แนะนำพระดี (ภาค 2) กับวัตถุมงคลที่ตั้งใจสร้างเพื่อใช้บูชาอย่างแท้จริง

สอบถามครับ ถ้าเป็นผู้ชนะการประมูล โอนเงินได้ถึงวันไหนครับ

 

ประมูลแยกแต่ละองค์ ชำระเงินภายในวันที่ 30/6/2554 ครับ

 

การสักเป๊ก

อย่าสงสัยว่าเป๊ก ในที่นี้คือหน่วยตวงเหล้ายาดองชูกำลัง แต่หมายถึงการสักว่านยา (สักยา)ในเชียงตุง ในประเทศไทยต้องสักเป็นรูปต่างๆแล้วเรียกสูตรกำกับให้เกิดพลัง แต่ในพม่า มอญ ไทใหญ่ จะเป็นการใช้ว่านยาที่ทำสำเร็จแล้วมาฝนเป็นน้ำและสักเข้าในตัวเป็นรูปอะไรที่ตัวเองต้องการ เพราะว่านยานั้นถือว่าศักดิ์สิทธิ์แล้ว มีอำนาจอยู่คงแล้ว ไม่ต้องเสกคาถาอะไรอีกแล้ว ภาษาพื้นเมืองเรียกการสักยาแบบนี้ว่า การสักเป๊ก แต่....

ว่านยานั้นเป็นเหมือนแท่งหิน แข็งมากขนาดปาหัวแตก เวลาจะใช้จะเอามาฝนกับหินให้ละลายน้ำ แล้วเอามาสักด้วยเข็มตามร่างกาย เคยถามว่าเป็นหินหรือว่าน คนพื้นเมืองบอกว่าเป็นหินเสกโดยฤาษี แต่ดมดูแล้วน่าจะเป็นว่านที่อัดแน่นจนแข็งคล้ายหิน เขามีข้อกำหนดกันหลายอย่าง เช่นหินสีแดงจะคงกะพันแค่ดาบเหล็ก(น่าจะแค่การฟัน) หินสีเขียวจะคงกะพันแค่หอกทองแดง(น่าจะถึงการแทง) หินสีดำจะคงกะพันถึงกริชโลหะผสมซึ่งถือว่าคงกะพันมากกว่าสองชนิดแรก ที่แพงมากที่สุดและอยู่คงที่สุดคือหินสีทอง คือคงอยู่ปืน

 

ยากุมภัณฑ์

นี่ก็ของดีจากชาวเชียงตุง ชาวไทใหญ่ ที่เขาเก็บซ่อนไม่บอกให้คนนอกรับรู้กันเลย จะใช้คู่กับยา"ปัถมังสนธิ" เป็นของคู่สำนักของแต่ละแห่ง ถือเป็นยาครู ยาปัถมังสนธิ เป็นของสำหรับคุมให้อำนาจคงอยู่เช่นเดิม แม้จะหายไปแล้วก็สามารถเรียกกลับมาได้มากกว่าครึ่ง ยา"กุมภัณฑ์" เป็นผงยาสำหรับแก้อาถรรพ์ ล้างจัญไร ปลดเสนียด จะใช้กินหรืออาบเมื่อเรารู้สึกตัวว่า ไม่ปกติหรือไปจับต้องของไม่ปกติ เช่นคนเล่นผี คนเลี้ยงโหงพราย บ้านสมิงพราย ตำหนักฤาษี ในบ้านของพวกเขาจะมีของพวกนี้คอยลองวิชาหรืออำนาจที่คุ้มตัวเราอยู่ ของบางอย่าง สถานที่บางแห่งอำนาจคุณพระจะไม่คุ้มตัวได้ชั่วคราว จังหวะนี้เองที่เราอาจพลาดโดยไม่ตั้งใจ ยาตัวนี้ผมไม่ได้ใส่ในพระเครื่องที่สร้างครั้งนี้ เพราะต้องใช้เฉพาะวิธี

