ให้ทุกคน update สถานการณ์น้ำท่วม พื้นที่ๆ ตนเองอยู่

ข้าพเ้จ้าได้อ่านข้อความแล้วรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก นับเป็นบุญของปวงชนชาวไทยโดยแท้ที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นห่วงปวงชนชาวไทย ไม่เคยทอดทิ้งประชาชนของพระองค์แม้ยามทรงพระประชวนก็ยังเสด็จออกมาหาทางแก้น้ำท่วมด้วยพระองค์เอง เห็นอย่างนี้แล้วจะไม่ให้ปวงชนชาวไทยเคารพรักและเทิดทูลพระองค์ได้อย่างไร ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยื่นนาน อยู่เป็นร่มโพธิ์ ร่มไทร ของปวงชนชาวไทยตราบนานแสนนานด้วยเทอญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

 

อุทกศาสตร์”เผยข่าวดี “เจ้าพระยา”ยังไม่หนุนสูง รอลุ้น 29 ต.ค.

<table align="center" bgcolor="#F5F5F5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td></td></tr><tr><td align="center">
</td></tr></tbody></table> พล.ร.ท.นิรุทธ์ หงส์ประสิทธิ์ เจ้ากรมอุทกศาสตร์ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำที่ได้ตรวจสอบในวันนี้วัดระดับน้ำได้ 2.38 เมตร

ซึ่ง ต่ำกว่าที่ได้ประเมินไว้ คือ 2.50 เมตร ซึ่งหากในช่วง 1-2 วันนี้น้ำยังอยู่ในระดับ 2.30-2.40 เมตร ไม่เกิน 2.50 เมตรถือเป็นข่าวดีของกรุงเทพฯ เพราะหมายความว่า มวลน้ำเจ้าพระยาได้ลดลง ทั้งนี้มวลน้ำสูงสุดจะขึ้นอีกครั้งในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ซึ่งอาจจะสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 2.65 เมตร แต่เราได้ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา ส่วนประชาชนที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้สังเกตความผิดปกติ หากสงสัยเกี่ยวกับรัศมีของน้ำที่อาจจะเข้ามาในเขตบ้านเรือนสามารถเข้าไปดูรายละเอียด ข้อมูลและแผนที่พื้นที่คาดการณ์ความเสียหายในเว็บไซต์ของกรมชลประทาน ขอยืนยันว่า ระดับน้ำจะไม่สูงถึงระดับ 3-4 เมตรตามที่มีกระแสข่าวออกมา ซึ่งคาดว่า ข้อมูลที่ออกมาอาจเป็นความคลาดเคลื่อนทางตัวเลข ซึ่งระดับน้ำในปัจจุบัน เชื่อว่า เรายังสามารถควบคุมได้

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า ขณะนี้กองทัพบกกระจายกำลังทหาร ยานพาหนะ ยุทโธปกรณ์

เร่ง ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่มีน้ำเอ่อท่วมอย่างต่อเนื่อง และลาดตระเวนตรวจสอบพนังกั้นน้ำตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยา และสถานที่ตั้งของระบบสาธารณูปโภคที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วม ตลอด 24 ชั่วโมง โดยช่วงน้ำทะเลหนุนสูงสุดช่วงสุดสัปดาห์นี้ เราได้เตรียมเรือยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ ขนาด 90 ฟุต จำนวน 10 ลำ เพื่อใช้อพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทันที หาก เกิดเหตุฉุกเฉินในพื้นที่ กทม.ทั้งนี้กองทัพบกได้ส่งกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับหน่วยทหารของกองทัพบกประจำพื้นที่เข้าช่วยเหลือทันที โดยได้ใช้รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่และเรือ ช่วยในการสัญจรบริเวณน้ำท่วมสูงใน ถ.แจ้งวัฒนะ ถ.พหลโยธิน ถ.รามอินทรา ถ.วิภาวดีรังสิต ถ.สายไหม ถ.จรัญสนิทวงศ์ ถ.บรมราชชนนี ถ.สิรินธร ถ.ราชดำเนินใน ถ.เจริญกรุง ถ.ทรงวาด โดยจะให้บริการจนกว่าปริมาณน้ำจะลดลง

