ปลดปล่อยตัวเองจากพลังงานเก่า เปิดรับพลังงานใหม่ ง่ายๆ ดังนี้

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 18 มิถุนายน 2011.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ไง เด็กๆ ทั้งหลาย ผมได้รับเชิญมาจากดาวพระเกตุเป็นการพิเศษเชียวนะ เพื่อให้เด็กๆ ทั้งหลายที่ยังงุนงงอยู่ ก้าวข้ามผ่านด่านทดสอบได้อย่างรวดเร็ว ผมจึงลงมาทำกิจเพื่อให้เด็กๆ ทั้งหลาย "ใสขึ้น" เป็นการเฉพาะ นั่นคือ การปลดปล่อยตัวเองออกจากพันธนาการของพลังงานเก่า เรื่องไร้สาระของพวกคนหัวเก่า, สิ่งเก่าๆ, เรื่องเก่าๆ ที่ตกค้างอยู่ในโลกนี้, ในประเทศนี้, ในสังขารของเด็กๆ และในหัวสมองอันยุ่งเหยิงของคนแก่หัวโบราณทั้งหลาย แล้วเราเด็กยุคใหม่ จะไปโง่ให้พลังงานเก่าเหล่านี้ ทับถมขมปลักอยู่กับมันตลอดไปทำไมกัน ปลดปล่อยตัวเองออกจากพลังงานเก่าเสีย เรื่องง่ายๆ อยู่ที่ "ใจของเราเอง" เลิกวุ่นวาย, เลิกสับสน, เลิกงุนงง, เลิกวิตกจริต, เลิกทุกข์, เลิกเครียด, เลิกคิดมาก, เลิกเอาสาระมาแบกไว้ให้หนักหัว ได้แล้ว มันไม่ได้ประโยชน์อะไรหรอก มันไม่ได้ช่วยให้เท่ห์ขึ้นมาได้ และไม่ช่วยให้คิดอะไรใหม่ๆ ออกเลย ปลดปล่อยตัวเองออกจากเรื่องสัปปะรังเคเหล่านี้ซะ แล้วเด็กๆ ทั้งหลายจะใสปิ๊ง สว่างไสว เมื่อเปิดรับปรับจูนเข้ากับพลังงานใหม่แล้ว ก็จะสามารถทำอะไรใหม่ๆ ได้ คิดใหม่ ทำใหม่ได้ เกิดปัญญาขึ้นมาได้เอง ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องเอาสาระมาแบกไว้ ปลดปล่อยเรื่องเหล่านั้นไปก่อน เดี๋ยวมันสว่างขึ้นมาเอง ง่ายๆ นะเด็กๆ
     
