พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    1.เรื่องนั่งชันเข่ายังไม่มีคำตอบ แต่ดูจากสายเทพทางฮินดู ส่วนใหญ่จะนั่งชันเข่ากันหลายองค์ ได้เห็นรูปท่านแบบบูชา สูงราว 1 ฟุต เม็ดประสาน พราวไปหมด งามขนาด ก็นั่งชันเข่าเหมือนกัน พลังผู้เสกไม่ต้องพูดถึงเข้าพิธีเดียวกันกับจตุคามฯ องค์น้อยขนาด 2 ซ.ม. คือกันครับในพิธี 2447
    2.ปัญหาเรื่องการเสกพระ ถามว่าพระมวยหมู่เช่นพิธีต่างๆ หรือพิธีพุทธาภิเษกพระพิมพ์ในภายหลังที่่บางคนบอกว่าเอารูปท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ มาเข้าพิธีก็ใช้ได้แล้ว
    ใช้น่ะใช้ได้อยู่แต่ยังไงๆ ก็ไม่ใช่บารมีของท่านเจ้าประคุณฯ ครับ ท่านเจ้าประคุณฯ บารมีท่านล้นฟ้า ทั้ง ร.4 ร.5 นับถือท่าน ไหนจะเจ้าขุนมูลนายอื่นๆ อีก รวมถึงการสืบเชื้อสายมาจากลูกเจ้านาย พลังจิตน่ะพอฟัดกันไหว แต่บารมีคนล่ะเรื่องกันครับ เปรียบเสมือน power full หรือ supreme power ของกำนันซึ่งเป็นใหญ่สูงสุดในตำบล ไม่มีใครกล้าหือ จะเทียบกับ power full ของ นายกรัฐมนตรี ได้อย่างไรเล่า พระอริยเจ้าบางรูป บรรลุอรหัตผล แต่ท่านไม่ดังก็เพราะสิ่งนี้นั่นเอง หรือพระอัครสาวก 80 รูป บารมีท่านจะต่างกันกับ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง ดังนั้น การจะอุปโลกเอาพระพิมพ์ของท่านเจ้าประคุณฯ ไปเข้าพิธีใหม่ 100 พระอาจารย์ หรือพระครูธรรมดา เสกก็บ่เทียบได้กับเจ้าประคุณฯ เสกเพียง 1 องค์ เด้อ...
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ใช่เลย ใช่เลย

    เพิ่มเติมอีกสักนิด สำหรับเรื่องการอธิษฐานจิต เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรม ,องค์ผู้อธิษฐานจิต เรื่องเล็กๆน้อยๆ สำหรับผู้มีธรรมชั้นสูงก็ไม่มองข้ามไป อีกประการหนึ่งก็คือ เรื่องของอภิญญาและบารมีขององค์ผู้อธิษฐานจิต ก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งมีผลต่อพระพิมพ์และวัตถุมงคลที่ได้รับการอธิษฐานจิตเช่นเดียวกัน

    พระพิมพ์และวัตถุมงคลที่เดิมองค์ผู้อธิษฐานจิตมีอภิญญาสูง ถ้าหากว่าองค์ผู้อธิษฐานจิตมีอภิญญาต่ำกว่ามาอธิษฐานจิตพระพิมพ์และวัตถุมงคล การอธิษฐานจิตก็จะไม่ได้ผล ไม่สามารถอธิษฐานจิตเพิ่มเติมลงไปได้

    ตรงกันข้ามพระพิมพ์และวัตถุมงคลที่เดิมองค์ผู้อธิษฐานจิตมีอภิญญาต่ำ หากว่าองค์ผู้อธิษฐานจิตมีอภิญญาสูงกว่ามาอธิษฐานจิตพระพิมพ์และวัตถุมงคล สามารถอธิษฐานจิตครอบพลังขององค์ผู้อธิษฐานจิตต่ำกว่าได้

    ผมเคยลองมาแล้ว ผมและเพื่อนท่านหนึ่งนำพระพิมพ์....(ถ้าผมบอกไป ทุกๆท่านย่อมรู้จักกันดีแน่นอน ผมยกตัวอย่างให้ 2 องค์ก็คือพระมงคลมหาลาภของแม่ชีบุญเรือน และพระพิมพ์ของหลวงพ่อกวย ) หลายองค์ นำไปขอพระเมตตาจากหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ขอให้หลวงปู่ท่านอธิษฐานจิตให้อีกครั้ง ผลปรากฎว่า ลองนำมาตรวจสอบอีกครั้ง พลังอิทธิคุณเดิมก็ยังอยู่ แต่พลังอิทธิคุณใหม่คลุมไว้อีกชั้นและเป็นผู้ที่แสดงฤทธิ์ครับ

    โมทนาสาธุครับ

    (bb-flower
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2007
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พระบารมีของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เป็นพระบารมีองค์พระโพธิสัตว์ ให้ผลทางช่วยเหลือในเรื่องต่างๆได้มาก แต่พระบารมีของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร เป็นพระบารมีพระอรหันต์ ท่านชอบให้ตัดกิเลส เพื่อบรรลุมรรคผล นิพพาน ให้ผลด้านความคุ้มครองเป็นหลัก

