ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. richsi

    richsi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +11
    ได้เลยค่ะ...ยินดีจ่ะ....:cool:
    จุ๊ๆๆๆๆๆอย่าเสียงดังนะ เดี๋ยวเค้ารู้ว่ามีคนอิอิ:cool:
     
  2. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327


    แฮ่ แฮ่... ขอด้วยจิค๊า กะลังหิวเยยง่า....
     
  3. Akornlokudorn

    Akornlokudorn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +60
    มาแระ แล้วจะคุยเรื่องอะไรดีครับ
     
  4. tangOAH

    tangOAH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,183
    ค่าพลัง:
    +5,528
    งั้นโอ๋ขอถามนะจ๊ะ ว่าที่ตัวเองบอกว่าจะทำสมาธิ
    ช่วงวันนิวมูน อ่ะ ทำแล้วเป็นอย่างไรบ้าง เล่าให้ฟังบ้างจิ
    ได้ป่ะ

    :cool::cool::cool:
     
  5. 479

    479 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +138
    ถ้าช่วยเหลือกันจริง

    กำลังรอต่างดาวมาตั้งโรงงานประกอบ UFO ในไทย สำหรับหนีภัยพิบัติ
    แต่คนจนคงถูกแย่งชิงไปหมดไม่มีโอกาสได้ใช้ ทุกวันนี้ก็ถูกคนรวยแย่งทรัพยากรจึงต้องไปขายตัวทั้งในและต่างประเทศหลายแสนคนเพื่อให้มีชีวิตรอด
     
  6. tangOAH

    tangOAH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,183
    ค่าพลัง:
    +5,528
    โอ๋ ๆๆๆ ใจเย็นๆก่อนนะคะ
    ถ้าการเปิดเผยข้อมูลผ่านไปด้วยดี
    จะต้องมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นนะคะ
    ทุกคนจะได้รับสิทธิที่ควรจะได้นะคะ
    จะไม่มีใครหมดโอกาสที่ดีดีในชีวิตหรอกค่ะ
    ตอนนี้พวกเราต้องช่วยกันสร้างกระแสที่ดีๆให้เกิดขึ้นมากมาก
    เพื่อเป็นการช่วยทางนึงนะคะ ตั้งอยู่ในความคิดในแง่ที่ดีนะคะ
    ช่วยกัน ช่วยกันนะคะ
    แล้วก็รักกันๆด้วยนะคะ

    :cool::cool::cool:
     
  7. Akornlokudorn

    Akornlokudorn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +60
    ลืมไปจริงๆ วันนี้ปรกติทุกวันเลิกงานห้าโมงเย็นกลับถึงบ้านประมาณหกโมงครึ่งก็จะออกกำลังกายจากทุ่มนึงจนถึงสองทุ่มสิบนาทีประมาณชั่วโมงกว่าๆก็ไม่มีอะไรมากมีดัมเบลและบาร์เบลพร้อมเก้าอี้ออกกำลังกายโดยเริ่มที่แขนไบเซบแล้วต่อด้วยบาร์เบล แล้วซิทอัพ แล้วสุดท้ายดัมเบลฟลาย ทุกท่าห้าเซ็ท เซ็ทละแปดครั้ง แต่วันนี้รู้สึกขี้เกียจพิกลเลยเลิกท่าสุดท้ายไม่เล่น นั่งสมาธิตามแบบผมคือลองมาหลายอย่างตั้งแต่พุทธโธ เดินจงกรมแบบอาปานสติแนวที่หลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน สิงบุรี สอนก็ไปฝึกมาแล้วสามวัน จากนั้นมาฝึกบ้างไม่ฝึกบ้างที่บ้าน เพราะยังต้องอยู่ในโลกียะ เป็นมนุษยืเงินเดือน สุดท้ายล่าสุดวันที่ไปงานวิทยาศาสตร์ทางจิต ลองเรียนจักระกับอาจารย์ผู้หญิงเหมือนกับว่านี่ถูกจริตแล้วจึงทำมาตลอดครับ คืนนี้คงใช้แนวนีี้ครับ เพราะสามารถส่งต่อความรักจากสมเด็จองค์พระปฐมที่ผมนับถือออกจากจักระทรวงอกแผ่ไปให้รูปธรรมชีวิตต่างๆในจักรวาลได้ครับ ขอตัวอาบน้ำแล้วไปทำสมาธิเน้อเพื่อนรักทั้งหลาย ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิครับ
     
  8. quran

    quran สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +5
    ขอแบ่งปันด้วยคนนะ จาก สมาชิกใหม่
     
  9. Arli

    Arli สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    เราเป็นเด็กใหม่นานๆๆเข้ามาทีเลยขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะฮับ
     
  10. tangOAH

    tangOAH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,183
    ค่าพลัง:
    +5,528
    คุณ Akornlokudorn คะที่ว่าเกี่ยวกับจักระเนี่ย ใช่พลังจักรวาลป่ะคะ
    เนี่ยโอ๋ละเลยนานมากไปหน่อยแล้ว สงสัยต้องจริงจังซะที
    เผื่อจะทำอะไรดีดี ให้กับส่วนรวมได้บ้างหน่ะค่ะ
    ขอบคุณนะคะ ที่กระตุ้นเตือนคนไม่เอาไหนหน่ะค่ะ อิอิอิ

    อ้อ คุณ quran คะ เชิญเข้ามาแบ่งปันพูดคุยได้เต็มที่เลยค่ะ
    ที่นี่เป็นที่ของพวกเราค่ะ รักกันๆ เนอะ
    จุ๊บๆๆ

    :cool::cool::cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 มกราคม 2012
  11. tangOAH

    tangOAH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,183
    ค่าพลัง:
    +5,528
    ขอโทษค่ะ เห็นช้าไปหน่อย
    เข้ามาเถอะนะคะ ที่นี่เปรียบเสมือนครอบครัวใหญ่อ่ะค่ะ
    มีแต่ความรักให้กัน และแบ่งปันสิ่งดีดีค่ะ
    มีอะไรไม่เข้าใจ ถามพวกพี่ๆเค้าทิ้งเอาไว้เลยค่ะ
    เดี๋ยวพี่ๆเค้ากลับมาประจำการ ก็จะได้มาตอบให้หายสงสัย

    อิอิอิ ตอนนี้ทนทน โอ๋ไปก่อนนะคะ รับหน้าที่ชั่วคราวอ่ะค่ะ
    แผนกต้อนรับฉุกเฉินหน่ะค่ะ อิอิอิ

    :cool::cool::cool:
     
