** ฉันทะ ** วัตถุมงคล หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา **

เห็นหน้าว่างๆ และคุณตุ้ยก็ลง "พระเสด็จกลับ" ที่จะทำการแจกรางวัลในคราวนี้..
เลยไปค้นประวัติการสร้างมาให้ดูครับ
อาจจะยาวสักหน่อย แต่ก็ไม่รู้จะตัดตรงไหนได้..
ถือว่าลองศึกษากันเรื่องตำรับการสร้างแบบโบราณจารย์ ที่ยาวนานถึง 30 วันติดต่อกัน วันละ 3 เวลาไม่หยุดพัก อันจะแตกต่างกับสมัยนี้เพียงแค่ 1 วันก็แล้วเสร็จพิธี
หรือจะเป็นไปเพื่อการศึกษาชื่อว่านยา ดอกไม้มงคล ชื่อแร่ธาตุกายสิทธิ์ต่างๆ พอเป็นที่ประดับความรู้กันครับ
ว่ากันว่า "พระเสด็จกลับ" อาจถือได้ว่า เป็นพิธีการสร้างและรวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ไว้มากมายที่สุดนับแต่เคยมีการสร้างพระเครื่องมาในประเทศไทย เราลองมาศึกษากันดูครับ !!

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------<O</O
ประวัติการสร้างพระเสด็จกลับ
<O</O</O
มูลเหตุในการสร้างพระ

<O</Oหลวงพ่อสุภา กนฺตสีโล อายุ 69 ปี 49 พรรษา ปกติท่านชอบถือธุดงค์เป็นวัตร ท่านอยู่ตามป่า ตามถ้ำมากกว่าอยู่ประจำตามวัดวาอาราม แต่ท่านชอบสร้างวัดไว้ตามท้องถิ่นหมู่บ้านที่ไกลจากความเจริญ สร้างแล้วท่านก็มอบให้ผู้อื่นเป็นเจ้าอาวาส รวมวัดที่ท่านสร้างมาแล้ว 33 วัด

<O</Oตัวท่านเองชอบจาริกไปตามอัธยาศัยของท่าน นอกจากจาริกไปทั่วประเทศไทยแล้ว ยังสาริกไปเกือบทั่วโลก ทั้งมีความสนใจในว่านยา แร่ธาตุ ที่เป็นกายสิทธิ์ ท่านจึงรวบรวมไว้หลายชนิด

ลุเข้าปี พ.ศ. 2502 กลับจากธุดงค์อย่างโชกโชนทั่วใต้หล้าแล้ว วกกลับเข้าสู่ประเทศไทยทางด้านอีสาน ท่านได้เดินทางธุดงค์ต่อไปยังภาคใต้ ถึงจังหวัดภูเก็ต พบเขาลูกหนึ่งอยู่ในทะเล เขาเรียกกันว่า เกาะสิเหร่ อยู่ทางทิศตะวันออกของตัวเมืองภูเก็ต ท่านก็ได้นั่งเจริญกรรมฐานอยู่บนเกาะนั้น ก็ได้พบกับมนุษย์จำพวกหนึ่งคือ พวกชาวทะเล (หรือพวกเงาะน้ำ) ซึ่งเป็นมนุษย์แต่ไม่รู้ภาษาของมนุษย์อย่างมนุษย์จำพวกอื่นๆ ท่านจึงเกิดเมตตาจิต จึงอยู่อบรมสั่งสอนมนุษย์จำพวกนั้น ให้รู้ภาษามนุษย์และให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ จนมนุษย์จำพวกนั้น 600 กว่าคนเลื่อมใสศรัทธารู้จักทำบุญให้ทาน

พ่อค้า คฤหบดี และประชาชนที่ทราบในเมตตาจิตของท่าน ก็เกิดศรัทธาเลื่อมใส พร้อมใจกันสร้างสำนักสงฆ์ ขึ้นบนเกาะนั้นและได้สร้างพระพุทธไสยาสน์ยาว 18.50 เมตร ประดิษฐานไว้บนยอดเขาที่เกาะนั้น และเมื่อสร้างเสร็จแล้วท่านได้ทูลเกล้า ขอพระราชทานแววพระเนตร จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ล้นเกล้าล้นกระหม่อมก็ทรงพระกรุณา พระราชทานให้ตามความปรารถนา

"แต่พระพุทธไสยาสน์องนั้น ยังมิได้มีพระวิหาร เป็นแต่ทำเป็นโรงมุงสังกะสีไว้เป็นการชั่วคราวเท่านั้น" ท่านมีความปรารถนาจะสร้างพระวิหารให้ถาวรครอบพระพุทธไสยาสน์ โดยเสด็จพระราชกุศลให้สมพระเกียรติ

<O
จึงได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ พบกับอาจารย์ชุม ไชยคีรี ซึ่งเป็นอาจารย์ที่มีความสามารถในการสร้างพระมาแล้วมากครั้ง ขอความร่วมมือเพื่อจะเอาว่านยาแร่ธาตุที่ท่านสะสมไว้ สร้างเป็นรูปพระไว้แจกสมนาคุณ แก่ศิษยานุศิษย์ผู้มีจิตศรัทธารวมทุนสร้างพระวิหาร อาจารย์ชุม ไชยคีรี ก็ยินดีอนุโมทนาในการกุศล พร้อมด้วยมอบแร่ธาตุว่านยาผงวิเศษ 1,000 กว่าชนิด ที่ท่านเคยสะสมไว้ประสมกับว่านของอาจารย์สุภา ท่านจะสละทุกสิ่งทุกอย่างช่วยจัดการดำเนินงานให้จนเสร็จ ทั้งยังได้ไปเชิญพระอาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิความรู้ทางคุณพระ และทางไสยศาสตร์เป็นพิเศษมารวมด้วย อาจารย์อุทัยก็ยินดีอนุโมทนา และท่านก็อุทิศว่านยาแร่ธาตุผงวิเศษ ทำผ้ายันต์เสือ ผ้ายันต์สิงห์ ซึ่งเป็นผ้ายันต์ที่ท่านเคยใช้ได้ผลดีมาแล้ว เข้าสมทบในการกุศล ตลอดจนเข้าร่วมปลุกเสกด้วยตลอดพิธี

ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของคำว่า "พระเสด็จกลับ" ที่สร้างในปี 2506 หรือประมาณเกือบๆ 50 ปีที่แล้ว