    พระพิมพ์ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่ท่านอธิษฐานจิตให้นั้น จะแรงกว่าพระพิมพ์ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีท่านอธิษฐานจิต 30 เท่าครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    แต่ถ้าพระพิมพ์หรือวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นโดยใช้มวลสารที่ไม่ดี(ไม่เป็นมงคล เช่น ซากสัตว์(ปูนเปลือกหอย) ,ดินป่าช้า ,ตะไครเสมา ฯลฯ) หรือวัตถุประสงค์ในการสร้างไม่ดี หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรท่านก็ไม่อธิษฐานจิตเช่นกัน หลวงปู่ท่านย่อมรู้ว่าเราคิดอะไร คิดอย่างไรครับ

    ผมเคยนำพระพิมพ์ของผม และของคุณนักเดินทาง ขอพระบารมีหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ให้ท่านอธิษฐานจิตให้อีกครั้ง และวางไว้ใกล้ๆกัน ผลก็คือพระพิมพ์ของผม หลวงปู่ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ แต่พระพิมพ์ของคุณนักเดินทาง มีอยู่ 1 องค์ หลวงปู่ท่านไม่ได้อธิษฐานจิตให้ ส่วนองค์อื่นๆของคุณนักเดินทาง หลวงปู่ท่านอธิษฐานจิตให้เหมือนกับของผม พระพิมพ์องค์ที่หลวงปู่ท่านไม่ได้อธิษฐานจิตให้นั้น ก็ได้รับจากการทำบุญ..... ซึ่งถ้าบอกพิมพ์ไป คิดว่ารู้จักกันเยอะ (ผมขอสงวนสิทธิ์ไม่บอกนะครับ เกรงว่าจะเป็นก่อให้เกิดความขัดแย้งกันได้)

    .
     
  5. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    มีปัญหาโลกแตกสำหรับก๊วนนี้ก็คือ องค์นั้นก็ดี องค์นี้ก็ดี นั่นก็แรง ร้อยแรงม้า นี่ก็เร็ว สุุดยอดทั้ง หลวงปู่ใหญ่ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จเสก เข้าพิธี ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ก็แล้ว บ๊ะ! แล้วตูจะแขวนองค์ไหนดี บางท่านตัดสินใจแขวนทุกพิธีเลย รวมแล้วพวงเริ่มใหญ่ ปัญหาก็คือ เวลาบ่งอับบ่งรา ท่านองค์ไหนจะช่วย ไม่ต้องตีความตามตรรกะของมนุษย์ว่าท่านคงเกี่ยงกันน่าดู พี่ใหญ่บอกว่า ท่านอริยะเจ้าท่านหลายข้างต้นนี้ ท่านจะรู้วาระของท่านดี ว่าท่านองค์ไหน จะออกมา พวกเราบางคนสายบุญสายคุณต่อเนื่องกับท่านมานาน ท่านก็อาจจะโปรดมากกว่าท่านอื่นหน่อย ผมไม่ห่วงเลย ทุกวันนี้เลยเล่นบทโหดคือแขวนจตุคามฯ วังหลวงไว้นอกเสื้อไว้ขู่เซียนจตุคามฯ ของหลวงหนุ่ย หรือท่านขุนพันธ์ฯ แต่ในเสื้อมีสมเด็จของหลวงปู่ใหญ่หรือพระอรหันต์กลางของท่าน ส่วนสมเด็จเจ้าฟ้า และสมเด็จกลักไม้ขีดพิมพ์บางของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็แขวนด้วยเช่นกัน เคยถามพี่ใหญ่ว่า แขวนยังงี้พี่ว่าไง คำตอบก็คือมาแนวบู๊สายจตุคามฯ ก็ออกรับหน้าก่อน มาแนวเมตตาทำมาหากินต้องเจ้าประคุณสมเด็จ มาแนวทรงอำนาจ วาสนา บารมี โน่นต้องหลวงปู่ใหญ่ แต่ทั้งนี้เงื่อนไขสำคัญคือ "กรรม" ที่เป็นกุศลกรรม และอกุศลกรรม ที่เป็นแรงส่งเจ้าค่ะ เพราะฉะนั้น สถานที่พร้อม ร่างกายพร้อม อุตุพร้อม ลมหายใจพร้อม รักษาจิตกันเด้อ..เสี่ยว อย่าลืมไหว้ 5 ครั้งด้วยล่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2007
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.saktalingchan.com/index.p...icle&Id=262016

    [​IMG]

