เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...

ตอน #พญานาค พรากดวงจิต

ขอบอกว่าเรื่องนี้เป็นเจตนา..ให้เป็นเช่นนั้นครับ..

อ่านเล่นๆ อย่าไปจริงจังมากครับ..เครียด

คิดว่าอย่างน้อยคงได้อะไรเล็กน้อยบ้างล่ะ ถ้าใช้วิจารณญาณ

....เพราะทุกวันนี้ ความบอบช้ำของคนจำนวนมากทั้งขวัญกำลังใจ ความขัดสนทรัพย์สินเงินทอง
...เชื่อมโยงถึงกันกระจายในสังคมทั่วไปหมด...เพราะภัยน้ำท่วมหนัก

แค่นี้มันก็หนักสมอง ปวดกระโหลกเต็มทีแล้ว

แล้วทำไมต้องเติมเรื่องหนักๆ ซ้ำ น้ำท่วมเข้าไปอีกเล่า..

...ลองทำอะไรที่มันบิดเบี้ยวไปบ้าง..ไม่ต้องเดินเป็นเส้นตรงมากนักก็ได้

จะเป็นไรไป...วางใจแบบ ง่ายๆ บางๆเบาๆ

แย้มน้อยๆในดวงใจเข้าไว้ครับท่าน

ผู้เขียนรู้ดีครับว่าเรื่องแบบนี้หมิ่นเหม่ต่อศรัทธาความเชื่อที่หลากหลายในสังคม..ที่บางคนไม่เชื่อ
แม้กระทั่ง....ไม่เชื่อโลกนี้ โลกหน้า บาปบุญหรือเวรกรรม

กรรมดี กรรมชั่วด้วยซ้ำไป....

ความจริงที่เกิดขึ้นหลายอย่าง...จ้างให้ 2 บาทคุณก็ไม่เชื่อ!!!

ถ้าท่านไม่เจอด้วยตัวเอง...เล่าให้ตายก็เปล่าประโยขน์

ในเมื่อเสี่ยงที่จะไม่เชื่ออยู่แล้ว...ก็ต้องทำเล่นๆ ให้เป็นเรื่อง

เล่นๆรั่วๆซะเลย... ยังไงล่ะครับท่านผู้เจริญ

 

ขอบคุณที่ตักเตือนครับ..ในบทไม่ได้เอ่ยอ้างชื่อบุคคลใดๆ
นอกจากนามสมมติเพียง อาหมวย เท่านั้น

คิดว่าคงไม่ได้ทำอะไรผิดพลาด จนอภัยให้ไม่ได้นะครับ..
ต่อไปจะพยามลดดัวตัณหาอุปทาน ลงซะตัวสองตัว...

 

ต่อไปเรื่องที่จะบอกกล่าวถึงที่ไปที่มา ของพระสุ==>หลวงปู่ประเสริฐ==>ผ้าไตรลอยบนฟ้า==>เหล็กไหล
และธาตุศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์กับวาระหน้าที่คุ้มครองจากภัยพิบัติด้วยพื้นวาสนาบุญเดิม<!-- google_ad_section_end -->

รออีกสักพัก.. ขอเวลาไปตรวจสอบสถานที่นี้อีกครั้ง

 

คุณ Toplus99 อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ ยังมีคนอยากอ่านเรื่องดีๆ ของคุณอยู่
คุณอาจจะต้องตัดน้ำออกบ้าง เหมือนซื้อก๋วยเตี๋ยวนะครับ มีน้ำพอประมาณ
อย่าให้น้ำเต็มชามแต่เส้นและลูกชิ้นมีนิดเดียว มันจะเสียอารมณ์ แม้ว่าเมื่อได้
กินแล้วมันจะอร่อยก็ตาม

อย่าโกรธกันนะครับ สิ่งที่คุณตั้งใจถ่ายทอดมันเป็นความดีครับ

 

อยากอ่านเรื่องจริงที่เป็นเรื่องเล่าครับ ไม่เอาแบบนิยาย เพราะมันยืดยาวไม่ไหว

 

ขอบคุณครับ...สำหรับคำแนะดีๆ
ต่อไป..จะเพิ่มเนื้อหา เป็นเส้นกับลูกชิ้นให้มากยิ่งขึ้นครับ
เดี๋ยวลูกค้าหนีหายหมด..เพราะเข้าใจว่าพ่อค้าเอาเปรียบลูกค้า

ว่าแต่ว่าไม่ชอบน้ำซุปเยอะๆแน่ใช่มั๊ย ครับ....?
แหม...อุตส่าห์ต้มเคี่ยวมาตั้งนาน... กว่าจะได้สูตร
งั้น!ห่อใส่ถุง แยกน้ำห่อกลับมั๊ยครับ...?น้ำซุปเหลือเต็มหม้อเลย เสียดาย...

