การหยุดของ กระแสน้ำร้อน น้ำเย็น ทั่วโลกได้เริ่มออกอาการอย่างชัดเจนแล้ว!!!!

อุณหภูมิน้ำ !! ปลาทูน่า เป็นสัตว์เลือดอุ่น


ดูเว็บนี้ อุณหภูมิน้ำ มหาสมุทร ต่างๆ

RTG_SST_HR Analysis


อันนี้ด้วย
http://www.oceanweather.com/

ซึ่งถ้า เก็บภาพ เอาไว้ทุกวัน แล้วลองเที่ยบค่าดู จะเห็นชัด ว่า อุณภูมิน้ำ เปลี่ยนอย่างไร ของOceanweather ดูง่ายกว่า




จากภาพ ทะเลด้านบนๆ ของ มหาสมุทร อินเดีย มันเย็น ปลาคงว่ายน้ำลงมาข้างล่าง เข้ามาแถบประเทศไทย จับปลาได้ที่ กระบี่ ฝั่งอันดามัน


ต้องดูต่อไปว่า สีเขียวๆมันจะเพิ่มลงมาข้างล่างหรือไม่

 

ของ เว็บนี้ก็ดูได้ ง่ายดีเหมือนกัน อยากเห็นตรงไหน จิ้มลงไปเลย

Marine Weather : Weather Underground

Marine Weather : Weather Underground

 

<TABLE id=post5676236 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead> เมื่อวานนี้, 03:39 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#153 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->interpoo<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5676236", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jul 2011
ข้อความ: 464
พลังการให้คะแนน: 53











</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_5676236 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ยังต้องหนาวอีกเป็นเดือนนะ... ของเมืองฝรั่งเค้าอ่ะ... และคนจะตายมากกว่า 500-600 คน... กลัวถึงพันคน

บ้านเราก็เช่นกัน ปีนี้จะแปรปรวนมาก ฝนตกเริ่มตั้งแต่ มีนา แต่ยังไม่ท่วม แต่จะหนักๆ ก็เดือน พ.ค. หนัก โดยเริ่มจากอีสาน และไปเหนือ ... ท่วมมาเรื่อยๆ จนถึง กทม. แต่ไม่หนักเท่าปี 54 เพราะรัฐบาลเตรียมการไว้เยอะ เช่น ขุดคลอง และเตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ไว้แล้ว... ส่วนตอนกลางวันที่ข้างบนฝนตก ข้างล่าง( ใต้) ก็จะร้อนจัด ร้อนมากสุด ดีกว่ามีลมทะเลแรง เลย บรรเทาได้เยอะ






ผมชอบแบบนี้มากกว่า ชัดเจนเข้าใจง่าย ไม่ต้องตีความให้ผิดพลาดเข้าไปอีก

เธอแม่นหรือเปล่า ไม่รู้ แต่ถ้ามีข้อมูลของเหตุการณ์ ที่ชี้ชัดไปในทิศทาง อย่างที่เธอให้ข้อมูลไว้ ก็มีแนวโน้มว่าแม่น

**เธอได้ข้อมูลมาจากการฝัน หรือตัวกระทำการจริงจากไหนมาบอกก็แล้วแต่**
เธอว่า เดือนพฤษภาคม จะท่วมหนัก ก็ต้องไปดูการเกิดพายุ ช่วงกลางเดือนเมษายนเป็นต้นไป ว่า มันก่อตัวกี่ลูก ไปดู H ด้วยว่า มันจะกดหัวพายุไม่ให้ขึ้นข้างบนหรือไม่

ถ้าพายุเกิดหลายลูก แถวฟิลิปปินส์ วิ่งเรียงหน้ากันเข้ามา แล้วมี H ช่วยกดหัว ไม่ขึ้นไปข้างบนทะเลจีนใต้ ไม่ไปเวียดนามเหนือ แต่ ดันมาเข้าเวียดนามใต้ หรืออ่าวไทย ก็จะไปตรงกับที่ เธอให้ข้อมูลไว้
หาก ลูกแรก ที่เกิดขึ้นตอนเดือน เมษายน เข้า เวียดนามตอนกลาง เข้าเวียดนามใต้ หรืออ่าวไทย ด้วยกำลังของ H ลูกต่อๆไป ก็คงตามมาทางเดียวกัน


แต่เดี๋ยวก่อน !!! พายุใต้ฝุ่น เดือนเมษายน เนี่ยนะ

(ไม่อยากให้เธอแม่น กลัวน้ำท่วม ! )




๕ ๕ ๕ ...........