  2. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    เห็นหลายคนปรับระดับจิตไม่ถึงระดับจิตจักรวาลกันมาก เพื่อเป็นการปูพื้นฐานให้เด็กๆ ทั้งหลาย เราจึงต้องมาเริ่มกันที่แบบเรียนแรก นั่นคือ "ขั้นตอนการปลดปล่อย" อย่างแรก ยังไม่ต้องไปปลดปล่อยอะไร ของใคร ที่ไหน ปลดปล่อยตัวเองให้รอดก่อน ทดลองจากตัวเองให้สำเร็จก่อน แล้วจึงค่อยไปใช้กับสิ่งอื่นๆ, คนอื่นๆ นะเด็กๆ ในขั้นตอนการปลดปล่อยนี้ไม่ยากเลย มันอยู่ที่ "ใจของเราเท่านั้น" ถ้าใจเราปลดปล่อย มันก็คือ ปลดปล่อย ถ้าใจเราไขว่คว้า, โหยหา, จับยึด, เกาะเกี่ยว, ผูกพัน, ห่วงหา, อาทร, ร้อนใจ ฯลฯ มันก็ไม่ใช่ปลดปล่อย ใช่ไหมละ เด็กๆ เอาง่ายๆ อย่างนี้ พลังงานสองอย่างที่เราจะเรียนรู้คือ "พลังงานเก่า" กับ "พลัลงานใหม่" สิ่งที่เราจะทำคือ "ปลดปล่อยตัวเองออกจากพลังงานเก่า" แล้ว "เปิดรับพลังงานใหม่" เข้าไป ก็เท่านั้นเอง พลังงานเก่าเหล่านี้ มาจากโลกใบนี้ เป็นของเสียที่ตกค้างมาจากไหนต่อไหนก็ไม่รู้ แรกเกิดเราก็ใสมาก่อน พอเกิดออกมาแล้ว พลังงานเก่าเหล่านี้ ก็ค่อยๆ เข้ามาผสมผสานในตัวเรา พอกพูนในตัวเรา และครอบงำเราไปหมด จนเราไม่เป็นตัวของตัวเราได้อย่างแท้จริง เราถูกสอน, ถูกสั่ง, ถูกกระทำให้เป็นไปอย่างนั้น อย่างนี้มากมาย ด้วยพลังงานเก่าทั้งนั้น ซึ่งก็ทำให้เราอยู่ร่วมกับคนทั้งหลายในโลกใบนี้ได้ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดหรอกนะ เพราะพลังงานเหล่านี้ ขับเคลื่อนด้วยความมืดหลง, กิเลส และความทุกข์ เอาอย่างนี้ ผมจะค่อยๆ อธิบายลักษณะที่แตกต่างของพลังงานเก่าและพลังงานใหม่ให้ฟังเป็น "ชั้นๆ" ของระดับพลังงานไป เพื่อปลดปล่อยเด็กๆ ทั้งหลายให้ออกมาจากพลังงานเก่าที่ซ้อนเหลื่อมกันอย่างเหนียวแน่นเป็นชั้นๆ เหล่านี้
     
  3. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ลักษณะของพลังงานเก่า จะมีลักษณะของ "การผูกมัด ยึดเกาะ" แต่พลังงานใหม่ตรงกันข้ามคือ "จะอิสระแต่เชื่อมโยงถึงกัน" เพราะสรรพสิ่งเป็นหนึ่งเดียวกันมาก่อนอยู่แล้ว ดังนี้ เราจึงไม่ต้องไปยึดเกาะอะไร มันก็เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันอยู่แล้ว ถ้าเมื่อใดเรารู้สึกได้ถึงพลังแห่งการยึดมั่นถือมั่น, ยึดเกาะ, ผูกมัด, โยงใย ฯลฯ นั่นแหละ พลังงานเก่า ก็จง "ปลดปล่อยตัวเองออกจากมันซะ" ก็เท่านั้น รู้ตัวแล้ว มีสติแล้ว หลุดโพล่งฉับพลันทันที แค่นั้นเอง หลุดโพล่งแล้วไม่ใช่จมปลักในความว่าง หรือความไม่มีอะไรนะ เปิดรับพลังงานใหม่ คือ "ความเป็นหนึ่งเดียวกันจนไม่อาจแยกเป็นตัวเขาตัวเราได้" อย่างไม่มีขีดจำกัด อย่างไพศาล อย่างไร้ประมาณ มันก็เท่านั้น นอกจากนี้ พลังงานเก่ายังมีลักษณะอื่นๆ อีก เช่น การแบ่งแยก เขา-เรา, ถูก-ผิด, ดี-ชั่ว, คนดี-คนเลว, คนถูก-คนผิด ฯลฯ สองอย่างตรงข้ามกัน แล้วก็เอามากระทบกระทั่งกัน ตีกันให้มันวุ่นวาย นี่แหละพวกพลังงานเก่า เป็นแบบนี้ แต่พลังงานใหม่ เป็นการ "ยอมรับในความหลากหลายและกิจที่แตกต่างกัน" ไม่ใช่การแบ่งแยก แต่เป็นการยอมรับความจริงที่ว่าธรรมชาติย่อมต้องมีความหลากหลายและแตกต่างกันในรายละเอียด ในเปลือกนอก เป็นธรรมดา ซึ่งเมื่อมองในแก่นแท้อย่างลึกซึ้งแล้วก็ไม่แตกต่างกันเลย คนเรามีกิจต่างกัน บ้างสร้างสรรค์, บ้างทำลาย โลกมันถึงจะสมดุล ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ไม่มีใครดี ไม่มีใครชั่ว ไม่มีพระเอก ไม่มีตัวร้ายหรอก มีแต่พลังงานเก่าที่จะครอบงำให้เราเห็นว่า "มันมี" แบบนั้น แล้วครอบงำเราต่อให้เราไปเข้าพวกเพื่อกระทบกระทั่ง บาดหมางกับพวกที่ตรงข้ามกับกลุ่มเรา อันนี้ เป็นแบบพลังงานเก่า ไร้สาระ น่าเบื่อที่สุด พลังงานใหม่ ดีกว่าเยอะ ต่างคนต่างเข้าใจในกิจที่แตกต่างกันแล้วทำกิจของตนไป ยอมรับในความแตกต่างหลากหลายของธรรมชาติ แล้วมองว่ามันสวยงาม นี่ถ้าโลกมีดอกไม้ชนิดเดียว ต้นไม้ชนิดเดียว นกชนิดเดียว และทุกๆ อย่างชนิดเดียวหมด ไม่มีความแตกต่างกันเลย มันจะสวยไหมเนี่ย? คงน่าเบื่อน่าดู ใช่ไหมละเด็กๆ ก็ดีแล้ว แตกต่างกันบ้างนะ อย่าเหมือนกันให้มากนักเลย น่าเบื่อ เดี๋ยวไม่รู้ว่าใครเป็นเมียใคร หน้าตาเหมือนกันหมด ก็ยุ่งแน่ ใช่ไหม? เอาละ ลักษณะของพลังงานเก่าและใหม่ต่างกันมาก ลองสัมผัสดูเอง แล้ว "จิตจะรู้ด้วยสัญชาติญาณ" หลังๆ จะปลดปล่อยอัตโนมัติเอง หลุดเองฉับพลัน ง่ายๆ นะ เด็กๆ
     
