การหยุดของ กระแสน้ำร้อน น้ำเย็น ทั่วโลกได้เริ่มออกอาการอย่างชัดเจนแล้ว!!!!

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย sunny430, 6 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    เรื่องของเรื่อง คือปีนี้ ตอนบนของโลกมันหนาวจัดและแผ่กระจาย หมายถึง H กำลังแรงมากๆ

    ประกอบกับ เรื่องที่ องค์อัลกอร์ว่าไว้ หากเป็นตามนั้น ทะเลแถบเส้นศูนย์สูตรจะมีอุณภูมิเพิ่มขึ้น ทำให้ L แรงเช่นกัน และ ไอน้ำ หรือความชื้นในอากาศจะสูงมากๆ


    เมื่อเกิด มรสุมรุมเร้า งานนี้อาจหนักหน่วง ต้องติดตามการพยากรอากาศของ กรมอุตุ กันให้ดีๆ
     
  2. natatik

    natatik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +3,607
    แล้วเรื่องหิมะที่มันมีจำนวนมากตามเมืองต่าง ๆ ตอนนี้ ต่อไปเค้าจะกำจัดมันอย่างไรค่ะ แล้วมีผลอย่างไรบ้าง มันจะกลายเป็นน้ำท่วมมัยค่ะ
     
  3. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571

    ร้อน...........สุดๆ แนวศูนย์สูตร

    [​IMG]






    นี่ภาพอุณหภูมิ ทะเล ข้างๆ ฟิลิปปินส์ ร้อนสุดๆ
    [​IMG]

    [​IMG].





    ทะลุ 26.5 ไปเรียบร้อยแล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2012
  4. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    กำจัดหิมะเนี่ย
    อันนี้ผมไม่มีความรู้จริงๆครับ ใครที่เคยอยู่เหมืองหนาว คงตอบได้ครับ
     
  5. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ดร.ก้องภพ บอกว่า"มีหลายคนเริ่มพูดถึงกระแสน้ำในแอตแลนติกหยุดเคลื่อนตัว อันตรายมาก กระแสน้ำในมหาสมุทรเป็นแหล่งพลังงานส่วนหนึ่งของสนามแม่เหล็กโลก ถ้าหยุด สนามแม่เหล็กโลกจะยิ่งลดลงอีก"

    :cool:
     
  6. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    สงสัยญี่ปุ่น อินโด ฟิลิปปิน เป็นกองหน้าอีกแล้วงานนี้ ><
     
  7. น้าหมี

    น้าหมี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +40
    ขอบคุณทุกท่านมาก ๆ เลยครับ ที่นำข้อมูลมาฝากกัน ให้พอประติดประต่อเรื่องราวต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ... ปีนี้ ท่าทางบ้านเรา จะเจออีกหลายขนานเหมือนกัน
     
  8. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    เจอจังๆ ไม่ล้อเล่น


    ไปเจอรายงานชี้นนี้มา..... เขาลงไว้ ตอนปี 2004

    NASA - Top Story - SATELLITES RECORD WEAKENING NORTH ATLANTIC CURRENT - April 15, 2004



    หรือ คงจะเริ่มศึกษากันอย่างจริงจังช่วงนั้น




    ต่อมาประมาณปี 2006 อัลกอร์เริ่มเอาเรื่องนี้มาพูด

    Al Gore on averting climate crisis | Video on TED.com



    พอปี 2007 อัลกอร์ได้รางวัล โนเบล
    The Nobel Peace Prize 2007





    อัลกอร๋ได้รางวัลหรือไม่ ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ สิ่งที่พวกเขาศึกษาเมื่อ 8 ปีที่แล้ว

    มันแสดงผลให้เห็นเป็นที่ประจัก แล้ว ทั้งที่เขาบอกไว้ว่า จะชี้ชัดได้ขอรอดูอีก 5 ถึง 10 ปี


    "It is a signal of large climate variability in the high latitudes," Hakkinen said. "If this trend continues, it could indicate reorganization of the ocean climate system, perhaps with changes in the whole climate system, but we need another good five to 10 years to say something like that is happening


    .......... จากNASA - Top Story - SATELLITES RECORD WEAKENING NORTH ATLANTIC CURRENT - April 15, 2004









    จากนี้ต่อไป เอาไงกันดี ?
     