<O</O
ว่านที่ท่านอาจารย์หลวงพ่อสุภา กนฺตสีโล พยายามสะสมไว้ประมาณสามสิบกว่าปี มีประมาณ 100 กว่าชนิด ที่มีชื่อตรงกันกับที่ท่านอาจารย์ชุมสะสมไว้ทุกอย่างจะไม่กล่าวในที่นี้ นำมากล่าวในที่นี้แต่เฉพาะว่านที่มีคุณภาพอย่างยอดเยี่ยม และหายากไม่มีในประเทศไทย ซึ่งบางอย่างท่านได้ลงทุนซื้อ ราคาเป็นหมื่นบาท เช่น
<O</O
1. ว่านกระจายหัวควาย ว่านชนิดนี้ ทางประเทศลาว เรียกว่า กระจายหัวควาย ทางประเทศไทยเราเรียกว่า พญาว่าน ว่านนี้ท่านได้ลงทุนซื้อ จากเจ้าของเขาที่นำมาเลี้ยงไว้เป็นเงินหนึ่งหมื่นบาท ลักษณะหัวลำต้นและใบคล้ายต้นกล้วยญวน แต่มีใบเพียงสามใบเท่านั้น ก่อนที่จะไปเอาต้องบวงสรวงสังเวยก่อนจึงจะเข้าไปเอาได้ หากยังมิได้บวงสรวงสังเวย เข้าไปเอามีอันตรายถึงกับเสียชีวิต ว่านนี้ตามตำรามีเทวดารักษา วิเศษใช้ได้ทุกทาง
<O</O
2. ว่านกินเหล็ก ว่านกินเงิน ว่านกินทอง ว่านกินกระดาษ ว่านกินข้าวตอกแตก 5 อย่างนี้ ก่อนที่จะเข้าไปเอา จะต้องให้กินเหล็ก เงิน ทอง กระดาษ ข้าวตอก จนอิ่ม โดยให้เอาของที่เลี้ยงจี้ และทิ้งเข้าไปที่หัวว่าน ว่านกินจนกระทั่งของที่เราเอาไปเลี้ยงนั้นละลายหายไปหมดแล้ว จึงเข้าไปเอาได้ ไม่เช่นนั้นอันตราย ว่านชนิดนี้มีวิเศษทุกทาง เพราะมีรุกขเทวดารักษา ต้องทำพิธีบวงสรวงสังเวยให้กินของที่ต้องการปีละครั้ง
<O</O
3. ว่านเพชรกลับ ว่านชนิดนี้มีสองชื่อ คือทางประเทศลาว เรียกว่า ว่านน้ำ ทางประเทศไทย เรียกว่า ว่านเพชรกลับ เพราะว่านชนิดนี้ เวลาปลูกต้องใช้กระทงสามเหลี่ยม แล้วเอาดินมาใส่กระทงให้เต็ม แล้วเอาหัวว่านนั้นปลูกลงในกระทง แล้วอธิษฐานให้ปล่อยไปตามน้ำ เมื่อถึงเวลาครบรอบปีเราต้องการจะเอาขึ้น ก็ต้องทำพิธีเช่นเดียวกัน แล้วหนีไปให้ห่างสักครู่หนึ่ง แล้วย้อนกลับมาดูจะปรากฏว่า ว่านนั้นกลับมาอยู่ในกระทง ลำต้นและใบแห้งปรากฏเหมือนกับว่านที่เราปลูกที่บ้านของเราตามธรรมชาติ คุณวิเศษตามตำรา เมื่อนำติดตัวเรา เราจะต้องได้กลับมาบ้าน โดยไม่ไปตายนอกบ้าน กันอาวุธอุปัทวเหตุนาๆ ชนิด
<O</O
4. ว่านสบู่เลือด ว่านนี้ตามธรรมดาที่ประเทศไทยเรา มีผู้สนใจเอามาปลูกกันไว้มีมากเหมือนกัน แต่ก็ปรากฏว่าไม่เหมือนกับที่ท่านได้เอามาจากประเทศลาว ว่านสบู่เลือดที่ท่านนำมานี้มีลักษณะ มีลำต้น และหัวๆ เดียวจนตลอดไป โดยมากผู้ที่มีว่านชนิดนี้จะต้องเป็นคนที่มีทรัพย์สมบัติมาก ใบของมันสีแดงเหมือนกับเลือด มีใบคล้ายใบข้าว และมีเฉพาะสามใบเท่านั้น จะปลูกไว้กี่ปีก็ตาม มีเพียงสามใบเท่านั้น วิเศษในทางลาภและคงกระพัน
<O</O
5. ว่าไพลดำ ที่ในประเทศไทย ที่เราได้ยินได้เห็นกันนั้นมิใช่เป็นไพลดำที่แท้จริง ส่วนว่านไพลดำที่ท่านนำมานี้หาได้ยากที่สุด เพราะว่าดำทั้งหัวและดำทั้งใบ ว่านชนิดนี้เมื่อปลูกแล้วดินในบริเวณนั้นก็จะดำ และจะเอาอะไรไปขุดหรือตัดหัวของมันไม่ขาด เสียมก็ขุดไม่เข้า ต้องมีผู้เข้าใจในเรื่องว่านจึงจะเอาได้ และฝนตกน้ำลาดไปถึงไหนก็ดำไปถึงนั้น วิเศษทางคงกระพัน และทำให้เกิดตาทิพย์
<O</O
6. ว่านนางกวัก ทำยากที่สุด คือ จะเอาหัว หรือใบ อย่างที่เข้าใจกันนั้นไม่ได้ ถ้าเราต้องการเราต้องไปตกลงกับเจ้าของว่าจะเอาสักเท่าไร สมมติว่าจะเอาให้มาก จะต้องบอกเจ้าของว่า เอาสักร้อยบาท เมื่อเจ้าของเอามือเด็ดที่ปลายใบ ยางของมันก็จะหยดลงมาเพียงร้อยหยดเท่านั้น ถ้าจะเอาอีกก็ต้องเพิ่มเงินให้เขาอีก ถ้าไม่เพิ่มมันก็ไม่ย้อย และโดยมากต้องมีอยู่ตามภูเขา เมื่อจะไปเอาต้องไปบริกรรมแผ่เมตตาจิตอยู่อย่างน้อย 15 วัน จึงจะได้ของมา วิเศษทางเรียกลาภ
<O</O
7. ว่านเพชรหลีก ได้มาครั้งนี้เฉพาะใบเท่านั้น ต้องไปนั่งเข้าสมาธิแผ่เมตตาจิตขอบิณฑบาตจากรุกขเทวดา เจ้าของว่านชนิดนี้มีอยู่บนยอดภูเขาสูง เรียกว่าเขาพนมศักดิ์ในประเทศลาว ทางเดินไปถ้ำวัวแดงท่านได้พยายามทำความเพียรนั่งเจริญภาวนาอยู่ 15 วัน ใบว่านจึงร่วงลงมาให้เพียงสามใบเท่านั้น วิเศษในทางแคล้วคลาด จากภัยอันตรายและกำบัง

<O</O
<O</O
และเพื่อเป็นการสร้างครั้งสุดยอด อาจารย์ชุม ไชยคีรี จึงได้รวบรวมผงว่านยา แร่ธาตุ ตลอดจนผงวิเศษต่างๆที่สร้างพระมาตลอดชีวิต รวมกันเข้ากับผงว่านยาแร่ธาตุ ที่อาจารย์สุภา กนฺตสีโล ได้รวบรวมไว้ดังกล่าวแล้วข้างต้น สรุปแล้วแยกเป็น 9 ประเภทดังนี้
<O</O
1. ว่านยา 108 ชนิด เจาะจงเอาที่มีคุณวิเศษแต่ละอย่างไม่ซ้ำกัน <O</O
2. ดอกไม้ 108 ชนิด มีชื่อไม่ซ้ำกัน (ดอกว่านขันหมากเงิน ขันหมากทอง ขาดไม่ได้) <O</O
3. ดินสังเวชนียสถานทั้ง 4 <O</O
4. ดอกไม้ที่พระสงฆ์ขอขมาโทษซึ่งกันและกัน วันเข้าพรรษาเฉพาะวัดที่มีชื่อเป็นมงคลทั่วประเทศวันเดียว 108 วัด <O</O
5. ดอกไม้ที่ประชาชนนำไปบูชาพระประธาน ในพระอุโบสถ วันจตุรงคสันนิบาต (วันมาฆบูชา) 108 วัด เริ่มเก็บได้ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกแล้วจนถึงเที่ยงคืน นำมาให้ถึงที่เดียวกันในคืนนั้น <O</O
6. น้ำในมหานที 9 สาย และน้ำพระพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ อายุ 1,000 กว่าปี <O</O
7. ตะใคร่น้ำที่พระบรมมหาเจดีย์ 9 แห่ง <O</O
8. ดินโป่ง 9 แห่ง <O</O
9. แร่ธาตุ 9 ชนิด คือ 1.แร่จักรนารายณ์ 2.แร่สังฆวานร 3.แร่ดีบุก 4.แร่ตะกั่วเถื่อน 5.แร่พลวง 6.แร่เหล็กไหล 7.แร่หงอนไก่เหลือง 8.แร่วิเศษ 400 กว่าปี 9.ผงวิเศษกันกรุ วัดขวิด สุพรรณบุรี

