พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับท่านที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเว็บไซด์พลังจิต ผมได้ไปเปิดกระทู้ [ กระทู้ยอดนิยม ]: ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิhttp://www.agalico.com/board/showthread.php?t=9798

    หากท่านใดที่มีความประสงค์ที่จะร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่กระทู้ดังกล่าวนะครับ

    ขอขอบพระคุณและโมทนาสาธุครับ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หากท่านใดที่ร่วมบุญแล้วยังไม่ได้พระพิมพ์ ผมขอความกรุณาช่วยแจ้งให้ทราบด้วยครับ

    และท่านใดที่ได้รับพระพิมพ์แล้ว ผมขอความกรุณาแจ้งให้ทราบด้วย จะได้ไม่เป็นห่วงว่าพระพิมพ์ได้ถึงมือผู้รับแล้วหรือยังครับ

    สำหรับพี่หงสนาท ผมจะส่งพระพิมพ์ให้ในสัปดาห์หน้านะครับ ผมจะจัดส่งแป้งเสกของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรไปให้ด้วยครับ

    ขอบพระคุณและโมทนาสาธุครับ

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  5. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    เมื่อวานซืน ไปรับล็อกเก็ต คณะพระธรรมทูต
    กับคุณสิทธิพงศ์ ....
    พอสัมผัสปั๊บ.
    ....เห็นเป็นกลุ่มเมฆสีขาวนวลลอยสูงอยู่เบื้องบนท้องฟ้า
    ม้วนตัวเป็นเกลียวพันกันอย่างงดงามมาก
    แต่ไม่สามารถ เจาะทะลุกลุ่มเมฆ นั้นได้

    คืนนั้น อาราธนา นั่งสมาธิ ขอขมาและขอสัมผัสพลังทิพย์
    จากท่าน...เกิดสภาะนิ่ง
    เหมือนมีเสียงแว่วเข้าหู ว่า
    ศรัทธาที่มั่งคง...ดำรงตนให้เหมาะสม..มีสัจจะ ย่อมพบความสำเร็จ
    ตามจิตปรารถนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2007
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    โมทนาสาธุครับลุงเม้า เอ้ย พี่เม้า

    (b-oneeye) (verygood)
     
  7. tawatd

    tawatd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +2,020
    ได้โอนเงิน1000 บาท เพื่อสร้างเจดีย์แล้วเมื่อ 02/05/2550 ตามที่ได้จองขอรับพระวังหน้าสีขาว 2 องค์ไว้ ได้รับพระแล้วครับและขอขอบคุณอย่างสูงสำหรับพระวังหน้า 2 องค์พร้อมพระชุดที่3อีก1องค์
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=post563879 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 06:31 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #573 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ชัยยา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_563879", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 06:33 PM
    วันที่สมัคร: Mar 2007
    อายุ: 43 ปี
    ข้อความ: 5 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 0 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 18 ครั้ง ใน 5 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_563879 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เรียน คุณสิทธิพงษ์คร้บ
    ผมมีข้อสงสัยถามนะครับ ผมมีพระสมเด็จวังหน้าแขวนขึ้นคออยู่นะครับ ถ้าผมได้รับพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่ามา ผมจะแขวนด้วยกันได้ไหม หรือต้องแยกเส้นกันแขวน และแขวนขึ้นคอพร้อมกันได้ไหม (แขวนอย่างละเส้น) ขอขอบพระคุณอย่างสูง รบกวนช่วยตอบด้วยครับ (ได้อ่านข้อความแล้วสงสัยครับ)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    *************************************************

    การห้อยพระ องค์ที่เป็นผู้แสดงฤทธิ์ที่ช่วยเหลือเรานั้น จะเป็นองค์ประธานเสมอครับ การห้อยพระครั้งละ 3 องค์บ้าง 5 องค์บ้าง 7 องค์บ้าง 9 องค์บ้างนั้น สามารถห้อยได้ แต่ต้องดูว่าพระพิมพ์ที่เราห้อยนั้น ใครเป็นองค์อธิษฐานจิต หากมีทั้งพระผู้อธิษฐานจิต และมีทั้งองค์ฤาษีเสก เช่น ชุดเบญจภาคีนั้น กระแสจะตีกันเอง จะทำให้การห้อยพระพิมพ์นั้น เกิดผลไม่ร้อยเปอร์เซ็น แต่หากว่าเป็นพระผู้อธิษฐานจิตด้วยกัน หากองค์ที่เป็นประธาน พระผู้อธิษฐานจิตมีพลังอ่อนกว่าองค์ที่ไม่ได้เป็นองค์ประธาน องค์ที่มีพลังมากจะพยายามแสดงฤทธิ์ขึ้นมาก่อน ก็จะค่อนข้างที่จะขัดกันได้ แต่ถ้าเป็นพระพิมพ์ที่องค์ผู้อธิษฐานจิตองค์เดียวกันก็ไม่มีปัญหา สามารถห้อยด้วยกันได้ครับ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด เอกาครับ ห้อยองค์เดียวเลย แต่ถ้ารักพี่เสียดายน้องเช่นผม ก็สามารถห้อยได้หลายๆองค์ ผมเองตอนนี้เวลาที่ผมมาทำงานผมจะห้อย 3 องค์ครับ แต่ถ้าเป็นวันหยุดผมห้อย 3-4 เส้นครับ ท่านอาจารย์ประถมท่านชอบว่าผมว่า กิเลสอ้วน ห้อยครั้งละ ยี่สิบกว่าองค์ ก็กิเลสอ้วนอย่างที่ท่านอาจารย์ประถมท่านว่าผมแหละครับ ทำยังไงได้องค์นี้ก็รัก องค์นี้ก็ชอบ สรุปชอบหลายองค์เหลือเกิน

    สรุปก็คือ สามารถห้อยได้หลายๆองค์ครับ


    (verygood)
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คำแนะนำการกราบไหว้พระ<O:p</O:p
    หนังสือนวกานุศาสนี อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ พุทธศักราช ๒๕๒๒ พระธรรมเจดีย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ กรุงเทพฯ<O:p</O:p
    ( หนังสือพิมพ์ข่าวสด คอลัมน์ รายงานพิเศษ วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๔๒ )<O:p</O:p