    เจ้าพระคุณสมเด็จ พระพุทธโฆษาจารย์ ญาณวรเถร<O:p</O:p

    วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร<O:p</O:p



    <O:p</O:p
    1. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ได้เป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวงนี้ เมื่อพระคุณท่านมีอายุเพียง 27 ปี มีพรรษา 7 ยั่งยืนตลอดมาเป็นเวลาช้านานถึง 53 ปีฯ<O:p</O:p
    2. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯได้รับพระราชทานสมณศักดิ์สถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะ นั้นมีอายุเพียง 56 ปี เท่านั้น ฯ<O:p</O:p
    3. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งธรรมเนียมการเทศนาธรรมในวันอาทิตย์ขึ้นเป็นแห่งแรก เริ่มเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2471 ติดต่อกันมาถึงปัจจุบันนี้ นับเป็นเวลา 45 ปี ล่วงแล้ว ฯ<O:p</O:p
    4. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมหาเถรสมาคมบัญชาการคณะสงฆ์แทนพระองค์สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ แลบัญชาการคณะสงฆ์โดยตรงสืบต่อมาเป็นเวลา 5 ปี ( ตั้งแต่ พ.ศ. 2476 ถึง พ.ศ. 2481 ) ฯ<O:p</O:p
    5. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ได้ถวายพระธรรมเทศนามงคลวิเสสกถาติดต่อกันถึง 4 รัชกาล คือตั้งแต่รัชกาลที่ 6-7-8-9 เป็นเวลาถึง 25 ปี ฯ<O:p</O:p
    6. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ มีสัทธิวิหาริก-อันเตวาสิก มากที่สุดถึง 6,666 องค์ ฯ<O:p</O:p
    7. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ เป็นต้นกำเนิดตำราไหว้ 5 ครั้งให้ศิษยานุศิษย์ปฏิบัติตาม หากผู้ใดไหว้ครบ 1 ปี เป็นกำหนด ผู้นั้นจักได้รับรูปที่ระลึกจากองค์ท่านด้านหน้าเป็นรูปองค์ท่าน ด้านหลังเป็นรูปยันต์ภควัม จากกรึกนามองค์ท่านเป็นอักษรย่อ โดยลำดับแห่งราชทินนามนั้น ๆ กระทั่งครั้งสุดท้ายได้จารึก 3 อักษรว่า พ.ฆ.อ. ซึ่งย่อจากราชทินนามว่า พุทธโฆษาจารย์ สมเด็จพระราชาคณะ ฯ<O:p</O:p
    8. สัทธิวิหาริกของเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ที่มีอายุยืนยาวที่สุด คือ ท่านเจ้าคุณพระโศภณศีลคุณ ( หลวงปู่หลุย พาหิยเถร ) ซึ่งเป็นสัทธิวิหาริกองค์ที่ 23 ปัจจุบันอายุ 92 ปี พรรษา 67 ( เกิด 9 สิงหาคม 2426 ) ยังเดินลงโบสถ์ลงสวดมนต์ทำวัตรได้เป็นประจำทุก ๆ วัน เป็นพระเถราจารย์องค์สำคัญ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือยิ่งของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ ฯ<O:p</O:p
    9. สัทธิวิหาริกของเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ที่ประพฤติปฏิบัติยอดเยี่ยม และเป็นพระเถระองค์สำคัญที่มีเกียรติคุณโด่งดังในปัจจุบัน คือ ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ ฯ ธมมฺวิตกฺโก ซึ่งเป็นสัทธิวิหาริกองค์ที่ 1740 ฯ




    ไหว้ 5 ครั้ง<O:p</O:p

    ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์<O:p</O:p
    วัดเทพศิรินทราวาส<O:p</O:p