ยากุมภัณฑ์นี้แหละที่ใช้แก้ มันเป็นของที่คู่กันมาแต่อดีตโบราณในตำราไสยศาสตร์ เพียงแต่คนอยู่นอกสายความรู้ในเส้นทางนี้ ยากที่จะพบเจอและมีคนเอามาให้ชม ในเมืองไทยถามร้อยคนก็อาจมีคนรู้จักเพียงคนเดียว ที่อ้างว่ารู้ๆกันดีนั้นเป็นอาจารย์สำนักต่างๆมากมาย หารู้ไม่ว่ายังมีอีกมากที่ไต่ระดับไปไม่ถึง ที่เล่าๆมานี้เพียงแค่พื้นฐานวิชาไสยเวทย์ที่เน้นไปทางอำนาจจากธรรมชาติ ไม่ใช่อำนาจจากพุทธคุณ แนวไสยเวทย์มีหลากหลาย หากรู้ไว้ไม่เสียหาย บางอย่างอาจมีประโยชน์ต่อเราในวันหน้า นึกอะไรได้ก็จะเขียนเล่าให้ฟังแบบง่ายๆ

 

..
ผมว่าอยู่แถวๆ สุโขทัยครับ

 

ตะกั่วขอมพันปี

มีหลายท่านถามมามากว่า อะไรที่ใส่ลงในปลัดขิกอีกอย่างหนึ่ง เมื่อเขียนลงไปแล้วก็คงปิดไม่ได้ ก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า สิ่งนั้นก็คือ "ตะกั่วขอมพันปี" คนสะสมเก่าคงรู้จักกันดีว่าคืออะไร มันเป็นตะกั่วที่หล่อนูนเป็นรูปหลังเต่าและฝังไว้ใต้ฐานเจดีย์ขอมสมัยพระเจ้าชัยวรมัน บางชิ้นมีอายุถึงยุคบายน บางชิ้นหนักถึง 10 kg. บางชิ้นจะเป็นลูกเล็กๆขนาดกำปั้น แต่ละแห่งมีหลายลูกและหลายขนาด

ตะกั่วพวกนี้มีอำนาจแฝงมากทางล้างอาถรรพ์ แก้จัญไร มีพลังอำนาจในตัวเอง มีอักษรโบราณที่หลังตะกั่วเหล่านี้ลางๆ ในเขมรมีทุกแห่งที่ทำการขุดค้นซากเจดีย์เก่า ลองสอบถามนักโบราณคดีดูได้ หรือถามคนเล่นของเก่าดูก็ได้ มีราคาแพงถึงลูกละนับหมื่นบาท เพราะมีการเอาไปปั๊มทำพระเนื้อตะกั่วเก่า โดยไม่ต้องล้างสนิม เคยไปบุกดินแดนเขมรต่ำและหาซื้อมาแบ่งกับเพื่อน คนละครึ่งลูกขนาดเท่ากำปั้นแต่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีเพราะมีไม่มากนัก จึงได้โอกาสจะเอามาผสมทำสุดยอดปลัดพิสดารในครั้งนี้ครับ ปลัดที่ทำจะตอกโค๊ตทุกตัว รับรองว่าเรื่องเหนือเหตุธรรมดามีให้เจอแน่นอน

 

พี่หนุ่มครับ รบกวนขอความรู้เรื่องขี้เหล็กไหลด้วยครับ
แล้วเหตุใดจึงเป็นโลหะ ที่มีสกุลสูงกว่าโลหะทั่วไป
เมื่อใส่ไปในวัตถุมงคลแล้ว จะก่อให้เกิดสิ่งใดแก่ผู้บูชา
ขอบคุณครับ....

 

ทำไมวิชาทางเสน่ห์เมตตา จึงมีอยู่มากทางภาคเหนือ ?

วิชาไสยศาสตร์โบราณจริงๆเริ่มจากชนชาติมอญ ที่เชี่ยวชาญมากกว่าใคร แต่มักเน้นไปในทางว่านยาและฤกษ์ผานาที ในทางโหราศาสตร์เป็นส่วนใหญ่ ในวิชาแนวของมหาเสน่ห์จะมีในภาคเหนือของไทยมากที่สุด รวมไปถึงเมืองเชียงตุงที่เคยเป็นของไทย และสิบสองปันนา เพราะว่าสมัยก่อนนั้น แต่ละอำเภอคือเมืองๆหนึ่งที่เจ้าเมืองมีชายานับร้อยนับพัน ปล่อยให้แต่ละนางนอนว้าเหว่ อดอยากปากแห้ง แต่ละนางล้วนต้องการเป็นสนมเอกเป็นคนโปรดทั้งสิ้น ต่างเสาะหาอาจารย์เก่ง คนมีวิชาดีมาเพื่อทำเสน่ห์สร้างเมตตาให้เจ้าเมืองไหลหลง

