ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลา 16:12 น. ข่าวสดออนไลน์


ผงะหนู-แมวกว่า100ตัว ยกโขยงอาศัยศาลากทม. เหตุหมัด-เห็บอาละวาดหนัก

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
เมื่อวันที่ 14 ก.ย. นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า เนื่องจากมีการตรวจสอบพบแหล่งเพาะพันธุ์หมัดแมว ผู้บริหารกทม. จึงได้สั่งฉีดพ่นยากำจัดหมด แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากต้นเหตุมาจากแมวที่อาศัยอยู่ในศาลาว่าการกทม. และเหตุที่มีแมวเป็นจำนวนมาก เพราะว่ามีหนู ซึ่งหนูเหล่านี้มาตามอาหารที่ข้าราชการกทม.รับประทานไว้หรือวางไว้ และเมื่อทำการดักหนูและแมวตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.-13 ก.ย.สามารถจับแมวได้แล้ว 29 ตัว หนู 109 ตัว อย่างไรก็ตามขณะนี้ตรวจสอบพบว่ามีคนแอบปล่อยหนูและแมว และอาจจะทำกรงดักแมวชำรุดเสียหาย

นายธีระชน กล่าวว่า การดำเนินการในครั้งนี้ ไม่ใช่การนำสัตว์ไปทารุณ อยากให้ข้าราชการที่สงสารแมวรักแมวเข้าใจด้วยว่าเป็นการแก้ไขปัญหาสุขอนามัยในสถานที่ทำงาน เพราะทุกวันนี้มีแมวอาศัยอยู่ใต้ฝ้าเพดานชั้น 5 ของศาลาว่าการฯ กว่า 100 ตัว มีหมัดแมวจำนวนมหาศาล สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในสำนักงบประมาณ หากไม่จัดการที่ต้นเหตุก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่จะเข้าทำการฉีดพ่นและทำความสะอาดจะไล่ดำเนินการตั้งแต่ชั้น 5 ลงมาจนถึงชั้น 1 ในวันเสาร์-อาทิตย์ นี้

สำหรับเอกสารที่พวกหมัดแอบเข้าไปอาศัยอยู่ก็ต้องหาวิธีการกำจัดแต่ต้องไม่ทำให้เอกสารชำรุดเสียหาย และที่จับแมวไปนั้นเรานำไปที่ศูนย์ควบคุมสัตว์กรุงเทพมหานคร (ประเวศ) เพื่อบำบัด หมัด เห็บ ไร อาบน้ำ ถ่ายพยาธิ ฉีดวัคซีนให้ปลอดโรค หากใครสงสารหรือสนใจสามารถรับแมวไปเลี้ยงต่อได้ โดย กทม.ตั้งโครงการรับแมวไปเลี้ยงที่บ้าน คนกทม.ที่รักแมวสงสารแมว ให้อาหารแมว หรือปล่อยแมวที่จับได้ โปรดนำแมวที่บำบัดแล้วกลับไปเลี้ยงที่บ้านด้วย ติดต่อขอรับอุปการะแมวได้ที่ ศูนย์ประเวศ โทร.0-2328-7460, 0-2329-0472-3 ทั้งนี้ ได้จัดทำสติ๊กเกอร์โครงการรับแมวไปเลี้ยงที่บ้านนำไปติดประชาสัมพันธ์ตามหน่วยงานต่างๆทั่วศาลาว่าการกทมฯ แล้ว สำหรับหนูที่จับได้นั้นกทม.โดยสำนักอนามัยจะดำเนินการตามวิธีระบาดวิทยา

“หากข้าราชการลูกจ้างของกทม.สงสารแมวที่ถูกจับ ก็สามารถขอนำกลับไปเลี้ยงดูที่บ้านได้ ไม่ควรมาแอบให้อาหารทำให้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์หมัด เห็บอย่างตอนนี้ กลายเป็นภาระและสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ร่วมงาน เหตุที่ผมทำเช่นนี้ก็ไม่ใช่ว่าเกลียดแมวแต่อย่างใดแต่ต้องการให้ผู้ร่วมงานทุกคนมีสุขอนามัยที่ดีเท่านั้น เพราะถ้าหากเราจะทำความสะอาดเมือง ฉีดเห็บหมัดให้ทั่วกรุงแต่บ้านของตัวเองกลับเป็นแหล่งเพาะพันธุ์คงไม่ดีแน่นอน จึงต้องเริ่มที่บ้านตัวเองเสียก่อน” นายธีระชนกล่าว

 

14 ก.ย. 54

น่าอนาถ น้ำปาด นั้นประมาท
มีถ้วยมาตร วัดน้ำ ไม่ได้ใช้
หอส่งเสียง ตามสาย มีเอาไว้
ไม่มีใคร คอยเฝ้า คอยดูแล

เพราะขาดคน ทำตน เพื่อส่วนรวม
ไม่รวบรวม กลุ่มคน คอยทำการ
เมื่อน้ำมา ไม่ทัน จะหนีมาร
ก็เลยอาน อย่างเป็น เช่นข่าวลง

เป็นบทเรียน ให้เพียร การกระทำ
ให้จดจำ เอาไว้ เป็นตัวอย่าง
สามัคคี ช่วยได้ คือพลัง
ช่วยยับยั้ง เสียหาย ภัยใกล้ตัว

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

 

14 ก.ย. 53

ศึกใหม่ ใหญ่หลวง เกินกำลัง
ท่านต้องนำ ความดี เข้าต่อสู้
ทวยเทพ เข้าช่วย ร่วมพันตู
จะได้อยู่ ค้ำชู ศาสนา

ปี 11 ต้องอึ้ง เพราะน้ำมาก
อย่าประมาท กรุงเทพฯ ต้องระวัง
นิมิต ท่วมสูง หนึ่งเมตรยัง
ให้ระวัง เตรียมพร้อม ต้อนรับภัย

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

ปล. ต้องขออภัยหลานๆที่เป็นแนวร่วมทุกคน ที่อาไม่สามรถส่งบทความให้อ่านก่อนในช่วงนี้ เกิดจากอาไม่สามารถใช้ Hotmail ในขณะนี้ได้ ขอให้หลานๆอ่านในเว็บฯไปก่อน

อาเค

 

ใช่ ไม่ใช่ ตอบไม่ได้
รอดูไว้ ว่าเกิด หรือไม่เกิด?
เพราะนิมิต พูดไป เดี๋ยวเลยเถิด
ถ้าไม่เกิด ผมเอง จะเสียคน

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาสมัครเป็นเพื่อน ขอให้เข้ามาคุยทาง Pm ส่วนตัว ครับ

 

โหดร้ายมาก เบียดเบียนมาก ก็จะเกิดภัยพิบัติ


พิธีบูชายัญในประเทศศรีลังกา
ศรีลังกาสั่งห้ามทำพิธีบูชายัญ หลังเชือดสัตว์นับร้อย ประกอบพิธีกรรม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากที่กลุ่มปกป้องพิทักษ์สัตว์ออกมาเรียกร้อง ให้ศรีลังกา ยุติการประกอบพิธีกรรมบูชายัญ โดยมีการนำเอาสัตว์มาเชือดเพื่อเซ่นสังเวย เช่น บั่นคอแพะกว่า 700 ตัวด้วยขวานขนาดใหญ่ รวมทั้งไก่อีกจำนวนหนึ่ง โดยพิธีกรรมจัดขึ้นที่วัดมุนเนสวาราม ทางตอนเหนือของกรุงโคลอมโบ พวกเขาเชื่อว่า เลือดของสัตว์เหล่านี้ จะช่วยขับไล่ภูติผีปีศาจอกไปจากพื้นที่
ทว่า พิธีกรรมอันน่าสลดดังกล่าว ถูกทางการศรีลังกาสั่งห้ามครั้งแรกในปี 1980 แต่ยังคงมีชาวบ้านฝ่าฝืนทำพิธีกรรมเรื่อยมา จนกระทั่ง 12 กันยายน ศาลศรีลังกามีคำสั่งห้ามไม่ให้มีการฆ่าสัคว์เพื่อบูชายัญอีก

ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา การต่อสู้ เรียกร้องของกลุ่มพิทักษ์สัตว์ เพื่อสวัสดิภาพสัตว์แห่งศรีลังกา ยังเรียกร้องให้ประธานาธิบดี มหินทา ราชปักษี สั่งห้ามพิธีกรรมดังกล่าว เนื่องจากมีแพะถูกเชือดสังเวยชีวิต เพื่อเอาเลือดไปประกอบพิธีกรรมกว่า300 ตัว

หลังจากที่มีการออกคำสั่งดังกล่าว กลุ่มพิทักษ์สัตว์หวังว่า คงจะไม่เกิดพิธีกรรมเช่นนี้อีก เพราะเป็นเรื่องที่น่าสลด และภาพที่สยดสยอง ชีวิตสัตว์ต้องมาสังเวยกับพิธีกรรมอันโหดร้ายเช่นนี้ แต่พิธีบูชายัญยังคงพบเห็นในประเทศอื่นๆ อย่างเช่นอินเดีย เนปาล ที่ยังคงมีความเชื่อ ฆ่าหมู ควาย แพะ นำเลือดมาประกอบพิธีกรรม

พิธีบูชายัญในประเทศอินเดีย


พิธีบูชายัญในประเทศเนปาล
Mthainews<!-- google_ad_section_end -->

 

ค่ะ เพราะเค้าทำกันแบบนั้น เราอยู่อินเดีย มันรู้สึก ถึงคำสาป เห็นความไม่พอดี มันกดดันมาก

 

การเซ่นไหว้ด้วยเลือดน่าจะเป็นการบูชาผี มากกว่าบูชาพระเจ้า พระเจ้าคงไม่เห็นด้วยกับการเซ่นไหว้ด้วยชีวิตของผู้อื่น ถ้าให้ดีต้องเซ่นด้วยเลือดเนื้อของตัวเอง น่าจะเวิร์คกว่า
แต่ยังไงก็ไม่ดีเท่าการปฏิบัติบูชา

 

สงสารชีวิตสัตว์เหล่านั้นจัง ทำไมคนเราโหดร้ายได้มากมายถึงเพียงนี้

 

- พวกเขาเชื่อว่า เลือดของสัตว์เหล่านี้ จะช่วยขับไล่ภูติผีปีศาจอกไปจากพื้นที่ -
หารู้ไม่ว่าเลือดของสัตว์ที่ตกลงบนแผ่นดินตรงนั้น เรียกภูติผีปีศาจให้มาร่วมตัวกันอย่างหนาแน่น

 

เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วม




อัพเดตสถานการณ์น้ำท่วม 15 กันยายน 54
10.40 น. กรุงเทพ : กรมชลฯ เตือนกรุงเทพ เตรียมรับมือน้ำท่วมกรุง เผยน้ำก้อนใหญ่จากเหนือถึงแน่ 19-20 ก.ย.นี้ ชี้สถานการณ์รุนแรงสุดรอบ 5 ปี
10.30 น. ขอนเเก่น : ประกาศให้พื้นที่ 15 อำเภอ จากทั้งหมด 26 อำเภอ เป็นที่ประสบภัยน้ำท่วม หลังปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง และแรงน้ำหนุนจากแม่น้ำเชิญ และน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน
10.00 น. พิษณุโลก : ระวังวิกฤติสูงสุด จัดเวรยามเฝ้าจุดเสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง แม่น้ำน่านได้เพิ่มระดับสูงมากทุกชั่วโมง จนทำระดับสูงสุด 10.78 เมตร
09.40 น. พิจิตร : สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พิจิตร ทวีความรุนแรง และขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง หลังจากในพื้นที่เกิดฝนตกสะสมกันอย่างหนักรวมถึงเขื่อนขนาดใหญ่ทางภาคเหนือพร่องถ่ายน้ำลงสู่แม่น้ำน่านในพื้นที่ท้ายเขื่อน อีกทั้งยังมีน้ำป่าจาก จ.พิษณุโลก ไหลหลากลงมาสมทบ ทำให้ทั้งน้ำฝน น้ำในแม่น้ำน่านและน้ำป่าไหลหลากลงผสมกันและทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทั้ง 15 ตำบลเกือบ 100 หมู่บ้านในเขตอำเภอเมืองพิจิตร บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร
09. 35 น. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.): ทุกจังหวัดลุ่มน้ำยังต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากฝนตกต่อเนื่องหลายพื้นที่ ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งใน 6 จังหวัด คือ สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานีที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
09.40 น. สิงห์บุรี : สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดใน จ.สิงห์บุรี หลังจากที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรีแตก ขณะนี้ระดับน้ำริมคลองเชียงรากท่วมสูงประมาณ 2.5 เมตร และยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพมาอาศัยอยู่บนถนนสายเอเชีย ซึ่งชาวบ้านบางส่วนได้ตัดพ้อว่ายังไม่เห็นเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ โดยมีชาวบ้านกว่า 600หลังคาเรือนเดือดร้อนหนัก อย่างไรก็ดีเชื่อว่าน้ำก้อนดังกล่าวได้ส่งผลกระทบถึง อ.ท่าวุ้ง และ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรีแล้ว
09.14 น. กรมอุตุ : อุตุฯ เผยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังมีฝนเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนทะเลทั้ง 2ฝั่งมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัย และติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง
09.11 น. จันทบุรี : น้ำป่าจากเทือก เขาคิชฌกูฎ ได้เข้าท่วมพื้นที่นายายอาม ระดับน้ำสูง 1 – 2 เมตร ส่งผลให้ 2 ตำบล คือ ตำบลวังใหม่ และตำบลวังโตนด ของอำเภอนายายอาม รวม 10 หมู่บ้าน ถูกน้ำท่วม ชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถออกมาจากบ้านได้ ขณะนี้ทางหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย ได้รุดนำเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือแล้ว
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
14 กันยายน 2554
17.30 น. ศอส.: เตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจ.นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร เสริมแนวคันกั้นน้ำให้สูงขึ้น รวมทั้งให้ขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
15.05 น. สิงห์บุรี : เขื่อนบางโฉมศรี อำเภออินทร์บุรี แตกทำให้น้ำเริ่มไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดลพบุรี
15.00 น. สุรินทร์ : อ่างเก็บน้ำในสุรินทร์ยังรองรับได้ แต่แม่น้ำชีและแม่น้ำมูล มีปริมาณสูงขึ้น เหลือเพียง 50- 80 เซนติเมตร จะล้นตลิ่ง
12.00น. อุตรดิตถ์ : ขณะนี้ ได้ระดมเจ้าหน้าที่ค้นหาเหยื่อดินโคลนถล่ม พร้อมเร่งให้เจ้าหน้าที่ อบจ.บรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 500 ชุด นำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยดินโคลนถล่มที่ ต.น้ำไผ่ , ต.บ้านด่านนาขาม และ ต.น้ำริด
11.00 น. ลำพูน : ระดับน้ำลำน้ำกวงขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 5 เมตร และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ ต.บ้านแป้น ต.เวียงยอง และ ต.ต้นธง ของ อ.เมือง แล้ว
10.55 น. อ่างทอง : น้ำล้นตลิ่งท่วมผิวการจราจรบนถนนหลักหลายสาย เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ บางจุดน้ำสูงกว่า 50 ซม. ต้องปิดการจราจรสองช่องทางทำให้การจราจรติดข้ด
09.40 น. ปทุมธานี : น้ำท่วมตลาดสดศิริวัฒนา เขตเทศบาลเมืองปทุมธานี ต.บางปรอก อ.เมือง รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปทุมธานี ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เทศบาลนำกระสอบทราย มาช่วยกันกั้นน้ำแล้ว
ลพบุรี : ประตูน้ำพัง น้ำทะลักท่วม อ.บ้านหมี่ อ.ท่าวุ้ง ผู้ว่าฯ สั่งอพยพคนและสัตว์เลี้ยงแล้ว
09.35 น. เพชรบูรณ์ : ระดับน้ำในอ่างเก็บกักน้ำของกรมชลประทานทั้ง 4 แห่ง มีระดับสูงเกินกว่าปริมาณเก็บกัก ทำให้ล้นออกทางช่องระบายฉุกเฉิน
นอกจากนี้ ในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ และพื้นที่โดยรอบ น้ำจากแม่น้ำป่าสัก และน้ำที่ถูกระบายออกจากอ่างป่าแดง ทำให้พื้นที่ชุมชนใกล้แม่น้ำตกอยู่ในภาวะน้ำท่วมเช่นกัน
09.30 น. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ : แจ้งเตือนว่า วันนี้ (14 ก.ย.) ถึงวันที่ 20 กันยายน อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากมวลน้ำลูกใหญ่ ซึ่งมีปริมาณน้ำมากกว่าปีที่แล้ว ไหลผ่านลุ่มน้ำเจ้าพระยาบริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
13 กันยายน 54
18.00 น. ศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.)
ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มรวม 11 จังหวัด ได้แก่ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ให้เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในวันที่ 13-14 กันยายน 2554
17.40 น. แพร่ : ฝนตกหนักในพื้นที่ อ.เด่นชัย น้ำป่าไหลตามลำน้ำห้วยไร่ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนเสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน
17.30 น. นครสวรรค์ : ผู้ว่าฯ เตือน ประชาชนที่อาศัยอยู่ 2 ริมฝั่งแม่น้ำปิง บริเวณ อ.บรรพตพิสัย อ.เก้าเลี้ยว และ อ.เมืองนครสวรรค์ ให้เตรียมขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง เนื่องจากมวลน้ำขนาดใหญ่จากฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ จ.ตาก และกำแพงเพชร จะไหลถึงจังหวัดช่วงเที่ยงคืนวันนี้
16.00 น. กรุงเทพ : กรมชลประทาน เตือน กรุงเทพ วันที่ 19- 20 ก.ย เจอน้ำเหนือก้อนใหญ่ ซึ่งมาจากแม่น้ำปิงในจังหวัดกำแพงเพชร และปริมาณน้ำจากลุ่มน้ำป่าสัก และในส่วนเจ้าพระยาตอนล่างคือ ปทุมธานีและนนทบุรี จะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่มากขึ้น ดังนั้นให้แต่ละจังหวัดเร่งเสริมคันกั้นน้ำให้สูงในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 2 เมตรขึ้นไป
15.26 น. แนวเขื่อนกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาที่นครสวรรค์พัง บ้านเรือนกว่า 800หลังจมน้ำิมิด
แนวเขื่อนกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาที่นครสวรรค์ ได้พังลง หลังน้ำได้กัดเซาะแนวด้านล่างของพนังเขื่อน จนเป็นเหตุให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักท่วมชุมนุนติดแม่น้ำ เช่นชุมชนสะพานเดชาติวงศ์ ชุมชนเทวดาสร้าง ชุมชนวัดเขาจอมคีรีนาคพรต อย่างรวดเร็ว จนบ้านเรือนประชาชนกว่า 800 หลังคาเรือนจมอยู่ใต้น้ำทันที ทำให้ประชาชนต่างเร่งขนของหนีน้ำเป็นการด่วน เบื้องต้นระดับน้ำได้สูงขึ้นกว่า 3เมตรแล้ว ด้าน กองพันทหารช่างที่ 4 ค่ายจิระประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ ได้นำเรือท้องแบนกว่า 20 ลำ พร้อมทั้งระดมกำลังช่วยอพยพชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ และขนย้ายข้าวของกันอย่างเร่งด่วนแล้ว
14.10 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย :เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มรวม 11 จังหวัด ได้แก่ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ให้เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในวันที่ 13-14 ก.ย.นี้
12.55 น. กาฬสินธุ์ : เตรียมอพยพประชาชน หลังปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวเพิ่มต่อเนื่อง หวั่นพื้นที่ราบลุ่มเกิดน้ำท่วมใหญ่
12.25 น. เชียงใหม่-ตาก-แม่ฮ่องสอน : กรมทรัพย์เตือน 3 จังหวัดภาคเหนือ เชียงใหม่-ตาก-แม่ฮ่องสอน ระวังดินถล่ม-น้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ โดยขอให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยทางภาคเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ อ.แม่แจ่ม อมก๋อย ฮอด จ.เชียงใหม่, อ.แม่สะเรียง สบเมย ขุนยวม แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน และบางพื้นที่ของ จ.ตาก เตรียมการรับมือภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นหลังพบปริมาณน้ำฝนสูง
11.35 น. กรมชลประทาน : ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลรองรับน้ำไปแล้วกว่า 82% ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์จุน้ำแล้ว 96%
11.30 น. พิจิตร : บางจุดน้ำท่วมสูง 2-3 เมตร ล่าสุดน้ำท่วมแล้ว 664 หมู่บ้าน จากทั้งหมด 888 หมู่บ้าน ต้องปิดโรงเรียนแล้ว 84 แห่ง
รางรถไฟสายเหนือช่วงสถานีพิจิตร-วังกลด ถูกน้ำท่วมรางรถไฟ เนื่องจากน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ น้ำจากการระบายของเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนภูมิพล รวมถึงเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก ส่งผลให้น้ำก้อนใหญ่ไหลมาท่วม จ.พิจิตร
11.10 น. พระนครศรีอยุธยา : ประกาศให้ชาวบ้านท้ายเขื่อนพระราม 6 ขนของขึ้นที่สูง เนื่องจากจะมีการระบายน้ำท้ายเขื่อนมากขึ้น ทำให้ชาวบ้านในตลาด อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขยายวงกว้าง
10.50 น. นครสวรรค์ : น้ำล้นและขยายวงกว้าง เป็น 8 อำเภอn เขตเทศบาลเมืองชุมแสง/เมืองนครสวรรค์ หวั่นน้ำปิงมาเพิ่ม
10.20 น. ตาก : เขตเทศบาลนครแม่สอดเริ่มถูกน้ำท่วมแล้วเช่นกัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้
นครสวรรค์ : น้ำในบึงบอระเพ็ดไหลเข้าท่วมถนนสายนครสวรรค์-ชุมแสง รวมทั้งจุดที่ชาวบ้านบางกลุ่มอพยพมาตั้งเต็นท์
10.15 น. สิงห์บุรี : น้ำที่ไหลผ่านเพิ่มสูง 30 ซ.ม.ปิดถนนเส้นสิงห์-อ่างทอง/แนวคันดินพังทำน้ำท่วมนาในอ.ท่าช้าง900 ว่าไร่
10.10 น. กรมทรัพยากรธรณี : ประกาศเตือนว่า ให้ 6 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งประกอบด้วย จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี ระยอง และจันทบุรี เฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง
10.00 น. พิษณุโลก : ระดับทรงตัว 10.50 เมตร แต่พื้นที่ทางเหนือ อ.เมืองพิษณุโลก ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม แม่น้ำน่านล้นตลิ่ง ท่วมเส้นทาง สายพิษณุโลก – พรหมพิราม บริเวณ ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จำนวน 2 จุด
09.50 น. จันทบุรี : ระดับน้ำเริ่มทรงตัว จุดวัดน้ำที่สะพานวัดจันทนาราม ระดับน้ำอยู่ที่ 4 เมตร 40 เซนติเมตร ส่วนในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี ตลาดน้ำพุ ตลาดสวนมะม่วง น้ำยังท่วมสูงประมาณ 40 เซนติเมตร ขณะที่ถนนสายพระยาตรัง-เขาคิชฌกูฏ น้ำยังท่วมสูง รถไม่สามารถผ่านไปมาได้
……………………………………………………………………………..
ช่องทางช่วยเหลือ ผู้ประสบอุกภัย น้ำท่วม