    <O:p</O:p
    ในวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ไม่ว่าเวลาใด ตามแต่เหมาะ ต้องไหว้ให้ได้ 5 ครั้งเป็นอย่างน้อย ในคราวเดียวกัน ถ้ามีดอกไม้ ธูปเทียน ก็บูชา ถ้าไม่มีก็มือ 10 นิ้วและปากกับใจ ควรไหว้จนตลอดชีวิต คือ ครั้งที่ 1 พึงนั่งกระโหย่งเท้าประนมมือว่า นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสฺมพุทฺธสฺส ฯ 3 หน แล้วว่าพระพุทธคุณ คือ อิติปิ โส ภควา อรห<SUP>°</SUP> สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสาน<SUP>° </SUP>พุทฺโธ ภควาติ ฯ หยุดระลึกถึงพระปัญญาคุณทรงรู้ดีรู้ชอบสิ้นเชิง พระบริสุทธิคุณทรงละความเศร้าหมองได้หมด พระกรุณาคุณทรงสงสารผู้อื่นและสั่งสอนให้ปฏิบัติตาม ของพระพุทธเจ้า จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ ครั้งที่ 2 ว่าพระธรรมคุณ คือ สฺวากฺขาโต ภควตา ธฺมโม สนฺทิฏฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปนยิโก ปจฺ จตฺต<SUP>°</SUP> เวทิตพฺโพ วิญฺญหีติ ฯ หยุดระลึกถึงคุณพระธรรมที่รักษาผู้ปฏิบัติตามไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ ครั้งที่ 3ว่าสังฆคุณ คือ สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ อุชุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสฺงโฆ ญายปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสฺงโฆ สามีจิปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสฺงโฆ ยทิทฺ จฺตตาริ ปุริสยุคานิ อฏฐ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสฺงโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนฺยโย ทกฺขิเณยฺโย อญฺชลิกรณีโย อนุตฺตรฺ ปุญฺญกฺเขตตฺ โลกสฺสาติ ฯ หยุดระลึกถึงคุณ คือ ความปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติถูก ปฏิบัติชอบของพระอริยสงฆ์ จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ นั่งพับเพียบประนมมือ ตั้งใจถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ไม่ถือสิ่งอื่นยิ่งกว่าจนตลอดชีวิต ว่าสรณคมน์ คือ พุทฺธ<SUP>°</SUP> สรณ<SUP>°</SUP> คจฺฉามิ ธมฺม<SUP>°</SUP> สรณ<SUP>°</SUP> คจฺฉามิ สงฺฆ<SUP>°</SUP> สรณ<SUP>°</SUP> คจฺฉามิ ฯ ทุติยมฺปิ พุทฺธ<SUP>°</SUP> สรณ<SUP>°</SUP> คจฺฉามิ ทุติยมฺปิ ธมฺม<SUP>°</SUP> สรณ<SUP>°</SUP> คจฺฉามิ ทุติยมฺปิ สงฺฆ<SUP>°</SUP> สรณ<SUP>°</SUP> คจฺฉามิ ฯ ตติยมฺปิ พุทฺธ<SUP>°</SUP> สรณ<SUP>°</SUP> คจฺฉามิ ตติยมฺปิ ธมฺม<SUP>°</SUP> สรณ<SUP>°</SUP> คจฺฉามิ ตติยมฺปิ สงฺฆ<SUP>°</SUP> สรณ<SUP>°</SUP> คจฺฉามิ ฯ ครั้งที่ 4 ระลึกถึงคุณมารดาบิดาของตน จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ ครั้งที่ 5 ระลึกถึงคุณของบรรดาท่านผู้มีอุปการคุณแก่ตน เช่น พระมหากษัตริย์ และครูบาอาจารย์เป็นต้นไป จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ <O:p</O:p
    ต่อนี้ไปไม่ต้องประนมมือ ตั้งใจพิจารณาเรื่องและร่างกายของตนว่า จะต้องแก่ หนีความแก่ไปไม่พ้น จะต้องเจ็บ หนีความเจ็บไปไม่พ้น จะต้องตาย หนีความตายไปไม่พ้น จะต้องพลัดพราก จากของรัก ของชอบใจทั้งสิ้น มีกรรมเป็นของตัว คือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นอนิจจัง ไม่เที่ยงไม่แน่นอน เป็นทุกข์ลำบากเดือดร้อน เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของตน ฯ ครั้นพิจารณาแล้ว พึงแผ่กุศลทั้งปวงมีการกราบไหว้เป็นต้นนี้ อุทิศให้แก่ท่านผู้มีคุณ มีบิดามารดาเป็นต้น ตลอดจนชั้นสูงสุด คือ พระมหากษัตริย์ ทั้งเทพดามนุษย์และสัตว์ทั้งหลายว่า จงเป็นสุข ๆ อย่ามีเวรมีภัยเบียดเบียนกันและกัน รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด ฯ<O:p</O:p
    การไหว้ 5 ครั้งนี้ ถ้าวันไหนขาด ให้ไหว้ใช้หนี้ 5 ครั้งในวันรุ่งขึ้น ถ้านั่งกระโหย่งเท้าไม่ได้ ก็นั่งพับเพียบ ถ้าไม่ได้ ก็นอนไหว้ เมื่อยอมือไม่ขึ้นก็ปากกับใจ ถ้าทำได้อย่างนี้ เป็นเครื่องหยุดตนให้เป็นคนดีไม่ให้เป็นคนชั่ว และให้ตั้งอยู่ในที่ดีไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว ถ้าผู้ใดประพฤติได้เสมอจนตลอดชีวิต ผู้นั้นจะอุ่นใจในตัวของตัวเอง มีความเจริญงอกงามไพบูลย์ยิ่งๆ ขึ้นเสมอทุกคืนทุกวัน คุ้มครองป้องกันภยันตรายปราศจากความเสียหายที่ไม่เหลือวิสัย และตั้งตัวได้ในทางคดีโลกและทางคดีธรรม เต็มภูมิเต็มชั้นของตน ฯ ทุกประการ จบเท่านี้ ฯ

    ปัจฉิมโอวาท
    ของ
    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ญาณวรมหาเถระ
    วัดเทพศิรินทราวาส

    ไม่ตายควาวนี้ ก็ตายคราวหน้า อย่างเศร้าโศก เสียทีที่ศึกษาปฏิบัติมา ร้องให้เศร้าโศก ก็ร้องไห้เสร้าโศกสังขารที่
    เกิดแก่เจ็บตายนั้นเอง ที่ไม่ร้องไห้เศร้าโศกนั้นมิใช่จะเป็นคนใจไม้ใส้ระกำอะไร

    ธรรมของพระก็คือ
    สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา
    สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา
    สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา
    ย่นลงก็ สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา
    สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา แล้วปรินิพพาน
    ไม่ต้องเกิดมาแก่ มาเจ็บ มาตายอีก

    (มีบัญชาให้บันทึกไว้เมื่อเช้าวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๙๔)
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไหว้ 5 ครั้ง<O[​IMG]</O[​IMG]




    ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( เจริญ ญาณวรเถระ )<O[​IMG]</O[​IMG]




    วัดเทพศิรินทราวาส<O[​IMG]</O[​IMG]

    [​IMG]

    คัดลอกจาก http://www.konmeungbua.com/saha/Lung...pu_armpan.html<O[​IMG]</O[​IMG]

    ในวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ไม่ว่าเวลาไร ตามแต่เหมาะต้องไหว้ให้ได้ 5 ครั้งเป็นอย่างน้อย ในคราวเดียวนั้น ถ้ามีดอกไม้ธูปเทียนก็บูชา ถ้าไม่มีก็มือ 10 นิ้วและปากกับใจ ควรไหว้จนตลอดชีวิต คือ<O[​IMG]</O[​IMG]
    <O[​IMG]</O[​IMG]