ทางเหนือของเราเลยเป็นที่รวมสรรพวิชาเสน่ห์แทบจะทุกสายวิชา และถ่ายทอดลงมาจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงยุคปัจจุบันนี้ ลองไล่เรียงดูแล้วมากมายหลายแนว แต่เมื่อสืบสวนย้อนทางขึ้นไปเรื่อยๆก็พบว่ามีต้นตอมาจากพม่ารามัญ ของไทยเราแท้ๆจะเป็นแนวสายวิชาวัดประดู่โรงธรรม พวกวิชาคงกะพัน รบทัพจับศึก และเพิ่งมาจดบันทึกจริงจังในสมัยอยุธยา ดังนั้นแนวทางสายบู๊ที่เชื่อถือได้มาแต่โบราณ จะอยู่ในภาคกลางเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะสายอยุธยาและชัยนาท ที่ทุกวันนี้ยังปรากฎให้เห็นในประสบการณ์บ่อยๆในทางคงกะพัน

 

จริงๆคือรังเหล็กไหลหรือส่วนที่ยังไม่บริสุทธิ์ของเหล็กไหลหรือเกราะชั้นนอกของเหล็กไหล เมื่อไปตัดเหล็กไหลจะเห็นขี้เหล็กไหลแบบนี้ที่ผนังถ้ำก่อน เมื่อเอาน้ำผึ้งวางล่อจะมีก้อนสีดำมันวาวยิ่นออกมาจากขี้เหล็กไหลกลุ่มนี้ มีความแข็งกว่าหินธรรมดา หายากกว่าเหล็กก่อสร้าง ได้รับพลังของเหล็กไหลมานาน แม้ไม่ใช่เหล็กไหลแท้จริง ก็มีสรรพคุณมากกว่าก้อนหินทั่วๆไป เมื่อใส่ลงในการสร้างวัตถุมงคลต้องบอกฝากแม่พระธรณีก่อนการหลอม และต้องใช้ยา ปัถมังสนธิ คุมอำนาจวิเศษไว้ นี่คือประโยชน์ของยาฤาษีจากไทใหญ่ อำนาจจริงๆของเหล็กไหลที่เป็น "อรูปพรหม" มีแบบใหน รังเหล็กไหลที่อยู่ด้วยก็คือธาตุสำเร็จแล้วเช่นกัน ถ่ายทอดพลังมาได้เกือบครึ่งแหละครับ นอกจากอำนาจพวกเทพเนรมิตร หากเป็นพลังทั่วๆไปมีแน่นอนครับ

 

จากการที่เคยใช้ชีวิตแบบผิดทางและใช้เงินแบบเสียเปล่าไปไม่น้อย เสียสิ่งดีๆที่ควรจะมี ควรจะได้ไปมากมายจนนับไม่ถ้วน เมื่อลองทบทวนตัวเองในเวลาที่ผ่านมา
ปี 2527 - 2531 อ่านทุกอย่างที่เกี่ยวกับพระเครื่อง หนังสือกองเต็มบ้าน
ปี 2531 - 2536 บ้าสะสมพระ ไล่กราบพระดังๆ ใครว่าดีฉันไปด้วย
ปี2539 - 2540 บ้าลองของขลัง หาของดี แบบที่พิสูจน์ได้จริง
ปี 2541-2543 บ้าเหล็กไหลและ ของพิสดารเหนือโลก จนแทบสิ้นชีวิต
ปี 2544 - 2545 บ้าเสาะหาของวิเศษต่างๆ ที่มีในตำราโบราณทั้งหลาย

หลายปีที่ผ่านเลยไปนั้น ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตสมหวังได้เลย มีเพียงความหวังที่บอกตัวเองทุกวันและความฝันเท่านั้นที่อยู่ด้วยทุกคืน แต่ความเป็นจริงที่ต้องการหนีหายไปเรื่อยๆ วันแล้ว วันเล่าแบบเงียบหายไปเลย พระเครื่องที่เก็บไว้เป็นกระบุงนั้น ก็ไม่ถูกใจสักทีต้องหามาเพิ่มอีก เพราะเราไม่รู้จักการบูชาพระ ไม่รู้จักตัวเอง ไม่มีจุดยืนที่แน่ชัดในศรัทธาจากจิตใต้สำนึก อะไรที่น่าจะดีกลับไม่สมใจอย่างที่ต้องการ จนกลายเป็นคนใจเรรวน หยิบพระองค์โน้นองค์นี้เปลี่ยนแทบทุกวัน โดยไม่เคยเหลียวมองตัวเองว่าดีพอที่พระท่านจะเกื้อหนุนหรือไม่

