ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

สวยจริงๆครับ...........

 

เป็นภาพด้านหลังใช่ปล่าว คิดว่าสภาพน่าจะต่างกับด้านหน้า .ความคิดเหนส่วนตัว.จากการสังเกตุเองและเข้าข้างตัวเอง เอิ๊กๆ..




สวัสดีคุณมี่ สุดสวย ..ขอบคุณ ท่านสารวัตร และท่านลุงเต่า

 

สวัสดีครับ
เปลี่ยนบรรยากาศมาดู พิมพ์หลวงปู่ทวด เนื้อผงพุทธคุณ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก กันบ้างครับ

 

คุณนวล ขอรับ ได้รับผ้ายันต์หลวงปู่ทวด(เหลือง) เรียบร้อยแล้ว ครับผม

ขอบคุณ ในความกรุณา อย่างยิ่ง​

 

ดูไม่เป็นแต่ก็อยากมีไว้บูชาครับ...

 

:VO สวัสดีครับ พี่จงอาจ เสี่ยล้างใจ ท่านรอง คุณลุง พี่ watchdog และ พี่ๆ ทุกท่าน

ขอแทรกแซงสื่อหน่อยนะครับ

ที่สุดแห่งความภูมิใจ ครับ เพราะหลวงปู่ประทานให้

 

ยินดีด้วย ขอรับ สุดยอด .......
​

 

ขอบคุณครับ พี่จงอาง

 

สุดยอดดดดดดดดดดดดด มีองค์นี้องค์เดียวจบเลยครับท็อปสุดแล้ว
ยินดีด้วยจ้า

 

ภูมิธรรม ของหลวงพ่อทวด..
(ของภิกษุปู) จากหนังสือตำนานบ้านเกิด
หลวงปู่ทวด ได้เดินทางมาช่วยให้แผ่นดินสยาม

ครั้งเมื่อพระเจ้าหงษาลังกาทวีป
คิดแก้มือด้วยการท้าพนันแปลธรรมะ ถ้าบกพร่อง กรุงศรีนี้แหละหนา ต้องตกเป็นเมื่อขึ้นของลังกา และต้องการจะแผ่พระบรมเดชานุภาพมาทางแหลมทอง
ใคร่จะได้กรุงศรีอยุธยามาเป็นประเทศราช ฝ่ายเจ้าหงษาลังกาจึงส่งพราหมณ์ทั้ง ๗ ลงนาวาตามฤกษ์นาที จัดเรือ 7 ลำ จัดเงินทองเสื้อผ้าแรพรายข้าวของประทุกการพร้อมกับปริศนาธรรม มุ่งหน้าสู่กรุงศรีอยุธยา เพื่อนำสารขึ้นเฝ้าพระนเรศวร
เมื่อ พระราชามหากษัตริย์ ผู้ครองกรุงศรีอยุธยา รับสารจากพราหมณ์ ถ้าปฏิเสธไม่ยอมเรียงปริศนา ของพระเจ้าหงษาลังกาทวีป ก็เท่ากับกรุงศรีอยุธยาไม่มีนักปราชญ์ผู้รู้
มีแต่คนโง่ทั้งนั้น ทั้งฝ่ายบรรพชิต คฤหัสถ์ ก็เคยศึกษาทางศาสนา ด้านธรรมก็มากมาย
การรับเรียบเรียงแก้กัน ทำเพื่อสัมพันธไมตรี เอาเถอะ ถ้าโชคกรรมคราวเคราะห์ เสียกรุงก็ยอม ก็ตรัสแก่พราหมณ์ว่า เราขอผัดสัก 7 วัน เพื่อประชุมสภาปรึกษาปรองดอง จะเรียบเรียงแก้กันแน่นอนไม่ต้องสงสัย พอครบ 7 วัน จะมีพระราชาคณะชั้นอาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิเคยศึกษาด้านธรรมมีมาก พระภิกษุสามเณรก็มีมากมาย ตลอดจนชั้นอำมาตย์ ข้าราชการ พ่อค้าพานิช ความคิดดีๆ ก็มีอยู่ คนในแผ่นดินกรุงศรีอยุธยานี้ มีผู้มีความสามารถเรียงอักษรปริศนาธรรมของเจ้าหงษาลังกาทวีป

