ป่วยเข้าโรงพยาบาลติดเชื้อ HIV กับการทดสอบมโนมยิทธิของผม

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย thepsak, 11 ธันวาคม 2011.

  1. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    วันอาทิตย์ 9 สิงหาคม 2552<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ไปที่วัดนวลจันทร์ ซื้อ ข้าวสารน้ำตาล เนสวีต้า และ ยาแก้ไอไปถวายพระ ที่วัดนวลจันทร์<O:p</O:p
    ไม่เห็นหลวงพ่อที่เคยผมเคยได้ถวายสังฆทานกับทุกครั้ง มีเพียงพระรูปอื่นในโบสถ์วันนี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ท่านบอกให้ถวายเลย แล้วให้พรเลย ผมอดแปลกใจไม่ได้ ทำไมไม่ให้เรากล่าวคำถวายก่อนนะ ช่างรวบรัดเสียจริง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แต่ต้องรีบ ยุติความคิด ประเดี๋ยวแทนที่จะได้บุญกลับเป็นได้บาปกลับเสียอีก
    <O:p</O:p
    รีบคิดว่าเราได้ทำบุญสำเร็จแล้ว และอานิสงฆ์ก็เกิดแล้ว จากนั้นไม่ลืมแวะมา ถวายกระเบื้องหลังคาโบสถ์ หยอดตู้สร้างโบสถ์ใหม่และตู้สร้างพระประธาน เพื่ออุทิศให้แก่เจ้ากรรมนารเวรที่อยู่ในภพภูมิที่ได้รับบุญยากๆ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คืนนี้สวดมนต์เสร็จ สมาทานพระกรรมฐาน คิดว่าจิตสงบดีแล้วเลยขอบารมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าขอขึ้นพระจุฬามณี ประกฎว่ามืดสนิท จึงเปลี่ยนมาเพ่งพระพุทธรูป จับภาพพระพุทธรูปแทน ปรากฏเห็นพระฤาษีท่านหนึ่ง ไม่ชัดนัก
    <O:p</O:p</O:p
    คิดในใจว่าเราเริ่มเพี้ยนแล้ว เลยลืมตาแล้วเริ่มภาวะนา นะมะพะทะ ใหม่ นานเท่าไรใหม่รู้ จึงคลายออกจากสมาธิ อุทิศบุญแล้วส่งท่านเทวดากลับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p</O:p</O:p</O:p</O:p</O:p</O:p</O:p
    วันจันทร์ 10 สิงหาคม 2552<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    กังวลกับปัญหาเรื่องงาน ทำให้ฟุ้งซ่านต่อถึงอนาคตตัวเอง<O:p</O:p
    วันนี้เลยทำสมาธิได้ไม่ดี แต่ก็นั่งทำไปเรื่อยๆ หวังเพียงให้จิตใจสงบ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สักพักปรากฎเห็นพระฤาษีอีกครั้ง ครั้งนี้เลยทำใจเบาๆมองตามท่านไป ก็เห็นเป็นสภาพถ้ำ มีหินย้อย บางส่วนมีสีขาวสว่างไสว เริ่มเห็นท่านชัดขึ้น<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แม้ยังสงสัยว่าเราเริ่มเพี้ยนอีกแล้ว แต่รีบตัดความสงสัยก่อน รวมรวมจิตสำรวจสภาพถ้ำอีกครั้ง มองไม่เห็นทางเดิน และก็ไม่เห็นท่านพระฤาษีอีกแล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ไม่รู้จะเป็นอุปาทานหรือเปล่า แต่ก็บันทึกเก็บไว้ รวบรวมไว้ถามครูอาจารย์ ในภายหน้า<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ธันวาคม 2011
