จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. kongkiatm

    kongkiatm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,263
    พร้อมรับคำแนะนำไปปฏิบัติ ครับ สาธุครับ

    ช่วงนี้ขอห่างกระทู้นิดนึ่งนะครับ รู้สึกว่าอ่านมากฟุ้งมาก
     
  2. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    โมทนาสาธุกับการปฎิบัติค่ะ
    อาการที่เราเห็นลมหายใจของเราเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ
    เป็นอาการที่จิตท่านนิ่งอยู่กับลมหายใจค่ะ
    หากเป็นเช่นนี้ จะดีมั้ย ว่าให้ลองเอาพระมาไว้ที่ลมหายใจ
    อันนี้ดัชก็ยังไม่เคยลองทำ เคยทำแต่ ให้พระท่านเลื่อนขึ้นไป
    อยู่กลางกระหม่อม หรือ เลื่อนลงมากลางอก หรือ ท้อง หรือ
    ไหลไปตามแขนมาอยู่อุ้งมือ ประมาณนี้ แต่หากคุณปลื้ม
    ลองกำหนดให้พระท่านเลื่อนไหลไปกับลมหายใจ น่าจะเข้าท่านะ
    ไหลเข้าลงช่องท้อง แล้วค่อยๆเลื่อนขึ้นมาออกทางรูจมูก
    (พิมพ์ไปลองทำไปด้วย อิอิ)
    ภาพพระ ไม่ชัดไม่เป็นไร เพราะภาพที่คุณปลื้มเห็นยังไง ๆ
    ก็เป็นพระนะ อย่าไปเคร่งเครียดเพียรหารายละเอียด เดี๋ยวจะช้า
    แต่ขอให้นึกระลึกอยู่บ่อยขึ้น ถี่ขึ้นไปอีกค่ะ
    สติคุณปลื้มดีใช้ได้ค่ะ ฝึกให้เยอะขึ้นอีก
    เดี๋ยวให้ครูท่านอื่นเข้ามาตอบบ้าง
    เป็นกำลังใจค่ะ
    โมทนาสาธุ
     
  3. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    โมทนาสาธุค่ะ
    จริงๆแล้ว พระท่านก็อยู่ในจิตคุณปลื้มแล้วนี่คะ เพียงแต่อาจจะไม่เห็น
    เป็นภาพที่ชัดเจนเท่านั้น อีกอย่างจิตคุณปลื้มได้สื่อถึงพระท่านได้
    แล้วนะคะ และพระท่านได้มาบอกว่า พระท่านรับรู้รับทราบในสิ่งที่
    คุณปลื้มกำลังกระทำอยู่ในขณะนี้ อีกประการ ให้จำไว้อยู่เสมอว่า
    ต่อแต่นี้ไป จิตคุณปลื้มอยู่ในสายตาของพระท่านค่ะ การปฎิบัติดีปฎิบัติชอบจะเป็นสื่อทางให้พระท่านได้ดึงจิตเราให้ยกขึ้นไปในระดับที่สูงขึ้นไปค่ะ อ้อ ไม่ทราบว่า ครูท่านได้ส่งแบบทดสอบไปให้คุณปลื้มรึยังคะ ถ้ายัง ให้ขอไปเลยค่ะ เพราะดัชเห็นว่าไม่น่าจะติดอะไรมากมาย เราจะได้รู้ว่า จะต้องปรับอะไรหากติดตัวไหนค่ะ
    เป็นกำลังใจค่ะ
    โมทนาสาธุการ
     
  4. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    โมทนาสาธุค่ะ
    จริงๆแล้ว พระก็อยู่กับคุณปลื้มแล้วนี่คะ แถมพระท่านยังเมตตา
    มาสื่อให้คุณปลื้มทราบว่าพระท่านได้รับรู้รับทราบ กับการปฎิบัติ
    ฝึกจิตของคุณปลื้ม อีกอย่าง ขอให้คุณปลื้มรู้ไว้อยู่เสมอว่า
    จิตของคุณปลื้มอยู่ในสายตาของพระท่านตลอดค่ะ
    และการปฎิบัติดีปฎิบัติชอบของเราจะเป็นสื่อนำให้พระท่านได้
    ดึงจิตของเราให้ยกระดับสูงขึ้นค่ะ
    อ้อ ไม่ทราบว่า ครูท่านได้ส่งแบบสอบถามไปให้รึยังคะ
    หากยัง ให้ขอได้เลยค่ะ เพื่อจะได้ทราบว่าเราติดอยู่นะ
    ข้อใด และต้องปรับปรุงแก้ไขเรื่องไหน เพราะเท่าที่เห็น
    จิตคุณปลื้มไม่น่ามีอะไรติดมากมาย
    อีกประการ ดัชไม่แน่ใจว่า คุณปลื้มเคยฝึกสายอานาฯ
    มาหรือเปล่า เพราะรู้สึกเช่นนั้น หากเป็นตามนั้นอย่าลืม
    ทิ้งหรือสโตร์ไว้ก่อน จิตยกเมื่อใด จะไปไหนก็ได้ค่ะ
    เหมือนเราจะเดินทางไป กทม บางท่านเลือก
    รถยนต์ รถเมลล์ เครื่องบิน ตามแต่สะดวก
    แต่ต้องเป็นทางใดทางหนึ่งก่อน
    เมื่อไปถึงกทม แล้ว รู้แล้วว่า กทม เป็นอย่างไร
    ก็จะสามารถเลือกไปกลับทางไหนก็ได้ค่ะ
    ขอเป็นกำลังใจค่ะ
    โมทนาสาธุ
     