อ่ะล้อเล่น! อย่ามาถือสาคนบ้าๆบอๆเลย ปวดมือ ปวดกระโหลกเปล่าๆ



พูดเรื่องนี้แล้วชักหิวขึ้นมาเลยเชียว...
เดี๋ยว....สั่งก๋วยเตี๋ยวแห้ง แยกน้ำซุปเยอะๆมากินดีกว่า


ขอบคุณครับ

 

ขอต่อรองซักนิดได้มั๊ย.. แล้วถ้าเป็นนิยาย ที่มาจากเรื่องจริงล่ะครับ
แต่เล่าแบบสั้นๆได้หรือเปล่า.. ไม่งงเน๊อะ

 

อันนี้ผมก็เห็นด้วยครับ บางท่านก็ต้องการเสพทั้งเส้นทั้งน้ำให้กลมกล่อม
แต่ว่าวันนี้ไปหาพระอาจารย์ที่ผมเคารพนับถือมา ท่านชอบเล่านิทานให้ฟัง แต่ไม่โลดโผนมากนัก ท่านเคยเล่าเรื่องน้ำท่วมเรื่องภัยต่างๆ ให้ฟังตั้งนานแล้ว วันนี้ท่านกล่าวถึงเรื่องภัยต่างที่จะเกิด แต่เล่าไปก็ซ้ำกับทู้อื่นๆ ที่แน่ๆท่านว่าครั้งใหญ่จริงๆรุ่นหลานโหลนเราจะได้เห็น รุ่นเราแค่สะเก็ด (โหแค่สะเก็ด) มีนิทานเยอะแยะวันนี้ไปนั่งฟังยุงก็กัด สรุปว่าถ้าทำได้ก็เตรียมเสบียงทั้งทางโลกทางธรรมให้ดีแล้วกันครับ

 

เรื่องของพระสุ==>หลวงปู่ประเสริฐ==>ผ้าไตรลอยบนฟ้า==>เหล็กไหล
และธาตุศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์กับวาระหน้าที่คุ้มครองจากภัยพิบัติด้วยพื้นวาสนาบุญเดิม<!-- google_ad_section_end -->

เริ่มเรื่องย่อๆเลยนะครับว่า เพราะหลายคนชอบเนื้อหาใจความสำคัญๆ เดินเรื่องเร็วหน่อย..ลองดูครับ

เริ่มที่พระภิกษุที่ญาติโยมเรียกขานชื่อ หลวงน้าสุ ทีเคยป่วยบ่อยๆด้วยไม่ทราบสาเหตุ ได้พาไปกราบพบหลวงปู่ประเสริฐ เพราะเคยได้ยินว่าท่านชี้ให้ดูแล้วเห็นผ้าไตรลอยบนฟ้าได้
และท่านพูดเรื่องเหล็กไหลจะดีมากในช่วงกลียุคภัยพิบัติ
จากนั้นเลยพากันไปเที่ยวถ้ำในป่าลึกมากๆแห่งหนึ่งจนเจอหินก้อนใหญ่ที่ดูดแสงสว่างจากไฟฉายได้...

อาจารย์ฆราวาสอดีตทหาร ผู้ได้ญาณทรรศนะสัมผ้สจิตวิญาณที่เคยร่วมบุกไปขุดบ่อหลุมเหล็กไหล ที่ขอนแก่นเจอเหตุการณ์มากมาย ก็พูดว่าแร่เหล็กไหลนี้ดีมากในช่วงมีภัยพิบัติ

พระอาจารย์ในถ้ำกลางป่าแถบสระบุรี ก็เคยให้ไปค้นหาแร่ประเภทเหล็กไหลนี้ เป็นสาเหตุให้เจอเหตุการณ์ที่ทำให้พระที่ไปด้วยกันเข็ดขยาด ไม่กล้าไปด้วยกันอีก..และให้สร้างวัตถุให้แล้วเสร็จก่อนออกพรรษาปีนี้ ไม่ทราบว่าเพราะสาเหตุเดียวกันหรือเปล่า
ถ้าใครมีของประเภทนี้ก็ดีครับ ถ้าใช้เป็นมีประโยชน์ดี ใช่แต่เอาไว้คุยว่าฉันก็มี....จบแล้ว

ใครที่สนใจเพิ่มเติมจะลองทำอีกเวอร์ชั่นให้ฟังให้อ่าน เอาแบบพอดีๆไม่เว่อร์ ถ้าใครสนใจ
แล้วมีเวลาพอค่อยกลับมาอ่านอีกทีก็ได้ ผมก็เป็นของผมอย่างนี้แหละ..แต่ช่วงนี้รีบ ครับ รีบ