    ในเวลานั่งสวดสรรเสริญพระคุณพระรัตนตรัยนั้น เป็นการสวดเพื่อระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า เพราะพระคุณของพระรัตนตรัยนี้ เราจะพรรณนาสักเท่าใดก็ไม่มีหมด<O:p</O:p
    การไหว้พระพุทธ ก็เพราะพระพุทธเจ้าเป็นพระศาสดาผู้มีปรีชา มีพระปัญญาเลิศ พระองค์เป็นผู้เล็งรู้ความจริงของโลกทุกอย่าง พระองค์เป็นผู้ปราศจากความโลภ ความโกรธ ความหลง พระองค์เป็นผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยพระเมตตา พระกรุณา เราจึงพากันระลึกถึงพระคุณท่าน<O:p</O:p
    การไหว้พระธรรม เพราะพระธรรมเป็นคำสั่งสอนอันดีเลิศ คุณของพระธรรมคือความสงบ ทำให้ใจผ่องแผ้วบริสุทธิ์<O:p</O:p
    การไหว้พระสงฆ์ เพราะพระสงฆ์เป็นผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ และเป็นผู้ปฎิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เป็นผู้นำศาสนามา<O:p</O:p
    การกราบไหว้ต้องตั้งใจด้วยความเคารพจริงๆ นิยมกราบด้วย เบญจางคประดิษฐ์ เบญจางคประดิษฐ์นั้น ได้แก่ การกราบไหว้ โดยนั่งคุกเข่าทั้งสองลงห่างกันประมาณ 1 ฟุต ประนมมือเสมออก แล้วก้มลงยื่นฝ่ามือทั้งสองลงพื้น ให้ข้อศอกทั้งสองข้างเสมอหัวเข่า อย่าให้กางออกไปนอกหัวเข่า และให้ชิดหัวเข่า ฝ่ามือทั้งสองให้นิ้วมิดชิดกัน อย่ากางนิ้ว ฝ่ามือห่างกันประมาณ 4 - 5 นิ้วฟุต เว้นช่องให้หน้าผากก้มลงถึงพื้น แล้วเงยขึ้นตั้งต้นเหมือนเดิม กราบไหว้นี้มีองค์ 5 คือ หัวเข่า 2 ฝ่ามือ 2 กับหน้าผาก 1 จะให้เรียบร้อยตามแบบต้องดูตัวอย่าง และทำจนตัวเวลากราบไหว้แบบนี้ร่างกายเป็นไปเอง ไม่ต้องตั้งใจและเกร็งตัวเวลาทำ<O:p</O:p
    การสวดสรรเสริญและระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า เป็นการอบรมหน่วงเหนี่ยวคุณงามความดีอันพระองค์ทรงสั่งสอนนั้น มาล้างดวงใจที่ซ่านให้สงบ ที่ขุ่นมัวให้ผ่องแผ้ว<O:p</O:p
    การทำวัตรค่ำก็เหมือนกัน ทิ้งการสรรเสริญและระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยเสียไม่ได้ การทำวัตรค่ำมีการหมอบกราบแล้วกล่าววาจาว่า
     
  12. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    อนุโมทนาสาธุค่ะ

    (verygood) (verygood) (verygood)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2007
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณร
    บัญชีออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง ปริยัติศึกษา บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม

    <TABLE class=tborder id=post564178 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 07:07 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1291 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พสภัธ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_564178", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 07:14 AM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: //////////////
    ข้อความ: 2,448 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 3,773 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 18,337 ครั้ง ใน 2,297 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 2192 [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD class=alt1 id=td_post_564178 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->โต (กุมารน้อย) เช้าวันนี้ขอนำเอารูปภาพ..สมัยพระ อ. ท่านอยู่ที่วัดท้องคุ้ง ต. คลองด่าน อ. บางบ่อ จ. สมุทรปารการ..อันเป็นที่ดินที่โยมพ่อแม่ของท่านถวายสร้างวัด..และท่านได้ก่อสร้างเป็นต้นมาเป็นเวล 20 กว่าปี..สร้างทั้งวัตถุถาวร..และบุคคลให้แก่พระศาสนา ทั้งสามเณรและเด็กก่อนเกณอนุบาล..โดยเฉพาะเด็กเล็กอนุบาลท่านได้ทำงานมาเป็นเวลา 12 ปี โรงเรียนพระเณร 11 ปี...งานก่อสร้างภายในวัดท้องคุ้ง เสร็จสมบูรณ์ทุกอย่าง ใช้เงินก่อสร้างน่าจะถึง 300 ล้านบาท..และพระ อ. ท่านเป็นผู้ที่ช่วยเหลืองานสร้างวัดที่ต่างๆ อีกหลายวัด โดยเฉพาะสร้างพระ ชำระหนี้สงฆ์ พระหน้าตัก 4 ศอก สร้างถวายตามวัดต่างๆ รวมทั้งที่วัดท่านด้วยเป็นจำนวนน่าจะใกล้ 200 องค์...จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2548 ย้ายออกมาจากวัดท้องคุ้ง...ด้วยปัญหานานาประการ...โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมไม่อำนวย..สถานที่คับแคบ..คณะกรรมการแบ่งออกเป็นสองฝ่าย..สนับสนุนและไม่ยอมรับ...ท่านก็ย้ายออกมา..ตั้งใจว่า ส่งให้เด็กๆ ถึงฝั่ง (6 เดือน) สอบเสร็จก็บ้านใครบ้านมันแล้ว...พระ อ. ท่านก็ปรึกษากับคุณโต (ท่านอ๋อง) คุณโตเป็นลูกศิษย์ที่พระ อ. ท่านรู้ใจมากที่สุด คุณโตก็บอกบุญ ทางอินเตอร์แนต..ให้ญาติโยมนำ ข้าวสารอาหารแห้งมาถวายพระเณร..ก็มีโยมหลายท่านให้การสนับสนุน..จนถึงวันนี้..เป็นการดีที่ญาติโยมได้ช่วยเหลือพระที่ท่านทำงาน สงเคาระห์การศึกษา แก่เยาวชนของพระเทศชาติและพระศาสนาให้ท่านได้มีโอกาสทำงานต่อได้อีก...นี่แหละประวัติโดยย่อของพระ อ. ในการทำงานของท่าน..ท่านอุทิศตนเข้ามาในพระพุทธศาสนาเป็นเวลา 28 ปีแล้ว...สำหรับสถานที่สำนักเรียนที่นี่..ท่านตั้งใจไว้ว่าจะสร้างให้เป็นแหล่งการศึกษาของพระเณร..จะไม่เน้นการสร้างวัด...มีอาคารเรียน..มีสถานที่สวดมนต์ เจริญกัมมัฏฐาน..มีสถานที่อยู่ของพระเณร..ก็เพียงพอแล้ว...และมีอุปกรณ์การศึกษาให้พระเณรท่าน..มีข้าวภัตตาหารก็เพียงพอแล้ว...สาธุ..สาธุ..สาธุ..

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    ย้ายออกมาจากวัดท้องคุ้ง (โรงเรียนเดิม) วันที่ 11 ธันวาคม 2548 จนถึงวันนี้ 4/5/50...จากสถานที่ไม่มีอะไรน่าจะเป็น โรงเรียนแหล่งแห่งความรู้..จนบัดนี้มีอาคารเรียน..มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น..และในปัจจุบันนี้ พร้อมที่จะรองรับพระเณรได้เป็นจำนวน 100 กว่ารูปได้อย่างไม่ลำบากแล้ว...