  12. tangOAH

    tangOAH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,183
    ค่าพลัง:
    +5,528
    เมื่อวานเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ fb บอกเพื่อนๆในกลุ่มว่าฝันถึงเพื่อน
    คนสำคัญของพวกเราที่เสียชีวิตไปราวสามปีได้แล้วจากเหตุไม่คาดฝัน
    บอกว่าเพื่อนต้องทำงานหนัก รู้สึกว่าเป็นห่วง เพื่อนๆ จึงชวนกันเพื่อจะไปทำบุญให้(ยังไม่กำหนดวัน)
    แต่โอ๋ก็ตอบ fb เพื่อนคนที่ฝันไปว่า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้นโอ๋ก็ฝันถึงเพื่อนคนนี้
    ก็เห็นมีความสุขดี และโอ๋ก็ฝันถึงเค้าหลายครั้งแล้วด้วย แต่ละครั้งเพื่อนคนนี้ก็ดูโอเคดีนะ
    บางทียังมาหอมแก้มเราด้วยซ้ำ เลยบอกเพื่อนว่าอย่ากังวลเลยนะ คงไม่มีอะไรหรอก

    ส่วนเมื่อคืนในความฝัน รู้สึกว่าโอ๋เกรียนมากมาก แบบนักเลงเลยค่ะ
    ใครจะมีเรื่องด้วยโอ๋ก็ไม่รู้สึกกลัว แบบโอ๋อาละวาดเลยอ่ะ
    ช่วงนี้ฝันแปลกๆจัง เหมือนอารมณ์ภายในพร้อมจะระเบิดทุกเมื่อ
    นี่ละมั้งในฝัน เราจะปกปิดทำเป็นคนดีไม่ได้หรอก อิอิอิ
    ก็บอกแล้วว่าจริงๆ เป็นนางมารร้าย (เพื่อนๆอย่ามาแหยมนะคะ ช่วงนี้ดุค่ะ)

    อ่ะ แต่การแจกจุ๊บๆๆ มันคนละเรื่องกันนะคะ
    รักเพื่อนๆทุกคนค่ะ จุ๊บๆๆ

    :cool::cool::cool:
     
  13. richsi

    richsi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +11
    :cool:ขอโทษค้า..า ช้าไปหน่อย....
    เดี๋ยวจัดให้นะคะ...อิอิ เชิญรับเลยค้า...:cool:
    (ดีกว่าอยู่เปล่าๆ เนอะไม่งั้นเหงาแย่ ขอบคุณนะคะที่ร่วมแจม)
     
  14. richsi

    richsi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +11
    ถ้าโอ๋ไม่ว่างไปทำบุญ โอ๋ใช้วิธีโอนบุญที่เรามีให้ก่อนก็ได้นะคะ
    ตั้งจิตอธิษฐานขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอเบิกบุญ
    ที่เราทำไว้ดีแล้ว บริสุทธิ์แล้ว โอนให้กับเพื่อนของเราหรือใครก็ได้ที่อยากให้
    ทำในเวลาที่จิตเป็นสมาธิดีที่สุดค่ะ(จำเขามาอีกทีค่ะ แต่ใช้ได้ผลดีทีเดียว)
    คิดคำพูดให้ดีก่อนนะคะแล้วค่อยอธิษฐานจะได้ไม่เสียสมาธิ:cool::cool::cool:
     
  15. Akornlokudorn

    Akornlokudorn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +60
    จำมาบอก จากการฟังหลวงพ่อฤษีลิงดำเทศนาเรื่องพรหมวิหาร 4 ลำดับแรกลำพังเราเองจิตไม่มีความแข้มแข็งพอ ฉนั้นในการมอบความรักให้มนุษย์โลกรวมถึงเจ้ากรรมนายเวร เราจำเป็นต้องพึ่งบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรานับถือ ให้ช่วย และลำดับแรกเลือกส่งให้เฉพาะมนุษย์โลกที่มีภูมิธรรมใกล้เคียงเราก่อน ครับ:cool:
     
  16. tangOAH

    tangOAH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,183
    ค่าพลัง:
    +5,528
    ขอบคุณจ้า แต่เดี๋ยวคงไปกับเพื่อนๆแหละ คงนัดเลี้ยงพระหน่ะ
    ไปที่วัดหน่ะจ้า ที่ไว้กระดูกเพื่อนคนนี้หน่ะ คงไปกันหลายคน
    กำลังรอวันว่างของแต่ละคนอยู่
    ส่วนตัวโอ๋เวลาที่ฝันถึงเพื่อนคนนี้ พอรู้ตัวโอ๋ก็จะนึกถึงแสงสว่างให้เค้าเสมอเลยจ้าให้เค้ามีความสุข
    แล้วเวลาเค้ามาอยู่ในฝันโอ๋เค้าก็จะร่าเริงมีความสุขนะ ไม่รู้สึกว่าเค้าลำบากเลยหน่ะ
    ก็เหมือนว่าเค้าจะเคยชอบโอ๋นะเพื่อนคนนี้หน่ะ
    ขนาดตอนงานศพ โอ๋ยังได้กลิ่นปละหลาดอยู่คนเดียวเลย

    โอ๋ว่าเค้าคงไม่ลำบากหรอกนะ แต่เพื่อนอีกคนที่ฝันเค้ากังวล
    ก็ไม่เป็นรัย ก็เหมือนรวมเพื่อนไปทำบุญกันก็ดีเหมือนกัน
    ได้ประโยชน์หลายอย่าง เพื่อนที่เสียชีวิตคงมีความสุข
    ได้เจอเพื่อนๆด้วย โอ๋คิดแบบนั้นค่ะ

    ขอบคุณอีกทีนะจ๊ะ วันนี้ไม่ได้ไปทำงานต้องเฝ้าพ่อ แม่ไปหาหมอ
    เลยทำให้ไม่ได้ไปร่วมแข่งกีฬาตอนบ่ายเลยเนี่ย

    รักนะจ๊ะ จุ๊บๆๆ

    :cool::cool::cool:
     
  17. pumanp

    pumanp สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2009
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +4
  18. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    มิีทติ้งผ่านไปแล้ว...ถึงไปได้ไปด้วยก็ขอส่งใจไปให้ (จังหวะงานเข้านะครับ)
    คุณเดรด คุณโซ่ คุณชยุต แวะมาเล่าให้ฟังบรรยากาศหน่อยนะครับ
    กระทู้ยังคึกคักสนุกสนานเช่นเคย
    ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกๆท่านด้วยครับ ^0^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เมื่อวานคือ "อดีต"
    พรุ่งนี้คือ "ความมหัศจรรย์"
    วันนี้คิอ "ของขวัญ"

    และนี้แหละทำไมจึงเรียกว่า "ปัจจุบัน"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    [​IMG]

    ‎2012 ~ อย่างไรที่กล่าวว่ามิติที่ 3 กำลังจากไป
    โดย จิม เซลฟ์ - 9 ธันวาคม 2011