  2. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    วันอังคาร 11 สิงหาคม 2552<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    วันนี้ขึ้นไม่ถึงพระจุฬามณีอีกแล้ว ไม่เห็นความสว่างอะไรเลย <O:p</O:p
    เริ่มใหม่เลยทำใจเบาๆ เอาจิตสำรวจรอบบ้าน มาถึงหิ้งลูกๆกุมาร เห็นน้องปิ่นเงินกับปิ่นทองไม่ชัดนัก น้องทองสุกตัวอวบๆ ผิวคล้ำอยู่กับใกล้น้องพระเอกผิวขาวจ๊วะ สีตัดกันน่าเอ็นดู ทองสุกก็ยังอายอยู่ไม่เลิก <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อธิษฐานขอเห็นท่านเจ้าที่ กลับเห็นเป็นแมวสีสวาทตัวหนึ่งชัดเจนเดินมาทำท่าออดอ้อนคลอเลีย และเห็นเสือตัวหนึ่งชัดเจนมากนอนขี้เกียจอยู่ นอนหาวเห็นเขี้ยวโง้ง นึกสงสัยว่าเป็นบริวารท่านเจ้าที่หรือ วัตถุมงคลที่เราได้มาจากน้องชายจากหลายสำนัก และก็ยังมีน้องแมวด้วย <O:p></O:p>
    <O:p</O:p
    ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีท่านผู้หนึ่งแนะนำให้ถวายรูปปั้นแมวกับเสือให้เป็นบริวานท่านเจ้าที่<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เห็นท่านเจ้าที่ไม่ชัด เห็นท่านใส่ชุดเดิมแต่เห็นเป็นแสงซะมากกว่า จึงรับรู้ได้ว่าน้องเสือกับน้องแมวที่ได้เห็นนั้นเป็นบริวารท่าน ถึงว่าท่าทางเชื่องมากและออกจะขี้เกียจ อิอิ<O:p</O:p
    <O:p</O:p</O:p
    วันพุธ 12 สิงหาคม 2552<O:p</O:p
    <O:p</O:pตื่นไม่ทันใส่บาตร เลยซื้อข้าวสารและของต่างๆไปถวายสังฆทานที่วัดนวลจันทร์<O:p</O:p
    ได้พบกับหลวงพ่อที่เราเจอที่นี่ทุกครั้งที่มา บอกท่านว่าคราวก่อนไม่เจอท่าน<O:p</O:p
    ท่านว่าคงเป็นช่วงพัก ลงไปดื่มกาแฟและสูบบุหรี่<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คิดในในว่าคราวหน้าจะหากาแฟกับบุหรี่ มาถวายท่านด้วย จะบาปหรือเปล่านะ
    <O:p</O:p</O:p
    ตอนเย็นสวดมนต์ สมาทานพระกรรมฐาน ขึ้นไปไม่ถึงพระจุฬามณีเลย<O:p</O:p
    พยายามนึงอารมณ์ที่เคยได้ขึ้นไปเห็นสว่างชัดเจนแต่ก็ทำไม่ได้ เลยเจริญพระกรรมฐาน ภาวะนา นะมะพะทะเฉยๆ อุทิศบุญ แล้วส่งท่านเทวดาเป็นอันเลิกแค่นี้<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ธันวาคม 2011
  3. herrican