    [​IMG]

    สนส.บ่อเงินบ่อทอง

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]
    การเล่าเรียนศึกษาของสามเณร

    [​IMG]
    การสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม สนส.บ่อเงินบ่อทอง

    [​IMG]
    [​IMG]


    [​IMG]
    [​IMG]


    [​IMG]
    โรงเรียนพระปริยัติธรรม บ่อเงินบ่อทอง

    [​IMG]
    [​IMG]
    กุฎิดิน สนส.บ่อเงินบ่อทอง

    [​IMG]
    การขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล

    *********************************************


    พอดีเจ้าของกระทู้ คุณอมรัตน์ กอกุลจันทร์ ผู้จัดผ้าป่าเชิญชวนญาติโยมทั้งหลาย เพื่อสร้างห้องน้ำถวายให้แก่พระเณรจะถวายในวันที่ 12 พ.ค. 50 คุณโยมบอกว่า ต้องการรู้ประวัติการทำงานของพระ อ. ท่านเพราะมีญาติโยมถาม..อาตมา..ก็นำเอาภาพการทำงานในอดีตและปัจจุบัน..มาให้ทราบ (โดยย่อ) พระ อ. ท่านจะเป็นผู้ที่ไม่ค่อยแสดงตัว ในการทำงานของท่าน ๆ บอกว่า ทุกคนเกิดมาเพื่อสร้าง "บารมีเพื่อให้พ้นจากทุกข์ในวัฎฎะสงสารนี้"
    <!-- / message --><!-- attachments -->


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2007
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมได้เริ่มตั้งกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... นี้ขึ้น เนื่องจากสาเหตุสำคัญก็คือ ผมมีความประสงค์ที่จะเผยแพร่เรื่องราวของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,พระพิมพ์ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรที่ท่านมีพระเมตตาอธิษฐานจิตไว้ให้ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครได้ศึกษามาเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 50 ปี(ซึ่งมากกว่าอายุของผมเสียอีก) การที่ท่านได้ศึกษานั้น ท่านศึกษาพระพิมพ์มาทั้งรูป(เนื้อหาทรงพิมพ์)และนาม(พลังอิทธิคุณขององค์พระพิมพ์) ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ท่านเคยบอกผมว่า ท่านเองนั้นได้พบกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ในสมาธิมาแล้ว ความรู้ที่ผมและเพื่อนๆได้รับการอบรมสั่งสอนจากท่านอาจารย์ประถมนั้น ยังนับว่าน้อยมาก คงต้องศึกษากันต่อๆไป<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p<TABLE style="MARGIN-BOTTOM: 3px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD align=right>
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=3 border=0><TBODY><TR><TD class=vbmenu_control style="FONT-WEIGHT: normal">หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 489 หน้า</TD><TD class=alt2>1</TD><TD class=alt1>2</TD><TD class=alt1>3</TD><TD class=alt1>4</TD><TD class=alt1>5</TD><TD class=alt1>6</TD><TD class=alt1>7</TD><TD class=alt1>8</TD><TD class=alt1>9</TD><TD class=alt1>10</TD><TD class=alt1>11</TD><TD class=alt1>12</TD><TD class=alt1>13</TD><TD class=alt1>14</TD><TD class=alt1>15</TD><TD class=alt1><!--+50-->51</TD><TD class=alt1><!--+100-->101</TD><TD class=alt1>></TD><TD class=alt1>Last &raquo;</TD><TD class=vbmenu_control id=pagenav.68 title="" style="CURSOR: hand" state="false" unselectable="true">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>​


    </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / controls above postbits --><!-- toolbar --><TABLE class=tborder style="BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat width="100%">

    </TD><TD class=vbmenu_control id=threadtools style="CURSOR: hand" noWrap state="false" unselectable="true">คำสั่งเพิ่มเติม<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("threadtools"); </SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=vbmenu_control id=threadsearch style="CURSOR: hand" noWrap state="false" unselectable="true">ค้นหาในกระทู้นี้<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("threadsearch"); </SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=vbmenu_control id=threadrating style="CURSOR: hand" noWrap state="false" unselectable="true">คะแนน: [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("threadrating"); </SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=vbmenu_control id=displaymodes style="CURSOR: hand" noWrap state="false" unselectable="true">เรียบเรียงคำตอบ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("displaymodes"); </SCRIPT> [​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / toolbar --><!-- end content table --><!-- / close content container --><!-- / end content table --><SCRIPT src="clientscript/vbulletin_ajax_reputation.js?v=362" type=text/javascript></SCRIPT>

    <!-- post #167195 --><!-- open content container -->
    <!-- this is not the last post shown on the page --><TABLE class=tborder id=post167195 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date -->[​IMG] 23-12-2005, 06:59 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_167195", true); </SCRIPT>


    สมาชิก GOLD


    สมาชิกยอดฮิต



    [​IMG]



    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:24 AM


    วันที่สมัคร: Dec 2005​








    </TD><TD class=alt1 id=td_post_167195 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->[​IMG] พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....


    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ถ้าต้องการที่จะได้......................<O:p</O:p


    <O:p</O:p



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    </O:p

    กลับมาเรื่องที่ผมตั้งกระทู้อีกครั้ง ตั้งแต่ที่ผมได้ตั้งกระทู้ขึ้นนับตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2548 เวลา 18.59 น. จวบจนถึงวันนี้( 4 พฤษภาคม 2550 เวลา 8.50 น.) นั้น มีผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมในกระทู้มีมากถึง 112,705 ครั้ง ในความคิดเห็นผมนั้น ก็คงจะมีหลายๆท่านที่ได้มีความรู้เรื่องหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (ในความคิดเห็นของท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร) อีกทั้งได้รู้เรื่องของพระพิมพ์และความอัจฉริยะของท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) ที่ท่านได้มีพระบัณฑูรให้สร้างพระพิมพ์ขึ้น เพื่อชาติ และพระศาสนา ให้คงดำรงอยู่ตราบนานเท่านาน ความดีทั้งหลายที่ผมได้ทำขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติองค์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ ,ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) รวมทั้งช่างสิบหมู่ทั้งวังหน้าและวังหลวง(ที่ทุกๆท่านได้เหนื่อยยากในการสร้างพระพิมพ์ขึ้น) ผมถือว่าเป็นความดีของท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร และคณะลูกศิษย์ของท่าน ที่ได้ร่วมกันสร้างขึ้น และคงจะทำกันต่อไป <O:p</O:p

    <TABLE class=tborder id=threadslist cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2></TD><TD class=thead width="100%">คะแนน ชื่อกระทู้ / ผู้ตั้งกระทู้ </TD><TD class=thead noWrap align=middle width=150>ข้อความล่าสุด [​IMG]</TD><TD class=thead noWrap align=middle>คำตอบ </TD><TD class=thead noWrap align=middle>เปิดอ่าน </TD></TR></TBODY><!-- show threads --><TBODY id=threadbits_forum_15><TR><TD class=alt1 id=td_threadstatusicon_22445 style="CURSOR: hand">[​IMG] </TD><TD class=alt2>[​IMG]</TD><TD class=alt1 id=td_threadtitle_22445 title="พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ถ้าต้องการที่จะได้......................<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสกไว้ (มีการจัดสร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 ,รัชกาลที่ 5) ถ้าท่านใดต้องการที่จะได้เพื่อไว้บูชา ผมพอมีจะแบ่งปันให้ได้

