ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

สวัสดีอาจารย์จงอาง คุณเอมี่...ค่ะ

ออกจากวัดดีหลวง ก็มุ่งหน้าไปบ้านนาเปลค่ะ....ไปดูสถานที่นำหลวงพ่อทวด(ขณะนั้นคือเด็กชายปูนำไปผูกเปลที่ต้นเหม้า

(ในหนังสือเขียนไว้ ค่อนข้างเป็นคำภาษาใต้) ลองอ่านดูนะคะ....

เมื่อแม่จันทร์ได้กับพ่อหู ตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่ในที่ดินของเศรษฐีปาลนั้น ตามประวัติว่าหลายปี อายุ 31 ปี ล่วงแล้วเมื่อแม่จันทร์มีครรภ์ขึ้น นายหูและแม่จันทร์ จิตใจคงมีความปิติมาก แม่จันทร์มีครรภ์ครบกำหนดก็คลอดลูกออกมาเป็นชาย นายหูและแม่จันทร์เห็นว่าได้ลูกชาย ก็มีความปลื้มใจมาก เพราะบุคคลที่มีลูกชายแล้ว ต้องเป็นดังกล่าวทุกคน นายหูและแม่จันทร์ต้องรักลูกมากทีเดียว
ตามประวัติวว่านายหูและแม่จันทร์นี้ ตกอยู่ในข่ายขัดสนจนค่นแค้นสักหน่อย แต่ได้พึ่งพาอาศัยยืมข้าวปลาอาหารเงินทองนายปาลคนรวย คราวสมั้ยนั้นใครๆ ก็ต้องเรียกกว่าเศรษฐี เขาเรียกว่าเศรีษฐีปาล ไม่เฉพาะแต่นายหู นางจันทร์ การยืมข้าวปลาอาหาร หรือเงินาองของเศรษฐีปาลนั้น คนอื่นก็มีมากคนด้วยกัน ปรากฏว่าเมื่อแม่จันทร์ได้คลอดลูกแล้ว ออกจากไฟราว 7 วันล่วงไป
นายปาลก็เตือนด้วยตนเองบ้าง เมียแกเตือนบ้างคนใช้มาเตือนบ้างว่า ให้ไปเก็บเกี่ยวข้าวค่าดอกเบี้ยค่าหนี้
แม่จันทร์อดทนไม่ได้ แม้จะขอผัดวันรอต่อไปพอสบายหายเพลีย โธ่เอย นายปาลก็ไม่ยอมให้ผ่อนผัน

 

แม่จันทร์อุ้มลูกชายถึงนาเศรษฐีปาลแล้ว เพื่อนเขาทั้งหลายไม่รึงรังกับลูก เขาก็เตรียมตัวลงเกี่ยวเก็บเลย ส่วนแม่จันทร์ก็พาลูกไปที่ต้นเหม้า จัดปูผ้าห่มตั้งลูกให้นอนลงที่พื้นคันนา เอาผ้าผืนที่ตั้งใจเอาผูกเปลนั้น ก็เอาผุกเข้ากับกิ่งเหม้า ทิศอิสานเมื่อทำเปลผูกแล้ว แม่จันทร์ก็ยกลูกชายตั้งให้นอนในเปลแล้วก็เวไปเวมา(ไกวเปล)
ปลอบลูกเพื่อให้หลับ ก็พอลูกนอนในเปลเงียบสงบแล้ว ก็เตรียมตัวลงเกี่ยวข้าว แม่จันทร์ก็เกี่ยวข้าวไปเรื่อยๆ