    ครั้งที่ 1 พึงนั่งกระโหย่งเท้าประณมมือว่า<O[​IMG]</O[​IMG]
    นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ฯ 3 หน แล้วว่าพระพุทธคุณ คือ<O[​IMG]</O[​IMG]
    อิติปิโส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาติ ฯ<O[​IMG]</O[​IMG]
    หยุดระลึกถึงพระปัญญาคุณทรงรู้ดีรู้ชอบสิ้นเชิง พระบริสุทธิคุณทรงละความเศร้าหมองได้หมด พระกรุณาคุณทรงสงสารผู้อื่นและสั่งสอนให้ปฏิบัติตามของพระพุทธเจ้า จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ <O[​IMG]</O[​IMG]
    <O[​IMG]</O[​IMG]

    ครั้งที่ 2 ว่าพระธรรมคุณ คือ<O[​IMG]</O[​IMG]
    สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโน สนฺทิฆฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปนยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญญูหีติ ฯ<O[​IMG]</O[​IMG]
    หยุดระลึกถึงคุณพระธรรมที่รักษาผู้ปฏิบัติตามไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ <O[​IMG]</O[​IMG]
    <O[​IMG]</O[​IMG]

    ครั้งที่ 3 ว่าพระสังฆคุณ คือ<O[​IMG]</O[​IMG]
    สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ อุชุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ญายปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ สามีจิปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฐปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโยทกฺขิเนยฺโย อญฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุญฺญกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติฯ<O[​IMG]</O[​IMG]
    หยุดระลึกถึงคุณ คือ ความปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติถูก ปฏิบัติชอบ ของพระอริยสงฆ์ จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ<O[​IMG]</O[​IMG]
    นั่งพับเพียบประณมมือตั้งใจถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะไม่ถือสิ่งอื่นยิ่งกว่าจนตลอดชีวิต ว่าสรณคมน์ คือ<O[​IMG]</O[​IMG]
    พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ<O[​IMG]</O[​IMG]
    ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ<O[​IMG]</O[​IMG]
    สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ<O[​IMG]</O[​IMG]
    ทุติยมฺปิ พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ <O[​IMG]</O[​IMG]
    ทุติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ<O[​IMG]</O[​IMG]
    ทุติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ <O[​IMG]</O[​IMG]
    ตติยมฺปิ พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ <O[​IMG]</O[​IMG]
    ตติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ<O[​IMG]</O[​IMG]
    ตติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ <O[​IMG]</O[​IMG]
    <O[​IMG]</O[​IMG]

    ครั้งที่ 4 ระลึกถึงคุณมารดาบิดาของตน จนเห็นชัดแล้ว กราบลงหน 1 ฯ<O[​IMG]</O[​IMG]
    ข้า ฯ ขอ กราบไหว้คุณท่านบิดาและมารดา<O[​IMG]</O[​IMG]
    เลี้ยงลูกเฝ้ารักษา แต่คลอดมาจึงเป็นคน<O[​IMG]</O[​IMG]
    แสนยากลำบากกายไป่คิดยากลำบากตน<O[​IMG]</O[​IMG]
    ในใจให้กังวลอยู่ด้วยลูกทุกเวลา<O[​IMG]</O[​IMG]
    ยามกินพอลูกร้องก็ต้องวางวิ่งมาหา<O[​IMG]</O[​IMG]
    ยามนอนห่อนเต็มตาพอลูกร้องก็ต้องดู<O[​IMG]</O[​IMG]
    กลัวเรือดยุงไรมดจะกวนกัดรีบอุ้มชู<O[​IMG]</O[​IMG]
    อดกินอดนอนสู้ ทนลำบากหนักไม่เบา<O[​IMG]</O[​IMG]
    คุณพ่อแม่มากนักเปรียบน้ำหนักยิ่งภูเขา<O[​IMG]</O[​IMG]
    แผ่นดินทั้งหมดเอามาเปรียบคุณไม่เท่าทัน<O[​IMG]</O[​IMG]
    เหลือที่ จะแทนคุณ ของท่านนั้น ใหญ่อนันต์<O[​IMG]</O[​IMG]
    เว้นไว้ แต่เรียนธรรม์ เอามาสอนพอผ่อนคุณ<O[​IMG]</O[​IMG]
    สอนธรรมที่จริงให้ รู้ไม่เที่ยงไว้เป็นทุน<O[​IMG]</O[​IMG]
    แล้วจึงแสดงคุณ ให้เห็นจริงตามธรรมดา<O[​IMG]</O[​IMG]
    นั่นแหละจึงนับได้ ว่าสนองซึ่งคุณา<O[​IMG]</O[​IMG]
    ใช้ค่าข้าวป้อนมาและน้ำนมที่กลืนกิน ฯ<O[​IMG]</O[​IMG]
    <O[​IMG]</O[​IMG]

