นิทาน เรื่อง "พญานาค"

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 31 ธันวาคม 2011.

  1. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ดาว*, nouk, mukmik


    ค่อยดีขึ้นหน่อย..แสดงตัวตนหมดแล้ว....ฮ่า..ฮ่า ว่าจะแว๊บ.บบบบ แล้วนะเนี่ยะ..นู๋กลัว.วววว
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    นู๋นุ๊ก..จะตะโกนทำไมจ๊า... ครูต๊กกะใจหมดเลยนะเนี่ยะ...:'(

    ป.ล. นู๋ก็ไม่ได้หายไปไหน.นนนนน แค่ไม่อยากมีตำแหน่งเท่านั้น เอง.งงงงงง (เสียงแอ๊คโค่ว.ววววว )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 สิงหาคม 2012
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ขอโทษค่ะคุงคู...นู๋...เก็บกด....คร้าาาาา

    สงสัย...สังสัย...ใครก็ได้ มาเฉลยหน่อยจิ...นู๋เห็นใครๆ เค้าก็ชวนกัน พากันไปกราบไหว้พระสงฆ์ อาจารย์ดัง

    เค้าบอกว่าพระองค์นั้น องค์นี้ องค์โน้น เป็นพระสุปฏิปันโน ควรไปกราบนะ

    ที่นี้ ความสงสัยของนู๋ ก็อยู่ตรงที่ว่า เวลาที่ไปกราบเนี่ย เค้ากราบอะไรกัน???
     
  4. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    ตามความคิดเห็นของครูนะจ๊ะ.. ทุกคนมีหนทางมีเส้นทางเดินของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แตกต่างกัน แต่ที่หมายปลายทาง..เหมือนกัน
    การใช้เวลาของแต่ละคน..ไม่รู้ว่ากี่ปี กี่ชาติภพ
    เค้าเห็นควรอย่างนั้น เช่นนั้น มันเป็นเรื่องของการเพิ่มพลังใจ ที่เค้ามีความศรัทธา มีความเชื่อ..จ้ะ

    ถ้าเรามีโอกาสได้แนะนำ หรือพาเค้าไป ให้เค้ามีพลังใจ มีความอิ่มเอมใจ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ควรยินดี.เป็นอย่างยิ่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 สิงหาคม 2012
  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ตอบไม่ตรงประเด็นคำถามค่ะ คุงคู

    นู๋ถามว่าไปกราบอะไรกัน เวลาที่ก้มลงกราบน่ะ กราบที่อะไร และเพราะอะไรถึงกราบ???
     
  6. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    .....กราบความเชื่อ..ความศรัทธา กราบด้วยกาย..เพื่อแสดงอาการแทนใจ
    ที่เค้ารู้สึกอย่างนั้น
    เหตุที่เชื่อหรือศรัทธา เพราะใจต้องการที่พึ่งที่ระลึก..
    พึ่งแค่ไหน..ขึ้นอยู่กับปัจจุบันกาลของคนนั้น ว่าทางเดิน..ได้มาถึงตรงจุดไหน
    ศีล สมาธิ ปัญญา หรือสนองกิเลส ตัณหาของตน..
    ครูก็แสดงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น..นะจ๊ะ
    อาจจะตอบไม่ตรงคำถามเท่าไร..เพราะครูพูดกลางๆ
    ด้วยว่า...ครูไม่มีพื้นฐานเรื่องราวของบุคคลที่นู๋กล่าวถึง..จ้ะ
     
  7. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    คนที่ครูรู้จัก..มีอยู่คนหนึ่ง ที่เค้าพากเพียรไปกราบพระสายปฏิบัติ(ธรรมยุติ) เป็นเวลานาน ๕-๖ ปี ได้มั้ง
    ไปครั้งหนึ่ง..ก็จะได้ความอิ่มเอมปีติใจมา หรือได้ข้อคิดข้อปฏิบัติมาไม่มากก็น้อย แต่ส่วนใหญ่จะได้มาน้อย
    เค้าก็บอกว่า..เค้าเป็นคนมีกรรมเยอะ ไม่เคยได้อะไรมาโดยง่าย..แต่เค้าก็ไม่ย่อท้อ ไปทั่วประเทศไทยก็ว่าได้ ยกเว้นภาคใต้..
    ปัจจุบัน ความรู้สึกตรงนั้นของเค้าเต็มแล้ว ก็จะไปเฉพาะในโอกาสพิเศษ..แต่ก็ยังติดพระสายป่าอย่างเดียว เหมือนเดิม..
     