ตามประวัติเพลาเดิมว่า เวลาตอนบ่าย คิดตามนาฬิกาประมาณ 15.00 น. บ่าย3โมงเย็นล่วงแล้ว แม่จันทร์ก็ขึ้นไปหวังว่าให้ลูกดื่มนม พอเข้าไปใกล้เปลเห็นเวไปเวมา อ้ายเจ้าหูบองหลา(งูจงอาง) ขดพันเปลโดยรอบอยู่ แม่จันทร์เห็นงูพันลูกอยู่ ก็ตระหนกตกประหม่หวีดวายร้องให้โสกา เข้าใจว่าเจ้างูบองหลามากินกัดลูกชายของตนเสียแล้ว ร้องบอกให้เพื่อนๆ ที่ร่วมเกี่ยวข้าวด้วยกันช่วยเหลือ ต่างคนต่างตกใจตัวสั่นขวัญหายกันทั้งนั้น แม่จันทร์ก็มีคิดขึ้นได้ จะหาดอกไม้ที่ไหนก็ไม่มีก็เอารวงข้าวเผาทุเป็นดอกแล้ว เอาบูชาบวงสรวงเทวดา เจ้าที่เจ้านา รุขเทวดาทั้งหลาย ให้ช่วยจัดคุ้มครองลูกไว้ และให้ปราศจากอันตรายลูกของข้าพเจ้า ขออย่าให้งูทำร้ายลูกของข้าพเจ้าเสียหาย ขอให้ช่วยขจัดงูร้ายให้พรากจากเปลไป แม่จันทร์ได้ตั้งใจประกาศอาราธนาอยู่อย่างนั้นไม่ขาด บ่นพรางร้องไปพราง
ประเดียวเจ้างูบองหลาค่อยคลาย ออกจากเปลเลื้อยลง ตรงบายหน้าสู่ทิศอิสาน ยกคอชูหวักกวักหางผัดเดียวเลื้อยพรากจากสถานที่นั้น ต่างคนต่างแลกัน(จองมองกัน)
จนสุดลูกตา แม่จันทร์เมื่องูบองหลาพรากจากเปลลูกไป แล้วก็วิ่งเข้าไปยกลูก เห็นน้ำลายงูทบ (อยู่)เปียกอยู่ที่หลุมคอลูก แม่จันทร์เอามือกวาดน้ำลายงู เห็นดวงแก้วปนอยู่ด้วยฟองน้ำลาย มีแสงเพราเพริศเฉิดฉายแวววับ แม่จันทร์ก็ยกลูกประคองตรวจดู ไม่เห็นรอยงูทำอันตรายแก่ลูกด้วยประการใด แม้แต่สักนิดก็ไม่มี แม่จันทร์ก็หายตระหนกตกประหม่า หมายความว่าคงมีความร่าเริงชื่นใจเป็นอันดี เอาผ้าห่มเช็ดน้ำลายงูแล้วก็ให้ลูกดื่มนมตามความประสงคื ตกลงว่าแม่จันทร์ก็พาลูกกลับบ้าน เอาแก้วห่อผ้าห่มไว้กำชับก็กลับถึงบ้าน ก็บอกให้นายหูสามีฟังทุกประการ ชาวบ้านอยู่ใกล้เรือนเคียงก็รู้เรื่องราวต่างคนต่างมาถาม ก็ขอชมดู

ตอนหนึ่งในหนังสือ....ตำนานประวัติ...

 

บ้านนาเปล.......ที่ผูกเปลหลวงพ่อทวด

*สถานที่จริงจะอยู่ตรงข้ามกันคือที่นาฝั่งตรงข้าม....
http://vdo.palungjit.org/video/420309/หลวงปู่ทวด-วัดช้างไห้-210

 

วัดพะโคะ
ทางวัดกำลังบูรณะวัดค่ะทั้งที่องค์พระเจดีย์ องค์พระที่ศาลาตัดสินคดี และอีกหลายจุดค่ะ...

 

อนุโมทนาบุญกับพี่นวลด้วยค่ะ ดีจังได้มีโอกาสไปไหว้พระทำบุญตั้งหลายที่...ขอบคุณที่เอาภาพสวยๆ มาฝากค่ะ

 

​

 

สวัสดียามเข้าค่ะอาจารย์จงอาง,น้องนก...

ที่วัดพะโคะต่อค่ะ....
อยู่ที่วัดพะโคะ 1 ชั่วโมง...ฝนตกไม่มาก

 

ออกจากวัดพะโคะตรงถนนใหญ่เจอสี่แยก ขับตรงไปสัก 300 เมตร
จะเจอในประวัติ...ต้นยางคู่....ที่พิงไม้เท้าหลวงพ่อทวด...