(deejai)(deejai)(deejai)

ปีนี้ ทำงานหนัก ทั้งสายเทพ สายวิทย์ สายข่าว สายพระ สายปืน ตัวกระทำการจริง ตัวกระทำการปลอม ให้วุ่นกันไปหมด จนทะเลาะกันเองนัวเนียหาทางออกกันแทบไม่เจอ 2012 !




</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ปีนี้ ทำงานหนัก ทั้งสายเทพ สายวิทย์ สายข่าว สายพระ สายปืน ตัวกระทำการจริง ตัวกระทำการปลอม ให้วุ่นกันไปหมด จนทะเลาะกันเองนัวเนียหาทางออกกันแทบไม่เจอ 2012 !



ฮามากครับประโยคนี้ โดนมากครับ ปีนี้คงวุ่นจริงๆหละครับ รวมทั้งสายการเมืองด้วยครับ ยังไงก็ตามเราคือชาวพลังจิตครับ จะนัวกันแค่ไหนเมือ่ภัยมาเราจะร่วมกันสู้ครับ

 

<TABLE id=post5677365 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead> เมื่อวานนี้, 07:49 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#
9 ธ.ค. 54

มีดี ตั้งรับ เพียงพอ
ไว้รอ ปลายักษ์ ที่สอง
จากนั้น ท่านจง รีบล่อง
สู่ท้อง พื้นที่ ปลอดภัย

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน<!-- google_ad_section_end -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เนี่ย ถ้าผมตีความเอง

ผมจะเข้าใจว่า ปลายักษ์ หมายถึงปลาอานนท์ ที่รองรับโลกอยู่

ปลายักษ์ที่สอง เข้าใจว่า แผ่นดินไหวใหญ่ ครั้งที่สอง

ถ้านับครั้งที่ หนึ่งคือ ครั้งที่ไหวใหญ่ ที่ Japan เกิดสึนามิ

(ถ้านับ ครั้งอื่น ก็ไม่รู้แล้ว)

แต่ เมื่อไร เดือนไหน ปีไหน ไม่มีข้อมูล !!!



ซึ่ง ตีความแบบนี้ ถูกหรือเปล่า ก็ไม่รู้ เพราะ เป็นแค่การตีความ บทกลอน

ปลายักษ์ อาจไม่ใช้ปลาอานนท์ก็ได้ ซึ่งอันนี้ก็ไม่รู้แล้วว่าคืออะไร



เลยขอร้อง ให้ ท่านๆ ทั้งหลาย ช่วยตีความให้ชัด

หรือ ท่าน K-97 ตีกลอน เป็น ข้อความให้ชัด<!-- google_ad_section_end -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>


เจอสาย กวี ศรีสุนทรภู่ เข้าไป ตีความกันให้มึนกันไปข้างหนึ่ง

ไปขอให้เขาตีความให้สำเหร็จ กลับโดน Teen มาเต็มๆ ๕ ๕ ๕ ....... (deejai)

 

หรือจะแปลความของเขาว่า

ไปนั่งกินร้านอาหาร สั่งปลาช่อนเผาเกลือตัวใหญ่ยักษ์ มาตัวหนึ่ง กินหมดแล้ว เลยสั่งตัวที่สอง กินหมดตัวที่สอง แล้วเดินทางต่อ

????

