ฌาน [อธิบายอย่างละเอียด]

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Darkever, 7 มิถุนายน 2011.

  1. Darkever

    Darkever เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +333
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]อารมณ์สมาธิ หรือฌาน หรือสมาบัติ หรืออัปปันนาสมาธิ เลือกเอาแล้วแต่จะเรียก[/FONT]

    [FONT=&quot]ฌาน 1. [FONT=&quot]จิตจะภาวณาไปเองเป็นอัตโนมัติ พุทโธภาวณาไปเองโดยไม่ได้ตั้งใจ จะภาวนามันก็ภาวนา จะไม่ภาวนามันก็ภาวนา ภาวนาไปเองอัตดนมัติ สติรู้พร้อมอยู่ว่ากำลังภาวนาไปเอง จิตประคองอยู่ในการภาวนาเองนั้น จะมีอาการทางกายต่างๆเช่น ตัวโยก ตัวเบาจะลอย ตัวสั้น น้ำตาไหล เป็นต้น รวมความสรุปได้ว่า ถ้ามีอาการต่างๆทางกายเกิดขึ้น มันเป็นของธรรมดาๆที่จะต้องมี อย่าไปสนใจกับมน ภาวณาต่อไป จิตจะมีความสุขเอิ่บอิ่มเล็กน้อย มีความสงบ หูยังได้ยินเสียง แต่ไม่รำคาญ[/FONT]

    [FONT=&quot]ถ้าเริ่มเข้าฌาน[/FONT]
    [/FONT]1 [FONT=&quot]อาจะจมีอาการเหมือนตกจากที่สูง มีอาการเคลิ่มๆ วูบวาบ แต่สติดีมาก ถ้าเคลิ่มและสติไม่ดี นั้นไม่ใช่ฌาน [FONT=&quot]อันนั้นมันจะหลับ[/FONT]

    [FONT=&quot]ฌาน [/FONT]
    [/FONT] 2. [FONT=&quot]จิตจะทิ่งคำภาวนา จิตทิ้งพุทโธไปเสีย ลืมภาวนา สติประคองรู้อยู่เฉยๆในลมหายใจไม่พลากจากลม ความเอิ่มอิ่ม ความสุข มีมากขึ้น อาการต่างๆทางกายอาจจะยังมีอยู่ [FONT=&quot] ลมหายใจเบาลงมาก[/FONT]

    [FONT=&quot]ฌาน [/FONT]
    [/FONT] 3 .[FONT=&quot]จิตจับลมเบาน้อยๆ ลมหายใจเบามากจนแทบไม่มี หูแทบไม่ได้ยินเสียง สัมผัสทางหายแทบไม่มีเลย ลมหายใจเบามากเหมือนกับจะไม่มี สติประคองเอาไว้ ต่อเนื่อง ความเอิ่มอิ่มหายไป เหลือแต่สุขล้วนๆ ร่างกายแข็งทือเหมือนมีคนเอาอะไรมามัดไว้ [FONT=&quot]ไม่อยากจะขยับ[/FONT]

    [FONT=&quot]ฌาน [/FONT]
    [/FONT] 4 .[FONT=&quot]ลมหายใจ หายไปในความรู้สึกรู้สึกถึงลม [FONT=&quot]หายใจ เหมือนๆว่าจิตจะลืมลมหายใจ แต่กำลังใจไม่มืด ไม่กลัว กำลังใจโปร่ง[/FONT] [FONT=&quot]สว่าง ร่างกาย หายไปในความรู้สึก สุขที่เคยมีในสมาธิ หายไปหมด[/FONT] [FONT=&quot]ทุกข์ที่เคยมีในการเมื่อยต่างๆทางกายหายไปหมด ไม่ ไม่รับรู้สัมผัสใดๆทั้งหมด เสียง ไม่ได้ยิน จิตมีแต่ความเป็นกลาง ไม่สุข ไม่ทุกข์[/FONT]

    [FONT=&quot]อาการทางกายที่จะเกิดขึ้นนั้น จะมีหลักๆ[/FONT]
    [/FONT] 5 [FONT=&quot]อย่าง 1.[FONT=&quot]พองขนชูชันน้ำตาไหล [/FONT]2.[FONT=&quot]ทำให้รู้สึกแปลบๆเป็นขณะๆ[/FONT] [FONT=&quot]ดุจฟ้าแลบ [/FONT]3.[FONT=&quot]เป็นระลอก หรือปีติเป็นพักๆ ทำให้รู้สึกซู่ลงมาๆ[/FONT] [FONT=&quot]ในกายดุจคลื่นซัดต้องฝั่ง [/FONT]4.[FONT=&quot]สึกตัวเบา เหมือนลอยขึ้นไปในอากาศ[/FONT] 5.[FONT=&quot]รู้สึกเย็นซ่านเอิบอาบไปทั่วสรรพางค์ บางทีก็สั่นๆเป็นเจ้าเข้าทรงทีเดียว[/FONT]