    ขณะที่ปี 2012 กำลังขยับเข้ามาใกล้ เป็นสิ่งที่เพิ่มความเร่งด่วนให้ช้อความนี้ เพราะเวลาทีเราจะได้เล่นบทบาทในมิติที่ 3 กำลังหมดไป

    พูดง่ายๆคือ การคิดและรู้สึกที่เคยทำ และพฤติกรรมแบบมิติที่ 3 กำลังหายไป ทุกคนกำลังเคลื่อนเข้าจิตสำนึกและประสบการณ์แห่งมิติที่ 4 แล้วจะตามมาด้วย จิตสำนึกและประสบการณ์แห่งมิติที่ 5

    อย่างไรก็ตาม คนส่วนให้บนดาวดวงนี้ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลนี้ แต่ยังงัยมันก็จะต้องเกิดขึ้น และสำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวของการเปลี่ยนนี้ มันจะเป็นประสบการณ์ที่ยากและกระอักกระอ่วนพอตัว

    แต่นี่จะเป็นช่วงเวลาที่สนุกยอดเยี่ยมเช่นกัน ด้วยข้อมูลพื้นฐานบางอย่างเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลง และ ความเข้าใจในมิติต่างๆ ร่วมกับเครื่องมือง่ายๆที่จะช่วยจัดการความคิดและความรู้สึกของเรา เราทุกคนก็สามารถพัฒนาจิตสำนึกของพวกเราได้ พร้อมกับการขยับเช้าสู่เขตแดนที่มีความถี่สูงขึ้นได้อย่างงดงามและสนุกสนาน

    หากคุณไม่ทราบว่ามิติต่างๆคืออะไร..คุณไม่ได้เป็นอยู่คนเดียวหรอก คนส่วนใหญ่เล่นเกมชีวิตที่เรารู้จักในมิติที่สามโดยไม่มีคู่มือกติกาของเกมส์ที่จะอธิบายว่ากำลังอะไรและจะเล่นอย่างไรให้ชนะ

    บทความนี้จะให้กฎระเบียบขั้นพื้นฐานที่ไม่มีใครบอก มันจะอธิบายว่าอะไรคือมิติที่สาม มิติที่สี่ และห้า และว่าทำไมความรู้ความเข้าใจเหล่านี้สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณตอนนี้

    ถ้าคุณเข้าใจโครงสร้างและการเล่นเกมส์(ชีวิต)ในมิติเหล่านี้ คุณจะเริ่มเล่นเกมส์ได้อย่างคล่องแคล่วผ่านการเปลี่ยนแปลงอันน่าตื่นตาตื่นใจโดยไม่ต้องกลัว ไม่ต้องออกแรงใช้ความพยายาม ไม่ต้องเครียดและวิตกกังวล เกิดประจำในชีวิตประจำวันของเรา

    ก่อนอื่นเลย.. เรามาดูกันว่าอะไร "ไม่ใช้" มิติ

    มิติไม่ใช่สถานที่ และมิติก็ไม่ได้มีลำดับเชิงเส้น 3, 4, 5, 6 ต่อๆกัน มิติที่ 3 หรือมิติที่ 4 ไม่ได้เป็นเก้าอี้ที่คุณกำลังนั่งอยู่ หรือไม่ใช่ผนังที่ล้อมรอบตัวคุณ ไม่ใช่แม้กระทั่งโลกใบนี้เอง ที่กล่าวมานั้นเป็นรูป(แบบ)ที่มีอยู่มากในมิติที่ 3 และ 4 และที่จะยังคงเป็นส่วนสำคัญของเกมในมิติที่ 4 แม้เมื่อมิติที่ 3 ได้ผ่านไปแล้ว

    โดยทั่วไป มิติ คือระดับภาวะของจิตสำนึก ที่มีให้ทุกคนที่สั่นสะเทือนสอดคล้องกับความถี่หนึ่งๆ รวมทั้งโอกาส(ความเป็นไปได้)ต่างๆที่มีอยู่ในแต่ละมิติ

    คุณจะมองว่าแต่และมิติ ก็เป็นเกมส์คนละเกมส์ที่มีกติกาว่าเล่นแบบไหนอยู่ในกติการหรือแบบไหนผิดกติกาก็ได้ แล้วอะไรหละคือมิติที่ 3

    มิติที่สาม มีลักษณะเป็นกรอบความเชื่อที่เข้มงวด พร้อมกฏและช้อจำกัดที่ไม่ค่อยจะยืดหยุ่นเอาซะเลย พวกเราส่วนใหญ่เล่นเกมนี้มาหลายชั่วชีวิตแล้ว ดังนั้นเราจึงมีแนวโน้มที่จะคิดว่ามันเป็นเกมเดียวที่มีให้เราเล่นได้ แต่มันก็เป็นความจริงอย่างที่สุดว่า หนึ่งในความเชื่อที่เข้มงวดแบบมิติที่ 3 ว่าโครงสร้างชีวิตของเรา ความคิดและความรู้สึกและการกระทำของเราอยู่ในเวลาเชิงเส้น

    เวลาเชิงเส้นเป็นความเชื่อและโครงสร้าง(ที่เราเลือกได้) ที่ทำให้เรามีชีวิตโดยมีประสบการณ์ที่ผ่านไปแล้วและกำลังจะเกิดขึ้น ... แล้วเราก็ตาย เพราะความเชื่อนี้เป็นสมมติฐานตั้งต้นของจิตสำนึกแบบมิติที่ 3 เหตุการณ์ต่างๆยืนยันความเชื่อส่วนนั้น พวกเราส่วนใหญ่ก็คิดและทำราวกับว่ามันเป็นความจริง

    แต่ตอนนี้เราทุกคนตื่นขึ้นมาจากภาพลวงตาของความเชื่อที่แพร่หลายนี้ และขณะที่คุณรู้ตัวมากขึ้น คุณก็จะรู้ว่าเวลาในมิติที่ 3 มันวิ่งวนซ่ำไปเรี่อยๆ สิ่งที่คุณประสบในอดีตกลับเป็นสิ่งที่คุณใส่ใจในขณะนี้ แล้วคุณก็ทำความจริงนั้นให้เกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นคุณจึงต้องประสบกับเรื่องเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำอีก

    ดังนั้นโครงสร้างของเวลาในมิติที่ 3 นี่เจาะจง(และจำกัด)มาก แต่ประสบการณ์ทางเวลาของคุณจะแตกต่างกัน (และเสริมอำนาจ) ขรธที่คุณย้ายเข้าไปในมิติที่สูงขึ้น

