ทำไมต้องอ้างว่าตัวเองเป็นอรหัต หรื่อได้อะรัยบ้างอย่าง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เชอะกราว, 7 กันยายน 2011.

  1. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ท่านไม่สรรเสริญปาฏิหาริย์ แต่ท่านสรรเสริญมรรคผล
     
  2. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    หากถอยคนละก้าว ทางก็จะกว้างขึ้นครับ เมื่อฝ่ายหนึ่งเขาถอยแล้ว ก้ไม่ควรที่จะดันเข้าไปครับ

    ควรที่จะถอยออกมาก้าวหนึ่ง หนทางจะกว้างมากขึ้นครับ

    นานาจิตตัง จะบังคับให้ใครเป็รอย่างที่เราต้องการคงไม่ได้

    เพราะใครมาบังคับเรา เรายังไม่ชอบเลย จะมีใครที่มองเห็นว่าตนเองที่เป็นคนเห็นผิด

    ผมมาเพื่อกล่าวเพียงเท่านี้ มิได้มาสร้างปัญหา หรือ ชวนใครทะเลาะนะครับ

    ขอบคุณในความกรุณาครับ
     
  3. ศรีสุทโธ

    ศรีสุทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +461
    ส่วนเรื่องบาป การปรามาสหรือบาปอะไรๆที่คุณ ตั้งขึ้นเพื่อ พยามยามยัดเยียด
    ให้ผมนั้นผมต้องขอบคุณนะครับ แต่ไม่ขอรับไว้เพราะได้แสดงเจตนา ที่ชัดเจน
    ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว .....เชิญรับไปเองตามสะบายนะครับ
     
  4. crossis

    crossis Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    215
    ค่าพลัง:
    +84
    ^^ นี่แหละถูกต้อง :cool:
     
  5. crossis

    crossis Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    215
    ค่าพลัง:
    +84
    ผมไม่ได้ตั้งเองครับ

    http://palungjit.org/threads/%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A9%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B0.124436/

    บอกแล้วว่าเตือน ว่าเตือน
    สำรวม กาย วาจา ใจ ให้ดีๆๆครับ
    หัดรู้จักวางอุเบกขา
     
  6. ชินนา

    ชินนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +248
    พวกคุณๆ หลงประเด็นหรือเปล่าครับ

    เริ่มแรก คุณศรีสุทโธ กล่าวไปถึงพระภิกษุบางรูปในปัจจุบันที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอะไรต่างๆ นั้นนะครับ อยู่ที่หน้าแรกอ่ะครับ

    ผมว่าน่าจะพูดกันแค่ตรงนี้ดีกว่านะครับ ลองช่วยกันวิเคราะห์นะครับ

    ส่วนผมก็มีความเห็นว่าถ้าผมรู้หรือพบเห็นจริงๆ ว่าพระภิกษุรูปนั้นกระทำในสิ่่งที่เป็นภัยต่อพระพุทธศาสนาจริง ผมก็จะช่วยกำจัดพวกอลัชชีพวกพระปลอมออกไปทันทีครับ

    แต่ถ้าผมไม่รู้ไม่เห็น ผมก็จะวางอุเบกขาไว้หละครับอันนี้
     
  7. กาน้ำ

    กาน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +153
    เรื่องการติเตียนพระสงฆ์นี้มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล เพราะเหตุแห่งการติเตียนนี้พระพุทธเจ้าจึงได้บัญญัติสิกขาบทขึ้น เพื่อรักษาหมู่คณะให้ดำรงอยู่ได้ หากเป็นไปด้วยเจตนาอันเป็นกุศล แม้แต่พระพุทธเจ้าเองท่านยังอนุญาตให้ติเตียนได้ โดยไม่มีบาปกรรมหรือเวรภัยอันใด เพียงแต่พระพุทธเจ้านั้น ผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิย่อมไม่มีสิ่งใดที่จะติเตียนท่าน