"ตอนหนึ่งในหนังสือบอกว่า
เมื่อสมเด็จเจ้าฯ ขึ้นจากเรือเดินกลับวัด ถึงที่แห่งหนึ่งท่านหยุดพักเหนื่อย ได้เอา "ไม้เท้า 3 คด" พิงไว้กับต้นยางสองต้นอันยืนต้นคู่เคียงกัน ต่อมาต้นยางสองต้นนั้นสูงใหญ่ขึ้น ลำต้นและกิ่งก้านสาขาเปลี่ยนไปจากสภาพเดิมกลับคดๆ งอๆ แบบเดียวกับรูปไม้เท้าทั้งสองต้น ประชาชนในถิ่นนั้นเรียกว่าต้นยางไม้เท้า ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งปรากฏอยู่ถึงทุกวันนี้
*ต้นยางไม่มีแล้ว...

 

ออกจากวัดพะโคะ เลี้ยวซ้ายประมาณ 3กม.ถึงวัดสีหยัง
แวะกราบหลวงปู่ทวด...และเข้าพบเจ้าอาวาส ซึ่งท่านไม่ค่อยสบายก็ยังออกมารับญาติโยม...
วัดสีหยังเมื่อเดือนมิย.ได้มีญาติโยมได้สร้างพระหลวงพ่อทวดปางหนังสือถวายให้กับวัด
ซึ่งขนาดนี้วัด...ต้องการปัจจัยอีกมากเพื่อซ่อมแซมอาคารหลังเก่าซึ่งชำรุด....

 

วัดสีหยัง...
*พระบูชาปางทรงหนังสือ
*พระที่คุณหมอฟอรด์สร้างถวายวัดสีหยัง..

 

หวัดดีวันอังคารครับผม วานนี้เกือบท่วมอีกแล้วครับที่ชัยภูมิ

 

ทริปเที่ยววัดไหว้พระ ตามรอยบาทพระดี ขอบารมีหลวงพ่อทวด ของคุณนวลดีจังครับ

 

ร่วมเดินทางไปกับพี่นวลผ่านหน้ากระทู้ด้วยคนค่ะ.....

 

ก่อนออกจากวัดสีหยัง...ได้ชมพระ 2497 ของน้องลูกศิษย์วัด
มีพระหลวงปู่ทวดรุ่นเก่า...ทั้งวัดดีหลวง ....วัดพะโคะ...วัดช้างให้....ฯลฯ
เสียดายที่ต้องรีบไปนครศรีธรรมราช...

 

มานั่งย้อนอ่านดู เห็นพระสวยๆเยอะมาก แต่ประโยคที่จะคุ้นมากเช่นกันก็คือประโยคนี้ของคุณล้างใจนี่แหละค่ะ......

สุดยอดจริงๆเลยนะคะ....

 

ถ้ามีเวลา พี่นวลจะขอจับถ่ายรูปแบบชัดๆทั้งหมดเลยใช่ไม๊คะ.....catt3

 

ถึงนครศรีธรรมราช สี่โมงกว่าๆ ฝนตกตลอดทาง..มุ่งตรงไปวัดเสมาเมือง

วัดเสมาเมือง
ซึ่งห่างจากวัดบรมธาตุนครไม่ไกลนัก...วัดเสมาเมืองเป็นวัดเก่าแก่ ซึ่งเคยเป็นปูชนียสถาน หรือนิวาสสถานของพราหมณ์มาก่อน ต่อมาเมื่อศาสนาพราหมณ์ค่อยๆหมดความนิยมเชื่อถือไปในท้องที่เหล่านั้น เทวสถานของพราหมณ์ก็รกร้างร่วยโรยลง แล้วชาวพุทธก็เข้าตั้งวัดพุทธแทนที่
ถ้านับระยะเวลาตั้งแต่ปีเริ่มตั้งวัดเสมาเมืองจนถึงปัจจุบัน ปีก็นับได้ 1237 ปี เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดเท่าที่จะพึงค้นคว้าหาหลักฐานยืนยัน วัดนี้ตั้งขึ้นก่อนอาณาจักรสุโขทัยถึง 444 ปี ก่อนตั้งอยุธยา 575 ปี ก่อนตั้งกรุงธน993 ปี ก่อนตั้งกรุงเทพมหานคร1007 ปี
ความเก่าแก่ยังสามารถทราบจากแผ่นหินศิลาจารึกที่ขุดพบได้ในวัดนี้ เป็นหลักศิลาจารึกที่ 24 นับว่าเป็นกุญแจประวัติศาสตร์ ไขให้รู้เรื่องราวเหตุการณ์ในอดีตที่เกี่ยวกับภูมิภาคของโลก