    ..." style="CURSOR: default">[​IMG] [​IMG] แนะนำ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... (7 คน กำลังดูอยู่) ([​IMG] 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)
    [​IMG] sithiphong
    </TD><TD class=alt2 title="จำนวนตอบ: 4,880, จำนวนอ่าน: 112,705">
    วันนี้ 08:00 AM
    โดย sithiphong [​IMG]
    </TD><TD class=alt1 align=middle>4,880</TD><TD class=alt2 align=middle>112,705</TD></TR></TBODY></TABLE>

    จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นระยะเวลา 1 ปี 4 เดือน 13 วัน ในช่วงหลังๆมานี้ ผมมักได้ยินคำว่า พระวังหน้า จากคนที่ผมไม่เคยรู้จักมากขึ้น บางครั้งบางคนก็ยังมาอธิบายให้ผมฟังว่า พระวังหน้านั้นเป็นอย่างไร แต่ผมเองก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่นั่งฟัง และขอบคุณ แต่ในใจแล้วมีความปลาบปลื้มว่า สิ่งที่เราได้ทำนั้น ประสบกับความสำเร็จบ้างในการให้ผู้คนได้รู้จักกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและพระวังหน้า <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมกระทู้นี้ครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    โมทนาสาธุครับ<O:p</O:p
     
  15. sira

    sira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +1,331
    ก่อนอื่นผมในนามคณะกรรมการร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง<O:p</O:p
    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์มาตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะอย่างพี่หนุ่ม ที่เป็นต้นบุญที่เข้มแข็งตลอด ในขณะเดียวกัน <O:p</O:p
    ผมต้องขออภัยต่อทุกๆท่านด้วยที่ไม่ได้ เข้ามา Update ข่าวสารเพิ่มเติม พวกเราขอน้อมรับในความผิดพลาดที่ละเลยล่าช้าไป ผมได้คุยกับพี่แอ๊ว<O:p</O:p
    ซึ่งรับเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของโครงการมหากุศลอันยิ่งใหญ่นี้ ซึ่งพี่แอ๊วขอเวลาเรียบเรียงซักหน่อยเพราะความเป็นมา และเป็นไปของการสร้าง จะต้องเขียนจากคำบอกเล่าของพระอาจารย์นิล ผู้รับเป็นประธานในการสร้างครั้งนี้ พี่แอ๊วบอกว่าสถานที่ก่อสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง เคยเป็นพระเจดีย์เก่ามาก่อน และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองรักษาอยู่ แต่ที่สำคัญคืองานนี้เป็นงานขององค์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรครับ พระอาจารย์นิลท่านมิได้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่นั่น แต่ท่านธุดงค์มา และได้รับการอาราธนานิมนต์ให้รับเป็นประธานในการก่อสร้าง ซึ่งท่านก็ปฎิเสธในครั้งแรก แต่ด้วยเงื่อนไขบางประการที่ท่านรับจากครูบาอาจารย์ของท่าน ทำให้ท่านต้องรับหน้าที่ในครั้งนี้ รายละเอียดอื่นๆไว้รอพี่แอ๊วเรียบเรียงเสร็จเป็นตอนๆ แล้วผมจะนำมาเล่าให้ฟังนะครับ แล้วจะได้คำตอบว่า ทำไมเราจึงได้มาเจอกัน ได้มาทำบุญร่วมกันในสายบุญขององค์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ซึ่งต้องขอบอกอย่างหนึ่งว่าใครไม่เคยอยู่ในเครือข่ายบุญกับท่าน ก็จะไม่ได้พบกับท่านไม่ได้พบกับหมู่คณะของท่านนะครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    วันนี้ผมจะตอบคำถามของคุณพรหมประกาศิต ที่ก่อนหน้านี้นะครับที่ได้เดินทางไปที่สำนักสงฆ์ผาผึ้ง และพบว่าการก่อสร้างหยุดชะงักอยู่ ผมเรียนถามพระอาจารย์นิลเรื่องนี้ท่านบอกว่าขณะนี้งานก่อสร้างเสร็จไปประมาณ 10% นับจากเริ่มดำเนินการก่อสร้าง โดยมีพิธีวางศิลาฟกษ์ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2549 ที่ผ่าน แต่เนื่องจากผู้รับเหมารายแรกมีปัญหาเรื่องการจัดการภายในบริษัท พระอาจารย์นิลเลยเจรจาเปลี่ยนผู้รับเหมารายใหม่ เพื่อมิให้การก่อสร้างล่าช้า ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล พระอาจารย์ท่านมี นายช่างของกรมศิลปากร และวิศวกรคุมงานซึ่งร่วมเป็นคณะกรรมการช่วงพิจารณาจัดการในเรื่องต่างๆดังนั้นในช่วงที่คุณพรหมประกาศิตเข้าไปที่นั่นเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านผู้รับเหมารายใหม่อยู่นะครับ ผมก็เลยขอสัญญาจากพระอาจารย์มา Post ให้ได้รับทราบกันด้วยนะครับ สำหรับรายละเอียดอื่นๆ ผมจะทยอย นำมาลงรวมทั้งรูปภาพการทำพระจำนวนหนึ่งแสนองค์ เพื่อบรรจุไว้ในพระเจดีย์ ทุกๆท่านจะได้ร่วมโมทนาบุญกันนะครับ แต่ผมขอบอกเอาไว้ก่อนว่า ไม่ธรรมดานะครับ วันนี้ผมขอส่งข่าว Update แค่นี้ก่อนนะครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ร่วมกันสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งด้วยนะครับ<O:p</O:p
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=39207&NewsType=2&Template=1

    การเปลี่ยนน้ำในตู้ปลา
    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>ใครที่กำลังเลี้ยงปลาอยู่ หรือกำลังมองหาปลามาเลี้ยง วันนี้เกร็ดความรู้มีเทคนิคการเปลี่ยนน้ำในตู้ปลามาฝากกัน...
    ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ไม่ควรเปลี่ยนบ่อย ๆ ปลาที่เลี้ยงไว้ในตู้ จะเคยชินกับน้ำที่มีอยู่เดิม บางครั้งน้ำจะมีสีเขียว และมีสิ่งสกปรกปนอยู่บ้างก็ไม่ทำอันตรายให้กับปลา กลับตรงกันข้ามปลาอาจจะชอบเสียอีก น้ำที่เปลี่ยนใหม่จะทำให้ปลารู้สึกอึดอัด หมดความสดชื่น ยิ่งถ้าไม่มีน้ำเก่าผสมอยู่เลย จะทำให้ปลาตายได้โดยง่าย หรือไม่ก็เกิดความเจ็บป่วย
    การเปลี่ยนน้ำ ควรเอาน้ำเก่าออกสักครึ่งหนึ่ง แล้วเอาน้ำใหม่ใส่ครึ่งหนึ่ง น้ำที่เปลี่ยนใหม่ไม่ควรใช้น้ำฝน เพราะน้ำฝนมีสารบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อปลา ควรใช้น้ำประปา แต่ต้องเป็นน้ำประปาที่ใส่ไว้ในโอ่งสัก 5-6 วัน
    วิธีเปลี่ยนน้ำ ให้ใช้ปลายสายยางด้านหนึ่งจุ่มลงในตู้ปลา แล้วค่อย ๆ จุ่มลงใต้น้ำที่มีสิ่งโสโครก อีกปลายด้านหนึ่งให้อยู่ต่ำกว่าระดับตู้ปลา ใส่ถังรองรับเอาไว้ จากนั้นใช้ปากดูดเอาอากาศออกจากสายยาง น้ำในตู้ที่อยู่สูงกว่าจะถูกดูดลงมาในที่ต่ำกว่าไหลลงถัง เคลื่อนปลายสายยางที่อยู่ในตู้ปลา ดูดเอาสิ่งโสโครกออก จนหมด เหลือน้ำในตู้ปลาไว้ครึ่งหนึ่ง นำน้ำประปาที่เตรียมไว้ ค่อย ๆ เติมเข้าไปแทนที่
    ใครที่กำลังจะเปลี่ยนน้ำในตู้ปลา ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันดูได้.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ***************************************************

    ที่มา http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=38906&NewsType=2&Template=1

    วิธีแก้รองเท้ากัด
    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>ใครที่ซื้อรองเท้ามาใหม่ พอใส่แล้วเกิดปัญหา “รองเทากัด” วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีแก้มาฝากกัน
    - ทาปิโตรเลียมเจล ไว้ด้านในรองเท้า ทิ้งไว้ข้ามคืน เช็ดออกด้วยผ้าให้สะอาดแล้วค่อยสวมรองเท้า
    - ทาน้ำมันมะพร้าว ไว้ด้านในรองเท้า สามคืนติดต่อกัน น้ำมันนี้จะช่วยให้รองเท้านุ่มขึ้น แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบความมัน ก็ลองฝานมันฝรั่งดิบเป็นแผ่น ๆ วางไว้ด้านในรองเท้า โดยเฉพาะบริเวณส้นเท้า ทำซ้ำแบบนี้สองคืน
    แต่ถึงแม้ที่จะพยายามป้องกันไม่ให้รองเท้ามากัดแล้ว แต่ก็ยังมีการขบเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เท้าเกิดแผล
    วิธีการรักษาและลดอาการเจ็บ
    - ใช้แป้งข้าวเจ้าผสมน้ำให้พอข้น ทาบนบริเวณที่โดนรองเท้ากัด ทิ้งไว้จนแห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เช็ดให้แห้ง จะช่วยลดความเจ็บแสบลง
    - ใช้ใบสะเดาสองสามใบ ผสมกับผงขมิ้น เติมน้ำ แล้วบดผสมกันให้กลายเป็นครีมข้น ทาลงบนแผลรองเท้ากัด วิธีนี้จะช่วยลดอาการเจ็บลงได้อย่างมาก อีกทั้งยังช่วยให้แผลแห้ง
    ถ้าจะใส่รองเท้าคู่ใหม่ครั้งต่อไป แล้วประสบปัญหารองเท้ากัด ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติกันดูได้.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา [​IMG]

    http://www.bangkokbiznews.com/2007/05/04/WW55_5509_news.php?newsid=67283


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ซื้อ 'เมมเบอร์' เจอเงื่อนไขเพียบ-ห้องพักเต็มยาว
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>4 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 15:44:00
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=180 align=left bgColor=#ffffdd border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=180>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : "โรงแรม-รีสอร์ท" เป็นอีกแขนงธุรกิจ ที่ปัจจุบันมีการนำเสนอบริการแก่ลูกค้าในลักษณะการขายสมาชิก โดยผู้ประกอบการหลายรายผนวกการขายเข้ากับช่องทางเข้าถึงตัวลูกค้ายอดฮิต อันได้แก่ การขายทางโทรศัพท์
    ข้อเสนอการให้บริการ ส่วนใหญ่เป็นการชักชวนให้กลุ่มเป้าหมายชำระค่าสมาชิกเป็นรายปี ในสนนราคาตัวเลขหลักพันไปจนถึงเรือนแสน เพื่อแลกสิทธิประโยชน์ในการเข้าพักโรงแรม หรือรีสอร์ท โดยเฉพาะที่มีสาขา หรือเชนโรงแรมหลายแห่ง <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=180 align=right bgColor=#ffffdd border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=180>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    "เซลล์ชักชวนว่า ถ้าเป็น 'เมมเบอร์' แล้วจะสามารถเข้าพักฟรีได้สิบครั้งตามโรงแรมในเครือ ซึ่งเราเห็นว่ามีในหลายจังหวัด จึงคิดว่าน่าจะคุ้ม และเหมือนเป็นการวางแผนล่วงหน้าสำหรับการพักผ่อนประจำปีของตัวเองและครอบครัวไปด้วย" เป็นคำบอกเล่าจาก "ลูกค้า" รายหนึ่ง ถึงนาทีที่ตัดสินใจจ่ายค่าสมาชิก โดยการโอนเงินผ่านบัตรเครดิต
    เค้าลางของปัญหาเกิดขึ้นหลังการชำระเงินเสร็จสิ้น และโรงแรมดังกล่าวส่งใบเสร็จพร้อมเอกสารคู่มือสมาชิกมาเป็นเล่ม ที่ทำให้พบว่า เงื่อนไขการเข้าใช้บริการดูเหมือนจะมากมายกว่าที่รู้จากเซลล์ในครั้งแรก อาทิ
    o สิทธิในการยกเว้นค่าห้องพัก ณ โรงแรมและรีสอร์ทในเครือ ยกเว้น ที่หัวหิน เชียงใหม่ เชียงราย และกระบี่ (แทบจะครบทุกสาขาในเครือที่มีของโรงแรม ซ้ำเป็นทำเลท่องเที่ยวสำคัญทั้งสิ้น) <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=180 align=left bgColor=#ffffdd border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=180>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    o ในการใช้สิทธิบัตรกำนัลนี้ ท่านต้องพักอย่างน้อย 2 คืน โดยในคืนแรกได้รับส่วนลด 40% และคืนที่สองได้รับการยกเว้นค่าห้องพัก
    o บัตรกำนัลนี้ใช้ได้ทุกวัน ระหว่างวันอาทิตย์ ถึงวันพฤหัสบดี ทั้งนี้ ไม่รวมถึงวันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดต่อเนื่อง โดยใช้ได้ในกรณีที่มีห้องว่าง และไม่สามารถใช้ได้ในช่วงที่มีอัตราการใช้ห้องพักสูง
    o การสำรองห้องพักต้องสำรองล่วงหน้า และไม่สามารถสำรองล่วงหน้าได้เกินกว่า 1 เดือน
    ฯลฯ
    ปัญหาเกิดขึ้นจริง เมื่อจะเข้าใช้บริการ ซึ่ง "ลูกค้าเมมเบอร์" รายดังกล่าวพยายามโทรจองห้องพักหลายครั้ง แต่ได้รับคำตอบตรงกันทุกครั้งว่า "ห้องเต็ม"
    ควรดำเนินการดังนี้
    o ติดต่อ "ผู้จัดการ" เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง และขอคำชี้แจงเกี่ยวกับกรณีปัญหาที่เกิดขึ้น
    o หากท่านซื้อแพกเกจ หรือสมาชิก ภายในงานนิทรรศการท่องเที่ยว เมื่อประสบปัญหา สามารถแจ้งเรื่องไปยังผู้จัดงาน
    o ตรวจสอบว่า โรงแรมดังกล่าวเป็นสมาชิกสมาคมโรงแรมไทยหรือไม่ ที่โทร.(02) 281-9496 เพื่อแจ้งเรื่องร้องเรียน
    o ร้องเรียนไปยังสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร.(02) 219-4010 (-7) ต่อ 501 o กรณีที่พบว่าการเป็นสมาชิก มีเงื่อนไขมากมายเกินกว่าที่ได้รับแจ้งจากผู้ขาย และเกินกว่าจะยอมรับได้ ผู้บริโภคสามารถทำเอกสารส่งลงทะเบียนไปยังผู้ประกอบโรงแรมรายดังกล่าว ระบุข้อความขอยกเลิกสัญญา โดยชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น อาทิ "เมื่อข้าพเจ้าได้รับเอกสารภายหลังการสมัครเป็นสมาชิก พบว่า ผู้ขายซึ่งใช้วิธีเชิญชวนด้วยวาจา ไม่ได้มีการให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน" เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยืนยัน "สิทธิผู้บริโภค" ตามบทกำหนดใน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ในอันที่จะได้รับข่าวสาร รวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ และสิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    **************************************************

    http://www.bangkokbiznews.com/2007/05/04/WW55_5509_news.php?newsid=67497


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>อย.เตือนระวังเป็นเหยื่อ 'ออกซิเจนน้ำ' อ้างรักษาโรค
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>4 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 14:20:00
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=180 align=left bgColor=#ffffdd border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=180>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    อย.ตรวจสอบโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร "ออกซิเจนน้ำ" พบโอ้อวดสรรพคุณรักษามะเร็ง เบาหวาน หัวใจ ข้อเสื่อม ภูมิแพ้ เตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อ เสียเงินเปล่า แถมเสียโอกาสในการรักษา
    กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคให้ตรวจสอบ การโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารออกซิเจนน้ำที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริง ซึ่งใช้ชื่อเรียกทางการค้าต่างกันไปและขายในราคาแพง
    โดยวิธีรับประทานจะใช้หยดผสมน้ำดื่ม มีการใช้กลยุทธ์ในการโฆษณาหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาทางเว็บไซต์ จำหน่ายตามท้องตลาดโดยผ่านระบบขายตรงของหลายบริษัทฯ
    นอกจากนี้ ยังมีการใช้เอกสารโฆษณา ซึ่งมีภาพคนป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจ โดยอ้างว่าผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติของอาหาร ซึ่งประกอบด้วยแร่ธาตุ เอ็นไซม์ หลากหลายชนิด รวมทั้งกรดอะมิโน แล้วโอ้อวดสรรพคุณในการบำบัดรักษา หรือบรรเทาอาการของโรคต่างๆ หลายประเภท เช่น มะเร็ง เบาหวาน หัวใจ ความดัน ข้อเสื่อม ภูมิแพ้ เป็นต้น
    รองเลขาธิการฯ กล่าวว่า อย่าได้หลงเชื่อการโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะโอ้อวดเกินจริง และไม่ควรหลงเชื่อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อวดอ้างรักษาโรคทุกชนิด แม้ว่าจะมีการใช้กลยุทธ์ในการโฆษณา โดยนำบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้ป่วยโรคต่างๆ มาเล่าประสบการณ์ว่ารับประทานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้วหายหรืออาการดีขึ้น ทั้งนี้ ขอให้พิจารณาและตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วยความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง ว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่ใช้รับประทาน นอกเหนือจากการรับประทานอาหารตามปกติ อีกทั้งขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลการศึกษาหรือผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์อาหารใดๆ สามารถบำบัด บรรเทา หรือรักษาโรคได้ และในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผู้บริโภคควรอ่านฉลากให้เข้าใจว่ามีส่วนประกอบหรือสารอาหารตรงกับความต้องการหรือไม่
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    *****************************************************

    http://www.bangkokbiznews.com/2007/05/04/WW55_5509_news.php?newsid=67505


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เหยื่อเปิบหลู้หมูดิบที่พะเยา ตายเพิ่ม 1 โคม่า 1
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>4 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 14:58:00
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=180 align=left bgColor=#ffffdd border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=180>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    สาธารณสุข เผยผู้ป่วยเปิบหลู้หมูดิบที่พะเยา วันนี้ยังเหลือนอน รพ.อีก 42 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย อาการโคม่า 1 รายจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เตือนเลิกกินเนื้อหมูและเลือดหมูดิบเด็ดขาด
    กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีชาวบ้านหมู่ 5 และหมู่ 9 ต.ทุ่งกล้วย กิ่ง อ.ภูซาง จ.พะเยา ป่วยและเสียชีวิต หลังกินลาบและหลู้หมูดิบในงานศพ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย ว่า เมื่อเย็นวานนี้ ที่โรงพยาบาลเชียงคำมีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย จากอาการไตวายเฉียบพลัน โลหิตเป็นพิษ และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ รวมเสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย
    และขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงคำ 42 ราย ในจำนวนนี้อาการหนักนอนอยู่ในห้องไอซียู 1 ราย เนื่องจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
    ในเที่ยงวันนี้ (4 พ.ค.) อาการทรงตัว แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจออกแล้ว ผู้ป่วยยังมีอาการสับสน ซึ่งเป็นผลมาจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ มีไข้ต่ำ ให้น้ำเกลือและยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือด
    สำหรับผู้ป่วยอีก 41 รายนั้น ในรายที่มีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ จะให้น้ำเกลือเพื่อฉีดยาฆ่าเชื้อเข้าทางหลอดเลือด เป็นเวลา 4 สัปดาห์
    ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น ข้ออักเสบ ปวดข้อหรือปวดตามร่างกาย และมีไข้ต่ำๆ หากผลการตรวจเพาะเชื้อในเลือด และในน้ำไขสันหลัง ไม่พบเชื้อเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และอาการดีขึ้น ไม่มีไข้ แพทย์จะให้กลับบ้านใน 1-2 วันนี้
    นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เชื้อสเตร็บโตคอคคัส ซูอิส มี 29 สายพันธุ์ ที่รุนแรงคือสายพันธุ์ที่ 2 และ 1 ตามลำดับ ส่วนใหญ่เชื้อจะอยู่บริเวณต่อมทอนซิลบริเวณเพดานปาก (palatine tonsil) และเยื่อเมือกบุในโพรงจมูก
    หลังติดเชื้อประมาณ 1-3 วัน จะมีอาการสำคัญ ได้แก่ มีไข้ คลื่นไส้ ปวดศีรษะ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ข้ออักเสบ ม่านตาอักเสบ อาจหูอื้อจนถึงขั้นหูหนวก ภายหลังที่หายจากอาการป่วยแล้วอาจจะมีความผิดปกติในการทรงตัวได้ แต่เป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น พน.ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา กล่าวว่า จากการค้นหาผู้ป่วยในหมู่บ้านวานนี้ประมาณ 200 คน ไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม โดยได้จัดหน่วยสุขศึกษาเคลื่อนที่ออกให้บริการความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนที่หมู่บ้านหมู่ 5 และ หมู่ 9 ต.ทุ่งกล้วย ทุกวัน ให้งดกินเนื้อหมูและเลือดหมูดิบอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้ชาวบ้านดูแลความสะอาดบ้านเรือน ส่วนผู้ที่เลี้ยงหมูได้แนะนำให้เลี้ยงในคอกที่ถูกสุขลักษณะ และเลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จรูป หรือหากจำเป็นต้องใช้เศษอาหารต้องทำให้สุกก่อน และควรกำจัดหนูบริเวณคอกสัตว์ด้วย หากประชาชนในหมู่บ้านมีไข้ ปวดตามกล้ามเนื้อ ปวดข้อ หรือมีอาการสงสัย สามารถไปรับการตรวจรักษาและขอรับคำแนะนำได้ที่สถานีอนามัยตำบลทุ่งกล้วย กิ่ง อ.ภูซาง จ.พะเยา ตลอด 24 ชั่วโมง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.thairath.co.th/news.php?section=sponser&content=45423