  9. ballbkkno1

    ballbkkno1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +28
    จัดมาเลยครับ ถ้าไม่เหลือคนที่เรารัก ตายหมด แล้วเราจะอยู่เพื่ออะไร

    สืบพันธุ์แล้วก็ตายหรือ



    แต่ลึกๆผมก็คิดว่ามันไม่น่าเกิดแบบในหนัง อาจจะเป็นภัยพิบัติ ซึ่งก็เกิดขึ้นบนโลกเป็นประจำ

    พึงมีสติในวันนี้ดีกว่า ผมเห็นข่าว อุบัติเหตุทุกวัน ฆ่ากันตายทุกวัน ไม่ทันโลกแตก ก็ป่วยตาย รถคว่ำตายกันซะแล้ว อย่างแค่ 7วัน ปีใหม่ที่ผ่านมา มี 3 ร้อยกว่าคน เป็นศพไม่ได้กลับไปนอนบ้านนะครับ
     
  10. suatop

    suatop สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2012
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +2
    เมล็ดพืชเมืองหนาวเหรอ...อืม...น่าคิด
    เพราะรู้สึกช่วงหลังเราประเทศเราก็หนาวหนัก ร้อนนานอยู่แล้ว
     
  11. sunny430

    sunny430 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,299
    ค่าพลัง:
    +5,425
    ไทยจากลายเป็นดงพายุนะสิครับ
     
  12. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    ของไทยสีเหลืองส้มทั้ง2ฝั่งเยยย อูยยยส์++
     
  13. sunny430

    sunny430 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,299
    ค่าพลัง:
    +5,425
    ต้องเลื้อกแล้วครับว่าเราจะสามัคีกันรับพายุ หรือ เราจะแตกแยกรับพายุครับ ในอ่าวไทยตอนนี้ผมขอร้องว่าต้องจับเข่ากันดูวันต่อวันเลยครับว่ามีอะไรที่แปลกๆให้รู้
     
  14. ปธ6

    ปธ6 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +292
    ปีนีพายุถล่มไทยแบบหนักๆแน่ ธรรมชาติกำลังทำงานและปรับสมดุลของมันเอง บางพื้นที่อาจจะกลับไปอยู่ที่เดิม บางแห่งอาจจะงอกใหม่ขึ้นมา
     
  15. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    บทความ : ปรากฏการณ์ลานิญา ( สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์)




