เชื่อกันว่าเพราะบารมีของหลวงพ่อทวด จึงเรียกรุ่นนี้ว่า รุ่นทะเลซุง

ซึงจะมีทั้งพิมพ์เล็กบัว5 และ พิมพ์ใหญ่บัว6 แต่ที่นิยมหาเล่นกันจะเป็นพิมพ์ใหญ่บัว6ครับ เนื่องจากพิมพ์บัว5 สร้างออกมาค่อนข้างเยอะเอาไว้แจกเด็กๆให้ได้ใช้กัน จึงไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัดว่าสร้างเท่าไร และเนื่องจากการสร้างที่ค่อยข้างเยอะนี้เองทำให้บล๊อคพิมพ์เกิดเคลื่อน ทำให้บางองค์เกิดเป็นพิมพ์ที่เรียกกันว่า พิมพ์นิยมจมูกแตก สังเกตุได้จากตรงระกว่างปากกะจมูกของหลวงพ่อทวด จะมีเส้นเชื่อมถึงกัน และจะนิยมหาเล่นกันในพิมพ์เล็กบัว5 นี้ครับ

องค์ที่พิมพ์ชัดๆราคาจะเล่นหากันสูง เพราะการส้รางเยอะนี้เองบางองค์พิมพ์จึงไม่คมชัดและเกิดรอยเคลื่อนแต่ละองค์ จะมีรอยเคลื่อนไม่ค่อยเหมือนกัน จึงเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นบัว5นี้ด้วย

 

สวัสดีครับ ได้เข้ามาอ่านหลายครั้งแล้ว วันนี้ขอลงเหรียญของหลวงปู่ทวดให้ดูบ้างครับ มีนิดเดียว ไม่แน่ใจว่ามีพี่ๆ ท่านไหนลงไว้บ้าวแล้วรึยังครับ

 

สวัสดีค่ะ....ยินดีต้อนรับนะคะ...พระหลวงปู่ทวดงดงามทั้งนั้นเลย
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงปู่มาเล่าสู่กันฟังนะคะ...

*...ตุ๊กกี้.ว่า...พระหลวงปู่ทวดรุ่นทะเลซุงของท่านรอง เพียบเลยนะคะ
จากเวปไหน....

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD><BIG>นำเรื่องมาให้อ่านค่ะ.....</BIG>
<BIG></BIG>
<BIG>เหรียญหลวงปู่ทวด อาจารย์เนียน วัดต้นเลียบ อ.สทิงพระ จ.สงขลา ปี</BIG>
<BIG>2539 รุ่นกันภัย เหรียญประสบการณ์</BIG>


