เป็นเกย์ เพราะทำกรรมอะไรหรือครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย คำหม่อง, 4 เมษายน 2007.

  1. คำหม่อง

    คำหม่อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +157
    ผมเป็นเกย์ รู้ตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ในทางกรรม ถือว่า คนที่เป็นแบบนี้ เพราะทำกรรมแบบไหนไว้หรือครับ

    ไม่ใช่ ไม่สบายใจ หรือ ไม่อยากเป็นนะครับ ทุกวันนี้ก็มีความสุขดี แต่แค่อยากรู้ จะได้ไม่ทำผิดซ้ำอีกครั้งครับ
     
  2. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,407
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,419
    ผิดศีลข้อ 3 กาเมสุมิจฉาจารา ครับ ก็ตั้งใจทำความดี แล้วก็อธิษฐานจิตขอให้ชาติหน้าเกิดเป็นผู้ชายก็จะดีมากครับ
     
  3. vnss

    vnss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,557
    เกย์

    บางท่านสงสัยว่า เอาอะไรมาวัดว่าเป็นเกย์หรือไม่ และอยู่ขั้นไหน บางคนชอบทั้งชายและหญิง บางคนเห็นผู้หญิงแก้ผ้าแล้วก็ยังเฉย ๆ ถามตัวเองนะคะว่าคุณอยู่ในข้อไหน

    1. คุณชอบผู้หญิง100 % ไม่ชอบผู้ชายเลย
    2. คุณชอบผู้หญิง 80 % ชอบผู้ชายแค่ 20 %
    3. คุณชอบผู้หญิงและผู้ชายพอ ๆ กัน ประมาณ 50-50 %
    4. คุณชอบผู้ชาย 80 % และชอบผู้หญิงแค่ 20 %
    5. คุณชอบผู้ชาย 100 % เห็นผู้หญิงแล้วก็งั้น ๆ

    ตัวเลขอาจผันผวนเปลี่ยนแปลงได้
     
  4. vnss

    vnss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,557
    ตอบคุณคำหม่อง

    ตอบคุณ คำหม่อง
    ชาติก่อนเคยผิดศีลข้อ 3 ค่ะ อาจจะข้อใดข้อหนึ่งในนี้
    ประพฤติผิดในกาม ผิดลูกเมียเขา
    ล่วงเกินบุตรธิดาของผู้อื่นก่อนได้รับอนุญาต
    แย่งคนรักของคนอื่น,
    กีดกันความรักคนอื่น,
    นอกใจคู่ครอง,หลอกลวง,
    ข่มขืน,ค้าประเวณี,
    ล่วงเกินทางเพศต่างๆ)

    ผลกรรมคือ

    1. หาคู่ครองไม่ได้ ,ไม่มีใครเอา, หน้าตาอัปลักษณ์ ,โดนเพศตรงข้ามล้อเลียนจนมีปมด้อย
    2. เป็นหม้าย ,ผัวเมียตายจาก, ผัวหย่าเมียร้าง,คบใครก็มีเหตุให้หย่าร้างเลิกรา
    3. คนรักนอกใจ ,คนรักมีชู้ ,มีเมียน้อย ,คบใครก็เจอแต่คนเจ้าชู้ ,โดนหลอกฟัน, ท้องไม่รับ, เสียตัวฟรี ,โดนข่มขืน
    4. ไม่มีมิตรจริงใจ, เพื่อนฝูงไม่รัก, พี่น้องก็ไม่รัก ,พ่อแม่ทอดทิ้ง ,ชีวิต
    ขาดความอบอุ่น, มีแฟนก็ไม่มีใครจริงจังด้วย,ครอบครัวไม่อบอุ่น
    5. มีความผิดปกติทางเพศทางร่างกาย,ทางจิตใจ,ถูกกีดกันทางความรัก,สังคมไม่ยอมรับความรักของตน,มีความรักหลบๆซ่อนๆ
    6. ต้องมีเหตุพลัดพรากจากคนรักและของรักอยู่เสมอ(ก่อนเวลาอันควร)