ช่วงนี้ก็ยังยุ่งๆอยู่ ..มันมีเรื่องรีบอีกเยอะเหมือนกัน

 

บทคำนำแถลงการณ์
ข้าพเจ้า Toplus99 ได้เขียนบอกเล่าประสบการณ์ในการพบเจอเหตุการณ์ต่างๆมาที่จะมี ขึ้นมา
โดยการนำเสนอที่เห็นว่าอาจจะพอเกิดประโยชนใดๆได้บ้างแก่บุคลที่สนใจเท่านั้น
และมีรูปแบบการนำเสนอในรูปแบบของข้าพเจ้าเอง

และอาจสอดแทรกการนำเสนอตามแนวคิดตามอุดมคติที่ข้าพเจ้ามี ทั้งนี้อาจมีความคลาดเคลื่อน
หรือเห็นผิดไปจากท่านอื่นๆได้โดยเหตุผลทั้งปวง ดังนั้นบุคคลใดที่คาดหวังว่า
จะได้บทการเขียนของข้าพเจ้าให้ถูกใจ ให้เป็นที่พอใจท่านหรือให้เป็นตามที่ท่านต้องการนั้น


ข้าพเจ้า จึงขอแจ้งว่าท่านสามารถกระโดดข้าม การอ่านข้อความการตั้งกระทู้
หรือการโพสใดๆของข้าพเจ้า ได้ทันทีได้ตลอดเวลา ที่รู้สึกไม่ดีต่อบทการเขียนของข้าพเจ้า
เพราะงานเขียนนี้ไม่ใช่ การรับจ้างเขียนให้กับหนังสือพิมพ์ ไม่ใช่นิตยสาร

หรือโรงละคร โรงพิมพ์ใดๆ ที่ท่านต้องสูญเสียเงินแลกมาท่านจึงมีสิทธิ์เรียกร้อง
ความพึงพอใจในสินค้าที่ท่านเลือกซื้อได้ตลอดเวลา


<Oแต่ทั้งนี้งานเขียนข้าพเจ้า ได้ตระหนักถึงความเสียหาย ต่อจารีตประเพณี
อันดีงามและจรรโลงพระศาสนา ส่งเสริมความสงบผาสุขของบ้านเมืองโดยรวม
อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทุกประการ

<O</O
จึงเรียนมาเพื่อทราบ และเพื่อขอเป็นไปตามประกาศนี้โดยประมาณๆ<O</O
Toplus99<O</O

 

ที่มาของเล่าเรื่องหลวงปู่ประเสริฐสำนักสงฆ์ เขตแดนแถบลำพญากลาง มวกเหล็ก สระบุรี

เริ่มต้นจากการที่ผู้เขียนได้มีโอกาสรู้จักมักคุ้นกับพระสุ ที่ได้มาบวชแล้วมาจำพรรษาที่ สำนักสงฆ์แห่งนี้ ที่ข้าพเจ้าเคยไปบวชมาแล้วประมาณ 15 ปีที่แล้ว เรียกว่าท่านได้มาอยู่ที่นี่หลังผู้เขียนได้ประมาณนับสิบปีทีเดียวสาเหตุการบวชมาจนถึงปัจจุบันนี้น่าสนใจ
สาเหตุมาจากเกิดความเจ็บป่วยจนแทบเอาชีวิตไม่รอด ในช่วงวัยหนุ่ม 20 ปีต้นๆ จนโยมแม่ท่านในขณะนั้นได้บนบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่าถ้าหายป่วยจะให้ลูกบวชแก้บน ส่วนลูกชายก็ได้รับปากตอบตกลงว่าจะบวชให้ เพื่อแก้บน ทดแทนบุญคุณพ่อแม่ด้วย หลังจากบวชที่วัดประจำหมู่บ้านแล้ว พอครบกำหนดออกพรรษา เตรียมตัวลาสิกขา

ปรากฏว่าต้องกลับมาป่วยหนักเหมือนเดิมอีก และโยมแม่ได้ไปถามทางร่างทรงที่ติดต่อเทพวิญญาณชั้นสูง ท่านว่าพระลูกชายจะสึกออกไปไม่ได้ ถ้าฝืนสึกไปจะต้องป่วยตายอย่างแน่นอน ในช่วงแรกๆก็ไม่เชื่อซะทีเดียว เมื่ออาการป่วยหายดีแล้ว ก็พยายามหาฤกษ์สึกให้ได้ แต่ไม่เคยสำเร็จสักครั้ง<O</O
เรียกว่า ถ้าสึกลาสิกขาจริง...ก็ป่วยจริงเมื่อนั้น <O</O
<O</O