  5. urairatvi

    urairatvi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,401
    ไม่ทราบว่าคุณทิวลิปขาว ชื่อปลื้มเหมือนปลื้มหรือเปล่าคะ หรือว่าครูดัชเขียนชื่อผิดคะ ไหนๆครูดัชเรียกชื่อปลื้มแล้วของรายงานการบ้านบนกระทู้พร้อมครูวิทย์เลยนะคะ จิตระลึกภาพพระวิสุทธิเทพเป็นประกายแวววาว เหลื่อมสี พยายามนึกอย่างต่อเนื่อง บางครั้งเห็นท่านองค์เต็มท้องฟ้า ขณะนี้สังเกตุได้ชัดว่าเมื่อมีสิ่งอะไรเข้ามากระทบ สติมันจะคอยดักไม่ให้เรานำมาปรุงแต่ง จะนำมาจบที่กฎไตรลักษณ์คะ จะรู้สึกว่ามีสติก่อนที่จะทำอะไร รู้สึกว่าดีขึ้นเยอะคะมากๆๆด้วย ขณะนี้กำลังสนใจพิจารณาตัวกู ของกูอยู่คะ เหมือนเป็นกุญแจไขปริศนาธรรมของตนเองอยู่คะ มีเหมือนไม่มี ว่างในว่าง พิจารณาได้ยังไงจะส่งให้ครูดัชด้วยนะคะ
    ขอบพระคุณครูดัชด้วยนะคะที่ยังคิดถึงปลื้ม
    กราบขอบพระคุณคะ
     
  6. trialuck

    trialuck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +152
    ผมขออนุญาติแชร์เรื่องการปฏิบัติ ธรรมในระดับพื้นฐาน สำหรับผู้เริ่มต้นครับ

    ในการปฏิบัติธรรมของบางท่าน อาจจะมีบ้างที่มิได้สนใจที่จะรักษาศีลก่อน
    ซึ่งศีลนั้น ถ้าเทียบกับการสร้างบ้านแล้ว ก็จะเหมือนฐานราก หากฐานไม่ดีแล้ว
    การต่อยอดก็จะทำได้ยากยิ่ง

    ผมขออนุญาติยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ นะครับ เช่น หากท่านยังละเมิดศีล
    อยู่เวลาทำสมาธิจิตจะสงบได้อย่างไร ในเมื่อเรายังเบียดเบียนผู้อื่นกันอยู่เลย
    อย่างที่สุดจิตเราจะต้องมีความกังวลกับสิ่งที่เป็นอกุศลที่ได้กระทำกับผู้อื่น
    อยู่เสมอ

    ดังนั้นหากจะปฏิบัติธรรมจะมุ่งสู่นิพพานอย่างเดียวโดยที่ยังไม่สามารถละวาง
    ที่จะเบียดเบียนผู้อื่นแล้วนั้น เราจะยังปฏิบัติธรรมให้ก้าวหน้าได้อีกหรือ
    สำหรับผมแล้วนั่นเห็นผู้ศึกษาธรรม จำนวนมากมุ่งที่จะอ่านพระไตรปิฏก
    จนหมดทุกเล่ม ถกคำสอนกันอย่างคร่ำเคร่ง แต่กลับละเลยการปฏิบัติศีลขั้นพื้นฐาน
    อย่างศีลห้าไปเสียอย่างนั้น

    ล่าสุดมีผู้ปฏิบัติท่านหนึ่งบอกกับผมว่าอยากจะทำทุกๆ อย่างไปพร้อมๆ กันเลยจะได้
    ไปถึงไว ๆ ผมเลยตอบเค้าไปว่า การจะรักษาศีลให้ได้บริสุทธิ์ นั้น เราต้องมี
    สติ และสมาธิ ที่ดีมากๆ เหมือนกันนะ จึงจะสามารถรักษาศีลให้บริสุทธิ์ได้น่ะ