ส่วนพื้นที่ 13 เขตริมฝั่งเจ้าพระยา กองทัพบกได้ส่งทหารไปเฝ้าระวังตามแนวริมน้ำเจ้าพระยาตลอด 24 ชั่วโมง

และ จัดกำลังทหารเข้าแก้ไขสถานการณ์เป็นจุดๆเมื่อเกิดเหตุ นอกจากนี้ได้ส่งกำลังทหารเข้าช่วยจัดเรียงกระสอบทรายสร้างคันกั้นน้ำตามแนว ถ.วิภาวดีรังสิต บริเวณ สนามบินดอนเมืองระยะทาง 12 กิโลเมตร, สร้างแนวคันดินชั่วคราวในเขตบางซื่อและวัดแก้วฟ้าจุฬามณี เขตดุสิต, เสริมกระสอบทรายริมน้ำเจ้าพระยา และได้ส่งชุดเฝ้าระวังระดับน้ำในเขตพระนคร ประจำบริเวณ ท่าเทเวศน์,สามพระยา,ท่าพระจันทร์,ท่าช้าง เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำให้สามารถเข้าป้องกันและแก้ไขเหตุฉุก เฉินได้ทันที
ส่วนที่เขตบางพลัด กองทัพบกได้ส่งเรือเพิ่มเติมอีก 20 ลำให้บริการประชาชน พร้อมเร่งซ่อมพนังกั้นน้ำที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 78-80

นอก จากนี้กองทัพบกยังส่งชุดลาดตระเวนเส้นทางจำนวน 6 ชุด แต่ละชุดประกอบด้วยกำลังพล 36 นาย ยานพาหนะ 6 คัน เพื่อตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำและช่วยเหลืออพยพประชาชนที่ตกต้างตามเส้นทาง ถนนติวานนท์จากห้าแยกปากเกร็ดถึงแยกปู่โพธิ์ , บริเวณจุดตัดคลองประปากับคลองรังสิตถึงฟิวเจอร์ปาร์ค และจากถนนพหลโยธินถึงแยกอนุสรณ์สถาน
ส่วน ที่เขตสายไหม กองทัพบกได้ส่งรถยนต์บรรทุก 10 คัน เรือพาย 9 ลำ กำลังพล 80 นาย ช่วยเหลือขนย้ายประชาชนและสิ่งของจากซอยพหลโยธิน 54-64

และ ชุมชนเลียบคลอง 2 จำนวน 2,150 คน ไปยังศูนย์พักพิงเขตสายไหม ส่วนที่คลองหกวา กองทัพบกได้ใช้กำลังทหาร 5 กองร้อยบรรเทาสาธารณภัย เสริมแนวกระสอบของพนังกั้นน้ำร่วมกับสำนักงานเขต ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร พร้อมตรวจสอบและเสริมความแข็งแรงตลอดเวลา โดยขณะนี้ระดับน้ำต่ำกว่าพนังกั้นน้ำประมาณ 17ซม. ส่วนบริเวณคลองรังสิต กองทัพบกยังคงเข้าเสริมแนวคันดินตามแนวคลอง และได้ช่วยอพยพประชาชนจำนวน 900 คนจากศูนย์วิทยาศาสตร์รังสิต คลอง 6 ไปพื้นที่ปลอดภัย รวมทั้งยังคงใช้เรือกำจัดวัชพืชในคลองรังสิตอย่างต่อเนื่อง ​
สำหรับศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยของกองทัพบก 3 แห่ง ขณะนี้ยังคงให้การดูแลผู้ประสบภัยจากพื้นที่ กทม. พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี และ ปทุมธานี จำนวน 2,100 คน โดยกระจายตามหน่วยทหารดังนี้ ค่ายอดิศร จ.สระบุรี 1,200 คน ศูนย์สงครามพิเศษ จ.ลพบุรี 500 คน และ โรงเรียนนายร้อย จปร. จ.นครนายก 400 คน