     
  5. vnss

    vnss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,557
    แนะนำ

    แนะนำหนทางทุเลา --

    ตั้งสัจจะว่าจะไม่ทำผิดเรื่องทางเพศ ไม่ทำให้ใครรู้สึกผิดหวังเสียใจในเรื่องความรัก ไม่กีดกัน ไม่คิดแย่งหรือไปรักกับคนรักของใคร ไม่คิด ทำร้ายความรู้สึกคนรัก ไม่ล่วงเกินบุตรธิดาของใครก่อนได้รับอนุญาต รักเดียวใจ เดียว ไม่นอกใจไม่มีกิ๊ก พอใจในคู่ครองของตนเอง

    หมั่นทำบุญถวายเทียนคู่ให้วัด ถวายธงคู่ประดับวัด ช่วยออกค่าใช้จ่ายงานแต่งงานและอื่นๆตามแต่ท่านจะสะดวกและตามกำลัง หรือให้ธรรมะด้านความรักแก่คู่รักที่รู้จัก

    เอาใจใส่คู่ครองคนรัก เอาใจใส่พ่อแม่ของตนเอง หากรักพ่อแม่เอาใจใส่พ่อแม่อย่างดีจะได้รับผลบุญทำให้ความรักของเราสดใสไม่เจ็บช้ำ

    หากทรมาณพ่อแม่ ทำอย่างไรกับพ่อแม่ไว้ ต่อไปชีวิตรักก็จะเลวร้ายพอๆกับความรู้สึกเสียใจของพ่อแม่ที่เราได้กระทำไว้
     
  6. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,358
    กึ๋ย ผลของศีล ข้อ 3 ที่สืบเนื่องถึงชาติหน้านี่น่ากลัวมาก -*-

    โกยเถอะเกย์...
     
  7. toottoo

    toottoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    720
    ค่าพลัง:
    +3,255
    ผลเวรกาเมฯ ผิดศีลข้อ 3 ที่เป็นเกย์นี่ก็เศษกรรมแล้วนะครับ
    คิดดูถ้าต้องปีนต้นงิ้ว เกิดเป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรฉานอีกหลายชาติ
    กว่าจะมาเป็นคน โดยเฉพาะสุนัขที่ว่ากันว่าเกิดจากเวรกาเมฯ ซะมาก

    เพราะฉะนั้นตั้งใจ ทาน ศีล ภาวนา เป็นเบื้องต้น รักษาอย่าให้บกพร่อง
    มีโอกาสก็ถือศีลแปด ศีลอุโบสถ ถือพรหมจรรย์ ไม่ต้องคิดเรื่องความรักจะผิดหวังหรือจะสมหวัง เอาไม่เกิดดีที่สุดครับ
     
  8. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +6,347
    ศีลอุโบสถ คืออะไรครับ
     
  9. thos1964

    thos1964 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2006
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +441
    คัดลอกมาจากเว็บคนเมืองบัวนะครับ แต่ผมเข้าเว็บนั้นไม่ได้ ไม่ทราบว่าท่านอื่น ๆ เข้าได้หรือเปล่าครับ ผมเลยต้องนั่งพิมพ์ใหม่จะได้อ่านกันได้ครับ ลิ๊งค์ดั้งเดิมตามนี้นะครับ
    http://www.konmeungbua.com/webboard/aspboard_Question.asp?GID=20583

    ความแตกต่างระหว่าง "อุโบสถศีล" กับ "ศีล ๘"

    "อุโบสถศีล" กับ "ศีล ๘" ยังมีบางคนเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่ เช่น เข้าใจว่า "อุโบสถศีล" กับ "ศีล ๘" เป็นอย่างเดียวกัน แตกต่างกันแต่เพียงชื่อเท่านั้น หรือเข้าใจว่า ผู้รักษา "อุโบสถศีล" จะต้องนอนค้างคืนที่วัด นอนบ้านไม่ได้ บางคนเข้าใจว่า การรักษา "อุโบสถศีล" ก็คือ คนดูแลรักษาโบสถ์ ทำความสะอาดโบสถ์ ความจริงที่ถูกต้องนั้นเป็นอย่างไร ขอชี้ให้เห็นความแตกต่างกัน ดังนี้