    ครั้งที่ 5 ระลึกถึงคุณของบรรดาท่านผุ้มีอุปการคุณแก่ตน เช่น พระมหากษัตริย์และครูบาอาจารย์ เป็นต้นไป จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ<O[​IMG]</O[​IMG]
    ข้า ฯ ขอนอบน้อมคุณแด่ท่านครู ผู้อารี<O[​IMG]</O[​IMG]
    กรุณาและปรานีอุตส่าห์สอนทุก ๆ วัน<O[​IMG]</O[​IMG]
    ยังไม่รู้ ก็ได้รู้ ส่วนของครูสอนทั้งนั้น<O[​IMG]</O[​IMG]
    เนื้อความทุกสิ่งสรรพ์ดีชั่วชี้ ให้ชัดเจน<O[​IMG]</O[​IMG]
    จิตมากด้วยเอ็นดูอยากให้รู้เหมือนแกล้งเกณฑ์<O[​IMG]</O[​IMG]
    รักไม่ลำเอียงเอนหวังให้แหลมฉลาดคม<O[​IMG]</O[​IMG]
    เดิมมืดไม่รู้แน่เหมือนเข้าถ้ำเที่ยวคลำงม<O[​IMG]</O[​IMG]
    สงสัยและเซอะซมกลับสว่างแลเห็นจริง<O[​IMG]</O[​IMG]
    คุณส่วนนี้ควรไหว้ ยกขึ้นไว้ ในที่ยิ่ง<O[​IMG]</O[​IMG]
    เพราะเราพึ่งท่านจริงจึงได้รู้ วิชาชาญ ฯ<O[​IMG]</O[​IMG]

    (บทประพันธ์สรรเสริญคุณมารดาบิดา และ ครูบาอาจารย์ของ ท่านอาจารย์ จางวางอยู่ เหล่าวัตร วัดเทพศิรินทราวาส<O[​IMG]</O[​IMG]

    ลิขสิทธิ์เป็นของ ท่านเจ้าคุณพระโศภนศีลคุณ (หลวงปู่หลุย พาหิยาเถร) วัดเทพศิรินทราวาส)
    <O[​IMG]</O[​IMG]
    ต่อไปนี้ไม่ต้องประณมมือ ตั้งใจพิจารณาเรื่อง และร่างกายของตนว่า จะต้องแก่ หนีความแก่ไปไม่พ้น จะต้องเจ็บ หนีความเจ็บไปไม่พ้น จะต้องตาย หนีความตายไปไม่พ้น จะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น มีกรรมเป็นของตัว คือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นอนิจจังไม่เที่ยง ไม่แน่นอน เป็นทุกข์ลำบากเดือดร้อน เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของตน ฯ ครั้งพิจารณาแล้ว พึงแผ่กุศลทั้งปวงมีการกราบไหว้เป็นต้นนี้ อุทิศให้แก่ท่านผู้มีคุณมีมารดาบิดา เป็นต้น ตลอดจนชั้นสูงสุด คือพระมหากษัตริย์ ทั้งเทพยดามนุษย์และสัตว์ทั้งหลายว่า จงเป็นสุข ๆ อย่ามีเวรมีภัยเบียดเบียนกันและกัน รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด ฯ
    <O[​IMG]</O[​IMG]
    การไหว้ 5 ครั้งนี้ ถ้าวันไหนขาด ให้ไหว้ใช้ 5 ครั้งในวันรุ่งขึ้น ถ้านั่งกระโหย่งเท้าไม่ได้ ก็นั่งพับเพียบ ถ้าไม่ได้ ก็นอนไหว้ เมื่อยกมือไม่ขึ้น ก็ปากกับใจ ถ้าทำได้อย่างนี้เป็นเครื่องพยุงตนให้เป็นคนดี ไม่ให้เป็นคนชั่ว และให้ตั้งอยู่ในที่ดี ไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว ถ้าผู้ใดประพฤติได้เสมอตลอดชีวิต ผู้นั้นจะอุ่นใจในตัวของตัวเอง มีความเจริญงอกงามไพบูลย์ยิ่ง ๆ ขึ้นเสมอทุกคืนทุกวัน คุ้มครองป้องกันภยันตรายปราศจากความเสียหายที่ไม่เหลือวิสัย และ ตั้งตัวได้ในทางคดีโลกและทางคดีธรรม เต็มภูมิเต็มขั้นของตน ๆ ทุกประการ จบเท่านี้ ฯ

    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( เจริญญาณวรเถระ )

    http://72.14.235.104/search?q=cache:...h&ct=clnk&cd=7

    [​IMG]

    สมเด็จพระพุทธโฆษจารย์ นามเดิม เจริญ สุขบท เกิดในรัชกาลที่ 5 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2415 ที่จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรนาย ทองสุก และนางย่าง

    เมื่ออายุ 8 ปี ได้เป็นศิษย์ของท่านเจ้าคุณชลโธปมคุณมุณี (พุฒ ปุณณกเร) ปฐมวัยอาวาสวัดเขาบางทราย

    เมื่ออายุ 12 ปีได้บรรพชาที่วัดเขาบางทราย และเข้าศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดราชบพิธอุปสมบทเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2435 ที่วัดเขาบางทราย จังหวัดชลบุรี พ.ศ.2439 ได้ศึกษาพระวินัยปิฎกในสำนัก สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส ที่วัดเทพศิรินทราวาส

    "ตาบุญ (พระยาธรรมปรีชา) ผู้เป็นอาจารย์สอนบาลีของ
    เจ้าพระคุณสมเด็จฯ มอบช้างเผือกส่งเข้ามาให้ "
    สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยา วชิรญาณวโรรส ออกพระโอษฐ์รับสั่งเมื่อครั้งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเร) สอบไล่ภาษาบาลี ในมหามงกุฎราชวิทยาลัยได้ที่ 1ทุกชั้นเป็นลำดับมา

