การปฏิบัติสมาธิเพื่อสุขภาพกายและจิตให้เหนือธรรมดาตามในทางพุทธศาสนา

สรุปยอดทั้งหมดที่ผมโอนไปให้ทั้งหมดรวบรวมได้ทั้งสิ้น 35,000 บาทครับ ยินดีในบุญครับ

บุญที่ทำในวันนี้ขอให้ผลบุญจงส่งผลให้สำเร็จทุกประการดังที่หวังไว้เหนือความคาดหมายทุกประการครับ

 

สาธุ..ยินดีในบุญกับพี่เต่า, อ.บาส และญาติธรรมที่ได้ร่วมทำบุญกันนะค๊ะ

 

เริ่มวิธีทำสมาธิตามแนวทางของธรรมกาย
(หลวงพ่อสด !!!)​

การทำภาวนาจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ทำจะต้องมีใจและอารมณ์ปลอดโปร่งว่างจากกิจที่จะต้องกังวลทั้งปวง เพราะถ้าหากมีความกังวลมากนักก็อาจจะทำให้สมาธิไม่แน่วแน่ ฉะนั้นถ้ามีความตั้งใจว่าจะทำสมาธิแล้วก็พึงละความกังวลใหญ่น้อยทั้งปวงเสียให้สิ้น มุ่งแต่ธรรมะอย่างเดียว แม้ความรู้ในทางธรรมะใดๆ ที่ได้เล่าเรียนมาแล้ว ก็ควรปล่อยวางให้สิ้นเสียก่อนในเวลาทำภาวนา ถ้าหากไม่ทำเช่นนั้นก็จะเกิดเป็นวิจิกิจฉาขึ้น ทำให้ผู้ปฏิบัติไม่ให้เห็นธรรมได้ตามต้องการ เมื่อรู้แน่ฉะนี้แล้วจะได้กล่าวถึงวิธีนั่งต่อไป<O></O>
หลังจากการสวดมนตร์ไหว้พระรัตนตรัยแล้ว พึงคู้บัลลังก์ขัดสมาธิ เท้าขวาทับเท้าซ้าย มือขวาทับมือซ้าย นิ้วชี้มือขวาจดหัวแม่มือซ้าย หลับตาพอหนังตาติดกันตามสบาย ตั้งกายให้ตรงจนยืดตัวไม่ได้ต่อไป ที่เรียกว่า อุชุ กายํ ปณิธาย ตั้งกายให้ตรง ปริมุขํ สตึ อุปฏฺฐเปตฺวา เข้าไปตั้งสติไว้ให้มีหน้ารอบไม่เผลอ (ตรงกับพระขีณาสพผู้เป็นสติวินัย) มีสติทุกเมื่อ นี่เป็นทางไปของพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ สติไม่เผลอจากการบริกรรมภาวนาและบริกรรมนิมิตต์ให้ติดกัน ไม่แยกกัน บริกรรมภาวนาได้แก่คำว่า “สม์มา อรหํ” ส่วนบริกรรมนิมิตต์นั้นคือกำหนดเครื่องหมายให้ใสเหมือนเพ็ชรลูกที่เจียระไนแล้ว หรือดวงแก้วกลมๆ ที่ใสบริสุทธิ์ปราศจากฝ้าไฝหรือมลทินใดๆ สัณฐานกลมรอบตัว บริกรรมทั้งสองนี้พึงตรึกไว้ให้ได้อยู่เสมอในอิริยาบถทั้ง 4 คือ นั่ง นอน ยืน เดินไม่ให้เผลอสติได้ และนี่เองเป็นของสำคัญในเรื่องที่จะเป็นหรือไม่เป็น<O></O>