  8. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    อ้าว..! แล้วนู๋เงียบไป..จะดัย หลับเหรอจ๊า...ครูยังไม่ได้อบรมซักกะหน่อย
    แค่คุยเฉยๆ นะเนี่ยะ...
     
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ก่อนที่จะวิสัชนาต่อไป ขอนำเรื่องอริยมรรค มาเล่าสู่กันฟังก่อนนะจ๊ะ

    อริยสัจจ์ข้อที่ 4 คือ หนทางที่จะนำไปสู่ความดับทุกข์ (ทุกฺข-นิโรธคามินีปฎิปทา-อริยสจฺจ) หนทางสายนี้เรียกว่า "ทางสายกลาง (มชฺฌิมา ปฏิปทา) เพราะงดเว้นจากข้อปฏิบัติที่เอียงสุด 2 ประการ

    ข้อปฎิบัติเอียงสุดอย่างแรก ได้แก่ การแสวงหาความสุขด้วยกามสุข อันเป็นของต่ำทราม เป็นของธรรมดา ไม่เป็นประโยชน์ และเป็นทางปฏิบัติของสามัญชน

    ข้อปฎิบัติเอียงสุดอีกอย่างหนึ่ง คือการแสวงหาความสุขด้วยการทรมานตนเองให้เดือดร้อน ด้วยการบำเพ็ญทุกกรกิริยาในรูปแบบต่างๆ อันเป็นการทรมานร่างกาย เป็นสิ่งไม่มีค่า และเป็นสิ่งไม่มีประโยขน์ ในเบื้องแรกนั้น

    พระพุทธองค์ได้ทรงทดลองปฏิบัติข้อปฏิบัติที่เอียงสุดทั้งสองประการนี้มาแล้ว ทรงพบว่าเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ จึงได้ทรงค้นพบทางสายกลางนี้ด้วยประสบการณ์ของพระองค์เอง ซึ่งเป็นทางที่ให้ทัศนะและปัญญาอันนำไปสู่ความสงบ ญาณ การตรัสรู้ และนิรวาณะ (พระนิพพาน) ทางสายกลางนี้โดยทั่วไปหมายถึง ทางมีองค์แปดประการอันประเสริฐ (อริยอฏฐคิกมคฺค)

    เพราะประกอบด้วยองค์ หรือส่วนประกอบ 8 ประการคือ
    1.เห็นชอบ (สัมมาทิฏิฐิ) (ปัญญา) ได้แก่ ความรู้อริยสัจจ์ 4 หรือ เห็นไตรลักษณ์ หรือ รู้อกุศลและอกุศลมูลกับกุศลและกุศลมูล หรือเห็นปฏิจจสมุปบาท โดยการเข้าใจชอบหรือเห็นชอบนั้นมีอยู่ 2 ประเภท คือ
    1.1 ความเข้าใจคือความรู้ ความเป็นพหูสูตร ความมีสติปัญญา สามารถรอบรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่งตามข้อมูลที่ได้มา ความเข้าใจประเภทนี้เรียกว่า "ตามรู้" (อนุโพธ) เป็นความเข้าใจที่ยังไม่ลึกซึ้ง
    1.2 ส่วนความเข้าใจที่ลึกซึ้งซึ่งเรียกว่า"การรู้แจ้งแทงตลอด" (ปฏิเวธ) หมายถึงมองเห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ตามสภาวะที่แท้จริง โดยไม่คำนึงถึงชื่อ และป้ายชื่อยี่ห้อของสิ่งนั้น การรู้แจ้งแทงตลอดนี้จะมีขึ้นได้ เมื่อจิตปราศจากอาสวะทั้งหลาย และได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์ด้วยการปฏิบัติสมาธิเท่านั้น