    ๑. "อุโบสถศีล" กับ "ศีล ๘" มีข้อห้าม ๘ ข้อเหมือนกัน
    ๒. คำอาราธนา (ขอศีล) แตกต่างกัน ไม่เหมือนกัน
    ๓. "อุโบสถศีล" มีวันพระเป็นแดนเกิด สมาทานและรักษาได้เฉพาะวันพระเท่านั้น ส่วนศีล ๘ สมาทาน และรักษาได้ทุกวัน
    ๔. "อุโบสถศีล" มีอายุ ๒๔ ชั่วโมง (วันหนึ่งคืนหนึ่ง) ส่วน "ศีล ๘" ไม่กำหนดอายุในการรักษา
    ๕. "อุโบสถศีล" เป็นศีลสำหรับชาวบ้านผู้ครองเรือน หรือเป็นศีลของชาวบ้านผู้บริโภคกาม ส่วนศีล ๘ เป็นศีลสำหรับชาวบ้านผู้ไม่ครองเรือน เช่น นางชี เป็นต้น

    กุศลผลบุญใดที่เกิดจากข้อความนี้ ขอผลบุญนั้นจงสำเร็จแก่ผู้โพสต์ข้อความเดิมนะครับ
     
  10. คำหม่อง

    คำหม่อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +157
    แจ่มมากครับ ขอบพระคุณมาก ที่ช่วยให้กระจ่างกับความสงสัยที่เคยมีมา จะพยายามทำตามคำแนะนำที่ให้ไว้ครับ
     
  11. sukp

    sukp Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +95
    จากโพสต์ของคุณ vnss มีส่วนถูกต้องอย่างมาก มีผู้รู้ท่านหนึ่งทักดิฉันว่าอดีตชาติดิฉันได้ทำผิดศีลข้อสามนี้โดยการแย่งสามีของคนอื่นจนเป็นสาเหตุให้ภรรยาและลูกของเขาต้องจบชีวิตด้วยความเสียใจ ในชาตินี้เธอคนนั้นและลูกๆของเธอก็คอยอยู่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของดิฉัน ด้วยความโกรธแค้นจนไม่ยอมรับผลบุญที่ดิฉันอุทิศให้ ผลกรรมนั้นบันดาลให้ชีวิตส่วนตัวดิฉันในเรื่องความรักผิดหวังมาตลอดแบบไม่น่าเชื่อ เพื่อนฝูงที่เคยช่วยเหลือกันกลับไม่มีความจริงใจ ฯลฯ เกือบทุกข้อที่คุณ vnss ยกขึ้นมามีส่วนมาก
     