 

เอาเถอะคุยๆฮาๆกันไว้ก่อนเก็บข้อมูลไว้ให้มากๆ

เวลาเจอจริงๆอาจจะหนักกว่าที่เราคิดหรือเบากว่าก็แล้วแต่สถานการณ์

แต่เรารู้ไว้ใช่ว่าเนอะ เดี๋ยวเวลาเกิดจริงเราก็ไม่ได้คุยกันเท่านี้ละ.....^^

 

สวัสดีค่ะ คุณ Numtrn
ดิฉันไม่แน่ใจว่า คุณ Numtrn ได้อ่านข้อความที่คุณ k_97 ชี้แจงข้างล่างบ้างหรือยังค่ะ ดิฉัน copy มาให้อ่านค่ะ

(เพราะยังคงเห็นข้อความที่คุณพยายาม ให้คุณลุงแจ้งวัน เวลาที่จะเกิดขึ้น และให้คุณลุงระบุให้ชัดเจนว่ามันคืออะไร ที่เค้าระบุให้ทราบไม่ได้เพราะว่ามันเป็นข้อความที่มาจากเรื่องราวของความฝัน แล้วมีการถ่ายทอดออกมาเป็นบทกลอน
ในส่วนที่จะผิดหรือถูกนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละบุคคล เพื่อเอาไปเปรียบเทียบกับ ญาณอื่น..... (เหมือนเช่น ของคุณปู เธอก็เอาภาพความฝันที่เธอเห็นมาแจ้งให้เพื่อน ๆ ทราบ ต่างกันโดยไม่ได้แต่งเป็นกลอนเท่านั้น เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ พลังสัมผัสวิเศษของแต่ละบุคคล) อันนี้มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องเสียหายอะไร เป็นการเอามาแชร์กัน

หากคุณ Numtrn ได้อ่านบทความของดิฉันแล้ว ดิฉันคิดว่าคุณคงจะเข้าใจคุณลุงแกบ้างนะค่ะ

ดิฉันเองก็เคยเข้าไปโพสต์ข้อความในกระทู้นั้นว่า

"บางคำถาม ไม่จำเป็นที่จะต้องมีคำตอบ"

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด ๆ ว่า
ชายคนหนึ่งไปพบหมอด้วยอาการป่วย
หมอได้ทำการวินิจฉัยโรค ตามตำราที่ได้ร่ำเรียนมา

แล้วแจ้งชายผู้นั้นว่า : คุณกำลังเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
ชายผู้นั้น : ผมจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานมัย
หมอ : ขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง พร้อมกับการบำบัดรักษาที่ถูกวิธี
ชายผู้นั้น : ผมจะตายวันที่เท่าไร เวลาอะไรครับหมอ
หมอ : นิ่ง......มองหน้าชายผู้นั้นด้วยความสงสาร
ชายผู้นั้น : ผมจะตายวันที่เท่าไร เวลาอะไรครับหมอ (ถามเป็นครั้งที่ 2 3 4 5..... ไปเรื่อย ๆ เพราะเค้าอยากจะทราบคำตอบ)
หมอ : ผมให้คำตอบคุณไม่ได้จริง ๆ ครับ (คุณหมอคิดในใจว่า "แล้ววันนั้นคุณก็จะรู้คำตอบ ด้วยตัวคุณเอง")


เมื่อคืนวันพระ ก่อนดิฉันจะนั่งสมาธิ ได้ตั้งจิตต่อหน้าองค์พระในห้องพระที่บ้าน ว่าภัยพิบัติครั้งนี้จะเกิดขึ้นจริงแท้หรือไม่