    2.ดำริชอบ (สัมมาสังกัปปะ) (ปัญญา) ได้แก่ ความตรึกที่เป็นกุศล ความนึกคิดที่ดีงาม กุศลวิตก 3 ประกอบด้วย
    2.1 ความตรึกปลอดจากกาม ความนึกคิดในทางเสียสละ ไม่ติดในการปรบปรือสนองความอยากของตน
    2.2 ความตรึกปลอดจากพยาบาท ความนึกคิดที่ประกอบด้วยเมตตา ไม่ขัดเคือง หรือ เพ่งมองในแง่ร้าย
    2.3 ความตรึกปลอดจากการเบียดเบียนด้วยกรุณาไม่คิดร้าย หรือมุ่งทำลาย)

    3.เจรจาชอบ (สัมมาวาจา) (ศิล) ได้แก่ วจีสุจริต 4 ประกอบด้วย
    3.1 ไม่พูดเท็จ
    3.2 ไม่พูดส่อเสียด
    3.3 ไม่พูดหยาบ
    3.4 ไม่พูดเพ้อเจ้อ

    4.กระทำชอบ (สัมมากัมมันตะ) (ศิล) ได้แก่ กายสุจริต 3 ประกอบด้วย
    4.1 ไม่ฆ่าสัตว์ 4.2 ไม่ลักทรัพย์ 4.3 ไม่ประพฤติผิดในกาม

    5.เลี้ยงชีพชอบ (สัมมาอาชีวะ) (ศิล) ได้แก่ เว้นมิจฉาชีพ ประกอบสัมมาชีพ

    6.พยายามชอบ (สัมมาวายามะ) (สมาธิ) ได้แก่ สัมมัปปธาน 4 ประกอบด้วย
    6.1 เพียรระวัง หรือเพียรปิดกั้น คือ เพียรระวังยับยั้งบาปอกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดมิให้เกิดขึ้น
    6.2 เพียรละ หรือเพียรกำจัด คือเพียรละบาปอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว
    6.3 เพียรเจริญ หรือเพียรก่อให้เกิด คือ เพียรทำกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ให้เกิดมีขึ้น
    6.4 เพียรรักษา คือ เพียรรักษากุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วให้ตั้งมั่น และให้เจริญยิ่งขึ้นไปจนไพบูลย์

    7.ระลึกชอบ (สัมมาสติ) (สมาธิ) ได้แก่ สติปัฏฐาน 4 ประกอบด้วย
    7.1 การตั้งสติกำหนดพิจารณากาย
    7.2 การตั้งสติกำหนดพิจาณาเวทนา
    7.3 การตั้งสติกำหนดพิจารณาจิต
    7.4 การตั้งสติพิจารณาธรรม

    8.ตั้งจิตมั่นชอบ (สัมมาสมาธิ) (สมาธิ) ได้แก่ ฌาน 4 ประกอบด้วย
    8.1 ปฐมฌาณ 8.2 ทุติยฌาน 8.3 ตติยฌาน 8.4 จตุตถฌาณ

    ทางปฏิบัตินั้น คำสอนทั้งหมดของพระพุทธองค์ที่ทรงอุทิศ พระองค์สั่งสอนในช่วงเวลา 45 ปีนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางสายกลางนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง พระองค์ทรงอธิบายทางสายนี้ โดยวิธิการ และใช้คำพูดที่แตกต่างกันไปตามความแตกต่างของบุคคลโดยให้สอดคล้องกับระดับ การพัฒนา และศักยภาพในการเข้าใจ และตามได้ทันของบุคคลเหล่านั้น แต่สาระสำคัญของพระสูตรหลายพันสูตรที่กระจายอยู่ในคัมภัร์ต่างๆ ของพุทธศาสนา ล้วนแต่มีเรื่องเกี่ยวกับมรรคซึ่งประกอบด้วยองค์แปดอันประเสริฐนี้ทั้งนั้น