    ในบรรดาพุทธบริษัททั้งหลายนั้น อริยบุคคลก็มี ที่ไม่ใช่อริยบุคคลก็มาก พระสงฆ์ก็เช่นเดียวกัน อริยสงฆ์ก็มีอยู่ สมมติสงฆ์ก็มาก สำหรับอริยบุคคลกับอริยสงฆ์ ท่านย่อมเคารพต่อพระธรรมวินัยและมีความรักในศีลยิ่งกว่าชีวิต ดังนั้น ย่อมไม่มีสิ่งใดที่จะไปติเตียนท่านได้ แต่สมมติสงฆ์บางท่านก็มีบ้างที่มีเหตุให้สมควรติเตียน เพราะเรื่องที่ท่านทำที่เป็นโลกวัชชะก็มี ที่เป็นอันตรายต่อพระธรรมวินัยและหมู่สงฆ์ก็มีอยู่ จะนิ่งเฉยเสียด้วยคิดว่า

    “เป็นเพียงคฤหัสมีศีล 5 จะไปติเตียนพระสงฆ์ถือศีล 227 เห็นจะไม่สมควร”

    คิดแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการปล่อยปละละเลย ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อพระธรรมวินัยและหมู่สงฆ์ ที่ผ่านมาก็มีตัวอย่างให้เห็นอยู่เสมอทั้งเรื่องของสามเณรนิกร อดีตพระยันตระ อดีตพระภาวนาพุทโธ อุบาสิกาทศพรแก้กรรม สันติอโศก ลัทธิธรรมกาย พระเกษมทำลายพระพุทธรูป หรือแม้แต่เรื่องของพระคึกฤทธิ์ที่กระทำการสังคายนาพระวินัยจนถูกขับออกจากคณะสงฆ์วัดหนองป่าพง

    เรื่องทั้งหมดนี้ต่างก็ได้ความร่วมมือร่วมใจของอุบาสกอุบาสิกาถือศีล 5 ศีล 8 ที่ช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนา รักษาพระธรรมวินัยถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อแสดงความกตัญญูต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคนทุกท่านก็ทำหน้าที่ของตนเอง เช่นเดียวกับเกลียวคลื่นในท้องทะเลมหาสมุทรที่สาดซัดขยะมูลฝอยเข้าหาฝั่ง

    ในความเป็นจริงแล้ว พระภิกษุสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามพระวินัย ย่อมไม่มีสิ่งใดผู้ใดจะติเตียนท่านได้ เมื่อมีผู้ติเตียนก็ย่อมมีเหตุ เพราะทุกอย่างย่อมเกิดจากเหตุ มันมีเหตุมีปัจจัยของมันอยู่ ก็ต้องพิจาณาให้มากว่าเหตุนั้นคืออะไร ต้องมองให้ครบวงจรตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงการติเตียนนั้น จะมองแต่เพียงปลายเหตุที่ว่า “ปุถุชนไม่ควรติเตียนพระ” เท่านี้คงไม่เพียงพอและไม่ใช่วิสัยของบัณฑิตในพุทธศาสนา

    เมื่อมีเหตุแห่งการติเตียน ก็ย่อมมีผู้ติเตียน
    ติเตียนด้วยจิตอันเป็นกุศล ก็ย่อมเป็นกุศล
    ติเตียนด้วยจิตอกุศลก็ย่อมเกิดอกุศล
    ในที่สุดจะเป็นกุศลหรืออกุศล ก็สุดแล้วแต่เจตนา และมโนกรรม วจีกรรม กายกรรม ของแต่ละคน

    ที่มา pantip.com
     
  8. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,671
    ผมไม่ได้คิดเอานะ ผมเอามาจาก คิริมานนทสูตร. เจ้าพระคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจนฺโท)

    และถ้าจะพูดเรื่องพวกนี้ก็ให้ยกเป็ยกรณีๆ ไป ไม่ใช่ที่เป็นอยู่ มันเสียไปหมด
     
  9. ศรีสุทโธ

    ศรีสุทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +461
    สาธุ.....อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
    .................................................