    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">เตือนสติคนไทย อย่าตกเป็นเหยื่อหมอเถื่อนในเมืองจีน [30 เม.ย. 50 - 17:18]


    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>เตือนสติคนไทย อย่าตกเป็นเหยื่อหมอเถื่อนในเมืองจีน <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    การใช้สมุนไพรในการรักษาโรค เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้เจ็บป่วยและผู้ห่วงใยในสุขภาพของตนซึ่งคนส่วนหนึ่งเชื่อว่าประเทศจีนเป็นดินแดนที่มีสมุนไพรที่ดีมาเป็นเวลานานแล้ว แต่น่าเสียดายที่มีคนจีนกลุ่มหนึ่งฉวยโอกาสจากความเชื่อถือดังกล่าว นำไปสู่ขบวนการหลอกลวงโดยอ้างตัวว่าเป็นแพทย์ และอ้างว่าการผลิตสมุนไพรที่นำมาขายนั้นรัฐบาลจีนมีส่วนสนับสนุนอยู่ด้วย เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คนไทยส่วนหนึ่งที่มีโอกาสเดินทางกับบริษัททัวร์ไปเที่ยวเมืองจีน มักจะปรากฏรายการที่บริษัททัวร์จัดไว้รายการหนึ่ง คือการแวะซื้อยาจีน โดยเฉพาะบัวหิมะ ซึ่งเคยมีชื่อเสียงว่าใช้เป็นยาทารักษาอาการทางผิวหนังโดยเฉพาะน้ำร้อนลวกได้ดี การแวะซื้อยาดังกล่าว ถ้าขึ้นกับความสมัครใจตามความเชื่อส่วนบุคคลก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่สิ่งที่พบในขบวนการดังกล่าวคือ ขบวนการจัดฉากหลอกลวง ให้คนเข้าใจว่าสุขภาพของแต่ละคนตกอยู่ภายใต้ภาวะอันตรายมาก หากไม่ได้ซื้อยาจากทางร้านมากิน จะเกิดอันตรายแก่ชีวิตได้ ขบวนการเหล่านี้ไม่แน่ใจว่าบริษัททัวร์จะรู้เห็นด้วยหรือไม่ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขบวนการดังกล่าวเริ่มด้วย บริษัททัวร์จะพาคนไทยไปแวะที่ร้านยาชื่อว่า ร้านเป่า สู้ ถัง ซึ่งทราบว่ามีอยู่ในเมืองใหญ่ของจีน แต่ผู้ที่เขียนไปพบขบวนการนี้เข้าที่เมืองเซินเจิ้น ซึ่งในระยะนี้คนไทยนิยมไปมาก เพราะเมืองนี้อยู่ไม่ไกลนักคือข้ามไปจากฮ่องกงก็ถึงแล้ว เมื่อคนไทยไปถึงที่ร้านจะมีการเปิดห้องที่เตรียมไว้ จากนั้นจะมีคนจีนที่พูดไทยได้ดี อธิบายสรรพคุณของยา สมุนไพรจีนขนานต่างๆ หลายชนิด ยาสมุนไพรขนานที่เน้นมากเป็นพิเศษก็คือ บัวหิมะและดีหมี โดยอ้างสรรพคุณบัวหิมะ ซึ่งคนไทยคุ้นเคยเป็นตัวนำ และตามด้วยการอธิบายสรรพคุณของดีหมีว่าใช้ขับพิษออกจากตับได้ดี โดยอ้างว่าปกติหมีเป็นสัตว์สงวน แต่ทางบริษัทของเราได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ให้เอาดีหมีมาใช้ได้ หลังจากอธิบายโฆษณาชวนเชื่อเสร็จสรรพแล้ว ก็จะบอกว่าท่านที่มาแวะร้านเราในวันนี้โชคดีมาก เพราะจะมีหมอจีนผู้เชี่ยวชาญมาจากปักกิ่งพอดี และจะบริการตรวจร่างกายแก่ท่าน จากนั้นจะมีหมอจีนสองคน แต่งการดีดูน่าเชื่อถือ เดินเข้ามาแสดงตัวและชวนคนให้ไปตรวจร่างกายในห้องแต่ละห้องที่จัดเตรียมไว้ เมื่อคนไทยชุดนี้เดินตามไปแล้ว จะมีอีกหลายคนที่อ้างตัวว่าเป็นหมอฝีมือดีมาจากปักกิ่งเช่นกัน เข้ามาแสดงตัวและพาคนไช้ไปตรวจในห้องต่างๆ โดยมีล่ามซึ่งพูดภาษาไทยได้ดีคอยแปลให้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ขบวนการหลอกลวงเริ่มต้นขึ้นในห้อง โดยหมอเถื่อนเหล่านี้จะเริ่มจับบริเวณชีพจรหรือบางห้องก็ดูจากใบหน้า ลิ้น ตา และสรุปคล้ายๆกัน แยกเป็นอาการๆไป ส่วนใหญ่จะได้รับการแจ้งและข่มขู่ว่าไตทำงานไม่ดี เลือดผิดปกติ ร่างกายตกอยู่ในภาวะอันตราย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างรีบด่วน จะต้องเสียชีวิติ จากนั้นก็จะเสนอขายยาเป็นชุดๆ ส่วนใหญ่บรรจุเป็นแคปซูลรวมทั้งดีหมีซึ่งเป็นผงๆ ราคาแต่ละชุด ถ้าคิดเป็นเงินไทยจะตกหลายพันบาทหรือบางคนก็ถูกหลอกโดยขายยานี้เป็นเงินไทยหลายหมื่นบาท คนที่ร่างกายไม่แข็งแรงหรือเจ็บป่วยอยู่แล้ว จะถูกข่มขู่จนใจเสีย และหลงจ่ายเงินจำนวนมากซื้อยากลับมา แต่สำหรับผู้ที่ยังครองสติได้ก็จะปฏิเสธ หมอเถื่อนเหล่านี้ก็จะเกลี้ยกล่อมต่อไปเรื่อยๆ โดยบอกว่าไม่ห่วงชีวิตหรือ โชคดีมากแล้วที่มาพบเขา คนไทยนั้นโดยอุปนิสัยขี้เกรงใจ บางคนก็ตัดสินใจซื้อบางส่วน แต่สำหรับคนที่ไม่คล้อยตามหมอเถื่อนจะแสดงอารมณ์ไม่พอใจและไล่คนที่ปฏิเสธออกจากห้อง คนไทยหลายคนที่เดินทงไปเมืองจีนมักจะพบขบวนการนี้ ถ้ารู้ไม่ทันก็จะเสียเงินซื้อยาสมุนไพรดังกล่าวและเมื่อกลับมาแล้ว ก็จะปล่อยให้เรื่องแล้วกันไป คนไทยกลุ่มต่อๆไปที่บริษัททัวร์พาไป ก็จะพบกับเหตุการณ์ทำนองเดียวกันอีก
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ผู้เขียนเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนและไปพบมาแล้ว เมื่อไม่ได้หลงเชื่อทำให้หมอเถื่อนอารมณ์เสียมาก แต่ก็พบคนไทยส่วนหนึ่งถูกหลอกลวงโดยขบวนการดังกล่าวผู้เขียนจึงขอนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังเพราะถ้าไม่มีใครนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพราะถ้าไม่มีใครนำเรื่องดังกล่าวมาตีแผ่ในวงกว้าง คนไทยที่ขาดประสบการณ์โดยเฉพาะผู้ป่วยก็จะต้องถูกหลอกลวง โดยขบวนการนี้ร่ำไป
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สำหรับบริษัททัวร์ทั้งหลาย ท่านคงรู้แก่ใจท่านเองว่าได้ร่วมมือกับขบวนการหลอกลวงดังกล่าวด้วยหรือไม่ เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่พาคนไทยไปพบเหตุการณ์นี้ ถ้ารู้เห็นเป็นใจด้วยก็ควรจะเลิกเสีย ถ้ายังมีจิตสำนึกของความเป็นคนไทยอยู่ ก็ไม่ควรพาคนไทยด้วยกันไปให้ชาวต่างชาติหลอก อีกทั้งการแสวงหาผลประโยชน์ จากความเจ็บป่วยของเพื่อนมนุษย์นั้นถือเป็นบาปอย่างมหันต์ <O:p></O:p>
    <O:p</O:p