    พ.ศ.2441 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระราชาคณะที่พระอัมราภิลักขิต เป็นผู้อำนวยการศึกษามณฑลปราจีนบุรี ต่อมาได้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสได้เลื่อนสมณศักดิ์เรื่อยมา

    พ.ศ.2471 โปรดให้สถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์

    พ.ศ.2476กรรมการเถรสมาคมมีมติให้ท่าน เป็นประธานกรรมการมหาเถรสมาคมบัญชาการคณะสงฆ์แทนพระสังฆราชเจ้าซึ่งสิ้นพระชนม์ ประมวลเกียรติคุณพิเศษสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเร)เป็นพระเถระบริหารงานพระศาสนาถึง 5 แผ่นดิน คือแต่รัชกาลที่ 5-9 เป็นพระราชาคณะแต่อายุ 28 ปี เป็นสมเด็จพระราชาคณะแต่อายุ 57 ปี นับเป็นพระเถระที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พรรษาน้อยกว่า พระเถระหลายรูปเป็นเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส แต่อายุ 28 ปี ถึง 80 ปีรวม 53 ปี นับว่ายาวนานที่สุดไม่มีใครเทียบได้
    เมื่อสอบนักธรรม หรือบาลีจะสอบได้ที่ 1 ทุกชั้นทุกประโยคเป็นรูปเดียวในสังฆมณฑล ดำรงตำแหน่งแม่กองธรรมสนามหลวง แม่กองบาลีสนามหลวง องค์เดียวกัน
    ในวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ.2494เวลา 10.30 น. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเระ)มรณภาพด้วยโรคเนื้องอกที่ตับรวมอายุได้ 80 ปี พรรษาที่ 59

    ความคิดเห็นส่วนตัวผม
    ท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถระ) ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต (ตรึก จินตยานนท์) ท่านบอกกับผู้ที่ไปกราบท่านว่า ขอให้ทุกๆวันได้ไหว้ 5 ครั้ง จะได้เป็นศิริมงคลกับตนเอง จะเหมือนกับชื่อของท่าน (เจริญ) ครับ ท่านเจ้าคุณนรเอง ก็มีความเคารพในท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ)มาก โดยท่านเจ้าคุณนรเอง เวลาเดินผ่านกุฎิของท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(เจริญ)ทุกครั้ง ท่านเจ้าคุณนร ก็จะก้มลงกราบที่กุฎิอยู่ทุกครั้งครับ

    .*********************************************.
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ลูกเอ๋ย ก่อนจะเที่ยวไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง คือ บารมีของตนลงทุนไปก่อน เมื่อบารมีของเจ้าไม่พบจึงค่อยไปขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วย
    มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด พราะหนี้สินในบุญบารมี ที่เที่ยวไปขอยืมจนล้นตัว เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมา ก็ต้องเอาไปผ่อน ใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัวแล้ว เจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า หมั่นสร้างบารมีไว้แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง….
    จงจำไว้นะ…เมื่อยัง ไม่ถึงเวลาเทพเจ้า องค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ ครั้นถึงเวลาทั่วฟ้าจบ ดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า


    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รายละเอียดพระพิมพ์และวัตถุมงคล ที่มอบให้กับผู้ร่วมทำบุญในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิบมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=68899 ) จะอยู่ในหน้าแรกของกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

    ส่วนยอดคงเหลือ ผมจะแจ้งให้ทราบในกระทู้ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ และกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้เป็นระยะครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"วานิลลา" มาจากไหน??</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 สิงหาคม 2550 17:03 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> "วานิลลา" น่าจะเป็นรสชาติที่แทบทุกคนคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นรสและกลิ่นที่มักจะผสมอยู่ในไอศกรีม ขนม และอาหารหลายๆ อย่าง แต่รู้ไหมว่า "วานิลลา" นั้น ทำมาจากอะไรกันแน่ จึงได้มีกลิ่นที่หอมหวานน่าอร่อยขนาดนี้

    จริงๆ แล้วกลิ่นหอมๆ ของ "วานิลลา" นั้น ได้มาจากกล้วยไม้ ซึ่งกลิ่นนี้ได้มาจากสารหอมชนิดหนึ่งที่เรียกว่าสาร "วานิลลิน" ซึ่งสกัดมาจากฝักกล้วยไม้ชนิดหนึ่งในป่าดงดิบ กล้วยไม้นั้นมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Vanilla fragans มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางภาคใต้ของประเทศเม็กซิโก

    แต่กว่าจะได้เป็นกลิ่นวานิลลาออกมา ก็ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนอยู่เหมือนกัน ต้องรอให้ฝักวานิลลาแก่เต็มที่เสียก่อน แล้วจึงนำไปอบ"ให้มีกลิ่นหอม แล้วก็ต้องนำไปผึ่งและบ่มอีกเป็นเวลาหลายเดือนกว่าจะได้กลิ่นหอมๆ ที่นำมาประกอบอาหารและขนมได้อร่อย