จากทีคุ้นเคยกับพระสุมาได้ระยะหนึ่ง และเมื่อประมาณปี 2550 ก่อนที่หลวงปู่ประเสริฐท่านยังไม่ละสังขาร(มรณภาพ)ประมาณ3ปี (ปัจจุบันสรีระสังขารท่าน บรรจุในโลงแก้ว โดยไม่มีการเน่าเปื่อยแต่ประการใด ดูลักษณะเหมือนผู้นอนหลับปกติทั่วไป ในสถานที่ลึกลับแห่งหนึ่ง)
<O</O
พระสุท่านมักเล่าเรื่องที่โยมแม่และญาติๆ ที่มีอาชัพชาวไร่ปลูกมันสำปะหลังกันแทบทุกครัวเรือน ที่มีใจชอบชักชวนเดินทางกันไปทำบุญและไปปฏิบัติธรรมในที่ต่างๆ
<O</O
จนกระทั่งมีโอกาสไปทำบุญกับหลวงปู่ประเสริฐหลายครั้งจนกระทั่งมีความคุ้นเคยกับท่านดี และท่านมักจะเตือนเรื่องภัยพิบัติที่จะมาอยู่เสมอ ตลอดจนบอกถึงความเป็นไป จุดสิ้นสุดของในทุกศาสนาในโลกและวาระสิ้นสุดของโลกต่างๆจนกว่ามนุษย์จะเข้าสู่ยุคพระศรีอารย์ <O</O

 

ต่อ..
ที่มาของเล่าเรื่องหลวงปู่ประเสริฐสำนักสงฆ์ เขตแดนแถบลำพญากลาง มวกเหล็ก สระบุรี

แต่ทางญาติพระสุ เล่าว่ามันค่อนข้างละเอียด พิสดาร “โยมแม่ฉัน บางทีแกก็ไม่เข้าใจเพราะเรียนมาน้อย ตามประสาคนบ้านนอกบ้านไร่”
"โยมแม่ แกจับใจความรายละเอียดได้ไม่มาก เอาแต่เรื่องหลักๆไม่กี่เรื่องมาเล่าให้ฉันฟัง”


<O"เช่นเคยมีนักการเมืองดัง นำเงินมาถวายท่านด้วยเงินสด เป็นแบงค์พันปึกใหญ่ๆ <O</O
เป็นเงินนับล้านๆบาท ท่านจึงให้เอาเงินวางกับไว้ที่พื้นกระดานไม้นั่นแหละนักการเมืองคนนั้น
ก็วางไว้ตามที่ท่านบอก จากนั้นก็กราบลากลับ หลวงปู่เองท่านก็ไม่ได้สนใจเงินนั้นเลย
ปล่อยให้พวก มด มอดปลวกแทะกัดเล่น ขนดินขึ้นทับเงินจนเกือบมิด
เพราะท่านรู้ว่าเงินนี้ มีที่มาไม่บริสุทธิ์.."

<O</O
“ที่สำคัญล่าสุด โยมแม่และญาติๆก่อนเข้าพรรษาได้พากันไปถวายผ้าไตรจีวรหลวงปู่<O</O
นั่งกันไปเต็มคันรถปิคอัพ เลยทั้งในเก๋งและกระบะหลังพากันถวายชุดผ้าไตรและสังฆทาน หลังกรวดน้ำเสร็จแล้ว ในระหว่างคุยกันอยู่นอกวิหารนั้น

ญาติคนหนึ่งถามท่านว่า"

<O</O
"การถวายชุดผ้าไตรจีวร ได้อนิสงส์อย่างไรบ้างหลวงปู่ "

<O</O
"อยากรู้กันใช่ไหม ฉันจะทำให้พวกโยมเห็นกันเลยดีมั๊ย...?"

<O</O
จากนั้นก็ท่านชี้นิ้วขึ้นไปยังท้องฟ้าที่แต่เดิมท้องฟ้าโปร่งสดใสให้กลุ่มญาติธรรม
ทุกคนแหงนหน้ามองตามไปในด้านทิศตะวันออกและสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องพากันตะลึงตาค้างเมื่อทุกคน

มองเห็นชุดผ้าไตรที่ทุกคนเพิ่งร่วมกันถวาย ผ้าไตรลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า
ห่างออกไปไม่มากจากจุดที่ทุกคนยืน ลอยเด่นอยู่พักหนี่ง แล้วผ้าไตรนั้นจึงก็ค่อยๆลอย เลื่อนห่างออกไปเรื่อยๆจนลับตาหายไปในที่สุด