    ถ้าจิตสำนึกที่ดีไม่มีอยู่ คงจะต้องถือเป็นหน้าที่โดยตรงของทางราชการ โดยเฉพาะกระทรวงการท่องเที่ยวที่จะต้องควบคุมบริษัททัวร์ทั้งหลายไม้ให้พาคนไทยไปเป็นเหยื่อของแก็งต้มตุ๋นต่างชาติเหล่านี้อีก ส่วนรัฐบาลจีนจะตระหนักและดูแลเรื่องนี้อย่างไร ไม่ให้เสียภาพพจน์ของประเทศเป็นเรื่องที่รัฐบาลจีนจะต้องพิจารณาเอง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ศาสตราจารย์แสวง บุญเฉลิมวิภาส<O:p</O:p
    ผู้อำนวยการกฏหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ <O:p</O:p
    คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2007
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9500000051500

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พบจิตรกรรมโบราณสอน “พุทธศาสนา” บนผนังถ้ำในชนบทเนปาล</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 พฤษภาคม 2550 10:30 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>จิตรกรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาบนฝาผนังถ้ำที่เก่าแก่</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>โบรตัน โคเบิร์น สมาชิกทีมสำรวจ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพอื่นๆ ในถ้ำ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>บริเวณนอกถ้ำที่ค่อนข้างแห้งแล้ง</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอเอฟพี – ทีมนักสำรวจและนักวิชาการเผย พบจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพระพุทธศานาที่ไม่พบมานานหลายศตวรรษในถ้ำห่างไกลทางเหนือของเนปาล ซึ่งศิลปะอันล้ำค่านี้ถูกค้นพบเพียงเพราะว่าคนเลี้ยงแกะมาอาศัยหลบพายุฝนที่นี่

    โบรตัน โคเบิร์น สมาชิกทีมผู้เชี่ยวชาญการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมกล่าวว่า “สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่เราพบคือ ถ้ำที่มีวัตถุประสงค์อย่างชัดเจนเพื่อทางศาสนา โดยมันน่าจะใช้เป็นห้องชุมนุมสำหรับสอนศาสนาพุทธ”

    โคเบิร์นที่เพิ่งกลับมาที่กาฐมาณฑุหลังการสำรวจเสริมว่า “เรารู้สึกว่ามันแปลกที่ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ทำขึ้นอย่างประณีตและละเอียดอ่อน และค่อนข้างสมบูรณ์จะถูกพบเป็นครั้งแรกในสหัสวรรษนี้”

    ทั้งนี้ คนเลี้ยงแกะท้องถิ่นได้นำทีมสำรวจไปยังถ้ำดังกล่าวในเขตมัสแตง บริเวณชายแดนติดกับทิเบต ซึ่งเขาใช้เป็นที่หลบพายุฝนมาเป็นเวลาหลายสิบปี โดยถ้ำดังกล่าวมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่น่าตื่นตาตื่นใจยาวกว่า 7 เมตร ซึ่งทางทีมนักสำรวจเชื่อว่าน่าจะเป็นภาพในสมัยราวๆ ศตวรรษที่ 14

    ด้าน ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์ชี้ว่า ความโดดเดี่ยวทางภูมิศาสตร์ทำให้ภูมิภาคนี้ยังคงวัฒนธรรมและประเพณีของทิเบตได้มากกว่าในทิเบตเองด้วยซ้ำ

    อนึ่ง เขตมัสแตงเป็นพื้นที่แห้งแล้ง บนภูเขาร่วมกับทิเบต ประชาชนหลายคนในภูมิภาคนี้จะอพยพหนีลงพื้นที่ต่ำของเนปาล หรืออินเดียในช่วงหน้าหนาว เพราะหิมะจะทำให้พื้นที่บริเวณกว้างของมัสแตงไม่สามารถอยู่อาศัยได้

    ทั้งนี้ ทีมสำรวจใช้เวลาตลอดเดือนมีนาคมในการตรวจถ้ำหลายสิบแห่งซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดมาเยี่ยมเยือนนานหลายศตวรรษ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...