</TD><TR><TD vAlign=top>
ประวัติ ท่านและประสบการณ์ “หลวง พ่อจำเนียน โชติธัมโม” เกิดเมื่อเดือน 4 ปีเถาะ พ.ศ. 2451 นามเดิม “จำเนียน เรืองศรี” เกิดที่ บ้านหัวไทร ต.ดีหลวง อ.สทิงพระ จ.สงขลา บิดา-มารดาชื่อ “อุ้ย-ทอง เรืองศรี” เมื่อครั้งอุปสมบทมี “ท่านพระครูคลิ้ง” (พระครูอุเทศอัตตัญญู) วัดคลองรี ต.คลองรี อ.สทิงพระ จ.สงขลา เป็นพระอุปัชฌาย์ “พระอาจารย์เหลือ ธรรมโฆติ” วัดประดู่หอม ต.คลองรี อ.สทิงพระ จ.สงขลา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ “พระอธิการขันธ์ ธมมรังสี” วัดกระดังงา อ.สทิงพระ จ.สงขลา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาว่า “โชติ ธัมโม” แปลว่า “ธรรมะอันสว่างไสว” หลังจากบวชแล้วได้ศึกษาปฏิบัติกรรมฐาน-เจริญกสิณ-เวทวิทยาคมจากสำนัก “วัดเขาอ้อ” โดยศึกษากับ “พระอาจารย์ยู” วัดปากพล อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง “อาจารย์ทวดขาว” ซึ่งเป็นฆราวาสจอมขมังเวทแห่ง จ.พัทลุง จนมีความเชี่ยวชาญทางพุทธาคมและมีลูกศิษย์ลูกหามากจึงได้สร้างมงคลวัตถุไว้ หลายรุ่นส่วนใหญ่ จะเป็นรูป “หลวงปู่ทวด” เพราะที่สำนักสงฆ์ต้นเลียบนี้เป็นสถานที่ “ฝังรก” ของ “หลวงปู่ทวด” ไว้ที่ “ใต้ต้นเลียบ” จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาแต่โบราณกาล “หลวงพ่อจำเนียน” มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคชราเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2539 เวลา 21.20 น. ณ สำนักสงฆ์ต้นเลียบ สิริอายุ 100 ปี 40 พรรษา โดยก่อนมรณภาพมีเหตุอัศจรรย์ให้ลูกศิษย์ประจักษ์ เพราะท่านสามารถระบุวันละสังขารเหมือนท่านรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าโดยบอกว่า ก่อนเข้าพรรษา 7 วัน จะละสังขารจากนั้นท่านยังระบุไว้ในพินัยกรรมว่า “ร่างของท่านจะไม่เน่าเปื่อย” จะแห้งไปเองซึ่งเมื่อถึงเวลาที่ท่านระบุทุกประการก็เป็นจริง ปัจจุบันสังขารธรรมของท่านยังคงสถิตอยู่ในโลงแก้ว ณ สำนักสงฆ์ต้นเลียบ ให้สาธุชนได้กราบไหว้ ขอพึ่งบารมีธรรมของท่านตลอดกาลนานสืบไป ท่านใดมีโอกาสเดินทางไปสงขลา ก็ไปกราบร่างของท่านได้ทุกวันจากนั้นไปสักการะ สถานที่ฝังรกของหลวงปูทวดจะมีมงคลมากขึ้น ...... อีกหนึ่งเหรียญประสบการณ์ สายหลวงพ่อทวดของ จ.สงขลา ปาฏิหาริย์ 'หลวงพ่อจำเนียน' ช่วยให้รอดตาย เหตุระเบิดที่อำเภอ 'รือเสาะ' จังหวัดนราธิวาส นับ เป็นอีกเรื่องที่ต้องบอกว่า “เหนือความลิขิต” โดยแท้เนื่องจากเป็นเรื่องที่ “ไม่ธรรมดา” ทั้งที่ระหว่างเกิดเหตุมีผู้ที่โดน “ระเบิด” ครั้งนั้นหลายรายแต่ก็มี “ผู้หญิง” ผู้หนึ่งทั้งที่ยืนอยู่ในกลุ่มของผู้ที่โดนระเบิดซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ เพียง “10 เมตร” แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่เป็นอะไรเลยชนิด “เหนือลิขิต??... ประกาศิตฟ้าดิน ??” ตรงนี้ต้องสืบเสาะเจาะมานำเสนอเพื่อพิสูจน์ว่า “ปาฏิหาริย์” บนแผ่นดินไทยนี้ “ยังมีให้ประจักษ์” อยู่เสมอเพราะเหตุ การณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 4 สิงหาคม 2550 นี้เองโดย “นางสำลี สมมิตร” อยู่บ้านเลขที่ 319/1 หมู่ 10 ต.รือ เสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส อายุ 55 ปี มีอาชีพเป็น “แม่บ้าน” ได้เผยถึงเหตุระทึกขวัญที่เกิดขึ้นกับนางว่า “ในวันที่ 4 สิงหาคม 2550 เวลาประมาณ 07.30 น. ได้ไปจ่ายตลาดตามปกติทุกวันที่ “ตลาดนัดสถานีรถไฟรือเสาะ” ขณะเดินอยู่ในตลาดห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 8-10 เมตร ก็ได้ยินเสียงระเบิด (รีโมตคอนโทรล) ที่ซุกอยู่ใต้เบาะ “รถจักรยานยนต์” ที่คนร้ายนำมาจอดไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ดังสนั่นปานฟ้าถล่ม ผลจากระเบิดปรากฏว่ารถจักรยานยนต์คันนั้นขาดออกเป็น “2 ท่อน” ส่วน “นางสำลี” เกิด “อาการช็อก” ทำอะไรไม่ถูก ยังยืนตะลึงอยู่กับที่กระทั่ง “เจ้าหน้าที่” ซึ่งประจำอยู่ “สถานีรถไฟ” ที่ห่างออกไปหลายสิบเมตรได้ยินเสียงระเบิดจึงหันมามองยังต้นเสียงระเบิดได้ ตะโกนบอกให้หมอบลง “นางสำลี” จึงกุลีกุจอล้มตัวลงหมอบอย่างตกใจ ครั้น ควันระเบิดจางผู้คนรวมทั้ง “เจ้าหน้าที่ตำรวจ” จึงกรูกันมาสำรวจความเสียหายปรากฏว่ามีผู้บาดเจ็บ “สาหัสถึง 2 ราย” ซึ่งทั้ง 2 รายนี้ล้วนยืนซื้อของอยู่ติดกับ “นางสำลี” นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจาก “สะเก็ดระเบิด” อีก 6 คน (รวม 8 คน) เจ้าหน้าที่จึงหามส่งโรงพยาบาลกันวุ่นวายโดยมี “นางสำลี” ติดร่างแหไปด้วยจึงทราบว่า “ตัวเอง” ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดจะมีเจ็บก็เพียง ตอนทิ้งตัวลงหมอบกับพื้นตามเสียงตะโกนบอกเท่านั้นคือปรากฏ “รอยถลอก” ที่ฝ่ามือและหัวเข่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และจากการสอบสวนของเจ้า หน้าที่ตำรวจที่ชำนาญ “วัตถุระเบิด” จึงทราบว่าระเบิดที่ “คนร้าย” นำมาซุกไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์แล้วทำการ “กดรีโมตคอนโทรล” ครั้งนี้มีน้ำหนักถึง “10 กิโลกรัม” และมีรัศมีการทำลายล้างถึง “50 เมตร” จากนั้นจึงนำ “นางสำลี” ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ “อำเภอรือเสาะ” พร้อมสอบสวนถึงช่วงที่เกิดเหตุเนื่องจาก “นางสำลี” เป็นผู้ที่ยืนอยู่ใกล้จุดเกิดระเบิดที่สุด แถมไม่ได้รับบาดเจ็บอีกด้วยและคำถามหนึ่งที่บรรดา “เจ้าหน้าที่ตำรวจ” ทำการถามก็คือมี “ของดี” อะไรจึงรอดจากการบาดเจ็บ “นางสำลี” จึงโชว์ “ของดี” ให้ดูปรากฏว่าเป็น “เหรียญรูปไข่กะไหล่ทองเหลืองอร่าม” โดย ด้านหน้าเป็นรูป “หลวงปู่ทวดนั่งสมาธิเต็มองค์” ส่วนด้านหลังเป็นรูป “หลวงพ่อจำเนียนครึ่งองค์” ที่เรียกกันว่า “เหรียญกันภัย (รุ่น 1) สำนักสงฆ์ต้นเลียบ จ.สงขลา” ซึ่งนางสำลีแขวนไว้เพียงองค์เดียวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้นางสำลีจึงเชื่อมั่นว่าเป็นเพราะบารมีของ “หลวงปู่ทวด” และ “หลวงพ่อจำเนียน” คุ้มครองทำให้แคล้วคลาดจากระเบิดที่เกิดขึ้น

