ใครเสีย ใครได้ จากกระแสภัยพิบัติ

เขียนมาตั้งเยอะยังไม่รู้อีกหรือว่าใครได้ ใครเสีย มารไงละ ที่ได้ และมนุษย์นี่แระ ที่เสีย เราโพสไว้ชัดเจนแล้วว่ามารจะได้อะไร และมนุษย์จะเสียอะไร ลองย้อนกลับไปอ่านดู แต่ไม่ใช่ไม่อ่านอะไร แล้วอยู่ๆโผล่มาแสดงว่าข้าก็แน่ ทั่งๆที่ไม่รู้อะไรเลย เวลาไม่มีหลักฐานก็บอกว่าเราพูดจาเพ้อเจ้อ แต่พอเอาหลักฐานมาให้ดู ก็หาว่าตีความไปเองคิดไปเอง ทั่งๆที่หลักฐานต่างๆ ก็มีอยู่ในโลกอินเตอเน็ตนี่แระ สืบค้นได้ไม่ยาก

 

โอ้ย ทั่งเปลืองตัว ทั่งโดนด่า ทั่งโดนหาว่าบ้า มีแต่พวกมือถือสากปากถือศีล เข้ามาแสดงความอวดรู้ ทั่งๆที่ไม่รู้อะไรเลย และเราก็ไม่ได้หวังจะมาแจ้งเกิดจากกระทู้นี้อีกด้วย ถามคนที่รู้จักเราดูได้ ว่าเราอยู่ระดับไหน ฉนั้นคนที่มาพูดเรื่องธรรมมะกับเรา เราจึงขำเสียมากกว่า

 

วันนี้เห็นเมฆตอนพลบค่ำรูปร่างแปลกตา สวยดี เล่าสู่กันฟังเผื่อหายเมา เฮ้ย! เครียดกันนะครับ

สวยที่แปลก แปลกที่สวย

 

ยึดพระรัตนไตรไว้ให้มั่น ยึดแนวทางคำสอนของพระสายป่าวิปัสนากรรมฐาน เช่น หลวงปู่ดู่ หลวงปู่มั่น หลวงตาม้า แล้วพิจารณาในเรื่องของ อริยสัจสี่ เพื่อเป็นหนทางในการหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสาร ในที่สุด

 

เรื่องพระไตรปิฎกผมมิกล้าที่จะก้าวล่วงเพราะความรู้แค่หางอึ่ง
แต่ถ้าคนเรารักษาศีล 5 กรรมบท 10 ได้ ถือว่าไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว
ถ้าเพิ่มพรหมวิหารธรรมเข้าด้วย ยิ่งสุดยอด
หมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐานอยู่เป็นนิจ
ภัยต่าง ๆ มันก็แค่กรรมที่เราต้องเจอ
ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้วครับ

 

<TABLE id=post6279477 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175></TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_6279477 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->
<TABLE id=post6279477 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175></TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_6279477 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ unclean spirit
**ล่าสุดนี่ไงครับ กระทู้ฟ้ามืด ไม่ต้องมีหลักฐานมั้ง เห็นๆกันอยู่

