แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ขอบคุณครับที่้เล่าให้ฟัง เหรียญหลังยันต์ก็ดีทางด้านการดำเนินชีวิตกับด้านการงานครับ ที่ผมแขวนก็มีงานเข้ามาตลอดครับ บางงานคิดว่าไม่ได้ก็ได้ หลวงพ่อกวยท่านชอบคนขยันครับ รับรองเรื่องงานมีมาตลอด ของทางเสน่ห์บางครั้งมันมีองค์ประกอบ ของผมทุกวันนี้ให้มีของเสน่ห์ยังไงก็มีโอกาสเกิดปาฏิหารย์ได้ยากกว่าเมื่อก่อนครับ(แต่ก็มีให้ได้เห็นบ้างบางครั้ง ฮ่าๆๆ ) เพราะเช้าไปทำงาน กลางวันกินข้าวบ้าน เย็นกลับบ้านไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้มีเวลาออกไปได้ช่วงเย็นถึงค่ำเหมือนเมื่อก่อน และเวลาอยู่ที่ทำงานก็ไม่ได้พบปะใคร เคยครั้งจะเจอคนนอกหน่วยงานมาติดต่องาน ก็เลยเจอแต่หน้าเก่าคนแก่ๆกันอยู่ตลอด เป็นกำลังใจให้การต่อสู้ชีวิตในต่างแดนบรรลุตามความฝันนะครับ ยังไงหากกลับมาเมื่อไรคงได้มีโอกาสพบกัน

 

อนุโมทนาบุญกับคุณหนุ่ม และ ทุกท่านค่ะ

 

สวัสดียามค่ำครับ ญาติธรรมทุกๆท่าน

 

ผมขออนุโมทนาสาธุครับ

 

"หลวงพ่อทอง"ยอดเกจิดังปัตตานี มรณภาพแล้ว

<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <dd>

"หลวงพ่อทอง"ยอดเกจิดังปัตตานี มรณภาพแล้ว ​

</dd><dd>

ผู้ สื่อข่าวได้รายงานว่า พระศีลมงคล หรือ หลวงพ่อทอง สรลสุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดสำเภาเชย อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้ละสังขารด้วยวัย 94 ปี พรรษา 76 ด้วยโรคชราภาพ ซึ่งเข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ เป็นเวลากว่า 1 เดือนมาแล้ว ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาศิษยานุศิษย์จำนวนมากที่ทราบข่าว โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมเคลื่อนศพกลับยังวัดสำเภาเชย เพื่อประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ
​

</dd><dd>

ผู้ สื่อข่าวได้รับรายงานเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลถึงสาเหตุการณ์เสียชีวิต ของหลวงพ่อทอง เกิดจากสาเหตุเลือดออกมาภายในสมอง เนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมากว่า 1 เดือนแล้ว จนอาการดีขึ้นแล้วออกจากโรงพยาบาล ก่อนที่จะกลับเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนเมื่อวานนี้ ( 25 เม.ย.)
​

</dd><dd>

สำหรับ ประวัติของ พระศีลมงคล หรือ หลวงพ่อทอง สรลสุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดสำเภาเชย เดิมชื่อ ทอง หรือ อินทอง นามสกุล ศรีชาติ เกิดวันที่ 5 เม.ย. 2461 ปีมะแม นักษัตร เอกศก บิดาชื่อ นายสีคง ศรีชาติ มารดาชื่อ นางแมะ ศรีชาติ บ้านเลขที่ 5 หมู่ 3 ต.ดอน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี บรรพชาอุปสมบท วันที่ 3 มิ.ย. 2477 ได้บวชเป็นสามเณร ณ วัดดอนตะวันออก ต.ดอน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี และ ได้บรรพชาอุปสมบท เป็นพระภิกษุ ณ วัดดอนตะวันออก ต.ดอน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2482 ซึ่งหลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชยถือเป็นพระเกจิดังอันดับ 1 ของ จ.ปัตตานี ที่มีประชาชนในพื้นที่ภาคใต้และทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย นับถือและศรัทธาหลวงพ่อทอง เป็นจำนวนมาก​

</dd>
วันนี้ก็อีกองค์ค่ะ กราบไว้อาลัยด้วยค่ะ

 

ผมขออนุโมทนาสาธุครับ

 