พระราชากษัตริย์ ผู้ครองราชสมบัติแห่งกรุงศรีอยุธยา ก็ให้ตามแสวงหาบัณฑิตนักปราชญ์ว่าใครเรียบเรียงแปลได้บ้าง พระสงฆ์เจ้าขั้นราชาคณะ หรือภิกษุสามเณรรูปใดอุบาสถอุบาสิกาคนไหนบ้าง ให้นำมาให้ทันใน 7 วัน พระสงฆ์องค์เจ้าก็ดี ให้ได้มาคนละองค์ ใครจัดนิมนต์มาช่วยจัดเลี้ยงด้วย คณะอำมาตย์เสนาบดีข้าราชการบริภารทั้งหลาย ตลอดสังฆการี คือ นายศรีธนนไชยเป็นต้น รับคำตรัสสั่งของพระราชามหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาแล้ว ก็เที่ยวแสวงหาสืบค้น ศรีธนนไชยหัวหน้าสังฆการี นึกขึ้นได้ว่า พระภิกษุปูสามีราโมนี้มีความรู้ ทางศึกษาธรรมเก่งมาก เมื่อคราวอยู่ที่วัดราชบูรณะกลางเมืองหลวงนั้น(ที่วัดราชานุวาส) การศึกษามีความจำเป็นเลิศ มีมารยาทก็เรียบร้อย
ปรากฏว่าออกจากเขตภูมิภาคไปเสียนานแล้ว ไปอยู่จำพรรษาในเขตตำบลไหน
สอบถามชาวบ้าน ชาวบ้านทั้งหลายตอบว่าท่านชอบธุดงค์ส่วนตัว และได้บอกต่ออีกว่า ท่านอยู่ประจำวัดสมอรายชายป่า นายศรีทนนไชยถามต่อไปว่า ท่านรู้หรือไม่ว่าวัดสมอรายชายป่าอยู่แห่งใด ชาวบ้านดงป่าบอกว่ารู้ นายศรีทนนชัยขอความช่วยเหลือว่า
ท่านช่วยนำไปได้ไม่นาย ขอโทษชื่ออะไรไม่ทราบ
ชาวบ้านดงป่าตอบว่าชื่อ วักค..รับ นายต้องการไปก็ได้ (ตอนนี้ผู้อ่านฟังแล้ว น่าจะเป็นรุกขเทวดาก็ได้ ผู้ที่ชี้บอกหรือนำทางให้นายศรีทนนชัยนั้น ปรากฏตามประวัติว่าเป็นคนแก่มาก แต่ยังเดินเร็วคล่องแคล่ว ปรากฏตามประว่า นายศรีทนนชัยเดินตามไม่ค่อยทัน พอเดินไปถึงวัดสมอรายชายป่าโชคดีของศรีทนนไชยพบพอดี นายศรีทนนไชยถึงวัดสมอรายชายป่า ชาวบ้านดงป่านั้นก็บอกข้าลาก่อนขอรับมีกิจอยู่ นายศรีทนนไชยขอร้องค่อยกลับพร้อมกัน ด้วยความเข้าใจเห็นใจ เขาช่วยนำมาก็เสียเวลา กิจการขาดงานอยู่แล้ว ก็ตอบเชิญเถอะ ขอบคุณมาก

 