ที่น่ากลัวคือมีการบิ้วให้ขายบ้านขายรถ ลาออกจากงาน แล้วหนีขึ้นเหนือ ขึ้นอิสาน
คนหลงเชื่อจนหัวปักหัวปำก็คงมีบ้าง คงจะมาพูดว่าไม่มีใครเสียหาย ทำนายผิดแล้วก็แล้วกันไปคงไม่ได้ นี่ยังไม่รวมมีการหลอกใ้ห้ทำบุญอีกนะครับ เห็นไหม? เสียเงินอีก เร่องชวนทำบุญทำได้ครับ ไม่มีใครว่า ก็บอกกันตรงๆ ว่าทำบุญสร้างนั่นนี่ แต่ไม่ใช่ว่าเอาเรื่องภัยพิบัติมาโยงกับการทำบุญ เล่นกับความหวาดกลัว อย่างที่บอกบางคนขายที่ขายทาง ซื้อของมาตุนเก้อ ขอยกโพสของ iseenew ที่พูดได้ตรงจุดมาอ้างอิง**
..เห็นด้วยกับคำตอบนี้ครับ..
และตามอ่านเอาเองละกันครับ** กระทู้นี้...เฉพาะผู้ที่ยินดีรับฟังคุณ?????...ขอเชิญเข้ามาสอบถามได้ที่นี่**lol<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>
เจตนาของกระทู้นี้ ดิฉันต้องการให้ทุกคนรับรู้ข้อมูลทุกด้าน
คุณ unclean spirit ตอบโจทย์ได้ตรงค่ะ
คือปัจจุบันนี้ คนเราชอบฟังความข้างเดียว
ตื่นตูมไปเสียทุกอย่าง
ใครมีข้อมูล หลักฐานอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์กับเพื่อนสมาชิก
และสาธารณชน แบ่งปันกันบ้างค่ะ
แต่ไม่อยากให้ใครด่าใครเสีย ๆ หาย ๆ นะค่ะ
เล่นกันตามเกมส์ มีหลักฐานชัดเจน
มีตัวอย่างอ้างอิงยิ่งเป็นประโยชน์ค่ะ
ขอบคุณอย่างสูง
</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE id=post6279477 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175></TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_6279477 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->

</TD></TR></TBODY></TABLE> คุณ ธรรมะปัญญา เดือดร้อนอะไรหรือเปล่าครับ เจตนารมณ์ของเจ้าของกระทู้ ก็บอกอยู่แล้ว ว่าต้องการรับรู้ข้อมูลทุกด้าน แม้แต่เรื่องพระไตรปิฏกที่บิดเบือน ก็มีต้นเหตุมาจากมาร เรื่องภัยพิบัติ ก็เกิดจากมาร คนที่ได้ประโยชน์คือมารซึ่งมีตัวตนจริงๆอยู่ในอีกมิติ และคนที่เสียหาย ก็คือมนุษย์ ที่หมกหมุน อยู่แต่ข่าวภัยพิบัติ ทำให้จิตตก ส่งจิตออกนอก ไปให้มารมีกำลังกล้าแข็งขึ้น ถ้าคุณ ไม่อยากรับรู้ก็อย่ามาอ่านสิครับ เพราะยังมีคนที่เขาอยากรู้อยู่อีกมาก และเราก็เห็นว่าเรื่องนี้มีประโยชย์ ยังมีคนเข้าใจคลาดเคลื่อน จึงออกมาอธิบาย แต่คุณอย่ามาใช้ความรู้สึกส่วนตัว ตัดสิน คนอื่นเลยครับ วิธี บริโภคข่าวภัยพิบัติ โดยปลอดภัย ก็คือ ให้ใช้หลักกาลามสูตร อ่าน หรือ รับรู้ แลัววางอุเบกขา อย่าคิดต่อ หรือถ้ามีลูกแก้วจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ หรือหลวงตาม้า พกติดตัวไว้ และใช้บทสวดพระจักรพรรดิ์ เป็นประจำ แค่นี้ ทุกท่านก็จะปลอดภัย จากมารแล้วละครับ

 

ข้อสงสัยนี้กระทบใครกราบขออภัยเป็นอย่างสูงสุดๆ นะครับ
ไม่มีเจตนาไปว่าหรือปรามาสใคร
ผมเคารพความคิดของแต่ละท่าน
และผมอนุโมทนากับจิตอันเป็นกุศลของทุกท่านเช่นกัน

เห็นหลายท่านมีโครงการจัดสถานที่ปลอดภัย
โดยมีสายบุญร่วมทำบุญในการสร้าง
จิตฝ่ายอกุศล ผมจึงคิดไปว่า ถ้าไม่มีภัยพิบัติเกิดขึ้น
แล้วสิ่งต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ จะเป็นของใคร อะไร ยังไง ????