<O</O
จากภาพนี้เหตุการณ์นี้ ทำให้ทุกคนในที่นั้นล้วนเกิด อาการปิติสุข จนสุดกั้น เกิดอาการขนลุก น้ำตาไหล พากันยกมือท่วมหัว อนุโมทนาบุญ อิ่มอกอิ่มใจในบุญกุศลครั้งนี้สุดประมาณ
และเชื่อว่าจะเป็นภาพที่ติดตาติดใจประทับไว้ในความรู้สึก ของคนเหล่านั้นจนวันตายทีเดียว....<O</O

 

ต่อ..
ที่มาของเล่าเรื่องหลวงปู่ประเสริฐสำนักสงฆ์ เขตแดนแถบลำพญากลาง มวกเหล็ก สระบุรี


“ฉันเองก็เคยไปกราบท่าน และพระอาจารย์เราก็เคยไปพบท่านมาแล้วเหมือนกัน
ท่านแนะการปฏิบัติได้ดีมากทีเดียว ทั้งวัดมีท่านอยู่องค์เดียวกับแม่ขาว แม่ชี ญาติท่านอีก2-3คนเท่านั้น
เงียบสงบดี“
“วันนี้โยมว่างมั๊ยล่ะอยากให้ไปด้วยกัน รับฟังเรื่องต่างๆจากปากท่านเองดีกว่าสงสงสัยอะไรก็ถามเถอะท่านตอบได้ทุกเรื่อง...อู้ย..ท่านใจดี..” พระสุชักชวน
<O</O
"...ฉันเองก็อยากไปกราบท่านหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีรถไป “<O</O
ได้ยินอย่างนี้แล้ว อย่าปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือ ตกลงก็เลยไปด้วยกัน

ครั้งแรกไปที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ ก็ค่อนข้างประหลาดใจต่อพระพุทธรูปองค์ใหญ่ เนื้อทองเหลือง สวยงามสง่ามากๆ หน้าตักกว้างประมาณ 3 เมตร คล้ายๆปางนั่งประธานพร
ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในศาลาที่เรียกกันว่าวิหารพระศรีอารย์
<O</O
ที่องค์พระมีซุ้มมลฑลเป็นรูปนกอืนทรีย์ และธงชาติของมหาอำนาจอยู่ด้วยและรูปอื่นๆอยู่ด้วยที่แปลกตาออกไปจากที่เราไม่เคยเห็นพระที่ปางนี้ที่ไหนเลย แต่รู้ว่าสวยงามมากๆ
และมีเทวรูปสำคัญทางพราห์มฮินดู ขนาดใหญ่ ยืนพิทักษ์ตามแนวด้านหลังขององค์พระใหญ่ อยู่อีกจำนวนหนึ่ง <Oโดยมีป้ายข้อความ ห้ามการถ่ายรูป เอาไว้

หลายคนที่มีสามารถทางจิตสื่อสารได้ดี กล่าวว่าท่านได้ทำรหัสหรือสัญลักษณ์คำนายของโลกเอาไว้ที่รูปพระพุทธรูปองค์นี้นี่ เอง สุดแท้แต่ภูมิรู้ ภูมิธรรมของแต่ละบุคคล ที่จะวิเคราะห์วิจารณ์
<O</O

 

จะพูดดีๆอย่างคนที่พูดรู้เรื่อง ผมก็พูดไม่เป็น เอาเป็นว่ามานั่งอ่าน ด้วยจิตที่นิ่งๆครับ

 

เรื่องราวของพลังเหล็กไหลและธาตุกายสิทธิ์ กับภาระกิจพิทักษ์ผู้ประพฤติธรรม

ก่อนจบปิดท้ายการพูดคุยสนทนา หลวงปู่ประเสริฐท่านพูดถึงเรื่อง "เหล็กไหล"
อยู่นานพอสมควรทีเดียว
เสร็จจากนั้นจึงพูดประมาณว่า

"ต่อไป เหล็กไหล ที่มีอยู่มากในประเทศไทยเรา
เขาจะทำหน้าที่สำคัญมาก ในยามมีภัยพิบัติของโลก
เขาจะมีส่วนช่วยคนที่มีความเกี่ยวข้องกับเขา
ดลจิตใจให้ลี้หลบภัยได้ หรือช่วยทำให้เหตุการณ์ผ่อนหนักได้มากทีเดียว
แต่ต้องรู้จักวิธีใช้ มันให้ถูกด้วย...