ขอบคุณข้อมูล
อ้างอิง...http://www.zoonphra.com/amulet/catalog.php?storeno=s066&idp=8591

</TD></TR></TBODY>

 

รบกวนคุณ kang_som ช่วยลงรูปและเล่าเรื่องหลวงปู่ทวดที่หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง ปลุกเสกสักหน่อยสิครับ

แล้วองค์นี้ใช่ของหลวงปู่ทองดำหรือเปล่า

 

​

 

อันนี้ไม่ทราบเหมือนกันขอรับ ทราบแต่ถ้าไม่บูชานาน ๆ แมลงปอบินหนีหมด :boo:

 

หลวงปู่ทวด ใบสาเก




<big>พระสมเด็จหลวงพ่อทวด ปี 08 ใบสาเก

</big> เหรียญใบสาเกหลวงปู่ทวด วัดพระโค๊ะ

 

เข้ามากราบลป.ทวดครับ
ท่านสมาชิกทุกๆท่านครับ ผมอยากจะขอชมชุด แหวนหลวงปู่ทวด ไม่จำกัดวัดมีให้ชมบ้างใหมครับ อยากเห็นจนใจมันสั่นตัวมันสั่นไปหมดแล้วครับ อิอิ

 

ไม่ใช่ครับองค์นี้เป็นพระใหม่ ผสมเหล็กน้ำพี้ พระอาจารย์ที่บวชให้ผมท่านใหม่มาเมื่อช่วงปีใหม่อ่ะครับ ไปตอนที่ท่านกำลังเขียนยันต์ใต้ฐานองค์พระเลย ส่วนที่หลวงปู่ทองดำปลุกเสกให้คือเหรียญ 147 ปี วัดวังกะพี้ครับ
............ส่วนประสบการณ์ของผมคือไม่มีประสบการณ์ครับ คือไม่ประสบพบเหตุร้ายแรงอะไรครับ......... ไม่ค่อยชอบเจ็บตัวครับ แหะๆๆๆ