    และที่สำคัญเป็นสมาธิที่ทำในขณะที่เราลืมตาและอยู่ในชีวิตจริงๆ เสียด้วย มิใช่เป็น
    การทำสมาธิในตอนที่เราไปปลีกวิเวกหาที่สงบทำสมาธิ กดทับอารมณ์ พอเราเข้า
    ไปเจอกับของจริง ก็ตะบะแตกกันทุกทีไป หาความก้าวหน้าได้ยาก

    แต่ด้วยการปฏิบัติแบบจิตเกาะพระนั้น ก็จะช่วยให้เรามีสติและสามารถที่จะรักษาศีล
    ได้ง่ายขึ้นด้วย หากแต่จะต้องมีความคิดชอบที่จะตั้งงมั้นปฏิบัติลดการเบียดเบียน

    ผู้อื่นไปด้วยควบคู่ไปกับการปฏิบัติจิตเกาะพระเลยก็จะดีมากๆ เลยครับ

    หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ปฏิบัติธรรมที่เพิ่งเริ่มต้นครับ
     
  7. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ตอบปัญหาธรรมทานจากคุณเมิล จิตบุญ 24

    บทความจากคุณเมิล

    <O:p
    1. ความรู้เบื้องต้นในการปฎิบัติจิตเกาะพระ("จิตเกาะพระ" คืออะไร)

    <O:p
    จิตเกาะพระคือการรวมกรรมฐานกองพุทธานุสติและกสินเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้จิตเกิดการทรงตัว และเป็นการสร้างสติ ทำให้ตัวรู้ผุดขึ้นมาเอง
    <O:p
    2. การเจาะลึก/ลัดเข้าสู่ทางตรงด้วยมรรควิธี ---<O:p
    3. การเจริญสติ สมาธิ และปัญญาแบบ "จิตเกาะพระ" ---<O:p</O:p
    4. วิธีการค้นหาจิตเดิมแท้ของตนเอง ---<O:p</O:p
    5. ถาม-ตอบ ปัญหาเดิมๆ เรื่อง "จิตเกาะพระ" ---

    <O:p</O:p

    6. ผลของผู้ปฎิบัติจิตเกาะพระของเหล่า "จิตบุญ"
    <O:p</O:p

    · ทุกเรื่อที่เข้ามากระทบจะไม่เข้ามากระทบใจเรา ความเยือกเย็นบางอย่างคลุมจิตของเราอยู่
    <O:p</O:p

    · วิธีการมองโลกจะเปลี่ยนไปมองว่ามันเป็นธรรมดาของมันแบบนี้เอง ชีวิตในวัฎสงสารมันก็เป็นของมันแบบนี้ ไม่มีใครถูกไม่มีใครผิด ทุก ๆ คนเป็นไปตามกรรมที่ทำมา มองโลกด้วยความอ่อนโยน ความเข้าใจในธรรมชาติมากขึ้น ไม่โทษใคร

    · พระท่านอยู่ในใจเสมอถึงมองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ถึงความสงบเยือกเย็นไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งเร้าภายนอก
    <O:p

    · นิสัยเปลี่ยนไป เช่น shopping น้อยลง ไม่จำเป็นก็ไม่ซื้อ, ละครทีวีเริ่มดูไม่ได้แล้ว ตอนแรกยังดูได้แบบข้าม ๆ อยู่ พอหลัง ๆ เริ่มไม่เปิดทีวีดูแล้ว, ไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยกิริยาของคนอื่นอีก, มีความสุขกับการอยู่คนเดียว, ความงอน ความน้อยใจ กลายมาเป็นความเข้าใจแทน, มีความอ่อนโยนอ่อนน้อมมากขึ้น, รู้สึกระมัดระวังคำพูดมากขึ้น และอื่น ๆ
    <O:p

    7. การวางกำลังใจสำหรับผู้มาใหม่ หรือ ผู้ปฎิบัติใหม่
    <O:p

    · ต้องมีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติ การจับภาพพระเป็นพุทธานุสติ ต้องเชื่อมั่นในคุณความดีของพระพุทธเจ้าอันไม่มีที่สิ้นสุด
    <O:p

    · มีความหนักแน่นในศีล เห็นทุกข์ในวัฏสงสารพอแล้ว มีปรารถนาพระนิพพานด้วยใจจริง ถึงแม้ว่าคนที่เรารักเรารู้จักไม่มีใครต้องการไปพระนิพพาน เราก็จะไปให้ได้
    <O:p