และพูดเรื่องราวของการขายเหล็กไหลไว้น่าสนใจคือของเหล่านี้เป็นของคู่บารมี ของใครของมัน
ผู้ที่มีได้แต่ไม่ศรัทธาต่อสิ่งนี้ หรือไม่มีการฝึกหัดจิตที่ดีย่อมไม่เกิดประโยชน์แก่คนที่มี
การซื้อเหล็กไหลชั้นเลิศ ก็พอสามารถทำการขายทำได้...ไม่ใช่ไม่ได้
แต่ต้องรู้เคล็ดวิธี...ของเขาเหมือนกัน

ที่สำคัญ ผู้ขายเองต้องมีบารมีพอที่จะขายด้วย บุญวาสนาในภพชาตินั้น
จะพอได้เงินจำนวนมากๆหลายล้านหรือเปล่า? เช่น
ชาตินี้ทั้งชาติ พื้นวาสนาเดิมที่เคยๆทำบุญไว้จะมีสมบัติได้แค่ไม่เกิน 2ล้านบาท
ก็ขายได้ไม่เกินนั้น

"อีกอย่างคือผู้ที่จะซื้อไปหรือครอบครองมีบุญคุณความดีวาสนาเกี่ยวข้องกันกับเหล็กไหลชิ้นนั้นหรือเปล่า?


และถ้าไม่เคยจะทำอย่างไรได้ อันนี้ฉันรู้หมด.."


"ไม่มีเหล็กไหลชิ้นใดในโลกที่ฉันจะยิงไม่ออก....รับรองกระจุยหายทุกชิ้น..."


ก่อนที่ท่านพูดว่า เรานี่แหละ เทพเจ้าแห่งเหล็กไหล .. เรื่องของเหล็กไหลเรารู้มากที่สุด
ไม่มีใครรู้มากไปกว่าเราอีกแล้ว

และท่านได้พูดว่าเขตแดนแถบๆนี้ ต่อไปจะเป็นแหล่งพลังงานทางจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเผยแพร่ศาสนาพุทธที่สำคัญที่สุดของโลก ประเทศไทยจะเป็นมหาอำนาจในยุคต่อๆไป

และเมื่อถึงยุคที่มีภัยพิบัติ ทีมีคนล้มตายจำนวนมาก ก็จะเกิดมนุษย์พันธ์ที่มีญาณทรรศนะกันมากขึ้น เพราะหลายคนมาจากเทพชั้นสูง หรือชั้นพรหม ก่อนลงมาเกิดได้อธิษฐาน
เพื่อมาทำหน้าที่ช่วยเหลือโลกไว้ ความสามารถสื่อสารกันทางจิตจะเปิดกว้าง
และสามารถทำกันได้ง่ายขึ้น และจะมีมากด้วยเช่นกัน...พร้อมกันๆกับช่วงที่มีภัยพิบัติร้ายแรง



<O</O
จากนั้นผู้เขียนและพระสุ ได้ออกตะลุยพากันไปเที่ยวถ้ำทีลึกออกไปในป่ามากๆ ดั้นด้นจนกระทั่งเจอตุ๊กแกป่า จนไปหัวโดนหินหัวแตก ห้วโน แบบขำๆ
ในที่สุดไปเจอ."..หินประหลาดก้อนใหญ่..."
ที่สามารถทำให้ไฟฉายหรี่แสงลงจนเกือบดับได้ เราพบสิ่งนี้กันในเวลาอีก 4 ชั่วโมงต่อมา
หลังจากที่ได้พบกับหลวงปู่ประเสริฐแล้ว....


จนจวบปัจจุบันก็ยังไม่ใคร่เข้าใจถึงพลังงานพบเจอว่าจะมีส่วนช่วยให้เขตแดนแถบบริเวณนั้นจะมีส่วนเสริมต่อพลังงานของผู้ปฏิบัติธรรมได้อย่างไร....คงต้องค้นหาปริศนานี้ให้จงได้..หากทราบแล้วจะบอกใหรู้ไม่ทำมุบมิบ แด่เพียงผู้เดียว

<O</O
สิ่งที่หลวงปู่ได้เคยพูดเอาไว้เมื่อเกือบสี่ปี ก่อนจะมาสะดุดใจผู้เขียนอีกครั้ง

เป็นครั้งที่ 2 เมื่อมีโอกาสพบกับ อาจารย์ฆราวาสที่มีความรู้เรื่องเหล็กไหลเป็นอย่างดีมาก
ท่านหนึ่ง...อีกครั้ง.....
..........

 

รบกวนท่าน topluss99 เปิดเรื่องหลวงปู่ประเสริฐเป็นกระทู้ใหม่จะดีกว่ามั้ยครับ เกรงท่านผู้อื่นจะพลาดเรื่องราวของพระเหนือโลกท่านนี้ไป คิดเห็นเป็นเช่นไรครับ

สิ่งที่ท่านทำนั้น ดีแล้ว จงทำต่อไป ขอชมเชยครับ หาได้ยาก ข้อมูลแน่นปึก อย่างนี้ คงต้องเงี่ยหูฟังกันบ้าง คราวปู่อินทร์ก็ท่านมิใช่รึที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่ฟัง จงทำหน้าที่ของท่านต่อไปเถิด ท่านผู้เตือน
บุญรักษาทุกท่าน นิติยาโน...นิติยาโน..