- ครอบครัวข่าว3 : บัญชี “ครอบครัวข่าว 3 ช่วยผู้ประสบอุทกภัย 2554″
เลขที่บัญชี 014-3004-448 ธนาคารกรุงเทพ บัญชีกระแสรายวัน สาขาอาคารมาลีนนท์
- สำนักนายกรัฐมนตรี : บัญชี “กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี”
ธ.กรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล ออมทรัพย์ เลขที่ 067-0-06895-0 ลดหย่อนภาษีได้
- ธนาคารไทยพาณิชย์
บัญชี “มูลนิธิสยามกัมมาจล-ไทยพาณิชย์เพื่อผู้ประสบภัย”
สาขา ATM & SCB Easy เลขที่ 111-3-90911-5
- MCOT
บัญชี “อสมท รวมใจ ช่วยภัยน้ำท่วม” ธ.กรุงไทย สาขาอโศก ออมทรัพย์ เลขที่ 015-015-999-4
- มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก
ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาเทเวศร์ ออมทรัพย์ เลขที่ 020-2-53333-8
หรือ ธ.กสิกรไทย สาขาถนนหลังสวน เลขที่ 082-2-66600-0
……………………………………………………………………………..
จุดรับบริจาคสิ่งของช่วยน้ำท่วม


- มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก บริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภค สภากาชาดไทย ปทุมวัน กรุงเทพฯ
โทร 0-2256-4583-4, 0-2256-4427-9, 0-2251-0385

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ปิดฉากรักคู่ขนาน“ม.3”ผูกคอตายตามครูพละ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>นร.สาวม.3 เครียดครูหนุ่มใหญ่ ผูกคอคาห้องขัง เพราะต้องคดีข่มขืน เลยผูกคอตายตาม ทิ้งจดหมายอาลัยรักคู่ขนาน


คดีนายพยนต์ศักดิ์ อุดม หรือ “ครูแดง” อายุ 58 ปี ถูกผู้ปกครอง น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักเรียน ม.3 แจ้งความกับตำรวจ สภ.สบปราบ จ.ลำปาง ข้อหาข่มขืนฯ ต่อมานายพยนต์ศักดิ์ถูกตำรวจตามจับได้ในห้องพัก ขณะพา น.ส.เอ หนีมาอยู่ด้วยกันที่บ้านพักย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานี และสุดท้ายผูกคอตายในห้องขัง สภ.สบปราบ เพราะเครียดเรื่องคดีนั้น

เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (14 ก.ย.) พ.ต.ท.ภานุพันธ์ กันทวงศ์ สวส.สภ.สบปราบ จ.ลำปาง รับแจ้งมีหญิงสาวผูกคอตาย ที่บ้านพักใน อ.สบปราบ ไปตรวจสอบ ภายในห้องนอนพบศพ น.ส.เอ นอนเสียชีวิตบนเตียง มีเชือกรัดลำคอแน่น

ตำรวจสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ตั้งแต่ น.ส.เอ กลับมาอยู่บ้าน พอรู้ข่าวว่าครูแดงผูกคอตายในห้องขัง ก็เก็บตัวเงียบอยู่คนเดียวภายในบ้าน

จนมารดาเป็นห่วงต้องเฝ้าจับตาดูไม่ห่าง เพราะกลัวจะคิดสั้น กระทั่งก่อนเกิดเหตุมารดาออกไปทำธุระนอกบ้าน พอกลับเข้ามาพบลูกสาวผูกคอตายไปแล้ว พร้อมทิ้งจดหมายที่เขียนไว้อาลัยครูแดง มารดาจึงรีบแก้เชือกนำศพมาวางไว้บนเตียง ก่อนแจ้งตำรวจ

สำหรับศพของครูแดงนั้นญาติมีกำหนดจะฌาปนกิจวันที่ 15 ก.ย.นี้ และก่อนหน้านี้ น.ส.เอได้ไปกราบเคารพศพครูแดง

พอกลับมาบ้านได้ฝันว่าครูแดงมาหา เบื้องต้นคาดว่า น.ส.เอคงคิดถึงครูแดงที่จากไป และเครียดจัดเลยผูกคอตายตามไป นอกจากนี้ ที่ใต้หมอนซึ่ง น.ส.เอ ใช้หนุนนอน ยังมีรูปถ่ายของ น.ส.เอ ที่ถ่ายคู่กับครูแดง วางซ่อนไว้ โดยข้างหลังภาพเขียนว่า “รู้เปล่าว่าฉันหึงหวงเธอ เธอคือผู้ที่ให้กำลังใจแก่ฉันเสมอมา อดีตสามีเก่า รักเธอที่สุด แดงที่รัก”.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> ตร.รวบแม่แอบรีดลูกในสนามบิน </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>จับแล้วแม่วัยละอ่อนรีดลุกทิ้งสุวรรณภูมิ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองออกล่าตัวพบ เดินเที่ยวงานฟูลมูนปาร์ตี้หาดริ้น บนเกาะพะงัน เค้นรับสารภาพใช้ชุดว่ายน้ำแบบจีสตริงรัดหน้าท้องรีดออกจากครรภ์ทิ้งถังขยะ ก่อนขึ้นเครื่องลงสมุยไปเที่ยวกับแฟนใหม่อ้างไม่ต้องการให้แฟนใหม่รู้ว่าตั้งท้อง

จากกรณีแม่ใจยักษ์รีดลูกอายุครรภ์ประมาณ 9 เดือน ทิ้งถังขยะบริเวณประตู 5 ชั้น 4 ภายในอาคารผู้โดยสารขาออกต่างประเทศ

และมีพนักงานทำความสะอาดย้ายนำมาไว้ที่บริเวณหน้าอาคารผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสภาพศพเป็นเด็กทารกแรกเกิดเพศหญิง ผิวขาว ร่างกายมีอวัยวะครบและมีสายรกติดคาอยู่ สภาพศพถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ ด้านหน้าสกรีนสถานที่แหล่งท่องเที่ยว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ส่วนที่ลำคอทารกมีกางเกงในผู้หญิง แบบจีสตริง สีดำลายดอกผีเสื้อรัดลำคอของทารกอย่างแน่นหนา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมาตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 ก.ย. พ.ต.ท.วันชนะ บวรบุญ สวญ.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี

เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ทำการตรวจสอบแกะรอย และพบผู้ต้องสงสัยคือ น.ส.นวลศิริ สำราญใจ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 5 ต.บึง อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ ได้โดยสารเครื่องบินมาลงที่เกาะสมุย และต่อไปยังเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี จึงรีบประสาน พ.ต.ต.พอพล อุทัยภพ สว.สส.ตม.เกาะสมุย ร.ต.อ. ณพวุฒิ มารยารต์ รอง สว.สส.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นำกำลังออกติดตาม กระทั่งพบน.ส.นวลศิริ เดินอยู่ในงานฟูลมูนปาร์ตี้ บนหาดริ้น อ.เกาะพะงัน เมื่อกลางดึกวันที่ 12 ก.ย. เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาสอบสวน

ทั้งนี้เบื้องต้น น.ส.นวลศิริ รับสารภาพทั้งน้ำตาว่า อดีตทำงานอยู่ที่บาร์เบียร์แห่งหนึ่งในเมืองพัทยาและเกิดมีความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มชาวอังกฤษจนตั้งท้อง

จากนั้นแฟนหนุ่มได้หนีกลับประเทศ กระทั่งตนตั้งท้องได้ 1 เดือนก็รู้จักและคบหากับแฟนใหม่ ซึ่งเป็นชาวอังกฤษ โดยที่แฟนใหม่ไม่รู้ว่าตนกำลังตั้งท้องอยู่ และก่อนเกิดเหตุ แฟนใหม่ได้ชวนเดินทางไปเที่ยวที่เกาะสมุย และเกาะพะงัน ขณะกำลังรอขึ้นเครื่องตนรู้สึกเหมือนเด็กในท้องดิ้นจึงเข้าห้องน้ำแล้วใช้ชุดว่ายน้ำแบบจีสตริงรัดหน้าท้องจนเด็กไหลออกมา ก่อนจะนำไปทิ้งถังขยะแล้วขึ้นเครื่องบินไปเกาะสมุยดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่ต้องทำเพราะไม่ต้องการให้แฟนใหม่รู้ว่าตนเองท้องกับคนอื่นมาก่อน

พ.ต.ท.วันชนะ กล่าวต่อว่า ต่อมาในช่วงเช้าวันที่ 13 ก.ย. เจ้าหน้าที่จึงไปขอหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ

เลขที่ จ 623 ลงวันที่ 13 ก.ย. 2554 เพื่อจับกุม น.ส.นวลศิริ และแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังอำพรางซ่อนเร้นซากศพ จากนั้นได้ส่งตัวให้ พล.ต.ต.ชนาภัทร เชยสมบัติ ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.เจษฎา ใยสุ่น รอง ผบก.ตม.6 ดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเวลา 17.30 น. พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ณัฐนันท์ นานาสมบัติ ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ควบคุมตัว น.ส.นวลศิริ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางความสนใจของชาวบ้านที่ทราบข่าว.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ตร.100นายจู่โจมบ่อนเตาปูน แต่เข้าไม่ได้ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ตำรวจนำกำลังเข้าตรวจค้นที่ตั้งของบ่อนเตาปูน แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ชาวบ้านไม่ให้ความร่วมมือ

พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ในฐานะรักษาการ ผู้กำกับการ สน.เตาปูน พร้อมกำลังกว่า 100 นาย นำหมายศาลแขวงพระนครเหนือ เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 269 และ 281 ถนนเตชะวนิช ตรอกข้าวสาร เขตบางซื่อ ของนายณรงค์ พึ่งวัน หลังพบเป็นที่ตั้งของบ่อนเตาปูน ซึ่งรายล้อมไปด้วยบ้านเรือนประชาชนจำนวนมากและเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าตรวจค้น

พ.ต.อ.เจริญ ยืนยันแม้วันนี้จะเข้าตรวจค้นไม่ได้ จึงสั่งการให้ตำรวจเฝ้าประจำทางเข้าออกรวม 6 จุด ตลอด 24 ชั่วโมง กดดันไม่ให้มีการเข้าไปเล่นการพนันได้โดยเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปัจจุบันไม่มีการเปิดให้เล่นแล้ว เพราะจำนวนคนที่เข้าออกมีน้อยมาก

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ขอหมายค้นรวม 3 จุด ประกอบด้วย ลานจอดรถ ตรอกมาลัย ซึ่งเชื่อมต่อไปถึงบ้านที่คาดว่าเป็นที่ตั้งตัวบ่อน แต่ศาลไม่อนุญาตเพราะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล แต่ศาลอนุญาตให้เข้าค้นได้เพียงบ้านที่คาดว่าเป็นบ่อนเท่านั้น. - สำนักข่าวไทย


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ชาวจีนคลั่งขวานจามเด็กผู้ใหญ่ดับ6 </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>แม้ทางการจีนจะเข้มงวดป้องกันแล้วก็ตามที แต่เหตุสลด'เกษตรกร'ใช้ขวานก่อเหตุไล่จามจนมีผู้เสียชีวิตล่าสุดก็ยังคงเกิดขึ้น!