ในขั้นต้นสำหรับผู้เริ่มปฏิบัติควรจะกำหนดรู้จักฐานที่ตั้งของดวงนิมิตต์เสียก่อน เพื่อจะได้รู้จักทางไปเกิดมาของตนไว้บ้าง ฐานที่ตั้งนี้แบ่งเป็น 6 ระยะคือ<O></O>
ฐานที่ 1 ปากช่องจมูก หญิงซ้าย ชายขวา ตรงกลางพอดี ไม่ล้ำเข้าไปไม่เหลื่อมออกมา<O></O>
ฐานที่ 2 เพลาตา หญิงซ้าย ชายขวา ตรงหัวตาพอดี<O></O>
ฐานที่ 3 กลางกั๊กศีรษะตรงกับจอมประสาท ได้ระดับตา แต่อยู่ภายในตรงศูนย์กลาง คือจากดั้งจมูกตรงเข้าไปจดท้ายทอย จากเหนือหูซ้ายตรงไปเหนือหูขวา ตรงกลางที่เส้นทั้งสองตัดกันนั่นเองเป็นฐานที่ 3<O></O>
ฐานที่ 4 ปากช่องเพดานไม่ให้ล้ำเหลื่อม เหนือลิ้นไก่ตรงที่รับประทานอาหารสำลัก<O></O>
ฐานที่ 5 ปากช่องคอเหนือลูกกระเดือก อยู่ตรงกลางทีเดียว<O></O>
ฐานที่ 6 สูดลมหายใจเข้าออกคือกลางตัว ตรงกับสะดือ แต่อยู่ภายใน<O></O>
ฐานที่ 7 ถอยหลังกลับขึ้นมาเหนือสะดือประมาณ ffice:smarttags" /><?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com2 นิ้ว</st1:metricconverter> ในกลางตัว<O></O>
กำหนดดวงนิมิตต์เครื่องหมายไปอยู่ตามฐานนั้นๆ พร้อมกับภาวนาในใจว่า “สมฺมา อรหํ” 3 ครั้ง แล้วจึงเลื่อนดวงนิมิตต์นั้นต่อไป สำหรับฐานที่ 3 เวลาที่จะเลื่อนดวงนิมิตต์ต่อไป ต้องเหลือบตากลับเข้าข้างในคล้ายๆ กับคนนอนกำลังจะหลับแต่แล้วก็ปล่อยให้เป็นไปตามปกติ ทั้งนี้เพื่อจะให้เห็นความจำความคิดความรู้กลับเข้าข้างใน เพราะจะต้องดูด้วยตาละเอียดต่อไป เมื่อเลื่อนดวงนิมิตต์ลงไปจนถึงฐานที่ 7 แล้ว ในฐานที่ 7 นั้น มีศูนย์อยู่ 5 ศูนย์ คือ ศูนย์กลาง, หน้า, ขวา, หลัง, ซ้าย, ศูนย์หน้าเป็นธาตุน้ำ ขวาธาตุดิน หลังธาตุไฟ ซ้ายธาตุลม ศูนย์กลางอากาศธาตุ ตรงกลางอากาศธาตุได้แก่วิญญาณธาตุ ธาตุเหล่านี้เองที่ประชุมกันเป็นกายมนุษย์ขึ้น และศูนย์กลางภายในกายนี้ ก็คือศูนย์กำเนิดของกายมนุษย์นั่นเอง ถ้าหากรู้จักทางคือฐานที่ตั้งเหล่านี้แล้ว ในการทำคราวหลังๆ จะเอาใจไปจดที่กำเนิดของกายมนุษย์เลยทีเดียว<O</O<O
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=t5Sd5c4o9UM"]Katy Perry - E.T. ft. Kanye West - YouTube[/ame]

 