<center>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</center>

 

ถนมเพชรเกษมช่วงระหว่างวงเวียนใหญ่ถึงกาญจนาภิเษกยังไม่พบน้ำเอื้อล้นบนบริเวณผิวการจราจรแต่รถมากเคลือนตัวได้ช้ามากท่านที่จะเดินทางขึ่นเหนือและลงใต้แนะให้เลียงไปใช้เส้นทางพระราม2รถยังเคลือนตัวได้ดีกว่า * ถ.จรัญสนิทวงศ์(ช่วงบางพลัด-บางยีขัน) ถ.บรมราชชนนี(ฉิมพลี -ทวีวัฒนา-ศาลายา-นครชัยศรี) ถ.สิรินธร(บางพลัด-บางบำหรุ)ถ้าท่านมีความต้องการออกจากพื้นที่ท่านสามารถอพยพใด้โดยทางรถบรรทุกของทหารเขาจะนำท่านมาที่ปลอดภัยครับ

 

ยุทธการ ชมภูคำ

(กรุณา เเท็ก บอกต่อๆกันไปด้วยนะครับ จะเปนบุญอย่างสูง)
ผู้ใดเท้าเปื่อย คัน เป็นเเผลพุพองมีหนองอักเสบเ<WBR>นื่องจากน้ำกัดเท้าให้เอา ใบกระเพรา ขยี้ๆเเล้วประคบตรงเเผลที่จ<WBR>ุดนั้น มันจะไปฆ่าเชื้อราเเละเชื้อ<WBR>เเบคทีเรียตรงบริเวณนั้น รับรองทำไม่เกิน 3 ครั้ง เเผลน้ำกัดเท้าจะตกสะเก็ดหา<WBR>ยขาดไปอย่างเเน่นอน .... ขอบอก.. ขอมอบสิ่งดีดีให้ละกานคับ ไม่จำเปนต้องใช้ยาทาเเผนปัจ<WBR>จุบัน หรอก นะ ครับ

 

ขอบคุณค่ะ

 

Mr_Boyle RT @thaiflood: [28ตค,19.35] รถไฟสายใต้หยุดเดินรถ หลังน้ำท่วมรางที่่บางบำหรุ http://t.co/jxboijqd #thaiflood · reply · retweet · favorite



50 new tweets

 

ใครพอรู้บ้างน้ำจะขึ้นตอนกี่โมง ( 29 ตค. 54 ) พรุ่งนี้ต้องวิ่งจากฝั่ง กทม.-ข้ามสะพานพระปกเกล้าฯ-ต่อไปแถวพรานนก-ไปช่วงเช้า

รบกวนทีนะครับ ใครพอทราบพื้นที่แถวนั้นช่วยบอกที




ขอบคุณมั๊กๆๆๆๆๆ ;41

 

14 new tweets


spettong RT @MrVop: เช้าวันพรุ่งนี้ ... น้ำขึ้นเต็มที่เวลา 09:09 สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 2.50 เมตร #ThaiFlood // บวกนํ้าเหนือก้อนโตด้วยครับ ;(( · reply · retweet · favorite





23 new tweets

 

zugarbua "@thaiflood: [28ตค,22.50] น้ำเอ่อเข้าท่วม ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล ระดับน้ำสูงถึง 1-1.50 เมตร #thaiflood" คิดถึงมหิดล ศาลายา · reply · retweet · favorite



21 new tweets

 

Quality of Life - Manager Online -

 

www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000137747


ฝั่งธนฯ ฝั่งตะวันออกท่วมนานเป็นเดือนค่ะ:'(

 

ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

 

โรคระบาดที่มากับ'น้ำท่วม'

