ทำไมพระอรหันต์หัวเราะได้ ร้องไห้ได้ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 4 กรกฎาคม 2012.

  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ปัญญาของกัลยาณปุถุชนห่างไกลแสนไกลฯ

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๓๑ หน้าที่ ๓๒๒/๓๖๔
    ปัญญาของกัลยาณปุถุชนห่างไกลแสนไกลไม่ใกล้ไม่ชิดกับปัญญาของบุคคลที่ ๘ พระอรหันต์ เมื่อเทียบกับกัลยาณปุถุชน
    บุคคลที่ ๘ มีปัญญาไม่ใกล้ ปัญญาของบุคคลที่ ๘ ห่างไกลแสนไกล ไม่ใกล้ ไม่ชิดกับปัญญาของพระโสดาบัน เมื่อเทียบกับบุคคลที่ ๘
    พระโสดาบันมีปัญญาไม่ใกล้ปัญญาของพระโสดาบันห่างไกลแสนไกล ไม่ใกล้ไม่ชิดกับปัญญาของพระสกทาคามี เมื่อเทียบกับพระโสดาบัน
    พระสกทาคามี มีปัญญาไม่ใกล้ปัญญาของพระสกทาคามีห่างไกลแสนไกล ไม่ใกล้ ไม่ชิดกับปัญญาของพระอนาคามีเมื่อเทียบกับพระสกทาคามี
    พระอนาคามีมีปัญญาไม่ใกล้ ปัญญาของพระอนาคามีห่างไกลแสนไกล ไม่ใกล้ ไม่ชิดกับปัญญาของพระอรหันต์ เมื่อเทียบกับพระอนาคามี
    พระอรหันต์มีปัญญาไม่ใกล้ ปัญญาของพระอรหันต์ห่างไกลแสนไกล ไม่ใกล้ ไม่ชิดกับปัญญาของพระปัจเจกพุทธเจ้า เมื่อเทียบกับพระอรหันต์
    พระปัจเจกพุทธเจ้ามีปัญญาไม่ใกล้ เมื่อเทียบกับพระปัจเจกพุทธเจ้าและโลกพร้อมทั้งเทวโลก
    พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเป็นผู้เลิศ ทรงมีปัญญาไม่ใกล้ ทรงฉลาดในประเภทแห่งปัญญา
    ทรงมีญาณแตกฉาน ทรงบรรลุปฏิสัมภิทา ทรงถึงเวสารัชชญาณ ๔ ทรงพละ ๑๐ ทรงเป็นบุรุษองอาจ
    ทรงเป็นบุรุษสีหะทรงเป็นบุรุษนาค ทรงเป็นบุรุษอาชาไนย ทรงเป็นบุรุษนำธุระไป
    ทรงมีพระญาณหาที่สุดมิได้ ทรงมีพระเดชหาที่สุดมิได้ ทรงมีพระยศหาที่สุดมิได้ ทรงเป็นผู้มั่งคั่ง
    ทรงมีทรัพย์มาก ทรงมีอริยทรัพย์ ทรงเป็นผู้นำ ทรงเป็นผู้นำไปให้วิเศษ ทรงนำไปเนืองๆ ทรงบัญญัติ
    ทรงพินิจ ทรงเพ่ง ทรงให้หมู่สัตว์เลื่อมใส แท้จริงพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นทรงยังมรรคที่ยัง
    ไม่เกิดให้เกิดขึ้น ทรงยังมรรคที่ยังไม่เกิดพร้อมให้เกิดพร้อม ตรัสบอกมรรคที่ยังไม่มีใครบอก
    ทรงรู้จักมรรค ทรงทราบมรรค ทรงฉลาดในมรรค ก็แหละพระสาวกทั้งหลายในบัดนี้ และที่จะมีมา
    ในภายหลัง ย่อมเป็นผู้ดำเนินไปตามมรรค
     
