นิทาน เรื่อง "พญานาค"

มีใครบ้างที่ไม่อยู่ในโลกธรรม มีใครที่ไม่สั่นไหวในโลกธรรม

นั่นอาจจะใช่ตั้งแต่เกิดของคุณnouk ที่ว่า "อัตตาหิ อัตตโนถาโถ"

แต่จะเกินไป สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้สดับตรับฟังพระสัทธรรม แล้วน้อมเข้ามา
จะมาบอกว่ามี "อัตตาหิ อัตตโน นาโถ" ตั้งแต่เกิด นี่ก็เกินไปล่ะ

แล้วจะให้เชื่อได้ยังไง

 

ไม่ต้องเชื่อนะเจ้าคะ ก็พูดๆ กันไป ฟังๆ กันไป
แต่ความจริงของเราก็คือ เราพึ่งตัวเองมาตลอด แถมให้คนอื่นพึ่งอีกต่างหาก (มีปากก็พูดไป) ยกเว้น ตอนแบเบาะต้องพึ่งบิดามารดานะเจ้าคะ

 

แล้วก็ไม่บอก ว่ามียกเว้นเยอะ ก็ว่ากันไป

เดี๋ยวมีธุระ ต้องขอตัวก่อน

ว่าแต่ขอถา หน่อย "อัตตาหิ อัตตโน นาโถ" ในโลก กับ ในธรรม ภายนอก ภายใน นี่ต่างกันอย่างไร

 

ขออนุญาตคุณคุรุวาโร ก่อนนะคะ เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนิทาน

ขอตอบแบบสั้นๆ แล้วกันนะเจ้าคะ....ท่านถามมาเราตอบไป

ในทางโลก ก็คือ พึ่งพาตนเองด้วยแรงกายและแรงใจ กำลังสติปัญญาในการขวนขวายหาวิชาความรู้ทางโลก ขวนขวายหาทรัพย์มาเพื่อเลี้ยงชีพและผู้มีพระคุณ ด้วยสัมมาอาชีวะ แต่ตอนที่เรียนสอบตกวิชาศีลธรรมด้วยแหละ (เพราะไม่ได้เข้าห้องสอบ)

ขอถามก่อนว่าทำไมต้องแยกภายนอก-ภายใน ด้วยล่ะท่าน เพราะเราไม่เห็นว่ามันจะต่างกันตรงไหน ธรรมก็คือธรรมชาติ และธรรมชาติในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง แม่น้ำ ภูเขา ต้นไม้ ลำธารฯ ธรรมมีอยู่ก่อนนานแล้ว แต่เพราะคนเราถูกตัณหา อุปาทาน ปรุงแต่ง จึงทำให้มองไม่เห็น

"อัตตาหิ อัตตโนนาโถ" เป็นธรรมภายใน คือการพึ่งพาสติปัญญาแห่งตนให้ข้ามพ้นวัฏฏสงสาร อันเป็นปัญญาที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติ จากการเจริญวิปัสสนาจนรู้แจ้งในธรรมชาติทั้งปวง พิจารณาจนเห็นสัจจธรรมที่ไม่ได้เกิดจากสัญญา แต่เป็นธรรมชาติเดิมๆ ที่ทุกดวงจิตมีอยู่มาแต่เดิม ความเปลี่ยนแปลง ความดับไป ความเกิดขึ้น ล้วนแล้วเกิดจากเหตุปัจจัยทั้งสิ้น (ถ้าลงรายละเอียดมันจะยาวนะ) พอก่อนแล้วกัน เรื่องความแตกต่างพิจารณาเอาเองนะเจ้าคะ....เอวัง

ฟังนิทานต่อดีกว่า...