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    โครงสร้างของพลังงานเก่าที่ยึดโยงโลกใบนี้อยู่ จะทับซ้อนกันอย่างเหนียวแน่น จนยากที่จะหลุดออกมาได้ในทุกระดับชั้น เอาง่ายๆ อย่างนี้ รอบบริเวณบ้านของเด็กๆ ทั้งหลาย จะมีเพื่อนๆ ที่มองไม่เห็น เป็นพลังงานเก่าอยู่ก่อน เขาเหล่านี้ ขับดันให้คนในบ้านดำเนินไปตามกระแสพลังงานเก่านั้น เช่น เป็นคนหวงบ้านบ้าง, เป็นคนถือตัวว่าเป็นเจ้าใหญ่นายโตในบ้านบ้าง, ถือตัวว่าเป็นพ่อ ต้องให้ลูกเชื่อฟัง ไม่ฟังไม่ได้บ้าง ฯลฯ นี่แหละพลังงานเก่าในระดับ "บ้านหนึ่งหลัง" พอปลดปล่อยตัวเองออกจากโครงข่ายพลังงานนี้ได้แล้ว ก็ยังไม่หมดนะ ยังมีพลังงานเก่าที่ซ้อนทับสูงขึ้นไป ดักรอกเราอีกหลายชั้น เช่น พลังงานระดับพรหมที่ลงมาประจำอยู่ภาคพื้นโลก คนบางคนไม่ยึดบ้าน, ไม่ยึดติดครอบครัวตัวเองแล้ว แต่เขาก็ยังถูกโครงข่ายพลังงานจากพรหมโลกที่ประสานลงมาห่อหุ้มโลกนี้ไว้ ดักรออีกทอด เลยกลายเป็น "ฤษีชีพรหมณ์" ไป ไม่ใช่ไม่ดีนะ เพียงแต่ "ยังไม่ถึงดวงดาวของเรา" ก็เท่านั้น ทำให้ พวกเขาไม่รู้จักเรา และไม่สามารถสัมผัสเราได้ ถ้าเด็กๆ อยากสัมผัสเรา รู้จักกับเรา ก็ต้องปลดปล่อยตัวเองออกจากโครงข่ายพลังงานที่ซับซ้อนไม่รู้กี่ชั้นต่อกี่ชั้นนี้ หลุดออกมากจากโลกที่มีชั้นของพลังงานมากมายดักรออยู่ อย่าไปติดกับพลังงานชั้นต่างๆ เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นชั้นที่สวยสดงดงาม ที่เขาเรียกว่าดุสิตก็ดี, ปรนิมมิตวสวัสตี ก็ดี อันนั้นเป็นโครงข่ายพลังงานเก่า ของเดิม เขาทำไว้ให้โลกสมดุล แต่ถ้ามัวติดกับสิ่งเหล่านั้น เราจะไม่ได้เจอกันแน่ เพราะ "ไปไม่ถึงดวงดาว" นะ สิบอกให้ เอาไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว จะปลดปล่อยตัวเอง ก็ให้มัน "สุดๆ" ให้มันหลุดให้หมดทุกชั้นของพลังงานเก่า ไม่ติด ไม่ค้าง ไม่เกี่ยว ไม่ข้อง ไม่ข้อง ไม่คา ไม่อาศัยในพลังงานเก่าใดๆ หลุดพ้นออกมาได้ทั้งหมดแล้ว ถึงจะได้สัมผัสกับเราแบบใสๆ และรับพลังงานใหม่จากเราได้อย่างใสๆ ห่อหุ้มไว้เป็นเปลือกนอก เหมือนน้ำบริสุทธิ์ต้องมีภาชนะใส่หน่อย ไม่เช่นนั้น มันก็ไม่อาจคงความเป็นน้ำบริสุทธิ์อยู่ต่อไปได้ ใช่ไหม?
     