ข้อความที่อ่านและแปลโดยคนไทย ศาสตราจารย์ ร.ต.ท.แสง มนวิทูร แห่งมหาวิทยาลัยศิลปากรดังต่อไปนี้
แปลเป็นไทย
สวัสดี พระผู้เป็นใหญ่ในตามพรลิงค์ ทรงประทานความดีงามอันเลิศเสมือนพระอินทร์ ทรงพระราชสมภพเพื่อยังประชาชนที่ถูกชนชาติชั้นต่ำช้าปกครองมาแล้วให้สว่างรุ่งเรือง จริงอยู่พระองค์เป็นธรรมราชาเสมือนพระจันทร์ พระอาทิตย์ และกามเทพอย่างพร้อมบูรณ์ ทรงพระปรีชาฉลาดในราชนิติ (รัฐศาสนศาสตร์) เทียบเท่าพระเจ้าธรรมโศกทรงเป็นผู้ใหญ่ยิ่งเหนือราชวงค์ทั้งหมด
สวัสดี พระองค์เข้มแข็ง เป็นใหญ่ในตามพรลิงค์ ทรงปกครองปัทมาวงศ์จนถึงขนานพระนามว่า ภีมเสน ได้ทรงเสด็จอุบัติมาเพราะอานุภาพแห่งบุญกุศลของมนุษย์ทั้งหลาย
(เป็นบุญตัวของมนุษย์ที่ได้มีพระราชองค์นี้)
พระองค์ทรงไว้พระเกียรติ์ยศแผ่ไปทั่วโลก เพียงดังอานุภาพของพระจันทร์พระอาทิตย์ จึงพระนามาภิไธยราชฐานันดรว่า จันทรภานุ เป็นพระธรรมราชาผู้ทรงสิริ
เป็นอำนวยพรเป็นอมตะ ด้วยความภักดีซึ่งเสมือนสลักไว้ในแผ่นดินปีกลียุคล่วงแล้วได้ 4332

ข้อความในศิลาจารึก....หนังสือของวัดเสมา
ปัจจุบัน หลักศิลาจารึกของจริงได้นำไปเก็บไว้ที่พิพิธภันฑ์สถานแห่งชาติ

ปูนียวัตถุ ภายในวัดเสมาเมือง
1.บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
2.รูปหล่อหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
3.พระท้ายก๋ง(ไต่ก๋ง)
4.พระประธานอุโบสถหลังเก่า
5.พระพุทธปางห้ามสมุทรหน้าพระอุโบสถหลวงพ่อดำ
6.พระประธานศาลาการเปรียญ

 

สวัสดีค่ะ น้องเอม ถูกต้องค่ะพี่บอกน้องเขาไว้แล้วค่ะ
เพราะบ้านญาติพี่อยู่หน้าวัดสีหยังค่ะ....เดี่ยววันไหนว่างจะแวะไปอีกครั้ง
แล้วจะถ่ายพระของน้องเขามาให้ชมนะคะ ...เห็นบอกพี่ว่ามีของวัดดีหลวงรุ่นแรกด้วย....

*ได้เวลาทำงานแล้วค่ะ ค่อยมาเล่าต่อช่วงค่ำนะคะ...

 

อย่างนี้ต้องฝากพี่นวลช่วยเก็บ "ของวัดดีหลวงรุ่นแรก" ด้วยแล้วล่ะค่ะ....



ที่บ้านไม่มีรูปหล่อบูชาหลวงปู่ มีแต่รูปนี้.....ได้มาจากวัดห้วยมงคล หลายปีแล้ว

นำไปภาพไปเคลือบ แล้วนำมาแขวนบูชาอยู่ทุกวันนี้แหละค่ะ......(smile)

 

...ใครก็ได้ช่วยผมที...​

กินไม่ได้ นอนไม่หลับมาหลายวันแล้ว เพราะหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าพระองค์นี้ใช่หลวงปู่ทวดหรือเปล่า และของวัดไหน

ใครรู้ช่วยผมหน่อยครับ ได้โปรด......