    herrican Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +45
    โมทนาสาธุค่ะ ขอบคุณที่เอื้อเฟื้อข้อเขียนมีประโยชน์มากค่ะ
    และขอให้มีสุขภาพแข็งแรงยิ่งๆขึ้นไปนะคะ
     
  4. suvicht

    suvicht เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +312
    อือ ดีจังเลยครับ มีกำลังใจแยะๆ นะครับ และก็รู้สึกว่าคุณโชคดีที่ยังมีสติพร้อมได้ทำบุญใหญ่ก่อนตาย
     
  5. mod_x-ray

    mod_x-ray เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    536
    ค่าพลัง:
    +2,686
    ผมขอคำแนะนำได้ไหมครับ คือว่าเมื่อก่อนผมเคยฝึกมโนยิธิกับพระอาจารย์ท่านนึง ก็คือตอนนั้นบวชเณรครับ ตอนฝึกก็ได้ฝึกร่วมกับเพื่อนเณรด้วยกันประมาณ 3-4 รูป เพื่อนเขาไปดูนรกสวรรค์กัันสบาย ส่วนผมมืดสนิท ตัดร่างกายก็แล้ว พยายามเดินจงกรมให้มาก จะได้นั่งได้นานๆ ทานมังสวัรัติด้วย
    ก็ยังไปไม่ได้ คือว่าเวลาที่กำหนดจิตออกมาจากร่างน่ะ มันจะเหมือนมีอะไรบีบหัวใจ จนทนแทบไม่ไหว พอออกจากสมาธิอาจารย์ท่านบอกว่า เจ้ากรรมนายเวรเขาไม่ยอม เพราะเราทำเขาไว้เยอะ ต้องรอบวชพระก่อนเขาถึงจะยอมอโหสิกรรมให้ พอมาตอนหลังจากที่บวชพระแล้ว ก็ไม่ค่อยได้ปฏิบัติมากนัก มีอยู่วันนึง ทำสมาธิแล้วหลับไป ก็มีความรู้สึกว่าตัวเองลุกขึ้นมานั่ง ในความรู้สึกเหมือนว่าลืมตาเพราะเห็นทุกอย่างรอบตัว เห็นตัวเองว่ายังนอนอยู่ด้วยก็เลยงง พอจะลุกขึ้นก็เหมือนว่าตัวเองหลุดลอยไปไม่มีทิศทาง เลยกำหนดจิตบอกว่า หลวงพ่อช่วยด้วย ก็ได้เห็นหน้าหลวงพ่อลอยมา ท่านถามว่าจะให้ช่วยอะไร ตอนนั้นไม่รู้ิคิืดอะไรเพราะดันตอบไปว่้า หลวงพ่อครับ ผมอยากไปเห็นสวรรค์ หลวงพ่อก็ยิ้มแล้วหายไป ผมก็รู้สึกเหมือนว่าจะวูปไป พอรู้สึกตัวอีกที ก็รู้สึกว่าตัวเองมายืนอยู่ที่ๆนึง ไม่รู้ว่าที่ไหน เพราะมันเห็นภาพมัวๆ เห็นระยะไม่เกิน 2-3 เมตรครับ คือเห็นแบบเราก้มหน้าแล้วค่อมตัว พร้อมหลี่ตาน่ะครับ พอเดินไปนิดนึงก็เห็นคนนั่งพนมมือกันเยอะทั้งซ้ายขวา ผมก็เดินไปเรื่อยๆ ก็ได้ยินเสียงบอกว่า ขึ้นมาทำไมไม่สมควรไม่รู้เหรอ ผมก็หันไปดูเห็นคนที่พูดนั่งพนมมืออยู่แต่งตัวเหมือนผู้ใหญ่บ้าน พอแกเห็นผมหันไปแกก็หันหน้าไปทางอื่น ผมก็เดินไปอีก ตอนนี้รู้สึกว่ารอบข้างจะไม่มีคนนั่งแล้ว จะเหมือนเป็นสวน รู้สึกสบายใจปลอดโปร่ง แล้วก็หยุดเพราะรู้สึกเหมือนจะเห็นเป็นคนนั่งอยู่ ใต้ต้นไม้ พอใจนึกสงสัยว่าใคร ภาพที่เห็นก็ชัดขึ้นมา เห็นเป็นพระพุทธเจ้าท่านอยู่ในปางประทานพร คือยกมือขวาขึ้นมา แล้วมีเสียงบอกขึ้นมาว่า เราคือพุทธะโคดม เราคือพุทธะโคดม เราคือพุทธะโคดม ผมคุกเข่าก้มกราบพร้อมกับน้ำตาไหลพรากเลย พอกราบเสร็จก็รู้สึกวูบ ลืมตาขึ้นมานอนอยู่ที่เดิมแต่ยังพนมมืออยู่ ก็เลยลุกขึ้นมาไปทำวัตรเช้าตอนตี 4 พอดี วันนั้นนั่งปลื้มทั้งวัน ไม่หิว ไม่กระหาย แต่นั่นก็เป็นครั้งเดียว นับตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยได้อีกเลย ทุกวันนี้อยากปฏิบัติแต่ภาระทางโลกได้วุ่นวายทำให้เซ็ง
     