และได้เกิดเห็นภาพเหตุการณ์ 4 ประการ (ปกตินั่งสมาธิ ไม่เคยเห็นภาพอะไรเลย)
1. ลมพายุรุนแรง พัดหลังคาบ้านเรือนประชาชน ป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ หักโค่นล้ม
2. เหตุการณ์ชุลมุน คนต่างหนีหาที่เกาะ บ้างก็ล้มลุกคุกคลาน ยืนไม่อยู่ ทรงตัวไม่ได้
3. บ้านที่อยู่ริมแม่น้ำฝั่งซ้ายทรุดตัวเป็นแนวยาว จากริมตลิ่งกินพื้นที่ประมาณ 200 เมตร น้ำที่อยู่ในแม่น้ำทะลักเข้าไปในพื้นที่อย่างรวดเร็ว ต่อมาตึกสูงที่อยู่บริเวณฝั่งขวาก็โดนเช่นกัน แต่ไม่ตลอดแนว เป็นจุด ๆ
4. เห็นผู้คนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ก่อนหน้านั้นเห็นผู้คนมองขึ้นไปดูท้องฟ้าที่มีสีแดงผิดปกติอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน อยู่ ๆ ก็มืดดำ ขณะที่ทุกคนเฝ้ามองว่าเกิดอะไรขึ้นในความมืดมิดนั้น อยู่ ๆ ก็มีแสงสว่างมากระทบที่ตาน่าตกใจเหมือนมีระเบิดพลุลูกใหญ่มาแตกที่หน้า เป็นดวงไฟใหญ่ ๆ แสงสว่างมาก แต่ดิฉันไม่เป็นไร กลับมองเห็นและได้ยินคนร้องอย่างเสียสติ วิ่งชนกันไปมาว่า ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย แล้วก็ต่างเอามือปิดหูไว้ด้วย
(มันหน้ากลัวมากค่ะ ทำให้ดิฉันต้องรีบดึงจิตกลับมา)

สหายธรรมท่านใดเคยเป็นแบบนี้บ้าง หรือมีความรู้เรื่องอะไรโปรดชี้แนะด้วยนะค่ะ

ปล. ข้อ 4 ที่ดิฉันเห็นมันเป็นภาพที่น่ากลัวมากค่ะ ในส่วนตัว ดิฉันอยากจะเตือนว่าหากท่านเห็นอะไรบนท้องฟ้าที่ผิดปกติอย่างไม่เคยเห็นมากก่อน อย่ามองเด็ดขาดนะค่ะ จะจริงหรือไม่นั้น บอกคนสนิทใกล้ชิดไว้ก่อนไม่เสียหายค่ะ อย่างน้อย ๆ ถ้าเกิดเห็นการณ์นั้นขึ้นจริง คุณจะได้นึกถึงคำเตือนนี้
กลัวจะเป็นเหมือน สึนามิ น้ำลดแล้วคนก็วิ่งตามไปดูกันอ่ะค่ะ
ดิฉันไม่ต้องการให้ใครมาเชื่อ หรือตื่นตระหนกตกใจนะค่ะ ถือว่ามาเล่าสู่กันฟังค่ะ
............................................................
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ k_97
4 ก.พ. 55 ออกแขก

ก่อนที่จะเข้าเนื้อหา ผมขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ใช่ผู้วิเศษ เพียงแต่อาสาหน่วยเหนือมาทำงานแจ้งภัยให้กับท่านที่มีความดีและอาสาพาไปอยู่ที่ถูกกำหนดไว้ให้ โดยการส่งบทความที่ได้จากความฝัน เพื่อ ให้มีการเปรียบเทียบกับบทความของญาณอื่นๆ จากนั้นท่านก็ตัดสินใจกันเอาเองว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตของตัวเองและครอบครัวต่อไป

ปีนี้ผมอายุย่าง 58ปี ความรู้น้อยแค่มอศอสามจากโรงเรียนวัดนวลนรดิศ เกิดฝั่งธนฯ วงเวียนใหญ๋

บทความที่ได้รับหน่วยเหนือท่านจะไม่บอกตรงๆเพราะผิดกฏสวรรค์ ดังนั้นท่านที่อยากได้ดั่งใจขอได้รับรู้ไว้ด้วยแล้วจะไม่เกิดการปรามาส

เคอิสรา

 

ถาม-ตอบ พายุหมุนเขตร้อน: อุณหภูมิน้ำทะเลเดือดที่ 26.5C ส่งผลต่อการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนได้อย่างไร ?
Why do tropical cyclones require at least 80&deg;F ocean temperatures to form ?
แหล่งข้อมูล AOML (Atlantic Oceanographic and Meteorological Laboratory