แต่จิตกุศลก็คิดตามว่า
เออ... ทุกที่ล้วนเป็นวัด หรือสำนักสงฆ์
ถ้าไม่มีภัยเกิดขึ้นจริง อนาคตอาจเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่เตรียมไว้ยังเป็นประโยชน์ต่อพุทธศาสนาสืบต่อไป

อนุโมทนากับจิตอันเป็นกุศลของทุกท่านครับ

 

จิตอกุศลของผมก็อยากทราบเช่นกัน หากมีภัยเกิดขึ้นในระดับมหันตภัยล้างโลก ฟ้าถล่ม ดินทลาย ภูเขาไฟระเบิด ฯลฯ
จะรู้ได้อย่างไรว่าสถานที่นั้นๆปลอดภัยจริง? เอาข้อมูลอะไรเป็นตัวชี้วัด? หรือเชื่อความรู้สึกที่นึกคิดกันเอง

ส่วนจิตกุศลของผมทราบแต่เพียงว่า คนเราหากถึงคราวต้องจากโลกนี้ไป จะดิ้นรนแค่ไหนก็ไม่มีทางหนีพ้น

 

ถ้าระดับมหันตภัยล้างโลก ฟ้าถล่ม ดินทลาย ภูเขาไฟระเบิด ฯลฯ
ไม่ต้องหาสถานที่ปลอดภัยหรอกครับ
สวดมนต์ภาวนา ดูแลครอบครัว
แล้วจงภาคภูมิใจว่า
เออ... เรามันก็โชคดีเข้าท่าเหมือนกันนะ
ได้มีโอกาสเห็นมหันตภัย ฟ้าถล่ม ดินทลาย
*** ภูมิใจจัง ***

:boo::boo::boo:

 

เฮ้ออ.....หน้าสุดท้ายของกระทู้ ถูกมั่วจนเละเลย สงสารจขกทจัง....มีสติกันหน่อยครับท่านผู้ทรงภูมิทั้งหลาย

 

ใจเย็น ๆ ครับพี่น้อง ง ง ง ง ง

ผมว่าเอาความคิดต่างของแต่ละท่าน
มาประกอบความรู้ดีกว่าครับ
ส่วนที่ว่าจะจริง ไม่จริง เชื่อไม่เชื่อ อยู่ที่เรา
สาดน้ำใส่กัน เปียกทั้งสองคน
โปรยยิ้มให้กัน สดชื่นทั้งวันดีกว่าครับผม

(deejai)yimm:VO;ปรบมือ

 

เมื่อวันนั้นมาถึง เราคงจะไม่มีโอกาสมานั่งพิมพ์โต้ตอบกันแบบนี้อีกแล้ว การติดต่อทุกอย่างจะถูกตัดขาด
หมั่นเจริญในธรรมให้มากๆ และสะสมองค์ความรู้ในการดำรงชีวิตแบบโบราณตั้งแต่นี้เป็นต้นไปดีกว่าครับ

 

พวกที่ตาสว่างน่ะไม่ห่วงครับ แต่พวกที่ยังหลงชาบูๆ ขนาดผิดซ้ำๆ หรือใช้กลเม็ดเดิมๆแต่ก็ดูกันไม่ออกนี่ไม่รู้จะช่วยยังไงดี

ปล. แต่ก็คงเป็นธรรมดาที่มีคนเชื่อก็ย่อมมีคนไม่เชื่อ จะเชื่อทั้งหมด หรือไม่เชื่อทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ (ยกเว้นกรณีที่พิสูจน์ได้ชัดเจน อย่างโลกกลม ตอนนี้คงไม่มีใครคิดว่าโลกแบนหรอกมั้ง)
(ช่วงนี้พยายามปล่อยวางอยู่ครับ พระท่านเพิ่งเทศน์ให้ฟังว่า "คนจะดี จะชั่ว ก็ไม่ต้องไปว่าเขา" ถ้าแต่ก่อนคงทำได้ยากเพราะเห็นอะไรไม่เหมาะสมก็ชอบเตือนชอบทักไปทั่ว แต่พอมีกระทู้นี้ก็สบายใจขึ้นบ้างว่าคนที่ไม่เชื่ออะไรทันทีโดยขาดการพิจารณาก็ยังมีอยู่)

 

ปรากฎว่า.... รู้ตัวอีกทีอายุจะ 60 แล้วยังไม่มีอะไรเกิดเลย นอกจากน้ำท่วมภาคกลางแบบปีก่อน

อุตส่าห์เตรียมการไว้ตั้งเยอะ หมดเงินไปก็แยะ

(สมมุตินะครับ สมมุติ...)