  6. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    ฝึก ญาณ 8 เที่ยวสวรรค์ นรก
    <O:p</O:p
    ต่อมาเมื่อมีโอกาสได้ไปฝึกที่วัดท่าซุ่งอีกครั้ง คราวนี้วางแผนมาอยู่ 3 วันเพื่อที่จะได้เข้าฝึกญาณ 8 ด้วย<O:p</O:p
    วันแรกที่ไปถึงผมก็เข้าฝึกรวมกับผู้ฝึกใหม่ไปด้วย<O:p</O:pวันที่สองจึงเข้าฝึกญาณ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ในห้องฝึก มีผู้เข้าฝึก 7 ท่าน ยังถือว่าโชคดีเพราะถ้าเป็นช่วงก่อนบวชธุดงค์จะมีผู้มาฝึกมากจนล้นห้อง อาจารย์ที่สอนในห้องฝึกญาณ 8 เป็นพระอาจารย์ผมไม่ทราบชื่อท่าน
    <O:p</O:pหลังจากสมาทานศีล สมาทานพระกรรมฐาน ท่านพาขอบารมีพระพุทธเจ้าไปยังพระจุฬามณี กราบสมเด็จองค์ปฐม ซึ่งก็ยังเห็นท่านไม่ชัด เห็นชัดเพียงหลวงพ่อท่านตามด้วยตลอด จากนั้นไปยังวิมานของพระพุทธเจ้า รู้สึกคนมากสว่างมากแต่เห็นไม่ชัด เห็นพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ชัดเพียงแค่ส่วนเท้า นอกนั้นเห็นเป็นเพียงแสงสว่างจ้า น้อมถวายความดีที่เราปฏิบัติแก่พระพุทธเจ้าโดยนึกให้เป็นดอกบัวแก้ว แล้วพระอาจารย์บอกให้แยกอาทิสมานกายถวายท่านทุกพระองค์ แวบนึงได้เห็นพระพักต์ของพระพุทธเจ้าสมณโคดม ท่านงามเหมือนแขกมากกว่าอย่างที่เห็นในภาพวาด ตอนนี้ดีใจที่ตามคนอื่นได้แม้จะยังเห็นอะไรไม่ชัดเจน
    <O:p</O:p
    จากนั้นไปท่านพาขอบารมีพระพุทธเจ้าไปยังบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ไปกราบท่านปู่พระอินทร์และท่านย่า เห็นท่านปู่ชัดแค่ส่วนเท้าแต่ท่านย่านี่เห็นชัด ท่านยิ้มอยู่ตลอด<O:p</O:p
    อาจารย์ท่านให้ขอลูกแก้วสารพัดนึกพร้อมขันแก้วของท่านย่าทำน้ำทิพย์เพื่อดื่ม และอาบ ขอบารมีให้ชำระล้างสิ่งไม่ดีและโรคภัยไข้เจ็บ พระอาจารย์ท่านบอกให้ทำบ่อยๆ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พระอาจารย์บอก ให้ขอบารมีพระพุทธเจ้าให้เห็นพ่อแม่ท่านผู้มีพระคุณ ผมเห็นเทวดานางฟ้ามามาก พอเริ่มมองหาพ่อแม่ของเราดูท่านจะเหมือนๆกันไปซะหมด แต่ที่จำท่านพ่อได้เพราะท่านทำให้เห็นส่วนของชฎาของท่านมันสั้นๆ ไม่แหลมเหมือนของคนอื่น หลายครั้งที่คิดว่าตัวเองเพี้ยนที่เห็นชฏาสั้นๆแบบนี้ แต่ภายหลังมาทราบว่าเค้าเรียกชฎาน้ำเต้า มัวโง่อยู่ตั้งนาน ท่านแม่นี่เห็นชัดเจนตลอดเพราะสไบของท่านให้เห็นเป็นสีไม่เหมือนคนอื่น<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ท่านบอกให้ไปยังวิมาน ผมก็ยังเห็นเป็นศาลาจตุรมุขสีขาวหลังเล็กโล่งโจ้งลักษณะเดิม กำลังใจตกหน่อย เพราะคนอื่นในห้องเค้าเห็นวิมานเป็นแก้วทั้งนั้น แอบคิดไปหลายอย่างว่า คงไม่ใช่วิมานบนนิพานแน่เพราะไม่เห็นเป็นแก้ว หรือว่าเรายังฝึกได้แย่

    <O:p</O:pอยากให้พระอาจารย์นำทัวร์สวรรค์แต่ท่านก็พาไปเพียงแค่เส้นทางเดิมเท่านี้คงเพราะเวลาน้อย ท่านเริ่มพาเที่ยวนรกโดยเริ่มขอบารมีพระพุทธเจ้าขอให้เห็นเจ้ากรรมนายเวรก่อน พอผมอธิษฐานเสร็จ เห็นว่าเป็นร่างมนุษย์สีดำมืด สี่คนยืนอยู่หน้าวิหารแก้ว อาจารย์บอกให้อุทิศบุญให้และขอบารมีพระพุทธเจ้าอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรด้วย ผมเห็นเป็นแสงสว่างส่องไปยังร่างทั้งสี่ ร่างดำๆเริ่มสว่างขึ้น และก็มีอีกหลายร่างมาเพิ่ม ร่างที่สว่างแล้วหายไป ส่วนร่างที่มาใหม่ก็มากขึ้น มากขึ้น แลดูหน้าตาน่ากลัวมามากจนเต็มลานจอดรถหน้าวิหารแก้ว ดำทมึนไปหมด เพิ่งรู้ว่าเจ้ากรรมนายเวรเรามันมากเสียจริง น่ากลัวมากด้วย <O:p</O:p


    ตอนนี้อาจารย์พาผู้ฝึกไปเที่ยวนรกขุมต่างๆแล้ว มาจนถึงอเวจีมหานรกแล้ว แต่ผมตามไม่ทัน เพราะมัวห่วงอยู่กับกองทัพเจ้ากรรมนายเวรหน้าวิหารแก้ว เลยรีบตัดใจ คิดว่าต่อไปนี้จะทำบุญเยอะๆเพื่ออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร ท่านถามผู้ฝึกว่าเห็นอะไรบ้างผมรีบทำใจเบาๆขอบารมีพระพุทธเจ้าให้เห็นสภาพอเวจีมหานรกตามความเป็นจริง ผมเห็นร่างหนึ่งนอนอยู่ แต่จิตมันรู้สึกว่าร่างนั้นเป็นตัวผมเอง มีลักษณะเหมือนมีหมุดไม้แทงออกมาทั่วตัว บรรยากาศก็เริ่มคุ้นเคยมากเหมือนกับเราเคยมาอยู่หลายครั้ง ครั้งละนานๆ คิดว่าต่อไปไม่เอาอีกแล้วนรก

    <O:p</O:pอาจารย์พามาดูนรกโลกันต์ ท่านไล่ถามผู้ฝึกว่าเห็นอะไรบ้าง ผู้ฝึกหลายคนเริ่มตอบ ผมไม่เห็นอะไรเลยมืดสนิท เห็นเพียงดวงไฟสีฟ้าเล็กๆเท่าปลายไม้ขีดลอยอยู่ เพ่งอยู่นานก็เลยตัดสินใจเอาจิตตามดวงไฟนั้นไป ตอนนั้นคิดเพียงว่าไม่เห็นก็ช่าง เพราะมันมืดสนิทจริงๆ ไม่มีอะไรทำตมดวงไฟนี้ไปดีกว่า พอดวงไฟนี้ลอยไปเจอกำแพงก็เห็นร่างหลายร่างพยายามปีนกำแพง พอแต่ละร่างถูกตัวกันก็กัดกินกันตกลงมาจากกำแพง เกิดใหม่เป็นสัตว์นรกแล้วก็มาปีนกำแพงต่อ พอพระอาจารย์ท่านอธิบายสภาพของโลกันต์มหานรกก็ตรงกับที่ผมเห็น ท่านว่าที่นี่ไม่มีแสงสว่างจนกว่าจะมีพระพุทธเจ้าตรัสรู้องค์หนึ่ง จึงจะปรากฏแสงสว่างเหมือนเพียงแค่แสงฟ้าแลบครั้งนึง
    <O:p</O:p<O:p</O:p
    เมื่ออาจารย์บอกให้ขอบารมีพระถอยหลังดูอดีตชาติ ให้ดูในชาติที่เกิดเป็นสัตว์ ให้ดูว่าแต่ละชาติเกิดเป็นอะไรบ้าง และเมื่อตายให้เอาซากศพมารวมกัน มันเยอะมาก เกิดเป็นคนก็มาก เกิดแล้วตาย เอาซากศพกองกระดูกมารวมกัน เยอะเป็นภูเขาเลย ท่านบอกให้ดูเพื่อให้เกิดความเบื่อในการเกิด อธิษฐานว่าชาติต่อไปขอไม่เกิดอีกแล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ท่านให้ดูว่าเกี่ยวอะไรกันกับพวกเสื้อสีต่างๆ หลังจากขอบารมีพระท่านดู ตอนนี้ผมโดนจี้ให้ตอบอยู่คนเดียวในห้อง ผมเห็นใครไม่รู้ถีบหลังผมจนหน้าคะมำ พยายามดูว่าเป็นใครก็มืดสนิท ท่านว่าเรื่องเสื้อสีนี้ต่างฝ่ายต่างทะเลาะกันมาหลายชาติ จิตมันผูกอาฆาตกันมา ถ้าไม่ยอมปล่อยก็จะเกิดใหม่มาทะเลาะกันอีกร่ำไป พอดีสัญญาณหมดเวลาฝึกเลยรอดตัวตอนเรื่องเสื้อทีนี่ไม่เห็นถามใครเลยถามผมอยู่คนเดียว<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 ธันวาคม 2011
  7. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    ขอบคุณมากครับ มาติดตามให้กำลังใจตลอดเลย
     
  8. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    ขอบคุณมากครับ จะพยายามมาเล่าเรื่อยๆครับ
     
  9. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    ขอบคุณมากครับ มาติดตามให้กำลังใจตลอดเลยนะครับ
     
  10. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    เกี่ยวกับการวางอารมณ์ครับ บางทีเพราะเราเคยฝึกได้อย่างอื่นมาในอดีตจิตมันติดอยู่กับตรงนั้นเลยวางอารมณ์ไม่ถูก ถ้าได้ฝึกกับครูที่รู้จิตเราจะดีมาก จะได้คอยบอกเมื่อเราใช้สมาธิแน่นไปหรือเบาไป

    หรือบางที่เพราะอยากเห็นมากไปเลยทำสมาธิแน่นไปครับ

    เรื่องตัดขันธ์ห้าก็พูดยากนะครับ หลายครั้งที่ผมรู้สึกว่าเราตัดขันธ์ห้าจนรู้สึกร่างกายโปร่งเบาสบายแต่ก็ยังทำไม่ได้ มาเข้าใจก็ตอนอยู่โรงพยายาบาล คือมันไม่ห่วงแล้วจริงๆ ใครจะทำอะไรก็ยอมหมดทั้งข้อมือและหลังมือก็มีเข็มเสียบต่อสายระโยงระยาง ทั้งเจาะไขสันหลัง เจาะเลือด เอากล้องมาส่องตาสารพัด ตอนนั้นยอมหมด ยอมตายจริงๆ บอกตัวเองว่าถ้าตายขอไปอยู่กับพระพุทธเจ้า

    อาการบีบหัวใจจนทนไม่ไหว ผมว่าเป็นเพราะจิตพยายามจะออกด้วยญาณสี่แต่จิตไม่ชินกับอารมณ์ของญาณสี่ครับ ถ้าฝึกจนชินกับญาณสี่ พอจะออกแบบเต็มกำลังก็จะง่าย

    เพราะมีคุณยายจากจังหวัดสุโขทัยที่ผมเจอท่านที่วัดท่าซุ่งบ่อยๆเวลาที่วัดมีงานเจอท่านประจำ ท่านเล่าให้ฟังว่าตอนฝึกไม่เคยเห็นอะไรกับเค้าเลย จนไม่อยากเห็นแล้ว แต่ภาวนาพระคถาเงินล้านเป็นประจำ อาศัยภาวนาก่อนนอนจนหลับไป จนวันนึงจิตจับกับคำภาวนาจนเป็นญาณสี่แล้วออกแบบเต็มกำลังไปเองเลย ได้เห็นสวรรค์เห็นนิพพานกับเค้าก็ตอนนี้ครับ ท่านว่าอารมณ์ก็เหมือนกับฝันแต่ไม่ใช่เพราะท่านรู้สึกตัวตลอด

    ที่คุณ mod_x-ray เล่ามาก็เป็นเรื่องดีมากครับ เพราะผมเคยอ่านเจอว่า พระพุทธเจ้าท่านจะมาเทศน์โปรดเทวดาตอนเช้ามืด ซักตีสามตีสี่ พระที่ท่านได้วิชชาสามขึ้นไปก็จะเอาจิตไปกราบท่านและฟังเทศน์ด้วยเวลานั้นครับ

    อย่าเพิ่งเซ็งจนเลิกนะครับ เอาอารมณ์เช็งอารมณ์วุ่นวายมาพิจารณาทุกข์ จะได้ยิ่งเซ็ง ยิ่งเบื่อการเกิด
    ขอบคุณที่มาเล่าให้ฟังนะครับ ขอโมทนาบุญด้วยคัรบ
     
  11. mod_x-ray

    mod_x-ray เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    536
    ค่าพลัง:
    +2,686
    ขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำ ช่วงปีใหม่นี้กำลังหาที่ปฏิบัติอยู่้ครับ ไม่รู้จะไปที่ไหนดีที่จะแนะนำได้ เพราะถ้าไปตามสำนักใหญ่ช่วงนี้คนเยอะครับ คงจะไม่สะดวก
     
  12. Pdon60

    Pdon60 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +795
    ได้อ่านจากการตอบคำถามท่านแล้วรู้สึกถึงภูมิธรรมของท่านไม่ใช่น้อยเลย

    ผมเคยไปฝึกมโนมยิทธิที่บ้านสายลมครั้งหนึ่งครับ ไปตอนนั้นด้วยความอยากเลยไม่ได้อะไร และก่อนหน้านั้นฝึกอานาปานสติ เลยหนักไปใหญ่ พอหลับตาก็จะพยามทำสมาธิให้ลึกๆ

    ตอนนี้ได้กลับมาอ่านกะทู้ในห้องหลวงพ่ออีกครั้ง ทำให้คิดอยากฝึก แต่ติดที่โอกาศยังไม่อำนวย ช่วงนี้ตอนเช้าผมได้นั่งสามาธิบ้าง และก็ลองนั่งภาวนา นะมะพะทะ รู้สึกว่า ช่างนอนกลางคืนจะฝันได้ใสแจ๋วกว่าแต่ก่อนมาก และมีความรู้สึกเหมือนจริง แต่ติดที่ว่าฝันไร้สาระมาก

    ถ้าท่านมีเรื่องราวอะไรดีๆ ก็นำมาเล่าบ้างนนะครับ และขอให้ท่านสุขภาพแข็งแรง

    ขอโมทนากับบทความที่เป็นประโยชน์กับท่านอีกครับ
     
  13. LiveEarth

    LiveEarth Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +25
    อนุโมทนาสาธุกับเจ้าของกระทู้ครับ ไม่รู้เป็นอะไรครับ อ่านแล้วน้ำตาไหลครับ ไม่ได้รู้สึกเสียใจแต่มันไหลออกมาเองครับ
     
  14. ลูกชายมหา

    ลูกชายมหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +1,091
    ติดตามตลอด อย่าทิ้งกระทู้นี้ไปไหนนะ
     
  15. herrican

    herrican Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +45
    ในวาระขึ้นปีใหม่นี้ และ ตลอดไป ขอให้คุณnuttdhanan มีร่างกายแข็งแรงยิ่งๆขึ้นไป
    มีความสุข สมหวัง ในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ

    ( อวยพรไม่เก่ง แต่มีความปรารถนาดีอย่างจริงใจ ชอบที่คุณมีกำลังใจดี จิตใจดี มีอารมณ์ขันอีกด้วย คอยอ่านและเป็นกำลังใจให้ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับกระทู้ดีๆเช่นนี้
    ขอโมทนาบุญด้วยค่ะ )
     
  16. p@pangja

    p@pangja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +103
    ขออนุโมทนาบุญ ของคุณ nuttdhananและเพื่อนๆทุกท่าน
    ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ทางธรรมเพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ด้อยปัญญาอย่างผม
    ต่อไปจะพยายามตั้งใจฝึกทีละเล็กละน้อย หวังว่าสักวันคงได้มีประสบการณืของตัวเองบ้าง
    สาธุ
     
  17. Shiup

    Shiup สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +15
    เห็นด้วยครับ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  18. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    ขอโมทนาในบุญและกุศลกรรมของท่านเจ้าของกระทู้ด้วยครับ สาธุ

    บุญกุศลใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันกาลข้าพเจ้าขออุทิศให้ท่านเจ้าของกระทู้ ขอให้ท่านมีสุขภาพดีขึ้น หายจากโรคภัยที่เผชิญอยู่ ขอให้ท่านมีความสุขเช่นเดียวกับข้าพเจ้า ณ.กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด ธรรมใดที่ท่านเจ้าของกระทู้ได้เห็น ข้าพเจ้าขอได้เข้าถึงธรรมนั้นด้วยเถิด สาธุ
     
  19. wangwang

    wangwang เมตตาคุณณัง อะระหังเมตตา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    406
    ค่าพลัง:
    +629
    ขออนุโมทนาครับ ติดตามอ่านอยู่ครับ ขอให้ค้นพบวิธีรักษาโรคให้หายขาดโดยไวครับ
    ขอเรียนถามการกำหนดนิมิตพระพุทธรูปครับ เมื่อหลับตาจำภาพได้แล้วคุณกำหนดนิมิต
    นั้นไว้ที่จุดใดภายในร่างกายครับ เช่น ที่หน้าผาก ในสมอง ทรวงอก หรือที่ศูนย์กลางกายเหนือสะดือครับ ฯลฯ และต้องรู้ลมหายใจเข้าออกไปด้วยหรือไม่ครับ ขอบคุณครับ
     
  20. thepsak

    thepsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,306
    ฝันเห็นสมเด็จองค์ปฐมครั้งแรก
    <O:p</O:p
    ตัวผมเองเป็นพวกโทสะจริตอย่างมาก จึงเลือกที่จะทำวรรณะกสิน พยายามที่จะขัดเกลาตัวเองให้เบาบางลง
    แต่ก็ไม่ได้ผลซักเท่าไหร่ ยังคงอารมณ์ร้อนอย่างเดิมโดยเฉพาะเรื่องงาน เพราะต้องทำงานร่วมกับผู้คนหลายเพศหลายวัย ที่ทั้งพูดยากๆและขาดความรับผิดชอบ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หลังจากที่ได้ไปฝึกที่วัดท่าซุงแล้ว มีคืนหนึ่งได้ฝันเห็นสมเด็จองค์ปฐมท่านเมตตามาห่มผ้าห่มให้
    ในฝันผมรู้สึกว่าเป็นคนต้อยต่ำ เป็นการไม่สมควรที่ท่านจะมาทำให้อย่างนี้ จึงรีบหมอบและกราบท่าน ในความฝันผมทั้งกลัวความผิดและปิติอย่างมาก ท่านบอกว่า “ไม่เป็นไร อย่างนี้เค้าเรียกว่า เมตตานะ เมตตาไม่มีพรมแดน ไม่มีชั้นวรรณะ ให้ทำมากๆ สมัยก่อนเค้าทำเมตตาอย่างเดียวก็ได้ยันอรหันต์นะ”