พายุไต้ฝุ่นเปรียบเสมือนกับเครื่องจักรกลขนาดใหญ่มหาศาล มันแค่ต้องการความร้อนที่พอสมควร ความร้อนพอที่จะทำให้เครื่องจักรกลขนาดยักษ์นี้ทำงานและเคลื่อนไหวได้อย่าง มีประสิทธิภาพทรงพลัง และอากาศที่มีความร้อนชื้นสูงเปรียบเสมือนกับเชื้อเพลิงที่คอยหล่อเลี้ยง เครื่องจักรกลขนาดยักษ์อย่างพายุไต้ฝุ่น (เฮอร์ริเคน ไซโคลน) ให้ได้ขับเคลื่อนเป็นอย่างดี

อุณหถูมิน้ำบริเวณมหาสมุทรที่เดือดอย่างน้อยสุดแค่ 26.5 องศาเซลเซียส(80F) เป็นปัจจัยสำคัญประการแรกสุดของการก่อตัวพายุดีเปรสขันเขตร้อน อุณหภูมิที่ต่ำไปกว่านี้ไม่สามารถที่จะพัฒนาเป็นพายุดีเปรสชันไปได้เลย
น้ำทะเลอุณหภูมิ 26.5 องศาเซลเซียส ก่อให้เกิดอากาศร้อนชื้นอย่างมหาศาล อากาศร้อนชื้นนี้ดุจระเบิดเวลามันคอยที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อ เมื่อมันรวบรวมทั้งความร้อนและความชื้นจากทะเลที่เดือดพล่านได้เต็มที่แล้ว อากาศที่ร้อนชื้นก็จะปะทุระเหยในแนวดิ่งขึ้นและเมื่อปะทะกับความเย็นในระดับ สูงก็กลายเป็นเมฆฝนฟ้าคะนองอย่างรุนแรง กระแสลมเบื้องบนได้พัดขึ้นและขยายเมฆฝนฟ้าคะนองใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนพัฒนากลายเป็นพายุดีเปรสชันในที่สุด
http://www.co.dare.nc.us/EmgyMgmt/Presentation/birth.gif
ภาพกราฟฟิคด้านบนคือ โครงสร้างหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง(tropical disturbance)ที่กำลังพัฒนาเป็นพายุดีเปรสชัน อธิบายคืออุณหภูมิน้ำทะเลอย่างน้อยสุด 26.5 องศาเซลเซียส(80 F) จะก่อให้เกิดความร้อนและความชื้นตามมาแล้วลอยขึ้นไปในแนวดิ่ง เมื่อลอยสูงขึ้นไปก็จะยิ่งมีการกลั่นตัวของไอน้ำมากขึ้นจนกลายเป็นพายุฟ้า คะนองที่รุนแรง ประกอบกับกระแส “ลมเฉือน” มีกำลังอ่อน ทำให้พายุฟ้าคะนองที่ยังได้รับความร้อนจากทะเลอยู่อย่างต่อเนื่องก็จะก่อให้ เกิดพายุฝนฟ้าคะนองได้ในหลายจุด พายุฟ้านองนี้ กระแสลมเบื้องบนของพายุฝนได้ชักนำความร้อนและความชื้นพัดขยายใหญ่ขึ้นไปอีก จนกลายเป็นพายุดีเปรสชัน เขตร้อนในที่สุด