เมื่อนายศรีทนนไชยหัวหน้าสังฆการี พบกับพระภิกษุปูสามีราโมแล้ว ก็เข้าไปยังกุฏิหลังเล็ก เข้าไปนั่งที่ชานกุฏิ กราบนมัสการ ฝ่ายพระภิกษุปูก็ถามขึ้นว่า ท่านมานี่มีกิจต้องการสิ่งอันใดบ้าง หรือมาเพื่อประสงค์เยี่ยมใครบ้าง หรือมาเพื่อเยี่ยมวัดวาอารามโดยเฉพาะ กระผมหัวหน้ากองสังฆการีครับ เกล้ามาที่วัดนี้อย่างยิ่งพร้อมมีทุกข์มากด้วย
พระภิกษุปูถามว่า ทำไม ที่ว่าพลอยมีทุกข์มาก ศรีทนนไชยก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง แล้วถามท่าภิกษุสามีราโมว่า ท่านเคยได้ศึกษาความรู้พระไตรปิฎกมาแล้ว พระวินัยปิฎก พระสูตรตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฏกจบแล้วใช่ไหมครับ พระภิกษุปูตอบใช่แล้ว
นายศรีทนนไชย ขออาราธนาพระคุณเจ้า เพื่อไปเรียบเรียงแปลธรรม คือ ปริศนาของพระหงษาลังกาทวีปครั้งนี้ เขาจัดทองคำเป็นตัวอักษรมาเท่าใบมะขามครับ พระคุณเจ้าพอจะไปแก้ของเราได้หรือเปล่าครับ
ภิกษุปูตอบว่า พอไปได้ การแก้นั้นจะรับรองว่าแก้ได้แน่นั้นไม่ได้ก่อน การเรียงการแก้การแปลนันจำเป็นเมื่อไปแล้วถึงอย่างไรนั้น อาตมาเมื่อโยมของร้องต้องไป เพื่อช่วยเหลือกันกู้แผ่นดินของชาติไว้ อย่าได้ให้ตกไปเป็นข้าของชาติอื่น นายศรีทนนไชย ได้สดับคำพระคุณเจ้าอย่างนี้แล้ว ก็ชื่นใจอย่างยิ่ง ก็กราบเรียนพระคุณเจ้าว่า เกล้ามีความประสงค์จริงๆ ครับ ถ้าพระคุณเจ้ารับว่าพอไปแก้เรียบเรียบกะเขาได้แล้ว เกล้าขออารธนาวันรุ่งขึ้นขอรับ
พอรุ่งขึ้นพระภิกษุปูถึงเวล ไปบิณฑบาตร กลับมาฉันแล้วเหลืออยู่ให้โยมศรีทนนไชยรับต่อไป เมื่อนายศรีทนนไชยสังฆการีรับทานอาหารเรียบแล้ว พระภิกษุก็ดับตัว (เตรียมตัวเตรียมพร้อม) พากันขึ้นไปลาหลวงพ่อทองสี หลวงพ่อทองสีอำนวยพรให้ว่า เอาเถอะสามีราโม ไปแล้วให้มีโช่คดี จงช่วยเหลือประเทศชาติของเราไว้อย่าให้ตกไปขึ้นกะชาติอื่น ขอให้สามีราโมมีโชคในวันข้างหน้าได้มีชื่อเสียงต่อไป ในการศึกษาดี
พระภิกษุรับพรหลวงพ่ออาจารย์ทองสีแล้ว กล่าวคำเปิดอารมณ์สว่างจิตใจขึ้นว่า สาธุสาธุสาธุ 3 ครั้ง ก็ลูบฝ่าเท้าอาจารย์หลวงพ่อทองสีใส่ศีรษะแล้ว จึงก้มลงกราบ 3 ครั้งแล้วถอยออกไป นายศรีทนนไชยก็กราบลา ก็ลูบฝ่าเท้าหลวงพ่อด้วย หลวงพ่อทองสีอำนวยพรให้ศรีทนนไชยว่า ขอให้โชคดีท่านมีโชคดีแล้วโยมหัวหน้าสังฆการี

 