    ผมนึกค้านในใจอยู่ว่า เอาแค่ขนาดเบื้องต้นก็ยังเห็นมีธรรมะข้อยากๆหลายอย่างที่ต้องทำ
    เหมือนท่านจะรู้จิตเรา จึงพูดต่อว่า “ถ้าเมตตาเต็มแล้วอย่างอื่นก็จะตามมาเอง”
    พอตื่นขึ้นได้แต่ปราบปลื้ม แต่ไม่รู้หรอกว่าเมตตาเค้าทำกันยังไง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เมื่อได้ทำสมาธิก็คิดว่า แล้วเราจะทำเมตตายังไง? อาจจะเหมือนการแผ่เมตตาหรือเปล่า?<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เลยลองคิดจะทำดู โดยนึกถึงความเมตตาของเราเอง.........แต่มันนึกไม่ออก......ทำยังไงก็นึกไม่ได้<O:p</O:p
    จึงเริ่มใหม่โดยนึกถึงความเมตตาของแม่ที่มีต่อเรา....คราวนี้ได้ผลเกิดปิติเล็กๆ.....มีความสุขใจ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พอมันเริ่มมีปิติสุข ก็เริ่มคิดถึงปิติคราวที่ฝึกมโนมยิทธิครั้งแรกแล้วเห็นหลวงพ่อ อารมณ์ของปิติสุขก็มากขึ้น
    เกิดฉลาดขึ้นมาฉับพลันนึกถึงพระเมตตาของในหลวง....คราวนี้น้ำตาแตกเลย ปิติสะอื้น ปลาบปลื้มมากๆ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    กลัวจะเสียเรื่องเลยรีบนึกถึงความเมตตาของเรา......ได้ผล รู้สึกเหมือนว่าตัวเราสว่างขึ้น นึกถึงความปรารถนาดีของเรา ความดีต่างๆที่เราได้เคยทำมา บุญกุศลต่างๆที่นึกได้ คราวนี้เห็นเป็นอาทิสมานกายและสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    จิตตอนนี้มันเบาและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เพียงแค่คิดอย่างให้คนอื่นได้สัมผัสกับอารมณ์ตรงนี้ ก็เห็นเป็นแสงสว่างเป็นรัศมีส่องกระจายออกจากตัวเรา อารมณ์ตอนนี้มันปิติสุขมากๆ ได้ยินเสียงของหลวงพ่อดังมาว่า “ทำได้มากกว่านี้นะ” ตอนนี้ผมไม่ได้ตกใจ แต่เพราะโง่ ดันมัวแต่พยายามนึกว่าทำยังไง กลายเป็นกำลังใจตก ที่เห็นส่วางอยู่ก็พาลมืดลงซะแล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หลังจากวันนั้นมาก็ทำแบบนี้มาเรื่อยๆ บางครั้งกำหนดจิตไปนั่งแผ่เมตตาแบบนี้อยู่บนวิมานบ้าง อยู่ต่อหน้าพระพุทธรูปบ้าง พอเริ่มเห็นเป็นแสงก็ขอบารมีพระพุทธเจ้า บารมีหลวงปู่ปาน และบารมีหลวงพ่อช่วย แสงสว่างก็มากขึ้น เวลาแผ่เมตตาก็เห็นเป็นแสงสว่างกระจายออกไปกว้างและไกลจากเดิม เหมือนอาทิสมานกายเราเป็นกระจกกระจายแสงอย่างนั้น แล้วอธิษฐานว่าเมื่อแสงนี้ไปถึงที่ใด ขอให้ทุกท่านได้รับอานิสงค์ความเมตตา รับผลบุญที่เราได้ทำมา ได้รับความสุข มีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม และขอให้ได้รับความเมตตาจากบารมีของพระพุทธเจ้า ของหลวงปู่ปาน ขององค์หลวงพ่อนั่งแผ่ไปเรื่อยจนรู้สึกอารมณ์ปิติมันจืดลงแล้ว แสงมันมืดลง แผ่ไม่ออก บางครั้งก็เริ่มใหม่บ้าง หรือพอเท่านั้นบ้าง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    วันไหนที่นึกถึงเมตตาตัวเองไม่ออก ก็จะใช้เทคนิคโดยการสตาร์ทจากการนึกถึงเมตตาของแม่ที่มีต่อเรา ความเมตตาของหลวงพ่อ พระเมตตาของในหลวง สามอย่าง.......ได้ผลทุกที<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ไม่ได้สนใจกับคำปรามาสว่าเป็น มโนนึก หรือวิปัสนึก เพราะเรามันนึกเอาจริงๆ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หลังๆได้สังเกตตัวเองว่าใจเย็นลง จนเด็กๆบรรดาลูกน้อง กับพวกเซลล์แมนที่ทำงานท้วงว่าไม่เห็นเราอารมณ์ร้อนเหมือนเมื่อก่อน มันบอกว่า หนูไม่โดนพี่ด่าแล้วชีวิตเหมือนขาดอะไรไปซักอย่าง...น้านน<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มกราคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...