    จะต้องไม่เข้าใจว่า องค์ หรือส่วนประกอบ 8 ประการของทางสายกลางนี้ ต้องนำไปปฏิบัติทีละข้อ โดยเรียงตามลำดับหมายเลขดังรายการที่ให้ไว้ข้างต้นนั้น องค์ต่างๆ เหล่านั้นจะต้องพัฒนาให้มีขึ้นพร้อมๆกันมากบ้าง น้อยบ้าง ตามแต่ขีดความสามารถของแต่ละบุคคลที่จะให้เป็นไปได้ องค์เหล่านี้ล้วนแต่เกี่ยวโยงกัน และแต่ละองค์ก็ช่วยส่งเสริมองค์อื่นๆไปด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2012
  10. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    1.2 ส่วนความเข้าใจที่ลึกซึ้งซึ่งเรียกว่า"การรู้แจ้งแทงตลอด" (ปฏิเวธ) หมายถึงมองเห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ตามสภาวะที่แท้จริง โดยไม่คำนึงถึงชื่อ และป้ายชื่อยี่ห้อของสิ่งนั้น การรู้แจ้งแทงตลอดนี้จะมีขึ้นได้ เมื่อจิตปราศจากอาสวะทั้งหลาย และได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์ด้วยการปฏิบัติสมาธิเท่านั้น

    ดวงตาเห็นธรรม..แสงสว่างทางปัญญา ไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน...มากบ้าง น้อยบ้าง หรือแทบไม่มีเลย..
    นั่นเป็นหนทางของแต่ละคน บางคนตกกระแสมรรค บางคนเพิ่งเริ่ม บางคนไม่คิดเริ่ม บางคนเดินทางแล้วแต่ยังไม่รู้ ฯลฯ
    นั่นเป็นหนทางเฉพาะตน..ที่หมายเดียวกัน...
    (ครูว่า..ปล่อยให้เป็นเรื่องธรรมดา เรื่องธรรมชาติ ไปละกัน..เนอะ)
     
  11. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    นู๋มุกมิก..ไม่มีอะไรคุยบ้างเหรอจ๊ะ..
    วันนี้พี่ดาวไม่รู้ว่าหยิบหัวโขน...อะไรมาใส่ ใจเย็น....เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ซะทีเดียวเชียว..
    (พี่เพิ่งรู้สึกว่า..หัวโขนรอบตัวเยอะเหลือเกิน ทั้งของตัวเอง และของคนอื่นที่มาสวมฉับเข้าให้ โดยที่ไม่รู้สึกตัว..)
     
  12. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ทีนี้ ก็มาพูดเรื่องการกราบพระสงฆ์กันนะ พระสงฆ์สาวกเราเชื่อกันว่าเป็นผู้สืบทอดพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ เวลาที่กราบ...เรากราบอะไร และได้อะไรในการกราบ

    พิจารณาตามความเป็นจริง ทุกคนล้วนเสาะแสวงหาที่ยึดเหนี่ยวทางใจ ในขณะที่จิตยังไมแข็งแรง ต้องมีหลักเพื่อไม่ให้เตลิดเปิดเปิง ไปในความหลุ่มหลง (อวิชชา) ก็เลยตระเวณหา ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ ดีทีเดียวเลยหละ ถ้าหาแล้วเจอ หาแล้วได้พบสมมติสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไ้ด้ทำบุญให้ทาน ได้แสดงสัมมาคารวะ

    เมื่อก่อนเราก็มีความคิดเหมือนกันที่จะต้องดั้นด้นค้นหาพระสุปฏิปันโน เื่พื่อไปกราบท่านให้ได้ ตามความเชื่อและศรัทธาทั้งของตนและกัลยาณมิตร แต่ทุกองค์ที่ตั้งใจพอไปถึงเหลือเีพียงสังขารของท่านเพราะได้มรณภาพไปแล้ว เช่น หลวงปู่บุดดา ถาวโร ถามว่ากำลังใจหายไปมั้ย สำหรับเราไม่ได้หายไปไหนเลย เราก็เข้าไปกราบสรีระอังคารของท่าน พร้อมทั้งน้อมจิตอธิษฐานว่า "ธรรมใดที่ท่านได้เข้าถึงแล้ว ขอให้ข้าพเ้จ้าได้เข้าถึงธรรมนั้น"

    จะเห็นได้ว่าเราจะเอ่ยถึงธรรมตลอด แล้วย้อนกลับมาถามว่า "แล้วธรรมเหล่านั้น อยู่ที่ไหน" ธรรมเหล่านั้นอยู่ที่สงฆ์ แล้วสงฆ์จริงๆ นั้นอยู่ที่ไหน? ถ้าตอบว่าอยู่ที่ "ใจ" จะพากันงงซะเปล่าๆ