<O</O
ที่ทำการจดบันทึกไว้มีรายละเอียดดังนี้
<O</O

ว่านวิเศษ 108 ชนิด<O</O
1. ว่านจักรนารายณ์ <O</O
2. พญาว่าน <O</O
3. ว่านท้าวมหาพรหม <O</O
4. ว่านพระตะบะ <O</O
5. ว่ามหานิยม
<O</O6. ว่านเพชรกลับ <O</O
7. ว่านเสน่ห์จันทร์ทอง <O</O
8. ว่านเสือโคร่ง <O</O
9. ว่านเพชรสังฆาต <O</O
10. ว่านหนุมานยกทัพ <O</O
11. ว่านหนุมาน <O</O
12. ว่านหนุมานนั่งแท่น <O</O
13. ว่านดาบหัก <O</O
14. ว่านม้าเหาะ <O</O
15. ว่านร่อนทอง <O</O
16. ว่านพระยาช้างเผือก <O</O
17. ว่านทิพยเนตร <O</O
18. ว่านสามพันตึง <O</O
19. ว่านกระบี่ทอง <O</O
20. ว่านพระยาไม้ผุ <O</O
21. ว่านนางคำ <O</O
22. ว่านมหาระงับ <O</O
23. ว่านปราบสี่ทิศ <O</O
24. ว่านแม่โพสพ <O</O
25. ว่านเสือร้องไห้ <O</O
26. ว่านนะโมพุทธายะ<O</O
27. ว่านพังพอนไฟ <O</O
28. ว่านลูกล้อมแม่ <O</O
29. ว่านครอบจักรวาฬ <O</O
30. ว่านกุมารทอง <O</O
31. ว่านเพชรหลีก <O</O
32. ว่านนารายณ์แปลงรูป <O</O
33. ว่านหอมดำ <O</O
34. ว่านทองคำ <O</O
35. ว่านขุนแผน <O</O
36. ว่านขอทอง <O</O
37. ว่านหอมเสน่ห์จันทร์ <O</O
38. ว่านพญาลิ้นงู <O</O
39. ว่านช้างประสมโขลง <O</O
40. ว่านพฤหัสบดี <O</O
41. ว่านพระยาหน้าศึก <O</O
42. ว่านนางล้อมฯ <O</O
43. ว่านเสน่ห์จันทร์ก้านแดง <O</O
44. ว่านนางกวัก <O</O
45. ว่านกะทู้เจ็ดแบก <O</O
46. ว่านขมิ้นขาว<O
47. ว่านมหาเมฆ <O</O
48. ว่านสีหมอกม้า <O</O
49. ว่านน้ำแห้งตัวเมีย <O</O
50. ว่านเสน่ห์จันทร์ก้านเขียว <O</O
51. ว่านดอกทอง <O</O
52. ว่านลิงดำ <O</O
53. ว่านพระอาทิตย์ <O</O
54. ว่านสบู่ทอง <O</O
55. ว่านพระฉิม <O</O
56. ว่านสามหวายไม่แตก <O</O
57. ว่านเณรแก้ว <O</O
58. ว่านนางพญา <O</O
59. ว่านพิชัยดาบหัก <O</O
60. ว่านอีโต้ดาบหัก <O</O
61. ว่านกลิ้งกลางดง <O</O
62. ว่านพระยาหงษ์ทอง <O</O
63. ว่านสบู่เลือดอย่างขาว <O</O
64. ว่านจอมมฤคคา <O</O
65. ว่านสบู่หยวก <O</O
66. ว่านแร้งคอดำ <O</O
67. ว่านขันหมากเงิน <O</O
68. ว่านขันหมากทอง <O</O
69. ว่านวันทองห้ามทัพ <O</O
70. ว่านฉัตรพระพรหม <O</O
71. ว่านช้างงาอ่อน <O</O
72. ว่านสารพัดพิษ <O</O
73. ว่านพระเจ้าห้าองค์ <O</O
74. ว่านหน้าทั่งตัวผู้ <O</O
75. ว่านหนุมานเดินดง <O</O
76. ว่านแมวซาง <O</O
77. ว่านตาลปัตรฤาษี <O</O
78. ว่านเพชรน้อย <O</O
79. ว่าเพชรหึง <O</O
80. ว่านหนังแห้งตัวเมีย <O</O
81. ว่านเขียวมรกต <O</O
82. ว่านปราบพระนคร <O</O
83. ว่านคันทมาลา <O</O
84. ว่านขามเครือ <O</O
85. ว่านพระยาลิ้นดำ <O</O
86. ว่านหอกหัก <O</O
87. ว่านขุนแผนสะกดทัพ <O</O
88. ว่านสมเด็จนางพญา <O</O
89. ว่านมหาเสน่ห์ <O</O
90. ว่านหนังแห้ง <O</O
91. ว่านนางคุ้ม <O</O
92. ว่านแสงอาทิตย์ <O</O
93. ว่านนิลพัตร <O</O
94. ว่านพระจันทร์ <O</O
95. ว่านกระชายดำ <O</O
96. ว่านชัยมงคล <O</O
97. ว่านคางคกเหล็ก <O</O
98. ว่านหน้าทั่งตัวเมีย <O</O
99. ว่านรางจืด <O</O
100. ว่านขาใหญ่ <O</O
101. ว่านหนังเหนียว <O</O
102. ว่านพนักทอง <O</O
103. ว่านไพลดำ <O</O
104. ว่านหัวเดียว <O</O
105. ว่านลิ้นมังกร <O</O
106. ว่านสบู่ตัน <O</O
107. ว่านกงจักรพระอินทร์ <O</O
108. ว่านนางรำ <O</O

<O</O
ดอกไม้ต่างชื่อ ต่างสี 108 ชนิด<O</O
1. ดอกว่านขันหมากเงิน <O</O
2. ดอกว่านขันหมากทอง <O</O
3. ดอกปทุมบัวหลวง <O</O
4. ดอกชัยพฤกษ์ <O</O
5. ดอกพิกุล <O</O
6. ดอกบุญนาค <O</O
7. ดอกสาระภี <O</O
8. ดอกกาหลง <O</O
9. ดอกหญ้าเจ้าชู้<O</O
<O</O10. ดอกจำปี <O</O
11. ดอกบัวสวรรค์ <O</O
12. ดอกเสือหมอบ <O</O
13. ดอกยูงทอง <O</O
14. ดอกราชาวดี <O</O
15. ดอกราตรี <O</O
16. ดอกพิกุลทอง <O</O
17. ดอกยี่โถ <O</O
18. ดอกทองกวาว <O</O
19. ดอกมะลิวัลย์ <O</O
20. ดอกผกามาส <O</O
21. ดอกซ่อนกลิ่น <O</O
22. ดอกว่านลิ้นมังกร <O</O
23. ดอกลั่นทม <O</O
24. ดอกชงโค <O</O
25. ดอกเบญจมาส <O</O
26. ดอกทรงบาดาล <O</O
27. ดอกกระดังงา <O</O
28. ดอกพุทธรักษา <O</O
29. ดอกเข็มเหลือง <O</O
30. ดอกบานไม่รู้โรย <O</O
31. ดอกชบา <O</O
32. ดอกแก้ว <O</O
33. ดอกคัดเค้า <O</O
34. ดอกสาวหยุด <O</O
35. ดอกพุทธชาติ <O</O
36. ดอกพุดซ้อน <O</O
37. ดอกหงอนไก่ <O</O
38. ดอกรัก <O</O
39. ดอกรักซ้อน <O</O
40. ดอกว่านเสี่ยงโชค <O</O
41. ดอกกล้วยไม้เขา <O</O
42. ดอกปทุมบัวขาว <O</O
43. ดอกยูงเล็ก <O</O
44. ดอกชำมนาด <O</O
45. ดอกสร้อยทอง <O</O
46. ดอกมะลิลา <O</O
47. ดอกมหาวงษ์ <O</O
48. ดอกชวนชม <O</O
49. ดอกว่านงาช้าง <O</O
50. ดอกกุหลาบ <O</O
51. ดอกกินติ <O</O
52. ดอกเขี้ยวแตก <O</O
53. ดอกแคฝรั่ง <O</O
54. ดอกเฟื่องฟ้า <O</O
55. ดอกเสี่ยงทาย <O</O
56. ดอกแจ่มจันทร์ <O</O
57. ดอกมะเขือพวง <O</O
58. ดอกกะถินพิมาน <O</O
59. ดอกแจง <O</O
60. ดอกทุ้งฟ้า <O</O
61. ดอกจานแดง <O</O
62. ดอกบานบุรี <O</O
63. ดอกแพงพวยฝรั่ง <O</O
64. ดอกกล้วยไม้ดิน <O</O
65. ดอกเฟื่องชมภู <O</O
66. ดอกรักแดง <O</O
67. ดอกว่านหางกระรอก <O</O
68. ดอกทองอุไร <O</O
69. ดอกเข็มขาว <O</O
70. ดอกสุคนธรส <O</O
71. ดอกเข็มแดง <O</O
72. ดอกรักเร่ <O</O
73. ดอกดาวเรือง <O</O
74. ดอกบานชื่น <O</O
75. ดอกดาวกระจาย <O</O
76. ดอกเข็มชมภู <O</O
77. ดอกนางแย้ม <O</O
78. ดอกเการัก<O</O
79. ดอกแพงพวยบก <O</O
80. ดอกอโศก <O</O
81. ดอกแคทราย <O</O
82. ดอกคณฑีสอ <O</O
83. ดอกผกากรอง <O</O
84. ดอกทองพันชั่ง <O</O
85. ดอกมะลิซ้อน<O</O
86. ดอกพุทราซ้อน <O</O
87. ดอกการะเกด <O</O
88. ดอกชุมเรียง <O</O
89. ดอกทับทิมทอง <O</O
90. ดอกถั่วหนัง <O</O
91. ดอกกรรณิกา <O</O
92. ดอกว่านเศรษฐี <O</O
93. ดอกฝ้าย <O</O
94. ดอกดาบนารายณ์ <O</O
95. ดอกลำเจียก <O</O
96. ดอกทองหลางน้ำ <O</O
97. ดอกปีกนกกระทา <O</O
98. ดอกฤาษีผสม <O</O
99. ดอกฉัตรมงคล <O</O
100. ดอกทานตะวัน <O</O
101. ดอกกระถินบ้าน <O</O
102. ดอกอินทนิล <O</O
103. ดอกเข็มเศรษฐี <O</O
104. ดอกราชพฤกษ์ <O</O
105. ดอกนางตามชู้ <O</O
106. ดอกอย่าลืมฉัน <O</O
107. ดอกรักไม่ลืม <O</O