  5. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    การปลดปล่อยนี้ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรมากมายเลย ก็แค่ "รู้เท่าทันพลังงานเก่า" แล้ว "หลุดโพล่งออกมา" นั่นแหละ ปลดปล่อยแล้ว แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดนัก เพราะพลังงานเก่าพวกนี้ มีมากมาย ซับซ้อน หลายชั้น พอเราหลุดออกมาจากชั้นที่หนึ่ง ก็จะมีพลังงานเก่าชั้นอื่นๆ เข้ามาครอบงำเราอีกเป็นระลอกๆ ไป ทำให้เราไปไม่ถึงดวงดาวเสียที บางคนพอหลุดออกมาจากชั้นแรกได้แล้ว เขาก็ประมาท นึกว่าเขาหลุดแล้ว สำเร็จแล้ว แต่ที่ไหนได้ เขาถูกพลังงานเก่าในระดับชั้นที่สูงขึ้นไป ประสานต่ออีก เขาก็เลยถูกขับดันให้เป็นไป, กระทำ ในแบบของพลังงานเก่าทั้งหลาย เช่น "ตั้งตัวเป็นครูสอนธรรม" ก็ไม่ผิดอะไรนะ เด็กๆ ก็ดีใจ ได้ครูเพิ่มอีกคนแล้ว แต่ถ้าเด็กๆ ฉลาด เรื่องอะไรเราจะให้ความเป็นครูมากดข่มเราไว้เพียงเท่านี้ ใช่ไหม เราต้อง "ไปให้ถึงดวงดาว" สิน่ะ ไปให้มันถึงสุดๆ เห็นให้หมดทุกอย่างก่อน แล้วค่อยมาว่ากันว่าเราจะลงไปกระทำกิจในรายละเอียดเล็กๆ ส่วนใด ตอนคิดตอนเห็นนั้น ต้องเห็นภาพรวมทั้งหมดให้ได้ก่อน แต่ตอนลงมือทำ ก็เริ่มจาก "จุดเล็กๆ" ก็แค่นั้น ที่เขาเรียกว่า Think global, act local ไง ถึงบอกให้เด็กๆ ไปให้ถึงดวงดาวก่อน อย่าเพิ่งปล่อยให้ตัวเองถูกพลังงานเก่าที่ดักรอเป็นชั้นๆ ทำให้ไปไม่ถึงจุดมุ่งหมาย เมื่อไปถึงจุดมุ่งหมาย เห็นทั้งหมดแล้ว ค่อย "รับกิจจากจักรวาล" เอา "เสื้อเกราะ" ไปใส่ จะได้ทำกิจเพาะของใครของมัน ตามชอบ ตามถนัดต่อไป เรื่องของ "โครงข่ายพลังงานเก่าที่ทับซ้อนเป็นชั้นๆ" นี้ มันยากเกินไปที่จะอธิบายให้เด็กๆ เข้าใจ สรุปง่ายๆ ว่า "ปลดปล่อย" อย่างเดียว ปลดปล่อยจนถึงที่สุด จนถึง "ดวงดาว" แล้ว นั่นแหละ ถึงรู้ว่าออกจากโครงข่ายพลังงานเก่าได้แล้ว ถ้ายังไม่ถึงระดับนั้น ก็จะถูกครอบงำเป็นชั้นๆ ถูกดักรอเป็นชั้นๆ ไป ก็แค่นั้นเอง
     