    คุณจะเห็นว่า ในประสบการณ์ที่ประสบในโลกนี้ เราสามารถเข้าถึงได้ทั้งจิตสำนึกแห่งมิติที่ 3 และ มิติที่ 4 แต่เราส่วนใหญ่แทบจะไม่ได้ก้าวข้ามนิสัยฝังแน่นของความคืดและความรู้สึกแบบมิติที่ 3 เลย

    ในมิติที่ 3 นี้เรายังไม่มีทางได้เลือก เราไม่ได้เลือกความคิด ความรู้สึก และการกระทำในแต่ละขณะ (ซึ่งเป็นทักษะของมิติที่ 4 และที่ 5) เรากลับโต้ตอบมีปฏิสัมพันธ์กับคนและสถานะการณ์ที่โผล่ขึ้นมาจากความเชื่อและการฝึกแบบที่ไร้สติ

    ทวิภาวะ(ธรรมคู่)เสริมสร้างโครงสร้างอันแข็งแกร่งสำหรับประสบการณ์ 3 มิติ ขึ้น/ลง ซ้าย/ขวา ควร/ไม่ควร นับตั้งแต่การล่มสลายของแอตแลนติ 12,500 ปีก่อน เราใช้ชีวิตอยู่ในความหวาดกลัว และในความหวาดกลัวนั้น เราเรียนรู้ที่จะมองแคบๆ กำหนดกฎเกณฑ์ จำกัดวงว่าสิ่งนี้ดี/ไม่ดี สิ่งนี้ถูก/ผิด ฯลฯ การพิพากษาโดยไม่รู้ตัวก็แทรกซึมในทุกความคิดแบบมิติที่ 3

    ยิ่งไปกว่านั้น เรารับรู้ประสบการณ์มิติที่ 3 ของเราส่วนใหญ่ด้วยสมองซีกซ้าย ซึ่งเป็นบ้านของจิตใจที่ใช้เหตุผลตรรกะ เราจึงใช้เพียงประมาณ 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของกำลังความสามารถของสมองในการเล่นเกมมิติที่ 3 เราส่วนมากสงสัยว่าส่วนที่เหลือของสมองของเราจะต้องทำบางสิ่งบางอย่าง แต่ก็ไม่รู่เลยว่ามันทำอะไรและทำงานอย่างไร
    ในความเป็นจริง สิ่งที่ส่วนที่เหลือของสมองเปิดให้เราทำคือ การทำงานในที่สูงกว่าที่ 4 และ 5 มิติ และมิติอื่น ๆที่สูงขึ้นไปอีก
    เราพร้อมอยู่แล้วด้วยศักยภาพ อุปกรณ์เครื่องจักรและการเชื่อมโยงที่จำเป็นทั้งหมดพร้อมอยู่แล้วขณะนี้ที่จะมีจิตสำนึกในมิติต่างๆทั้งหมดนี้ แต่นิสัยการคิดและสัมผัสที่ฝังลึกมายาวนานหลายชั่วอายุคน ปิดหูปิดตาปิดปากและขังเราไว้ให้สัมผัสประสบการณ์แบบมิติที่ 3 เท่านั้น สมองซีกซ้ายของเราบ้านของตรรกะนั้นรู้แต่สิ่งที่มันรู้ และไม่รู้สิ่งที่ไม่รู้ และมันทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อเก็บเราไว้ในช่วงแคบๆของกรอบความจริง (ที่จำกัด) ของความคิดและความเป็นไปได้ในมิติที่ 3 และเราส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นเดียวกัน แต่จากนี้ไป...ไม่อีกแล้ว

    พลังงานแสงและความถี่ที่เพิ่มขึ้นของการเปลี่ยนแปลงนี้ที่มีกำลังตัดต่อสมองของเราเพื่อให้เราสามารถเข้าถึงช่วงกว้างมากขึ้นของข้อมูลและความเป็นไปได้มากกว่าสามารถใช้ได้ในมิติที่ 3 พลังงานแสงเหล่านี้กำลังเตรียมเราสำหรับประสบการณ์ในมิติที่ 4 และที่ 5 รวมไปถึงการล้างกฎเหล็ก 3 มิติจากจิตสำนึกของเรา ดังนั้นมิติที่ 4 คืออะไร

    กติกาของสำนึกในมิติที่ 4 ให้ความรู้สึกของ ความเบาสบาย ความเป็นไปได้ ความสามารถที่เพิ่มขึ้นจากโครงสร้างของมิติที่ 3

    เวลาในมิติที่ 4 เป็นปัจจุบันเสมอ การมุ่งเน้นที่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ร่างกายของเรารู้อยู่แล้วแค่เวลาปัจจุบัน มันไม่รู้จักเมื่อวานนี้ หรือ พรุ่งนี้ และเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสำนึกธรรมชาติในการจัดขบวนให้เข้ากันได้กับมิติที่ 4 ที่สูงกว่า เราดำรงชีวิตอยู่ มีความตระหนักรู้และมุ่งความสนใจแต่ในปัจจุบันตลอดเวลาอย่างสมบูรณ์ เมื่อจุดความสนใจของเราอยู่กับปัจจุบันขณะเฉพาะหน้า ความตระหนักรู้ และ ทางเลือก ก็จะกลับมาอีกครั้ง เราสามารถเฝ้าดูเหตุการณ์ทั้งหลายด้วยความรู้สึกของการปล่อยวาง ไม่ติดยึด มันเป็นเพียงข้อมูลที่จะต้องพิจารณาเท่านั้น จากฐานที่สงบนิ่งและไม่รกรุงรัง เราจะมีอิสระที่จะเลือกตอบสนองของเราเอง ในมิติที่ 4 เรากลายเป็นผู้เลือกได้(ที่จะตอบสนอง)

    แนวคิดและความเป็นไปได้หรือที่ยังขัดแย้งกัน (Paradox) ยังจะมีอยู่ในสำนึกปัจจุบันของมิติที่ 4 ทางเลือกที่ขัดแย้ง(Paradox) แค่บอกเราว่าสิ่งที่ถูก(เป็นจริง)เมื่อครู่อาจไม่ถูกในปัจจุบันก็ได้ และสิ่งที่ผิด(ไม่เป็นจริง)เมื่อครู่ก็อาจไม่ผิดอีกต่อไปก็ได้ แทนที่จะใช้ความเข้าใจเดิมๆการตัดสิน(ว่าถูกผิด ดีเลว ได้ไม่ได้)เดิมที่มีมาก่อน เราเลือกรับรู้และสั่นสะเทือนในแบบที่เราชอบได้เองในทุกช่วงเวลา

    ดังนั้นขณะที่เราขยับเข้าไปในจิตสำนึกมิติที่ 4 ในเวลาปัจจุบัน ด้วยพลังของทางเลือก(ที่เราเลือกได้) ตอบสนองเชิงรุก (response-ability) ความเป็นไปได้ของความขัดแย้ง (เคยถูดก็อาจไม่ถูก เคยผืดก็ไม่ผิดตลอดไป) และ ความสามารถในการแก้เกมส์ เพื่อ ยกระดับความสุขและสุขภาวะของเราจะมีขึ้น

    ที่น่าสนใจคือจิตสำนึกของมิติที่ 4 ไม่ได้เป็นตัวเลือกในระยะยาวหลังจากความเปลี่ยนแปลงได้ล้างโครงสร้างสำนึกอันคับแคบตายตัวชองมิติที่ 3

    มิติที่ 4 จะทำหน้าที่เป็นสิ่งจำเป็น แต่จะอยู่กับเราช่วงสั้นๆ เป็นบันไดหรือฐานแห่งความสั่นสะเทือนเพื่อก้าวข้ามไปยังสำนึกมิติที่ 5 ที่เป็นเป้าหมายของดาวเคราะห์โลกและทุกคนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ อัครเทวฑูต (The Archangels) ได้กล่าวว่าสำนึกรวมของโลกจะเป็นมิติที่ 5 ในปี 2015

    แต่ถึงแม้ว่าจะมีมิติที่ 5 เป็นเป้าหมาย ประสบการณ์จากมิติที่ 4 ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น เราไม่สามารถเข้าสู่มิติที่ 5 ได้โดยตรงจากมิติที่ 4 สัมภาระทางจิตและอารมณ์จากมิติที่ 3 ที่จะต้องไปถูกทิ้งไว้ที่ประตูไปสู่มิติที่ 4 และเราสามารถเช้าสู่มิติที่ 5 หลังจากที่เราได้เชี่ยวชาญการใช้ความคิดและความรู้สึก ในสำนึกมิติที่ 4

    มีส่วนประกอบบางอย่างเป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้นมิติที่ 5 คืออะไร

    มิติที่ 5 ดำเนินไปในลักษณะที่แตกต่างจากมิติที่ 3 และที่ 4 อย่างมาก

    สำนึกเวลาในมิติที่ 5 เป็นสำนึกเวลาฉับพลัน หมายความว่าทุกอย่าง (ความเป็นไปได้ทั้งหมด) เกิดขึ้นในสถานที่เดียวกันในเวลาเดียวกัน ในสำนึกมิติที่ 5 คุณมุ่งความสนใจของคุณ แล้วคำตอบหรือประสบการณ์ก็จะถูกมอบให้คุณเมื่อใดและที่ไหนก็ตามที่คุณพุ่งความสนใจไป

    ร้องขอแล้วคุณจะได้รับ

    ในสำนึกมิติที่ 5 คุณไม่ต้องขยับหรือไปไหนเพื่อหาคำตอบหรือประสบการณ์ ทุกอย่างมาหาคุณเองอย่างง่ายๆไม่ต้องออกแรงมากมาย ขึ้นอยู่กับจุดที่ให้ความสนใจและการสั่นสะเทือนที่คุณเลือกในทุกช่วงเวลา

    เมื่อคุณกำลังสั่นสะเทือนในจิตสำนึกมิติที่ 5 คุณไม่ได้สร้างด้วยรูป (form) อย่างที่คุณทำในมิติที่ 3และ 4 คุณสร้างขึ้นด้วยแสง รูปแบบของแสง และความถี่ของแสง คุณจะประยุกต์ใช้เสียง สี และรูปทรงเรขาคณิต คุณโต้ตอบกับผู้สร้างและเทพแห่งแสงทั้งมวล (คุณเองก็เป็นเทพแห่งแสงเช่นกัน -ผู้แปล) ด้วยสำนึกรู้พร้อม

    ในจิตสำนึกระดับสูงนี้ การคิดใช้เหตุผลตรรกะมีบทบาทน้อยมาก มันจะกลับไปมีขอบเขตเล็กลงมุ่งเน้นเฉพาะกิจดั้งเดิมคือสุขภาพที่ดีของร่างกาย

    แต่ก่อนที่เราจะย้ายเข้ามาสั่นสะเทือนในสำนึกห่งมิติที่ 5 ก่อนอื่นเราต้องเชี่ยวชาญคล่องกับการสั่นสะเทือนและความเป็นไปได้ของสำนึกมิติที่ 4 ก่อน นี่เป็นประเด็นสนใจของการเปลี่ยนแปลงสำหรับคนส่วนใหญ่ ในเหตุการณ์ที่เร่งจี้เข้ามาเรื่อยๆของปี 2012

    แล้วคุณจะกลายเก่งในจิตสำนึกมิติที่ 4 ได้อย่างไร เครื่องมือของเวลาปัจจุบันแห่งมิติที่ 4

    อย่างที่ผมกล่าว มิติที่ 4 คือ'ตอนนี้'ของ'เวลาปัจจุบัน.' แต่เวลาปัจจุบันที่จริงมีสี่ระดับที่แตกต่างกัน

    ในปี 2010 เราทุกคนก้าวเข้าสู่ระดับที่สาม ขณะที่เราขยับเข้าปี 2012 เราจะเข้าสู่ระดับที่สี่, และระดับสุดท้าย ในระดับนั้น เมื่อคุณคิดว่า 'ฉันต้องการแอปเปิ้ล' แอปเปิ้ลจะไปปรากฏในมือของคุณ โดยปกติเมื่อผมบอกอย่างนั้นคนจะรู้สึกตื่นเต้นมาก และมันก็เป็นที่น่าตื่นเต้นจริงๆ หากแต่ว่า ... มันมีข้อแม้

    ส่วนใหญ่ของผู้คนบนโลกนี้ไม่ได้เตรียมไม่พร้อมจะควบคุม ทุกความคิด ทุกความรู้สึก และทุกการกระทำของพวกเขาในทุกช่วงเวลา นั้นไม่ใช้ทางเลือก แต่มันเป็นความจำเป็นทักษะพื้รฐานสำหรับจิจสำนึกที่สูงขึ้ในมิติที่ 4 และ 5

    หนึ่งในเหตุผลที่มิติที่ 3 ถูกสร้างขึ้นมา ก็เพื่อให้"สนามเด็กเล่น"ที่เราแต่ละคนจะสามารถซ้อม ขัดเกลา การสั่นสะเทือนของเหล่าคิดและความรู้สึกของเรา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ สนามเด็กเล่นมิติที่ 3 จึงมีกันชนของเวลา (time buffer) แทนที่จะ 'สำแดงทันที(ที่คิด)' จึงมีการหน่วงเวลาระหว่างความคิดที่เราคิดและการแสดงออกหรือประสบการณ์จากความคืดนั้น ส่วนใหญ่เราจะเหลวไหลเลินเล่อมากกับการหน่วงเวลานี้