  2. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    <DL><DD>อรรถกถาฆฏิการสูตร</DD></DL><DL><DD>ฆฏิการสูตรมีคำเริ่มต้นว่า ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้:-</DD></DL><DL><DD>พึงทราบวินิจฉัยในฆฏิการสูตรนั้นดังต่อไปนี้ บทว่า สิตํ ปาตฺวากาสิ</DD></DL>ทรงกระทำความแย้มพระโอษฐ์ให้ปรากฏ ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรง
    ดำเนินไปโดยมหามรรคา ทรงตรวจดูภูมิประเทศแห่งหนึ่ง แล้วทรงรำพึงว่า
    เมื่อเราประพฤติจริยาอยู่ เคยอยู่ในที่นี้บ้างหรือหนอ ดังนี้ ทรงเห็นว่า เมื่อ
    ศาสนาพระกัสสปพุทธเจ้า ที่นี้เป็นนิคมชื่อว่า เวภัลลิคะ๑ ในกาลนั้น เรา
    เป็นมาณพชื่อ โชติปาละ เรามีสหายเป็นช่างหม้อชื่อ ฆฏิการะ เรากับนาย
    ฆฏิการะนั้นได้กระทำเหตุอันดีไว้อย่างหนึ่งในที่นี้ ความดีนั้นยังปกปิดอยู่ ยัง
    ไม่ปรากฏแก่ภิกษุสงฆ์ เอาเถิด เราจะกระทำเรื่องนั้นให้ปรากฏแก่ภิกษุสงฆ์
    ทรงดำริดังนี้แล้ว ทรงหลีกออกจากทางประทับยืนอยู่ ณ ประเทศหนึ่งเทียว
    ทรงกระทำความแย้มพระโอษฐ์ให้ปรากฏ ทรงแย้มพระโอษฐ์. พระพุทธเจ้า
    ทั้งหลายย่อมไม่ทรงพระสรวล เหมือนอย่างพวกมนุษย์ชาวโลกีย์ ย่อมตีท้อง
    หัวเราะว่า ที่ไหน ที่ไหน ดังนี้. ส่วนการยิ้มแย้มของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
    ปรากฏเพียงอาการยินดีร่าเริงเท่านั้น.

    อนึ่ง การหัวเราะนั้นมีได้ด้วยจิตที่เกิดพร้อมด้วยโสมนัส ๑๓ ดวง.
    ในบรรดาจิตเหล่านั้น
    มหาชนชาวโลกย่อมหัวเราะด้วยจิต ๘ ดวง คือ โดยอกุศลจิต ๔ ดวง
    โดยกามาวจรกุศลจิต ๔ ดวง.
    พระเสกขบุคคลย่อมหัวเราะด้วยจิต ๖ ดวง นำจิตที่สัมปยุตด้วยทิฏฐิฝ่ายอกุศล
    ออก ๒ ดวง.
    พระขีณาสพย่อมยิ้มแย้มด้วยจิต ๕ ดวง คือ ด้วยกิริยาจิตที่เป็น
    ๑. ฉ เวคะลิงคะ. สี. เวหลิงคะ.สเหตุกะ ๔ ดวง ด้วยกิริยาจิตที่เป็นอเหตุกะ ๑ ดวง.
    แม้ในจิตเหล่านั้นเมื่ออารมณ์มีกำลังมาปรากฏย่อมยิ้มแย้มด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยญาณ ๒ ดวง.
    เมื่ออารมณ์ทุรพลมาปรากฏ ย่อมยิ้มแย้มด้วยจิต ๓ ดวง คือ ด้วยทุเหตุกจิต ๒
    ดวง ด้วยอเหตุกะ ๑ ดวง. แต่ในที่นี้ จิตที่เกิดพร้อมด้วยโสมนัสอันเป็นมโน
    วิญญาณธาตุฝ่ายกิริยาอเหตุกจิตทำให้ความหัวเราะเพียงอาการยินดีร่าเริงให้เกิด
    แต่ภวังค์เท่านั้น.

    อนึ่ง ความแย้มนี้นั้น ถึงมีประมาณเล็กน้อยอย่างนี้ ก็ได้ปรากฏแก่พระเถระ.
    ถามว่า ปรากฏอย่างไร. ตอบว่า ธรรมดาในกาลเช่นนั้น
    เกลียวรัศมีมีประมาณเท่าต้นตาลใหญ่ รุ่งเรืองแปลบปลาบประดุจสายฟ้ามีช่อตั้ง
    ๑๐๐ จากพระโอษฐ์ ประหนึ่งมหาเมฆที่จะยังฝนให้ตกในทวิปทั้ง ๔ ตั้งขึ้นจาก
    พระเขี้ยวแก้วทั้ง ๔ กระทำประทักษิณพระเศียรอันประเสริฐ ๓ รอบ แล้วก็
    อันตรธานหายไป ณ ปลายพระเขี้ยวแก้วนั่นแล. เพราะเหตุนั้นท่านพระอานนท์
    ถึงจะเดินตามไปข้างพระปฤษฎางค์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็ทราบถึงความ
    แย้มพระโอษฐ์ด้วยสัญญานั้น