  12. table

    table เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +730
    ต้องขอบอกเลยนะครับว่า ไม่ใช่กรรมจากผิดศีลข้อ 3 อย่างเดียว แล้วจะทำให้ทุกคนเป็นเกย์ หรือเป็นตุ๊ด ไม่ใช่นะครับ ถ้าอย่างนั้น การที่พระพุทธเจ้าเทศน์ เรื่องอานิสงค์ศีล และโทษแห่งศีล นั้น ในเรื่องข้อ 3 คือบุตรลูกน้องบริวาร ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่ง ว่านอนสอนยาก อันนี้คือการผิดศีลข้อ 3
    และขอกล่าวอีกอย่างว่า สมัยโบราณ ผู้ชายเป็นใหญ่ จะมีเมียกี่คนก็ได้ เพราะผู้ชายหาเลี้ยงครอบครัว เมีย่อยู่บ้านเฉย ๆ เลี้ยงลูกเป็นแม่บ้านแม่เรือน อย่างเช่นผู้ชายที่เป็นข้าราชการยศ เป็นขุน เป็นพระยา นั้น จะมีเมียมาก ถึงเมียหลวงจะต้องยอมให้ จะหือไม่ได้นั้น แต่ในใจก็ไม่ยอม นั่นก็ย่อมที่จะเป็น การผิดศีลข้อ 3 เช่นกัน แต่คนเหล่านั้น ชาติต่อมาไม่ได้เป็นเกย์หรือตุ๊ดกันหมดนะครับ
    ซึ่งจริง ๆ แล้วมีเรื่องจริงที่จะเล่าให้ฟัง ถึงชายคนหนึ่ง ที่ชาติ ณ ปัจจุบันนี้ เป็นเกย์ และได้ถามผู้รู้ถึงบุพกรรมต่อการเป็นเกย์ ท่านบอกว่า เมื่อชาติก่อนท่านเป็นชาย มียศฐายรรดาศํกดิ์ เป็นถึงขุน มีชื่อว่าขุนอินทร์ ด้วยอำนาจยศ ได้ใช้ผู้หญิงเป็นเครื่องเล่นพนันขันต่อ และเจ้าชู้ เห็นผู้หญิงเป็นเหมือนผักปลา ไม่เห็นค่าความเป็นคน ถึอว่าผ้หญิงเป็นทาสเป็นสมบัติของตน จะทำอะไรก็ได้
    ด้วยบุพกรรมนี้ จึงต้องเกิดเป็นชาย ด้วยกุศลเดิมที่มีอยู่บ้าง แต่ต้องให้ใจเป็นหญิง และมีความทุกข์ ที่ต้องชอบเพศเดียวกัน ที่ผิดปรกติคนธรรมดา เป็นที่น่ารังเกียรติของสังคม
    แต่กรรมของการเกิดเป็นเกย์นั้น หรือเป็นตุ๊ดนั้น จะมีอีกหลายสาเหตุ ขึ้นชื่อว่ากรรม จะสรุปเป็นกรณีย์เดียวกัน ของคนทุกคนนั้น ไม่ได้ เพราะมันแล้วแต่เหตุและปัจจัยแต่ละคนมันกว้างมาก แต่สามารถสรุปได้เป็นส่วนใหญ่ ๆ
    และอีกส่วนคือ ชาติที่แล้วอาจเกิดเป็นหญิง หรือหลายชาติอาจเกิดเป็นหญิง ทำให้จิตเดิมติดตามมา หรืออย่างเช่นพวกทอม ก็คือชาติที่แล้วเกิดเป็นชาย หรือ หลายชาติเคยเกิดเป็นชาย แต่วิบากกรรมบางอย่างทำให้ชาตินี้ต้องเป็นหญิง ไม่สามารถบวชเป็นภิกษุได้ แต่ใจเป็นชาย จึงทำให้เป็นทอม
     
  13. ขออนุโมทนา

    ขออนุโมทนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2007
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +681
    พระอรหันต์เกย์ยังมีเลย กระเทยก็มี(ถ้าจำไม่ผิดนะ)
     
  14. ไฟราคะ

    ไฟราคะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +92
    ขอโทษนะครับ คุณไปเอาข้อมูลมาจากไหนครับที่บอกว่ามีพระอรหันต์ที่เป็นเกย์ เพราะว่า พระอรหันต์เป็นผู้ไม่ยินดีในกามนะครับ
     
  15. ไฟราคะ

    ไฟราคะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +92
    ปรามาสพระรัตนตรัยนะครับ
     
  16. vinness

    vinness Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +49
    สาเหตุของกรรมที่ทำให้ต้องการมาเป็นเกย์หรือกระเทย ทอมหรือดี้
    1. ผิดศีลข้อ 3
    2. การตอนสัตว์ไม่ให้มีลูก (หมา แมว วัว ควาย)
    3. การพลัดพรากผู้อื่นไม่ให้รักกัน (ไม่ให้สมหวัง)
    4. การดูถูก ดูหมิ่นเพศหญิง เพศชาย เกย์ กระเทย ทอม ดี้
    (ที่มา : จากการบรรยายธรรมของ แม่ชี ทศพร บุญเทวาพิทักษ์
    วัดพิชัยญาติการาม)
    แม่ชีท่านกล่าวไว้ว่า "เป็นอะไรก็ได้ เป็นแล้วไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
    ชีวิตเป็นของเรา ไม่รู้ว่าจะมีลมหายใจถึงวันพรุ่งนี้หรือเปล่า ทำความดีไว้ดีกว่า"