14 ก.ย.54 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายหวัง ฮองปิง เกษตรกรชาวจีนวัย 30 ปี ใช้ขวานไล่จามผู้คน ในเมืองกงยี มณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของจีน ส่งผลให้เด็ก 2 ราย และผู้ใหญ่ 4 ราย เสียชีวิต เหยื่อขวานทั้งหมดกำลังเดินมุ่งหน้าไปยังโรงเรียนอนุบาลต่งซิง ที่อยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุเท่าใด แม้ทางการจีนได้สั่งเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยรอบสถานศึกษาแล้ว แต่ก็ยังเกิดเหตุขึ้นบ่อยครั้ง โดยมากเป็นผู้มีปัญหาทางจิต รวมทั้งเกษตรกรมือขวานที่ก่อเหตุล่าสุด


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>กทม.-ปริมณฑล-ตอ.ฝนลดเหลือร้อยละ40ของพื้นที่ เหนือ-อีสานฝนยังตกหนักบางแห่ง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 15 กันยายน 2554 ดังนี้

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังมีฝนเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางพื้นที่

สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเลย บึงกาฬ หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี นครพนม และสกลนคร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง มีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> ยอดบริจาค"รวมพลังไทย ช่วยภัยน้ำท่วม"กว่า300ลบ. </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
หลังจากที่รัฐบาลได้จัดงาน"รวมพลังไทย ช่วยภัยน้ำท่วม" ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัสน์เมื่อคืนที่ผ่านมา

ล่าสุดสรุปยอดเงินบริจาคจากผู้บริจาคทั้งหมด 3,441 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 363,039,492.25 บาท

โดยผู้ที่บริจาคมากที่สุดคือ ตัน ภาสกรนที ในนามบริษัม ตันไม่ตัน บริจาคเงิน 40 ล้านบาท รองลงมาคือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ซ30ล. บริษัทไทยเบฟเวอเรจ 30 ล้านบาท และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและครอบครัว 1 ล้านบาท



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คำต่อคำ : “สนธิ” วิเคราะห์มุมอับการเมืองไทย สู่จุดดับประเทศ</TD><TD vAlign=baseline align=right width=102></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=40><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>14 กันยายน 2554 23:30 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
“สนธิ” ฉายภาพปัญหาเศรษฐกิจโลก ระบุการเงินสหรัฐฯ ตก แนวโน้มชักดาบเจ้าหนี้สูง ไทยรับกรรมที่เดินตามก้นฝรั่ง ชี้ตั้งกองทุนมั่งคั่งไม่ใช่ทางออกปัญหา แนะสร้างหลักประกันสมทบเงินเข้ากองทุนฯ-ยึดหลักพอเพียง อัดการเมืองไทยมี ปชต.เพื่อคนบางกลุ่ม แนะทำใจหากประเทศต้องล่มสลายก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลง บอก “มันก็เป็นของมันอย่างนี้แหละ”

เติมศักดิ์ - สวัสดีครับ คนเคาะข่าว พุธที่ 14 กันยายน 2554 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคงจำได้นะครับ รายการนี้ โดย อ.ปานเทพ ได้มาทบทวนความจำว่าด้วยคำเตือนและการวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองจากผู้มาก่อนการ ซึ่งก็ได้รับการพิสูจน์แล้วจากเหตุการณ์ปัจจุบันในหลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้นว่า การวิเคราะห์ การทำนายคาดการณ์นั้นมีความแม่นยำเพียงใด ซึ่งก็เกิดจากเหตุ ปัจจัยหลายๆ อย่าง

วันนี้ อย่างที่บอกกันไว้ล่วงหน้าว่าเราจะกลับมาวิเคราะห์สถานการณ์โลก เชื่อมโยงกับสถานการณ์ในประเทศ เพื่อหาคำตอบว่าเรากำลังจะเผชิญกับอะไร ทั้งในแง่ของโลก และบ้านเมืองในประเทศเรา และเราเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้าอย่างไรกับวิกฤตโลก วิกฤตไทย ทั้งในแง่การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งแวดล้อม กับแขกรับเชิญพิเศษวันนี้ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ครับ

สนธิ - สวัสดีครับคุณเติมศักดิ์ สวัสดีครับคุณผู้ชม

เติมศักดิ์ - ก่อนจะไปถึงวิกฤตการเมืองในบ้านเราที่ทำห่อเกี่ยวกันทั้งประเทศ ไปมองโลกกันก่อนดีกว่าไหมครับ ว่าวันนี้คุณสนธิมองวิกฤตโลกที่เกิดขึ้นนี้อย่างไร มันจะนำพาโลกนี้ไปทางไหนครับ

สนธิ - เมื่อสักครู่ก่อนเข้ารายการ ผมคุยกับคุณเติมศักดิ์ไปบ้าง ผมมีความเชื่อส่วนตัว ผมคิดว่าท่านผู้ชมหลายท่านก็อาจจะบอกว่าคุณสนธิ คุณไม่ได้เรียนเศรษฐศาสตร์ คุณจะมารู้เรื่องอะไร เหมือนกับคนเคยเล่นกีฬามั้ง อัตราเฉลี่ยของการทำนายค่อนข้างจะแม่นอยู่แล้ว ผมยังเชื่อว่าการคาดคะเนของวันนี้ก็คงจะเเม่นเหมือนเดิม ผมมองว่าประเทศไทยในขณะนี้อันตรายและน่ากลัวมาก ที่น่ากลัวไม่ใช่เพราะว่าทักษิณ ชินวัตร จะกลับมา สำหรับผมแล้วทักษิณกลับไม่กลับไม่มีความหมาย ทำไมถึงไม่มีความหมาย เพราะว่าในระบบการเมืองปัจจุบัน กลับไม่กลับประเทศไทยเจ๊งแน่นอน มันรองรับไม่ได้กับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในโลกนี้ ประเดี๋ยวผมจะพูดถึงโลกแล้วผมจะโยงกลับเข้ามาถึงว่า อะไรบ้างที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลง

วันนี้เรามีระบบการเมืองที่ก้าวไม่ทันโลก โลกวันนี้อยู่ในสภาวะที่ โครงสร้างขณะนี้จำเป็นต้องมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก แต่โลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกทางตะวันตกยังไม่กล้าจะเปลี่ยนแปลง วิกฤตการเงินของ คราวที่แล้วที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ในขณะนี้เขาบอกจบแล้ว แต่มันเหมือนแผ่นดินไหว มันยังมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกเยอะ

เติมศักดิ์ - หลายระลอก

สนธิ - หลายระลอกครับ อาฟเตอร์ช็อกตอนนี้ วันนี้ คุณเติมศักดิ์ ถ้าคุณอ่านข่าว และท่านผู้ชมที่ติดตามข่าวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผมติดตามอยู่ตลอดเวลา ผมไม่ได้ว่างเว้นเลยนะครับ ผมดูข่าวทางตะวันตกเขาเสนอมายังไง ผมดูข่าวทางตะวันออก เขาเสนอมายังไง และผมดูข่าวในประเทศนั้น นี่คือข้อดีของเทคโนโลยีทางสื่อสารมวลชนทุกวันนี้นะ ถ้าเราหมั่นสนใจนิดหนึ่ง แล้วมาเปรียบเทียบ

คุณเติมศักดิ์ ถ้าเราดูประเทศยุโรป วันนี้พันธบัตรกรีก ประเทศกรีก มีมูลค่ายังสู้พันธบัตรของปากีสถานไม่ได้ หรืออัฟกานิสถานไม่ได้ ตลกมั้ย ตลกมาก เมื่อเราพูดถึงกรีก เราพูดถึงประเทศที่มีการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวเข้าไปมหาศาล มีความเจริญ มีรายได้จากการท่องเที่ยวที่สูงมาก และก็เป็นส่วนหนึ่งของยุโรป เป็นส่วนหนึ่งของอียู แต่วันนี้กรีกล่มสลายหมด และกรีกนี่เป็นตัวอย่างที่สำคัญที่สุด เป็นตัวอย่างที่สำคัญที่สุดที่สะท้อนให้เห็นความล้มเหลวของระบบเศรษฐกิจและระบบการเงิน ที่บรรดานักการเงิน นักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลก โดยเฉพาะโลกตะวันตก พยายามที่จะผลักดันให้มันเกิดขึ้น ทุกวันนี้สิ่งท่มันเกิดขึ้นในทุกวันนี้มันเป็นผลพวงมาจากการปลดแอก ปลดตะขอในการผูกมัดเงื่อนไขของระบบการเงินของธนาคาร สมัยก่อนแบงก์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบงก์ทางตะวันตก อเมริกาเป็นต้นเหตุตัวแรกทีพูด ไม่สามารถทำอะไรเกินไปกว่าการปล่อยเงินกู้ รับเงินฝาก และขณะเดียวกัน ทำธุรกรรมทางการเงินเล็กๆน้อยๆ

นายอลัน กรีนสแปน ซึ่งเป็นอดีตประธานเฟด หรือประธานแบงก์ชาติของสหรัฐฯ ปลดแอกตรงนี้ออกหมดเลย แล้วบอกว่า จากนี้ไปธนาคารในอเมริกาสามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเงินกู้ให้เล่นหุ้น ไม่ว่าจะทำสินเชื่อทางด้านรถยนต์ ไม่ว่าจะทำในเรื่องของตลาดอนุพันธ์ล่วงหน้า หรือไม่ว่าจะตั้งบริษัทลูกออกไปค้าเงินตราต่างประเทศ ทำได้หมด ครอบจักรวาล เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดเหตุนี้ขึ้นมา ลักษณะของการเพิ่มพูนผลผลิตทางการเงิน มันไม่เหมือนลักษณะการเพิ่มพูนผลผลิตทางการเกษตร หรืออุตสาหกรรม ถ้าสมมติว่าเรามีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่โรงหนึ่ง เราบอกว่า เราจะเพิ่มผลผลิตทางโรงงานอุตสาหกรรม เราก็สร้างสายพานใหม่ขึ้นมา เราสั่งซื้อวัตถุดิบขึ้นมา เราสร้างโรงงานใหม่ขึ้นมา แล้วเราก็จ้างคนเข้ามาคอยยืนกุมสายพานให้ของออกมาเรื่อยๆเท่ากับว่าเพิ่มจาก 3 เส้น มาเป็น 4 เส้น 5 เส้น 6 เส้น จับต้องได้ เป็นภาคการผลิตจริง หรือการเกษตร เราต้องการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เราก็ซื้อจำนวนไร่มากขึ้น ใส่ปุ๋ยเข้าไป ทำแปลงเพิ่มเติมขึ้น สิ้นฤดูกาลเราก็จะมีข้าวมากขึ้นอีกประมาณ 30% เพิ่มอีกสัก 2,000 เกวียน 500 เกวียน มีผลหมากลากไม้เพิ่มหมื่นเข่ง แต่เพิ่มผลผลิตทางการเงิน มันเพิ่มด้วยการกดปุ่ม กดปุ๊บแลกเปลี่ยนเงินตรา กดปุ๊บซื้อหุ้นขายหุ้น กดปุ๊บเล่นตลาดอนุพันธ์ กดปุ๊บรับหนี้ก้อนนี้มาแล้วขายต่อด้วยการกดปุ่มให้อีกเจ้ารับซื้อไปแล้วกินส่วนต่างย่อยๆ จำนวนส่วนต่างย่อยๆ เมื่อคุณปริมาณเป็นล้านๆ เท่าแล้วก็เป็นกำไรมหาศาล

เพราะฉะนั้นการเพิ่มผลผลิตทางการเงิน คือการขยันกดปุ่ม ขณะเดียวกัน ขยันสร้างนวัตกรรมทางการเงินบ้าๆ บอๆ เกิดขึ้นมา นี่คือข้อเสียของโลก เพราะว่าไม่มีอะไรที่จับต้องได้เลยแม้แต่นิดเดียว แล้วมันไปกินแรงของผลผลิตภาคการเกษตร กินแรงของผลผลิตภาคการอุตสาหกรรม สมมุติโรงงานอุตสาหกรรมมี 10 โรง 5 โรงเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์ กลายเป็นเหยื่อของการกดปุ่มของคนเล่นทางการเงิน แถววอลสตรีท แถวนิวยอร์ก

ด้วยเหตุตรงนี้มันเลยเกิดความโลภ เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เท่าที่ผมอ่านหนังสือ และศึกษาการล่มสลาย ผมสรุปได้สั้นๆ นี่คือลักษณะทุนนิยม ไม่จำเป็นต้องพูด ทุนนิยมสามานย์ หรือทุนนิยมไม่สามานย์ เพราะวันนี้ทุนนิยมไม่มีสามานย์หรือไม่สามานย์ เพราะว่ามันสามานย์เท่ากันหมดแล้ว แบ่งไม่ได้ เพราะทุนนิยมตั้งอยู่บนความโลภ ถ้าคุณไม่โลภคุณเป็นทุนนิยมไม่ได้

เติมศักดิ์ - ทุนนิยมมีความสามานย์ในตัวเอง

สนธิ - คำว่า ทุนนิยม สามานย์หมด ผมยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ คุณดูธนาคารที่อเมริกามันโลภมากมันเลยล่ม พอมันล่มสลายแล้ว รัฐบาลอเมริกันต้องไปอุ้ม ไม่กล้าปิด เมื่ออุ้มแล้ว อุ้มด้วยวิธีไหน ก็เอาเงินของประชาชน ถ้าเป็นอเมริกา ก็เป็นเงินที่ตัวเองพิมพ์ขึ้นมา ใส่เข้าไปในธนาคาร เพื่อหวังว่าธนาคารจะเอาเงินก้อนนี้ไปช่วยคนซึ่งค้างการเช่าซื้อบ้าน ที่เกิดจากวิกฤตการณ์ซับไพรม์ตอนนั้น แต่ปรากฏว่าธนาคารไม่เอาไปช่วยตรงนั้น ธนาคารกลับเอาเงินก้อนนี้ออกไปปล่อยให้นักลงทุน นักลงทุนก็เอาเงินก้อนนี้ ซึ่งเป็นต้นทุนราคาถูก ดอกเบี้ยถูก ส่งไปที่เมืองนอก ส่งมาที่ประเทศไทย ส่งมาที่ญี่ปุ่น ส่งมาที่เกาหลี ส่งมาที่เขมร ส่งมาที่ฮ่องกง ส่งมาที่จีน เพื่อมาเล่นหุ้น

เมื่อต้นทุนมันถูก เงินมันเข้ามาในประเทศมาก เงินท้องถิ่นที่นั่นก็จะแข็งขึ้น เงินบาทก็แข็งขึ้น จาก 34 บาท เหลือ 33 เหลือ 32 เหลือ 31 เหลือ 30 บางวันก็ลดเหลือ 29 บาทกว่า เมื่อเงินบาทแข็ง รอจังหวะ ก็กำไร 2 ต่อ ต่อหนึ่งจากหุ้นที่ตัวเองเล่น อีกต่อหนื่ง เมื่อเงินบาทมันอ่อนปั๊บ ก็สามารถจะแลกเป็นเงินบาท และกำไรเอาไป

เติมศักดิ์ - กำไรอัตราแลกเปลี่ยน

สนธิ - ทีนี้ มันเป็นกติกาของโลกที่ตะวันตกคิดขึ้นมา ทุกคนก็เล่นตาม คือประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าสงสารมาก แล้วคนไทยที่ไปเรียนจบเมืองนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรียนจบเศรษฐศาสตร์เมืองนอก แล้วคิดไม่เป็น เป็นคนที่น่าสงสารยิ่งกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเงิน นักเศรษฐศาสตร์ หลายคนที่ทำงานอยู่แบงก์ชาติ ทำงานอยู่ ก.ล.ต. ทำงานอยู่ตลาดหลักทรัพย์ หรือทำงานอยู่บริษัทฝรั่งที่เกี่ยวกับการเงินการทอง แล้วมีความรู้สึกว่า ถ้าคิดแบบฝรั่งแล้วมันเจริญก้าวหน้า คนพวกนี้น่าสงสารที่สุด เพราะว่าเราเป็นปลาตัวเล็กๆ เราชอบว่ายน้ำตามปลาฉลาม เรามีความรู้สึกว่านั่นเท่ห์ แต่เวลามันกิน เวลาฉลามมันกิน มันไม่ได้กินแบบประเภทเลือกกินปลาเล็กนี่ สังเกตหรือเปล่าเวลาฉลามมันกินปลา มันกินทั้งพวงเลยนะ ทั้งพวงเราก็โดนกินไปด้วย

ทีนี้ ผมถามคำหนึ่ง ในขณะนี้ผมมองดูเหตุการณ์แล้ว ทำไมทองคำมันขึ้น มันขึ้นมาตลอด คุณเติมศักดิ์ ที่มันขึ้นมาตลอดก็เพราะว่าคนไม่มีความเชื่อมั่นในเงินสกุลดอลลาร์ ถูกมั้ยครับ เงินดอลลาร์วันนี้ถ้าเทียบกันแล้ว ไม่ได้ต่างกับแบงก์กงเต็กเท่าไรนะ แทบจะไม่มีความหมายเลยในขณะนี้ เพราะถ้ามีความหมาย ทองคำไม่ขึ้นถึงขนาดนี้ แต่ก็ยังมีคนไว้ใจในเงินดอลลาร์อยู่ มีคนไม่รู้จะไปที่ไหน สมัยก่อนพอมีเงินเหลือ ประเทศใดมีเงินเหลือก็เอาเงินก้อนนี้ไปซื้อพันธบัตรอเมริกัน ให้ดอกเบี้ยเท่าไรก็จำยอม เพราะคิดว่ามั่นคงที่สุด

วันนี้ประเทศจีนเป็นเจ้าหนี้อเมริกันอยู่ประมาณ 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ

เติมศักดิ์ - ถือพันธบัตรเนี่ยนะครับ

สนธิ - พันธบัตร แต่ว่ามูลค่าของดอลลาร์ที่ตกไป ประเทศจีนหายไปแล้ว 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ จีนตอนนี้กำลังกลุ้มใจมาก จีนต้องการส่งออกดอลลาร์บ้าง เพราะฉะนั้นจีนถึงเร่งออกไปขยายงานที่ต่างประเทศ เอาเงินดอลลาร์ คือแบงก์กงเต็กที่ตัวเองฝากไว้กับอเมริกาเอาไปใช้ๆ ทีนี้เกมมันก็เริ่มเปลี่ยนแล้วสิ หลายคนก็มองว่า เอ๊ะ ถ้าอย่างนั้นแล้ว เรามาซื้อทองดีกว่า ซื้อทองเก็บเอาไว้ เพราะทองคำยังถือว่าเป็นอะไรปราการด่านสุดท้ายที่คุณอยากจะเก็บ

นักวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นตะวันตก หรือนักที่เรียน Phd เรียนอะไรก็ตามจากเมืองนอกเมืองนา ที่อยู่ทั่วโลก รวมทั้งในเมืองไทยด้วย ก็มองว่าทองคำเป็นปัญหาของอเมริกา ทองคำเดี๋ยวขึ้นแล้วมันก็ลง ไม่ลงแล้วครับจากนี้ไป ผมเคยทำนายทองคำเอาไว้เมื่อปี 2547-48 ว่าจะขึ้นตลอด แล้ววันนี้ก็ขึ้นไม่ผิด และผมเคยทำนายเมื่อต้นปี ว่าทองคำวันนี้จะต้องถึง 25,000 บาท หรือ 26,000 ก็ถึงเรียบร้อยแล้ว ผมจะทำนายต่อ

เติมศักดิ์ - ว่า?