  6. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ยังมีอีกอย่างหนึ่งคือ "คลื่นกระแสพลังงานเก่า" ซึ่งปัจจุบันไหลบ่าเทมาอย่างไม่มีจำกัดเลย มันคืออะไรหรือ? มันก็คือ "คลื่นพลังงานเก่าจากที่ใดที่หนึ่งบนโลกใบนี้" แล้วก็โยกย้ายถ่ายเทกันไปสู่จุดอื่นๆ ของโลกใบนี้ คลื่นพลังงานเก่านี้ จึงกระทบตัวเรา ทำให้เราได้รับมันโดยที่เราอยู่กับที่นี่แหละ เช่น เราอยู่ที่ประเทศไทย เราจะได้รับคลื่นกระแสพลังงานเก่าที่มาจากประเทศอเมริกาก็ได้ ดังนั้น เราจึงมีความคิด, พฤติกรรม ที่แปลกออกไปจากพ่อแม่ของเรา จากคนรุ่นก่อนๆ ทำให้เราหลงคิดว่า "นี่คือพลังงานใหม่" เราได้รับพลังงานใหม่แล้ว เราเปิดตัวเองสู่ยุคใหม่แล้ว จริงๆ แล้ว "ไม่ใช่เลย" เราแค่ได้รับพลังงานชนิดใหม่ จากคลื่นพลังงานเก่าเท่านั้น" มันใหม่สำหรับเราแต่ไม่ได้ใหม่สำหรับโลกใบนี้หรอก ดังนั้น เราอย่าไปหลงมัน อย่าไปจมปลักอยู่กับมัน เราสามารถได้รับพลังงานใหม่ที่ส่งตรงลงมาจากจักรวาลโดยตรงซึ่งดีกว่ามากมายนัก กระแสพลังงานเก่าเหล่านี้ เป็นของเก่าล้าหลัง จักรวาลเขาไม่ใช้กันแล้ว มีแต่โลกนี้แหละที่ยังใช้พลังงานเก่าพวกนี้อยู่ ตกยุคไหมละ? นั่นแหละ ยกระดับตัวเองให้หลุดพ้นจากพลังงานเก่าพวกนี้ซะ แล้วกลายเป็น "เด็กยุคพลังงานใหม่" กันได้แล้ว ซึ่งมันจะไม่ติดอยู่กับกระแสใดๆ ในโลกนี้เลย เพราะกระแสพลังงานทั้งหลายบนโลกนี้ ล้วนเป็นกระแสพลังงานเก่าทั้งสิ้น ไม่ใช่พลังงานใหม่ที่ส่งตรงลงมาจากจักรวาลเลย ต่อให้เราได้รับและมีความสามารถพิเศษเพราะพลังงานเก่าเหล่านี้ แต่มันก็ไม่ทำให้เราเลื่อนระดับสูงขึ้นไปได้อย่างแท้จริง เราก็แค่ "เดินตามหลังประเทศอื่น" ที่เขาได้เดินนำหน้าก่อนเราไปแล้ว ก็เท่านั้นเอง ดังนั้น จึงอย่าปล่อยให้ตัวเองถูกกระแสพลังงานเก่าจากส่วนใดของโลกครอบงำ ยกระดับตัวเองสู่ระดับจักรวาลเสีย ก็จะได้รับพลังงานใหม่ที่ส่งตรงจากจักรวาลอย่างแท้จริง
     