    แม้ถิ่นกำเนิดจะอยู่เม็กซิโก แต่ปัจจุบันในประเทศเขตร้อนอื่นๆ เช่น อินโดนีเซีย ศรีลังกา ฯลฯ ก็เริ่มมีการปลูกวานิลลากันมากขึ้น รวมไปถึงประเทศไทยด้วย

    คราวหน้าที่ได้ลิ้มรสและกลิ่นหอมหวานของวานิลลา ต้องไม่ลืมว่ากลิ่นนี้ได้มาจากกล้วยไม้ ไม่ได้เกิดขึ้นจากการสังเคราะห์ทางเคมีแต่อย่างใด
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ************************************************
     
  11. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    ลูกโผ้มม

    [​IMG]

    นี่คือผลงานโอ๊ตครับ (kiss) ชื่อเด็กชายพชร ชัยช่วย ครับผม ชื่อเล่นน้องวายุ
    พึ่งไปหามาเมื่อวันก่อนนี้เอง เลยเก็บรูปมาฝาก

    หลังโกนผมไฟ

    [​IMG]
     
  12. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    (ping) (ping) นี้ก็ผลงานของผมครับ เมื่อไรได้ดูผลงานคุณหนุ่มบ้าง
    ชื่อเด็กชาย วิภูช์ ชื่อเล่น น้องก้อง ครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 มกราคม 2008
  13. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ขอแก้นิดนึงครับ ท่าน อ.นิพนธ์อยู่วัดป่าศาลาน้อย จ.เลย เวลาไปต้องไปทางหล่มสักครับ ส่วนอีกองค์นึง วัดป่าบ้านห้วยลาด คืออาจารย์อุทัย อยู่ห่างจาก อ.ภูเรือมาทางขอนแก่น 8 กม. องค์นี้ฤทธิ์เต็มภูมิเด้อครับ วัดท่านมีปาฏิหารย์คือมีรูปหล่อท้าวจตุคามขึ้นกลางวัด วัดนี้ศาลานั่งสมาธิอยู่บนเขาปูพื้นด้วยหินอ่อน ศาลาโล่งโอ่งโถง พวกชอบปฏิบัติไปโลด หากไปช่วง พ.ย. - ธ.ค. จะสวยมากทั้งวัด ทั้งถนนข้างทาง จะเต็มไปด้วยดอกไม้เมืองหนาว โดยเฉพาะต้นคริสมาสต์สีแดง มีร้านกาแฟ ข้างทางไว้จิบกันขนมปังปิ้ง หรือไข่กระทะ โอ้วว้าว...
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. teerachaik

    teerachaik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +435
    เรียน คุณ หนุ่ม

    วันนี้เพิ่งเข้ามาอ่าน เสียใจ ที่ไม่ทันครับ ล่วงเลยเวลามาหลายวันแล้ว
    แสดงว่าผมเองไม่มีบุญบารมีพอ แต่ยังไง ก้ออนุโมทนาทุกท่านที่ร่วมทำบุญ
    ครับ

    อนุโมทนา
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมมาแจ้งความคืบหน้าเรื่องงานมหากฐิน สนส.ผาผึ้ง

    เมื่อวานได้คุยกับพี่แอ๊วว่า จะขอให้พี่แอ๊วประสานงานกับพระอาจารย์นิล เรื่องของการเดินทาง คิดว่าจะเดินทางในเช้าวันเสาร์ หลังจากนั้นก็จะแวะกันระหว่างทาง กราบพระและทำบุญกันระหว่างทาง ไปถึงสนส.ผาผึ้งคงเป็นเวลาเย็น รถที่จะใช้บริการคงเป็นรถตู้ที่พี่แอ๊วใช้บริการอยู่ เรื่องค่าใช้จ่ายคงจะช่วยๆกัน ผมได้รายละเอียดเพิ่มเติมแล้วจะมาแจ้งให้ทุกๆท่านที่ประสงค์จะเดินทางไปร่วมงานมหากฐิน สนส.ผาผึ้งกันครับ

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ผมยังมีพระนาคปรกอีกจำนวน 4 องค์ที่จะให้ทุกๆท่านร่วมทำบุญมหากฐิน สนส.ผาผึ้งครับ แต่การร่วมทำบุญนั้น คงไม่ได้รับพระนาคปรกไป แต่จะนำพระนาคปรกที่ทุกๆท่านได้ร่วมทำบุญมหากฐินแล้ว นำไปบรรจุในพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งครับ อนิสงค์จะได้กันสองต่อ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โปรดติดตามชมพระพิมพ์ชุดใหม่นะครับ เร็วๆนี้ พลาดแล้วพลาดเลยครับ

    บางพิมพ์บางองค์ผมมีแค่ 3 องค์ ผมจะนำออกมามอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ส่วนอีกองค์ผมจะบรรจุในพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งครับ

    บางพิมพ์ผมยังไม่เคยนำออกมามอบให้ผู้ร่วมทำบุญเลย บางพิมพ์ก็นำออกมามอบให้ผู้ร่วมทำบุญบ้างแล้ว

    ท่านที่ไม่เคยร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ให้รีบร่วมทำก่อนนะครับ เพราะว่าจะมอบให้ผู้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ด้วยจำนวนเงินที่น้อยกว่าท่านที่ไม่เคยร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเลยครับ

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  19. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    รอมานาน... เราเฝ้ารอมานาน(sing)
     
  20. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    ขอบคุณครับ
    โมทนาสาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...