พระภิกษุปู และศรีทนนไชย ก็รีบเดินกลับไปถึงวัด สถานที่ประชุมคือวัดหลวง นายศรีทนนไชยนิมนต์ให้พักอยู่กฏิที่รับอาคันตุกะ ท่านขอร้องว่าไปพักกุฏิหลังน้อยดีกว่า ที่ไม่มีผู้อยู่ใช่ไหมโยม นายศรีทนนไชยตอบว่าใช่ครับ ตกลงพระภิกษุปูพักอยู่สถานที่นั้น นายศรีทนนไชยขอตัวลากลับ
จากนั้นนายศรีทนนชัย ได้เข้าเฝ้าพระราชามหากษัตริย์ผู้ปกครองกรุงศรีอยุธยา เพื่อรายงานตัวและได้นิมนต์พระคุณเจ้ามา 1 รูป จึงถวายให้พระราชาทราบทุกประการแล้ว ก็ถวายบังคมลา
*เมื่อต่างคนต่างหากัน นิมนต์กันมาได้ ใครนิมนต์มาก็จัดการดูแล รับภาระเอง
พอครบถึงกำหนดวัน พราหมณ์ก็มาพร้อมกันทั้ง 7 ฝ่ายพระราชามหากษัตริย์ ผู้ปกครองกรุงศรีอยุธยาและพระอนุชาของพระองค์ พร้อมด้วยอำมาตย์เสวการข้าราชบาทหลวงกระทรวงทุกแผนก พระสงฆ์องค์เจ้าที่คณะหัวหน้ารับคำสั่ง ก็นำมาประชุมพร้อมเฝ้า ก็ตกลงเข้าประชุมพร้อมในโรงพระอุโบสถ สำนักวัดราชบูรณะวัดหลวง ท่านราชาคณะทุกชั้นได้เข้าสู่โรงอุโบสถทุกรูปแล้ว พร้อมด้วยข้าราชการบภริภารบาทหลวง พราราชามหาราชเป็นประมุขอุปถัมภ์
ยังแต่พระคุณเจ้าภิกษุสามีราโมยังตกหลัง ท่านเดินตามอยุพรรษาของตน เมื่อผู้มีอายุพรรษาเดินเข้าโรงพระอุโบสถหมดแล้ว เข้าไปนั่งเรียบร้อยปกติ ภิกษุสามีราโมก็ย่างขึ้นบนแผ่นศิลาก้อนหน้าที่เขาปูไว้ ย่างขึ้นเข้าประตูพระอุโบสถ ศิลานั้นหักเป็นสองท่อน
จังหวะนั้นนายศรีทนนไชย หัวหน้าสังฆการี นั่งคอยเฝ้าอยู่ข้างประตูชายบันได พอเห็นพินิจใจ เข้าไปเอาผ้าเลือดนกเชาะหมายชายจีวรผูกเค่รื่องหมายไว้ว่า ท่านสามีราโมนั้นตนได้อาราธนามา กลัวว่าจะเฟือน (หลง) ไม่รู้ว่ารูปไหนตนนิมนต์มาเอง

 

พระภิกษุสามีราโม พอล่วงเข้าสู้พื้นโรงพระอุโบสถท่านลงนอนหงาย แล้วพลิกคว่ำลุกขึ้นนั่งถด(ขยับ) แล้วคลานเข้าไป ลุกขึ้นยืนขยับย่างกุมตัวเดินเข้าไป ขณะที่ท่านทำกริยาอย่างนั้น พวกพระราชาคณะทั้งหมดนั่งยิ้มหัวเราะอยู่
ส่วนพวกพราหมณ์ทั้ง 7 คน ก็แสดงวาจาคำหยาบประมาทออกไปว่า พระอะไร ใครนำมาเรียบเรียงแปลธรรมเข้ามาก็ดูอย่างไม่สะดวก
พระภิกษุสามีราโม ได้ฟัง 7 พราหมณ์กล่าวดัง ก็กล่าวตอบไปด้วยวาจาอ่อนหวานไปว่า ฟังก่อนท่านพราหมณ์คนเราเมื่อพอเกิดมา เดินยืนนั่งนอนมาก่อนละท่าน พวกพราหมณ์ทั้ง 7 คนก็จนใจ ไม่มีทางจะตอบหน้านิ่งไปทันที พระภิกษุปูกล่าวไปอีกว่า คนเราท่านพราหมณ์ก่อนยิ้มหัวพูดออกไปต้องใช้สติระลึกนึกใคร่ครวญเสียก่อน จะยิ้มหัวพูดจ่าด่าออกไป
ส่วนนายศรีทนนไชยก็นึกเคืองพราหมณ์อยู่ในใจ แต่พูดอะไรไม่ออก เมื่อพระภิกษุปูกล่าวคำดังนั้นแล้ว ก็นั่งอาสนะกราบพระประธาน น้อมนมัสการพระราชาคณะตลอดพระเถรานุเถระทั้งหลาย ผู้มีอายุพรรษามากกว่าตนทั้งหมด นั่งทำความสงบใจเป็นสมาธิ ด้วยสดับฟังการเปิดประชุมแปลธรรม
ฝ่ายสมเด็จพระราชามหากษัตริย์ ก้ได้ปรึกษากันกับพวกข้าราชบริภารทั้งหลายว่า เราจะควรจัดกันอย่างไรการแปลธรรมนี้ จะให้พวกข้าราชการบาทหลวง หรือให้ฝ่ายสมณะก่อน
แต่หมายความว่า พวกข้าราชการบาทหลวง คงแปลไม่ได้กันสักคนเพราะไม่มีใครชำนาญในเรื่องธรรมะ เว้นไว้แต่สมณะเท่านั้น ผู้ตั้งใจในธรรมโดยตรง ตกลงว่ามอบหมายให้สมณะ จึงมีการปรึกษากันอีกต่อไปว่า สมควรจัดให้พระคุณเจ้าราชาคณะ ท่านผู้แก่เข้าแปลก่อน หรือให้ผู้อ่อนแปลก่อนเพื่อเป็นลำดับรูปขึ้นตามพรรษา ตกลงให้ผู้อ่อนกว่าเข้าแปลก่อน ก็ตกลงให้พระภิกษุสามีราโมเป็นองค์แรก ก้ได้อาราธนานิมนต์พระคุณเจ้าสามีราโม