    แทนที่จะพุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่เราต้องการ แล้วปล่อยให้มันเผยตัวเองตามการกาลเวลา เราสำรอกความโกรธเกรี้ยว ความอึดอัด ความเบื่อ ความกังวล, ความวิตก การใส่ความ ความผิด, ความกลัว -- ความรู้สึกนึกคิดระดับล่างและไม่กลมกลืน เราทำตัวราวกับว่าเราสามารถคิดและรู้สึกอะไรอย่างไรก็ได้โดยไม่ต้องรับโทษใดๆ เพราะเราไม่ได้เห็นผลทันทีของความคิดของเรา

    แต่มันจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว ขณะที่เวลาเชิงเส้นในมิติที่ 3 กำลังยุบลงไปในจุดเดียวแห่งเวลาปัจจุบัน ตัวหน่วงเวลาก็ยุบตัวลงเช่นกัน โอกาสเหลือน้อยลงทุกทีที่เราจะได้ฝึกฝนขัดเกลาทักษะการตระหนักถึงนิสัยจิตใจและอารมณ์ของเราก่อนที่สิ่งที่เราคิดคือสิ่งที่เราได้รับ นี้เป็นเรื่องใหญ่มาก

    ยังโชคดีว่าเรามีเครื่องมือทางพลังงานอย่างง่ายที่สามารถช่วยคุณจัดการความคิดและอารมณ์ของคุณในทุกช่วงเวลาเพื่อให้คุณสามารถจะเตรียมไว้สำหรับ โอกาสที่คาดไม่ถึง และการมีชีวิตและการสร้างอย่างท้าทาย ในปัจจุบันในมิติที่สูงขึ้น

    เครื่องมือทางพลังงานเหล่านี้สามารถใช้ได้ฟรีบน Alchemy Mastering เว็บไซต์ของเรา แต่ให้ผมอธิบายเครื่องมือเหล่านี้สองสามตัวเป็นตัวอย่าง แล้วปล่อยให้การเปลี่ยนแปลงทำให้ความคิดและความรู้สึกของคุณกระจ่างขึ้น

    พูดง่ายๆคือ การเปลี่ยนแปลงกำลังใช้คลื่นความถี่ของแสงคลื่นหนึ่งเพื่อล้างตัวตันที่ไม่ใช่เราอย่างแท้จริง และให้ใช้อีกคลื่นหนึ่งเพื่อเตือนเราว่าแจ้จริงแล้วเราเป็นใคร การเปลี่ยนแปลงนี้รู้ที่เราเก็บนิสัยคุ้นชินอันไม่พึงประสงค์ และ ความคุ้นชินกับการขาดสำนึกรู้ตัวในความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์ตอบสนอง แสงสว่างกำลังช่วยะล้างทั้งหมดนี้จากการสั่นสะเทือนของเรา

    ขณะที่ความรู้สึกและความคิดเล็กๆเหล่านี้ถูกทำให้กระจ่างขึ้น มันจะชัดเจนในความตระหนักรู้ของเรา และดึงดูดผู้คนอีกทั้งสถานะการณ์ที่สะท้อยให้เห็นถึงพลังงานอันยุ่งเหยิงมาสู่เรา เมื่อถึงเวลานั้นคุณจัดการจะจัดการกับพลังงานที่มักจะมีอานุภาพนี้ได้อย่างไรเมื่อมันปรากฏขึ้น ก่อนอื่นคุณต้องปล่อยให้มันเป็นไป หากคุณเพียงเฝ้ามองพลังงาน(ที่มากับผู้คน สถานะการณ์ ความคิด และความรู้สึก)ด้วยความปลดวางไม่หยิบยึดขึ้นมา - มันก็จะสลายไปอย่างรวดเร็ว และคุณจะจำไม่ได้เลยว่ามันเรื่องอะไรกัน

    แต่ถ้าคุณไปหยิบยึดจับถือพลังงานความคิดความรู้สึกอันยุ่งเหยิงนั้น ไปยับยึดกับความรู้สึกผิดหรือความกังวล ยังคงยืนยันซ้ำๆว่า 'ฉันรับไม่ได้นะ' 'พวกเขายังทำไม่ถูก' พลังงานเหล่านี้จะไม่ถูกลบออกจากพื้นที่ของคุณ - ในขณะที่ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ เส้นทางชีวิตคุณจะมีแต่หลุมแต่บ่อมากมาย และจะยิ่งเป็นสิ่งที่รับไม่ได้มากขึ้นๆสำหรับคุณ

    จำไว้ว่าสิ่งที่ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นไม่ใช่ของคุณ มันไม่ไช่เรื่องของคุณ แค่รับทราบและรู้ว่ามันกำลังจะมาถึงเพียงเพื่อจะถูกชำระล้างไป... ตลอดกาล สูดหายใจลึกๆ ไปเดินเล่น หรือฟังเพลง -- หันเหความสนใจของคุณไปยังเรื่องที่มีการสั่นสะเทือนที่สูงขึ้น จงทำความเข้าใจกับระดับบนล่างของมิติที่ 4

    เพื่อลดความซับซ้อนอีกแง่มุมหนึ่งที่สำคัญของความเปลี่ยนแปลงนี้ ลองจินตนาการว่ามิติที่ 4 มีเพียงสองส่วน มิติที่ 4 ขั้นต้น และมิติที่ 4 ขั้นสูง(ซึ่งไม่เป็นความจริงในทางเทคนิค แต่มันเป็นความแตกต่างที่มีประโยชน์.)

    อย่างที่ผมกล่าวแล้ว รูปแบบ(form)จะยังคงอยู่เมื่อ 3D หายไป เรายังจะได้สัมผัสกับบ้านเรือนและรถยนต์และต้นไม้ แต่ความกลัว การตัดสิน การโยนความผิด และความรู้สึกผิดจะหายไป พลังงานหนาทึบทางอารมณ์ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่หยุดยั้งเราจากการเล่นในมิติที่สูงขึ้นในขณะนี้จะถูกลบออกจากพื้นที่ของเรา

    อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับการสั่นสะเทือนของความคิดที่คุณกำลังคิดขณะที่มิติที่ 3 หายไป ที่คุณจะพบว่าตัวเองอยู่ในมิติที่ 4 ช่วงล่างหรือช่วงบน

    มิติที่ 4 ขั้นต้น ซึ่งเรียกว่าระนาบทิพย์ (Astral Plane) หรือพื้นที่ฝัน ถือความคิดทั้งหมดที่เคยคิดโดยทุกคนในมิติที่ 3

    คุณจะเห็นว่าความคิดที่ไม่ได้หายไปไหนหลังจากที่เราคิดมันแล้ว ความคิดเหล่านั้นยังอยู่ในมิติที่ 4 ชั้นล่าง โดยมีน้ำหนักเฉพาะ เนื้อ ความหนาแน่น และประจุอารมณ์ ความคิดถูกเชื่อมและเกาะกลุ่มกับความคิดอื่นๆ ที่มัคุณสมบัติคล้ายกัน