    บุคคลไม่ใคร่ครวญไม่ไตร่ตรองแล้ว มีความเลื่อมใสในฐานะที่ไม่ควรเลื่อมใส เป็นไฉน

    บุคคลบางคนในโลกนี้ ยังความเลื่อมใสให้เกิดขึ้น ในข้อปฏิบัติชั่ว
    ปฏิบัติผิด ว่าเป็นข้อปฏิบัติดีบ้าง เป็นข้อปฏิบัติชอบบ้าง บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า
    ไม่ใคร่ครวญไม่ไตร่ตรองแล้ว มีความเลื่อมใสในฐานะที่ไม่ควรเลื่อมใส

    .................................................................................................



    อันศรัทธานั้น ต้องประกอบด้วยปัญญา หาไม่แล้วศรัทธาชนิดที่ว่ามานี้ย่อมไม่
    ก่อประโยชน์อันงอกงามไพบูลย์ ยังแต่จะทำตนให้หลง ด้วยสำคัญผิดคิดพลาด
    สำคัญในของที่ไม่ควรว่าควร สำคัญในของที่ควรว่าไม่ควร ย่อมพลาดจาก
    ประโยชน์ เฉพาะหน้า แลประโยชน์อื่นอันยิ่ง ขึ้นไป ดังนี้.......

    .................................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2011
  10. ศรีสุทโธ

    ศรีสุทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +461
    อุบาสิกาวิสาขา ตักเตือนพระอุทายี

    ก็โดยสมัยนั้นแล นางวิสาขา มิคารมาตา เป็นสตรีมีบุตร
    มาก มีนัดดามาก มีบุตรไม่มีโรค มีนัดดาไม่มีโรค ซึ่งโลกสมมติว่าเป็น
    มิ่งมงคล พวกชาวบ้านเชิญนางไปให้รับประทานอาหารก่อนในงานบำเพ็ญ
    กุศล งานมงคล งานมหรสพ ครั้งนั้น นางวิสาชา มิคารมาตา ได้ถูก
    เชิญไปสู่สกุลนั้น นางได้เห็นที่ท่านพระอุทายี นั่งในที่ลับ คือในอาสนะ-
    กำบัง ซึ่งพอจะทำการได้กับหญิงสาวนั้น หนึ่งต่อหนึ่ง ครั้นแล้วได้กล่าว
    คำนี้กะท่านพระอุทายีว่า "ข้าแต่พระคุณเจ้า การที่พระคุณเจ้าสำเร็จการ
    นั่งในที่ลับ คือในอาสนะกำบัง ซึ่งพอจะทำการได้กับมาตุคาม หนึ่งต่อ
    หนึ่งเช่นนี้ ไม่เหมาะ ไม่ควร แม้พระคุณเจ้าจะไม่ต้องการด้วยธรรมนั้น
    ก็จริง ถึงอย่างนั้น พวกชาวบ้านผู้ที่ไม่เลื่อมใส จะบอกให้เธอได้โดยยาก"
    ท่านพระอุทายี แม้ถูกนางวิสาขา มิคารมาตา ว่ากล่าวอยู่อย่างนี้
    ก็มิได้เชื่อฟัง
    เมื่อนางวิสาขา มิคารมาตา กลับไปแล้ว ได้แจ้งเรื่องนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย
    บรรดาภิกษุที่เป็นผู้มักน้อย สันโดษ มีความละอาย มีความรังเกียจ
    ผู้ใคร่ต่อสิกขา ต่างพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนท่าน
    พระอุทายีจึงได้สำเร็จการนั่งในที่ลับ คือในอาสนะกำบัง ซึ่งพอจะทำการ
    ได้กับมาตุคาม หนึ่งต่อหนึ่งเล่า แล้วกราบทูลเนื้อความนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า

    ......................................................................................

    เห็นไหมครับว่าเมื่อพระทำตัวไม่เหมาะสม ทำตัวออกนอกลู่นอกทาง อุบาสก อุบาสิกา
    ก็สามารถเป็นผู้ช่วยติเตียนพระสงฆ์เพราะเห็นพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยง ไม่เหมาะสม
    ถ้าเปรียบเทียบพระศาสนา คือ บริษัทจำกัด พระสงฆ์เป็นผู้บริหาร ที่เหลือเป็น
    หุ้นส่วนบริษัท เมื่อเกิดความสงสัยในการบริหาร ก็ต้องเปิดโอกาสให้หุ้นส่วน
    ซักถามได้ในเรื่องต่างๆ ของบริษัทมิใช่หรือ เพราะบริษัทนี้ไม่ได้เป็นของพระสงฆ์
    แต่เป็นของ บริษัททั้ง ๔ มิใช่หรือ ??
     