    <DD>บทความ : ปรากฏการณ์ลานิญา



    <DD>กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนว่า ปรากฏการณ์ลานิญายังคงมีอิทธิพลกับประเทศไทยอย่างต่อเนื่องไปจนถึงกลางปี คือ ประมาณเดือนมิถุนายน 2555 ส่งผลทำให้มีฝนตกมากกว่าปกติ ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2554 ได้เกิดฝนตกสะสมที่บริเวณเหนือเขื่อนในพื้นที่ภาคเหนือ และยังเกิดน้ำท่วมใหญ่ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้น <DD>ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ยืนยันว่า สถานการณ์น้ำในปีนี้ (2555) ไม่รุนแรงเท่าปีที่ผ่านมา (2554) แต่ไม่ได้ยืนยันว่าปีนี้น้ำจะไม่ท่วมอีก <DD>ลานิญาเป็นปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณเส้นศูนย์สูตรในมหาสมุทรแปซิฟิกกลางและตะวันออกมีค่าต่ำกว่าปกติ เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดอยู่เป็นประจำในแปซิฟิกเขตร้อนทางซีกโลกใต้มีกำลังแรงกว่าปกติ จึงพัดพาผิวน้ำทะเลที่อุ่นจากแปซิฟิกเขตร้อนตะวันออก หรือบริเวณฝั่งเอกวาดอร์ เปรู และชิลีตอนเหนือไปสะสมอยู่ทางแปซิฟิกเขตร้อนตะวันตก หรือบริเวณชายฝั่งอินโดนีเซีย และออสเตรเลียมากขึ้น จะเกิดโดยเฉลี่ย 5-6 ปีต่อครั้ง และแต่ละครั้งกินเวลานานประมาณ 1 ปี ซึ่งประเทศไทยมีอิทธิพลของปรากฏการณ์นี้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และจะยังต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เมื่อเกิดปรากฏการณ์ลานิญาบริเวณที่ได้รับผลกระทบจะมีฝนมากกว่าปกติ ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย ออสเตรเลียตอนเหนือ ฟิลิปปินส์ อินเดียตอนเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกา ตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาใต้ ส่วนบริเวณที่มีผลกระทบแต่ปริมาณฝนน้อยกว่า ได้แก่ ประเทศชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา บราซิลตอนใต้ ตอนกลางของประเทศอาร์เจนตินา เป็นต้น สำหรับประเทศไทย ฝ่ายวิชาการภูมิอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า สำหรับฤดูฝนปีที่เกิดลานิญาในเดือนมิถุนายน - เดือนตุลาคมฝนตกสูงกว่าปกติ ยกเว้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีฝนอยู่ในเกณฑ์ต่ำ <DD>ฤดูร้อนหลังเกิดลานิญาในเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม ทั่วประเทศจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ มีฝนตกบ้างทำให้อากาศไม่ร้อนมาก นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ฝนที่ตกในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเวลานี้ (30 ม.ค.2555) ส่วนหนึ่งเป็นอิทธิพลของปรากฏการณ์ลานิญา วัดค่าได้ประมาณ ลบ 1.1 ถือเป็นค่าปานกลาง ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะมีอิทธิพลไปถึงกลางปี นอกจากนี้ ยังเป็นเรื่องของความกดอากาศสูงที่แพร่มาจากประเทศจีนปะทะกับอากาศอุ่นชื้นจากก้นอ่าวไทย ส่งผลให้เกิดฝนตกในพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง รวมทั้งจะมีผลทำให้อากาศเย็นลงในช่วง 1 – 3 วันนี้ และหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ไปแล้ว ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อน แต่อิทธิพลของลานิญาทำให้ยังมีฝนตกอยู่ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบจึงต้องรีบหาทางบริหารจัดการน้ำอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อุทกภัยดังเช่นปีที่ผ่านมา เรียบเรียงโดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์



    [​IMG]


    <DD>


    <DD>


    <DD>
    ลมร้อน มันพัดมาทางแถบเรา
    [​IMG]



    ตัวพาพายุเข้ามาหาเราเลย
    </DD>


    เขาไม่พูดถึง พายุ ขนาดใหญ่ แต่เขาพูดถึง H จากจีน กับ L จากไทย

    แล้วถ้ามันมีพายุ ล่ะ เกิดมันมีแล้ว เข้าเวียดนามล่ะ



    "" ฤดูร้อนหลังเกิดลานิญาในเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม ทั่วประเทศจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ มีฝนตกบ้างทำให้อากาศไม่ร้อนมาก ""


    แปลว่า เดือนเมษายนมันจะไม่ค่อยร้อน เพราะ ลาณีญ่าช่วยเอาไว้เหรอ

    ก็ดีเหมือนกันนะนั่น แต่ เจอปัญหา น้ำมากแทน แล้วพอเข้าหน้าฝนจะเป็นยังไง ? ?

    ถุงยังชีพ ! :'(
     
  16. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    วันก่อน พายุ Cyril วิ่งย้อนทางไป ... ได้ไงก็ไม่รู้

    คือ มันวิ่งย้อนกระแสลม ที่ทำให้เกิด ลาณิญา


    ผมว่า ลูกต่อไป มาหาเราแน่เลย ! อะไรมันจะเก่ง วิ่งย้อนได้ขนาดนั้น
     
  17. ปธ6

    ปธ6 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +292
    ธรรมชาติสร้างสรรผลงาน มนุษย์จะตามมันทันรึป่าว ธรรมชาติกำลังหลอกล่อ ให้คนตายใจ
     
  18. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    [​IMG]



    จากบทความที่แปลโดยดร.สมศักดิ์โอฬารกิจเจริญจาก ภาควิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และเรียบเรียงโดยดร.วัฒนากันบัวนักอุตุนิยมวิทยาระดับชำนาญการพิเศษในประเด็น ความเป็นไปได้ของการเกิดยุคหนาวเหน็บ เนื่องจาก การรบกวนระบบกระแสน้ำในมหาสมุทรขนาดมหึมาและการละลายน้ำแข็งทะเลแถบอาร์กติก อาจก่อให้เกิดภาวะอากาศที่หนาวมากขึ้น ในทวีปยุโรปและทวีปอเมริกาเหนือ