 

มายิงยาวเป็นชุดเลยครับ....งานนี้

ต่อ..เรื่องราวของพลังเหล็กไหลและธาตุกายสิทธิ์ กับภาระกิจพิทักษ์ผู้ประพฤติธรรม


อาจารย์ฆราวาสอดีตทหารนอกราชการค่ายสุรนารี ที่มีญาณทรรศนะ
สัมผัสพลังจิตวิญาณได้ดีมากท่านหนึ่ง ได้ย้ายไปทำมากินทำไร่ ทำนาที่หมู่บ้านชนบท ในเขตอำเภอหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ
<O</O
เมื่อช่วงต้นๆปี มีโอกาสเดินทางไปสำรวจที่ทำไร่ ของอาจารย์ฆราวาสท่านนี้ ในอดีตเมื่อประมาณ15 ปีก่อน เรามีความคุ้นเคยกันดีและเคยไปสำรวจบ่อเหล็กไหลแห่งหนึ่งในหมู่บ้านที่ค่อนข้างแห้งแล้งกันดารแห่งหนึ่งของจังหวัดขอนแก่น ด้วยกันมาแล้วจนกระทั่งมีโอกาสพบเจอประสบการณ์แปลกประหลาดต่างๆมากมาย จากบ่อเหล็กไหลลึกลับแห่งนั้น<O</O
(มีโอกาสจะเล่าให้ฟังเพิ่มเติม ไม่อยากนอกเรื่องมาก ลูกค้าหลายคนบ่นมาว่าอยากได้เส้นกับลูกชิ้นเพิ่ม น้ำน้อยๆ ฮา!)
<O</O
หลังจากได้พักผ่อน และสำรวจที่ที่นั่นมาได้ระยะหนึ่ง จนคณะเราพบเจอหินแร่เหล็กไหลเพลิงเข้า
หนึ่งก้อนขนาดเท่าๆลูกตะกร้อ จากเขตป่าลานหินทรายที่หนึ่งห่างจากหมู่บ้านไม่ไกลนัก

และต่อภายหลัง ก็ได้นำอธิษฐานขอขมาแด่จิตผู้ดูแลธาตุนี้ เพื่อนำไปบดรวมกับแร่กลุ่มเหล็กไหลประเภทอื่นๆที่ทางวัดพระอาจารย์เก็บรักษาไว้ มาทำวัตถุมงคลเพื่อเป็นทุนสร้างศาสนวัตถุของทางวัด

และก่อนดินทางกลับก็ต้องมาสะดุดใจกับคำพูดอีกครั้ง
โดยอาจารย์ฆราวาส ท่านนี้ได้ย้ำเน้นที่เกี่ยวกับ เหล็กไหล ไว้ โดยพูดว่า.....<O</O

 

ต่อ..เรื่องราวของพลังเหล็กไหลและธาตุกายสิทธิ์ กับภาระกิจพิทักษ์ผู้ประพฤติธรรม

และก่อนดินทางกลับ ต้องมาสะดุดใจกับคำพูดอีกครั้ง
โดยอาจารย์ฆราวาสท่านนี้ได้ย้ำเน้น พูดขึ้นว่า

...ต่อไปนี้ จะไปไหนมาไหนอยากให้พกพา พระเครื่องไปด้วย
และโดยเฉพาะเหล็กไหล นี่สำคัญมากขาดไม่ได้ เอาที่มีอยู่ไม่ว่าจะในรูปแบบไหนก็ได้
มาใช้งานซะ แต่ขอให้เอาประเภทที่มีจิตวิญญาณอยู่ในตัวนะ!
<O</O
ไม่ใช่ประเภทกลุ่มเดียวกันกับ พวกขี้เหล็กไหล,เหล็กตายซาก,เพชรหน้าทั่ง อะไรพวกนี้
หรือ ประเภทบดมาจากหินแร่เหล็กไหลทั้งหลายแล้วมาปลุกเสก
อันนี้จะมีพลังและความสามารถในการสื่อสารทางจิตไม่ได้ เพราะไม่มีจิตวิญาณเหล็กไหลอยู่!
อาจเป็นแค่พลังของครูบาอาจารย์ที่ปลุกเสกเองเท่านั้น
แต่อาจเป็นไปได้เหมือนกัน
.....หากว่าผู้ปลุกเสกเองเขาสามารถสื่อสาร ดึงพลังและอัญเชิญจิตวิญาณของเหล็กไหลเดิมออก ก่อนที่จะบดทำพระเครื่องนั้น แล้วภายหลังเชิญจิตแห่งญาณเหล็กไหลกลับคืนเข้าสู่พระเครื่องภายหลัง...