    ความคิดบางอย่าง เช่นการกดขี่ข่มเหง การครอบงำ ความเป็นทาส สงคราม ความเกลียดชัง ให้ความรู้สึกหนัก หนา แน่น และมืด ตรงกันข้ามความคิดเช่น 'ผีเสื้อ' 'เด็กเล่นในสวนสาธารณะ' และ 'ดอกไม้บานในวันที่ฤดูใบไม้ผลิที่อบอุ่น' จะให้ความรู้สึกเบาและมีความเรียบง่าย เป็นการสั่นสะเทือนอย่างปรอดโปร่ง ความคิดที่เบากว่าเช่นนี้ไม่ค่อยมีอิทธิพลในจิตสำนึกของมิติที่ 3 เพราะเพื่อที่จะจัดและรับรู้การสั่นสะเทือนของความคิด ยกตัวอย่างเช่น 'ความงาม' เราจะต้องก้าวออกจากสำนึกมิติที่ 3 เข้ามาสู่เวลาปัจจุบันใรพื้นที่ของมิติที่ 4

    คุณบอกว่าคุณรู้ว่าจัก 'ความงาม' แน่นอนคุณรู้จัก เพราะเราตอนนี้อาศัยอยู่ในทั้งมิติที่สามและมิติที่สี่ในเวลาเดียวกัน แต่มันบ่อยแค่ไหนที่คุณจัดตำแหน่งตัวเองด้วย และซึมซับแช่อยู่ในความรู้สึกของความงาม

    มันเป็นทักษะแห่งมิติที่ 4 ที่จะรับความคิดที่นำแสงสว่าง ความปรอดโปร่ง และ ความงาม เข้ามาสู่หัวใจ แรงสั่นสะเทือนเช่นนี้ไม่มีในยามเร็งรีบ ในอดีต/อนาคตของมิติที่ 3 ที่มันยากมากที่จะหยุดเวลาไว้ เพื่อชื่นชมกลิ่นหอมดอกไม้ในขณะนั้นๆ

    แต่ในอีกด้านหนึ่ง คุณเคยสังเกตมั้ยว่าความคิดที่หนักอึ้ง น่าอึดอัดเหล่านี้เช่น ฉันมันไม่ดีพอ ไม่มีใครชอบฉันเลย หรือ ฉันไม่มีวันทำมันสำเร็จแน่ๆ มีแนวโน้มที่จะแช่อยู่นานกว่าในจิตสำนึกของมิติที่ 3 นี้เป็นเพราะความคิดก็เหมือนไฟฟ้า อารมณ์เป็นเหมือนแม่เหล็ก การสั้นสะเทือนที่สว่างโปร่งโล่งจากความคิดเช่น 'ความงาม' 'ความการุณ' กลับมีประจุไฟฟ้าต่ำและนุ่มนวลกว่าที่มีการขยายตัว(expansive)และลื่นไหล(fluid) แต่ในขณะที่ความคิดหนักๆน่าเกลียด จะมากับประจุที่แออัด และห้อมล้อมด้วยอารมณ์แม่เหล็กแรงสูง ความคิดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ยากที่จะสลายมากกว่าความคิดกลุ่มความรักและเมตตา ความคิดยังมีแรงดึงดูดเข้าหากันกับทุกความคิดอื่นๆที่คล้ายกันในมิติที่ 4 ขั้นต้น

    เหมือนสนามแม่เหล็กที่อยู่รอบตัวเรา คำพูดที่ได้ยินว่า "ฉันรับไม่ได้" "เธอมันไม่ได้เรื่อง" ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเราเลย แต่มันมีอำนาจดึงดูดรุนแรงของความคิดไร้สำนึกที่เหนี่ยวนำตัวเองเข้าหาความคิดหนักๆไร้สำนึกที่คล้ายกัน

    คุณจะเริ่มเห็นว่าทำไมมันจึงสำคัญอย่างยิ่งยวดที่จะสร้างจิตสำนึกทางความคิดที่คุณคิดและอารมณ์ที่คุณโยนลงส่วนผสมของพลังสั่นสะเทือนของคุณ

    โชคดีที่คลื่นลูกที่สองของการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้มันง่ายขึ้นเรื่อยๆ เพียงเราปลดปล่อยพลังงานที่หนักกว่าที่ไม่ใช่ตัวตนแท้จริงของเรา แสงสว่างก็จะตัดต่อวงจรเราให้ใหม่ พาเราก้าวขึ้นมาสู่การสั่นสะเทือนของมิติที่ 4 ขั้นสูง ที่คิดและอารมณ์เล็กน้อยไม่สามารถรบกวนประสบการณ์ทั่วไปของเรา

    เราเริ่มที่จะใช้ชีวิตอย่างสอดคล้องกับหัวใจ(ไม่ใช่สมอง -ผู้แปล) และรับประสบการณ์การสั่นสะเทือนและผลกระทบจากความคิดเช่น 'ฉันรักตัวเอง','ฉันมีความสุข','ฉันยินดีกับตัวเอง.'

    ความสอดคล้องกับหัวใจจะกลายเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะมันเป็นความสอดคล้องตามธรรมชาติของของมิติที่ 4 ขั่นสูง และ มิติที่ห้าและที่หกด้วย

    แต่กระนั้นก็ยังมีบางสิ่งที่ต้องทำ

    ข้อจำกัด การพิพากษา ปฏิเสธ กล่าวโทษ ความรู้สึกผิด หรือ ความขุ่นข้องหมองใจทั้งหลาย ที่เรายังคงถกเถียงกัน จะกลายเป็นตุ้มถ่วงน้ำหนักของบอลลูนอากาศร้อน มันจะถ่วงเราไม่ให้สั่นสะเทือนสูงขึ้นในช่วงความถี่ของมิติที่ 4

    เราแต่ละคนเป็นผู้รับผิดชอบในกระบวนการนี้เองเต็ม 100 ยิ่งถ่วงน้ำหนักมาก รูปแบบการสั่นสะเทือนของคำพูด ความคิด และอารมณ์ ก็จะยิ่งต่ำลง แต่ถ้ายิ่งเอาตุ้มน้ำหนักออก เราจะยิ่งรับประสบการณ์ที่กว้างขวางจากการลอยตัวสูงขึ้นของมิติที่ 4 ที่ที่เรามองที่ข้ามขอบเขตและข้อจำกัดที่มีนิสัยในแบบ 3 มิติ มันเป็นมุมมองที่กว้าง แต่ในมิติที่ 4 ขั้นสูงมุมมองจะเปิดกว้าง สันติสุข และ สงบเงียบกว่า คุณจะเลือกความกลัวหรือความกังวลแล้วเลื่อนลงมาอยู่มิติที่ 4 ขั้นต้นก็ได้ ... แต่คุณจะไม่ทำอย่างนั้นหรอก