<O</O
ดอกไม้ วันจตุรงคสันนิบาต 108 วัด<O</O
1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม <O</O
2. วัดบวรนิเวศวิหาร <O</O
3. วัดราชบพิธ <O</O
4. วัดมกุฏกษัตริย์ <O</O
5. วัดเบญจมบพิตร <O</O
6. วัดพระเชตุพน <O</O
7. วัดสระเกศ <O</O
8. วัดโสมนัสวิหาร <O</O
9. วัดราษร์บูรณะ <O</O
10. วัดบพิธภิมุข <O</O
11. วัดชัยชนะสงคราม <O</O
12. วัดสัตตาราม <O</O
13. วัดปรินายก <O</O
14. วัดสุนทรธรรมทาน <O</O
15. วัดตรีทศเทพ <O</O
16. วัดราชนัดดา <O</O
17. วัดเทพธิดา <O</O
18. วัดมหรรณ์ <O</O
19. วัดบูรณะศิริ <O</O
20. วัดสุทัศน์ <O</O
21. วัดราชประดิษฐ์ <O</O
22. วัดราชผาติการาม <O</O
23. วัดบรมนิวาส <O</O
24. วัดปทุมคงคา <O</O
25. วัดสัมพันธ์วงศ์ <O</O
26. วัดกันมาตุยาราม <O</O
27. วัดไตรมิตร <O</O
28. วัดดวงแข <O</O
29. วัดชัยมงคล <O</O
30. วัดชำนิหัตการ <O</O
31. วัดสระบัว <O</O
32. วัดราชาธิวาส <O</O
33. วัดนรนารถ <O</O
34. วัดเทวราชกุญชร <O</O
35. วัดสังเวช <O</O
36. วัดพลับพลาไชย <O</O
37. วัดคณิกาผล <O</O
38. วัดมหาพฤฒาราม <O</O
39. วัดแก้วฟ้าล่าง <O</O
40. วัดหัวลำโพง <O</O
41. วัดสามพระยา <O</O
42. วัดอนงคาราม <O</O
43. วัดปุบผาราม <O</O
44. วัดพิชัยยาติการาม <O</O
45. วัดหิรัญรูจีวรวิหาร <O</O
46. วัดทองนพคุณ <O</O
47. วัดทองธรรมชาติ <O</O
48. วัดขุนจันทร์ <O</O
49. วัดนวลนรดิษฐ์ <O</O
50. วัดปาน้ำภาษีเจริญ <O</O
51. วัดเวฬุราชิน <O</O
52. วัดราชคฤห์
<O</O53. วัดเสวตฉัตร <O</O
54. วัดโพธิ์นิมิตร <O</O
55. วัดราชโอรส <O</O
56. วัดนางรอง <O</O
57. วัดหนัง <O</O
58. วัดอัปสรสวรรค์ <O</O
59. วัดจันทาราม <O</O
60. วัดสุขาราม <O</O
61. วัดใหญ่ศรีสุพรรณ<O</O
62. วัดอินทาราม <O</O
63. วัดบางไส้ไก่ <O</O
64. วัดสังข์กระจาย <O</O
65. วัดราชสิทธิราม <O</O
66. วัดหงษ์ <O</O
67. วัดอรุณ <O</O
68. วัดเครือวัลย์ <O</O
69. วัดนาคกลาง <O</O
70. วัดพระยาทำ <O</O
71. วัดอัมรินทร์ <O</O
72. วัดฉิม <O</O
73. วัดวิเศษการ <O</O
74. วัดระฆังโฆสิตาราม <O</O
75. วัดช่องลม <O</O
76. วัดละครทำ <O</O
77. วัดชิโนรส <O</O
78. วัดชนะสงคราม <O</O
79. วัดอินทรวิหาร <O</O
80. วัดมหาธาตุ <O</O
81. วัดประยุรวงศาวาส <O</O
82. วัดกัลยาณมิตร <O</O
83. วัดดงมูลเหล็ก <O</O
84. วัดเสน่หา นครปฐม <O</O
85. วัดพระปฐมเจดีย์ <O</O
86. วัดไผ่ล้อม <O</O
87. วัดพระงาม <O</O
88. วัดท่าตำหนัก <O</O
89. วัดทัพหลวง <O</O
90. วัดธรรมศาลา <O</O
91. วัดกลางบางแก้ว <O</O
92. วัดพระประโทน <O</O
93. วัดสรรเพชร <O</O
94. วัดพระทรง เพชรบุรี <O</O
95. วัดมหาสมณาราม <O</O
96. วัดสนามพรหมณ์ <O</O
97. วัดลาด <O</O
98. วัดคงคาราม <O</O
99. วัดป้อม <O</O
100. วัดยาง <O</O
101. วัดข่อย <O</O
102. วัดสัตตนาถปริวัติ <O</O
103. วัดสีชมภู <O</O
104. วัดพลับ เพชรบุรี <O</O
105. วัดห้วยจระเข้ <O</O
106. วัดตุ๊กตา <O</O
107. วัดชีประเสริฐ <O</O
108. วัดศรีสุริวงศ์ <O</O

<O</O
น้ำในมหานที 9 สาย<O</O
1. แม่น้ำโขง <O</O
2. แม่น้ำปิง <O</O
3. แม่น้ำวัง <O</O
4. แม่น้ำยม <O</O
5. แม่น้ำน่าน <O</O
6. แม่น้ำมูล <O</O
7. แม่น้ำเจ้าพระยา<O</O
8. แม่น้ำท่าจีน <O</O
9. แม่น้ำตานี <O</O

<O</O
ตะใคร่น้ำ ที่พระบรมมหาเจดีย์ 9 แห่ง<O</O
1. พระบรมธาตุ นครปฐม <O</O
2. พระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช <O</O
3. พระบรมธาตุ นครพนม <O</O
4. พระบรมธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่ <O</O
5. พระบรมธาตุ ลำปาง <O</O
6. พระบรมธาตุ สุโขทัย <O</O
7. พระบรมธาตุ จอมทองลำพูน <O</O
8. พระบรมธาตุชะเวดากอง ประเทศพม่า
<O</O9. พระบรมธาตุหงษารามัญ <O</O

<O</O
ดินโป่ง 9 แห่ง<O</O
1. ดินโป่งรางกระถิน <O</O
2. ดินโป่งหน้าเขาพิศดง <O</O
3. ดินโป่งมักเม้า
<O</O4. ดินโป่งใหญ่ในป่าลึก จังหวัดกาญจนบุรี <O</O
5. ดินโป่งพุล้อ <O</O
6. ดินโป่งหลังเขาพิศดง <O</O
7. ดินโป่งทำโข่ง <O</O
8. ดินไมยราพ <O</O
9. ดินโป่งชุมนุมตาโหงพราย <O</O

<O</O
น้ำพระพุทธมนต์ และน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่นำมาประสมว่านยา<O</O
1. น้ำมนต์หลวงพ่อเลื่อน วัดสามแก้ว จ.ชุมพร <O</O
2. น้ำมนต์พระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช <O</O
3. น้ำมนต์หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช <O</O
4. น้ำมนต์บนเขา สมเด็จปู่เจ้าเกาะไชโย สงขลา <O</O
5. น้ำมนต์หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี <O</O
6. น้ำมนต์ในสระศักดิ์สิทธิ์ เพชรบุรี <O</O
7. น้ำพระพุทธมนต์ 25 ศตวรรษ ท้องสนามหลวง <O</O
8. น้ำพระพุทธมนต์ 100 ปี ของวัดบวรนิเวศวิหาร <O</O
9. น้ำพระพุทธมนต์ ที่พระบรมธาตุนครพนม <O</O
10. น้ำพระพุทธมนต์ ในพระอุโบสถ วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่ <O</O
11. น้ำในสระศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั่วประเทศ มี สระแก้ว สระคา สระยมนา สระเกศ สระพังเงิน สระพังทอง สุพรรณบุรี สระน้ำจันทร์นครปฐม เป็นต้น <O</O
12. น้ำพระพุทธมนต์ ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม <O</O
13. น้ำพระพุทธมนต์ในวังหลวง 170 ปี <O</O
14. น้ำพระพุทธมนต์ในวันทำสังคายนาประเทศพม่า ซึ่งพระเถระทั่วโลก 2,500 องค์ ประชุมกัน <O</O

<O</O
ขี้เถ้าธูปศักดิ์สิทธิ์<O</O
1. ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์หินช้าง จ.ชุมพร <O</O
2. ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์เข้าพับผ้า พัทลุง <O</O
3. ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์ หลักเมืองสงขลา <O</O
4. ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์ หลักเมืองปัตตานี <O</O
5. ขี้เถ้าธูปศาลสมเด็จปู่เจ้า เกาะไชโย (เกาะยอ) สงขลา <O</O
6. ขี้เถ้าธูปสมเด็จหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ปัตตานี <O</O
7. ขี้เถ้าธูปที่บูชาพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช <O</O
8. ขี้ธูปศาลเจ้าพ่อประสาททอง องค์พระปฐมเจดีย์ <O</O
9. ขี้ธูปศาลเจ้าพ่อเขางู ราชบุรี (พระฤาษีสมาธิคุปต์) <O</O

<O</O
ผงวิเศษ ได้จากที่ต่างๆ<O</O
1. ผงว่านวิเศษของหลวงพ่อเลื่อน วัดสามแก้ว จ.ชุมพร <O</O
2. ผงของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง โฆสิตาราม ผงพระพุทธคุณ 1 ผงอิทธเจ ผงปถมัง 1 ผงมหาราช 1 ผงตรีนิสังเห 1 <O</O
3. ผงว่านวิเศษของท่านพระครูรักขิตวันมุนี วัดป่าเลไลย์ ให้มา <O</O
4. ผงวิเศษในถ้ำพระยาแร้งสมัยศรีวิชัย ท่านเจ้าคุณพระศีลศารโสภณ จ.ตรัง ให้มา <O</O
5. ผงพระป่นสมัยทวาราวดีที่องค์พระประโทน <O</O
6. สะเก็ดพระบรมธาตุนครพนม ท่านเจ้าคุณพระเทพรัตนโมฬี ให้มา <O</O
7. ผงพระหักป่นสมัยทวาราวดี นายณรงค์ สุปัญญรักษ์ ให้มา <O</O
8. ผงพระกันกรุ สมัยทวาราวดี นายอุทัย ให้มา <O</O
9. ผงผสมของอาจารย์ 108 องค์ ของ พระครูรักขิตวันมุนี ให้มา <O</O
10. ผงพระธราราชกับผงพระคาถาชินบัญชร ของ พระเทพ ปียวฑโณ ให้มา <O</O
11. ผงผสมของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ชลบุรี ท่านเจ้าคุณวรพรต คณาจารย์ ให้มา <O</O