สนธิ - ทองคำออนซ์หนึ่งตอนนี้ประมาณ 1,800 เหรียญสหรัฐฯ ผมจะบอกให้ว่า ภายในปีหน้าต้องเกิน 2,000-2,5000 และมีโอกาสขึ้นถึงออนซ์ละ 3,000 ทำไม เพราะว่าจิตวิทยาการซื้อทอง ฝรั่งไม่ค่อยชอบซื้อทอง แต่ขนาดไม่ค่อยชอบซื้อทอง อเมริกาก็มีทองคำมากที่สุดในโลกตอนนี้ มีอยู่ 8,000 ตัน ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของทองคำทั่วโลก ที่น่าสนใจคือตอนนี้จีนเริ่มมาซื้อทองแล้ว อินเดียเริ่มมาซื้อทองแล้ว แบงก์ชาติไทย ซึ่งดื้อและด้าน อวดดี ผมเคยบอกไว้ตั้งนานแล้วว่า เงินดอลลาร์ที่เราขายออก และเรามีสั่งสมมาทุกปี ปีละเท่านี้ๆ แทนที่จะไปซื้อพันธบัตรอเมริกา ไปซื้อทองคำมาเก็บเอาไว้ ไม่เชื่อ สนธิจะไปรู้เรื่องอะไร สนธิจบประวัติศาสตร์ อวดดี สู้ผมไม่ได้และวันนี้ ปีนี้ สั่งซื้อทองแล้วซิ ถ้าคุณดื้อจริงคุณดื้อตลอดซิ ประเทศชาติจะได้ฉิบหายไป ประเทศไทยก็ซื้อทอง มาเลเซียก็ซือ้ทอง ทองคำในสายตาคนเอเชีย ในสายตาคนทางภาคตะวันออกกลาง เขาถือว่าเป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูงมาก คุณไปดู ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม อารยธรรมมายา อารยธรรมเก่าๆ คุณจะเห็นทองคำทั้งนั้น ฉะนั้นทองคำเป็นสิ่งซึ่งมนุษย์จะต้องสั่งสมเก็บเป็นสมบัติตัวเองมาเป็นพันๆปีเเล้ว ในภาวะการซึ่งแบงก์ดอลลาร์กำลังจะกลายเป็นแบงก์กงเต๊ก ทองคำกลับมีมูลค่ามหาศาล แล้วมันมีมูลค่าในตัวเอง

คุณเติมศักดิ์ พรุ่งนี้ผมถามคำหนึ่ง คนก็จะบอกว่า คุณสนธิเป็นไปได้ ผมบอกว่าอเมริกาชักดาบหนี้ได้ไหม ผมบอกว่ามีโอกาสชักดาบสูง คุณเติมศักดิ์ อเมริกาติดหนี้โลก โลกคือว่า ติดหนี้ประเทศไทย ประเทศจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ที่มีดอลลาร์จากการค้าขาย และเอาเงินดอลลาร์ไปซื้อธนบัตรอเมริกา ติดอยู่ประมาณ 14 ล้านล้านเหรียญ ฟังดูก็เยอะ แต่เขาก็บอกว่า อเมริกากำลังออกมาตรการว่าภายใน 10 ปี ข้างหน้า ข้อตกลงระหว่างพรรคเดโมแครตกับรีพับลิกัน ว่าภายใน 10 ปี ข้างหน้าเขาจะลดยอดเงิน 14 ล้านล้านเหรียญ ให้เหลือเพียง 4 ล้านล้านเหรียญ เขาพูดได้ แต่อเมริกาลืมคิดไปเรื่องหนึ่ง แล้วคนที่วิเคราะห์ลืมคิดไปเรื่อง นอกจากเงินที่ติดหนี้ปัจจุบันนี้คนไปซื้อเป็นพันธบัตรรัฐบาล มันยังมีเงินที่ติดหนี้ประชาชนอเมริกัน เป็นการติดหนี้ระยะยาว เช่น สวัสดิการสังคมสงเคราะห์ โซเซียลซิคิวริตี้ สวัสดิการสุขภาพ บำนาญประชาชน เบ็ดเสร็จรวมหนี้ที่รัฐบาลอเมริกันต้องรับผิดชอบต่อไปในอนาคต 5 ปี 10 ปี ข้างหน้า เขาคำนวณออกมาแล้ว 140 ล้านล้านเหรียญ เมื่อมาติดหนี้ เมื่อคิดถึงหนี้ข้างในเขาติดในประเทศของเขา กับหนี้ข้างนอกแล้ว ผมถามว่า หนี้ในประเทศเขาแก้ได้ แต่หนี้นอกประเทศผมคิดว่า อเมริกาวันนี้ไม่ชักดาบก็เหมือนชักดาบ เพราะการที่ทำให้มูลค่าเงินดอลลาร์ตกหายไป 30 % เท่ากับชักดาบไปแล้ว 30 % สินค้าอเมริกาจะถูกมากในอนาคต คนก็จะเริ่มซื้อ แต่ของที่ซื้อจากอเมริกา ซื้อได้ไม่ค่อยมีอะไรมากมายนัก ซื้อเทคโนโลยีทางเครื่องบิน คุณจะซื้อสักกี่ลำปีหนึ่ง ไม่มาก อเมริกาต่างหากที่จะมีปัญหา สินค้า สมมุติว่า รถโตโยต้าคัมรี่ ตอนนี้ ถ้าในภาวะการณ์ที่แบงก์อเมริกาตกเหมือนแบงก็กงเต็ก คัมรี่ในอเมริกาต้องขายคันละแสนกว่าเหรียญ ถ้าคิดเป็นเงินไทยปัจจุบันคือ 3 ล้านกว่าบาท แต่ถ้าคิดเป็นเงินในอนาคต 5 ปี 10 ปีข้างหน้า อาจจะแค่ล้านบาทเอง ถ้าล้านบาทแสนกว่าเหรียญ เงินดอลลาร์กับเงินบาทก็เหลือประมาณดอลลาร์ละ 10 บาท

ทีนี้ถ้ากรีกเป็นอย่างนี้ เท่ากับยุโรปตอนนี้ซวดเซ แล้วไม่รู้จะเอาตัวรอดได้แค่ไหน อเมริกา 2 ทวีป ระหว่างอเมริกาเหนือกับยุโรป คือ 2 ทวีปซึ่งผูกกันเอาไว้แน่นในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ ก็เลยเกิดมีภาวะประเทศอื่นที่เกิดขึ้น เช่น บราซิล รัสเซีย จีน ประเทศพวกนี้เรียก Big County-BRICS มีบราซิล รัสเซีย อินเดีย ไชน่า (Brazil,Russia,India,China,South Africa) กลุ่มประเทศพวกนี้เริ่มรวย เพราะว่าตัวเองค้าขายได้แล้วตัวเองควบคุมปัญหาของตัวเองได้ ส่งออกที่อเมริกา อเมริกาอย่างไรก็ตาม ก็ยังเป็นตลาดที่ส่งออกมากอยู่ แต่ถ้าวันหนึ่งคนอเมริกัน วันนี้ตกงานเยอะที่สุดคนอเมริกัน คนหนุ่มอเมริกัน อายุ 22-32 ตกงานประมาณ 20% สูงมาก แต่ถ้าคิดทั้งประเทศ ตกงาน 9% ผมถามคำ วันนี้ในที่สุดแล้ว อเมริกันเป็นประเทศต้องพึ่งการตัดสินใจทางการเมือง การเมืองต้องพึ่งประชาชน ถ้าประชาชนบอก จะเลือกประธานาธิบดีที่เอางานกลับมาอยู่อเมริกา อะไรจะเกิดขึ้น สิ่งที่จะเกิดขึ้น คนตกงานมาก

คุณเติมศักดิ์ คนตกงานมากแล้วมาประท้วงกันในรัฐๆ หนึ่ง วุฒิสมาชิกไม่ได้รับเรื่องก็ตาย ก็ต้องเอาใจคนตกงาน ถ้าคุณเข้าไป คุณจะต้องหาทางจะเอาธุรกิจอเมริกันที่ไปลงทุนต่างชาติ ที่ตั้งโรงงานในเมืองไทย จีน เกาหลี เขมร ให้กลับมาตั้งโรงงานที่อเมริกา เพื่อลดปัญหาการว่างงาน เกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นคือการเริ่มปกป้องการค้าเสรี ทุกคนจะเริ่มตั้งกำแพง

เติมศักดิ์ - เริ่มเอาตัวรอดกันแล้ว

สนธิ - แล้วกำลังมีทิศทางไปทางด้านนี้อยู่แล้วในขณะนี้ ผมอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เขาพูดถึงการสงครามของอเมริกาจากเหตุการณ์ 11 กันยายน เขาไล่ให้ดูเลยว่า อเมริกาตั้งแต่ทำสงครามมา ไม่ใช่ย้อนยุคไกลด้วยนะ เมื่อเร็วๆ นี้ เพียงตั้งแต่ 11 กันยายน เข้ามาถึงปัจจุบัน อเมริกาใช้เงินไปแล้วประมาณเกือบ 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ มหาศาล ฉะนั้นอเมริกาทุ่มเงิน เสียเงินเสียทอง เสียเงินเสียทองไปกับสิ่งที่ไม่ได้สร้างผลผลิตให้ตัวเอง ถามว่าถ้าอเมริกาถอนเงินก้อนนั้นทั้งหมดกลับมา ที่อเมริกา อะไรจะเกิดขึ้น เพราะมันเป็นดาบสองคม

คมแรกคือ ถ้าคุณจะถอนเงินกลับมา คุณเซฟเงินใช่มั้ย แต่ว่าคุณไม่มี คุณไม่ได้เป็นนักเลงโตประจำโลก เมื่อคุณไม่ได้เป็นนักเลงโตประจำโลก ใครจะไปเคารพคุณล่ะ ถ้าคุณไม่ได้เป็นนักเลงโตประจำโลก จะมีใครไปซื้อพันธบัตรคุณหรือเปล่า ก็ไม่มีใช่มั้ย ซาอุดีอาระเบียก็ไม่เล่นกับคุณใช่มั้ย ไม่มีใครเล่นกับคุณ เมื่อไม่มีใครเล่นกับคุณ เท่ากับคุณยิ่งตกต่ำ เพราะฉะนั้นแล้วอเมริกาเหมือนกับเป็นนักเลงประจำซอย ถึงจะเป็นนักเลงยังไงก็ตาม แต่กลวง ไม่มีตังค์ แต่ใช้ตังค์ได้ก็เพราะไปเที่ยวหยิบยืมทุกคน ทุกคนกลัว ให้ยืม เพราะว่าตัวเองเป็นนักเลง เข้าใจหรือยัง คุณนึกออกหรือยังตอนนี้ ตอนนี้มันเป็นเขาเรียกว่าดาบสองคมแล้ว

อเมริกาขี่หลังเสืออยู่ ไม่รู้จะแก้ปัญหาตรงนี้ได้ยังไง ในขณะนี้ แล้วไอ้ปฏิวัติประชาธิปไตยที่อเมริกาอยู่เบื้องหลังทุกประเทศในตะวันออกกลาง ไม่ว่าจะเป็นอียิปต์ ไม่ว่าจะเป็นลิเบีย ไม่ว่าจะเป็นซีเรีย ที่กำลังจะเกิดขึ้น พวกต่างๆ เหล่านี้กำลังจะเป็นหอกเข้ามาแทงอเมริกาอีกทีหนึ่ง เพราะกลุ่มที่ปฏิวัติแล้วชนะเนี่ย หลายๆ กลุ่มขึ้นมา มันถูกแทรกด้วยกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่เป็นปฏิปักษ์ต่ออเมริกาทั้งสิ้น เป็นเพียงแต่ว่ายังไม่เสนอตัว ยังไม่ได้โผล่หน้าออกมา

เพราะฉะนั้นแล้ว วันนี้คุณดูตุรกี อียิปต์ กำลังทะเลาะอิสราเอล เพราะอิสราเอลไปยิงทหารอียิปต์ และไปยิงทหารตุรกีขึ้นมา ตุรกีไล่ทูตอิสราเอลกลับ อียิปต์ไล่ทูตอิสราเอลกลับ อียิปต์ถึงขนาดเกือบจะพังสถานทูตอิสราเอลในกรุงไคโร แปลว่าอะไร แปลว่าความตึงเครียดทางตะวันออกกลางกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แล้วปาเลสไตน์เรียกร้องขอตั้งประเทศแล้ว แทนที่จะเป็นแค่ปาเลสไตน์สเตท ขอเป็นคันทรีเลย อิสราเอลจะเอายังไง อิสราเอลจะยอมให้ปาเลสไตน์ตั้งประเทศหรือเปล่า อเมริกายังจะหนุนอาหรับ โดยสนับสนุนให้ปาเลสไตน์ทั้งประเทศ หรือจะวีโต้ไม่ให้ตั้ง ถ้าอเมริกาวีโต้ไม่ให้ตั้ง บทบาทที่อเมริกาหนุนหลังพวกลิเบีย พวกอียิปต์พวกนี้ก็เจ๊ง ไอ้พวกนี้ซึ่งมันซ่อนตัวผู้ก่อการร้ายอยู่ในกลุ่มผู้ปฏิวัติกบฎก็จะบอกว่า เห็นไหม อเมริกันสันดานก็เป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้นแล้วต้องหันหอกเข้าหาอเมริกาทั้งหมด

นี่คือพูดถึงการเมืองที่ไม่มั่นคง เอาล่ำนี่เราพูดถึงตะวันออกกลาง เรามาพูดถึงทะเลจีนตอนใต้ มันเป็นแหล่งขุมน้ำมันที่ใหญ่มาก ขุมน้ำมันทะเลจีนตอนใต้ มันมีส่วนคนที่เกี่ยวข้องคือใคร มีเวียดนาม มีจีน มีฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และญี่ปุ่นในบางส่วน ที่แบ่งเขตกันอยู่ ทะเลาะกัน หมู่เกาะสแปรตลีย์ ทั้งหลายที่มีเรื่องราวตลอดเวลาขณะนี้นี่ยังไม่นับบริเวณอ่าวไทยนะ มีไทย เวียดนาม มาเลเซีย เขมร ทั้งหมดนี้ คือเรื่องของพลังงานทั้งสิ้น ทะเลจีนตอนใต้ทำไมจีนต้องซื้อเรือบรรทุกเครื่องบิน ซื้อมาจากรัสเซียแล้วพัฒนาเพราะอาณาจักรของจีนกำลังเจริญเติบโต และไม่มีอาณาจักรไหนในโลกนี้ โดยที่ปราศจากกองทัพเรือที่เข้มแข็ง จีนมีกองทัพเรือที่เข้มเเข็ง แต่จีนมีปัญหาการเคลื่อนย้ายกำลังอาวุธที่มีพลานุภาพในการทำลายสูง มีวิธีเดียวที่ทำได้ คือ เรือบรรทุกเครื่องบิน

อเมริกามีเรือบรรทุกเครื่องบินอยู่หลายลำ 6 - 7 ลำ แต่ว่าในภะวะการตึงเครียดแบบนี้ ต้องอยู่ในเมดิเตอร์เรเนียน 1 ลำ เผลอๆ 2 ลำ อยู่ทางญี่ปุ่นทางเหนือ 1 ลำ อยู่ทางยุโรปอีก 1 หรือ 2 ลำ ฉะนั้นอเมริกาเองก็หมายความว่าตัวเองก็มีของกำลังจำกัด แล้วจีนก็เกิดขึ้น ฮิลลารี คลินตัน เดินทางไปเวียดนาม พูดในสุนทรพจน์ บอกว่าทะเลจีนตอนใต้ ไม่ใช่ของประเทศใดประเทศหนึ่ง เป็นน่านน้ำสากล ฮิลลารี คลินตัน กำลังด่าจีน บอกว่าที่จีนเข้าใจว่า ทะเลจีนตอนใต้เป็นของอเมริกานั้นเข้าใจผิด แท้จริงเป็นของใครก็ได้ พูดง่ายๆ ว่า จีนอย่ามาทำเป็นนักเลงโตแถวทะเลจีนตอนใต้ แล้วคุณเติมศักดิ์คิดว่า จีนเขาจะทิ้งทะเลจีนใต้ เขาทิ้งได้ไง เขาไม่ทิ้ง เพราะมันอยู่ในพื้นที่เกาะไหหลำ และไปในพื้นที่ที่มีผลประโยชน์ทางน้ำมัน เป็นความขัดแย้งตรงนี้ยังไม่จบ อเมริกาจะวางตัวอย่างไรกับความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ อเมริกาจะวางตัวอย่างไรกับความขัดแย้งทางตะวันออกกลางที่กำลังจะเริ่มรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง อาจจะถึงขั้นที่อิสราเอลประกาศใช้นิวเคลียร์ถล่ม เพราะคุณอย่าลืม อิสราเอลเหมือนประเทศเล็กๆ ถ้าเริ่มถูกประเทศอาหรับรอบๆด้านกดดันขึ้นมา เกิดบ้าขึ้นมาอีทำได้นะ แล้วคนยิวเป็นคนที่ตัดสินใจอะไรแล้วบ้าเลือดทุกที ไม่มีหยุด เพราะฉะนั้นคุณจะเห็นการเมืองที่ดูเหมือนจะมีสเถียรภาพ จริงๆ ไร้สเถียรภาพอย่างสิ้นเชิง คุณดูเศรษฐกิจของอเมริกัน ที่ขณะนี้การว่างงาน การตกงาน มากมายมหาศาล เงินยูโร อ่อนค่าลงไป ประเทศกรีกกำลังล้มละลายไปแล้ว ไอร์แลนด์ก็กำลังล้มละลาย โปรตุเกสก็กำลังจะล้มละลาย อียูกำลังไม่รู้จะรวมตัวกันได้อย่างไร กรีกในขณะนี้กำลังถอยจากการใช้เงินยูโรแล้ว มาใช้เงินตัวเองเพื่อเอาตัวเองรอดก่อน แล้วถ้าในอนาคตไอร์แลนด์ทำอย่างนี้ ถ้าในอนาคตโปรตุเกสทำอย่างนี้ แล้วหลายประเทศ อียูนี่ที่อยู่ได้จริงๆ อยู่ได้เพียงประเทศเดียว คือเยอรมนี และฝรั่งเศสอีกอันหนึ่ง เท่านั้นเอง นอกนั้นแล้วเป็นประเทศที่ไม่มีความหมายทั้งสิ้น เบลเยียมไม่มีความหมาย เนเธอร์แลนด์ไม่มีความหมาย ประเทศเล็กๆ ไม่มีความหมาย เหมือนสิงคโปร์กับไทย ทำนองนั้น