    เมื่อคุณเริ่มมีชีวิตสอดคล้องหัวใจ ตามธรรมชาติของ - 'ฉันรักตัวเอง' - คุณจะพบว่าไม่มีเหตุผลหรือการบังคับให้เลือกจุดความสนใจที่น่าอึดอัดซึ่งอยู่ในมิติที่ 4 ขั้นต้น มันมาตามธรรมชาติและเกิดง่ายๆเพราะมันเป็นภาษาและการสั่นสะเทือนของคุณตามธรรมชาติอันดีอยู่แล้ว -- ที่คุณต้องทำคือยอมให้มันเกิดขึ้นและใส่ใจ

    มันเป็นทางเลือก

    ขณะที่ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นด้วยอัตราเร่ง (เร็วขึ้นเรื่อยๆ) เวลา(เชิงเส้น)ก็ยุบตัวลง โดยมีทุกสิ่งทุกอย่างปรากฏอยู่ในปัจจุบันขณะเท่านั้น คุณยังสามารถเลือกคิดและเลือกความรู้สึกของคุณโดยไม่รู้ตัวจากนิสัย 3 มิติ และคุณจะได้โอกาสที่จะใช้ชิวิตอันน่าไม่สบายในทันทีและอย่างเต็มที่ในประสบการณ์ของคุณ

    หรือคุณสามารถเลือกความคิดและอารมณ์ของคุณในทุกช่วงเวลา ด้วยความชัดเจน ความตระหนักรู้ และใช้ชีวิตอย่างเต็มเปี่ยมกับประสบการณ์นั้นๆ

    พูดอีกแบบก็คือ มันเป็นไปเพื่อประโยชน์ของคุณ ที่จะได้ฝึกซ้อมปฏิบัติและบูรณาการควบรวมความสามารถในการเลือกเนื้อหาของสำนึกของคุณตอนนี้ ก่อนจะถึงเวลาเล่นจริงๆ และช่วงเวลานั้นก็อยู่ไม่ไกลแล้ว

    ทั้งหมดนี้มันขึ้นอยู่กับคุณ

    จนถึงขณะนี้..ในหัวของคุณ ที่ที่คุณสามารถเลือกความคิดและจุดสนใจ ที่ถูกยึดครองโดยความคิดของคนอื่นๆมาก่อน คุณพ่อ คุณแม่ ครู และพระ รักคุณ และมีความเห็นเกี่ยวกับวิธีใช้ชีวิตที่ดีที่สุดของคุณ และขณะที่ความคิดของเขาย้ายไปในที่หัวของคุณ "คุณก็ระเห็ดออกมา"

    ตอนนี้ถึงเวลาเรียกร้องกรรมสิทธิ์ในศูนย์กลางของหัวของคุณ ในขณะที่คุณรับรู้(จ๊ะเอ๋)และปลดปล่อย(บ๊ายบาย)ความคิดฝืนธรรมชาติที่ว่า 'โอ้ว..ฉันทำแบบนี้ไม่ได้' 'ฉันทำแบบนั้นก็ไม่ได้' และ 'ฉันจะต้องทำอย่างนี้แหละ' และไม่นานความคิดเหล่านั้นก็จะหายไป พร้อมกับกับโซ่ตรวนที่ใช้ล่ามคุณไว้ในมิติที่ 4 ขั้นต้น

    การพุ่งความสนใจในปัจจุบันไปที่ 'ความงดงาม' 'ความเป็นอยู่ที่ดี' หรือเพียงแค่ 'ความเป็นสุขจากความเป็นอยู่ง่ายๆ' จะกำจัดลบล้างการสั่นสะเทือนความถี่ต่ำที่ถูกักเก็บไว้ในโลกทิพย์ (Astral Field) แห่งมิติที่ 4 ชั้นต้น

    เริ่มต้นด้วยการเล่นกับการสั่นสะเทือนของสิ่งที่ผมเรียกว่า คำ(ที่)มีชีวิต ทูตสวรรค์ได้จงใจ และเจาะจงคำเหล่านี้ คำบางคำเช่น แน่นอน(Certain) สามารถ(Capable) บัญชาการ(Commanding) ปัจจุบัน(Present) ท่านผู้อาวุโส(Senior) ,หาการุณ(Graciousness) และ ความสุข(Happy) -- เพื่อให้คุณล้างการสั่นสะเทือนอันดสำนึกของคุณได้อย่างง่ายๆ

    เลือกหนึ่งคำในแต่ละวันและอยู่กับมันทุกวัน คิดและรู้สึกถึงบ่อยๆ

    ถ้าคุณซ้อมคิดและรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนเหล่านี้ตอนนี้ คือก่อนที่จะถึงเวลาเอาจริง เมื่อเวลาจริงมาถึง มันก็เป็นนิสัยของคุณไปแล้ว

    คุณเริ่มที่จะปรับตัวให้เข้ากับตัวเต็ม(fullness)ของคุณได้อย่างสง่างาม สภาพธรรมชาติของสุขภาวะที่ดีก็จะยกคุณขึ้นสู่้มิติที่ 4 ขั้นสูง

    ง่ายมั้ย...ก็ไม่ยาก
    ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย...ใช่

    แน่นอน...สิ่งนี้ต้องใช้ทั้งความตระหนักรู้ และการเลือกในแต่ละปัจจุบันขณะ

    คุณขอนั่งดูอยู่ข้างสนามและหวังว่าทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นเองได้มั้ย.. ไม่มีวัน

    ระดับที่เพิ่มขึ้นของแสงแม่เหล็กไฟฟ้าจากมิติที่สูงขึ้นกำลังไหลอยู่ภายในตัวเราทุกคนแล้ว หลายๆคนในมิติที่ 3 ไม่สามารถรับการกระชากของพลังงานเหล่านี้ได้ และพวกเขาก็เลือกที่จะก้าวออกจากร่างกายของพวกเขาไป

    และจะมีอีกหลายๆคน มากขึ้นๆที่จะทำทำเช่นนั้นเมื่อการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นด้วยอัตราเร่ง

    ผมจะบอกให้ว่า..ทุกคนจะต้องกลับบ้านไปยังมิติที่ 4 และมิติที่ 5 แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะ่สามารถกลับบ้านในระยะเวลาเดียวกันด้วยความสะดวกและสง่างามเหมือนๆกัน

    คุณจะเลือกอย่างไรหละ

    ขออำนวยพร

    จิม เซลฟ์
     

แชร์หน้านี้

Loading...