    · ให้หมั่นทำ การปฏิบัติจะเกิดผลได้ต้องมีความต่อเนื่องพากเพียร (ขันติ และวิริยะบารมี)
    <O:p

    · จับภาพพระด้วยใจสบาย ไม่หงุดหงิด ไม่กดดันตัวเอง
    <O:p

    · สังเกตุและสนใจในจิตของเราเท่านั้น จิตของคนอื่นไม่ได้ทำให้เราก้าวหน้าในการปฏิบัติ
    <O:p

    · เช็คกำลังใจในการปฏิบัติของเราโดยการหมั่นเช็คศีล และบารมี 10 ทัศ ทุกวัน
    <O:p

    8. การวางกำลังใจสำหรับจิตบุญ
    <O:p

    · หมั่นทบทวนตนเองเสมอ ทบทวนศีลของเรา ช่วงนี้จิตละเอียดแล้ว ศีลเราเลยละเอียดตาม เช่น อยากหวีผม หวีวางอยู่บนโต๊ะเป็นของคนรู้จักที่สนิทกันแต่เจ้าของเขาไม่อยู่ เราก็ไม่หยิบขึ้นมาใช้โดยที่ไม่ได้ขออนุญาตเขาก่อน เมื่อก่อนเราคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ตอนนี้กลับทำไม่ได้แล้ว ใจมันไม่ยอมทำ มันไม่สั่งให้มือหยิบหวีขึ้นมาหวีผมแล้วค่อยบอกเจ้าของหวีทีหลังก็ได้
    <O:p

    · คิดถึงพระให้บ่อยกว่าตอนที่ฝึก ไม่คิดว่าเราดีแล้ว เราพ้นแล้ว ถึงยังไงยังธาตุขันธ์อยู่ยังไงก็ประมาทไม่ได้
    <O:p

    · ช่วงอาจจะต้องใช้อุเบกขาบ่อย เพราะธรรมะที่หลั่งมาเองจากใจทำให้ช่วงนี้จะอยากสอน อยากบอกให้คนได้รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา แต่ต้องพิจารณาด้วยเพราะ 99% จะไม่เข้าใจที่สิ่งที่เรารู้สึกและเป็นอยู่ ถ้าเราบอกกับคนรักกันจริงก็แค่รับฟังไม่พูดอะไรมาก (ถ้าเขามีลักษณะเหมือนเราเขาอาจจะขอให้เราฝึกสอนให้) แต่ถ้ารักกันไม่มากก็จะมีคำพูดวาจาเสียดแทงแสดงความสงสัยออกมา อาการเหล่านี้ไม่ทำให้จิตบุญหวั่นไหวก็จริงเพราะจิตเราไม่รับแล้ว แต่เราก็เมตตาสงสารเขา เข้าใจดีว่าเราก็เคยเป็นแบบนี้มาก่อน เพราะฉะนั้นถ้ายังบอกยังสอนกันตรง ๆ ไม่ได้ก็จดเอาไว้ก่อน (จดธรรมะที่ออกมาจากใจเรานะ) แล้วเราก็ทำตัวเป็นตัวอย่างให้เขาดู ถ้าเขาเห็นความเปลี่ยนแปลงของเราเขาก็จะหันมาสนใจเอง (เวลาอยู่กับคนหมู่มาก เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ต้องครบนะ เมตตาเท่าไหร่ก็อุเบกขาเท่านั้น)

    <O:p
    9. คำศัพท์เฉพาะ "จิตเกาะพระ" ---
    <O:p
    10. วิธีการปฎิบัติจิตเกาะพระของชาวจิตบุญ(ทุกท่าน)

    <O:p
    สิ่งที่ต้องมีก่อนเริ่มการปฏิบัติ : รักษาศีล<O:p

    ก่อนที่จะทำจิตเกาะพระได้ เราต้องทบทวนศีลของเราดีก่อนตามสถานะของเรา เช่นถ้าเราเป็นปุถุชนคนธรรมดา เราต้องมั่นใจว่าศีล 5 ของเราสมบูรณ์ อาจจะใช้วิธีอารธนาศีลทุกวันหรือใช้คำพูดสั้น ๆ กับพระก่อนออกจากบ้าน “ลูกอาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าสงเคราะห์ให้ลูกรักษาศีล 5 ให้ครบภายใน....ชั่วโมง” ตามสะดวก ถ้ารู้ตัวว่าศีลขาดเมื่อใด ให้ขอขมาพระรัตนตรัยทันที “ลูกขอขมาลาโทษต่อพระรัตนตรัย ขอได้โปรดยกโทษให้กับลูกด้วยเถิด” แล้วอาราธนาศีลใหม่
    <O:p
    มีต่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  8. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ต่อ