    [FONT=&quot]เมื่ออาการเหล่านั้นเกิดขึ้น หรืออาการใดๆเกิดขึ้น ให้ ประคองจิตไว้ในกรรมฐาน อย่าสนใจ มันเป็นของธรรมดา[/FONT]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]นิมิตรที่อาจจะจะเกิดขึ้นนั้น
    [/FONT] [FONT=&quot]จะเกิดขึ้นได้ทุกขณะ บ้างก็เห็นเทพ พรหม ผี ปีศาจ วิญญา อดีต อนาคต [FONT=&quot]เห็นมั่วๆซั่วๆ บางทีก็เห็นแสงสว่าง เห็นแสงสี ให้กำหนดดรู้ที่กรรมฐานเอาไว้ อย่าไปสนใจในนิมิตร ให้รู้ว่านิมิตร มันหลอก[/FONT] [FONT=&quot]นิมิตรเกิดเมื่อไหร่ ก็ไม่ต้องสนใจมัน มันหลอกๆ [/FONT]

    [/FONT]
     
  2. tanawass

    tanawass Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +37
    อนุโมทนาครับ คุณDarkever ขอบพระคุณมากครับ
     
  3. หมอรวย

    หมอรวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    472
    ค่าพลัง:
    +105
    ถึงฌาณ 4 แล้วไปไหนต่อครับท่าน!
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    อ้างอิงจากตำราหรือว่าประสบการณ์ส่วนตัวครับ..
    ถ้าประสบการณ์ส่วนตัว.ถือว่าเก่งมากนะครับ ที่แยกสามารถอาการได้ จากระดับ 2 ถึง 4
    ถ้าผมขออนุญาตินะครับในแบบสมถะภาวนานะครับ ฌาน 1 ได้ยินเสียงภายนอก แต่ไม่สนใจ ฌาน 2 คำภาวนาหายไปโดยไม่ตั้งใจให้หาย ส่วนจะไปถึง ฌาน 4 นั้นจะเข้าได้แบบเผลอหรือไม่รู้ตัว(ยกเว้นใช้คำภาวนาแบบแนวฝึกทิพย์จักขุของหลวงพ่อฤาษี แบบนั้นจะห้ามไม่ได้บังคับไม่ได้แต่รู้ตัว)และำำไม่รู้ถึงช่วงเวลาจะรู้เฉพาะตอนเลิกนั่ง.พอถึง ฌาน 4 จิตกับกายจะแยกกันได้ชั่วคราว ภาวนาแบบที่ทิพย์จักษุ จิตพร้อมจะไปบังคับให้อยู่ไม่ค่อยยอม แบบสมถะ จิตไปไม่ได้ตั้งใจและสามารถคุมได้.ส่วนอาการ ปิติ อาจเกิดอาการใดอาการหนึ่ง แต่บางครั้งเราก็รู้สึกว่าไม่เกิดเพราะมันเร็วมากเลยไม่รู้..ส่วนสัมผัส มีทางหู ทางจิต การมองเห็นในขณะนั่งมีบ้าง...
    ประมาณนี้ อนุโมทนาครับ...
     
  5. Darkever

    Darkever เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +333
    ถึงฌานสี่แล้ว ถ้ามันนิ่งมาก จนจิตทำอะไรไม่ได้ ก็ถอนออกมาเล็กน้อย พอที่จิตจะไหวตัวได้ แล้วพิจารณาร่ายกายตัวเอง ไปเรื่อยๆถ้าพิจารณาเหนื่อย ก็เข้าฌานอีก เพื่อพักจิต พักจิตหายเหนื่อยแล้วก็ถอยออกมาพิจารณากายอีก พิจารณากายเหนื่อยก็เข้าฌานพักจิตอีก จิตจะเข้าถึงพระอรหันต์เอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2011
  6. Darkever

    Darkever เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +333
    ถ้าจะเล่นอภิญญา เล่นปฏิสัมปิทา ยังไงก็ต้องแยกฌานให้ได้
    ถ้าแยกไม่ได้ จะสลับฌานสลับกสินไม่ได้
    แยกได้แล้วก็ต้องกำหนดเข้าฌานไหนก็ได้ตามใจ
    นึกจะเข้าฌานไหนก็ต้องเข้าได้ ไม่ให้เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว
    เข้าฌาน 1กระโดดไปฌาน3 ฌาน3ไปฌาน2 ไปฌาน4 ต้องทำได้
    ถ้าทำไม่ได้ ก็เล่นฤทธิ์ไม่ได้ ก็เป็นพระอรหันต์สุกขวิปัสสโกไปแบบธรรมดา
     