    *ด้วยการให้ธรรมเป็นทานในครั้งนี้ ขอให้หลุดพ้น ขอให้หลุดพ้น ขอให้หลุดพ้น
     
  17. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    ในพระไตรปิฎกมีกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้แต่เพียงว่า การเกิดเป็นกะเทยนั้นเป็นผลของกรรม คือ การคบชู้ภรรยาผู้อื่น

    เป็นที่น่าสังเกตว่า ทุกวันนี้มีการผิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร (การประพฤติผิดทางกาม) กันมากขึ้น ในขณะเดียวกันคนที่เป็นกะเทย รวมทั้งคนที่มีความผิดปรกติทางเพศอื่นๆ ก็มีปรากฏให้เห็นกันมากขึ้นเช่นกัน

    ในส่วนของอรรถกถา (การอธิบายขยายความพระไตรปิฎก โดยอาจารย์สมัยหลังพุทธกาล เช่น พระพุทธโฆสะ ผู้รจนาคัมภีร์วิสุทธิมรรค เมื่อ พ.ศ. 900 กว่า เป็นต้น) มีกล่าวเอาไว้ว่า

    ผู้ที่เป็นกะเทยนั้นปฏิสนธิด้วยอุเบกขาสันติรณจิต (อเหตุกมโนวิญญาณธาตุ ที่เป็นกุศลวิปากจิต) เช่นเดียวกับคนที่เป็นบ้า เป็นใบ้ ตาบอด หูหนวก แต่กำเนิด ซึ่งปฏิสนธิจิตประเภทนี้เป็นประเภทที่แย่ที่สุดที่เกิดเป็นคนได้ (ประเภทที่แย่กว่านี้จะเป็นอกุศลวิปากจิต ทำให้เกิดในอบายภูมิ คือ นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉาน)

    คนที่ปฏิสนธิด้วยจิตประเภทนี้ ถ้าทำสมาธิก็จะไม่ได้ถึงขั้นฌาน ถ้าทำวิปัสสนาก็จะไม่ถึงขั้นบรรลุมรรคผล คือจะได้เพียงแค่สมาธิ หรือวิปัสสนาปัญญาขั้นต้นๆ เท่านั้น (แต่ก็จะเป็นเหตุปัจจัยที่ดีให้มีปฏิสนธิจิตที่ดีขึ้น ในชาติต่อๆ ไป)

    สำหรับความเห็นส่วนตัวนั้น ผมคิดว่าคนประเภทนี้จะมีความกดดันในใจสูง อันเนื่องมาจากความขัดแย้งภายในใจเพราะร่างกายและจิตใจไม่เหมาะสมกัน และความกดดันที่มาจากสังคมรอบข้าง

    ความกดดันต่างๆ นี้ จะทำให้จิตใจไม่ปลอดโปร่ง ประณีต เบาสบายอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งจะเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการทำสมาธิ และเจริญวิปัสสนา เพราะสมาธิและวิปัสสนาปัญญาขั้นสูงจะเกิดขึ้นได้เมื่อจิตใจมีความปลอดโปร่ง ประณีต เบาสบายตามสมควร

    แต่ถ้านำเอาความทุกข์ ความกดดันเหล่านี้ รวมทั้งสภาวะต่างๆ ที่เป็นอยู่ มาเป็นข้อมูลในการพิจารณาประกอบการเจริญวิปัสสนา เพื่อให้เห็นทุกข์ เห็นโทษภัยของการเกิด เห็นความไม่อยู่ในอำนาจ ไม่เป็นไปตามใจปรารถนาของสิ่งต่างๆ ก็จะเป็นประโยชน์แก่วิปัสสนาปัญญาได้เช่นกัน