วันที่ 29/10/2554 00:00 (ผ่านมา 4 นาที)





ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล ซึ่งทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ต่างระดมสรรพกำลังในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยกันอย่างเต็มที่ กระทรวงสาธารณสุข หรือ สธ. ก็เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลประชาชนที่เจ็บไข้ได้ป่วยทั้งสุขภาพกายและใจระหว่างน้ำท่วมและภายหลังน้ำลดแล้ว ลองมาฟัง นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ. พูดถึงสถานการณ์ผู้ป่วยและภารกิจในครั้งนี้

ตัวเลขผู้ป่วยทางกาย จิตใจ มีมากน้อยแค่ไหน

ตัวเลข ณ วันนี้ (27 ต.ค.) มีผู้ป่วยทางกาย 735,495 ราย เครียดสูง 5,267 ราย ซึ่งจะต้องติดตามดูแลพิเศษ 1,356 ราย

คาดว่าภายหลังน้ำลดจะมีผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่มเพิ่มขึ้นหรือไม่

ตัวเลขผู้ป่วยคงขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการเกิดน้ำท่วม ถ้าท่วมนานผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่มก็มาก และก็ขึ้นอยู่กับว่าเราควบคุมโรคระบาดได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าควบคุมได้ดีการเจ็บป่วยจากนี้ไปคงเพิ่มไม่เกิน 10-20%

ส่วนปัญหาทางด้านจิตใจที่มีภาวะเครียด ซึมเศร้า ก็ขึ้นอยู่กับความเสียหายที่เกิดขึ้น ขณะนี้ สธ.ได้มอบให้กรมสุขภาพจิตไปดำเนินการเปลี่ยนผู้ประสบอุทกภัยหรือเหยื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับผู้ประสบภัยรายอื่น ๆ คือแทนที่จะรอรับความช่วยเหลือก็ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยคนอื่น ทำตัวให้เป็นประโยชน์ ในส่วนของศูนย์อพยพได้ขอให้มีการจัดกิจกรรมคลายเครียด เช่น อาจมีการออกกำลังกาย เต้นแอโรบิกทุกเย็น หรือเล่นเกมสนุก ๆ อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ได้รับผลกระทบทางจิตใจมากคงต้องใช้เวลานานในการดูแล ประเมิน และติดตามอย่างต่อเนื่องภายหลังน้ำลดแล้ว

กังวลโรคอะไรบ้าง

หลัก ๆ เลยมี 9 โรค เป็นโรคที่พบบ่อยทั้งช่วงน้ำท่วมและหลังน้ำลด คือ โรคผิวหนัง โรคตาแดง โรคหัด โรคอุจจาระร่วง โรคฉี่หนู โรคไข้เลือดออก โรคมือ เท้า ปาก โรคมาลาเรีย และโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม หากเราดูแลไม่ดีอาจมีการระบาดได้ในศูนย์อพยพ

เรื่องโรคระบาดยอมรับว่ามีความเสี่ยงสูง เพราะประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมีจำนวนมาก ศูนย์อพยพก็มาก คนที่ลงไปสัมผัสกับน้ำก็มาก แต่เราทราบปัจจัยเสี่ยงและให้ศูนย์อพยพเฝ้าระวังโรค ซึ่งในขณะนี้เจอโรคระบาดประปราย ส่วนใหญ่เป็นโรคอุจจาระร่วง ส่วนโรคฉี่หนูก็มีรายงานผู้ป่วยประปราย ยังน้อยอยู่

มีข้อแนะนำประชาชนให้ดูแลสุขภาพอย่างไร

เห็นใจทุกคนที่ต้องลำบาก สิ่งที่กระทรวงให้ความสำคัญคือเรื่องอาหาร น้ำดื่ม น้ำใช้ เรื่องอาหารขอย้ำว่าต้องทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ ร้อน ๆ ส่วนการใช้ช้อนกลาง ล้างมือให้สะอาด ถ้าทำได้ก็จะเป็นประโยชน์แต่ตอนนี้คงทำลำบาก เห็นใจจริง ๆ ขอแนะนำว่าถ้าพื้นที่ใดน้ำใสไหลผ่านล้างมือได้ก็ดีกว่าไม่ล้างเลย ส่วนเรื่องน้ำดื่มถือว่าสำคัญมาก ควรดื่มน้ำสะอาด อาจใช้วิธีต้มดื่มก็ได้ สำหรับน้ำใช้อาจใช้สารส้มกวน หรือสารคลอรีนก็จะเป็นประโยชน์

โรงพยาบาลในสังกัดได้รับความเสียหายกี่แห่ง

โรงพยาบาลศูนย์ 2 แห่ง โรงพยาบาลชุมชน 19 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 414 แห่ง แต่ความเสียหายยังประเมินไม่ได้ ต้องรอภายหลังจากน้ำลดแล้ว ถ้าน้ำลดเร็วตัวอาคารหรือเครื่องมือก็คงใช้งบประมาณปรับปรุงไม่มาก แต่ถ้าน้ำลดช้าความเสียหายก็มาก

กระทบต่อการให้บริการหรือไม่

ผลกระทบค่อนข้างมาก แต่ก่อนที่จะมีน้ำท่วมได้มีการทำแผนจัดระบบบริการได้เตรียมความพร้อมมาอย่างดี จะเห็นว่ากรณีน้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.นครสวรรค์ เมื่อเกิดเหตุการณ์จะมีโรงพยาบาลสนามไปเปิดให้บริการ ซึ่งในช่วงแรกคนไข้ที่ไปใช้บริการโรงพยาบาลสนามค่อนข้างมาก ก็อาจได้รับผลกระทบพอสมควร แต่ส่วนหนึ่งประชาชนได้อพยพออกไปแล้ว ทำให้เหลืออยู่ไม่มากเหมือนปกติ

ต้องใช้เวลาฟื้นฟูนานแค่ไหนจึงจะเปิดให้บริการตามปกติ

พอน้ำเริ่มลดพอที่จะดำเนินการได้ เราจะรีบสูบน้ำออกแล้วกู้โรงพยาบาลทันที คือไม่ได้รอให้น้ำลดจนแห้ง แต่น้ำลดระดับหนึ่งก็จะทำสะพานไม้ให้คนไข้เดินเข้ามาใช้บริการได้ และเปิดให้บริการทันที

ประเมินว่าต้องใช้งบประมาณฟื้นฟูโรงพยาบาลมากน้อยแค่ไหน

น่าจะหลายร้อยล้านบาท ต้องดูตัวเลขอีกที เพราะข้อมูลยังไม่ชัดเจน อีกทั้งสถานการณ์น้ำท่วมยังไม่จบ ในขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ของบกลางเพื่อนำมาใช้ในแผนฟื้นฟูโรงพยาบาลที่น้ำเริ่มลดแล้ว เน้นการตอบโต้สถานการณ์และการฟื้นฟูระยะแรกในช่วง 2 เดือน โดยงบประมาณที่ขอไปประมาณ 300 ล้านบาท ส่วนแผนระยะยาวคงต้องใช้งบประมาณทั้งจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) งบปกติ และของบกลางเพิ่มเติมจากรัฐบาล

งบประมาณในการดูแลคนไข้เพิ่มขึ้นหรือไม่

ปริมาณคนป่วยคงเพิ่มขึ้นแต่ไม่มากมายอะไร เพราะคนไข้ที่ไม่เป็นอะไรมากเขาจะไม่มาโรงพยาบาล เนื่องจากการเดินทางลำบาก

สถานการณ์จำเป็นต้องนำเข้ายาและเวชภัณฑ์หรือไม่

กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้ นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ดูแลเรื่องนี้ โดยประสานกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ว่าจะมีการนำเข้าอะไรหรือไม่ ส่วนเครื่องมือแพทย์อยู่ระหว่างการสำรวจ ขณะนี้ยังใช้ลักษณะยืมจากโรงพยาบาลที่ไม่ได้รับผลกระทบเข้ามาช่วยได้

ช่วงน้ำท่วมบุคลากรสาธารณสุขทำงานหนักมีแผนเยียวยาอย่างไร

บุคลากรสาธารณสุขเกือบครึ่งก็ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้ เช่น จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ได้รับผลกระทบมากทีเดียว ส่วนหนึ่งเขาต้องช่วยตัวเอง เราก็ให้กำลังใจ สำหรับการทำงานเราได้ให้บุคลากรจังหวัดที่ไม่ได้รับผลกระทบเข้ามาช่วยสลับสับเปลี่ยนกันทำงาน เพื่อให้ภาระงานลดลง และมีความสบายใจขึ้น ถือว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนได้เสียสละทุ่มเททำงานกันอย่างเต็มที่ สำหรับความดี ความชอบอื่น ๆ ตลอดจนเงินช่วยเหลือคิดว่าทางกระทรวงก็กำลังเตรียมการให้

อยากสื่อสารอะไรไปยังผู้ใช้บริการที่อาจได้รับความไม่สะดวก

การให้บริการทางการแพทย์ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลสนาม หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ หรือหน่วยแพทย์ในศูนย์อพยพเราทำเต็มที่แล้ว แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นครั้งนี้มาก ก็พยายามจัดหน่วยแพทย์ให้เข้าไปถึงประชาชนที่อยู่ตามบ้าน แต่บางพื้นที่การเข้าไปค่อนข้างลำบาก ก็อาจมีจุดที่ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกบ้าง ก็ขอให้แจ้งมา เราพยายามทำและตั้งใจทำ ตอนนี้ที่เป็นห่วง คือ ประชาชนที่ไม่ยอมออกมาจากบ้าน แล้วเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปถึงยาก ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ออกไปปฏิบัติงานก็ได้เน้นย้ำทุกคนให้ใส่เสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัยเช่นกัน.


ต้นฉบับ: Daily News Online > หน้าการเมือง > ตรวจการบ้านคนการเมือง > โรคระบาดที่มากับ'น้ำท่วม'

 

ใช้ไฟ-กั้นน้ำ..ห้ามมั่ว'โดยประมาท'ทำคนตาย'ติดคุก!'

วันที่ 29/10/2554 00:00 (ผ่านมา 1 นาที)





"เพิ่มโทษในช่วงน้ำท่วม จากเดิมข้อหาลักทรัพย์มีความผิดตามมาตรา 334 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถ้าหากลักทรัพย์ในช่วงบ้านเมืองกำลังประสบปัญหาอุทกภัย รวมถึงทำลายคันกั้นน้ำ จะมีโทษคือจำคุกระหว่าง 1-5 ปี และปรับ 2,000-10,000 บาท แต่ถ้าหากเป็นการกระทำผิดมากกว่า 2 องค์ประกอบ มีโทษจำคุก 1-7 ปี และปรับ 20,000-24,000 บาท” ...นี่เป็นการแถลงเมื่อวันก่อนของทางฝ่ายตำรวจ พวกหัวขโมยที่ซ้ำเติมทุกข์น้ำท่วมจำใส่หัวไว้

อย่าคิดว่า น้ำท่วม...ตำรวจที่ไหนจะมาตรวจ-มาจับ

เพราะตำรวจก็ถูกชาวบ้านกดดัน...ต้องเอาจริงแน่…

ทั้งนี้ ว่ากันถึงกฎหมาย การลงโทษผู้กระทำความผิดในช่วงน้ำท่วม ทาง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ก็ขอเตือนเรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลายว่า ’ช่วงน้ำท่วมก็ต้องระวังจะตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตายโดยประมาท!!“ โดยมีองค์ประกอบของคดีคือ ’กระแสไฟฟ้า“ และ ’วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สร้าง-ใช้ในการป้องกันน้ำท่วม“

สำหรับกรณีกระแสไฟฟ้า “ไฟช็อต-ไฟดูด” ในช่วงที่เกิดน้ำท่วม กับน้ำท่วมครั้งใหญ่ปีนี้ทาง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” เป็นสื่อแรก ๆ ที่เตือนให้ระวังกัน และก็เตือนซ้ำอีกหลายครั้ง แต่กระนั้นก็น่าสลดใจที่มีคนตายเพราะกระแสไฟฟ้าในช่วงน้ำท่วมไปแล้วหลายราย ทั้งในบ้านเรือนของตนเองและตามถนนหนทางที่เกิดน้ำท่วม ซึ่ง ณ ที่นี้ก็ขอย้ำเตือนกันอีกว่าเรื่องนี้ไม่ระวังไม่ได้ โดยเฉพาะกับน้ำท่วมในเขตเมืองและไม่ได้มีการตัดกระแสไฟฟ้า

นอกจากต้องกลัวว่าตนเองจะถูกไฟช็อต-ไฟดูดแล้ว การใช้กระแสไฟฟ้าในช่วงน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไฟตามปกติในบ้านในบริษัทในหน่วยงานตนเอง หรือใช้กับอุปกรณ์สู้น้ำท่วมต่าง ๆ ก็ยังต้องระวังกระแสไฟฟ้าดูด-ช็อตคนอื่นด้วย ขณะที่ การใช้วัสดุต่าง ๆ มาสร้าง ป้องกันการถูกน้ำท่วม ต้องทำให้มั่นคงแข็งแรง ไม่เพียงในแง่การป้องกันน้ำท่วม แต่ ต้องไม่สุ่มเสี่ยงต่อการพังทลายจนก่ออันตราย ทั้งกับตนเองและผู้อื่น

กับกรณีการตกเป็นผู้ต้องหา โดยมีองค์ประกอบคดีคือกระแสไฟฟ้าหรือวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันน้ำท่วมนั้น ว่ากันทางหลักกฎหมาย ทาง อ.วันชัย สอนศิริ เลขานุการคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ความรู้ความเข้าใจว่า... กรณีน้ำท่วมบ้านน้ำท่วมพื้นที่ ในเบื้องต้นเจ้าของบ้าน เจ้าของพื้นที่จะต้องตัดไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะเพื่อความปลอดภัยของตัวเองแล้ว ยังเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดต่อชีวิตของผู้อื่นด้วย กรณีที่ประมาท ทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตคนอื่นเสียชีวิต เจ้าของบ้าน เจ้าของพื้นที่มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 291 ที่ระบุไว้ว่า ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท

อีกทั้ง ญาติผู้เสียชีวิต หรือผู้เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต สามารถฟ้องร้องทางแพ่งต่อเจ้าของบ้าน เจ้าของพื้นที่ต้นเหตุ ได้ด้วย โดยกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ระบุไว้ว่า ผู้ใดจงใจประมาทเลินเล่อทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย ให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งก็ดี ผู้นั้นทำละเมิด จำเป็นต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน

อ.วันชัย ชี้ต่อไปว่า... นอกจากระหว่างเอกชนกับเอกชนแล้ว กรณีต้นเหตุเกิดจากหน่วยงานรัฐ ซึ่งรวมถึงหน่วยงานที่ดูแลการตัดกระแสไฟฟ้า ถ้าปล่อยปละละเลยเรื่องไฟฟ้าจนเป็นเหตุให้บุคคลเสียชีวิต ก็สามารถจะถูกฟ้องร้องความผิดทางแพ่งให้รับผิด ร่วมรับผิด ตามมาตรา 420 ของกฎหมายแพ่งได้เช่นกัน

กรณี วัสดุต่าง ๆ ในการป้องกันการถูกน้ำท่วม พังหรือถล่ม ทำให้คนอื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทาง อ.วันชัย แยก 2 กรณีคือ ถ้าเป็นเหตุที่เกิดจากภัยพิบัติธรรมชาติซึ่งควบคุมไม่ได้จริง ๆ ให้ถือเป็นเหตุสุดวิสัย แต่ถ้าเป็นเหตุที่เกิดจากการสร้างไม่ได้มาตรฐาน มีคนเสียชีวิต เจ้าของผู้สร้างต้องรับโทษอาญา มาตรา 291 จำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท และญาติหรือผู้เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตก็ฟ้องร้องทางแพ่งตามมาตรา 420 ให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนได้ ซึ่งก็เช่นเดียวกับกรณีละเลยเรื่องไฟฟ้า

ทั้งนี้ เลขานุการคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ ยังบอกด้วยว่า... วิกฤติน้ำท่วม อย่าตื่นตระหนกจนขาดสติ อย่าตื่นตูมตามข่าวลือ ในภาวะแบบนี้ทุกคนควรแบ่งปันความทุกข์ ความลำบาก ความไม่สะดวกสบาย และควรถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน การเห็นแก่ตัว ยิ่งในภาวะไม่ปกติยิ่งไม่ควรทำ ใครเอาแต่สบายหรือเอาตัวรอดแล้วคนอื่นเดือดร้อนหมด สุดท้ายคนนั้นก็อยู่ไม่ได้ เพราะคนอื่นอยู่ไม่ได้ ซึ่งนี่ก็รวมถึงเรื่องการขโมยกระสอบทราย ทำลายคันดิน ขูดรีดค้ากำไรเกินควรซึ่งเป็นการซ้ำเติมทุกข์ประชาชนในวิกฤติน้ำท่วม ซึ่งทั้งเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำเพราะทำให้คนอื่น ๆ เดือดร้อนกันทั่ว และเป็นการกระทำความผิด มีโทษตามประมวลกฎหมาย

ช่วง “น้ำท่วม” จะต้อง “ระวังฆ่าคนตายโดยประมาท” ด้วย

และช่วยกันจับตา มีใครหาประโยชน์โดยมิชอบหรือไม่??

มีใคร ’โกงกินบนทุกข์น้ำท่วมของคนไทย“ หรือไม่?????.


ต้นฉบับ: Daily News Online > หน้าการเมือง > สกู๊ปหน้า 1 > ใช้ไฟ-กั้นน้ำ..ห้ามมั่ว'โดยประมาท'ทำคนตาย'ติดคุก!'



ที่มา: เดลินิวส์

 

ฝั่งธน จรัญสนิทวงศ์เลยแยกบางขุนนนท์ไปท่วมสูงขึ้นและกินพื้นที่กว้างขึ้นเรื่อยๆ รถเล็กผ่านไม่ได้แล้ว บางจุดสูง 1-1.5เมตร

 

แถวพุทธมณฑล สาย 2 ฝั่งเดียวกับ สายใต้ใหม่

น้ำเริ่มเอ่อล้นมาตามท่อแล้ว หมู่บ้านที่ต่ำ ๆ ตอนนี้น้ำเออบนถนนแล้ว คาดว่าน่าจะเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากน้ำฝั่งบางใหญ่ ไม่น่าเกิน 2 วัน รถวิ่งผ่านไม่ได้
คาดว่าน้ำส่วนนี้จะมาลง ณ ถนน เพชรเกษม

 

เขตทุ่งครุ สถานการณ์ปรกติ น้ำดื่มที่เป็นน้ำสะอาดที่สำรองไว้ คาดว่าสามาถใช้ได้เพียง2-3สัปดาห์เท่านั้น

 

วันนี้ ลาดพร้าว47 สะพาน2 ยังปกติ
เช็คระดับน้ำในคลองลาดพร้าวอยู่ในขั้นเฝ้าระวังเหมือนเมื่อคืน ยังไม่ได้ไปดูของจริงไม่ทราบอัพเดทไหม