<O</O
ดินที่สังเวชนีย์สถาน 4 ตำบล<O</O
1. ที่ประสูติ <O</O
2. ที่ตรัสรู้ <O</O
3. ที่แสดงพระธรรมจักร
<O</O4. ที่นิพพาน <O</O
จากท่านอาจารย์คง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง ไปนำมาจากประเทศอินเดีย<O</O

ผงวิเศษ 108 กรุ <O</O
1. ผงกระดูกอาจารย์เกตุ วัดขวิด <O</O
2. ผงอาจารย์คง อาจารย์ของขุนแผน วัดตาลฯ <O</O
3. ผงแดงหุ่นพยนต์ อาจารย์เกตุ วัดขวิด <O</O
4. ผงดำหุ่นยนต์ อาจารย์เกตุวัดขวิด <O</O
5. ผงเขียวเนื้อชิน อาจารย์เกตุ วัดขวิด <O</O
6. ผงผสมแร่ธาตุก้นกรุอาจารย์เกตุ วัดขวิด <O</O
7. ผงพระประธานอาจารย์คลิ้ง วัดโสภา <O</O
8. ผงพระมหานิยมในเจดีย์วัดโลกา <O</O
9. ผงยาวัดดอนไก่เตี้ย<O</O
10. ผงพระเนื้อชิน วัดกุฏิสงฆ์<O</O
11. ผงขุนแผน เนื้อดินเผา วัดบ้านกร่าง <O</O
12. ผงพระพลายเพชร พลายบัว วัดบ้านกร่าง <O</O
13. ผงขุนแผนไข่ผ่าซีก วัดสุวรรณภูมิ <O</O
14. ผงเนื้อชิน วัดพระธาตุ <O</O
15. ผงก้นกรุอาจารย์คง วัดตาล <O</O
16. ผงกระดูกอาจารย์คง วัดตาล <O</O
17. ผงไม้มะกอกอาจารย์คง วัดตาล <O</O
18. ผงพระหักป่น วัดตาล <O</O
19. ผงพระดินก้นกรุ วัดไทร <O</O
20. ผงพระเนื้อชิน วัดมหาธาตุ <O</O
21. ผงพระดินเผานาคปรก วัดมหาธาตุ <O</O
22. ผงพระดินเผา แบบโมคคัล ลาสาริบุตร วัดมหาธาตุ <O</O
23. ผงพระดินเผา แบบพระ 55 วัดมหาธาตุ <O</O
24. ผงอิฐคนโบราณในเจดีย์วัดมหาธาตุ <O</O
25. ผงพระหักป่น กรุวัดพายหลวง <O</O
26. ผงพระหักป่น กรุวัดมังกร <O</O
27. ผงพระหักป่น กรุวัดศรีชุม <O</O
28. ผงพระเนื้อชิน เนื้อดิน วัดหินทัง <O</O
29. ผงพระเนื้อชิน เนื้อดินวัดปากทัง <O</O
30. ผงพระเนื้อชิน เนื้อดินหลวงพ่อโตวัดป่าม่วง <O</O
31. ผงพระเนื้อชินดิน วัดเขาตะพานหิน <O</O
32. ผงพระเนื้อดินเผา วัดช้างล้อม <O</O
33. ผงพระดินเผาวัดป่ากล้วย <O</O
34. ผงพระดินเผาวัดป่ามะขาม <O</O
35. ผงพระเนื้อชิน วัดป่าหญ้ากร่อน <O</O
36. ผงพระอิฐพราหมณ์ วัดศรีสวาย ได้จาก จ.พิษณุโลก 17 กรุ <O</O
37. ผงพระเนื้อชิ้น เนื้อดินวัดเชตุพน <O</O
38. ผงพระเนื้อชิน เนื้อดิน วัดดินดำ <O</O
39. ผงพระดินเผา วัดดอนลาม <O</O
40. ผงพระดินเผาชินราช วัดโบสถ์ <O</O
41. ผงพระดินเผา วัดโป่งพยอม <O</O
42. ผงพระเนื้อชิน เผาแบบนางพญา วัดต้นจันทร์ <O</O
43. ผงพระเนื้อชิน เนื้อดินเผาเนื้อทองเหลือง วัดปากน้ำ <O</O
44. ผงพระเนื้อดินเผา วัดสตือ <O</O
45. ผงพระเนื้อดินเผา วัดจุฬามณี <O</O
46. ผงพระเนื้อดินเผา วัดปราง <O</O
47. ผงพระเนื้อดินเผา มีแร่ธาตุ วัดไก่เตี้ย <O</O
48. ผงพระเนื้อชิน ดินเผา วัดปะขาวหาย <O</O
49. ผงพระเนื้อดิน วัดวิหารทอง
<O</O50. ผงพระเศียรหักพระหัก วัดพระพุทธชินราช <O</O
51. ผงพระสมเด็จนางพญาสีขาว วัดนางพญา <O</O
52. ผงพระเนื้อดินเผา วัดเจดีย์ทอง <O</O
53. ผงพระเนื้อดินเผา วัดประตูชัย <O</O
54. ผงพระเนื้อชิน เนื้อดินเผาเนื้อว่าน วัดอรัญญิก <O</O
55. ผงพระเนื้อชินอ่อน วัดหูช้าง <O</O
56. ผงพระเนื้อชิน วัดคลองเป็ด <O</O
57. ผงพระหักป่นวิหารพระร่วง <O</O
58. ผงสมเด็จนางพญาสีดำ วัดนางงำระยา <O</O
59. พระเนื้อดิน เนื้อชิน วัดลั่นทม ได้จาก จ.นครศรีธรรมราช 10 กรุ <O</O
60. ผงพระคัมภีร์พระไตรปิฎก วัดพระมหาธาตุ <O</O
61. ผงพระพระพวย วัดพระมหาธาตุ <O</O
62. ผงตะไคร่พระเจดีย์ทุกองค์ วัดพระมหาธาตุ <O</O
63. ผงตะไคร่พระด้านทุกองค์ วัดพระมหาธาตุ <O</O
64. ผงตะไคร่พระศรีมหาโพธิ์ วัดพระมหาธาตุ <O</O
65. ผงพระหักป่น วัดท่าเรือ <O</O
66. ผงพระดินเผา วัดนางตรา <O</O
67. ผงอิฐพระเจดีย์ วัดท่าเรือ <O</O
68. ผงวัดท้าวโคตร <O</O
69. ผงว่าน 108 ของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้จากกรุจังหวัดเพชรบูรณ์ (7 กรุ) <O</O
70. ผงดินพระหักป่นศาลเจ้าพ่อหลักเมือง <O</O
71. ผงดินพระหักป่น วัดเสือ <O</O
72. ผงดินพระหักป่น วัดช้างเผือก <O</O
73. ผงดินพระหักป่น วัดพระแก้ว <O</O
74. ผงดินพระหักป่น วัดหลวงพ่อกบ <O</O
75. ผงดินพระหักป่น วัดมหาธาตุ <O</O
76. ผงดินพระหักป่น วัดสิงห์ ได้จากกรุ จ.พัทลุง 7 กรุ <O</O
77. ผงดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำคูหาสวรรค์ <O</O
78. ผงอิทธิเจของท่านพระครูสิทธิยาถิรัตน์ วัดดอนศาลา อาจารย์เฒ่า วัดเขาอ้อ <O</O
79. ผงพระหักป่น วัดเขาเจียก <O</O
80. ผงดินทองถ้ำ เขาไชยสน <O</O
81. ผงกระดูกคนโบราณ ในถ้ำเขาไชยสน <O</O
82. ผงดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำอกทะลุ <O</O
83. ผงถ้ำยาหอม เขาไชยสน ได้จากกรุ จ.ลำพูน 5 กรุ <O</O
84. ผงพระรอด วัดพระรอด <O</O
85. ผงพระสิบสอง วัดพระธาตุ <O</O
86. ผงพระสาม วัดพระธาตุ <O</O
87. ผงพระเปิม วัดพระธาตุ <O</O
88. ผงพระหักป่น วัดทับยั๋น และจังหวัดต่างๆ 18 กรุ รวม 108 กรุ <O</O
89. ผงพระสมัยทวาราวดี วัดพระประโทน นครปฐม <O</O
90. ผงเนื้อชิน วัดพระพิโทน <O</O
91. ผงโทนพราหมณ์ สมัยทวาราวดี นครปฐม <O</O
92. ผงพระดินดิบ สมัยศรีวิชัย ถ้ำเขาสาย จังหวัดตรัง <O</O
93. ผงพระดินดิบ สมัยศรีวิชัยถ้ำคีรีวิหาร จังหวัดตรัง <O</O
94. ผงสมเด็จวัดระฆัง ธนบุรี <O</O
95. ผงอิทธิเจ วัดหิรัญรูจี ธนบุรี <O</O
96. ผงเนื้อดิน เนื้อชิน วัดบึงสัมพันธ์ อุตรดิตถ์ <O</O
97. ผงทองแท่น วัดพระแท่นศิลาอาสน์ อุตรดิตถ์ <O</O
98. ผงในเจดีย์ ดอยสุเทพ เชียงใหม่ <O</O
99. ผงพระหักป่น วัดพระปรางสวรรคโลก <O</O
100. ผงดินเผากำแพงเพชร <O</O
101. ผงดินเนื้อชิน วัดมะละกอ พิจิตร <O</O
102. ผงพระหูยานหน้ายักษ์ หลวงพ่อจุก ลพบุรี <O</O
103. ผงสมเด็จวัดอินทร์ พระนคร <O</O
104. ผงนะปถมัง วัดบางแพรกใต้ นนทบุรี <O</O
105. ผงดอกไม้ 108 วัด <O</O
106. ผงพญาว่านมหาว่าน ของอาจารย์เฒ่า วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง <O</O
107. ผงพระเทพนิมิต ของอาจารย์ชุม ไชยคีรี<O</O