    ภาวะโลกร้อน อาจทำให้ทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตกเกิดอากาศหนาวอย่างหนัก ภายในเวลาสองทศวรรษข้างหน้าเรื่องนี้เป็นสถานการณ์ซึ่งกำลังได้รับความเชื่อถือมากขึ้น ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านภูมิอากาศว่า การละลายของน้ำแข็งทะเลซึ่งปกคลุมทวีปอาร์กติก อาจรบกวนหรือกระทั่งเป็นสาเหตุให้ สายพานนี้หยุดการเคลื่อนตัวของกระแสน้ำขนาดใหญ่ในมหาสมุทรแอตแลนติก

    เนื่องจากสภาพที่ไร้ความร้อนจำนวนมหาศาล ที่มาจากกระแสน้ำเหล่านี้ซึ่งเปรียบได้กับความร้อนที่ได้จากกำลังการผลิตของโรงงานพลังงานนิวเคลียร์นับล้านโรงจะทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของทวีปยุโรป น่าจะลดลงไปถึง5 - 10 องศาเซลเซียส(9 - 18 องศาฟาเรนไฮต์)และอาจจะทำให้บางบริเวณของทวีปอเมริกาเหนือด้านตะวันออก มีอากาศหนาวจัดลดลงการลดลงของอุณหภูมินี้เหมือนกับอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลก ในยุคปลายของยุคน้ำแข็งเมื่อ20,000 ปีที่แล้ว

    นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำอาจเกิดขึ่นได้ในเวลาเพียง20 ปีแต่นักวิทยาศาตร์บางคน ก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้

    น้ำแข็งแถบอาร์กติกคือกุญแจสำคัญ

    มีดาวเทียมหลายดวง ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวตรวจสภาพภูมิอากาศบนแผ่นน้ำแข็งในทวีปอาร์กติกโดยการใช้คลื่นไมโครเวฟ แทนที่จะใช้แสงที่เห็นได้สามารถแทงทะลุเมฆและตรวจค่าน้ำแข็งอย่างได้ต่อเนื่อง แม้ในยามค่ำคืน นอกจากนี้ ดาวเทียมดวงอื่น ที่ทำหน้าที่เฝ้าระวังน้ำแข็งขั้วโลก ที่ดำเนินการโดยNASA,NOAAและกระทรวจกลาโหมสหรัฐ ก็ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน

    ภาพจากวงโคจรแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการลดลงในระยะยาวในบริเวณน้ำแข็ง ที่มีตลอดปีแถบอาร์กติกตามข้อมูลของรายงานเมื่อปี2545 ระบุว่า กำลังลดลงด้วยอัตราเฉลี่ย9% ต่อทศวรรษ นับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูล ในปีพ.. 2521 การศึกษาจากข้อมูลเมื่อไม่นานมานี้ระบุว่าการลดลงของน้ำแข็งที่มีตลอดปีแถบอาร์กติก เป็นไปด้วยอัตราที่รุนแรงขึ้นถึง14% ต่อทศวรรษ

    [​IMG]

    นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งกังวลว่า การที่น้ำแข็งแถบอาร์กติกที่กำลังละลาย จะทำให้เกิดน้ำจืดจำนวนมากพอในทวีปแอตแลนติคเหนือ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการไหลเวียนของกระแสน้ำซึ่งน้ำจืดเหล่านี้ มาจากการละลายของตัวน้ำแข็งเองบ้างแต่ส่วนใหญ่จะมาจากฝนและหิมะในย่านนั้นการถดถอยของปริมาณแผ่นน้ำแข็งแถบอาร์กติกทำให้เกิดพื้นผิวทะเลมากขึ้นซึ่งทำให้เกิดความชื้นมากขึ้น ที่จะระเหยข้าสู่บรรยากาศ ก่อนจะตกมาเป็นฝนในที่สุด

    และเนื่องจาก น้ำเค็มมีความหนาแน่นและหนักว่าน้ำจืดน้ำจืดที่เกิดขึ้นใหม่นี้ จึงทำให้แผ่นพื้นผิวน้ำแข็งลอยน้ำดีขึ้นซึ่งจะกลายเป็นปัญหา เพราะว่าน้ำที่พื้นผิวทะเล จำเป็นต้องมีการจมตัวลง เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดระบบการไหลเวียนของกระแสน้ำ