    อรรถกถา ฆฏิการสูตร - วิกิซอร์ซ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2012
  3. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    บทความบางตอน ภเวสิสูตร

    ในความเห็น ถ้าหัวเราะ กั๊กๆ เอิ๊กอ๊าก น้ำตาไหล คงไม่ใช่วิสัย

    เพราะเป็นการหัวเราะแบบ จิตมีโลภะ ซึ่งไม่เกิดแล้วแก่พระอริยะเจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กรกฎาคม 2012
  4. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    ไม่ไปคาดเดาอริยะวิสัย น่ะดีที่สุดแล้ว น้องโหน่ง กั๊กๆ เอิ๊กๆ
     
  5. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    อนึ่ง การหัวเราะนั้นมีได้ด้วยจิตที่เกิดพร้อมด้วยโสมนัส ๑๓ ดวง.
    ในบรรดาจิตเหล่านั้น
    มหาชนชาวโลกย่อมหัวเราะด้วยจิต ๘ ดวง คือ โดยอกุศลจิต ๔ ดวง
    โดยกามาวจรกุศลจิต ๔ ดวง.
    พระเสกขบุคคลย่อมหัวเราะด้วยจิต ๖ ดวง นำจิตที่สัมปยุตด้วยทิฏฐิฝ่ายอกุศล
    ออก ๒ ดวง.
    พระขีณาสพย่อมยิ้มแย้มด้วยจิต ๕ ดวง คือ ด้วยกิริยาจิตที่เป็น
    ๑. ฉ เวคะลิงคะ. สี. เวหลิงคะ.สเหตุกะ ๔ ดวง ด้วยกิริยาจิตที่เป็นอเหตุกะ ๑ ดวง.
    แม้ในจิตเหล่านั้นเมื่ออารมณ์มีกำลังมาปรากฏย่อมยิ้มแย้มด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยญาณ ๒ ดวง.
    เมื่ออารมณ์ทุรพลมาปรากฏ ย่อมยิ้มแย้มด้วยจิต ๓ ดวง คือ ด้วยทุเหตุกจิต ๒
    ดวง ด้วยอเหตุกะ ๑ ดวง. แต่ในที่นี้ จิตที่เกิดพร้อมด้วยโสมนัสอันเป็นมโน
    วิญญาณธาตุฝ่ายกิริยาอเหตุกจิตทำให้ความหัวเราะเพียงอาการยินดีร่าเริงให้เกิด
    แต่ภวังค์เท่านั้น.



    น้าปราบ

    ที่แสดงออกอยู่นี้ เกิดจากเหตุถูกไหม ^^

    คงไม่มีใคร อยู่เฉยๆก็หัวเราะ ร้องไห้
     
  6. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    อะไรอะไรก็เกิดแต่เหตุน่ะล่ะ

    ปัญหามันอยู่ที่ว่า ไปอุปาทานเข้ามาเป็นตน ตัวตน ของตนหรือเปล่า

    ทำไมตำราจึงกล่าวว่าว่า พระอรหันต์ มีเพียงกิริยาจิต

    เพราะอุปาทานในกิริยาจิตไม่มีแล้ว
    สนทนาคุยไป โต้ตอบไป ก็เป็นเรื่องของโลก

    ยิ่งพุทธวิสัยแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ยิ่งไม่ควรนำมาคิด
    เพราะไม่สามารถรู้ได้
     
  7. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ไม่ได้กล่าวเรื่องพุทธวิสัยเลย นี้กล่าวแต่เหตุอาการ ยิ้ม หัวเราะ

    งั้นใกล้เข้ามาอีกหน่อย

    เคยสังเกตุมันบ้างไหม ขณะที่หัวเราะอยู่นั้น เกิดจากเหตุใด ธรรมใดปรากฏอยู่
     
  8. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    เคียงๆให้ดูเฉยๆ เรื่องพุทธวิสัย

    เหตุมันจะมีอะร๊าย มีแต่รูป จิต เจตสิก หุหุ

    ไหนไหนก็ไหนๆ น้องโหน่ง ลองเรียงให้ดูหน่อยได้ป่าว


    เอ๊า ขอเพิ่มตัวละครหน่อย
    สมมุติว่า
    ปราบ เรียก ยอดคะน้า ว่า ไอ้ถ่อย ไอ้ถ่อย