<O</O
<O</O
<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 class=inlineimg title="Tongue out" alt="" border="0" src="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" o< v:shapetype path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" filled="f" stroked="f" smilieid="24"><V</V</v:shapetype>
<v:shapetype class=inlineimg title="Tongue out" alt="" border="0" src="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" o< v:shapetype path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" filled="f" stroked="f" smilieid="24">พิธีพุทธาภิเษก 30 วันติดต่อกัน</v:shapetype>
<v:shapetype class=inlineimg title="Tongue out" alt="" border="0" src="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" o< v:shapetype path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" filled="f" stroked="f" smilieid="24"><O</O
เวลา 19.00 น. พระเถระผู้ใหญ่ 9 รูป จากพระอารามหลวง และอารามต่างๆ มีสมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพนฯ เป็นประธาน เจริญพระพุทธมนต์เวลา 20.30 น. เชิญวิญญาณอาจารย์คง เข้าประทรับทรง จุดเทียนชัย พระสงฆ์ชุดพุทธาภิเษก 4 รูป สวดคาถาจุดเทียนไชย <O</O
พระอาจารย์สุภา นั่งปรก <O</O
อาจารย์ชุม และ อาจารย์อุทัย เข้าทำการปลุกเสก <O</O
ระยะที่ 1<O</O
1. เสกตั้งธาตุ บรรจุธาตุแต่งธาตุ เสกพระคาถาจุติจากชั้นดุสิตลงสู่ พระครรภ์พระพุทธมารดา เสกพระคาถาประสูตรจากพระครรภ์เสกพระคาถาเสด็จย่าง 7 ก้าว พระอาการ 32 พระคาถาบำเพ็ญพระบารมี จนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า 3 วัน <O</O
2. เสกธาตุ 4 อาการ 32 อักขระ 16 หัวใจ ของหัวใจ 108 อย่างละ 108 จบ 3 วัน <O</O
3. เสกธาตุ 4 อาการ 32 อักขระ 16 หัวใจ ของหัวใจ 108 คาถาชุดคงกระพัน อย่างละ 108 จบ 5 วัน <O</O
ระยะที่ 2 เสกกันปืนมหาอุด กันวัตถุระเบิด ห้ามดินน้ำลมไฟเสกผูกเสกกัน 5 วัน<O</O
ระยะที่ 3 เสกแคล้วคลาด เสกศักดิ์สิทธิ์ 1 เสกไปกลับ แปลงรูปหุ่นยนต์ เสกกำแพงเพ็ชร์ 7 ชั้น เสกมงกุฏ พระพุทธเจ้า 5 วัน <O</O
ระยะที่ 4 เสกมหานิยม มหาเสน่ห์ มหาละลวย มหาลาภ เลิกรบเลิกเบียดเบียน 5 วัน<O</O
ระยะที่ 5 เสกรวมเสกผูกกัน 4 วัน รวมเป็นเวลาพุทธาภิเษกและปลุกเสก 30 วัน วันละ 3 เวลา คือ เวลา 5.00 น 9.00 น. 21.00 น.
<O</O
พระอาจารย์ที่เป็นพระต้องปลงอาบัติ ทุกครั้งแล้วจึงต้องเข้ามลฑลพิธี อาจารย์ที่เป็นฆราวาสต้องนุ่งขาวห่มขาวสมาทานศีลห้า โดยถือพรมจรรย์เป็นวัตรอยู่ประจำในบริเวณพิธี และบริเวณวัดตลอดพิธี เมือเสกจบลงระยะหนึ่งๆ ก็ทำการพิสูจน์ทดลองต่อหน้าประชาชนให้ผู้สนใจชม เป็นการอบรมศึกษาวิธีทำจิตให้เข้าถึงคุณพระไปในตัว การทดลองก็เพื่อชี้ให้เห็นเป็นประจักษ์พยานว่า พระพุทธเจ้าแม้เสด็จเข้าสู่ปรินิพานไปนานแล้ว ยังทรงอยู่ แต่พระคุณทั้งหลาย ถ้าผู้ใดเข้าถึงพระพุทธคุณแล้ว ยกเอาพระพุทธคุณเป็นที่พึ่ง พระพุทธคุณย่อมเป็นที่พึ่งเป็นที่ระลึก และกำตัดภัยให้ผู้เข้าถึงได้จริง นอกจากนั้น พระพุทธคุณย่อมแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ เป็นอัศจรรย์ได้นานาประการ



ปรากฏการเป็นพิเศษ เมื่อพุทธาภิเษกได้ 7 วัน
<O</O
ซึ่งนับว่าการสร้างพระ 84,000 องค์ ครั้งนี้เป็นนิมิตอันดียิ่ง และเป็นมงคลอันสูงสุด ทั้งมีความมั่นใจอย่างยิ่ง ว่าคงได้รับผลสมความปรารถนา เพราะแรงฤทธิ์อำนาจว่านยาแรงฤทธิ์เวทมนต์คาถา ประกอบด้วยความรู้ ความชำนาญ ความตั้งใจจริงของท่านอาจารย์ทั้งสาม
<O</O
1. พระอาจารย์สุภา กนฺตสีโล , อาจารย์ชุม ไชยคีรี , อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ ทั้งสามอาจารย์ ไม่เคยรู้จักกัน บันดาลให้มาพบกัน มีความรักความสามัคคี มีเจตนาเสมอกัน
<O</O
2. วิญญาณอาจารย์คง มาเข้าประทับทรงบอกตำรา และเป็นประธานในการปลุกเสก บรรจุคุณตลอดพิธี
<O</O
3. วันที่ 24 พฤศจิกายน เวลาที่อาจารย์ทั้งสามกำลังทำพิธีบวงสรวงสังเวย และผสมผงแร่ธาตุว่านยาเข้ารวมกัน พระสงฆ์ 9 รูป กำลังสวดไชยมงคลคาถาอยู่นั้น อีกาฝูงใหญ่ไม่เคยมีมาแต่ครั้งก่อน บินมาวนเป็นทักษิณาวัตร ร้องส่งเสียงอยู่ประมาณ 30 นาทีแล้วหายไป
<O</O
4. วันที่ 31 ธันวาคม ปลุกเสกมาได้ 7 วัน
- เวลา 05.00 น. เกิดแสงสว่างขึ้นที่หน้าพระอุโบสถ ปรากฏแก่สายตาพระสงฆ์ ที่กำลังเตรียมตัวจะออกบิณฑบาตรนานประมาณ 1 นาที
- เวลา 06.30 น. นำพระผงรวม 108 องค์ นำไปอาราธนาลงในแม่น้ำดังกล่าวแล้ว แสดงอภินิหารเสด็จกลับมาต่อหน้าพระภิกษุสงฆ์ และประชาชนเป็นจำนวนมากซึ่งกำลังมุงดูกันอยู่ด้วยความแปลกใจ และกำลังย่ำฆ้องทะยอยกันเสด็จกลับมาประมาณ 3 ชั่วโมงจึงหยุด
<O</O
- เวลา 21.00 น. ทำพิธีตรวจนับพระที่เสด็จกลับปรากฏว่าพระเสด็จมาเพียง 106 องค์ ขาดไป 2 องค์ คณะศิษย์เรียนถามท่านบอกว่า พระที่เสด็จกลับมานั้นท้าวภุชงค์นาคราช พร้อมด้วยบริวารนำมาให้ และที่ขาดไป 2 องค์ บอกว่ามอบให้ท้าวภุชงค์กับพระมเหสี คนละ 1 องค์