แต่ก็น่าจะมีน้อยรายนะที่จะมีคนทำได้ขนาดนั้น...

"สำหรับความคิดผมแล้วยังไงก็สู้แบบมีจิตวิญญาณแบบเดิมๆในตัวไม่ได้ "

.. อาจารย์แนะพร้อมออกความคิดเห็น...

เหล็กไหลที่มีจิตวิญญาณแบบเดิม ...อันไหนแบบไหนคุณก็พอรู้อยู่มั๊ง..ไม่ต้องอธิบายมาก

<O</O
"เพราะตอนนี้เหล็กไหลหรือธาตุกายสิทธิ์อื่นๆในโลก ที่มีจิตวิญญาณเข้าครอง
เขาจะใช้อำนาจฤทธิ์อำนาจฌานบารมี เปล่งพลังออกมาเต็มตัวเต็มกำลังเลย
<O</O
ในช่วงที่มีภัยพิบัตินี่แหละ คล้ายๆว่า มันเป็นกฎของพลังจักวาลอะไรนี้ด้วยล่ะ.

ผมเคยลองเช็คพลังบรรดาเหล็กไหลที่ผมมีนะ พลังเขาพุ่งปี๊ดเลย แรงแล้วก็เร็วกว่าเดิมอีก
..ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ อันนี้ลองมากับตัวเลย.."

ในช่วงที่มีภัยพิบัตินี่นะมันมีอะไรแปลกหลายอย่าง บางทีเหมือนเขาพยายายามบอก
หรือสื่อสารเตือนภัยด้วยนะ ปีนี้ภัยมันจะเริ่มหนักแล้วนะและปีต่อไปมันมีแต่จะหนักๆไปเรื่อย
ระวังหน่อยแล้วกัน ...นี่องค์ปู่เหล็กไหลบอกผมทางญาณมาว่างั้นนะ...!
..ไอ้เราก็อยู่บ้านนอกก็ไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว เรื่องภัยพิบัตินี้ก็ไม่รู้จะไปบอกใคร เตือนใคร?
คนแถวบ้านนอกแถวนี้เขาก็คงไม่สนใจหรอกเรื่องนี้
ช่วงนี้คงคล้ายๆว่า มันเป็นกฎของพลังจักวาลมันเปิดสื่อหากันไปหมด อะไรประมาณนี้ด้วยล่ะ.
อาจารย์ฆราวาลออกความเห็นเพิ่มเติม
(ฆราวาสท่านนี้พูดกับผมภัยที่จะเกิดไว้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมปีนี้54)


<O</O
"ให้เอาไปแขวนใส่หรือนำมาบริกรรมทำสมาธิ ก็จะจูงสภาวะจิตให้เข้าถึงฌานสงบได้ง่าย
ญาณทรรศนะก็จะเปิดเร็วขึ้น เพราะมันเป็นปณิธานของธาตุวิญญาณเหล่านี้ที่จะมา
เกื้อกูลและพิทักษ์รักษาคนที่ประพฤติธรรม ที่เคยมีวาสนาร่วมกันมาในอดีต"

"เพราะเขาก็ต้องการบุญบารมีการปฏิบัติธรรมจากเรา ไปเสริมบารมีให้เขาเองด้วยเหมือนกัน<O</O
ถือว่าต่างช่วยเหลือพึ่งพาซึ่งกันและกัน"

<O</O
"รับรองน่า!ผมถามองค์ปู่เหล็กไหลมาแล้ว"

"ทุกวันนี้ผมก็ได้ปู่เหล็กไหลนี้แหละ ช่วยพยากรณ์ดวงชะตา
ทำน้ำมนต์ขับสิ่งทำมาจากไสยศาสตร์สายดำให้ลูกศิษย์ที่มาหา
และท่านบอกให้เตือนคุณและเพื่อนๆหรือคนที่รู้จักด้วย" ท่านพูดถึงปู่เหล็กไหล

<O</O
ก่อนที่จะเดินทางกลับท้ายสุด อาจารย์ฆราวาส ได้นำเอาเหล็กไหล
รูปทรงคล้าย ยาแคปซูลขนาดใหญ่ๆ สีคล้ายๆเหล็กออกจะขาวๆหน่อย
แต่มันแวววาว นำออกมาให้ดู โดยบอกว่า ตอนได้แรกๆ ที่ได้มา
เขาเหมือนเหล็กแต่จะนิ่มๆมือ แปลกดี !
เหล็กนิ่มๆตอนหลังก็เริ่มค่อยๆแข็งตัวขึ้นมาเรื่อยๆ
จนเป็นอย่างที่เห็นนี้แหละ..<O</O

 

เหนื่อยนักพักดื่มชากันก่อนครับ