ผมถามต่อ เงินดอลลาร์เหมือนเงินกงเต็ก ทองราคาขึ้น อาหรับต้องการซื้อเอาไว้สะสม เพราะไม่แน่ใจว่าเงินเพทโทรลดอลลาร์ตัวเอง ที่ตัวเองมีอยู่เยอะ ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันแล้วขายออกไป มีเงินดอลลาร์มหาศาล จะทำยังไงที่จะเซฟการ์ด ก็ต้องซื้อทองเก็บเอาไว้ อินเดียล่ะ ก็ต้องซื้อทอง แขกนี่ชอบมาก ทอง เป็นที่ คือๆ แขกขโมยทอง เขาเรียกขนทองเถื่อนจากเมืองไทยเข้าอินเดีย โดนจับเป็นแถวเลยนะ สมัยก่อนผมยังจำได้เลย แขกเนี่ย คนอินเดียจะเดินทางเข้าประเทศอินเดีย แล้วส่วนใหญ่จะมีผ้านวมไปด้วย ผ้านวมจะให้ลูกหลานเยี่ยวเหม็นหึ่งเลย แต่ข้างในซ่อนทองเอาไว้ แล้วโดนจับกันเป็นแถวเลย

จีนก็สะสมทอง ไทยสะสมทอง มาเลเซียสะสมทอง อเมริกาก็ไม่มีทางเลือก ก็ต้องซื้อทองเหมือนกัน ยุโรปก็ต้องซื้อทอง แล้วผมถามคุณเติมศักดิ์ ทองมันไม่ขึ้นได้ยังไง คิดแค่ตรรกะธรรมดา

เติมศักดิ์ - จากดีมานด์นี่นะครับ

สนธิ - จากดีมานด์นี่ล่ะ มันจะขึ้นตลอด แต่มันก็จะมีลงอย่างนี้บ้าง ลงอย่างนี้บ้าง แต่มันลง 1 ล็อต 2 ล็อต แล้วมันก็จะขึ้น 1..2..3 แล้วก็ลง 1..2.. ขึ้น 1..2..3.. กราฟเมื่อลากสุดแล้วมันจะขึ้นตลอดเวลา

เติมศักดิ์ - เป็นขาขึ้น

สนธิ - เป็นทางขึ้นตลอดเวลา ผมฟันธงไว้ได้เลย เหมือนกับที่ผมฟันธงเมื่อปี 2547 ผมฟันธงตอนนั้นทองคำบาทละ 4,000-5,000 บาทเอง ว่าซื้อทองเก็บไว้ สะสมเอาไว้ แล้วหลวงตามหาบัว พ่อแม่ครูอาจารย์ ท่านไม่ได้เรียนเศรษฐศาสตร์ ท่านไม่ได้จบเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ เศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ท่านไม่ได้จบฮาร์วาร์ด ท่านจบแค่ ป.4 แล้วก็เป็นนักธรรมตรี แต่เวลาคนมาถวายเงินท่าน เอาดอลลาร์มาถวาย บอกว่าเอาทองมาดีกว่า ท่านรู้ได้ไง 10 กว่าปีกว่าที่แล้ว ฌาณของท่านนะครับ ด้วยเหตุนี้คุณจะเห็นได้ชัดว่า แล้วอาฟเตอร์ช็อกของการล่มสลายของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันการเงิน อเมริกาตอนนี้ แบงก์อเมริกา HSBC ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้แบงก์ ประกาศลดคนทั่วโลกประมาณ 30,000 คน เริ่มลดที่ฮ่องกงก่อน 3,000 คน

แบงก์อเมริกาเริ่มลดคน สถาบันการเงินเริ่มลดคนกันแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วสถาบันการเงินก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้มากน้อยแค่ไหน กติกาของการธนาคารเขามีกฎบัสเซิล มีบัสเซิล วัน บัสเซิล ทู บัสเซิล ธรี ทุนสำรอง วันนี้เริ่มใช้บัสเซิล ธรี แล้ว แล้วประธานของแบงก์มอร์แกน สแตนลีย์ มอร์แกน สแตนลีย์ ออกมาให้สัมภาษณ์อยากให้อเมริกาถอนตัวออกจากบัสเซิลเสีย การที่พูดเช่นนี้แสดงว่าสถานภาพตัวเองในการหาทุนเพิ่ม เกือบเท่า ศูนย์แล้ว

อเมริกา พอเศรษฐกิจตัวเองจะล่ม เจเนอรัล มอเตอร์ส จะล่ม เอไอเอ จะล่ม อเมริกาก็พิมพ์แบงก์ขึ้นมา แล้วก็ยัดเข้าไปๆๆ ฉะนั้นตัวเองพิมพ์แบงก์ได้ทุกเมื่อ แบงก์ตัวเองก็เลยมูลค่าตกไปเรื่อยๆๆ เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่ถือเงินดอลลาร์อยู่ จาก 10 ปีที่แล้ว มาถึงวันนี้ มูลค่าหายไปแล้ว 30-40 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเหตุนี้ มันพิสูจน์ชัดว่า ในขณะนี้สถานการณ์ทางการเงิน สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ มันเหมือนน้ำที่อยู่ในจาน มันไม่นิ่ง มันเคลื่อนที่ตลอดเวลา

ก็ขนาดโกลด์แมนแซคส์ ขนาดเลห์แมน บราเธอร์ เลห์แมน บราเธอร์ ยังเจ๊งเลย โกลด์แมนแซคส์ ก็เจ๊ง นี่คือพวกบริษัทวาณิชธนกิจที่คนในรัฐบาลชุดเพื่อไทย หรือรัฐบาลประชาธิปัตย์ เทิดทูน หรือคนในแบงก์ชาติ โอ๊ยพวกนี้บริหารการเงินเก่ง เวลาเราตั้งกองทุนมั่งคั่ง ก็เอาคนพวกนี้มาบริหาร ก็บริษัทพวกนี้มันทำให้โลกเจ๊ง แล้วคุณจะให้มันทำให้ประเทศไทยเจ๊งได้อย่างไร นี่คือเรื่องการเงิน เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องเสถียรภาพต่างๆ

มาอีกเรื่อง ภัยธรรมชาติ วันนี้ยังไม่ทันไร เราเห็นแล้วน้ำท่วมประเทศไทย มีใครพูดสักแอะไหม มีแต่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ กับสมเด็จพระนางเจ้าฯ เท่านั้นเอง ที่มัวแต่เหน็ดเหนื่อย วุ่นวายกับการส่งเงินไปช่วย จากการเอาถุงยังชีพไปช่วย รัฐบาลชุดของคุณยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากสั่งการให้ช่วย รัฐบาลชุดพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายค้าน เกิดขยันขึ้นมา ช่วยแข่งคุณยิ่งลักษณ์ เพราะไม่ต้องการให้คุณยิ่งลักษณ์ได้คะแนน แต่สมัยตัวเองเป็นรัฐบาลตัวเองไม่ได้ทำอะไรเช่นกัน

ประเด็นไม่อยู่ตรงนี้ ประเด็นอยู่ตรงไหน อยู่ตรงที่ว่า คนพวกนี้อยู่ในระบบการเมืองแบบนี้มีแต่ทำให้ชาติฉิบหายวายป่วง ผมเคยพูดตอนที่น้ำท่วมหาดใหญ่ ที่พวกเราลงไปช่วยคนหาดใหญ่กัน ที่ผมพูดผมเชื่อว่าคนใต้หลายคนดูอยู่ ผมคุยกับคนหาดใหญ่ บอกน้ำทะลักมาจากเขา 2 เส้นแล้วเข้าเมืองหาดใหญ่ ผมถามวิธีแก้ต้องทำแก้มลิงดักเอาไว้ใช่ไหม เขาบอกใช่ เมื่อทำแก้มลิงดักไว้แล้วน้ำจะไม่ลงมาหาดใหญ่ เพราะหาดใหญ่ลงไปแล้วท่วมหมด คราวที่แล้วท่วมถึงชั้น 2 ธุรกิจฉิบหายหมด คุณเติมศักดิ์ จากวันนั้นถึงวันนี้ จนถึงวันสุดท้ายที่พรรคประชาธิปัตย์อยู่เป็นรัฐบาล ไม่มี ส.ส.ใต้พรรคประชาธิปัตย์คนไหน คิดจะช่วยคนใต้ ไม่มี ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.สงขลา ส.ส.หาดใหญ่ ไม่เคยคิดเลยน้ำท่วมหาดใหญ่เพราะอะไร ต้องสร้างแก้มลิง ไม่มีการขยับทำ แล้วถ้าน้ำท่วม ฝนตกหนักอีกครั้ง หาดใหญ่จะท่วมเหมือนเดิม พัทลุงก็จะท่วม วันนี้พัทลุงก็ท่วม ท่วมหมด

ผมถามอย่าง ภัยธรรมชาติแบบนี้มันผิดปกติมั๊ย มันไม่ผิดปกติแล้วมันเป็นธรรมดาไปแล้ว ว่าทุกปีน้ำจะต้องท่วมเมืองไทยแบบนี้ เมื่อ 5 ปี 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยเจอแบบนี้ ไม่มี นอกจากฝนตกหนักจริงๆ ตกหนักที่เวียดนาม ตกหนักที่จีน แล้วน้ำค่อยๆ ไหลเซาะมาเรื่อยๆ ตกหนักที่เมืองไทย น้ำถึงจะท่วม เดี๋ยวนี้ฝนไม่ต้องตกหนักมันก็ท่วม พอถึงหน้าน้ำก็ท่วม นี่จะเข้าต.ค.แล้วนะ จะเข้า พ.ย.แล้วนะ จะเข้า ธ.ค.แล้วนะ คุณเติมศักดิ์คอยดู จะฉิบหายเพราะภัยธรรมชาติ นี่เฉพาะน้ำท่วมในประเทศไทย

แผ่นดินไหวล่ะ คุณดูญี่ปุ่น สึนามิคราวที่แล้วยังฟื้นฟูอะไรไม่ได้ แล้วญี่ปุ่นตอนนี้ เศรษฐกิจตัวเองยังจะเอาตัวเองไม่รอด กำลังคน อายุของคนในเอเชีย คนแก่มากกว่าคนหนุ่ม วัยที่น้อยๆ เริ่มมากไม่พอ

เติมศักดิ์ - วัยทำงาน

สนธิ - เริ่มลดน้อยลง เพราะฉะนั้นคุณจะเห็นว่า เฮอริเคน เข้าทางเหนือของอเมริกาก็ทำความเสียหาย หมดไปประมาณ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ภัยธรรมชาติที่จีน ตอนนี้ภัยพิบัติมันเกิดขึ้นทั่วโลก ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลก เสถียรภาพทางการเงิน กระทั่งการเมืองที่พร้อมจะรบกันอีกครั้งหนึ่งได้ทุกเมื่อ เสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและคาดเดาอะไรไม่ได้ เพราะว่าขณะนี้ถ้าทายไม่ผิด ไม่เกินสิ้นปีนี้จะมีธนาคารใหญ่ๆ หลายแห่งในอเมริกาจะต้องล่มสลายอีกครั้่งหนึ่งหลังจากที่ล่มสลายแล้ว นี่คืออาฟเตอร์ช็อก ภายในปีนี้ หรือเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไม่เกินเดือน มิ.ย.หน้า ต้องล่มอีก หลังจากล่มมาแล้วครั้งนึงแทนที่จะปล่อยให้ล่มแล้วกู้กันขึ้นมาใหม่จากศูนย์ ไม่เอาเงินเข้าไปยัด พวกธนาคารก็แฮปปี้ซิ ผู้บริหารก็แฮปปี้ เงินก้อนนั้นแทนที่จะมาแก้ไขปัญหาหนี้ของตัวเอง เพราะการแก้ปัญหาหนี้ของตัวเองนั้นก็คือ การยอมรับว่าต้องขาดทุน ไม่ยอม แต่ต้องการจะเอาไปถมเพื่อทำกำไรมากขึ้นเพื่อเอากำไรมาลดขาดทุน นี่คือวิธีคิดของคนที่อยู่ในระบบทุนนิยม

เศรษฐกิจ การเงิน การค้า ภัยธรรมชาติ ภัยทางการเมือง สงคราม คือกติกาใหม่ของโลกในขณะนี้ที่แต่ละจุดพร้อมจะระเบิดขึ้นตลอดเวลา เมื่อเรามาดูอย่างนี้แล้ว เราหันมามองดูเมืองไทย

เติมศักดิ์ - จากที่คุณสนธิวิเคราะห์ ทั้งเรื่องวิกฤต ความไร้เสถียรภาพ ภาวะโกลาหนที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เรื่องความมั่นคง เรื่องสงคราม เมื่อเป็นเช่นนี้สถานการณ์ในไทย เราจะรับมือ เราจะต้องเผชิญหน้ากับอะไรบ้างจากผลสะท้อนที่ตามมา สักครู่กลับมาสนทนากันต่อ

เติมศักดิ์ - กลับมาคนเคาะข่าวช่วงที่ 2 นะครับ เมื่อช่วงที่แล้วคุณสนธิได้เล่าภาพรวมของโลก ภาวะโกลาหล ภาวะที่เรียกว่าล่มสลายทุกด้าน การเมือง เศรษฐกิจ สงคราม แนวโน้ม ที่จะเกิดสงครามใหญ่ สิ่งแวดล้อม เมือ่มองมาที่บ้านเรา เมื่อเป็นส่วนหนึ่งของโลก ผลกระทบที่ตามมาที่เราจะต้องเผชิญคืออะไรครับ

สนธิ - ที่มันมีคือว่า ผู้บริหารประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนักการเมือง ยังไม่เข้าใจประเด็นต่างๆเหล่านี้ นอกจากไม่เข้าใจแล้ว ยังคิดแก้ปัญหาประเทศชาติด้วยวิธีเดิมๆ ผมถึงบอกวันนี้ให้คุณทักษิณกลับมา ให้ 10 ทักษิณ 20 อภิสิทธิ์ ก็แก้ปัญหาประเทศชาติไม่ได้ ตราบใดที่ระบบการเมืองยังเป็นอย่างนี้ ถามว่าผมเดือดร้อนไหม คุณทักษิณจะต้องกลับมา ผมบอกว่า ถ้าเขากลับมาเพราะว่ามีการพระราชทานอภัยโทษเขา ซึ่งจริงๆแล้วคือการพระราชทานอภัยโทษได้ ประชาธิปัตย์เป็นคนวางรากฐานเอาไว้ให้

ผมมองข้ามคุณทักษิณเอาไว้แล้ว ผมมองว่า คุณทักษิณกลับมา หรือ เพื่อไทยงวดนี้เป็นรัฐบาลประเทศชาติก็เจ๊ง ประชาธิปัตย์เป็นก็เจ๊ง เจ๊งตรงไหนรู้ไหมครับ เจ๊งเพราะว่าคนพวกนี้ไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้จักว่าประเทศไทยกำลังได้รับผลกระทบจากประเทศรอบด้าน สิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาลมโหฬาร เอาง่ายๆแค่แบงก์ชาติ ถ้าเพิ่งคิดออกวันนี้ ว่ามีเงินดอลลาร์เหลือแล้วต้องซื้อทองทิ้งเอาไว้มั่ง แสดงว่าประเทศเราไม่มีความหวังแล้วในเรื่องระบบการเงิน หวังอะไรไม่ได้แล้ว

เมืองไทยต้องการการปฏิรูปอย่างยิ่งใหญ่ ที่น่าเสียดายที่สุดคือว่า ในสภาวะเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การเงิน ที่เป็นในโลกนี้ เมื่อเรามามองย้อนกลับไปจริงๆแล้ว การรู้จักพอเพียงกลับเป็นคำตอบที่ดีที่สุด วันนี้ถามว่าควรจะตั้งกองทุนมั่งคั่งไหม ไม่ควร เพราะว่าความไม่มั่นคง ความไม่แน่นอนของโลก คุณไปตั้งทำไม คุณจะไปลงทุนทีไหน ผมถามซิ คุณจะไปบริหาร เอาเงินไปลงทุนที่ไหน คุณบอกว่าจะตั้งกองทุนมั่งคั่ง คุณเอาไปซื้อกิจการ ซื้อบ่อน้ำมัน คุณไปซื้อแล้วผมถามว่า คุณซื้อแล้วใครทำ คุณไปซื้อนี่คุณเป็นลูกไล่เขาใช่ไหม คุณไปซื้อนี่คุณต้องการไปร่วมทุนกับเขาใช่ไหม และในที่สุดแล้วไอ้คนซึ่งมีอำนาจตัดสินใจไปซื้อก็ได้ผลประโยชน์จากการตอบแทนในค่าคอมมิชชั่นกลับมา เขาคิดแค่นี้ วันนี้ภาวะการเศรษฐกิจซึ่งไม่มั่นคง ที่มีอัตราเสี่ยงสูง แทนที่จะตั้งกองทุนมั่งคั่ง ควรจะเพิ่มความมั่งคั่งให้กองทุนมากขึ้น