  7. หมอรวย

    หมอรวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    472
    ค่าพลัง:
    +105
    ถึงตรงนี้แล้วครับ.... "ลมหายใจ หายไปในความรู้สึกรู้สึกถึงลม หายใจ เหมือนๆว่าจิตจะลืมลมหายใจ แต่กำลังใจไม่มืด ไม่กลัว กำลังใจโปร่ง สว่าง ร่างกาย หายไปในความรู้สึก สุขที่เคยมีในสมาธิ หายไปหมด ทุกข์ที่เคยมีในการเมื่อยต่างๆ ทางกายหายไปหมด ไม่ ไม่รับรู้สัมผัสใดๆ ทั้งหมด เสียง ไม่ได้ยิน จิตมีแต่ความเป็นกลาง ไม่สุข ไม่ทุกข์"
     
  8. หมอรวย

    หมอรวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    472
    ค่าพลัง:
    +105
    ประสบการณ์ตอนที่ถึงฌาณ 4 ตามที่อ้างข้างต้นนั้น (ต่างกรรมต่างวาระนะครับ) มีผู้มาพบผมมากมาย ทั้งที่เป็นพระธุดงค์ ทั้งที่เป็นเหล่ากายทิพย์ ทั้งที่เป็นภูตผีและวิญญาณ แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับจิตดี...เหอๆ ก็แหละครูบาอาจารย์ยังไม่มี มีก็แต่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้านู่นครับ
     
  9. Darkever

    Darkever เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +333
    คุณหมอรวย นครราชสีมา ที่คุณอยู่นั้น ครูบาอาจารย์ก็มากมาย
    ลองสอบถามท่านเหล่านั้นดูคับ ว่าถึงตอนนั้นแล้วจะทำยังไงต่อ
     
  10. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    ถ้าทำได้แล้วก็โมทนาสาธุบุญด้วยนะครับ.....

    อย่างไรก็ช่วยกันสอบอารมณ์ผู้ที่เข้ามาถามธรรมที่ยังไม่ได้.....เพราะคนที่ยังไม่เคยเข้าถึงนี้จะสอบอารมณ์ผู้ปฏิบัติในขั้นฌานนี้ไม่ได้เลย....เพราะว่ายังไม่เคยมีประสบการณ์...

    โมทนาสาธุธรรมในเจตนาที่ดีครับ....
     
  11. หมอรวย

    หมอรวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    472
    ค่าพลัง:
    +105
    ขอบคุณครับ...

    "ถอยออกมาพิจารณากายอีก" ใช่การใช้จิตพิจารณากายอันประกอบด้วยธาตุทั้ง 4 ขันธ์ัทั้ง 5 ใช่ไหมครับ

    เอ...หรือว่า จะต้องรวมไปถึง เวทนา จิต และธรรม แม้ถึงตรงนี้ ที่เรียกว่ามหาสติปัฏฐาน 4 ผมก็ยังข้องใจตรงว่า จะใช้จิตพิจารณาธรรมอย่างไร
     
  12. Darkever

    Darkever เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +333
    มันจะหมุนขึ้นไปเองถ้าใช้กำลังสมาธิพิจารณากาย ตั้งกายขึ้นพิจารณา
    หนักๆเข้า พอตั้งกายขึ้น ยังไม่ทันจะพิจารณา กายก็สลายไปแล้ว
    พอจิตอิ่มตัวกับหารพิจารณากาย พอจะพิจารณา มันพิจารณาไม่ทัน มันดับเอง
    เหลือแต่ละเอียด แล้วจิตจะหมุนขึ้นไปพิจารณา เวทนา จิต และธรรมเองเป็นอัตโนมัติ
    หลวงตามหาบัวสอนไว้ แค่นี้ พิจารณากายซ้ำๆซากๆ จนที่สุด
    พิจารณาไม่ทัน พอตั้งท่าว่าจะพิจารณา มันก็ดับ พิจารณาไม่ทัน ถึงตอนนี้
    ท่านว่า พ่อแม่ครูอาจารย์มั่นท่านก็ไม่สอน สอนกันไม่ได้ มันจะต้องรู้เอง
    เหมือนการกินอิ่ม อิ่มแล้วจะรู้ว่าอิ่มเองโดยไม่มีไครสอน
    ถ้าพิจารณากายซ้ำๆซากๆ จิตจะหมุนเข้าไปถึงเวทนา หมุนเข้าหาจิต
    หมุนเข้าหาธรรมของมันเอง โดยไม่ต้องมีไครสอน ถึงจุดแล้วบรรลุจะรู้เอง
     