    ดังนั้น น้ำที่จมตัวลง จะไหลไปทางใต้ตามพื้นมหาสมทุร จนถึงเส้นศูนย์สูตรในขณะที่น้ำบนพื้นผิวที่อุ่นกว่า จากละติจูดในเขตร้อน จะไหลไปทางเหนือ เพื่อแทนที่น้ำที่จมตัวลงไป

    สิ่งนี้เอง เหมือนกับสายพานลำเลียงที่ค่อยๆ เคลื่อนไปพร้อมๆ กันการเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลของน้ำจืดจะเป็นอุปสรรคของการจมตัวลงของน้ำบนพื้นผิวในบริเวณทวีปแอตแลนติคเหนือซึ่งจะทำให้กระแสน้ำเคลื่อนที่ช้าลง หรือกระทั่งหยุดการเคลื่อนที่

    ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์กำลังเก็บข้อมูล เพื่อประเมินความน่าจะเป็น ที่จะเกิดขึ้นนี้ เพราะข้อมูลเหล่านี้ มีความละเอียดมากกว่าข้อมูลจากตัววัดทางภูมิอากาศอื่นๆ

    ปัจจัยหนุนเสริมอื่นๆเช่น ปริมาณฝน, อุณหภูมิพื้นผิวทะเล และลมมหาสมุทร การพิจารณาตัวแปรเหล่านี้ประกอบ จะทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถประเมินการเปลี่ยนแปลง ที่เป็นไปได้ ในกระแสน้ำบริเวณแอตแลนติค

    เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นไหม?

    ในอดีตแนวคิดที่ว่าภูมิอากาศสามารถเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นเรื่องเหลือเชื่อแต่ปัจจุบันแนวคิดนี้กำลังได้รับการยอมรับ มีรายงานพร้อมหลักฐานที่บ่งชี้ว่า ภูมิอากาศของโลก ผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันและรุนแรงมาก่อนในอดีต เช่นเมื่อโลกอุ่นขึ้นตอนช่วงท้ายของยุคน้ำแข็ง ประมาณ13,000 ปีก่อนแผ่นน้ำแข็งที่กำลังละลาย ก่อให้เกิดการหยุดอย่างฉับพลันใน กระแสน้ำอุ่น ทำให้โลกตกในห้วงยุคน้ำแข็ง อีกครั้ง เป็นเวลากว่า1,300 ปี

    นักวิทยาศาสตร์ได้ทำแบบจำลองคอมพิวเตอร์และพบว่า สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับว่า สภาพอบอุ่นของทวีปอาร์กติก เกิดขึ้นรวดเร็วเพียงใด โดยสภาพอบอุ่นที่เกิดเร็วขึ้น จะปิดกั้นการไหลของกระแสน้ำหลักของแอตแลนติค ในขณะที่สภาพอบอุ่นที่เกิดขึ้นช้าลง อาจมีผลเพียงทำให้กระแสน้ำไหลช้าลง เป็นเวลาสองสามศตวรรษ

    ถ้าระบบไหลเวียนของกระแสน้ำ เกิดการหยุดอย่างฉับพลันการรู้สาเหตุอาจจะไม่มีความหมายอะไรเพราะชาวยุโรปคงมีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่าเช่น จะปลูกพืชในหิมะอย่างไรดี ดังนั้น ในขณะนี้ จึงนับเป็นโอกาสดี ที่จะค้นหาสาเหตุว่า คืออะไร


    [​IMG]


    www.marine.tmd.go.th/glwa01.html
     
  19. sunny430

    sunny430 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,299
    ค่าพลัง:
    +5,425
    บทความนี้สุดยอดเลยครับ ผมอยากทราบว่ามีใครเขียนบทความเกี่ยวกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกไหมครับ? ว่าผลกระทบทางการใช้ชีวิตและเพาะปลูก เลียงสัตว์จะเป็นอย่างไร ผมว่านอกจากมหาสมุทธแอทแลนติกแล้ว อินเดีย กะ แปซิฟิกก็หล่อเลียงหลายพันล้านชีวิตด้วยกระแสน้ำเย็นร้อนและ กระแสลมนะครับ
     
  20. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    นี่ละรออ่านเลย ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...