    ทีนี้ อยากให้มองให้เห็นตามจริงขึ้นมาอีก ทุกครั้งที่กราบแต่ยังยึดติดตัวตนบุคคล รูปนาม นั่นผิดวัตถุประสงค์ของหลักพระพุทธศาสนา หากกราบแล้วระลึกน้อมนึกถึงธรรมแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงถูกหลักนะคุงคู

    คำสวดบูชาพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ทั้ง 3 คุณนี้ ล้วนหมายถึงองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งสิ้น พิจารณาให้ดีๆ ซิ
     
  13. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    คนเรามีสิทธิ์ที่จะมีหัวโขนได้มากอันค่ะพี่ดาว เพียงแต่...เวลาจะหยิบมาใส่นั้น
    ขอให้ใส่ทีละอันเป็นพอ (ห้ามใส่พร้อมกันเน้อ เดี่ยวยุ่ง อิอิ)

    ที่สำคัญ...ควรรู้ว่า เมื่อไหร่ควรสวม...และเมื่อไหร่ควรถอด (ห้ามใส่ข้ามคืน
    เพราะอาจทำให้ผมร่วงได้):cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2012
  14. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    นู๋นุ๊ก..มีปัญญาระลึกรู้เช่นนั้นได้ ก็เป็นสิ่งประเสริฐ..ขออนุโมทนาสาธุ ด้วยค่ะ..
     
  15. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    ช่วงนี้พี่กำลังปรับตัว(กายและใจ)..อยู่ ก็ด้วยเหตุที่ว่า..
    เริ่มจะมีหัวโขน..ของคนอื่น มาใส่ร่วมด้วยช่วยกัน..ซะแล้ว นี่สิ...

    ขออนุญาต..แว๊บ.บบบบ ก่อนละกัน...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 สิงหาคม 2012
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    มิกกี้ ฮาาาาา แตกจร้า...าาา ทุกวันนี้ไม่ได้สวม ผมยังร่วงเลยเพราะแ้พ้ยาสระผม อิอิ
     
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    วันอาทิตย์...ปิดถ้ำ งดรับแขกนะจ๊ะ

    ใครที่เข้ามากรุณาฝากข้อความ....ฮ่าฮ่า:cool:
     
  18. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    555...มีแต่แขกที่ไม่เปิดเผยตัวตน แวะเอาเรื่องราวมาฝาก...พอดีผ่านไปเห็นภาพน่ารักๆ ก็เลยร้อยเรื่องราวมาให้อ่านกันคร้า..าา

    นกน้อยทำรังเเต่พอตัว

    ความหมาย
    บุคคลที่กระทำการพอสมควรแก่ฐานะ หรือว่าความสามารถของตน

    ธรรมปฏิบัติ
    คน ที่ประพฤติตนเช่นนี้ ชื่อว่าปฏิบัติตาม "ทิฏฐธัมมิกัตถะประโยชน์" ข้อที่ว่า "สมชีวิตา" มีความเป็นอยู่เหมาะสม คือรู้จักกำหนดรายได้และรายจ่ายเลี้ยงชีวิตแต่พอดี มิให้ฝืดเคือง หรือใช้จ่ายมากเกินกว่ารายได้ รู้จักประหยัดเก็บออม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. saekue20

    saekue20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +757
    สวัสดียามเที่ยงคร้าบ
    มีความฝันมาเล่า ครับ เมื่อคืนฝันว่าได้ซื้อ นม และ ขนม ตักบาตรพระภิกษุและสามเณรน่าจะ 6-7 รูปได้ เมื่อตักบาตรเสร็จ ปรากฏว่าเหลือ นม อีกหนึ่งกล่องอยู่ในกระเป๋าเสื้อ เลยถวายให้ สามเณรอีกหนึ่งรูป แล้วก็อธิฐาน จบแล้วคร้าบ
     
  20. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    สวัสดีทุกท่าน ทุกนามค่ะ...

    สมาธินิ่งและดีมาได้สองวันติดแล้ว สงบ ว่างเปล่า มีบ้างที่วอกแวก แต่น้อยมากค่ะ

    ไม่โงกเหมือนเมื่อก่อน ก้าวหน้าขึ้นมานิดนึงค่ะ ฝันแต่จำไม่ได้อีกแล้ว มันจำได้แบบไม่ปะติดปะต่อ ไม่สามารถเล่าได้ค่ะ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...