เมื่อเย็นได้ดูข่าว ช่องมดดำ รายงานว่า พบลูกงกุ้ง มาเกยตื้นตายที่หาด กะตะ กะรน ตลอดความยาว 4 กิโลเมตร เหตุการนี้จะเป็น ลางบอกเหตุอะไรหรือไม่ ขอให้เพื่อนๆสมาชิก ระมัดระวังเกี่ยวกับภัยทางธรรมชาติด้วยนะคะ
<table width="100%" border="0" height="36"><tbody><tr><td valign="top" width="80%"> <b><big><big> ฮือฮา!ลูกกุ้งมังกรนับล้านเกยหาดกะรน ชาวภูเก็ตผวาธรรมชาติเตือนภัย </big></big></b></td> <td valign="top" width="20%" align="right" nowrap="nowrap"> </td> </tr></tbody></table> ฮือฮา!ลูกกุ้งมังกรนับล้านเกยหาดกะรน ชาวภูเก็ตผวาธรรมชาติเตือนภัย
http://www.thairath.co.th/content/region/166160

ชาวบ้านฮือฮาหวั่นธรรมชาติเตือนภัยล่วงหน้า หลังสัตว์ทะเลขนาดเล็กเกยหาดกะตะ-กะรนภูเก็ตยาว 4 กม.นับล้านตัว เผยไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 30 ปี ด้านนักวิชาการคาดเป็นลูกปูกระดุก แต่ชาวบ้านยันเป็นลูกกุ้งมังกรน้ำลึกหนีภัย... เมื่อเวลา 22.45 น. วันที่ 22 เม.ย. น.ส.อรุณศรี กลั่นมา ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการเตียงร่มชายหาดกะรน ใกล้วงเวียนกะรน ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ตว่า มีสัตว์ทะเลขนาดเล็กนับล้านๆ ตัว ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยชายหาดตลอดแนวกว่า 4 กม.โดยยังมีชีวิตอยู่ จึงประสานนายเสด็จ วิชรศรณ์ ประธานชุมชนกะรน แจ้งไปยังนายประจวบ โมกขรัตน์ เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการพิเศษ ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 จ.ภูเก็ต และ น.ส.วราริน วงษ์พานิช นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน แหลมพันวา อ.เมืองภูเก็ต นำทีมนักวิชาการเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง

จากการตรวจสอบชายหาดกะรนต่อเนื่องชายหาดกะตะ ที่มีความยาวกว่า 4 กม. ท่ามกลางความมืด มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างชาติกำลังใช้ไฟฉายหรือตะเกียงเดินส่องตามพื้น ชายหาด โดยที่พื้นทรายใกล้กับน้ำทะเลพบสัตว์ทะเลขนาดเท่ากับหัวไม้ขีด สีแดง-สีเหลือง มีก้ามคล้ายลูกกุ้งหรือลูกปูนับล้านๆ ตัวเกลื่อนชายหาด และเมื่อใช้ไฟฉายส่องจะพบสัตว์ตัวจิ๋วดังกล่าว เกลื่อนพื้นเป็นแนวยาวสุดหูสุดตา โดยใช้น้ำทะเลเทราดมันจะขยับและเคลื่อนไหวทันที และถ้าคนใดแตะต้องหรือจับ จะถูกสัตว์ตัวจิ๋วใช้ก้ามหรือนิ้วฉกต่อยเจ็บๆคันๆ สร้างความแปลกใจให้กับชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยนายเสด็จและทีมนักวิชาการได้นำขวดน้ำพลาสติกใสเก็บตัวอย่างสัตว์จิ๋วดัง กล่าว กลับไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นสัตว์ทะเลชนิดใด ขณะเดียวกันมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวบ้านและชาวประมงพื้นบ้าน ที่มาร่วมพิสูจน์สัตว์ทะเลขนาดเล็กนับล้านๆ ตัวดังกล่าวว่า ธรรมชาติอาจส่งสัญญาณเตือนภัย หรือเป็นลางร้ายบอกเหตุบางสิ่งบางอย่างหรือไม่ ซึ่งในรอบกว่า 30 ปี ไม่เคยเกิดปรากฎการณ์ธรรมชาติเช่นนี้มาก่อน ด้าน น.ส.วราริน กล่าวว่า เบื้องต้นหากดูตามลักษณะของสัตว์ทะเลขนาดเล็กดังกล่าวที่พบ คาดว่าเป็นลูกปู แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นปูอะไร ซึ่งคล้ายหรือใกล้เคียงกับลูกปูกระดุกมากที่สุด โดยบริเวณชายหาดหรือทะเลในละแวกนี้ จะมีปูกระดุกอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยจะนำตัวอย่างกลับไปตรวจสอบในห้องแล็ป 2-3 วัน ถึงจะรู้ว่าเป็นสัตว์ชนิดใด เนื่องจากมีขนาดเล็ก ส่วนที่ลอยมาเกยชายหาดคาดว่าจะมีพ่อหรือแม่พันธ์อยู่บริเวณดังกล่าวเป็น จำนวนมาก และเมื่อผสมพันธ์จนเป็นตัวอ่อน ก็จะออกสู่ทะเลเป็นจำนวนมาก จึงถูกคลื่นซัดลอยขึ้นมาเกยชายหาด ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดยังไม่ทราบ ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบน้ำทะเลบริเวณชายหาดดังกล่าว ปรากฎว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ น.ส.อรุณศรี กลั่นมา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ตกล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านและผู้ประกอบการเตียงผ้าใบชายหาดกะรน-กะตะ โดยชาวบ้านหรือชาวประมงพื้นบ้านที่พบเห็นปรากฎการณ์ดังกล่าว หวั่นวิตกว่าสัตว์หรือธรรมชาติอาจออกมาบอกเหตุ หรือลางร้ายล่วงหน้า เพื่อเป็นการเตือนภัยหรือไม่ แม้ว่านักวิชาการจะชี้แจงว่าอาจเป็นลูกปู ไม่ใช่ลูกกุ้งมังกร แต่ชาวยังไม่มั่นใจและเชื่อว่า เป็นลูกกุ้งมังกรน้ำลึก ที่อาจอพยพหนีภัยขึ้นมาบนชายหาด โดยผู้เฒ่าผู้แก่เคยเล่าให้ฟังว่า หากกุ้งมังกรลอยขึ้นมาเกยชายหาด ให้อพยพหนีภัยได้เลย เพราะจะมีภัยร้ายอย่างแน่นอน จึงยิ่งทำให้ชาวบ้านกวาดกลัว แต่เมื่อนักวิชาการระบุว่า อาจเป็นลูกปูกระดุก ทำให้ชาวบ้านคลายกังวลไปบ้าง

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table width="100%" bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td></td></tr></tbody></table></td><td rowspan="2" valign="top" bgcolor="#000000"><table width="100%" bgcolor="#204080" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td width="10">
</td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td colspan="2" align="left" bgcolor="#000000"><table bgcolor="#204080" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td width="10">
</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

<table id="post4634709" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> วันนี้, 06:26 PM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #44571 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> lynn@nice
สมาชิก PREMIUM



วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 7,336
พลังการให้คะแนน: 1526


</td> <td class="alt1" id="td_post_4634709" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);">

พ่อท่านเลิบ ฐิตสทฺโธ วัดทองตุ่มน้อย จ.ชุมพร ละสังขารแล้ว
เมื่อวันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2554 เวลา 04.39 น.
ณ โรงพยาบาลพระมงกุฏ
</td></tr></tbody></table>

ผมขอกราบนมัสการไว้อาลัย พ่อท่านเลิบ ครับ กราบ กราบ กราบ

 

<table id="post4635883" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> วันนี้, 10:42 PM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #44581 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> lynn@nice
สมาชิก PREMIUM



วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 7,336
พลังการให้คะแนน: 1526


</td> <td class="alt1" id="td_post_4635883" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <ins style="display: inline-table; border: medium none; height: 280px; margin: 0pt; padding: 0pt; position: relative; visibility: visible; width: 336px;"><ins id="aswift_0_anchor" style="display: block; border: medium none; height: 280px; margin: 0pt; padding: 0pt; position: relative; visibility: visible; width: 336px;"></ins></ins>
"หลวงพ่อทอง"ยอดเกจิดังปัตตานี มรณภาพแล้ว

<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <dd>

"หลวงพ่อทอง"ยอดเกจิดังปัตตานี มรณภาพแล้ว ​

</dd><dd>

ผู้ สื่อข่าวได้รายงานว่า พระศีลมงคล หรือ หลวงพ่อทอง สรลสุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดสำเภาเชย อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้ละสังขารด้วยวัย 94 ปี พรรษา 76 ด้วยโรคชราภาพ ซึ่งเข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ เป็นเวลากว่า 1 เดือนมาแล้ว ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาศิษยานุศิษย์จำนวนมากที่ทราบข่าว โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมเคลื่อนศพกลับยังวัดสำเภาเชย เพื่อประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ
​