 

ฝ่ายภิกษุปูเมื่ออาราธนาแล้ว ก็จัดเตรียมตัวยังดับจีวรแล้ว(จัดเครื่องทรงผ้าจีวร) ถึงเวลามหาฤกษ์แล้ว พระภิกษุปูก็จัดกราบพระปิฎกมาก่อนทำวัตร เมื่อทำวัตรพระปิฎกก่อนเสร็จแล้ว ก็กราบพระเถรานุเถระราชาคณะต้น ก็ทำใจ(รวบรวมใจ)เป็นสามาธิฤกตบุญญา บุญกุศลที่ตนได้กระทำมาแล้ว คือ ตามที่ได้ศึกษามาก็ดี หรือเทพยาดาทั้งหลายทั่วสากลโลกทั้งหลายด้วย เมื่อวันนี้อาตมา มีความตั้งใจปราถนาช่วยกู้บ้านเมืองแผ่นดินของไทยพุทธกันไว้ ขอเสื้อเมือง(พระเสื้อเมือง)หลักเมือง ทรงเมือง(พระทรงเมือง) ศิลาคุณพระเป็นสิ่งยอดเยี่ยม ขอจงให้ข้าพเจ้าแปลธรรมปริศนานี้ให้สมความประสงค์ และเรียกว่าเป็นบุญกุศลอันล้ำค่า
เมื่อพระภิกษุสามีราโม อธิษฐานเสร็จแล้ว ก็ได้ถามพวกพราหมณ์ว่า การจัดปริศนานี้ครบถ้วนทุกตัวไม่ขาดนะ พวกพราหมณ์ตอบครบแล้ว ไม่มีขาดตกบกพร่องด้วยประการใด อักษรพยัญชนะสระวรรณยุกต์ครบถ้วนทุกอย่าง แต่พวกพราหมณ์ลักซ่อน(แอบเก็บ)
ไว้ก่อนแล้วคนละตัว ใส่ไว้ในมวยผมของตน พอถึงเวลากรรมการก็ดีสัญญาณแปลธรรม พระภิกษุปูก็ยกตัวอักษรขึ้นอธิษฐานแล้ว ก็เทตัวอักษรออกจากภาชนะ เทลงในสาดเคล้า(เสื่อที่ทำจากต้นเคล้า) พระภิกษุปูเอาฝ่ามือลูบไปลูบมาตัวอักษรเรียงเข้าเป็นบาทเป็นวรรคเป็นหมวดสิ้นสุดทุกคัมภีร์ แต่ยังขาดอยู่ 7 ตัวแปลไม่ได้ความ (ข้อความ)
ก็ถามพราหมณ์ว่า พวกท่านจัดมาขาด พวกพราหมณ์กล่าวว่าแปลไม่ได้ เรียงไม่ถูก ทำมาไม่ครบถ้วนดังกล่าว
พระภิกษุสามีราโมก็รวมกองเข้าใหม่ ออกครั้งที่สอง ลูบไปลูบมาอย่างเมื่อก่อน ก็ยังขาดคงเดิมอย่างเก่า พวกพราหมณ์ ก็กล่าวว่าไปไม่รอดแล้ว ก็ซักถามกันไปต่อว่าไปเรื่อย
ฝ่ายพระราชาและข้าราชบริภารก็ซักซอย(ช่วยกันซักถาม)ต่อว่ากันไป พระภิกษุปูก็รวมกองไท(ทาย)ภาชนะตะยะ(พยัญชนะ)อีก ก็เทลงต่อไป ก็ลูบไปลูบมาเข้าวรรคเข้าบาทเข้าตอนตามเดิม ยังขาด 7 ตัวคงที่อย่างเก่า ก็บังเกิดสงสัยกันขึ้น ตกลงทำสัญญาค้นกันทุกคนรวมบังคับกันไว้ ไม่ให้ไปไหนกัน
ส่วนพระภิกษุสามีราโม ก็กล่าวว่า พราหมณ์เอ๋ย ถ้าท่านทำยักยอกกัน ต้องการปราถนาจะแย่งแผ่นดินของผู้อื่นนั้นไม่ดี จะตกนรกไม่เกิดง่ายกันนะ