บางครั้งลองไล่อ่านๆดูในหลายกระทู้ที่ลงขายพระกันครึกโครมทั้งในเวปนี้และเวปอื่นๆ ก็ได้แต่คิดอยู่ในใจว่า เสียดายเงินที่บางคนเที่ยวไล่เช่าทุกอย่างที่เขาโฆษณา บางชื่อจะเป็นชื่อเดิมๆแต่เช่าดะแบบเช่าทุกอย่างที่ขวางหน้า แม้จะเป็นเงินของท่านแต่ผมก็รู้สึกเสียดายแทน มันหามายากนักสำหรับคนทำงานสุจริต หากยังศรัทธาและหวังพึ่งพิงในวัตถุมงคล ขอให้ดูทุกอย่างก่อนจะต้องเสียเงิน เอาแบบที่ตรงกับใจและความต้องการเรามากที่สุด หากแบบนี้ยังไม่ใช่ ก็รออีกหน่อยเดี๋ยวเขาก็ทำแบบที่ใช่มาขายเราอีกแน่นอน ดูให้ดีในวิธีสร้าง มองให้เห็นในสรรพประโยชน์จริงๆ

 

ก่อนหน้า 3 วันที่คุณหนุ่มจะเขียนเรื่องผงของท่านอาจารย์คง ผมฝันเห็นพระสงฆ์อาวุโสท่านหนึ่ง
ท่านนั่งหลับตาภาวนาอยู่ มองไปที่อาสนะหรือฐานที่รองนั่ง บอกชื่อไว้ว่า อาจารย์คง จ.อยุธยา
แต่อ่านจากประวัติของท่านที่เคยลงไว้ในหลายๆที่ระบุว่า ท่านอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี อย่างไรก็ตาม
ความฝันก็คือความฝัน แต่แปลกตรงที่มีมงคลวัตถุของท่านมาร่วมสร้างพระในครั้งนี้ด้วยจริงๆ

 

ข้อความนี้แจ่มมากเลยครับ เป็นประสบการณ์จริง ชอบๆๆ

 

แปลกดีครับที่ฝันได้ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถือเป็นิมิตรหมายที่ดี ผงของอาจารย์คงที่ได้รับมาแล้ว มีสีขาวนวลๆ กลิ่นหอมอ่อน มีสักค่อนกระป๋องนมข้นตราหมี ผมจะผสมใส่พระขุนแผนทั้งหมดครับ

 

อ่านแล้วทำให้รู้ช่วงชีวิตหนึ่ง ทำให้มีสติเลยครับ

 

ผงนี้ อ.คง ท่านได้ไปเข้าทรง ลูกศิษย์คนนึงสายเขาอ้อ
บอกว่าท่านได้สร้างผงฝังไว้ จะให้นำออกมาใช้ เมื่อประเทศถึงกาลวิบัติ
เมื่อไปดูแล้วกลับว่ามีจริงๆ สุดท้ายได้นำผงนี้ไปสร้างพระในสายเขาอ้อ
โดย อ.ชุม ไชยคีรี พอสังเขปครับ เท่าที่พอทราบ...

 

เมื่อคืนฝัน เกี่ยวกับ น้ำลูกใหญ่ ที่มาแบบไวและไม่ทันตั้งตัว อย่างไรก็ฝากเพื่อนๆสมาชิก ระวังๆกันด้วยนะคะ

 

ผงนี้เป็นผงเดียวกันกับที่สร้างขุนแผนเสด็จกลับครับ ที่ด้านหลังเป็นยันต์นะเข้าหา

อาจารย์คงเข้าทรง อาจารย์ชุมได้บอกวิธีไว้ มีคาถาที่ท่านให้ไว้คือ

"นะร้องให้ๆ นะมาเข้าหา นะจิตตัง มานิมามา จิตังมานิมามา" 3 จบ ทุกครั้ง​

พวกกันกับผมก็ได้ผงนี้มาส่วนนึง นำไปสร้างขุนแผนให้วัดศรีจันต์เมื่อปีก่อน

<iframe width="425" height="349" src="http://www.youtube.com/embed/54OT0QikXVs" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

‬‏

 

สวัสดียามเย็นครับ ญาติธรรมทุกๆท่าน

 

คาถานี้ใช้กับขุนแผนวัดศรีจันต์ได้ไหมครับน้าเช

 

คิดว่าใช้ได้นะครับ เพราะก็ผงเดียวกัน