  11. ศรีสุทโธ

    ศรีสุทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +461
    ควรติผู้อื่นได้หรือไม่ ??

    ควรติคนอื่นหรือไม่

    ปัญหา คนบางคนถืออุเบกขา ไม่ยุ่งกับคนอื่น ไม่สรรเสริญผู้ควรสรรเสริญโดยกาลอันควร ไม่ติเตียนผู้ควรติเตียนโดยกาลอันควร เฉย ๆ เสียสบายดีเหมือนกัน พระพุทธองค์ทรงเห็นอย่างไรในคนประเภทนี้ ?

    พุทธดำรัสตอบ “....ดูก่อนโปตลิยะ บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก คือ ผู้กล่าวติเตียนผู้ควรติเตียนโดยกาลอันควร ตามความเป็นจริง (แต่) ไม่กล่าวสรรเสริญผู้ควรสรรเสริญตามความเป็นจริงโดยกาลอันควร ๑
    ผู้กล่าวสรรเสริญผู้ควรสรรเสริญตามความเป็นจริงโดยกาลอันควร (แต่) ไม่
    ติเตียนตามความเป็นจริง โดยกาลอันควร ๑
    ผู้ไม่กล่าวติเตียนผู้ควรติเตียนตามความเป็นจริง โดยกาลอันควร ทั้งไม่กล่าว สรรเสริญผู้ควรสรรเสริญตามความเป็นจริงโดยกาลอันควร ๑
    ผู้กล่าวติเตียนผู้ควรติเตียนตามความเป็นจริง โดยกาลอันควร ทั้งกล่าวสรรเสริญผู้ควรสรรเสริญตามความเป็นจริงโดยกาลอันควร ๑
    “ดูก่อนโปตลิยะ บรรดาบุคคล ๔ จำพวกนี้ บุคคลผู้กล่าวติเตียนผู้ควรติเตียนตามความเป็นจริง โดยกาลอันควร และกล่าวสรรเสริญผู้ควรสรรเสริญตามความเป็นจริงโดยกาลอันควร นี้ เป็นผู้งามกว่า และประณีตกว่าบุคคล ๔ ประเภทนี้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะมีความงาม คือความเป็นผู้รู้จักกาลในอันควรสรรเสริญและติเตียนนั้น ๆ....”

    โปตลิยสูตร จ. อํ. (๑๐๐)
     
  12. ขมิ้นชัน

    ขมิ้นชัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +141
    สมมุติว่าผู้ดับกิเลสไม่หมด มีฤทธิ์อภิญญา
    โลกคงเกิดความวุ่นวายอลหม่าน เป็นแน่แท้ จากกิเลสอนุสัย ที่เติบโตขึ้นมา
    เมื่อนั้นกับดักของมารจะปรากฏ ให้ผู้ปฏิบัติจมอยู่ตรงนั้น ด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ
    ไม่เกิดการแสวงหาทางหลุดพ้น หนทางแห่งความเสื่อมกว้างมากขึ้น
    แทบทุกคนจะมุ่ง ฝึกอภิญญาตาม เพื่อสนองกิเลสตน แทนที่จะเป็นนักบุญจะเป็นตรงข้าม
    ความเดือดร้อนอาจมีขึ้นทุกหนแห่ง ด้วยมิจฉาทิฐิ
    ถ้าอริยะท่านหมดกิเลสสิ้นเชิงแล้ว หมู่ปุถุชนที่ศรัทธาท่าน เขาจะศรัทธาในฤทธิ์
    ไม่ใช่ในหลักธรรมที่นำพาความหลุดพ้นออกจากทุกข์วัฏสงสาร
     
  13. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,671
    นี้แหละ นี้แหละ ขอ อนุโมทนาท่านขมิ้นชัน ขอให้เจิรญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป
     
  14. กาน้ำ

    กาน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +153
    ผู้ใดปฏิบัติจตุตถฌาณจนเป็นวสี เกิดอภิญญาได้ ๕ อย่างคือ

    ๑อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้
    ๒ทิพโสต หูทิพย์
    ๓เจโตปริยญาณ รู้ใจผู้อื่น
    ๔ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ระลึกชาติ
    ๕ทิพย์จักษุ ตาทิพย์

    คุณวิเศษเหล่านี้ยังเป็นโลกียธรรม

    ..............................................................................