 

อือ เท่าที่เห็นมีแต่การเตรียมตัวของใครของมัน แต่ยังไม่เห็นว่าจะมีการจัดการในเรื่องระบบอย่างไร จะช่วยผู้อื่นอย่างไร(มีแต่ตัวเองจะรอดได้ยังไง)
อยากให้ลองไปศึกษาประเทศที่เกิดภัยพิบัติบ่อยเช่น ญี่ปุ่น ครับ ผมว่าการซักซ้อมอย่างต่อเนื่อง เวลาเกิดภัยขึ้นมาจะทำให้มีสติ คนไม่เหยียบกันตาย ช่วยเหลือกันได้เป็นระบบ(ไม่เหมือนน้ำท่วมครั้งก่อนที่ของบริจาคกองรวมกัน ไม่ได้ใช้ บางส่วนดันจมน้ำ หรือมีคนโกงของบริจาค)

ปล. แต่โดยส่วนตัวก็ไม่คิดว่าเมืองไทยจะต้องตื่นตัวแบบญี่ปุ่นหรอก บ้านเราปลอดภัยกว่าเค้ามากนัก

 

เออ ขอนอกเรื่องหน่อย

ที่เคยบอกว่าพระไตรปิฎกไม่ผิดเพี้ยน พอดีพระท่านหนึ่งได้เมตตาเล่าให้ฟังว่า(จำได้คร่าวๆ หากผิดก็ขออภัย แค่อยากเล่าสู่กันฟัง)

...หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน การรวบรวมคำสอนต่างๆยังไม่มีการบันทึกเป็นอักษร อาศัยปฏิสมภิทาญาณจดจำ(ใช้ญาณ ไม่ได้ใช้สมองจำตำราแบบพวกเรา) อาจเป็นบทสวด เช่น โอวาทปาฏิโมกข์ เป็นต้น หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานได้ 500 ปี พระอรหันต์ที่มีปฏิสัมภิทาญาณแทบไม่มี(ตอนนี้หรือหลังจากนี้ก็ไม่มีแล้ว แม้แต่หลวงปู่มั่นก็ยังไม่ถึงขึ้นมีปฏิสัมภิทาญาณ) จึงมีการจดบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรขึ้นเป็นภาษาบาลี... พอมาแปลเป็นภาษาไทยก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้มีความเข้าใจตรงตามต้นฉบับ ลองนึกถึงหนังสือภาษาอังกฤษพอมาแปลเป็นไทย คนแปล 10 คนอาจแปลไม่เหมือนกันเลย หรือดูศัพท์ภาษาอังกฤษ คำเดียวมีความหมายตั้งหลายอย่างเป็นต้น ยิ่งเป็นเรื่องธรรมซึ่งเป็นนามธรรม เช่นเรื่องจิต การจะมาอธิบายให้เป็นรูปธรรมยิ่งยาก (เหมือนการอธบายว่ารสเค็มเป็นยังไงให้กับคนที่ไม่เคยกินเค็มเข้าใจนั่นแหละ) จึงอาจเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน อย่างสมัยหลวงปู่มั่นท่านก็ให้ยึดพระไตรปิฎกเฉพาะเรื่องศีล(เรื่องศีลเป็นเรื่องกาย วาจา ไม่ค่อยผิดเพี้ยน และมีการท่องปาฎิโมกข์ทุก 15 วัน จึงไม่ได้คลาดเคลื่อนมากนัก) ส่วนเรื่องธรรมท่านให้ปฏิบัติเองเห็นเองมากกว่า ไม่ให้ไปยึดติดกับหนังสือ