เมื่อน้ำทะเลยังเดือดพล่านอยู่ประกอบกับอุณหภูมิพื้นผิวทะเลบริเวณใกล้เคียง อุ่นน้อยกว่า(เย็นกว่า) ยิ่งทำให้อากาศเย็นบริเวณใกล้เคียงนั้นยิ่งวิ่งเข้าไปแทนที่อากาศร้อนชื้น นั้น ส่งผลให้ พายุเมฆฝนฟ้าคะนอง(Thunderstorm) ขยายใหญ่ขึ้นจนพัฒนาเป็นพายุไต้ฝุ่นในที่สุด อากาศร้อนชื้นที่ระเหยขึ้นจากทะเลเปรียบเสมือนเชื้อเพลิงอย่างดีที่คอยหล่อ เลี้ยง บริเวณกำแพงตาพายุ (Eyewall) และ พายุฝนฟ้าคะนอง ที่มีทั้งฝนหนัก ลมจัด (Rainbands) ในไต้ฝุ่น ตลอดเวลา
การกลั่นตัวของไอน้ำขณะลอยขึ้นไปในแนวดิ่งอย่างรุนแรงจนก่อก่อให้เกิด พลังงานจากความร้อนแฝง(latent heat) ยิ่งความร้อนแฝงมีมากเท่าใดก็จะสร้างพลังงานอย่างมหาศาลเป็นเงาตามตัวทำให้ พายุหมุนเขตร้อนมีการขับเคลื่อนหมุนวนรอบศูนย์กลางแรงขึ้น แม้ความร้อนแฝงมีเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้พายุหมุนเขตร้อนเพิ่มความรุนแรงมาก ขึ้นได้ อาจกล่าวได้ว่าความร้อนแฝงเปรียบเสมือนกับการปะทุของไฟร้อนที่ลุกโชติช่วง อยู่นั้น

แล้วทำไมพายุหมุนเขตร้อนจึงต้องได้รับอุณหภูมิจากน้ำทะเลอย่างน้อยสุดที่ 26.5 องศาเซลเซียส ?
เมื่อ ค.ศ.1948 Erik Palmen ได้สังเกตุและให้ความเห็นว่าพายุหมุนเขตร้อน (พายุระดับดีเปรสชันขึ้นไป) จะต้องได้รับอุณหภูมิน้ำทะเลที่ 26.5 องศาเซลเซียส(80 F) เป็นอย่างน้อยสุด เพื่อการก่อตัวและการขยายขนาดของพายุ ในปีค.ศ. 1979 Gray กล่าวว่าน้ำทะเลที่อุ่นนี้จะต้องระดับความลึกของทะเล ที่ 50 เมตร(150ฟุต) ลงไป และอุณหภูมิที่ 26.5 c จะมีผลสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อชั้นบรรยากาศในเขตร้อนและเขตอบอุ่น ถ้าอุณหภูมิมากกว่า 26.5C ก็สามารถก่อตัวขึ้นในแนวดิ่งเป็นพายุฝนฟ้าคะน้องอย่างรุนแรงได้จนกลายเป็น พายุดีเปรสชันในที่สุด แต่ถ้าอุนหภูมิต่ำไปกว่านี้ยังไม่เคยปรากฎว่าจะสามารถเกิดการก่อตัวในแนว ดิ่งเป็นพายุฝนฟ้าคะนองจนกลายเป็นพายุหมุนเขตร้อนได้เลย

หมายเหตุ
26.5องศาเซลเซียส จะมีอิทธิพลต่อการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อน "พายุหมุนเขตร้อน"ที่ว่านี้หมายถึง ตั้งเเต่ระดับดีเปรสชันเป็นต้นไป ระดับหย่อมความกดอากาศต่ำไม่เกี่ยว

 

เช้านี้ วันพุธ หยุดดูฟ้า
แดดส่องมา ร้อนเป็นบ้า ในยามสาย
พุธตอนบ่าย เมฆดำมา ยาวเป็นไมล์
ตกกระใจ ปิดประตู เปิดเว็บเรา
พลังจิต มีมาก หลายมิตรแท้
นักทำนาย นักดาศาสตร์ นับยานแม่
ที่แน่ๆ ทุกๆคน ระวังภัย
สายอาวุธ สายกวี มีหัวใจ
ทำนายไป หากไม่ถูก อย่าว่ากัน


sunny ทำการจริง

 

พี่ falkman เมื่อวานฝนบ่ตกเลยครับ


ผมอยากบอกว่าเราต้องจับตาดูความเย็นของน้ำในมหาสมุทธมี่กำลังแแผ่ลงมาด้วยนะครับ อาจจะมีนัยยะอะไร