- เวลา 22.00 น. ทดลองความขลังด้านคงกระพัน โดยอาจารย์ชุม อบรมผู้มีศรัทธา 7 คน แจกพระให้ถือไว้ในมือ และอมไว้ในปากคนละ 1 องค์ แล้เอามีดโกน ใบมีดดาบ ฟันเชือดเฉือน และให้ผู้อื่นเข้ามาเชือดเฉือนดู ปรากฏว่าเป็นคงกระพันตลอด จึงเอามีดตัดผมก็ไม่ขาดต่อหน้าประชาชน<O</O
ตามตำรากล่าวไว้ว่า ผู้ที่มีพระว่านวิเศษนี้อยู่ที่ตัว มีความเลื่อมใสจริงๆ เมื่อถึงคราวคับขันหมดที่พึ่งอย่างอื่น เช่น ออกรบศึก ถูกข้าศึกจับเป็นเชลย ถูกจองจำไว้ด้วยเครื่องพันธนาการ ให้ตั้งใจนึกถึงบ้าน และระลึกถึงคุณบิดามารดา เครื่องพันธนาการต่างๆ จะหลุดออกหมดกลับมาบ้านไหว้บิดามารดาได้ หรือเมื่อเราเป็นหัวหน้านำทัพ ลูกน้องถูกจับเป็นเชลย เพื่อนหรือญาติถูกจับเป็นเชลย หรือคนที่เรารักสูญหายไปจากบ้าน ตั้งใจภาวนาเรียกให้กลับ เมื่อเรามีพระชนิดนี้อยู่ที่ตัวเรา และพระอยู่ที่ตัวผู้ที่หายไปเรียกให้กลับมาได้<O</O

5. เมื่อคืนวันที่ 15 มกราคม 2507 เวลา 24.00 น. อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้เรียกสุภาพบุรุษมา 12 คน อบรมให้รู้จักคุณวิเศษของพระ แล้วให้ทุกคนอมพระรอดไว้ในปากคนละหนึ่งองค์ แล้วพร้อมกันเอาอีกคนหนึ่งไปใส่กุญแจมือคร่อมเสาไว้ในป่าช้า แล้วอีก 11 คน มานั่งบริกรรมเรียกอยู่ในพระอุโบสถ ประมาณ 5 นาที คนที่ใส่กุญแจไว้ กุญแจหลุดออกหมดทั้งสองข้างกลับมาได้ต่อหน้าประชาชน ชี้ให้เห็นประจักษ์พยานว่า มีพระว่านวิเศษชนิดนี้อยู่ไปแล้วกลับ แม้จะถูกจองจำด้วยพันธนารก็สามารถหลุดรอดได้<O</O
<O</O

พระเสด็จกลับพิธีปี 2506 (ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 )

<O</O
พระเครื่องที่พิมพ์เสร็จ และทำการrพิธีพุทธาภิเษกที่วัดสารอด กรุงเทพฯ หลังจากปลุกเสกแล้วตามวาระต่างๆ ก็เริ่มทำพิธีเสด็จกลับตามตำรับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยครั้งแรกนี้เป็นการนำพระไปอาราธนาลงในแม่น้ำ แล้วบริกรรมเรียกพระให้กลับมาที่ศาลพิธี เรียกว่า เป็นการทำพิธีเรียก พระเสด็จกลับครั้งที่ 1 (ลอยลงแม่น้ำ)<O</O
ส่วนครั้งที่ 2 ทำที่ สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่ จังหวัดภูเก็ต คราวนี้เป็นการอาราธนาทำพิธีเสด็จกลับ โดยนำไปอาราธนาลงในทะเล <O</O
เมื่อผ่านพิธีเสด็จกลับแล้ว ถือว่าพระทั้งหมดมีความศักดิ์สิทธิ์เท่ากันหมด ทั้งพระที่เสด็จกลับ และพระที่ไม่ได้นำไปทำพิธีเสด็จกลับ

<O</O

มวลสารที่สำคัญ<O</O
ประกอบไปด้วยว่านประเภทต่างๆ หลายชนิด โดยว่านที่สำคัญจากการสอบถาม หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ท่านเล่าว่า ว่าที่หายากชื่อ ว่าโพรงกินเหล็ก ต้องเอาเหล็กให้หัวว่านกินจนอิ่มเสียก่อนจึงจะกู้เอาหัวว่านได้โดยต้องขอซื้อผู้ที่พาไปเป็นเงินถึง 30,000 กีบ ในสมัยนั้น ว่านชนิดนี้น่าจะมีผลทำให้พระพิมพ์ที่มีว่านนี้ผสมอยู่ดูดแม่เหล็กติด เพราะเป็นวิธีชี้ขาดว่าเป็นพระแท้ในปัจจุบัน โดยพระสีดำและแดงจะดูดแม่เหล็กติด ส่วนพระสีเหลืองจะดูดแม่เหล็กไม่ติด เพราะมวลสารหลักเป็นเกสรดอกไม้ 108 ซึ่งถือเป็นของเมตตาชั้นสูง และสะอาด คนสมัยก่อนจะเสาะหาน้ำผึ้งในเดือน 5 มาทำยารักษาโรค และนำมาทำยาอายุวัฒนะ เพราะส่วนผสมที่สำคัญที่มีอยู่ในน้ำผึ้งคือ เกสรดอกไม้ 108 ชนิด ที่ผึ้งนำมาสะสมไว้ในน้ำผึ้งจำนวนมาก ถือเป็นของดีอย่างหนึ่งนั้นเอง
<O</O

พระเสด็จกลับมาอย่างไร?
<O</O
พิธีเสด็จกลับโดยย่อ เริ่มจากการบวงสรวง สร้างศาลเทพารักษ์คาดด้วยผ้าขาว นำพระไปปล่อยลงทะเล และพระเกจิพระทรงคุณ นั่งบริกรรมเรียกพระ จนพระเสด็จกลับมาที่ศาลเทพารักษ์จนหมดเป็นอันเสร็จพิธี การทำพิธีเสด็จกลับดังกล่าวมีหลักฐานเป็นรูปถ่ายตลอดพิธี และผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์ในพิธีนี้หลายคนทั้งที่อยู่กรุงเทพฯ คราวทำพิธีที่ วัดสารอดและที่สำนักสงฆ์ เกาะสิเหร่ เล่าตรงกันคือขณะที่พระกำลังเสด็จกลับนั้น ตอนที่เห็นเป็นเวลากลางวัน จะเห็นสายรุ้งพาดมายังศาลเทพารักษ์อยู่ตลอดเป็นเวลานาน และที่เพดานคาดด้วยผ้าขาว เริ่มมีน้ำหยดและผ้าขาวเริ่มหย่อนตัวลงทีละนิดเหมือนมีวัตุถุหนักชิ้นเล็ก บางอย่างรวมกันอยู่ตรงกลางจนผ้าตกท้องช้างลงมา ตามน้ำหนักของวัตถุเล็กๆ เหล่านั้น และยังมีรูปถ่ายวัตถุมงคลที่เป็นหลักฐานในคราวนั้นยืนยัน นอกจากพระเครื่องที่นำไปทำพิธีเสด็จกลับ ยังมีประคำ 108 ทั้งเส้นซึ่งก็เสด็จกลับมาด้วยทั้งเส้นเป็นที่น่าอัศจรรย์แก่สายตาผู้อยู่ร่วมในพิธี และผู้สังเกตการ์ณ
<O</O<O</O

พระเสด็จกลับ แม้จะมีจำนวนการสร้างมากถึง 84,000 องค์ แต่ก็แบ่งให้วัดสารอด กรุงเทพฯเสียครึ่งหนึ่ง ซึ่งวัดสารอดก็นำบรรจุลงกรุเสียส่วนมาก อีกครึ่งหนึ่ง คือประมาณ 40,000 องค์ นำลงมาที่ สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่ ภูเก็ต ซึ่งพระก็ถูกแบ่งไปยังที่ต่างๆเสียหนึ่ง, บรรจุกรุเสียหนึ่ง ชำรุดเสียหายแตกหักจากการขนส่งเสียหนึ่ง เป็นมูลเหตุให้ปัจจุบันไม่สามารถพบพระเสด็จกลับแท้ๆได้ง่ายนัก

อีกทั้งมีผู้ที่รู้และเห็นพิธีกรรมโดยตลอด หลายท่านเก็บสะสมพระชุดนี้มาโดยต่อเนื่องก็มีอยู่มาก ผู้เคารพรักหลวงปู่สุภาที่อยู่ทางประเทศสิงคโปร์ มาเลเซียก็เก็บกันไปมาก ทั้งการทำพิธีกรรมนี้ ก็ไม่ได้ปิดเป็นความลับแต่ประการใด ส่วนพระที่นำไปแจกที่ วัดเกาะสีคิ้ว ก็มีจำนวนหลายพันองค์ แต่ก็ตกอยู่กับผู้ที่รู้ และเชื่อถือกันเป็นส่วนมากเพราะมีการทดลองเรื่องคงกระพัน และเมตตาให้เห็นกันด้วยตาเปล่าโดยมีรูปถ่าย ที่สามารถสืบค้นได้จนตลอดพิธีการสร้าง พิธีปลุกเสกไปจนถึงการทำพิธีเสด็จกลับ เป็นหลักฐานสำคัญที่น่าชื่อถือได้<O</O
</v:shapetype>

 

พระเสด็จกลับนี่แค่มวลสาร อย่างเดียวก็สุดยอดแล้ว ได้หลวงปู่สุภาเสกอีก ยิ่งสุดยอดเกินกว่าจะบรรยาย....