ขออนุญาติส่งการบ้านครับ

เนื่องจากจะมีการสอนเปิดตาที่บูทกันอีกครั้ง เลยมีกำลังใจมานั่งครับ
เริ่มนั่งเมื่อคืนบทที่1 เริ่มต้นมีเกร็งๆรู้สึกว่าตั้งใจมากไป เลยทำใจสบายๆก็จดจ่อกับลมหายใจไปเรื่อยๆมีคิดเรื่องอื่นบ้างก็ดึงกลับมาพอจะเผลอใจลอยพอนับเลขเลยมีสติกลัวจะนับผิดคล้ายๆว่านับซ้ำบ้างแต่ก็ทำครบ จังหวะพุทโธบางช่วงจะมีเรื่องอื่นๆมาในหัวบ้าง
บางทีก็นิ่งๆ เหมือนตาสว่างขึ้นมาเป็นพักๆ จู่ๆก็ตึงๆขมับข้างซ้ายนิดหน่อย
ช่วงเกษาโลมาก็ท่องไป มีช้ามีเร็วกลัวท่องผิดบ้าง เผลอนึกเรื่องอื่นบ้างแต่ก็ท่องไปด้วยตลอดมีเย็นๆตรงกลางหน้าผากเล็กน้อยครับ
ช่วงพุทโธรอบสอง พอเริ่มนิ่งๆรู้สึกตึงๆ ที่ขมับซ้ายชัดขึ้นเรื่อยๆแล้วก็หนักๆที่หัวชัดมากๆพอเริ่มตึงขึ้นเรื่อยๆ ก็หายไปครับ

พอแผ่เมตตาแล้วทำใจนิ่งๆ รู้สึกว่ามีอะไรเข้ามาในหัวเพียบ เป็นเพลงบ้างเป็นภาพบ้าง
แต่บางครั้งก็นิ่งขึ้นมาเหมือนนิ่งๆว่างๆเบาๆ บอกไม่ถูก ตอนนี้ก็พยามนั่งให้นานที่สุด
มีปวดหลังเจ็บขาบ้าง แล้วก็ชัดขึ้นเรื่อยๆ แต่พออกจากสมาธิแล้วปวดมากกว่าเดิมลุกแทบไม่ไหวครับ ที่นึกออกคร่าวๆปะมานนี้ครับ บางทีก็บรรยายความรู้สึกไม่ถูกครับ

ขอบพระคุณครับ

 

นำบุญมาฝากคะ

ได้ไปทำบุญวัดหัวตะพาน จ.ชัยนาท กับ อ.บาส อาเห็ดหอม และ Noom
นำปัจจัยไปถวายเพื่อสร้างเสาวิหารหลวงปู่ศุข
(แต่จะมีกฐินอีกจ้าที่วัดหัวตะพาน ในเดือน ตุลาคม)

ช่วงเย็นกลับมาที่บูท อ.บาส ให้นั่งสมาธิ โดยจุดเทียนแล้วนั่งกัน
ต่างส่งการบ้าน อ.บาส ก็บอกแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง

ส่วนตัว อ.บาส บอกให้กลับมานั่ง
พอนั่งแล้ว กลับเห็นเป็นเหมือนซุ้มประตูทางเข้าโบสถ์
ใจก็เอ๊ะ ภาพเหมือนจะเปลี่ยนเป็น พระแทน มีหลายองค์ นั่งก็มี ยืนก็มี เดินก็มี (หรือคิดไปเองก็ไม่รู้)
พอจะมองใจแรกก็คิดว่าปล่อยดีกว่าคิดตามเดี๋ยวจิตเราก็ปรุงแต่ง ก็เลยปล่อยมันดูสิว่ามันจะเป็นอะไรอีก
ภาพก็เปลี่ยนอีก เหมือนกับว่าตาเหลือบมองขึ้นไปข้างบน เห็นเหมือนเจดีย์ อีก
5555 งง ไปเลย กายสั่นพอควร ร้อนนิดหน่อย ไม่มีอะไรมาก
ส่งการบ้านเพียงเท่านี้คะ

 

มาส่งการบ้านครับ
เพิ่งจะกลับถึงบ้านเองไปต่างรัฐสามอาทิตย์ ที่บ้านถูกเฮอรีเคนร์แต่โชคดีไม่มีอะไรเสียหาย
นั่งบทหนึ่งตามปรกติครับ ตอนเกษา ฯลฯ สงบเลยจับองค์ภวังค์ไปเรื่อยๆ จบก็แผ่แมตตาครับ
ขอบพระคุณอาจารย์ บาสครับ

 