  13. Darkever

    Darkever เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +333
    "จิตตัดร่างกาย อย่างเดียว ตัดขาดตัดอาลัยขาดจากกายเมื่อไหร่ เป็นอรหันต์"

    โอวาทหลวงพ่อฤษีลิงดำ
     
  14. หมอรวย

    หมอรวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    472
    ค่าพลัง:
    +105
    เพียงอ่านแค่ตรงนี้ ก็ทำให้รู้สึกซาบซ่านไปทั่วสรรพางค์เลยครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ ครับท่าน
     
  15. หมอรวย

    หมอรวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    472
    ค่าพลัง:
    +105

    ก็เป็นอันว่า เราต้องยึดฌาณนั้นเป็นอารมณ์เวลาเราละจากร่างกายนี้ใช่ไหมครับ เราตั้งจิตมุ่งตรงไปไหนต่อ ตรงนี้ผมไม่ทราบจริงๆ ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิด้วยครับ ไม่เคยท่องเที่ยวไปไหนเลย
     
  16. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    จุดที่พูดนี้ใช่อยู่ครับ....แต่ทำจริงๆได้ไหมผมว่าอยากที่จะแยกและกระโดด และสลับ ที่ความเป็นจริงคือจังหวะเดียว ไปถึง 4 แล้วถอยมาอฐิษฐาน แล้วกลับไป 4 อีกครั้งแล้วถอยมาดูผล..ประมาณนี้ครับ...
    แต่ถ้าถึงจุดที่ คุณ หมอรวย พูด นั้น ผมว่า..ก่อนจะให้เค้าพิจารณาอะไรได้ ถ้าถึง ฌาน 4 ควบคุมจิตเค้าให้อยู่ในร่างกายให้ได้ก่อนนะครับ..สำหรับคนที่เคยไปถึงจุดนี้ครั้งแรกๆ มักจะไม่สามารถควบคุมให้เค้าอยู่ในร่างกายได้..นอกจากจะฝึกสติไปอีกซักพักจนมีกำลังพอจะควบคุมจิตได้..
    ประมาณนี้นะครับ
    อนุโมทนาครับ..
     
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ขอเสริมต่อ..ถ้าถึงฌาน 4 แล้ว สามารถควบคุมจิตโดยใช้สติกำกับเค้าให้อยู่ในร่างกายไ้ด้แล้ว ..ให้รักษาอารมย์ให้ต่อเนื่องก่อน..แล้วค่อยให้จิตเค้าไปพิจารณาอวัยวะภายในร่างกายจะเป็นชิ้นส่วนไหนก็ได้..ความจริงถ้าเค้าเห็นละเอียดๆแค่ชิ้นเีดียว หรือแค่เห็นได้..เค้าก็เริ่มที่จะเบื่อแล้วหละครับ..แต่ถ้าถอยอารมย์จากฌาน 4 ลงมาเนี่ยจะเป็นวิปัสสนาแล้ว..โดยส่วนตัวคิดว่า รักษาอารมย์ ไว้ซักพัก.แล้วพิจารณาร่างกายไปเลย..เข้าเห็นชิ้นเดียว ก็ลงไตรลักษณะได้แล้ว..ประมาณนี้ครับ
    อนุโมทนาครับ
     
  18. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    คำถามน่ารักขอร่วมด้วยหน่อยนะครับ......ถ้าออกตรงนี้ก็ไปเป็นพรหมเลยครับ....แต่ก็ยังดีนะ....ดีกว่าเป็นสัตว์นรกนะ....
     
  19. Darkever

    Darkever เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +333
    ทำได้สิคับ มันของไม่ยากเลย ผมทำมาก่อน ผมผ่านมันมาแล้ว
    จะเถียงคนที่ผ่านมาแล้วไม่เกิดประโยชน์ ที่ว่ายาก มันไม่ยากเลยจิงๆ
    ถ้าลงมือทำ ขยัน พากเพียรอย่างหนัก อย่างช้าสุด ผมว่าไม่น่าจะเกิน3เดือน
    ผมทำมาแล้ว ผ่านมาก่อน ผมรู้ ความยากมันอยู่ที่ขึ้นเริ่มต้น
    เริ่มต้นกำลังใจ ขยัน แข้มแข็ง หลังๆจะง่ายไปโดยลำดับ
    ที่ว่าง่ายไปหายากนั้นไม่จริง ต้อง ยากไปหาง่าย มังถึงจะถูก
     
  20. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    อย่าไปกลัวเลยครับว่าถ้าเข้าฌาน ๔ แล้วมันจะไม่ถอยนะ....ถึงเวลามันอิ่มมันถอยเองเลย...เพราะฌานโลกีย์อย่างไรมันก็อยู่ในกฏพระไตรลักษณ์.....
     

แชร์หน้านี้

Loading...