 

เมื่อได้คิดทำสัญญากันเช่นนั้น พวกพราหมณ์ก็รับสารภาพความผิดแล้ว ควักตัวอักษรออกจากมวยผมคนละตัว น้อมส่งให้อามาใส่เข้าที่ขาดอยู่ก็ครบบริบูรณ์ จึงแปลได้ความทุกประการ
*(ได้ข้อคิดว่า กลโกงมีมาแต่สมัยก่อน)
พวกพราหมณ์ก็ยอมแพ้ จึงมอบถวายสิ่งของคือตัวทองอักษรพระปรมัตถะเป็นต้น ตลอดทั้งเงินทองข้าวของเสื้อผ้าแพรพราย นาวาทั้ง 7 ลำด้วย ก็ขอมอบถวายให้กับพระราชาผู้ครองแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา
พระราชาเมื่อมีชัยชนะแล้ว ก็มีคำสั่งให้ลั่นฆ้องกลองเภรีขึ้นพร้อมกัน พวกเภรีตีบรรเลงประโคมขึ้นทันที ฝ่ายพวกพราหมณ์ก็ลากลับ พระราชา จัดการให้พวกข้าราชการ ทหารน้ำ นำส่งพวกพราหมณ์กลับคืนหงษาลังกาทวีป ถึงแล้วกลับมา
ฝ่ายพระราชามาหากษัตริย์ ก็ขออาราธนาพระเถระพระราชองค์ประมุข ทรงยกย่องต่ำแหน่งแต่งตั้งทินนามว่า พระครูสมเด็จราชมุณีสามีราม พระราชาคณะก็จัดถวายแต่งตั้ง ขึ้นเสนอขั้นชั้นพระครูสมเด็จ เพราะได้รับปวารณาจากพระราชาของแต่งตั้งเอง พระราชามหากษัตริยืก็ได้มอบถวายเมืองให้พระครูสมเด็จเจ้าราชมุณี
จากนั้นพระครูสมเด็จฯ ก็ถวายพระพรทรงรับพระราชบัลลังค์สัก 7 วัน นอกนั้นก็ถวายคืนให้มหาบพิตรราชสมภารเจ้า แต่ใน 7 วัน นี้ไม่ทรงรับหน้าที่บริหารงานการอื่นที่ไม่ควรกับอาตมาภาพ อาตมาภาพถวายพระพร ประทับบัลลังค์ หวังให้โอวาทแกชาวเมืองหญิงชาย ฝ่ายบริหารหน้าที่ต่อไป เพราะบ้านเมืองมีเหตุกระทบเสี้ยนหนาม จะประทับบัลลังค์ประปรายให้น้ำพระพุทธมนต์ด้วย ดังนี้ขอถวายพระพรมหาบพิตรราชสมภารเจ้า อาตมาถวายพระพรทรงรับให้สัก 7 วัน ต่อจากนั้นขอถวายคืนกลับให้มหาบพิตรสืบไป
เมื่อสำเร็จแปลธรรมชนะแล้ว ก็เลิการประชุมต่างองค์ต่างก็กลับวัด ต่างคนก็กลับบ้านที่อยู่ของตนกันในวันนั้น
พอรุ่งขึ้น พระครูสมเด็จเจ้าราชมุณี ก็เริ่มประชุมขึ้นประทับบัลลังค์ เทศนาให้โอวาทอบรม และให้ความรู้หรือเตือนสติพระราชามหาราชเป็นต้น ตลอดข้าราชบริภารทั้งหลาย ให้รักษาความสามัคคี เพราะประชาชนหญิงชายไม่ว่าตั้งแต่ชนชั้นใดชั้นไหนฝ่ายใด เริ่มตั้งแต่ฝ่ายบรรพชิตคฤหัสถ์ พระราชามหากษัตริย์ พระราชาคณะภิกษุสามเณร พวกข้าราชการทั้งหลาย ราษฎรประชาชนพลเมือง ต้องรักษาความสามัคคี มีการถือ ไว้ให้เป็นการสามัคคี ตามพุทธภาษิตบาลีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กลาวไว้ว่า