อย่างเรื่องยุคกึ่งพุทธกาลนี่ก็เป็นเพียงอรรถกถาที่มีคนมาพูดภายหลัง ซึ่งพุทธพจน์ไม่ได้กล่าวถึง พระพุทธเจ้ากล่าวเพียงว่า"ตราบใดที่ยังมีผู้ศึกษาและปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์อยู่ ตราบนั้นโลกก็จะไม่ว่างเว้นพระอรหันต์" ดังนั้นจึงอาจมีอายุมากกว่า 5 พันปี
ดังนั้นเรื่องภัยพิบัติกึ่งพุทธกาลอะไรนี่ผมคิดว่ายังไม่มีหลักฐานอะไรมารับรองว่าจะเกิดนะ ยิ่งประเทศไทยก็เป็นดินแดนที่ปลอดภัยอยู่แล้วผมยิ่งเห็นว่าโอกาสน้อย จะเตรียมตัวไว้เพื่อไม่ประมาทก็ไม่เป็นไร แต่อย่าให้ถึงขั้นตื่นตูมหรือกลายเป็นกักตุนอาหารเหมือนตอนน้ำท่วมจนหาน้ำดื่มไม่ได้ก็แล้วกัน

 

เรื่องน้ำท่วมเตรียมไว้ก็ถูกต้องแล้วครับ เพราะยังไม่มีการป้องกันแก้ไขที่ชัดเจน
แต่คงไม่ต้องกังวลไปถึงขั้นเขื่อนจะแตก น้ำทะลักหรือท่วมสูงขนาดตึก 10 ชั้น ภายใน 2-3 ชม.

 

เห็นด้วยกับพี่นะครับเรื่องการเตรียมตัวของแต่ละบุคคล มีปัจจัยเท่าไรก็จัดไปให้สมควรตามสภาวะ ดีกว่าเวลามีภัยมาแล้วปัญญามืดบอด..แต่ถ้าหวังพึ่งระบบ ผมว่ายากครับพี่ สังคมไทยนิยมวีระบุรุษ ถึงเวลาเทวดาก็มาช่วย เหมือนหนังจักรๆวงศ์ๆในบ้านเรา (ผมก็ชอบนะครับ เกราะเพ็ชร์ 7 สี อยากได้สักชุดไว้กันพวกกระสุน .22lr จากกล้องระยะไกลได้ดี)

 

ทำไงได้ครับ คนที่เขาคิดจะหากินโดยไม่เกรงกลัต่อบาป
หากินกับความกลัว กับความศรัทธา
หากินง่ายที่สุดแล้ว
แต่คนที่ทำบุญ ทำด้วยใจบริสุทธิ์
แค่คิดทำ ก็เป็นกุศลแล้วครับ
ที่เหลือคือ กรรมใครก็กรรมเขาครับ

 

ตอนนี้ไม่ว่าใครก็เตือนเรื่องภัยพิบัติครับ

พระก็มี โยมก็มี

คนบางคนที่เตือนด้วยความหวังดีก็มี

คนที่ทำมาหากินบางคน เตือนเพื่อไม่ให้ตนเองตกกระแสก็มี

คนฟังต้องหัดพิจารณาให้ดี

ไม่ใช่เป็นพอเป็นคนเขื่อเรื่องเวรกรรม นรกสวรรค์ เสียแล้ว

แล้วใครจะอ้างสิ่งศักดิสิทธิ์

หรืออ้างพระอ้างเจ้า เราต้องเชื่อไปเสียหมด

จะกลายเป็นเหยื่อให้ถูกหลอกเอาเสียง่ายๆ


ถ้าเชื่อว่าเกิดวันนั้นวันนี้แน่นอน โดยเชื่อเพียงเพราะเขาว่า

โดยไม่พิจารณาให้ดีเสียก่อน

เรียกว่างมงาย

แต่ถ้าเชื่อว่าไม่มีภัยพิบัติ อย่างแน่นอน เรียกว่าประมาท

เพราะโลกก็ต้องตกอยู่ภายใต้กฎแห่งไตรลักษณ์ คือเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป