เปิดโผ!19 เขตกทม.'รอด'

ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน

พระพุทธองค์สอนเอาไว้ตั้ง สองพันกว่าปีมาแล้ว ยังใช้ได้ดีอยู่เลย...สาธุ สาธุ สาธุ

 

แล้วเขตธนบุรีไปไหนอ่ะ

 

ที่ว่ารอดโดนหมดจ้า...เอาอยู่ค่ะ...
ไม่ท่วมค่ะ...
เวรกรรม..กรรมจัดสรรรชัดๆ

ขอให้ทุกท่านโชคดี

 

รอดูกันต่อไปค่ะ










งาน part time|งานพิเศษ|รายได้พิเศษ

 

วิทยุครอบครัวข่าว ส.ทร.FM106

กทม.เตรียมประกาศพื้นที่อพยพเพิ<WBR>่มเติมคือ

1.แขวงทรายกองดินใต้

2.แขวงสามวาตะวันตกเฉพาะพื้นที่<WBR>นอกแนวคันพระราชดำริ ถึงพื้นที่ติดกับแขวงสามวาตะวัน<WBR>ออก ในเขตคลองสามวา

3.แขวงหนองค้างพลู ในเขตหนองเขม

4.หมู่เสนานิเวศโครงการ 1 ในเขตลาดพร้าว ส่วนเขตภาษีเจริญด้านเหนือจะประ<WBR>กาศเป็นพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเ<WBR>ศษ

 

ที่ท่านว่ารอด น่ะ หมายถึงน้ำ มาถึงรอด ถึงขื่อ หรือเปล่าครับ ?

 

รอดครับ

 

เอ่อ ผมอยู่เพชรเกษม เขตภาษีเจริญครับ เอ่อ น้ำมาละครับไม่มีทีท่าว่าจะลด เหมือนมันไหลมาเรื่อยๆครับ ^ ^'' กำลังวางแผนสอง ครับว่าจะอพยพไปอยู่ไหนดี

 

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้ผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้นะคะ

 

เตรียมย้ายไปอยู่ตึกล่ะครับ

 

ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ

 

รัฐบาลนี่ข้อมูลมั่วมาก

 

กรุงเทพกำลังจมน้ำ : เรื่องจริง หรือ นวนิยาย


โดย รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ ม.รังสิต



กรุงเทพฯ จะกลายเป็นทะเลจริงหรือ พื้นที่บริเวณที่มีราคาสูงที่สุด เช่น สีลม จะกลายเป็นทะเลหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้น มีข้อมูลบ่งชี้อะไรบ้าง มีความเสียหายมากน้อยเพียงใด และเราควรปรับตัวอย่างไร ภาครัฐ และเอกชนควรเตรียมตัวอย่างไร?

จากผลการศึกษาโดยห้องปฏิบัติการสึนามิและพายุคลื่น ศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต โดย รศ.ดร. เสรี ศุภราทิตย์ ซึ่งได้รับทุนวิจัยมูลนิธิโทเร วิทยาศาสตร์ ประเทศไทย ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญหลายภาคส่วนจากบริษัท ปัญญา คอนเซาท์แตน จำกัด โดยการสนับสนุนของธนาคารโลก ได้ทำการประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากผลพวงของสภาวะโลกร้อน ต่อการเกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งมีการเสนอแนะแนวทางการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย

สืบเนื่องจากรายงานขององค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สหภาพยุโรป (OECD) ได้มีการวิเคราะห์พบว่า 9 เมือง (กัลกัตตา มุมไบ ดัคกา กวางสี เซี่ยงไฮ้ โฮจิมิน ไฮฟอง ย่างกุ้ง และ กรุงเทพมหานคร) ในทวีปเอเชีย และอีก 1 เมืองใหญ่ในสหรัฐอเมริกา คือไมอามี อาจจะต้องเผชิญกับภัยพิบัติน้ำท่วมชายฝั่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ประกอบกับผลการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่กรุงโคเปนเฮเกน ระหว่างวันที่ 10-12 มีนาคม ที่ผ่านมา พบว่า แนวโน้มของระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้น การนิ่งเฉยต่อสถานการณ์จะทำให้เกิดการล่มสลายของสังคมที่มีความเสี่ยงสูง ความเลวร้ายจะมาเยือนอย่างไม่สามารถที่จะเยียวยาได้ทัน

“รัฐบาลในหลายประเทศให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ในลำดับแรก ๆ มีการร่างนโยบาย และยุทธศาสตร์ ในการเตรียมพร้อมรับมือ ในขณะที่รัฐบาลไทยยังนิ่งเฉย วนเวียนกับปัญหาการเมืองที่ไม่มีทีท่าว่าจะยุติ เลยไม่ได้ใส่ใจต่อเหตุการณ์

ยิ่งปล่อยให้เวลาผ่านไปเท่าไร ความรุนแรงจะมีเพิ่มขึ้น เนื่องจากภัยพิบัติไม่สามารถที่จะรอเวลาได้ เมื่อถึงเวลานั้น เศรษฐกิจและสังคมจะล่มสลาย ต้องย้ายเมืองหลวงหนีน้ำ ใครจะรับผิดชอบ หรือจะโทษภัยธรรมชาติ”

ด้วยเหตุนี้ ศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต จึงได้ทำการวิเคราะห์ และประเมินความเสี่ยง และความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นกับชาวกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เพื่อมองหาแนวทางป้องกัน และลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับเมืองหลวงของเรา

เมื่อกลับมาดูในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เราพบว่าในระยะหลัง เรารู้สึกร้อนขึ้นใช่หรือไม่ จากข้อมูลอุณหภูมิที่วัดได้ในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา พบว่าอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันเพิ่มขึ้นประมาณ 1ํC ในขณะที่อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยรายวันเพิ่มขึ้น 2ํC ผลพวงดังกล่าวทำให้กรุงเทพฯ เกิดแรงขับเคลื่อนภายนอกที่ส่งผลให้มีความเสี่ยงมาก กับการจมน้ำ แรงขับเคลื่อนดังกล่าวประกอบไปด้วย

1) ปริมาณฝนตก และปริมาณน้ำเหนือมากขึ้น

2) ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และชายฝั่งถดถอย

3) แผ่นดินทรุดตัว

4) ความแออัดของชุมชนเมือง





เมื่อพิจารณาข้อมูล ปริมาณฝนตกในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่ามีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 5% ในขณะที่ปริมาณฝนตกสูงสุดใน 1 วัน และปริมาณฝนสูงสุดรายปีเพิ่มขึ้น 10-15% สำหรับระดับน้ำทะเลรอบ ๆ บริเวณอ่าวไทย เราพบว่าบริเวณสถานีหลักปากแม่น้ำทั้ง 4 แห่ง คือ แม่กลอง ท่าจีน เจ้าพระยา และบางปะกง มีแนวโน้มสูงขึ้นโดยเฉลี่ย 1.3 ซม./ปี (เป็นค่าสุทธิ)

ซึ่งคิดเป็นประมาณ 4 เท่าของการประเมินโดย IPCC เมื่อหักลบอัตราการทรุดตัวของแผ่นดินโดยการประเมินข้อมูลตรวจวัดตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน อัตราการทรุดตัวของพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลซึ่งลดลงจาก 10 ซม./ปี ในปี 2520 เหลือประมาณ 1 ซม./ปี ในปัจจุบัน ดังนั้นระดับน้ำทะเลบริเวณอ่าวไทยจึงมีระดับสูงขึ้นประมาณ 3 มม./ปี สอดคล้องกับข้อมูลในหลายประเทศรอบ ๆ บ้านเรา

จากแรงขับเคลื่อน ดังกล่าวข้างต้น ประกอบกับข้อคำนึงถึงแผนงานป้องกันน้ำท่วมของกรมชลประทาน และ กทม. นำมาสร้างแบบจำลองคณิตศาสตร์น้ำท่วมกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยใช้สถานการณ์จริงของเหตุการณ์น้ำท่วมในอดีตที่เคยเกิดขึ้นในปี 2538 พบว่า ถ้าเหตุการณ์ในลักษณะคล้าย ๆ กับปี 2538 มาเกิดขึ้นอีกในปัจจุบัน มูลค่าความเสียหายประเมินได้กว่า 40,000 ล้านบาท

และถ้าเหตุการณ์เดียวกันไปเกิดขึ้นในอนาคต 40 ปีข้างหน้า มูลค่าความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเป็น 150,000 ล้านบาท (มูลค่าปัจจุบัน) ในกรณีที่ระบบป้องกันน้ำท่วมไม่สามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเสียหายจะมีมากขึ้นเป็น 2 เท่า !!

สำหรับพื้นที่น้ำท่วมจะครอบคลุมบริเวณริมชายฝั่งทะเลประมาณ 10 กม. จากชายฝั่งปัจจุบัน พื้นที่บริเวณปากน้ำสมุทรปราการ ปากน้ำท่าจีน และชุมชนริมชายฝั่งจะมีระดับน้ำสูงประมาณ 1.5-2.0 เมตร ส่วนบริเวณริมแม่น้ำ เจ้าพระยาบางพื้นที่

เช่น เขตยานนาวา เขตบางคอแหลม เขตสาทร เขตคลองเตย เขตบางแค เขตหนองแขม เขตบางบอน เขตบางขุนเทียน และอำเภอพระสมุทรเจดีย์ รวมทั้งพื้นที่บางส่วนฝั่งขวาถนนบางนา-ตราดจะมีน้ำท่วมขังน้อยกว่า 60 ซม.

อย่างไรก็ตาม หากมีการสร้าง และต่อเสริมคันดินริมชายฝั่งทะเลทิศตะวันออก ก็จะสามารถป้องกันการรุกล้ำของน้ำทะเลได้ นอกจากนี้ยังมีจำนวนอาคารบ้านเรือนกว่า 1.2 ล้านหลัง ประชากรกว่า 1 ล้านคน ที่จะได้รับผลกระทบ โครงสร้างสาธารณูปโภคโดยเฉพาะถนนหนทาง และโรงกำจัดขยะบางโรงจะเกิดความเสียหาย สำหรับบริเวณด้านเหนือน้ำโดยเฉพาะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรีจะเกิดน้ำท่วมหนักเกือบ 2 เมตร

ดังนั้น หากรัฐบาลยังคงนิ่งเฉยต่อความเสี่ยง และความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น หรือจะรอให้มันเกิดก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน เมืองหลวงของเราก็คงจะเป็นเมืองร้างกลางน้ำ ซึ่งเราคงยอมไม่ได้ที่จะให้เป็นเช่นนั้น

กรุงเทพกำลังจมน้ำ : เรื่องจริง หรือ นวนิยาย(ตอนที่ 2)

กรุงเทพกำลังจมน้ำ : เรื่องจริง หรือ นวนิยาย(ตอนที่ 3)

กรุงเทพกำลังจมน้ำ : เรื่องจริง หรือ นวนิยาย(ตอนที่ 4)

กรุงเทพกำลังจมน้ำ : เรื่องจริง หรือ นวนิยาย(ตอนที่ 5)

วันที่ 14/05/2552​

 

เตรียมพร้อมได้แล้วครับ

ท่วมแน่นอนครับ เตรียบรับมือเลยครับ ผมมั่นใจมาเป็นเดือนแล้วครับ

 

คุณ yokine ลองพิจารณาที่นี่ดูสิคะ

ศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย ของ Summit Corporation ซึ่งตั้งอยู่ถนนบางนา-ตราด กม.11 เป็นอาคาร 11 ชั้น (ตามแผนที่และภาพถ่ายที่แนบประกอบ)
ศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย จะเปิดทำการตั้งแต่ วันที่ 28 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป และเปิดทำการ 24 ชั่วโมง สามารถรองรับผู้ประสบอุทกภัยภัยได้จำนวน 700 คน

โดยทางศูนย์ฯ ได้จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องนอน และของใช่ส่วนตัวให้ทุกครอบครัว พร้อมกันนี้ได้จัดเตรียมอาหาร และ น้ำดื่มให้แก่ผู้เข้าพักทุกท่าน

โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกดังนี้ ไฟฟ้า, น้ำประปา,ห้องน้ำ-ห้องอาบน้ำ, ลิฟท์, เครื่องปรับอากาศ
จึงขอประชาสัมพันธ์ และขอความกรุณาจากทุกท่านช่วยกระจายข่าว ให้ผู้ที่กำลังประสบอุทกภัยได้เข้ารับการบริการ หรือ ผู้ที่มีจิตอาสาที่จะร่วมกันทำงาน

สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้จากเจ้าหน้าที่ของบริษัท ซัมมิท โอโต บอดี้อินดัสตรี จำกัด ดังนี้
คุณนิลรัตน์ 089-812-3075 คุณจิรารัช 089-812-3782 คุณมัสลิน 089-812-2864 คุณสมพร หิรัญรัตน์ HR-GM 089-813-0297
สถานที่ใกล้เคียง : ห้างเทสโก้โลตัส, โฮมโปร, ตลาดสดบางพลี, รพ.จุฬารัตน์, เซ็นทรัล บางนา, รพ.ไทยนครินทร์
from mail.

 

พิกัด บางบอน ถ.เอกชัย คุณน้ำยังไม่มาเลย รออยู่แล้วครับ ถ้าผ่านไปได้ก็ไม่ต้องแวะมานะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ตอนนี้ จรัญ13เลยข้อเท้าขึ้นมาแล้วคะ 10 เซนลานบ้าน ตอนนี้ก็ไหลเข้าบ้านมาเรื่อยๆ มาจากสาย1 กลางคืน น้ำนิ่ง เช้ามาเอาแล้ว ขึ้นมาจนตอนนี้ 16.25 น น้ำไหลมาไม่หยุดเลย เตรียมตัวแล้วคะ มันยังอยากอยู่ดูบ้าน จนกว่าถึงที่สุด รู้สึก รักบ้านมากขึ้นเลยคะ เมื่อคืน ต้นตระกูลอึ่ง ร้องดังมากก เหมือน ยกบ้านไปอยู่กลางป่าเลย ขอดูอีกคืนน่า

 

ข้อมูลมั่วจริง ๆครับ เชื่อถือไม่ได้ โดนกันถ้วนหน้า รัฐบาลดีแต่โม้ พิจารณาตัวเองได้แล้วแย่มาก

 

น้ำท่วมเพียงกาย
อย่าให้ตายเพราะน้ำท่วม....ใจ
​

 

วันนี้ผ่านหน้าไทยซัมมิท เห็นอาคารนี้แล้วครับ ติดป้ายบอกไว้ชัดเจน มาจากสี่แยกบางนา อยู่ทางซ้ายถึงก่อนถนนกิ่งแก้ว