  7. rossalen

    rossalen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +323
    พูดได้คำเดียวว่า สุดยอดเลยค่ะ แต่ว่าก็ยังคงยากอยู่สำหรับการเริ่มต้น ยังไงก็จะค่อยๆพยายามฝึกวิธีการปลดปล่อยพลังงานเก่าออกไปให้จงได้ จะสำเร็จป่าวนะ เฮ้อๆๆๆๆๆ
     
  8. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    แล้วก็ยังมีอีกแหล่งหนึ่ง คือ "จากตัวบุคคล" ที่มีพลังงานเก่าอยู่ เขาจะสืบทอดหรือถ่ายทอดต่อให้แก่เรา ทำให้เราต้อง "แบกรับภาระของคนยุคเก่า" สืบต่อๆ กันไป หนักเสียเปล่าๆ โดยที่เราไม่รู้เลยว่าคนยุคเก่าๆ คิดถุกจริงแล้วหรือ? แต่เราก็ไปรับของเขามาเสียแล้ว แบบนี้ "ล้าสมัย" ดังนั้น การรับพลังงานจากบุคคลสู่บุคคล ก็ไม่ได้ทำให้เราได้ "พลังงานใหม่" อันแท้จริง เพราะพลังงานใหม่นั้น จะส่งตรงจากจักรวาลมาถึงตัวคนทุกคนได้โดยตรงเมื่อได้ผ่านการปลดปล่อยและชำระล้างเรียบร้อยแล้ว แม้ยังไม่ผ่านกระบวนการนี้ ก็ยังคงมีพลังงานใหม่เข้ามาปรับจูนเพื่อทำให้เกิดความคุ้นเคย เป็นที่รู้จักกันก่อน แต่ถ้าภายในของเรายังไม่ได้ถูกชำระล้าง ยังไม่ใสอย่างแท้จริง การได้รับพลังงานใหม่จากจักรวาล ก็ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ นี่จึงบอกว่า "กระบวนการปลดปล่อยและการชำระล้าง" เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญมาก เพราะต่อให้ได้พลังงานใหม่จากจักรวาลไปมากเท่าไร แต่ถ้าภายในยังไม่ได้รับการชำระล้างให้ใส อย่างแท้จริงแล้วละก็ ก็ยังไม่ได้เป็น "อัศวินแห่งจักรวาล" อย่างแท้จริงอยู่ดี จะเป็นได้เพียง "ผู้ทำการณ์แทน" หรือ "ตัวแทน" เท่านั้นเอง ดังนั้น เราจึงบอกอยู่เสมอว่าอย่าไปยึดตัวบุคคลมาก จงเปิดรับปรับจูนเข้ากับ "ธรรมชาติต้นกำเนิดโดยตรง" เลย จะดีที่สุด เพราะใครจะบอกได้ว่าบุคคลใดเป็นตัวจริงของจักรวาลได้ มันยากที่จะพิสูจน์ใช่ไหมละ ดังนั้น การได้รับพลังงานจากบุคคลใด การได้รับการถ่ายทอดผ่านบุคคลใด ก็ยังไม่ใช่ "ที่สุด" นะ แต่เป็นเพียงกระบวนการขัดเกลาอย่างหนึ่ง ให้เราลดกำแพงกั้นภายในจิตใจของเราเองไปเท่านั้น ขั้นตอนต่อไป ยังต้อง "ไปให้ถึงดวงดาว" ด้วยตนเอง แล้วรับพลังงานใหม่จากจักรวาลโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านจากบุคคลใดๆ ในโลกใบนี้ (ซึ่งอาจเป็นตัวแทนของพลังงานเก่า)
     
  9. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    จบการสื่อสารจากดาวเทพพระเกตุ (เหนื่อยจัง ไม่รู้อะไร ยุ่งๆ ไปหมด) ๑๘ มิ.ย. ๒๐๑๑ รับสื่อสารโดย "อพอลโล่"
     
  10. โบ๊ต

    โบ๊ต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +847
    ชาบูๆๆๆๆๆ
     
  11. DMZ_ZONE

    DMZ_ZONE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    260
    ค่าพลัง:
    +649
    ปล่อยวางครับอย่ายึดติด
     