ส่วนวันอาทิตย์นี้ชาวพลังจิตสายทำนาย บอกว่าอาจจะมีคลื่นยักษ์หรือไม่น่ากลัวมากเพราะผมต้องลงไปชุมพรพอดี เสียวเลย

 

เยี่ยมเลยครับ

 

คล้ายๆกับผมอ่ะ รู้อยู่ว่ายังไงเราต้องรอดด้วยพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

แต่นิสัยชอบรู้ อยากทราบ บางท่านก็ค้นคว้า ขวนขวายมาให้ เราก็เลยมานั่งอ่านๆไปเพลินๆ 555+

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

 

เมื่อคืนวันพระ ก่อนดิฉันจะนั่งสมาธิ ได้ตั้งจิตต่อหน้าองค์พระในห้องพระที่บ้าน ว่าภัยพิบัติครั้งนี้จะเกิดขึ้นจริงแท้หรือไม่

และได้เกิดเห็นภาพเหตุการณ์ 4 ประการ (ปกตินั่งสมาธิ ไม่เคยเห็นภาพอะไรเลย)
1. ลมพายุรุนแรง พัดหลังคาบ้านเรือนประชาชน ป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ หักโค่นล้ม
2. เหตุการณ์ชุลมุน คนต่างหนีหาที่เกาะ บ้างก็ล้มลุกคุกคลาน ยืนไม่อยู่ ทรงตัวไม่ได้
3. บ้านที่อยู่ริมแม่น้ำฝั่งซ้ายทรุดตัวเป็นแนวยาว จากริมตลิ่งกินพื้นที่ประมาณ 200 เมตร น้ำที่อยู่ในแม่น้ำทะลักเข้าไปในพื้นที่อย่างรวดเร็ว ต่อมาตึกสูงที่อยู่บริเวณฝั่งขวาก็โดนเช่นกัน แต่ไม่ตลอดแนว เป็นจุด ๆ
4. เห็นผู้คนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ก่อนหน้านั้นเห็นผู้คนมองขึ้นไปดูท้องฟ้าที่มีสีแดงผิดปกติอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน อยู่ ๆ ก็มืดดำ ขณะที่ทุกคนเฝ้ามองว่าเกิดอะไรขึ้นในความมืดมิดนั้น อยู่ ๆ ก็มีแสงสว่างมากระทบที่ตาน่าตกใจเหมือนมีระเบิดพลุลูกใหญ่มาแตกที่หน้า เป็นดวงไฟใหญ่ ๆ แสงสว่างมาก แต่ดิฉันไม่เป็นไร กลับมองเห็นและได้ยินคนร้องอย่างเสียสติ วิ่งชนกันไปมาว่า ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย แล้วก็ต่างเอามือปิดหูไว้ด้วย
(มันหน้ากลัวมากค่ะ ทำให้ดิฉันต้องรีบดึงจิตกลับมา)

ที่คุณเห็นในนิมิตร เหมือนกับที่คุณลุงหมอ เตือนลูกหลานเลย

 

"เช้านี้ วันพุธ หยุดดูฟ้า" นักสังเกตุการณ์ก็เริ่มมีอารมณ์สุนทรีย์กะเค้าแล้ว.... ติดใจล่ะซิ พึ่งรู้ว่าตัวเองก็แต่งกลอนเพราะกับเค้าได้เหมือนกัน
.................................
เตรียมรับภัยพิบัติกับอารมณ์ชิว ๆ

 

กระเเสน้ำมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจริงๆและแผ่นดินไหวแรงๆก็ทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทางได้ถ้าสังเกตดีๆเมื่อกลางเดือนมีค.ปีที่แล้วหลังจากเกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น ซึนามิได้ดันเอากระแสน้ำเย็นไหลมาถึงปลายแหลมญวนเข้าอ่าวไทยช่วงนั้นอากาศกลับเย็นลงวูบเลยตอนแรกก็งงๆว่าหน้าหนาวกลับมาอีกทั้งๆที่เข้าหน้าร้อนจะสงกรานต์แล้วพอมาดูsea surface temperature เลยถึงบางอ้อ ตอนนั้นเมืองไทยแค่อากาศเย็นลงแต่ที่ญี่ปุ่นหิมะตกเลยจำได้กันหรือปล่าว