หมายความว่าพยายามลดค่าใช้จ่าย ไม่ใช่มาจับจ่ายให้สอยแบบนี้ ทำเพื่อหาเสียงเท่านั้นเอง และที่ผมพูดนี่ไม่ได้ว่าพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวนะ ประชาธิปัตย์ก็ทำ ทำกันหมด เพราะฉะนั้นพวกนี้เป็นนักการเมืองที่ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่ได้คิดเพื่อส่วนรวม ไม่ได้คิดเพื่อชาติบ้านเมือง คิดอยู่อย่างเดียวจะทำอย่างไรให้ประชาชนมาเพื่อลงคะแนนเสียงให้ตัวเองได้คะแนนเสียงมากขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อดูเนื้อหาสาระแล้ว ประชาธิปัตย์กับเพื่อไทย สันดานเดียวกัน ผมเคยเปรียบเทียบพรรค 2 พรรค พรรคเพื่อไทย เปรียบเสมือนว่าอยู่ในห้องๆหนึ่ง เจอผู้หญิงคนหนึ่ง สวย พรรคเพื่อไทยต้องการจะข่มขืนผู้หญิงคนนั้น ต้องการมีเพศสัมพันธ์ไม่คิดอะไรเลย ก็คือถอดเสื้อถอดผ้า เดินเข้าไปเลย ดิบๆเลย พรรคประชาธิปัตย์คือคนที่ใส่เสื้อนอกเดินไปโค้งผู้หญิงก่อนแล้วก็จูบมือแบบฝรั่งแล้วค่อยๆเติ้นวอลส์ไปเรื่อยๆ ระหว่างเต้นไปเรื่อยๆค่อยๆถอดกระโปรงผู้หญิง แล้วตัวเองก็ถอดกางเกง ในที่สุดตัวเองก็สมสู่ผู้หญิง เหมือนกัน ตอนจบก็คือ ประชาชนคือผู้หญิง เจ็บตัวทั้งคู่ โดนข่มขืนเหมือนกัน เพียงแต่ว่าคนไทย สันดาน ไหนๆจะโดนข่มขืนแล้ว พูดดีๆหน่อยแล้วจะยอมให้ข่มขืน ซึ่งมันไม่ใช่ ประเด็นคือ นักการเมืองมาข่มขืนประชาชน นักการเมืองควรจะทำงานให้ประชาชน ทุกอย่าง แต่การทำงานเช่นนี้ในสภาวะแบบนี้มันทำไมได้ เพราะระบบการเมืองไม่ให้ ผมยกตัวอย่างง่ายๆ วันนี้คุณเติมศักดิ์ไปดูกำไรของบริษัทตลาดหลักทรัพย์ คุณเติมศักดิ์มองดูย้อนหลังไป 5 ปี คุณรู้ไหม ว่ากิจการใดกำไรมากที่สุด ต่อเนื่อง ธนาคาร ไม่ต่อเนื่องได้ไง ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินกู้กับเงินฝากมันสูงเหลือเกิน

ในข้อเท็จจริงสูงถึง 7 % หลายๆคนมีบวกๆ ที่ไม่ได้อยู่ในบัญชี ผมถามซิว่า มีประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยเคยมั้ย ที่เข้ามาแล้วบอกว่า ดำเนินการให้ลดส่วนต่างดอกเบี้ยให้เหลือไม่เกิน 3 % มีไหม ไม่มี เพราะมันอยู่ในระบบเดียวกันหมดไง ฉะนั้นผมถึงบอกว่ามันต่างกันตรงไหนระหว่างอภิสิทธิ์ กับยิ่งลักษณ์ ไม่ต่างกันเลย ถ้าจะต่างเขาต้องทำให้ดูซิ เพราะการลดสเปรตจาก 7 % เหลือ 3 % ถ้าคุณเซฟต้นทุนของประชาชนไป 4 % คือบริษัทใหญ่ๆอย่าง ปตท. ปูนซีเมนต์ไทย ซีพี พวกนี้ คุณไม่ต้องไปลดเขา เพราะเขากู้ในราคาที่ต่ำที่สุดอยู่แล้ว แต่ไอ้พวกเอสเอ็มอี พวกธุรกิจห้างร้าน เล็ก กลาง และขนาดใหญ่ และไม่ใหญ่จริงพวกนี้ เป็นการลด 4 % สมมติมีเงินกู้คนพวกนี้ใช้อยู่ประมาณ 4 ล้านล้านบาท ลดไป 4 % เท่าไหร่ แสนหกหมื่นล้านบาท คือเงินที่เหลือเข้ามาในระบบให้บริษัทพวกนี้ใช้จ่าย เอา 10 คูณเข้าไปได้เท่ากับ 1.6 ล้านล้านบาท เอา 10 คูณ เงินหมุนไง ก็จะมีเงินหมุนเพิ่มอีก 1.6 ล้านล้าน แต่ตรงนี้เขาไม่ทำ เพราะทำไม เพราะเขาอยู่ในระบบเดียวกัน ระบบที่ทุนเป็นใหญ่

เติมศักดิ์ - ความมั่งคั่งเลยไปตกอยู่กับธนาคาร

สนธิ - ความมั่งคั่งไปตกอยู่กับธนาคาร ส่วนนักการเมืองก็ไปแสวงหาความมั่งคั่งตรงส่วนต่างของสัมปทานกับงานต่างๆ ไม่ต่างกัน คุณบอกผมซิต่างกันตรงไหน ไม่ต่างกันเลยแม้แต่นิดเดียว

สมัยที่คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ น้ำท่วม ทั่วประเทศก็ท่วม อยู่ 2 ปีกว่า 7 เดือน ก็ยังท่วมอยู่เหมือนเดิม คุณยิ่งลักษณ์อยู่ น้ำท่วมก็ท่วม แล้วก็จะท่วมต่อไปอีกเหมือนเดิม เพราะว่าไม่มีการทำของพวกนี้ ทำไมถึงไม่มีการแก้ปัญหาน้ำท่วม คุณเติมศักดิ์เข้าใจหรือเปล่า เพราะการแก้ปัญหาน้ำท่วมเป็นโครงการระยะยาว

เติมศักดิ์ - มันเห็นผลช้า

สนธิ - ทำเงินไม่ทัน การแก้ปัญหาน้ำท่วมมันต้องพิจารณา ต้องขุดบ่อน้ำ ต้องศึกษาว่าแก้มลิงทั่วประเทศ เมืองไทยเนี่ย ที่ไหนบ้างที่มีน้ำท่วม พัทลุงถ้าน้ำท่วม ท่วมตรงไหน น้ำมายังไง มาจากตรงไหน ควรจะดักแก้มลิงตรงไหนบ้าง ตรงชลบุรี หรือตรงโคราช ที่เคยท่วม ตรงไหนบ้าง หาดใหญ่ตรงไหนบ้าง เสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรหรือไม่ควร เมืองไทยนี่มีอยู่ 2 อย่าง ถ้าน้ำไม่มากจนเกินไป ก็น้ำไม่มีใช้

เติมศักดิ์ - ไม่มีความพอดี

สนธิ - ไม่มีความพอดี ควรหรือไม่ควรที่จะให้ทุกหมู่บ้านขุดสระน้ำหมู่บ้านละ 1 สระ แล้วก็เชื่อมสระน้ำเข้าสู่คลอง เชื่อมคลองเข้าสู่แม่น้ำ ทำเป็นเครือข่ายของการดักเก็บน้ำเอาไว้ งานพวกนี้จะต้องเป็นงานซึ่งทุ่มเท และเป็นงานซึ่งจะต้องเข้าไปควบคุมและทำงาน และผลที่มันออกมามันไม่ใช่ 6 เดือน 3 เดือน มันต้องใช้เวลา 1-2 ปี ใครจะทำล่ะ คือไม่ได้ใช้จิตสาธารณะรวมมอง ทุกคนเข้าวันนี้ต้องการทำเงินในวันแรก เมคมันนี่ในวันแรกทันที เพราะฉะนั้นทุกคนก็เลยมองอะไรที่มันเป็นโครงการ ที่สามารถทำสำเร็จได้ ผมเคยพูดตลอดเวลาว่า ชาวไร่ชาวนาบ้านเรา ชาวเกษตรเนี่ย ซวยจริงๆ ซวยตรงไหนรู้มั้ย ซวยตรงที่ว่า เขามีความตั้งใจมากนะ คุณเติมศักดิ์ คนจนที่เป็นเกษตรกรเนี่ย มีใครบ้างไม่อยากรวย มีใครบ้างไม่อยากจะปลูกพืชผักผลไม้ แล้วราคาพืชผักผลไม้สูง ขายพืชผักผลไม้ไป เอาเงินมา มาใช้หนี้คืน แล้วยังเหลือก้อนหนึ่งที่จะให้ลูกใช้ ให้ตัวเองใช้ ซื้อข้าวของเข้าบ้าน หรือส่งลูกเรียนหนังสือ ทุกคนอยากอย่างนี้หมด แต่ทุกคนการศึกษาต่ำ ความรู้ในเรื่องเกษตร เทคโนโลยีทางการเกษตร เทคนิคทางวิชาการน้อย เขาก็เลยต้องพึ่งกรมวิชาการทางการเกษตร

ไอ้กรมวิชาการฯ เนี่ย มันทำอะไรรู้มั้ย มันไปคิดโครงการให้ชาวบ้าน ใครช่วยมันคิด รู้เปล่า บริษัทที่ขายของให้มัน

เติมศักดิ์ - อ๋อ ทุน

สนธิ - ช่วยมันคิด พอคิดเสร็จเรียบร้อยแล้ว มันก็เอาความคิดนี้ไปเสนออธิบดี อธิบดีส่วนใหญ่ บางกรม อธิบดีมันเป็นอธิบดีได้เพราะพ่อค้าเอาเงินให้รัฐมนตรี อธิบดีคนนี้ผมให้ 50 ล้าน ให้เขาเป็นอธิบดี อธิบดีเป็นก็ต้องเอากลับมาตอบแทนบุญคุณพ่อค้า พอคิดโครงการเสร็จ เสร็จเรียบร้อยแล้วอธิบดีก็ไปคุยกับรัฐมนตรี รัฐมนตรีเข้ามา หนึ่งมันอยากได้ผลงาน สองสำคัญกว่า มันอยากได้เงิน มันก็บอก ท่านครับมีโครงการการเกษตรแบบนี้ โครงการปลูกนี่ๆๆ ใช้เงินอย่างนี้ๆๆ ภายใน 3 เดือนเห็นผลอย่างนี้ๆๆ พอเสนอปั๊บ อธิบดี รองอธิบดี ส่วนใหญ่รองอธิบดีเป็นคนทำ เพราะรองอธิบดีหวังที่จะเป็นอธิบดี แล้วรองก็ไปคุยกับรัฐมนตรี รัฐมนตรีจะพอใจรองอธิบดีมากกว่า เพราะว่ารองอธิบดีมันเข้าถึงเนื้อได้ เข้าถึงตัวเองได้ เข้าถึงกระเป๋าได้ รัฐมนตรีจะเอาโครงการนี้เข้า ครม. พอเข้า ครม.เสร็จ เงินเอาที่ไหน เงินไม่มี ใช้เงินเกษตรกร ให้เกษตรกรไปกู้ ธ.ก.ส. ครม.ก็มีมติให้ ธ.ก.ส.ปล่อยเงินกู้ให้กับชาวไร่ชาวนาในโครงการเช่นนี้ ในจำนวน 1 พันล้าน 1.5 พันล้าน 2 พันล้าน ธ.ก.ส.รับคำสั่งรัฐบาลมาก็ปล่อยเงินกู้ชาวนา เกษตรกรซื่อ ใส บริสุทธิ์ ดีใจ นักวิชาการบอกว่า ลุงปลูกอันนี้นะ เลี้ยงวัวอันนี้นะรับรองภายใน 3 เดือนจะมีนมออกมา จะเอาวัวไปขายก็ได้ แล้วได้กำไรอย่างนี้ โอ๊ยพ่อเจ้าประคุณ ดีๆ จะได้ลืมตาอ้าปากซะที เกิดอะไรขึ้น คือว่า โครงการล้มเหลวเพราะไม่มีการทดลอง ข้อบกพร่องมันเยอะ แล้วจบลงด้วยรัฐมนตรีได้เงิน รองอธิบดีได้ตำแหน่ง พ่อค้าขายของได้ แต่หนี้ตกไปอยู่ที่เกษตรกร แล้ว ธ.ก.ส.ไปไล่บี้ฟ้องร้องเกษตรกร ยึดที่นา นี่ไงคุณเติมศักดิ์ นี่คือระบบการเมืองยุคปัจจุบัน

เติมศักดิ์ - เพราะการเมืองต้องการเข้ามาถอนทุน

สนธิ - ถูกต้อง เมื่อการเมืองยุคปัจจุบันเป็นแบบนี้ ท่ามกลางรอบๆ ประเทศมีความไม่แน่นอนอย่างนี้ ผมถามคุณซิว่า รัฐบาลจะอยู่รอดได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้ วันนี้กระทรวงการคลังคิดง่ายๆ คุณธีระชัยแกคิดง่ายๆ วันนี้แกเห็นชัดว่ากระทรวงการคลัง รัฐบาลไทยต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับกองทุนฟื้นฟู ปีละ 6 หมื่นล้านบาท เงินกองทุนฟื้นฟูก้อนนี้ก็คือเงินซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยเอาไปช่วยสถาบันการเงินแล้วผิดพลาดเป็นหนี้ ประมาณกี่ล้านล้านไม่รู้ ต้องจ่ายดอกปีละ 6 หมื่นล้าน ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ต้องการรับผิดชอบก็ให้กระทรวงการคลังรับผิดชอบ คุณธีระชัยอยากจะเอาเงินก้อนนี้ออกมาใช้ฟรีไม่ได้ก็เลยต้องหาทางเอาเงิน ล้วงเงินคงคลังของหลวงตา เพื่อเอามาชดใช้ตรงนี้ เพื่อจะไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ตัวเองก็จะได้มีงบประมาณเหลือปีละ 6 หมื่นกว่าล้าน จะได้เอาไปถลุงแท็บเล็ตแจกทุกหมู่บ้าน 6 หมื่นกว่าล้านจะได้เอาไปถลุงตรงนั้น ถลุงตรงนี้ ถามซิว่า ความคิดตรงนี้ถูกไหม ไม่ถูก ถามว่าใครคิดบ้าง คุณธีระชัยคิด ก่อนคุณธีระชัยมีใครคิด มี รัฐบาลชุดประชาธิปัตย์ก็คิดแบบนี้เหมือนกัน แต่รัฐบาลชุดประชาธิปัตย์วิชามารเยอะ เมื่อวิชามารเยอะ ใส่เสื้อนอกผูกไท พาผู้หญิงเต้นวอลซ์ ในที่สุดจะล้วงเงินก้อนนี้เหมือนกัน

ความคิด 2 ความคิดนี้เหมือนกัน เหมือนกันตรงที่ประชาธิปัตย์และเพื่อไทยเหมือนกัน ประชาธิปัตย์ก็คิดแบบนี้ ตอนนั้นเราออกมาค้านเรื่องเงินคงคลังหลวงตา ประชาธิปัตย์ไม่กล้าแตะ เพราะหลายคนลงนรกไปแล้ว เพราะหลวงตาท่านแช่ง ทุกวันนี้ใกล้ลงนรกหลายคนแล้ว ท่านแช่งไม่เคยผิด ท่านแช่ง 5 คนชื่ออยู่กับผมหมด ผมดูแต่ละคนฉิบหายหมดแล้ว ใกล้ฉิบหาย จะตายอยู่แล้ว บางคนเป็นมะเร็ง ผมพูดแค่นี้พอ แล้วผมจะบอกให้ คนที่หลวงตาแช่งพินาศฉิบหายทุกคนไม่มีหลุดพ้น ชื่อ 5 คนอยู่กับผมแต่ผมไม่พูด ผมรู้อยู่เพราะท่านเคยเล่าให้ผมฟังมีใครบ้าง

เอาละเขาคิดอย่างนี้ เขาบอกว่าเขาไม่แตะก็ได้เงินหลวงตา เงินคงคลังไม่แตะ แต่เอาเป็นว่าเอาเงินทุนสำรองมา สมมุติมี 100 บาท หักทุนสำรอง หักหนี้สินที่ทุนสำรองมีอยู่ ประเทศไทยมีอยู่ จากการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรา สมมุติเหลืออยู่ 60 บาท เขาจะเอา 60 บาทแบ่งออกมาครึ่งคือ 30 บาท เอามาตั้งเป็นกองทุนมั่งคั่ง ประชาธิปัตย์ก็คิดแบบนี้ คุณธีระชัยคิดเหมือนกัน เพียงแต่ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คุณพิชัยแกโฉ่งฉางไปหน่อย ขอให้เห็นใจผมเถอะ ผมจะถามพวกนักการเมืองที่พูดแบบนี้ ผมถามว่า ชีวิตคุณทั้งชีวิตคุณเคยทำบุญคุณอะไรให้ชาติบ้านเมือง ชีวิตหลวงตาทั้งชีวิต ท่านมีจีวร 1 ผืน รองเท้าแตะ แล้วท่านมีบาตรเก่าๆ กุฎิท่านไม่มีอะไร พัดลมยังไม่มีเลย ท่านนอนบนเสื่อ ท่านหาเงินกองทุน ทองคำไปเข้ากองทุน คลังหลวง เป็นหมื่นๆ ล้าน คุณูปการที่ท่านมีให้ชาติบ้านเมืองมากกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ทะลึ่งออกมาพูดขอให้เห็นใจผมเถอะ เห็นใจคุณทำไมคุณคือใคร คุณก็คือนักการเมืองที่เข้ามาแล้วมีโอกาสจะสูบเลือดสูบเนื้อคุณก็ทำ คุณเทียบอะไรกับหลวงตามหาบัว คุณมาขอให้เขาเห็นใจคุณได้อย่างไร ไม่ต้องเห็นใจคุณ หลวงตามหาบัวมีประคุณต่อชาติบ้านเมืองนี้ มีบุญคุณชนิดคุณไม่ได้ 1 ธุลีใต้ส้นตีนท่านเลยแม้แต่นิดเดียว ผมยกตัวอย่างให้ฟัง

เพราะฉะนั้นจะเห็นชัดว่าในภาวะการณ์ที่ไม่แน่นอนแบบนี้ทุกอย่างต้องล่มสลายหมด ไม่ล่มสลายไม่ได้ แล้ววันนี้หวยบนดินจะเริ่มแล้ว เอาคุณสุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ไปเป็นบอร์ดของกองสลาก จะต้องเริ่มหวยบนดิน คือจะส่งเสริมให้มีการเล่นการพนันมากขึ้น ให้คนติดการพนันมากขึ้น ถามว่าบ่อนมีเยอะไหม มีเยอะ ถามว่าในบ่อนที่เกิดขึ้น ที่วันนี้พรรคเพื่อไทยไปจับ จับบ่อนแถวรัชดา เป็นผลให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ อาจจะต้องถูกย้าย ถามว่าสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลอยู่มีมั๊ย มี นี่เป็นบ่อนที่ต่อเนื่องมา ตอนที่จับมีอีกไม่รู้กี่บ่อน ทำไมไม่จับ ผมยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ

คุณเติมศักดิ์จะเห็นได้ชัดว่า ระบบการเมืองปัจจุบันมันเจ๊ง ผมไม่ได้ดูถูกฝีมือ ตราบใดถ้าทางพรรคประชาธิปัตย์ คุณอภิสิทธิ์ คุณกรณ์ จาติกวณิช คุณอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตลอดจนมาถึงพรรคเพื่อไทย คุณธีระชัย คุณอะไรก็ตาม ถ้าไม่สามารถเปลี่ยนกระบวนทัศน์การบริหารชาติบ้านเมือง บริหารเพื่อความพอเพียงก่อน แต่ทีนี้ถ้าบริหารเพื่อความพอเพียง มันไปตรงกันข้ามกับคำมั่นสัญญาที่ให้ประชาชน และคำมั่นสัญญาที่ให้ประชาชนนี่เป็นคำโกหกทั้งนั้น เป็นคำโกหกทั้งนั้น ผมถึงบอกว่า ณ วันนี้บางครั้งผมยังไม่อยากจะไปตำหนิพรรคประชาธิปัตย์ หรือตำหนิพรรคเพื่อไทยเลย ผมตำหนิ 5 เสือ กกต.