    พระพุทธองค์ท่านสรรเสริญ อาสวักขยญาณ
    (ญาณหยั่งรู้ได้ว่ากิเลสสิ้นไปแล้ว กิจจบแล้ว) เป็นโลกุตตรธรรม
     
  15. ศรีสุทโธ

    ศรีสุทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +461
    สาธุ...

    พฤติกรรมที่พระคุณเจ้าทั้งหลาย อวดอ้าง แสดง เปรียบเปรย โดยโวหาร
    และอุบาย เป็นเอนกปริยาย เพื่อต้องการให้ผู้อื่นเข้าใจ ว่าตนได้สำเร็จ
    มรรคผล เป็นพระอริะบุคคลชั้นใดชั้นหนึ่ง แม้จะอ้างว่า เพื่อเป็นประจักษ์
    พยาน ในเรื่องความมีอยู่ของพระอริยะบุคคล ก็ดี ในความคิดของผม
    คิดว่าไม่สมควร เพราะยังปรากฏความหลงเหลืออยู่แห่ง อัตตา...นั่นเอง
     
  16. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    มันเป็นเช่นนั้นเอง ครับ โรบิน
     
  17. เช ลี ยง

    เช ลี ยง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +8
    พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เราทำแบบนี้จริงหรือครับ สมเด็จพ่อองค์ปฐมต้นพุทธสิกขี สอนว่าอย่าไปติเตียน ตำหนิกรรมของคนอื่นมิใช่หรือครับ ทุกๆท่าน นางวิสาขาในตอนนั้นท่านเป็นพระอริยะแล้ว คือเป็นโสดาบันหรือสกิทาคามีแล้วคือท่านเห็นว่า ไม่ควรจริงๆ แต่เรามิใช่พระอริยะเจ้าอย่างท่านก็ไม่สมควรจะไปทำอย่างท่าน เทียบง่ายๆ เหมือนปู่ด่าว่าพ่อผิด ซึ่งจะผิดหรือไม่ผิดเราก็ไม่รู้เพราะเรายังเด็กไม่รู้ความ แต่หากเราไปผสมโรงกับปู่ช่วยกันด่าพ่อด้วย นรกกินกบาลแน่ครับ คือต้องดูสถานะของตัวเราด้วย เรื่องของพระควรปล่อยให้พระจัดการจะดีกว่า มีคนที่สูงกว่าเรามากมายดูแลอยู่และเป็นหน้าที่ของเขาด้วย หากเราไม่ศรัทธากับท่านนี้ก็เฉยๆไว้ ไปทำบุญกับท่านอื่นก็ได้นี่ครับ นักการเมืองชั่วๆเต็มประเทศไม่เห็นมีใครคิดจะจัดการเลย ทีเรื่องพระนี่เก่งกันจัง ทั้งๆที่ก็ไม่รู้ความจริงด้วยซ้ำว่าท่านเป็นอย่างไรกันแน่ ได้ยินแต่ข่าวลือก็เชื่อเสียแล้ว
     
  18. JitJailove

    JitJailove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +741
    โดน โดน ได้ยินแต่ข่าวลือก็เชื่อกันแล้ว ไม่เคยเห็นกะตาซักกะที
    ฟังที่เค้าเล่ามา ก็เชื่อกันเป็นตุเป็นตะ
     
  19. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    เชื่อกันเป็นตุเป็นตะ

    :cool:
     
  20. tOR_automotive

    tOR_automotive เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    582
    ค่าพลัง:
    +184
    ไม่เคยได้เห็นเรื่องแบบนี้นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...