 

ที่แขวนอยู่ทุกวันก็คือหลวงปู่ทวด องค์เล็กของหลวงพ่อรักษ์ วัดสุทธาวาสวิปัสนา เอามาเลี่ยมกันน้ำแล้วเอามาทำเป็นสร้อยแขวนกับตะกรุดพุทธคุณ 108 ของครูบาน้อยวัดศรีดอนมูล และล็อคเก็ตหลวงปู่ทองดำ รุ่นแรกครับ.......

 

ต้องไปเคาะกรุ คุณนวล ให้นำมาให้ชมค่ะเยอะมหาศาลมาก ๆ ค่ะ

 

ในระหว่างรอ คุณนวล อ.จงอางและสมาชิกท่านอื่น
ก็ไปนำจากเว๊ปต่าง ๆ มาให้ชมค่ะ


แหวน หลวงปู่ทวด ปี06 ยันต์จมนิยม




แหวนหลวงปู่ทวด อ.นอง



แหวนหลวงปู่ทวด ปี 2508

แหวนหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปี 2511 กะไหล่นิเกิ้ลลงยา



แหวนหลวงปู่ทวด เนื้อทองเหลือง (เต็มองค์)

​

<table bgcolor="orange" border="0" width="100%"> <tbody><tr><td align="center" width="80%">แหวนหลวงปู่ทวด ๐๘ ยันต์นูน
</td></tr> </tbody></table>




แหวน หลวงปู่ทวด ปี 05



<center>

แหวนหลวงปู่ทวด เนื้อเงิน ลงยาสีน้ำเงิน รุ่นฉลองกรุงรัตรโกสินทร์220ปี ปลุกเสก 3 วาระ ณ วัดช้างให้ วัดทรายขาว วัดปราสาทบุญญาวาส ออกปี 45






​

</center>

 

ขออภัยที่ภาพไม่ค่อยชัด

 

หลวงปู่ทวด รุ่น 4 กะไหล่ทอง 10 ขีด ถือเป็นพิมพ์สุดยอดของรุ่น 4 ​

ไปเจอมาจากเว็บนี้ครับ ttp://apichoke.com/index.php/topic,4351.0.html เห็นบอกว่าของแท้ต้องแบบนี้ค่ะ ขออนุญาตเจ้าของรูปเจ้าของพระด้วยครับ

 

สุดยอดครับ ไม่ยอม ไม่ยอม จะดูอีก จะดูอีก

 

สวยครับ มีอีกวงใหมครับ อยากกกกกกดูมากๆ อิอิ

 

คุณนวลครับ ได้เวลาโชว์แหวนในโกดังแล้วครับ ห้ามหลบครับอิอิ ท่านรอง,เสี่ย,อ.จงอาง,คุณภัทร,และสมาชิกท่านอื่นๆอย่ายอมแพ้ครับ มีเท่าไหร่เอามาโชว์เลยครับ
ปูเสื่อรออยู่ครับ 1234567890

 

เรื่องเล่าหลวงปู่ทวด หลวงปู่แหวนค่ะ...

เรื่องอัศจรรย์ของหลวงปู่แหวนและหลวงปู่ทวด

ราว 2 สัปดาห์ก่อนที่กรรมการชมรมรักษ์พระบรมธาตุจะเดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่เพื่อจัดงานผ้าป่าบูรณะเจดีย์วัดสวนดอก และ งานนิทรรศการพระบรมธาตุครั้งที่ 3 ณ วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ พวกเราได้ไปพบอาจารย์เทพนมที่บ้าน และ อาจารย์ได้กรุณาเล่าเรื่องเหตุอัศจรรย์เกี่ยวกับพระเครื่องของหลวงปู่แหวนและหลวงปู่ทวดให้ฟัง ดิฉันเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง จึงขอนำเรื่องเหล่านี้มาถ่ายทอดให้กับท่านทั้งหลายได้อ่านกันนะคะ

​

ราว 20 ปีก่อนเมื่อ อ.เทพนม ยังอาศัยอยู่ที่บ้านย่านดินแดง บ้านที่อยู่ติดกับบ้านอาจารย์เปิดเป็นร้านของชำ วันหนึ่งเกิดเหตุการณ์โจรปล้นบ้านขายของชำ และ จ่อยิงที่หน้าอกของเจ้าของร้าน น้องชายเจ้าของร้านรีบอุ้มร่างพี่ชาย วิ่งตรงมาที่บ้านอาจารย์ และ ร้องเรียกว่า “คุณหมอ คุณหมอ ช่วยด้วยพี่ผมถูกยิง” อาจารย์รีบเปิดบ้าน นำร่างเจ้าของร้านของชำเข้ามาในบ้าน และ รีบเปิดเสื้อเพื่อดูแผลที่ถูกยิง ซึ่งเข้าใจว่าสาหัสมาก เพราะเป็นการจ่อยิง และ คราบเขม่าปืนเกาะเต็มเสื้อของเขา แต่เมื่อเปิดเสื้อออกดูก็พบว่า ไม่มีรอยเลือด หรือ บาดแผล มีแต่หัวกระสุนที่บี้ติดหน้าอกของเขา และ รอบบริเวณนั้น มีรอยเขียวช้ำขึ้นอยู่โดยรอบ เมื่อนำไปเอ็กซ์เรย์ ก็พบว่าบาดเจ็บเพียงแค่ กระดูกซี่โครงหักเท่านั้น อ.เทพนมประหลาดใจอย่างมาก เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เดียวที่เห็นว่าชายคนนี้สวมอยู่ก็คือ พระเครื่องของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ รุ่นที่หลวงปู่เป็นผู้ทำพิธีพุทธาภิเษกเอง นอกจากนี้ อ.เทพนมยังพบกับเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้ กับเหล่าทหารและตำรวจตระเวนชายแดน ที่ถูกยิงแต่ไม่เข้า หัวกระสุนบี้ติดอก เพราะใส่พระเครื่องของหลวงปู่แหวน นับสิบๆคนทีเดียว
ต่อมาในยุคสงคราม เพื่อนนายแพทย์ชาวอเมริกันของอ.เทพนมซึ่งจะต้องมาปฎิบัติภารกิจในประเทศแถบภูมิภาคนี้ ได้ติดต่อถามอ.เทพนมว่า ประเทศไทยมีเครื่องรางของขลังใดบ้าง ที่จะสามารถช่วยให้เขารอดปลอดภัยได้ อ.เทพนมจึงแนะนำให้เขาบูชาพระเครื่องของหลวงปู่แหวนไป ปรากฎว่า เมื่อหมออเมริกันท่านนี้เข้าสู่สนามรบ ห่ากระสุนปืนอาก้าจากข้าศึกไม่โดนร่างหมอท่านนี้แม้แต่นัดเดียว เพราะกระสุนจะกระเด้งไปทางอื่นหมด ต่อมาทางกองทัพจึงขอให้หมอท่านนี้ขึ้นไปอยู่บนรถถัง และ แล่นนำขบวน ก็ปรากฎว่า ระเบิดอาร์พีจี จากข้าศึก กลับกระเด้งอ้อมรถถังคันนี้ไปหมดเช่นกัน หมออเมริกันท่านนี้จึงเกิดทั้งความอัศจรรย์ใจและความศรัทธา พระสงฆ์ไทย ที่ชื่อว่า หลวงปู่แหวนสุจิณโณ อย่างยิ่ง จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่ท่านได้ช่วยชีวิตตัวเขา และ เพื่อนร่วมสนามรบของเขาไว้ได้เป็นอันมาก​