ส่งการบ้านค่ะ

นั่งเมื่อคืน ก่อนนอน...นิ่งๆ เฉยๆ ไม่มีอะไร ไม่ได้นับ ไม่ได้อะไร นิ่งๆ อย่างเดียว นั่งประมาณ 25 นาที

มีความรู้สีกว่า เวลามันจะนิ่ง มันก็นิ่งของมันเอง ไม่ได้ทำอะไรเลย เวลาไม่นิ่ง ทำยังไงก็ไม่นิ่ง

นั่งตอนเช้า ประมาณ 20 นาที นั่งยังไงก็ไม่นิ่ง พยายามเอาสติมาช่วย สติก็ไม่มา...ดูลมก็แล้ว นับก็แล้ว พุทโธก็แล้ว สติไม่มา... แล้วที่บอกว่า ให้ดู รู้ ละ วาง แค่ดู...ก็ไม่ได้แล้วอ่ะ จะรู้ จะละ จะวางไงล่ะ ยากเย็นจริงๆ เฮ้อ...

 

ส่งการบ้านครับ

ได้ลองนั่งปรับธาตุตามที่ อ.บาส บอก
นั่งไปสักพักรู้สึกเหนื่อยมากเลยต้องหยุดพักก่อน
พอพักได้ที่จึงนั่งบทที่ 1 พอถึงช่วงพุทโธตัวเริ่มโยกจนจบช่วงพุทโธก็หยุด
ก็นั่งต่อไปเรื่อยๆจนจบแล้วจึงแผ่เมตตา และ ปัจเวก แล้วนั่งต่อไปสักพัก
พอจะออกจากสมาธิจึงแผ่เมตตาอีกครั้ง พอเริ่มแผ่เมตตาตัวเริ่มโยกพอจบคำอธิฐาน
เหมือนกับจิตตกวูบลงไป เป็นสักพักก็กลับมาเป็นปกติ ทำความรุ้สึกทั่วตัวแล้วก็ออกจากสมาธิ นั่งได้ไม่ค่อยดีจิตใจฟุ้งซ่านตลอดครับ

 

ส่งการบ้านครับ

กำลังทำตัวให้มีสมาธิกับสติมากขึ้นครับ

 

เย้ๆ น้อง moondance2 มาโพสบ้างละ

มีสติ+ปัญหา กับสิ่งที่จะทำ และสิ่งที่กำลังจะเกิดนะจ๊ะ(คิดก่อนทำ) สู้ๆ น้องเอ้ย......

 

สาธุครับพี่กิ๊ก

ตอนนี้ก็พยายามนั่งทุกวัน แต่เหมือนมันไม่ค่อยจะนั่งดีซะเท่าไหร่เลย ฮาๆ

 

ดีจ้า น้องเอิท

ถ้าเรานั่งไม่ได้ เราก็อาศัยการนับลมหายใจ หรือหลักอาณาสิ (ทำได้ทั้งลืมตา และหลับตา)
หรือถ้านั่งไม่ได้จิงๆ ก็อาศัยสวดมนต์จิ
ส่วนตัวพี่ ถ้าพี่นั่งไม่ได้ พี่จะอาศัยนับลมหายใจเข้าออกในชีวิตประจำวันเท่าที่จะทำได้
ไม่รู้จะใช้ได้หรือเปล่า แต่ก็ดี พี่รู้สึกว่ามีสตินะ แต่ก็แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคนจ้า

ช่วงนี้ อ. ก็ดูอยู่ห่างๆ นะคะ ไม่ได้ห่างหายไปไหนคะ

มรสุมชีวิตกำลังเข้ามา เมื่อพายุหายไป ท้องฟ้าก็จะสดใสขึ้นจ้า
สู้ๆ และเป็นกำลังใจให้กับทุกๆ คนจ้า

 