    ผมคิดว่าเราไม่ควรจะให้ความสำคัญ กับเรื่องความยากง่ายในการบรรลุธรรม ของแต่ละคนให้มากนัก แต่ทุกคนควรจะทำความเพียรให้เต็มที่มากกว่า เพราะไม่ว่ากับคนประเภทไหน ถ้ามีความเพียรที่ถูกทางแล้ว ความเพียรนั้นย่อมจะไม่สูญเปล่าอย่างแน่นอน

    ถึงแม้คนที่ไม่สามารถบรรลุมรรคผลได้ในชาตินี้ ก็จะเป็นเหตุปัจจัยให้บรรลุได้ง่ายขึ้นในชาติต่อๆ ไป และยังส่งผลให้เป็นผู้มีปัญญามากขึ้นทั้งในชาติปัจจุบัน และชาติต่อๆ ไปอีกด้วย และอย่างน้อยความปลอดโปร่ง ประณีต เบาสบายของจิต การมีสุขภาพกายและใจที่ดีขึ้น หน้าตาที่ผ่องใส อันเป็นผลมาจากความเพียรนั้น ก็จะเป็นอานิสงส์ที่เห็นได้ในปัจจุบันอยู่แล้ว

    แต่ถ้ามัวแต่ท้อถอย หรือมัวแต่ประมาทอยู่ ชาตินี้ก็ไม่ได้รับอานิสงส์จากความเพียรใดๆ และชาติต่อๆ ไป ก็อาจจะแย่ลงไปกว่าชาตินี้ก็เป็นได้
     
  18. vnss

    vnss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,557
    นำบทสัมภาษณ์ของแม่ชีทศพร มาให้อ่านกันค่ะ ทำให้ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมาอีกว่านอกจากกรรมจากผิดศีล ข้อ 3 แล้ว ยังมีกรรมอื่นที่อาจทำให้เกิดมาเบี่ยงเบนได้
    (คัดลอกจาก dhammajak.net)


    ๐ เป็นเพราะอะไรหรือคะที่เกิดมาเบี่ยงเบน ?

    เพราะเคยไปเบี่ยงเบนความคิดของคนอื่น โยนโทษคนอื่นโดยที่เขาไม่ได้มีความผิด ก็เลยทำให้เกิดมาเป็นผู้หญิงก็ไม่ใช่ ผู้ชายก็ไม่ใช่ เลยไม่รู้ว่าจะอยู่กับสังคมอย่างไร ทำงานกับใครเขาก็เข้ากับใครไม่ได้ อยู่ไปก็ไม่มีจุดยืน คนไม่มีจุดยืนในสังคมเยอะ ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ ไม่รู้จักพ่อแม่ ถึงขนาดทุบตีพ่อแม่ หรือพูดจาให้เขาเจ็บปวด ใจนี่ก็ถือว่าฆ่าเขาแล้วนะ ฆ่าเขาทางอารมณ์ แล้วคนก็มักจะพูดว่าทำดีแล้วไม่ได้ดี แสดงว่าทวงในสิ่งที่คิดว่าทำดี


    เวลาที่คุณทำดี จริงๆ แล้วคุณกำลังทำไม่ดีหรือเปล่า
    อย่างเช่น เห็นแฟนของเพื่อนไปเดินกับผู้หญิงคนอื่น รีบโทรไปหาเพื่อนเลยว่าฉันเห็นแฟนเธอไปเดินกับใครไม่รู้ แค่นี้ก็สร้างกรรมแล้วนะ ทำให้เกิดความแตกแยกในครอบครัวเขา เพราะโยมไม่รู้ว่าเขามีอะไรกันหรือเปล่า ชีวิตโยมจะยุ่งเหยิง
     
  19. den_siam2523

    den_siam2523 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2006
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +2,267
    คุณเป็น คนดีได้ อย่าน้อยใจไป ร่างกายคุณพร้อมที่จะทำความดีได้ บริบูรณ์ นะครับ สู้ๆๆๆ
     
  20. ปญฺญาวชิโร

    ปญฺญาวชิโร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2006
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +22
    นั่นคือ พระโสเรยยะเถระ ตอนเป็นฆราวาสท่านเพศกลับเฉยๆ ไม่ได้เป็นเกย์
     

แชร์หน้านี้

Loading...