</dd><dd>

ผู้ สื่อข่าวได้รับรายงานเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลถึงสาเหตุการณ์เสียชีวิต ของหลวงพ่อทอง เกิดจากสาเหตุเลือดออกมาภายในสมอง เนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมากว่า 1 เดือนแล้ว จนอาการดีขึ้นแล้วออกจากโรงพยาบาล ก่อนที่จะกลับเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนเมื่อวานนี้ ( 25 เม.ย.)
​

</dd><dd>

สำหรับ ประวัติของ พระศีลมงคล หรือ หลวงพ่อทอง สรลสุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดสำเภาเชย เดิมชื่อ ทอง หรือ อินทอง นามสกุล ศรีชาติ เกิดวันที่ 5 เม.ย. 2461 ปีมะแม นักษัตร เอกศก บิดาชื่อ นายสีคง ศรีชาติ มารดาชื่อ นางแมะ ศรีชาติ บ้านเลขที่ 5 หมู่ 3 ต.ดอน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี บรรพชาอุปสมบท วันที่ 3 มิ.ย. 2477 ได้บวชเป็นสามเณร ณ วัดดอนตะวันออก ต.ดอน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี และ ได้บรรพชาอุปสมบท เป็นพระภิกษุ ณ วัดดอนตะวันออก ต.ดอน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2482 ซึ่งหลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชยถือเป็นพระเกจิดังอันดับ 1 ของ จ.ปัตตานี ที่มีประชาชนในพื้นที่ภาคใต้และทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย นับถือและศรัทธาหลวงพ่อทอง เป็นจำนวนมาก​

</dd>


</td></tr></tbody></table>
ผมขอกราบนมัสการไว้อาลัย หลวงพ่อทอง ครับ กราบ กราบ กราบ

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ

 

ผมขอตัวพักผ่อนก่อนครับ ญาติธรรมทุกๆท่าน

 

สวัสดียามเช้าครับ อาลัยหลวงปู่ทองครับ ด้วยรักและเคารพอย่างยิ่งครับ

 

ประวัติพระเกจิอาจารย์ที่ประสานขอความเมตตาปลุกพระชัยเทวฤทธิ์ และขุนแผนเทวฤทธิ์

ประวัติ หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ จ.พระนครศรีอยุธยา


ชีวประวัติ หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้
พระครูอดุลวิริยกิจ หรือ หลวงพ่อเอื้อน อตฺตมโน มีนามเดิมว่า “ เอื้อน ” นามสกุล พันธุมิตร เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ปีมะโรง ที่บ้านเลขที่ ๑ หมู่ ๖ ต.วังแดง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา โยมบิดาชื่อ “ เจริญ ” โยมมารดาชื่อ “ สง่า ” มีพี่น้องรวมทั้งหมด ๗ คน ครอบครัวของท่าน เป็นครอบครัวชาวนา ทุกคนในบ้านต้องช่วยกันทำมาหากิน ทั้ง ทำนา เลี้ยงวัว ควาย เกี่ยวหญ้า หาปูหาปลา ตามวิถีชาวบ้านที่เป็นชาวนาทั่วไป ชีวิตในวัยเยาว์ของท่าน เป็นเด็กที่มีนิสัยดี ไม่เกเร มีจิตใจโอบอ้อมอารี ไม่เอารัดเอาเปรียบใคร ชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เป็นนิจ
ถึงแม้ว่าท่านจะจบการศึกษาแค่เพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ก็ตาม แต่ความมุมานะของท่านที่จะใฝ่หาความรู้ นอกเหนือจากที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาไสยเวทมาจากโยมบิดา (ผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อเสน วัดบึง) จนหมดสิ้นแล้ว ท่านยังได้หมั่นฝึกจิต ภาวนา ทำวิปัสสนากรรมฐาน สวดมนต์คาถาที่ได้เล่าเรียนศึกษามา ทำให้เกิดความอยากที่จะศึกษา หาวิชาเพิ่มเติมให้มากขึ้น และมีจิตใจฝักใฝ่ในทาง “ พระพุทธศาสนา ” ผิดกับเด็กรุ่นเดียวกันที่เอาแต่เกเรเที่ยวเตร่ไปวันๆ
เมื่อถึงอายุครบบวช ท่านจึงเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ ณ.พัทธสีมา วัดบึง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี “ พระครูอาทร สุดคุณ ” วัดศักดิ์ (จื่อ อาภาทโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ “ พระอาจารย์เขียน ” เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ “ พระอาจารย์จาย ” เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาว่า “ อตฺตมโน ” แปลว่า “ ผู้มีจิตใจมั่นคง ” หลังจากอุปสมบทก็ตั้งใจ ศึกษาพระปริยัติธรรม จนสอบได้ “ นักธรรมตรี และ นักธรรมโท” แล้วก็แสวงหาความรู้ทาง “ ไสยเวท ” ตามที่ใจชอบมาตั้งแต่วัยเยาว์
การศึกษาด้าน วิทยาคม
คณาจารย์ที่เอ่ยมาข้างต้น “ หลวงพ่อเสน วัดบึง” นับได้ว่ามี วิชาเข้มขลังและมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ท่านได้ถ่ายทอดวิชา “ ไสยเวท ” ให้โยมบิดาของหลวงพ่อเอื้อนจนหมดสิ้น ซึ่งต่อมาได้ถ่ายทอดให้กับทายาท ก็คือ “ หลวงพ่อเอื้อน ” สืบต่อมา
มา เป็นศิษย์หลวงพ่อตาบ แห่งวัดมะขามเรียง หลังจากได้สนทนากันแล้ว หลวงพ่อตาบท่านก็ทราบว่า ครูบาอาจารย์ต่างๆที่ “หลวงพ่อเอื้อน” ได้ฝากตัวร่ำเรียน สรรพวิทยาคมมาก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั้งสิ้น แม้แต่หลวงพ่อตาบเอง ท่านก็ให้ความเคารพครูบาอาจารย์เหล่านั้นด้วย จึงได้ทบทวนและเพิ่มเติมวิชากับหลวงพ่อเอื้อนถึงการลงอักขระวิธี และสูตรมนต์พระเวทย์วิทยาคมทั้งหลาย ในการลงยันต์ต่างๆ โดยเฉพาะ การลง ตะกรุดโทนสิบหกพระองค์,ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ,ตะกรุดสามกษัตริย์ และตะกรุดโสลฬ หลวงพ่อตาบท่านจะบอกให้เขียนยันต์ต่างๆ ลง นะ อะไรบ้าง กี่ตัว เสกกี่หน ด้วยที่หลวงพ่อเอื้อนมีพื้นฐานมามากจึงทำให้ท่านเรียนรู้จนเชี่ยวชาญวิชาลง ตะกรุดได้ดี ในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะ “ ยันต์พระเจ้าสิบหกพระองค์” และ “ ยันต์โสลฬ ” หลวงพ่อตาบได้ถ่ายทอดให้ครบถ้วนทุกขั้นตอน ตามที่ท่านได้รับการถ่ายทอดมากจาก หลวงพ่อนอ วัดกลาง ท่าเรือ เจ้าของตำรา “ ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ ” อันโด่งดังไปทั่วประเทศ ซึ่งก็ได้ทำตะกรุดหนังหน้าผากเสือถวาย “ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน” มาแล้ว จึงเป็นการการันตีคุณภาพสายวิทยาคมของ “ หลวงพ่อเอื้อน ” ว่าท่านได้รับมรดกทางวิทยาคมด้านนี้มาอย่างสมเกียรติเป็นอย่างยิ่ง และจากการที่ช่วยลงตะกรุดให้หลวงพ่อตาบ มาตลอดเวลา ๗ ปี นับจำนวนได้เป็นพันดอก ก็เท่ากับว่าเป็นการฝึกฝนและประสบการณ์ การทำเครื่องรางวัตถุมงคลเหล่านั้น ท่านได้มาจากหลวงพ่อตาบไว้จนหมดสิ้น

ประวัติ หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ จ.พระนครศรีอยุธยา : เว็บ-พระ.คอม

 

สวัสดียามเช้าครับ พระผู้ใหญ่ทยอยละสังขารกันไปหลายรายในช่วงนี้เป็นที่น่าสลดใจต่อพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นพระเถระหรือพระเกจิอาวุโสที่มีพรรษามากๆหรือสุขภาพไม่ดีนัก จึงไม่ควรไปรบกวนท่านให้มากเกินพอดี ให้ท่านอยู่เป็นร่มบุญของคนส่วนใหญ่ในระยะยาวจะดีกว่าเป็นใบบุญเฉพาะของเราเพียงคนเดียว

ดูข่าวแม่ชีแก้กรรมแล้วสะดุดใจจริงๆ คนบางกลุ่มก็ชอบจริตแบบนี้ เสแสร้งแต่งเติมใส่สีตีข่าวและอุตริ เจอแบบนี้เข้าไปก็อย่าไปว่าเด็กที่เปิดอกเต้นโชว์วันสงกรานต์กันเลย ความพอดีอยู่ตรงใหนกันแน่ในแวดวงคนที่เรียกตัวเองว่านักปฏิบัติธรรม คนที่ถูกกราบไหว้มักหลงตัวเองว่ามีบารมีและมีอำนาจ วันหนึ่งก็ลืมตัวไปว่า กำลังทำอะไร

เคยหลงเข้าไปในวังวนแม่ชีคนดังคนหนึ่งที่วัดพระญาติ ปีเดียวหมดไปสี่ล้านบาทกับการเชิญทำบุญแบบมัดมือชกและแกมข่มขืนใจให้ยินยอมทำตาม ได้หน้านิดหน่อยแต่คงไม่ได้บุญอะไรนักเพราะใจไม่ยอมรับในการทำบุญแบบนี้ แต่ละวัดแต่ละสำนักมักมีวิธีการหาเงินแปลกๆหลายวิธี คนที่ไม่รู้วงจรบาป ไม่ทันกระบวนการ"บุญขายตรง"จะสูญเสียเงินไปแบบรู้อีกทีก็สายเสียแล้ว

 

ประวัติ หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก วัดตะโก จ.พระนครศรีอยุธยา

พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ (หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก) วัดตะโก ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก เป็นหนึ่งพระเกจิอาจารย์แห่งกรุง เก่าเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ เมืองร่องรอยประวัติศาสตร์การต่อสู้อันยิ่งใหญ่ อุดมไปด้วยพระเกจิอาจารย์นับตั้งแต่อดีตกาลมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่กล่าวขานศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป

หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก หรือในสมณศักดิ์พระราชทินนามที่ พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ เจ้า อาวาสวัดตะโก ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระเกจิอาจารย์แนวหน้าในยุคนี้ที่งดงามด้วยปฏิปทาศีลวัตรสัจคุณ ดำรงสมณเพศอย่างสมถะ เป็นพระนักปฏิบัติมากว่าที่จะเป็นพระธรรมกถึกทั้งเป็นพระนักพัฒนาทำความ เจริญรุ่งเรืองมาสู่วัดตะโก ท่านได้สืบทอดพุทธาคมมาจาก หลวงพ่อชื่น วัดภาชี ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งสืบทอดวิชาพุทธาคมมาจากหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ผู้เป็นพระบุรพาจารย์ที่โด่งดังเลื่องลือกิติศัพท์ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งสืบสายพุทธาคมโดยตรงจากหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ ที่เชี่ยวชาญวิชาอาคมโดดเด่นในด้านเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรีเป็นหนึ่ง อีกด้วย

กิติคุณชีวประวัติ ชาติภูมิ

หลวงพ่อรวย ถือกำเนิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๔ (ปัจจุบัน ๒๕๕๐ หลวงพ่อรวย เจริญสิริอายุครบ ๘๖ ปี ๗๐ พรรษาร่มกาสาวพัสตร์) เป็นบุตรคนที่ ๖ ในจำนวนพี่น้องร่วมอุทรเดียวกัน ๘ คน (ชาย ๓ หญิง ๕) ของคุณโยมบิดา มี โยมมารดา สินลา ศรฤทธิ์ (บรรพบุรุษของสกุลศรฤทธิ์นี้ เป็นเชื้อสายชาวกรุงศรีสัตนาคนหุต) ณ บ้านตะโก หมู่ที่ ๒ ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

ปฐมวัยและการศึกษาเบื้องต้น

ชีวิตในปฐมวัยมีความเป็นอยู่เหมือนๆ กับเด็กในชนบททั่วไป คือได้ช่วยเหลือพ่อแม่ประกอบอาชีพทางด้านเกษตรอันถือได้ว่าเป็นเมืองอู่ข้าว อู่น้ำมาแต่บรรพชน ทั้งช่วยเหลือเลี้ยงดูเลี้ยงสัตว์ เช่น วัว ควาย มาโดยตลอด

ส่วนการศึกษาเมื่ออายุได้ ๑๒ ปี ได้เข้ารับการศึกษาเบื้องต้นในโรงเรียนวัดตะโก เพราะเด็กๆ ในสมัยนั้นยังไม่มีโรงเรียนประถมศึกษาของทางราชการในละแวกตำบลดอนหญ้านาง ต้องอาศัยพระสงฆ์เป็นครูสอนบนศาลาการเปรียญของวัด จนมีความรู้อ่านออกเขียนได้ มีความรู้เทียบได้ชั้นประถมปีที่ ๔ ก็ออกจากโรงเรียน

สู่เพศพรหมจรรย์

เมื่ออายุ ๑๖ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดตะโกโดยมีพระสมุห์บุญช่วย เจ้าอาวาสเป็นพระอุปัชฌาย์ ในที่ครองเพศพรหมจรรย์ ท่านได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยในด้านพระคันถธุระ (พระปริยัติธรรม) สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี

อายุครบบวช ราว พ.ศ.๒๔๘๔ ก็อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดตะโก โดยมีพระครูสุนทรธรรมนิวิฐ (หลวงพ่อชื่น) เจ้าอาวาสวัดภาชี เจ้าคณะอำเภอภาชีเป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดจ้อย เจ้าอาวาสวัดวิมลสุนทร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสมุห์บุญช่วย เจ้าอาวาสวัดตะโก(ในสมัยนั้น) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับสมณฉายาว่า “ปาสาทิโก”” ครั้นอุปสมบทแล้ว อยู่จำพรรษาที่วัดตะโกเรื่อยมาได้ศึกษาด้านคันถธุระพระปริยัติธรรมเพิ่มเติม จนสอบได้นักธรรมชั้นโท ใน พ.ศ.๒๔๘๕ และสอบได้นักธรรมชั้นเอกใน พ.ศ.๒๔๘๗

สืบทอดพุทธาคม

หลังจากจบนักธรรมเอกแล้ว ท่านคิดว่าเพียงพอสำหรับด้านคันถธุระแล้ว เพราะพระที่อยู่ตามชนบทบ้านนอกพอที่จะรักษาพระธรรมวินัยเพศพรหมจรรย์ให้ รุ่งเรืองและเป็นนำสอนชาวบ้านบ้านได้แล้ว ท่านก็หันมาสนใจทางด้านวิปัสสนาธุระโดยมองเห็นประโยชน์ในด้านการปฏิบัติ เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ออกเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาเรียนพระกรรมฐานกับครู บาอาจารย์เก่งๆ ในยุคนั้น อาทิเช่น

๑.หลวงพ่อชื่น วัดภาชี อยุธยา เชี่ยวชาญด้านวิปัสนากรรมฐานที่สืบทอดพุทธาคมมาจากหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เป็นที่รู้จักกันดีในยุคนั้นซึ่งมีศิษย์ที่ศึกษาวิชาจากหลวงพ่อกลั่นมากมาย อาทิเช่น หลวงพ่อใหญ่ หลวงพ่ออั้น หลวงพ่อเภา หลวงพ่อศรี หลวงปู่ดู่ และหลวงพ่อชื่น ศิษย์หลวงพ่อกลั่นที่กล่าวถึงทั้งหมดนี้ปัจจุบันได้มรณะภาพไปหมดแล้วซึ่งแต่ ละองค์ล้วนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างดี

๒.หลวงพ่อแจ่ม วัดแดงเหนือ เชี่ยวชาญเวทมนต์คาถาอาคม ได้ถ่ายทอดสรรพวิชาให้หลวงพ่อรวยทุกอย่าง อาศัยความขยันหมั่นเพียรและความตั้งใจมุ่งมั่นจึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จนวิชาที่เล่าเรียนปฏิบัติเข้มขลังในพลังแห่งวิทยาคมสูงส่ง

กิตติคุณ

เป็นพระเกจิที่เปี่ยมเมตตาธรรมสูง มีความเป็นอยู่อย่างสมถะ เชี่ยวชาญสรรพเวทวิยาคม วัตถุมงคลเข้มขลังเปี่ยมพลังพุทธคุณมากประสบการณ์ แคล้วคลาดนิรันตราย และเมตตา มหานิยม โชคลาภ เป็นหนึ่ง

คาถามหาลาภ

สัมพุทธชิตา จะ สัจจานิ เกรัตสะ พระพุทธชิตา สัพพโส คุณะวิภา สัมปัตโต นะรุตตะโม มหาลาภัง ภวันตุ เม.

 

มีเรื่องที่อยากเตือนๆกันไว้สำหรับนักช้อปวัตถุมงคล หลายรายที่หลงคิดว่าตัวเองเป็นพยัคฆ์ภูธร กูรูหน้าคอม สู่รู้และฉกาจเก่งในกระบวนการศาสตร์ของวัตถุมงคล พระเครื่องเก่าๆหลายแบบที่ขายๆกันโครมครามมีราคาค่านิยมในตลาดพระเครื่องวันนี้นั้น ไม่ได้แท้เพราะเป็นพระของหลวงปู่ ของหลวงพ่อที่ทันท่านแผ่เมตตาปลุกเสกให้ แต่แท้เพราะว่า"ขายได้"เท่านั้น เมื่อขายได้มีคนซื้อ วงการพระเครื่องเขาก็ยอมรับว่าแท้ เรื่องอื่นๆจะดีจะใช่ของจริงอย่างไรเป็นประเด็นรองลงไป

อย่างพระเครื่องของหลวงปู่ทิม หากลงลึกไปจริงๆแบบไม่ลูบหน้าปะจมูกและเป็นข้อมูลอินไซด์จากข้อเท็จจริง จะพบว่า40% ที่หมุนเวียนในท้องตลาดทุกวันนี้ ที่เช่าหากันและไล่ซื้อกันแพงๆ ไม่ใช่ของที่ท่านให้ทำไว้จริงๆ ลองหาข้อมูลเชิงลึกดูก็ได้ ไม่ได้อยากประจานใครกลางตลาดเพียงแต่เตือนให้ยั้งใจกันบ้างว่า หาข้อมูลดีๆก่อนจะเสียเงินหมื่นเงินแสนให้เขา ลองนั่งจับเข่าและกราบขอข้อมูลศิษย์จริงๆที่ทันหลวงปู่ดูสักครั้ง ถามตรงๆไปเลยว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไรกับพระผง เหรียญแพงๆของท่านในตอนนี้จะใช้แขวนเดี่ยวๆองค์ใหนได้บ้าง ขอทราบเรื่องจริงเพื่อแค่ใช้บูชาก็น่าจะได้ข้อเท็จจริงที่ไม่ใช่เรื่องที่เชื่อต่อๆกันมาตามการเขียนหันซ้ายหันขวาของข้อเขียนที่ลอกกันมาเป็นทอดๆ ศิษย์ครอบครูของหลวงปู่ทิมบางคนที่เคยไปคุยด้วยส่ายหัวและบอกว่า ทำกันไม่กลัวบาปกลัวกรรมเลย พี่คนนี้เขาเป็นศิษย์ครอบครูชุดแรก เก็บพระหลวงปู่ทิมไว้มากพระทองคำก็มาก เป็นราชาที่ดินคนหนึ่งในเมืองระยอง และทุกวันนี้ไม่ยุ่งกับวงการพระหลวงปู่ทิมเลย

 

ขออนุโมทนากับคุณโจด้วยครับที่นำประวัติพระอาจารย์หลาย ๆ องค์มาให้ความรู้แก่พวกเรา

 

เห็นด้วยกับคุณหนุ่มครับ
เพื่อน ๆ ที่อยากได้พระของลป.ทิมควรใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง

 

เรียนพี่หนุ่ม
วันที่ 22 กค.54 มีอะไรให้ช่วยบอกล่วงหน้าได้เลยครับ ถ้าไม่มีงานด่วนผมยินดีช่วยเหลือครับ ผมอยู่ อ.สองพี่น้อง สุพรรณฯ.

 

ไหนๆ ก็จะทำรูปหล่อแล้วผมอยากให้คุณหนุ่มช่วยพิจารณารูปหล่อของหลวงพ่อสุนทรอีกสักแบบ อยากมีไว้บูชาครับเพราะไม่ทราบว่าจะมีโอกาสแบบพิธีนี้หรือไม่
ผมเข้าใจครับมันอาจยุ่งยากมีค่าใช้จ่ายเยอะ ลองพิจารณาดูนะครับไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