​

อีกเรื่องที่อ.เทพนมกรุณาเล่าให้ฟัง ก็คือ เรื่องพระเครื่องของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่ง อ.เทพนมได้ใส่ติดตัวอยู่เสมอ เมื่อท่านได้ไปเรียนวิชาแพทย์ที่สหรัฐอเมริกา อ.เทพนมเล่าว่า วันหนึ่งในโรงพยาบาลที่อาจารย์ทำงานอยู่ มีแหม่มแก่ๆอายุกว่า 60 ปี มาเข้ารับการรักษา เพราะลื่นหกล้มกระดูกขาหัก แหม่มคนนี้เป็นคนรวยระดับมหาเศรษฐีคนหนึ่งในรัฐนั้นทีเดียว แต่พอมารับการรักษาไม่นาน แหม่มก็เล่าให้อ.เทพนมฟังว่า ไม่อยากอยู่โรงพยาบาลแล้ว อยากกลับบ้าน เพราะผีชอบมาหลอกแกทุกคืน ผีนั้นเป็นผีฝรั่งมาด้วยกัน 2 คน หน้าตาก็เป็นผู้ชายฝรั่งนี่แหละ เขาทั้ง 2 มาหาแกทุกคืน โดยมาชวนให้แกไปอยู่ด้วย เพราะถึงเวลาที่แกจะต้องไปแล้ว แต่แหม่มไม่ยอมเพราะเป็นห่วงลูกหลานและสามีอยู่ แต่ผีก็ยังคงมาตามแกอยู่ทุกคืน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ไม่ว่าแกจะให้คนไปนำไม้กางเขน หรือ เครื่องรางใดมา ผีพวกนี้ก็ไม่ยอมกลัว ยังมาหาแกอยู่ได้ทุกคืน จนแกไม่ได้หลับได้นอน สุดท้าย อ.เทพนมจึงถอดพระเครื่องหลวงปู่ทวดที่อาจารย์ใส่ติดตัวออกมาให้แกลองยืมใส่ดู ก็ปรากฎว่าได้ผลผีทั้ง 2 เข้ามาหาแกเหมือนเดิมไม่ได้ ได้แต่เฝ้าแกอยู่ที่หน้าห้องเท่านั้น
แกจึงนอนหลับพักผ่อนได้สบาย จนอาการแกหายดีโดยจะกลับบ้านได้ในวันรุ่งขึ้น แหม่มก็มาบอกอ.เทพนมว่า แกตัดสินใจแล้วว่า แกจะไปอยู่กับผีดีกว่า เพราะทุกคนที่บ้านแกก็สุขสบายดีอยู่แล้ว พร้อมทั้งคืนพระหลวงปู่ทวดให้กับอ.เทพนม และ พอเช้าวันรุ่งขึ้น แหม่มผู้นี้ก็เกิดอาการหัวใจวายเสียชีวิตไปเสียเฉยๆ ดังที่แกบอกว่าจะไปอยู่กับผีนั่นเอง หลังจากนั้น อ.เทพนมบอกว่า ไม่ว่าหมอหรือ พยาบาลท่านไหน ถูกผีหลอก ก็มักจะมายืมพระเครื่องหลวงปู่ทวดกับอ.เทพนมไปใส่อยู่เสมอ เรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ที่ท่านได้กรุณาเล่าให้ฟัง ดิฉันฟังแล้วก็รู้สึกแปลกประหลาดใจมาก และ รู้สึกศรัทธาในหลวงปู่แหวนและหลวงปู่ทวดอย่างมาก แต่เรื่องแปลกยังไม่จบลงแค่นี้ เพราะหลังจากที่ดิฉันได้ไปร่วมจัดงานผ้าป่าและนิทรรศการพระบรมธาตุที่วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ ดิฉันก็มีโอกาสได้รับพระเครื่องที่หลวงปู่แหวนปลุกเสกเอง จากคุณพ่อสาธิต ซึ่งท่านเป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนร่วมในการจัดสร้างพระเครื่องหลวงปู่แหวนจำนวน 2 รุ่น เมื่อครั้งที่หลวงปู่แหวนยังมีชีวิตอยู่ โดยหลวงปู่ได้ใช้เวลาในการทำสมาธิ เพื่อทำพิธีพุทธาภิเษกพระเครื่องของท่านกว่าครึ่งชั่งโมงทีเดียว และ คุณพ่อได้รับแบ่งพระเครื่องหลวงปู่แหวนมาจำนวนหนึ่ง และ ได้แบ่งให้ดิฉันมาบูชาบ้างในครั้งนี้ สร้างความแปลกประหลาดใจกับดิฉันมากว่า ดิฉันเพิ่งได้ฟังเรื่องพระเครื่องของท่านอยู่หยกๆจาก อ.เทพนม และ ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้บูชาพระเครื่ององค์จริงๆของท่าน เพราะในเวลานี้คงจะหายากมากและคุณพ่อสาธิตยังเล่าให้ฟังอีกว่าพระเครื่องหลวงปู่แหวน ที่หลวงปู่ปลุกเสกเองมีเพียงประมาณ 20 รุ่นเท่านั้น จากที่มีทั้งหมดกว่า 70 รุ่น ดิฉันจึงคิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ หลวงปู่แหวนคงจะเมตตาต่อดิฉัน จึงได้เกิดเรื่องราวอย่างที่เล่ามาทั้งหมดนี้ขึ้นมาได้ค่ะ ​

ที่มา...http://www.rakpratat.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=50754&Ntype=1]