    ทีนี้ น้องโหน่งว่า ปราบเรียกยอดคะน้าว่าไอ้ถ่อย ไอ้ถ่อย นั้น
    เกิดจาก จิต เจตสิก อะไรประกอบบ้าง
     
  9. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    ปรมัตถธรรม รู้ที่ สติปัฏฐาน 4 ทั้งหมด

    แต่เราสงสัย และปัญหามากกันจัง
     
  10. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    อาซิ๊ม อาซิ๊มก็คิดเสียว่า ก็สนทนาตามสะดวก

    ปวดอึก็ไปขี้ :cool:
     
  11. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    พูดกันที่จิตปุถุชนนะ

    หาก ยอดคะน้าไม่รู้จักปราบ แล้วเรียกไอ้ถ่อย

    จิตขณะนั้น เป็นโทสะ

    เพราะคนที่เรียกอย่างนั้นได้ ต้องมีความโกรธ ความไม่พอใจ ความขุ่นใจ


    หรือ ยอดคะน้ารู้จักกับน้าปราบ แล้วเรียกไอ้ถ่อย

    จิตขณะนั้น เป็นโทสะ

    เพราะคนที่เรียกอย่างนั้นได้ ต้องมีความโกรธ ความไม่พอใจ ความขุ่นใจ ปฏิฆะ อาฆาต




    หรือ ยอดคะน้ารู้จักกับน้าปราบ แล้วเรียกไอ้ถ่อย

    จิตขณะนั้น เป็นโลภะ

    เพราะคนที่เรียกอย่างนั้นได้ อาจเพียงแค่ล้อเล่น หยอกเล่น

    เวทนาขณะนั้น เป็นโสมนัท แซวเอามันส์



    ต้องดูเหตุครับ
     
  12. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    อ่า ทีนี้ พระไตรปิฎก มีพระอรหันต์ท่านนึง
    ท่านก็เรียกผู้อื่นว่า ไอ้ถ่อย เป็นประจำ

    เอ๊า น้องโหน่งว่า คำว่าไอ้ถ่อย ในพระอรหันต์ เป็นยัง

    จะเรียง เป็นรูป จิต เจตสิก ยังไง
     
  13. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    สะดวกนี้ ไปสนทนา กับเจ้ ที่ 7 11 ไหมล่ะ

    แต่เจ้ ไม่ไปหรอก นั่งขี้อยู่ ไอ้ถ่อย คะน้า อะเหอๆๆๆๆ
     
  14. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ก็นึกแล้วว่าต้องถามทำนองนี้

    พระสารีบุตร ท่านก็ถกจีวรกระโดดข้ามน้ำ

    พวกนี้เป็น ความเคยชิน ดองไว้หลายภพชาติ ซึ่งท่านเคยเกิดเป็นวานรมาก่อน

    นี่นอกเรื่องไปเรื่องแล้ว น้าปราบ ^^
     
  15. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    หุหุ ดูดีดีล่ะ อย่าใช้แบบมีปีก แทน ทิชชูละกาน :cool:
     
  16. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    น้าปราบ อ่านโพสแรกนายหลง ในกระทู้นี้หรือยังครับ

    เรื่องมหาปรินิพานสูตร

    ท่าทีพระอริยะ กับท่าทีผู้ข้องกาม ในเรื่องธรรมสังเวธ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กรกฎาคม 2012
  17. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    ไม่นอกเรื่องหรอก

    ลองดูดิ ทีนี้

    พระอรหันต์ท่านเรียกคำว่า ไอ้ถ่อย

    ปราบก็เรียก ยอดคะน้าว่าไอ้ถ่อย

    สะกดเหมือนกัน ออกเสียงเหมือนกัน

    แต่ว่า ความต่างอยู่ที่ตรงไหน ของ รูป จิต เจตสิกที่เกิดขึ้น
     
  18. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    หลงเข้ามา มันตอบผิดว่ะ พระอรหันต์ ยังละอนุสัยไม่ได้อีกเหรอ

    อายเขาไหม
     
  19. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ฟังไปเรื่อยๆก่อน ^^
     
  20. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    อธิบายความต่างอยู่ที่ตรงไหน ของ รูป จิต เจตสิกที่เกิดขึ้น

    ตามที่น้าปราบเข้าใจหน่อยสิ ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...