ส่งการบ้านครับ
เมื่อคืนสวดมนต์ ตามที่อ.บาสเขียนไว้หน้าแรก จนครบ

รู้สึกง่วงมาก อยากจะหลับ กะว่าคงไม่นั่งเต็มรูปแบบบทที่1 นั่งสักแป๊บแล้วจะนอน

ก็เลยทำใจนิ่งๆไม่ท่องไม่นับไม่ดูลมหายใจ สักพักนึงเหมือนจิตวูบๆดิ่งลงไปลึกเรื่อยๆ

ก็นิ่งอยู่พักนึงแล้วก็รู้สึกไม่มีสมาธิแล้วเลยแผ่เมตตาตามด้วยถอนออกจากสมาธิครับ

ก็เข้านอน หลับไป ไม่แน่ใจว่าตีอะไร รู้สึกเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่นกึ่งฝันยังไงบอกไม่ถูก

รู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว เรารู้สึกเหมือนมีใครมาหาก็ใจเอาใจไปดูว่าใครมีอะไรจะสื่อสารอะไร

ปรากฏว่าพี่แต่พลิกตัวเราหงายขึ้นแล้วเหมือนดูดเราลอยหมุนๆ ไม่พูดไม่จาคล้ายๆดึงแสง

อะไรไปจากเราตื่นมารู้สึกไม่สบายใจเหมือนเพลียๆไม่รู้ ว่ามาดีมาร้ายหรืออุปทานไปเอง

 

ไม่ค่อยมาตรวจการบ้านเลย

แต่เท่าที่ดูคือ ตกกันหมดเลย

เจอวิตก วิจาร ไม่ละวางไม่แค่๋รู้แล้วก็วาง ต้องมีสติแล้วก็วางนะครับ

 

ตอนนี้ทำสมาธิไม่ได้เลยครับ จิตใจอ่อนแอ555

 

เย๊ๆ ประกาสผลแล้ว...แต่ ฮือๆ :'( ตกยกชั้น ...555

*****

ไม่ได้ทำการบ้านเลยค่ะ ช่วงนี้...ใช้แบบนึกถึงพระสงฆ์ มั่ง นึกถึงพระพุทธรูป มั่ง เวลาว่างๆ แค่นั้นเอง

 

ส่งการบ้านครับเมื่อคืนนั่งบทที่1

ตลอดการนั่งรู้สึกว่าง่วงมากๆ บางทีก็นับหลุดๆ จุดที่นิ่งจริงๆน้อยมากๆแต่ก็พยามเกาะลมหายใจกับการนับ ใจจะฟุ้งไปคิดเรื่องอื่นเรื่อยๆพอใจลอยไปมีชะงักนึกว่านับถึงไหนแล้ว
กว่าจะจบพุทโธรอบสองรู้สึกปวดขาเร็วกว่าครั้งก่อนๆ แผ่เมตตาแล้วก็เริ่มนิ่งหน่อยนึง
รู้สึกอยากจะเลิกเพราะปวดขา ก็พยามทำใจฮึดเจ็บก็ชั่งมัน พยามทำใจนิ่งๆ ฮึดได้ประเดี๋ยวก็แผ่ว ก็พิจรณาว่าสังขารไม่เที่ยงเป็นธรรมดาแผ่เมตตา แล้วค่อยคลายสมาธิไปนอน ครับ

 

พี่อัสดงมารับ
ใน Blackhole ไม่มีอะไรหรอก
แค่ภาพลวงตา
มากับพี่เถิด
พี่จะพาไปภพภูมิที่น้องทั้งสอง สมควรได้รับ
ตามพี่มา
คิดถึงพี่
หากพี่ไปผิดที่ แล้วน้องทั้งสองตามมา
น้องจะได้รับการปล่อยตัวจากผู้คุม

สัญญาให้ไว้ ณ ปี พ.ศ.2560
ประเทศไทย
อมตะนคร​

 

มาส่งการบ้านครับ
นั่งทุกวันบท๑บ้าง บท๓บ้าง ก็ยังเหมือนเดิมครับ ไม่มีอะไรจะรายงานครับ
ขอบพระคุณอาจารย์ บาสครับ

 

จำอาการที่เกิดขึ้นตามสภาวะอาการได้ไหมครับ เปลี่ยนไปนั่งแบบไม่ต้องมีองค์ภาวนา แต่ใช้นั่งดูจิตลำดับอารมณ์แทนครับ