 

ที่แยกนั้นเพราะว่า ในโลก กับ ในธรรม นี่ต่างกันเลย

หากทุกคนมี "อัตตาหิ อัตตโน นาโถ" ในโลก นี้กันทุกคน ในโลกๆ

แล้ว "อัตถจริยา" จะเกิดขึ้นแก่ผู้นั้น ได้อย่างไร เพราะอะไรๆ ทุกคนก็พึ่งตนเองซะหมด

ส่วนภายใน คือธรรม ที่คุณกล่าวมาน่ะถูกแล้ว

เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว หากได้ฟังนิทานอะไรๆ ก็จะมิรู้ลืม

 

สาธุ และขอบคุณที่ให้ธรรมะเป็นทานนะเจ้าคะ

 

คุณ nouk แหม่มมีรูปมาให้ดูค่ะ น้องสาวส่งมาให้แนะนำด้วยค่ะ

 

...อืม..ใครมีตำรา...สอนเจ้าชู้เบื้องต้นบ้างครับ...ยกมือหน่อย...

...ขอบคุณคุณคุรุวาโร..ครับ....

 

องค์นี้ ชื่อ พระแม่ภัทรกาลี ค่ะ จะให้แนะนำเรื่องอะไรคะ?

 

รุ่นนี้ ยังต้องใช้ตำราอีกเหรอคะ

 

วันนี้แหม่มได้ทำบุญ โลงศพ และเครื่องกรองน้ำให้สถานปฏิบัติธรรม
รวมทั้งทำบุญถมดินสร้างสถานปฏิบัติธรรม เพื่อนร่วมโมทนาบุญกันนะค่ะ

 

วิธีบูชาเหมือนกันหรือเปล่าค่ะ

 

ส่วนใหญ่เหล่าปรมาจารย์ ก็จะกล่าวรัยทำนองนี้แหละค่ะคุณnouk
ต้องมีคู่มือบ้างอ่ะ ตำราบ้างละ

 

...ไม่มีตนสอนภาคปฏิบัติ...ขอยึดตำราไว้ก่อนครับ...

...วันนี้คุ้มครับที่เข้ามาอ่านกระทู้ ระหว่างคุณ NOUK กับ คุณหม้อหุงข้าว..

...เหมือนไปวัดที่มีการเทศน์ 2 ธรรมาสน์ เลยครับ...(good)

 

...ให้เกียรติเกินไปแล้วครับ...คุณmam7734...ผมยังอยู่ระดับที่ไม่เข้าอนุบาลเลยครับ...

 

เช่นกัน ดีแล้วๆ เป็นหนึ่งคือ แก้วสามประการ
มะม่วงก็จะมิรู้หาว มะนาวก็จะมิรู้โห่

นึกว่ารีบหลบก่อนเลย หากฟังเพลงคนธั้น..! คนนั้น

ไม่เห็นจะบอกหม้อหุงข้าว โมทนาเลยครับ

-------​

นี่แหละ โปสแมน..! ตำราเบื้องต้น ห้ามลอกเลียนแบบ

 

ขอร่วมอนุโมทนาด้วยค่ะ สา...ธุ

 

การเปิดรับ ก็คือ การแสดงให้ท่านเห็นว่าเรารับทราบว่ามีท่านอยู่ด้วยค่ะ โดยการจุดธูปกล่าวคำบูชาเฉพาะองค์ แล้วก็ใส่บาตรผ่านถึงค่ะ ต้องเอ่ยชื่อท่าน ของที่ใส่บาตรจะต้องใส่ลงในบาตรนะคะ ใส่ย่ามไม่ได้ เพราะบาตรถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ และสิ่งของที่ใส่ลงไปนั้น ท่านไม่ได้นำไปรับประทานนะคะ เพราะว่าท่านเป็นทิพย์ แต่ท่านจะนำไปทำบุญกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกที เท่ากับได้บุญสองเด้งค่ะ

 

ถ้าไม่ใช่ เทวดาประจำตัวของเรา ไม่แนะนำให้บูชาค่ะ เพราะแทนที่จะให้คุณกลับให้โทษ และวิธีบูชาก็ต่างกันค่ะ

 

สาธุ เป็นข่าวดีจริงๆ ค่ะ แสดงว่าหนทางเหลืออีกไม่ไกลแล้ว
ดีใจจัง จะได้ฟังนิทานพญานาค ณ เมืองกาญจน์ หลังสงกรานต์...