อนุโมทนาในความมีน้ำใจของพี่โจด้วยครับ

 

สุดยอดครับพี่โจ ประวัติละเอียดมากเลยครับ...

 

หลังจากอ่านประวัติแล้ว ...รู้สึกว่าอยากได้เกินห้ามใจ...

 

ทั้งประวัติหลวงปู่สุภา และประวัติการสร้างพระเสด็จกลับ ยาวเหยียดอ่านกันปวดตา นี่ย่อจากต้นฉบับเขาแล้วน่ะ ไม่รู้จะตัดตรงไหนออกอีก ตัดไปก็กลัวเนื้อเรื่องจะไม่สมบูรณ์ ท่านที่ชอบศึกษาเรื่องมวลสารแปลกๆ ลองๆอ่านดูกันเล่นๆครับ

มีน้องๆถามว่า "แล้วพี่โจใส่พระเสด็จกลับหรือไม่..?? "

ตอบว่า "ใส่ครับ" โดยใส่เป็นองค์กลาง ด้วยเป็นรูปพระพุทธรูป ถือเป็นคุณพระพุทธเจ้า ส่วนอีก 2 องค์ซ้ายขวา แน่นอนหลวงปู่ทวด กับ หลวงปู่ดู่ ครับ

ผมว่าครบแล้วน่ะ คุณพระพุทธเจ้า กับคุณพระอริยสงฆ์เจ้าครูบาอาจารย์ทั้งสอง

 

ตบเท้าเข้าแถว......รอรับของดี จากพี่โจ ใจดีค้าบบบบบ

 

ของดีต้องเอาขึ้นคอใช่ไหมพี่โจ...

 

นอกจากถือเป็นรูปแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ลองดูที่คาถาที่ใช้ในการปลุกเสกนาน 30 วันซิครับ..ถือว่าครบหมดแล้วน่ะ ทั้งเมตตา แคล้วคลาด มหาอุตต์ คงกระพัน ไม่รู้จะไปหาพระที่ไหนแบบนี้อีกแล้วในปัจจุบัน..พี่ว่าน่ะ..

-----------------------------------------------------------------------

เรื่องประวัติจบแล้ว งั้นพรุ่งนี้หลังจากคุณตุ้ยลงรายการพระเสร็จแล้ว (19.00 น.) เราก็เริ่มเปิดจองเบอร์กันเลย ก็แล้วกันน่ะคร๊าบ..บบ

ส่วนรางวัลอื่นๆคงต้องรอคุณตุ้ยลงประกาศให้ทราบโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่งครับ

---------------------------------------------------------------------

 

สงสัยคืนนี้ต้องภาวนาขอเลขหลวงปู่สัก 2 ตัวซ่ะแล้ว...อิอิ

 

งวดนี้ผมจองนะคร้าบบ ....สาธุ ขอให้ได้ทีเถอะ:VO

 

เพิ่งทราบว่าพระบาทเปิดตอนกลางคืนด้วย
โมทนาด้วยครับ
พี่โจครับผมรอฟัง CD ธรรมะ หลวงปู่ อยู่นะครับ

 

ขออนุโมทนาสาธุครับ _/|\_

 

....สวัสดีพี่ๆทุกท่านครับ พอดีมีเรื่องอยากจะรบกวนช่วยดูพระของหลวงปู่ให้หน่อย
ได้มาจากสมาชิกในเว็ปนี้แหละครับ คาใจมานานมากเหมือนกัน
ว่าจริง-แท้ เช่นไร เพราะผมดูไม่เป็นจริงๆครับ^^
1.พระผงยันต์ดวง (ที่เห็นเป็นริ้วๆนั่นคือแสงที่กระทบกับพลาสติกกันน้ำครับ)
2.พระสมเด็จ
3.ลูกแก้ว เนื้อซีเมนต์เทา ไม่มีรู ครับ

​

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มากมายเลยครับ สาธุๆๆๆ

 

พี่โจครับพระเสด็จกลับสร้างหลายรุ่นหรือเปล่าครับ ถ้าจำไม่ผิดผมว่าเคยอ่านเจอในนิตยสารลานโพธิ์ไม่แน่ใจว่าฉบับไหนต้องกลับไปค้นดูก่อน พระเสด็จกลับรุ่นนี้อาจารย์ชุ่ม ไชยคีรี เข้าร่วมในพิธีด้วยหรือเปล่าครับ เพราะที่เคยอ่านดูผมว่าน่าอาราธนาคุ้มครองติดตัวมากเลย แต่ผมยังไม่มีเลยครับ ราคาเช่าหาอยู่ประมาณเท่าไรครับพี่โจ

 

พระผงยันต์ดวงไม่เเท้คับ
พระสมเด็จเเท้คับ เป็นพระปี 2527 คับ
ส่วนลูกอม ต้องพิจารณาจากองค์จิงคับ ดูจากรูปน่าจะเป็นเนื้อซีเมน

 

รู้สึกว่าจะสร้างปี 11 อีกรุ่นนะครับ แต่ผมไม่ค่อยมั้นใจเท่าไรความรู้ยังไม่แน่น

อาจารย์ชุมเข้าร่วมพิธีแน่นอนครับ...

 

คุณนิวส์ครับ รบกวนดูให้ด้วยครับว่าแท้ไหมครับ ขอบคุณครับ

 

ระหว่างรอลุ้น รายการพระที่คุณตุ้ยจะมาลงคืนนี้ แล้วก็จองเลขลุ้นพระเสด็จกลับ มาดูพระกันดีกว่ากระทู้เงียบๆ แบบนี้ ^^

รุ่นอะไรดูข้างหลังเอาแล้วกันน๊า ^^

 

ครับ..ภายหลังจากที่ อ.ชุ่ม ท่านร่วมสร้างพระกับหลวงปู่สุภาในปี 2506 ที่เรียกว่า "พระเสด็จกลับ" ในรุ่นนี้แล้ว รู้สึกว่าท่าน อ.ชุ่ม จะสร้างขึ้นมาอีกรุ่นหนึ่ง เป็นพระของท่านโดยเฉพาะ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายวัดเขาอ้อ มีลักษณะใกล้เคียงกัน แต่ไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะลักษณะยันต์นะกลับด้านหลังพระ แต่ไม่ใช่พระเสด็จกลับ เรียกว่า พระขุนแผน ผมจำปีที่สร้างแน่นอนไม่ได้แล้วครับ แต่รู้สึกว่าจะเป็นปี 2511 เหมือนที่น้องนิว (หูกาง) ว่าไว้ ซึ่งของ อ.ชุ่ม ยังมีรุ่นเดิมอีกรุ่นหนึ่งน่ะครับ เรียกว่า พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว เป็นพระเนื้อว่านตำรบ อ. ชุ่ม สร้างในปี 2497 อย่าสับสนน่ะครับ

พระเสด็จกลับ ลป.สุภา มีรุ่นเดียว สร้างคราเดียวเท่านั้นครับ แต่ยังมีอีกหลายพิมพ์

ผม Copy ข้อความจากเวบศิษย์หลวงปู่ฯมาให้ดูครับ

หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล
ตอน
พระเสด็จกลับ
(สุดยอดวัตถุมงคลของหลวงปู่)​

<IFRAME height=90 src="http://www.kohtaotoday.com/koh_tao_ssi_padi_dive_scuba_diving_divers_idc_center_resort_bungalows.html" frameBorder=0 width=728 scrolling=no></IFRAME><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=650 align=center><TBODY><TR><TD>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]รูปภาพ : พระเสด็จกลับ โดยปกติแล้วจะแลดูเป็นสีดำ หากแต่เป็นสีทองแล้ว จะประจักษ์แสดงถึงการมีเทวดาประจำองค์พระอยู่ ดังแสดงออกเป็นสีทองประกายดังภาพ[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>​

พระเสด็จกลับ นับว่าเป็นวัตถุมงคล ที่หลวงปู่สุภาถือว่าเป็นสุดยอดแห่งวัตถุมงคล ที่ท่านได้สร้างขึ้น และมักย้ำเตือนบรรดาลูกศิษยานุศิษย์ทั้งหลายที่ได้รับแจกไปว่า "พระเสด็จกลับเป็นพระที่สร้างยากมาก ประการแรก วัสดุส่วนผสมล้วนสำคัญและหาอีกไม่ได้ โดยเฉพาะว่านและอาถรรพณ์วัตถุ ที่หลวงปู่ได้มาจากการออกธุดงค์นั้น ไม่อาจหาได้อีก ประการที่สอง ฤกษ์ยาม และวาระโอกาสที่จะสร้างใหม่ ไม่มีอีกเหมือนกัน เพราะเป็นฤกษ์ที่ใช้สร้างวัตถุมงคลชุดนี้โดยแท้ ประการที่สามนั้น พระทุกองค์มีองค์เทพเทวดาประจำองค์อยู่ด้วย จึงเกิดอิทธิปาฏิหาริย์เป็นอันมาก ต้องระวังรักษาด้วยความเคารพ หาไม่แล้วก็จะเสด็จหนีไปเอง

 

จองงงงงงงงงงงงงงง....