สุขฺชา สามคฺคี วฺฑฺคฺคี วุฑฺฒิสาทิกา ความพร้อมเพียงของชนทั้งปวงทุกชั้น ทุกวัย ทุกหมู่ ทุกบ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด ทุกประเทศ
*ไม่อิจฉาริษยาซึ่งกันและกัน
*ไม่เบียดเบียนกัน
*ไม่พยาบาทกัน
*ไม่ข่มเหงกันด้วยประการใดแล้ว
*ย่อมอยู่เป็นสุขสบาย
*ไม่มีเวรไม่มีภัยอย่างไร
*ขอให้รักษาความสามัคคี ความพร้อมเพียงกันไว้
*บ้านเมืองประเทศชาติศาสนา จะมีความจะเจริญสืบไป ไม่มีความเสื่อม
ก็จักบังเกิดมีขึ้นในวาระนั้นเป็นต้น การปกครองทั้งหลายฝ่ายชาติศาสนาก็ดี จงปกครองอยู่กันอย่างยุติธรรม จงถือไว้ให้หมั่นในสัจธรรม เพื่อความบริสุทธิ์ด้วยกายวาจาใจ ทั้งสามประการเป็นต้น ปราศจากภัยทั้งปวง ต้องกลัวต่อกรรมอกุศลเวร ภัยทั้งหลายการประพฤติอยู่กัน อย่ากบถต่อชาติศาสนาหรือต่อผู้มีพระคุณทั้งปวงแล้ว เป็นผู้รู้จักอุปการะคุณ มีกตัญญูกตเวที จักเป็นมงคล ดังพุทธภาษิตนิพนธ์ระองค์ทรงตรัสไว้ว่า นิมิตฺต๋ สาธุรปาน๋ กตญฺญูกตเวทิตา ผู้มีความรู้อุปการะคุณ ช่วยเหลือท่านผู้มีพระคุณ เช่น บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ พระราชามหากษัตริย์เป็นต้น
นับถือพระรัตนะตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงทำสมาธิภาวนาระลึกได้ทุกเวลาทิวาวัน ระลึกถึงชาติศาสนาตลอดสิ่งที่มีพระคุณทั้งหลาย อย่าลบหลู่ลืมคุณ

*หลังจากที่สมเด็จพระราชมุณีสามีรามออก ได้ออกจากกรุงศรีอยุธยาไปแล้ว ในไม่ช้าเท่าไรในกรุงศรีอยุธยาบังเกิดกบถแรงขึ้นและบังเกิดไข้ห่าอหิวาตกโรคลง คนหญิงชายตายเผาฝังกันไม่ทัน บังเกิดมัชฌิมากลางต่างๆขึ้น ฯลฯ...

อนุโมทนาบุญค่ะ..

 

บูชาน้อมนำจิตใจ ดีจ้าาา


ลดกิเลสให้เบาบาง..

 

กราบหลวงปู่ทวด

สวัสดีพี่นวล และพี่ๆ เพื่อนๆ สมาชิก ทุกท่านนะคะ

 

อยากทราบรายละเอียด ลป.ทวด ใบมะขาม อ.เนียม หน่อยครับ

 

สวัสดีบ่ายวันเสาร์น้อยครับผม

หลวงพ่อทวดหนอนวัดเขามะรวด วัดดอนตะวันออก อ.ปะนาเระ จัดสร้าง

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยจ้า คุณ นวล