ประเทศชาติทุกวันนี้ฉิบหายเพราะ 5 เสือ กกต.ไม่ได้ทำหน้าที่ที่ตัวเองควรจะทำ ไม่ได้ทำ พรรคแต่ละพรรค สัญญาแต่ละสัญญา การให้คำมั่นสัญญาเกินกว่าสิ่งที่กฎหมายอนุญาต ไม่ถูกจัดการ ตัดสิทธิ์คน 2 ล้านกว่าคน เฉย ทั้งหมดนี่เลือก ส.ส.มาใช้เงินเป็นหมื่นๆ ล้าน มีใบแดงอยู่ใบเดียวมั้ง รู้สึก ใช่มั้ย เกิดอะไรขึ้นกับ กกต. เกิดอะไรขึ้น หรือว่า กกต.ถูกอำนาจเงินมันฟาดหัวไปเรียบร้อยแล้ว การเมืองมันพินาศฉิบหายทุกวันนี้ เพราะ กกต.เป็นตัวเริ่ม แต่ที่ กกต.มันเริ่มได้ เพราะระบบที่เลวทรามแบบนี้มันเปิดโอกาสให้ กกต.ทำแบบนี้ ระบบทำแบบนี้ เราก็ได้พรรคการเมืองแบบประชาธิปัตย์ และเพื่อไทย ซึ่งไม่ต่างอะไรกันเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ต่างเลยนะคุณเติมศักดิ์

คุณไปดูสิ คุณทำ News Hour ผมดูคุณทุกวัน คุณอ่านแต่ละเรื่องแล้วคุณเคยคิดบ้างไหมว่า เอ๊ะ มันคุ้นๆ นะ ใครเป็นคนทำเรื่องนี้มาก่อน เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อนักการเมืองไม่ได้ทำเพื่อส่วนรวม แต่ทำเพื่อตัวเอง และไม่รู้จักคำว่าพอเพียง คำว่าเศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็เลยกลายเป็นธรรมะที่พระองค์ท่านเทศน์ แต่ไม่มีใครสัมผัสได้ เพราะการจะสัมผัสได้ ผู้นำจะต้องเป็นตัวอย่างในการทำเศรษฐกิจพอเพียงให้ประชาชนเห็นก่อน ใช่/ไม่ใช่ แต่ผู้นำไม่ได้ทำ พอผู้นำรับคารวะคำพูดมา บอกว่าข้าพเจ้าน้อมใส่เกล้าฯ เฉยๆ แต่ไม่เคยทำ เพราะฉะนั้นแล้ว พระองค์ท่านเทศน์มา 50-60 ปีแล้ว ไม่ได้ผลเลย ทำไมถึงไม่ได้ผล เพราะระบบการเมืองปัจจุบันเป็นระบบที่เอากิเลสนำหน้า เมื่อเอากิเลสนำหน้ามันก็เลยสร้างผู้นำ และพรรคการเมือง ที่ทุกคนเอาเงินลงไป เพื่อเอาอำนาจมา เพื่อจะเอาเงินกลับมาอีกทีหนึ่ง เป็นการลงทุนทางธุรกิจ และองค์กรอิสระที่จะต้องมาดูความเรียบร้อย อย่างเช่น กกต.ก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจเงิน

ใครบอก กกต.บางคนซื้อไม่ได้ ซื้อได้ คุณเติมศักดิ์ เพราะฉะนั้นด้วยเหตุนี้แล้ว เศรษฐกิจทั่วโลกสั่นคลอน ไม่มีเสถียรภาพ การเงินสั่นคลอน ไม่มีเสถียรภาพเลยแม้แต่นิดเดียว เสถียรภาพทางการเมืองก็แทบจะไม่มีในขณะนี้ สงครามไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไร ทะเลจีนตอนใต้ไม่รู้จะระอุเมื่อไร ปัญหาทางตะวันออกกลางไม่รู้จะรบกันจริงหรือเปล่า หรือรบกันเมื่อไร อัฟกานิสถาน อิรัก ซึ่งอเมริกากำลังจะถอนตัวออกไป จะอยู่ได้นานแค่ไหน อิหร่านจะเอายังไงกับอเมริกา อเมริกาจะเอายังไงกับอิหร่าน ความไม่แน่นอนตรงนี้ บวกกับความไม่แน่นอนทางการเงิน ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ กระทบกระทั่งเข้ามาในเมืองไทย ถามต่อว่า พรุ่งนี้ถ้าอเมริกาชักดาบ ถามว่ามีโอกาสหรือไม่มีโอกาสสูง ถ้าอเมริกาชักดาบ หรือเกิดบ้าบอคอแตกขึ้นมา ขอไลฟ์ออฟแล้วกัน ทุกอย่างหนี้สิน คนที่เคยดิวกับอเมริกาก็ไม่ประหลาดใจเพราะอเมริกาสามารถจะทำได้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง ถามว่าถ้าแบงก์อเมริกาเกิดล่มสลายอีกสัก 2 - 3 แบงก์ ตามที่ผมทำนายไว้ไม่เกินมิถุนายนหน้า ประเทศไทยจะยืนอยู่ที่ไหน ด้วยสภาวะการของการใช้เงินตลอดเวลา เพื่อซื้อเสียง ใช้เงินเพื่อเรียกคะแนนเสียงกลับมา

เติมศักดิ์ - ล่าสุด นี่เรื่องสรรพสามิต รถคันแรก

สนธิ - คือส่งเสริมให้คนจับจ่ายใช้สอย เมืองไทย ณ วันนี้ท่ามกลางสถานภาพของความไม่แน่นอน ต้องประหยัด ต้องส่งเสริมให้คนประหยัด นอกจากไม่ส่งเสริมให้คนใช้รถคันแรกแล้วไม่ต้องเสียภาษี ยังต้องส่งเสริมสร้างระบบขนส่งมวลชนให้เร็วที่สุดเพื่อลดต้นทุนการขนส่งมวลชน คุณเติมศักดิ์ เราได้ยินสภาพัฒน์ ได้ยินผู้ชำนาญการทางเศรษฐกิจของภาครัฐบาล คำนวณว่า ปีหน้าเราต้องใช้น้ำมันเพิ่มอีกกี่เปอร์เซ็นต์ ใช้พลังงานเพิ่มอีกกี่เปอร์เซ็นต์ คุณเคยเห็นไหมรัฐบาลชุดไหนบ้างที่ขึ้นมา แล้วบอกว่านโยบายรัฐบาลชุดนี้จะเป็นการลดการใช้พลังงาน ปีหน้าปริมาณการใช้พลังงานของปีหน้าจะไม่เพิ่มไปกว่าปีนี้ ไม่เคย เพราะทุกคนไปมองว่าต้องใช้พลังงานมาก เมื่อต้องใช้พลังงานมากมันถึงจะมีการจับจ่ายใช้สอยมาก ทุกคนไปมองตัวเลขจีดีพี ปีหน้าตั้ง 6 % ปีนี้ 4 % ปีหน้าเพิ่มอีก 2 ประชาะปัตย์ คุณกรณ์นี่บ้าจีดีพีมาก มาหาว่าเศรษฐกิจดีนะ คุณรู้ไหมคุณเติมศักดิ์ 1 % ของจีดีพีที่เพิ่มขึ้น คุณเติมศักดิ์ 0.5 % นี่คือต้นทุนพลังงาน หลือ 0.5 ครึ่งหนึ่งของ 0.5 คือ 0.25 คือจีดีพีที่าจากบริษัทต่างประเทศที่มาลงทุนในเมืองไทย และส่งขายเมืองนอกเอาเงินกลับบ้าน ของคนไทยจริงๆแค่ 0.25 เอง ผลผลิตจริงๆมีอยู่แค่นี้เอง เพราะเรามัวแต่โง่ เรามัวแต่หลง เรามัวแต่ไปเข้าใจ เรามัวแต่ไปยึดจีดีพีเป็นสรณะทั้งนั้น รัฐมนตรีไม่ว่าจะเป็นผมคิดว่าคุณธีรชัยก็มองอย่างนี้ คุณกรณ์ ก็มองอย่างดี คุณกรณ์โตมาจากสายพวกวาณิชธนกิจนี่ มองจีพีพีเป็นพ่อ แต่เขาไม่เข้าใจเลยว่าไอ้ตัวเลขแต่ละตัว แล้วจีดีพีที่โตไปมันไม่ได้ส่งอานิสงค์ถึงประชาชนนะ มันส่งอานิสงค์ให้กับบริษัทใหญ่ๆ ให้กับนายทุน ประชชนจีดีพีสูงแค่ไหน ประชาชนไมได้รับอานิสงค์ ไม่ได้ทำให้ประชาชนดีขึ้นเลย ไม่มีอะไรดีเลยแม้แต่นิดเดียว

เติมศักดิ์ - อีกเรื่องหนึ่งครับที่หลายคนอยากจะฟังจากคุณสนธิ ตอนนี้น้ำลดตอผุด การเข้าไปสวมต่อพลังงานในพื้นที่ทับซ้อน ตอนนี้โยนกันไปมา

สนธิ - ผมมองว่า ทั้งคู่เป็นคนที่ร่วมกันส่งของให้ฝรั่ง คนที่อยู่เบื้องหลังฮุน เซน คือบริษัทน้ำมัน พรรคประชาธิปัตย์จนวันนี้พิสูจน์ชัดเจน คุณเติมศักดิ์ผมเป็นคนพูดคนแรกบนเวทีที่สะพานมัฆวานฯ ผมบอกว่าคุณสุเทพแอบไปพบกับซก อาน ที่ฮ่องกง เงียบ พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครพูดสักคำ แล้วบอกว่าไม่จริง มาวันนี้พอซก อาน สวนเข้ามาตอนแรกว่าไปพบ เพิ่มอีกว่าไปพบที่คุนหมิง เพิ่มอีก พบกัน 3 ครั้งพบลับๆ พอคุณสุเทพเจอเข้าดอกนี้ ออกมาว่า พบจริงแต่ไม่มีอะไร คำถามมีอยู่ว่า ประการแรก ตอนที่คุณไปพบกัน 3 ครั้งทำไมคุณไม่พูดสักคำ ถ้าเขมรไม่พูดออกมาคุณก็เก็บไว้ซิ แล้วใครจะรู้คุณบอกว่าไม่จริง ไม่มีอะไร ในเมื่อคุณยังไม่ยอมพูดเลยมีการพบกันลับจนกระทั่งค้นพบทีหลัง ถ้าเกิดขึ้นทีหลังมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน ประชาชนเขาจะรู้มั๊ย ประชาชนจะเชื่อได้อย่างไรจากคำพูดคุณเพียงแต่บอกว่าไม่จริง แล้วก็เล่นคำ เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่เราพูดมาไม่เคยผิด ที่สำคัญคือ เมื่อมีมติ ครม.ยกเลิก MOU2544 คุณอภิสิทธิ์ส่งคุณสุเทพไปพบเขมรเพื่ออะไรลับๆ หลังจากยกเลิกแล้ว ไปเคาะกะลา บอกว่ายกเลิกแล้วนะแต่ยังไม่เป็นทางการแค่เป็นมติ ครม.เฮ้ยเรื่องน้ำมันเรามาคุยกัน แล้วคุณบอกไม่มีอะไร แต่ฮุน เซน บอกคุณไปพร้อมแผนที่บล็อกน้ำมัน ถามซิคุณพบกันลับๆ ไม่มีอะไร แล้วคุณเอาแผนที่ๆ มีบ่อน้ำมันไปทำไม คุณจะไปคุยเขาเรื่องน้ำมันใช่มั๊ย คุณกับประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปใช่ไหม พอคุณไปปั๊บกลับมาบอก โธ่เอ๊ย เขมรที่เท่าแมวดิ้นตาย เขาพระวิหาร ที่เท่าแมวดิ้นตายมาทะเลาะกันทำไม ไปเอาผลประโยชน์ทางน้ำมัน แสดงว่าคุณไปพบกับเขาไปพูดเรื่องผลประโยชน์ทางน้ำมันใช่ไหม ถ้าผลประโยชน์น้ำมันเป็นผลประโยชน์ชาติ ไม่ใช่ผลประโยชน์คุณ เมื่อเป็นผลประโยชน์ชาติ คุณห้ามพบลับๆ ถ้าคุณพบลับๆ มันส่อเจตนาว่ามีโอกาสเป็นไปได้ที่คุณจะเอาส่วนตัวคุณไปรับผลประโยชน์ โดยแบ่งจากผลประโยชน์ชาติ เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่พูดมันถูกต้องหมด ไม่เคยผิด

เติมศักดิ์ - คุณสุเทพพยายามจะบอกว่า เรื่องแบบนี้ต้องคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ

สนธิ - ถ้าคุณไปคุยกันไม่เป็นทางการ คุณก็บอกซิ ผมไปพบกับคุณฮุน เซน คุณซก อาน มีการคุยอย่างไม่เป็นทางการ ส่วนเนื้อหาคุยกันขออนุญาตเก็บไว้ตามมารยาท คุณเคยพูดมั๊ย ก็ไม่พูด จนกระทั่งถูกจับได้ คนถ้าโปร่งใส ซื่อสัตย์ ถ้ามีเจตนาบริสุทธิ์ ถ้าไปพบกลับมาก็บอกว่า เมื่อวานผมไปพบท่านฮุน เซน เรื่องบ่อน้ำมันในทะเล เพราะผมได้รับการแต่งตั้งจากท่านนายกฯ ให้เป็นประธาน แต่การไปพบเมื่อวานนี้เป็นการพบอย่างไม่เป็นทางการ มีพูดเรื่องอะไรบ้างครับท่าน ก็ไม่พูดอะไรแค่สัมผัสกันเฉยๆ แค่ตรวจสอบความรู้สึกเขาว่าแผนที่อย่างนี้เราจะตกลง อธิบายไม่ได้ครับเป็นเรื่องไม่เป็นทางการ ขอให้เป็นความลับ เป็นมารยาท ถ้าอย่างนี้ผมจะไม่ว่าคุณสุเทพแม้แต่นิดเดียว แสดงว่าคุณสุเทพจริงใจ บริสุทธิ์ใจ แต่ไปพบมารู้ทีหลังเมื่อคุณอานิก ภรรยาคุณปิยสวัสดิ์ ออกมาอาละวาดในสภาฯ เลยโดนซก อาน และฮุน เซน สวนกลับมา

เพราะฉะนั้นแล้วผมเคยบอกว่า พรรคฝ่ายค้านที่นำโดยประชาธิปัตย์ครั้งนี้จะจืด เพราะพูดอะไรโดนเขาสวนหมด วันนี้คุณไปสวนอะไรเฉลิม สวนอะไรคุณประชา พรหมนอก เรื่องเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อภัยโทษ ก็คุณเป็นคนเริ่มก่อน คุณเปลี่ยนเงื่อนไขเอง เปลี่ยนจาก 70 ปีให้เป็น 60 กว่า แล้วเปลี่ยนจากกี่ปีให้เหลือ 2 ปี คุณทำทั้งนั้น แล้วคุณบอกว่า ไม่อ่านมาตรา 8 เขาพูดคนละเรื่องกัน โกหก แล้ววันนี้ คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ต้องยอมรับว่าคุณสนิทคุณทักษิณ ชินวัตร อย่างมากใช่ไม่ใช่ ที่ๆ ขายให้ชินวัตรนี่ที่เขา สนิทรู้จักกันดี แล้วรู้จักดีกับคุณพงษ์เทพ เทพกาญจนา เขาสนิทกันมาก 2 คนนี้ อย่าประหลาดใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น วันนี้ถ้าคุณทักษิณจะกลับมา ผมต้องบอกพ่อแม่พี่น้อง ฝีมือพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสิ้น ไม่ใช่ฝีมือพวกเรา วันนี้ ASTV จุดยืนอย่างไรยังเหมือนเดิม เราไม่เคยเปลี่ยนแปลง