  12. Peak_14

    Peak_14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +465
    อู้หูสื่อสารอะไรตั้งเยอะ แต่ก็น่าอ่าน น่าติดตาม เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่จะทำความเข้าใจได้ดี

    แต่ผมวาสำหรับชาวพุทธ ถ้าจะให้ละให้ปล่อยวางละก็ ละสังคโยชทั้ง 10 ข้อก็เหลือกินแล้วครับ แต่ทุกวันนี้สื่อต่างๆยัง สร้างความเข้าใจเรื่องนี้น้อยมาก อยู่ว่ามั๊ย ถ้าใครศึกษามาแล้ว มาดูข้อความจากต่างโลก ต่างมิติที่กำลังเผยแพร่อยู่ทุกวันนี้แล้วจะร้องอ๋อเลยละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มิถุนายน 2011
  13. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    เอางี้แล้วกัน...ยุคใหม่ ก็คือ

    เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยความสุข.....อนิจัง สุขขัง อนัตตา......เริ่มเลย

    เน๊อะ...
     
  14. nishikido07

    nishikido07 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +13
    Next Level! Next Level!Next Level!:cool:
     
  15. CupidBoyz

    CupidBoyz สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +4
    ถ้าจะคิดเองจริงๆ แบบที่ไม่อิงใคร

    ส่วนตัวคิดว่าจริงนะครับที่พูดมา วิเคราะห์จากข้อมูลนะ

    มานั่งคิดดูจริงๆมันก็ถูกอ่ะ สุดยอดเลย ทำให้คิดอะไรได้เยอะ

    อย่างน้อยก็ช่วยทำให้คิดอะไรสร้างสรรค์ หลุดออกจากกรอบเดิมๆ

    เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเองจริงๆ จากข้างในอะ
     
  16. hi5

    hi5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +701
    นี่เรา เลื่อนระดับพลังงานแล้วหรือนี่
     
  17. wacaholic

    wacaholic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +214
    "ให้โลกเราสวย พวกเรามาช่วยกัน"
     
  18. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    เมื่อเข้าถึงพุทธะ ก็เข้าถึงสภาวะอนัตตา คือ สภาวะหนึ่งเดียวกับจักรวาลอยู่แล้ว และท่านก็ทำกิจหนึ่งของจักรวาลอยู่แล้ว เพียงแต่ภายหลัง มี "พลังงานเก่า" ของโลกใบนี้ ค่อยๆ เข้ามากลืน และก่อตัว ให้เป็น "ศาสนา" ของคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดไปเสีย จึงห่างออกจากคำว่า "สากลจักรวาล" หรือ "สัจธรรมสากล" ไป กลายเป็นเพียง "องค์กร" หรือกลุ่มคนที่มีความเชื่อร่วมกันอย่างหนึ่งอย่างใด เท่านั้น (ที่เรียกว่าศาสนา) นั่นเอง สิ่งนี้ถูกห่อหุ้มจากพลังงานเก่าภายหลังครับ แต่ดั้งแต่เดิมแล้ว เป็นระดับเดียวกับจักรวาลครับ
     
  19. Crystal DNA

    Crystal DNA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +530
    ศาสนาแห่งความรัก และความเมตตา กำลังจะมาถึงแล้ว
    ยุคใหม่กำลัวจะเริ่มขึ้น
     
  20. yodaji

    yodaji Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +65
    สาธุ สร้างความกระจ่างได้มากขอรับ
    ผมยังคงยึดถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะสูงสุดในชีวิต และสำนึกในพระคุณของพระรัตนตรัยเสมอที่ช่วยชี้ทางสว่างให้กับชีวิต และจะยังปฏิบัติตามพระธรรมของพระพุทธองค์ เพื่อถวายเป็นเครื่องสักการะบูชาพระรัตนตรัย และให้เข้าถึงซึ่งสภาวะของจิตพุทธะแห่งองค์ต้นธาตุต้นธรรม ต่อไป ย่อมไม่ผิดทางใช่ไหมขอรับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...