 

ใช่จะมีแต่ พายุใหญ่เท่านั้น ที่จะทำให้น้ำท่วม



ร่องมรสุม เป็นอีกตัวหนึ่ง ไปดูกัน

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=6lkV8ps3w1k"]ร่องมรสุม คืออะไร.flv - YouTube[/ame]




ร่องความกดอากาศต่ำ (Intertropical Convergence Zone – ITCZ ) หรือ ร่องมรสุม (Monsoon Trough)

ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมนี้ มีชี่อเรียกในภาษาอังกฤษหลายชื่อด้วยกัน เช่น Intertropical Convergence Zone , Equatorial Trough หรือ Monsoon Trough เป็นต้น เป็นโซนหรือแนวแคบๆ ที่ลมเทรดหรือลมค้าในเขตร้อนของทั้ง 2 ซีกโลกมาบรรจบกัน คือลมค้าตะวันออกเฉียงเหนือของซีกโลกเหนือกับลมค้าตะวันออกเฉียงใต้ของซีกโลกใต้
ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสม มีลักษณะเป็นแนวพาดขวางในทิศตะวันออก-ตะวันตก ในร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมเป็นบริเวณที่มีความกดอากาศต่ำ มีกระแสอากาศไหลขึ้น-ลงสลับกัน ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมจะอยู่ในเขตร้อนใกล้ๆ เส้นศูนย์สูตร และจะมีการเลื่อนข้น –ลงตามแนวโคจรของดวงอาทิตย์โดยจะล้าหลังประมาณ 1-2 เดือน ความกว้างของร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมประมาณ 6-8 องศาละติจูด เป็นบริเวณที่มีเมฆมากและฝนตกอย่างหนาแน่น ฉะนั้น เมื่อร่องนี้ประจำอยู่ที่ใดหรือผ่านที่ใดก็จะทำให้ที่นั้นฝนตกอย่างหนาแน่นได้



อีกอัน

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ร่องมรสุม (Monsoon Trough) คืออะไร ?[/FONT]


[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ร่องมรสุม เกิดจากแนวความกดอากาศต่ำ ทำให้เกิดฝนตก ซึ่งเป็นลักษณะอากาศของประเทศไทย แนวร่องความกดอากาศต่ำจะอยู่ในแนวทิศตะวันตก และทิศตะวันออก ร่องมรสุมจะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งตามการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ เช่น เมื่อดวงอาทิตย์โคจรอ้อมไปทางทิศเหนือ ร่องมรสุมก็จะเคลื่อนที่ตามไปด้วย การเคลื่อนที่ของร่องมรสุมมีผลต่อการเปลี่ยนทิศทางการรับลม เช่น ร่องมรสุมที่เคลื่อนที่ไปทางด้านทิศเหนือ บริเวณที่รับลมทางด้านทิศเหนือจะเปลี่ยนไปเป็นการรับลมจากทางด้านทิศใต้ทันที ร่องมรสุมมีผลต่อการเกิดฝนตกอันเนื่องมาจากสาเหตุข้างต้นคือ ทำให้อากาศบริเวณดังกล่าวยกตัวลอยสูงขึ้น ขยายตัวกลายเป็นเมฆฝน บริเวณร่องมรสุมจึงมักมีเมฆมากและมีฝนตก ส่วนประเทศไทยร่องมรสุมเกิดจากการปะทะกันของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ มีผลทำให้เกิดฝนตกเป็นบริเวณกว้าง ถ้าแนวชนของร่องมรสุมทั้งสองชนกันยิ่งแคบจะเกิดเป็นพายุฝนฟ้าคะนองได้ง่าย และถ้าเกิดร่องมรสุมนาน จะส่งผลให้เกิดฝนตกนานทำให้เกิดน้ำท่วมได้เช่นกัน [/FONT]
​