เติมศักดิ์ - พักกันสักครู่ เดี๋ยวช่วงหน้ากลับมาสรุปกัน พร้อมกับคำถามที่ อาจจะเป็นคำถามคาดใจว่า เรื่องรับเงินทักษิณ ทำไมพันธมิตรฯ ไม่เคลื่อนไหว ช่วงหน้ามีคำตอบ

พรรคประชาธิปัตย์พูดไม่ใช่หรอ ทุกอย่างต้องจบในสภา ก็ไปจบในสภาซิ คุณอภิสิทธิ์ก็ดีแต่เล่นฝีปาก ถ้าผมจำไม่ผิดเพิ่งให้สัมภาษณ์ บอกคุณยิ่งลักษณ์ให้ไปดำเนินคดีคุณทักษิณซะ โดนเขาสวนกลับมา แล้ว 2 ปี 7 เดือนคุณทำ ห่าอะไรอยู่

เติมศักดิ์ - เรายังห่วงใยบ้านเมืองเหมือนเดิม และยังคิดว่า ทักษิณคือภัยของบ้านเมืองเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าเราจะไม่ทำเพื่อพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง

สนธิ - ไม่มี เราจะไม่เป็นเครื่องมือให้เขามาตีกินอีก วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องไปสู้กับพรรคเพื่อไทยในสภา เหมือนที่คุณอภิสิทธิ์พูด ทุกอย่างต้องจบในสภาด้วยคน 500 คน ส่วนพรรคเพื่อไทยเขามีมวลชนเสื้อแดง พรรคประชาธิปัตย์ก็มีไม่ใช่หรอ สาวกประชาธิปัตย์ที่ออกมาด่าแม่ผม ออกมาให้ร้ายป้ายสีผมเยอะแยะ แม่ยกก็มี หมอตุลย์ก็มี รวมทั้งคุณเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง คุณจิตรกร แม้กระทั่งไฮโซที่ให้กำลังใจคือ คุณติ๊งต่าง ไม่ใช่ว่าไปแค่ 10-20 คน แล้วไฮโซบางคนขับรถผ่านไปให้กำลังใจแล้วขับกลับบ้าน ปัดโธ่ ถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องรวมตัวกันแล้วอยู่บนภูเขา กินลมเย็นๆ นั่งทบทวนบทบาทของเรา พร้อมเมื่อไหร่ที่ต้องสู้เพื่อชาติบ้านเมือง ขอให้เตรียมตัวไว้ เราจะลงมาสู้ แต่ว่าสู้แล้วโดนตีกินอย่าสู้ วันนี้ต้องปล่อยให้เขาสู้กันเอง

เติมศักดิ์ - มันจะไปถึงจุดนั้นไหม ถ้าจากการทำงานตอนนี้

สนธิ - ผมคิดว่าประเทศล่มก่อน เงินทองที่จะใช้แบบนี้หรอ จะเอาเงินที่ไหนมาใช้ อยู่ได้อย่างไร ล่มสลายก่อนที่เราทำ แล้วไม่มีใครเอาอยู่

เติมศักดิ์ - เป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นจากโลกและภายใน

อ - ผมมองว่า ถ้ามีการล่มสลายทางการเมืองอีกครั้ง ต้องเปลี่ยนระบบการเมืองใหม่ คือระบบนักการเมือง อย่างคุณอภิสิทธิ์ อย่างคุณสุเทพ อย่างคุณยิ่งลักษณ์ หรืออย่างคุณเฉลิม ต้องจบแล้ว คุณบรรหารพวกนี้ คนพวกนี้ต้องเอาเข้ากรุให้หมด การเมืองจากนี้ไปต้องเปลี่ยนแปลง ประชาธิปไตยไม่ได้แปลว่า การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งวันแมนวันโหวต ประชาธิปไตยมีหลายรูปแบบ ที่สำคัญ ประชาธิปไตยอะไรก็ได้ทึ่ทำงานให้คนส่วนใหญ่ แล้วคนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ ทุกวันนี้ประชาธิปไตยเป็นประชาธิปไตยในรูปแบบที่ทำงานให้กับกลุ่มคนที่เป็นนักการเมือง 500 คนได้ประโยชน์

เติมศักดิ์ - โดยอาศัยเสียงคนส่วนใหญ่แต่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตน

สนธิ - นี่คือประชาธิปไตย 4 วินาที

เติมศักดิ์ - แต่เราต้องเปลี่ยนให้เป็นประชาธิปไตยมากจากเสียงคนส่วนใหญ่แต่ทำเพื่อผลประโยชน์

สนธิ - เสียงคนส่วนใหญ่มาหลายวิธีไม่จำเป็นต้องเลือกตั้ง 100% แต่งตั้งก็ได้ ตามอาชีพก็ได้ไม่เป็นไร ไม่เสียหายอะไร แล้ววุฒิสภาไม่จำเป็นต้องมีการเลือกตั้งแต่งตั้งเลย 100% คนที่มีความรู้ความสามารถ ครูที่เกษียณอายุแล้ว หมอที่ดีๆ คนพวกนี้เป็นวุฒิสมาชิกได้ คนพวกนี้คือผู้ที่จะตรวจสอบรัฐบาล เพราะคนพวกนี้เขาไม่จำเป็นต้องซื้อเสียงเข้ามา เขาจะทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อเกียรติศักดิ์ เพื่อเกียรติยศของตัวเอง

เติมศักดิ์ - แต่ก่อนไปถึงการเปลี่ยนครั้งใหญ่มันจะต้องเกิดความล่มสลายครั้งใหญ่ก่อน

สนธิ - มันต้องเกิดการล่มสลายครั้งใหญ่ก่อน ที่สำคัญผมอยากย้อนกลับว่า วันนี้ระบบการเมืองปัจจุบันมันทำให้พรรคการเมืองไหนก็ตามที่เข้ามาเลวเหมือนกันหมดไม่มีข้อยกเว้น แล้วระบบการเมืองที่เอากิเลสนำหน้าแบบปัจจุบันนี้ไม่ควรมี กกต. เพราะ กกต.เป็นเครื่องมือที่เลวของระบบการเมืองที่เลว

เติมศักดิ์ - สุดท้ายอยากฝากอะไรแฟนๆ รายการ ที่วันนี้ห่อเหี่ยว หดหู่

สนธิ - ไม่ต้องหดหู่ ผมคิดว่าถ้าเข้าใจเหตุการณ์ดี นั่งเฉยๆ พิจารณาดูว่าทุกอย่างเป็นอย่างนี้ ผมปลอบใจทุกคนว่า มันก็เป็นของมันอย่างนี้แหละ

เติมศักดิ์ - ขอบคุณมากครับคุณสนธิ วันนี้คนเคาะข่าวลาไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ

ที่มา http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000117253

 

การเซ่นด้วยเลือดเนื้อสัตว์ เรียกผีตระกูลปอบ แล้วบางประเภทก็ทำฤทธิ์ทำเดช หลอกคนให้เชื่อว่าเป็นเทพเจ้าได้อีก

เทพที่ไหนจะอยากได้ของสดๆ คาวๆ มีแต่ผี ก็กับอสุรกายนี่แระ

 

หากไม่มีเงินเลย คนเราจะอยู่ได้ไหม?
หากคนเราไม่มีเงิน จะมีกี่ล้านคนที่ต้องตาย?​

​

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้มีคำถามมาถามทุกๆท่านครับ ที่พลาดหลงคลิ๊กเข้ามาอ่านในบทความนี้ครับ คำถามมีอยู่ว่า:-

1. เงินสำคัญกับคุณไหมครับ สำคัญมากน้อยอย่างไรครับ
2. หากไม่มีเงินเลย คนเราจะอยู่ได้ไหมครับ แล้วคุณจะอยู่ได้ไหมครับ
3. หากคนเราไม่มีเงิน จะมีกี่ล้านคนที่ต้องตายครับ
4. แล้วคุณมีแนวคิดอย่างไรที่จะอยู่แบบไม่ใช้เงิน (ย้อนไปยังสมัยที่ยังไม่มีเงิน)
5. ในอนาคตเป็นไปได้ไหม ที่คนจะซื้อของโดยใช้วิธีการเอาต้นไม้มาแลกกันแทน เช่น ซื้อด้วยต้นเฟื่องฟ้า ทอนด้วยต้นกล้าสะตอ เพื่อแลกกับข้าวสาร และปลาทู
6. เป็นไปได้ไหมที่จะมีธนาคารรับฝากต้นกล้าไม้ หรือจะรับฝากเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แทนเงิน จ่ายดอกเบี้ยเป็นพันธุ์กล้าไม้
7. ใครให้ความรู้เรื่องรณรงค์การปลูกป่าไม้ เกื้อกูลธรรมชาติ เข้าไปภัตตาคารกินข้าวฟรี ตลอดชีพ
8. ........ และคำถามอื่นๆ เชิญคุณบรรเลงคิดกันต่อครับ

คุณมีความเห็นอย่างไรกับคำถามแบบเพ้อเจ้อที่อ่านมา บ้างครับ เชิญคุณบรรเลงในความคิด ที่แว๊บขึ้นมา อย่างมีอรรถรสครับ ผมมีหนึ่งตัวอย่างที่อยากให้อ่านและคิดกันเล่นๆ แต่เอาจริงครับจากบทความนี้ครับ วันนั้นที่เงินไร้ค่า น้ำใจนำพาให้อยู่รอด (จากประสบการณ์จริง)
ขอบคุณมากครับ

(เม้ง) สมพร ช่วยอารีย์ วันที่ 17 เมษายน 2550 19:05 น.

สวัสดีค่ะคุณเม้ง คำถามมากมาย..ตอบสั้นๆนะคะ เงินสำคัญกับคุณไหมครับ สำคัญมากน้อยอย่างไรครับ ..สำคัญเมื่อจำเป็นค่ะ.ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่สำคัญเท่าไหร่ หากไม่มีเงินเลย คนเราจะอยู่ได้ไหมครับ แล้วคุณจะอยู่ได้ไหมครับ..น่าจะได้นะคะ ( ที่ว่าน่าจะเพราะยังไม่เคยลอง )..แต่ก็ดูว่าไม่น่าจะยากเพราะที่อยู่ปัจจุบันนี้บางวันก็ไม่ใช้เงินเลยเหมือนกัน หากคนเราไม่มีเงิน จะมีกี่ล้านคนที่ต้องตายครับ ..ตอบยากค่ะ..เพราะอาจจะไม่มีคนตายเลย หรือตายทั้งหมดก็ได้ ( ที่เคยเห็นส่วนใหญ่ตายเพราะสาเหตุอื่นมากกว่าเงิน..แต่ก็มีบางคนที่ไม่มีเงินแล้วก็ฆ่าตัวตาย..อาจจะอยู่ที่ความสำคัญของเงินในคนๆนั้น )

แล้วคุณมีแนวคิดอย่างไรที่จะอยู่แบบไม่ใช้เงิน (ย้อนไปยังสมัยที่ยังไม่มีเงิน)..ก็อยู่แบบอยากกินอะไรก็ปลูก ก็หา..แล้วก็เอาไปแลกกัน ในอนาคตเป็นไปได้ไหม ที่คนจะซื้อของโดยใช้วิธีการเอาต้นไม้มาแลกกันแทน เช่น ซื้อด้วยต้นเฟื่องฟ้า ทอนด้วยต้นกล้าสะตอ เพื่อแลกกับข้าวสาร และปลาทู..การแลกด้วยผลิตผลต่างๆในปัจจุบันก็มีค่ะ..แลกระหว่างประเทศด้วย ( เคาน์เตอร์เทรด..เอ ! หรือจะชื่ออื่น..ช่างเถอะค่ะ หมายถึงการแลกด้วยข้าว ยาง มัน กับอาวุธทำนองนี้แหละค่ะ..เห็นคุยกันมานานและก็ตีกันมานานก็เลยไม่ค่อยสนใจ เท่าไหร่ )

เป็นไปได้ไหมที่จะมีธนาคารรับฝากต้นกล้าไม้ หรือจะรับฝากเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แทนเงิน จ่ายดอกเบี้ยเป็นพันธุ์กล้าไม้..ธนาคารตุ๊กแก ธนาคารโค กระบือ ธนาคารความดี..เค้ายังมีเลยค่ะ..แล้วทำไมจะมีธนาคารต้นไม้ไม่ได้ ยิ่งเป็นต้นไม้หายากพวกสัก จันทร์กระพ้อ ( ของพี่บางทราย ) ฯลฯ..ยิ่งน่าทำ ใครให้ความรู้เรื่องรณรงค์การปลูกป่าไม้ เกื้อกูลธรรมชาติ เข้าไปภัตตาคารกินข้าวฟรี ตลอดชีพ..อืม ! คุณเม้งหวังอะไรหรือเปล่าคะ..เอาเหอะเอาแค่กินเป็นครั้งคราวได้มั้ย..อย่างปีละครั้งอะไรอย่างเงี้ยะ..เดี๋ยวภัตตาคารขาดทุนแย่เลย ........ และคำถามอื่นๆ เชิญคุณบรรเลงคิดกันต่อครับ..แล้วคุณเม้งล่ะคะ..7 ข้อคำถามนี่มีความเห็นว่ายังไง ?

เบิร์ด วันที่ 18 เมษายน 2550 15:34 น.

สวัสดีคุณเม้งเข้ามาหลายรอบ แต่ยังไม่ได้ลงมือเขียนซะที เพราะจะว่าไป เงินก็สำคัญ และก็ไม่สำคัญเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเปลี่ยนเทียบกับอะไร ถ้าเงินใช้เพื่อแลกเปลี่ยนวัตถุเพื่อให้คนนิยมในตัวเอง คนๆ นั้นอาจจะตกเป็นทาสของวัตถุที่ชื่อว่าเงิน ถ้าเงินใช้เพื่อความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน คงจำเป็นมากสำหรับคนเมือง เพราะจะออกจากบ้านทีก็ต้องเดินทาง กินอยู่ ต้องมีการใช้เงินไม่มาก็น้อย ขึ้นอยู่กับคนๆ นั้น ว่าจะใช้เงินเกินตัวหรือเปล่า กินเพื่อให้อิ่ม

ถ้าเงินใช้ในปัจจัยเดียวกันคือเพื่อความเป็นอยู่ ในที่ๆ พื้นที่อุดมไปด้วยสวนครัวรอบตัว หามาก ได้กินมาก ในน้ำมีปลา จับมาทานได้ ในป่ามีพืชกินได้ ไม่ต้องใช้เงิน เงินอาจจะสำคัญน้อยลงในแง่การกินอยู่ แต่สำหรับพวกยา การรักษา ก็คงต้องเก็บออมเงินไว้สำหรับการณ์นั้นด้วยอยู่ดี ถ้าเงินใช้ซื้อความสุข ใช้ซื้อเวลาที่จะอยู่กับคนรักได้ คนคงจะซื้อ แต่บางคนเข้าใจผิด คิดว่าการให้เงิน คือการให้ความสุข เลยเอาแต่หาเงิน จนไม่มีเวลาอยู่กับคนที่รักเรา และเรารัก

บางครั้งเคยทิ้งเงิน (อุปมาอุปมัยนะ) คือไม่ทำงานล่วงเวลามากนัก เพราะอยากกลับบ้านเร็วๆ ไปใช้เวลานอนอืด นั่งอืดดูทีวีกะที่บ้าน สบายๆ คิดแล้วก็ดูตัวเองบ๊องๆ 555 (แต่ที่หา ต้องให้เพียงพอกับหนี้ต่างๆแล้วนะ) โอ้ยปัญหาโลกแตกล่ะคุณเม้ง เขียนไปเขียนมา ชักสับสน สำคัญไม่สำคัญ ตอนนี้เข้าเน็ตได้ก็เพราะจ่ายเงินค่าเน็ตอยู่ล่ะ ถ้าไม่ใช้เงินจ่าย ก็เข้ามาคุยกะคุณเม้งไม่ได้ จะจ่ายด้วยน้ำใจ เค้าคงจะเตะเอา ฮ่าฮ่า

IS วันที่ 24 เมษายน 2550 10:12 น.

ที่มา http://www.gotoknow.org/blog/mrschuai/90816

ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกัน

เชื่อไหมว่า "เงิน" คือตัวปัญหาของคนสมัยนี้!! mamboo ฝันเห็นโลกอนาคตอีก 200-300 ปีข้างหน้า

 

ได้อ่านที่คุณสนธิ ให้สัมภาษณ์ ที่คุณเกษมนำมา Post แล้วเหมือนกันค่ะ
ชอบบทความนี้มาก เปิดมุมมองดีค่ะ

 

คลิปวีดีโอค่ะ

Politics - Manager Online - �ӵ�ͤ� : �ʹ�Ԕ �������������Ѻ������ͧ��� ����ش�Ѻ������

 

ขอบคุณมากค่ะ
ไม่ค่อยจะได้ฟังคุณสนธิพูดถึงเรื่องบ้านเมืองซักเท่าไหร่ แต่พอแกพูดแต่ละที แสดงให้เห็นว่าศึกษาข้อมูลมาดี และมีความคิดสร้างสรรค์กว่านักการเมืองในปัจจุบันมากค่ะ

 

ทำไมคิดเก่งอย่างนี้...ถึงบริหารบริษัทตัวเองล้มละลายได้........เงินบริจาคเข้าพันธมิตร...เข้ากระเป๋าใคร........ความเสื่อมศรัทธาพันธมิตรเพราะอะไร...น่าจะเอาเวลาไปวิเคราะห์ตนเองจะดีกว่า......ขนาดมีมือที่มองไม่เห็นอุ้มอยู่ยังขนาดนี้.......แล้วถ้าไม่มี...ไม่อยากคิด.

 

ล้มละลายทั้งความคิดและการกระทำ......