    ขั้นตอนที่ 1 จับภาพพระ
    <O:p
    เลือกรูปภาพพระที่เราชอบ มองนับไป 10 วินาที หลับตา จะมีภาพพระในใจ ถ้าไม่มีทำซ้ำไปเรื่อย ๆ ด้วยใจสบาย ๆ ไม่เครียด ไม่กดดันตัวเอง ถ้าหิวก็ไปหาอะไรกินแล้วกลับมาทำใหม่ เมื่อใจเราเริ่มจดจำภาพพระได้แล้ว ก็ให้คิดถึงพระให้ได้บ่อย ๆ ตลอดทั้งวัน ก่อนลืมตาตื่นจนนอนหลับ ก่อนลืมตามาก็มีภาพพระในใจ ทำอะไรอยู่ทุกอิริยาบทก็สามารถระลึกถึงภาพพระในใจพร้อมกันไปด้วยได้ ไม่ว่าจะเป็นแปรงฟัน อาบน้ำ กินข้าว ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน เดิน รอคิว อยู่บนรถไฟฟ้า ในลิฟต์ ดูหนัง เล่นคอมแรก ๆ อาจจะยังไม่ได้ ระลึกถึงบ่อย ๆ ก็ทำได้ไปเอง ไม่มีภาพก็ไม่เป็นไร แค่หมั่นถามตัวเองว่าตอนนี้พระอยู่ไหนแล้ว เน้นที่ความถี่ในการระลึกถึง เพราะภาพพระจะอยู่กับเราไม่ได้นาน ทำบ่อย ๆ ถี่ ๆ ภาพพระจะอยู่ได้นานไปเอง
    <O:p
    ขั้นตอนที่ 2 สำรวจอารมณ์จิต
    <O:p
    หลักจากจับภาพพระไปได้สักระยะหนึ่งภาพพระจะเริ่มใสเป็นสีขาว ก่อนจะพัฒนาเป็นแก้ว และเป็นประกายระยิบระยับ ช่วงนี้จะเริ่มซาบซึ้งกับพระพุทธเจ้า จับภาพพระแล้วน้ำตาไหล ช่วงนี้สติเริ่มเกิดแล้ว ต้องคอยสำรวจอารมณ์จิตเราเสมอ เช่นทุกวันที่ต้องเบียดเสียดยัดเยียดกันบนรถไฟฟ้า แย่งกันเดินทางกลับบ้าน เหน็ดเหนื่อยมาก อยู่ก็ได้คิดว่าพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ต้องทนลำบากเหนื่อยยากกว่าเรามากในการบำเพ็ญบารมีเพื่อนำเราออกจากวัฎสงสาร แล้วเราเหนื่อยแค่นี้ทำไมจะทนไม่ได้ จิตช่วงนี้จะเริ่มมีความเยือกเย็นบางอย่างอยู่ในใจ เหมือนกับมีความเย็นที่คอยคลุมใจเราอยู่ อารมณ์เรื่องกระทบที่เข้ามา ไม่ได้ทำให้เราต้องคอยตามอีกแล้ว ยกเว้นแต่อารมณ์แรง ๆ พอเริ่มรู้สึกว่ากำลังมีอารมณ์ เช่น โกรธอยู่จะรู้ตัวว่าลมหายใจเริ่มสั่นถี่ มีความปั่นป่วนในหน้าอก อารมณ์โกรธหยุด แต่ยังมีอาการทางกายอยู่ ก็สำรวจดูอาการทางกายจนหายไป เมื่อดูบ่อย ๆ เริ่มรู้ว่าอารมณ์เป็นของร่างกาย เกิดขึ้นเพราะเรารู้สึกว่าเรากำลังถูกทำร้ายจึงป้องกันตัวเอง ถ้าจิตเราไม่ไปรับอารมณ์นั้น ก็จะตัดวงจรที่จิตไปรับอารมณ์ แล้วหยุดการกระทำ(การสร้างกรรมใหม่)ทันที
    <O:p
    ขั้นที่ 3 พิจารณาไตรลักษณ์
    <O:p
    ช่วงนี้จิตจะเริ่มเห็นทุกข์ไปทุกอิริยาบถ ทุกเรื่องที่ได้ยินตามสื่อ ตามข่าวต่าง ๆ เห็นข่าวคนประสบอุบัติเหตุตายระหว่างไปทำงาน หรือเด็กน้อยตายระหว่างไปโรงเรียน หรือยืนรอรถเมล์อยู่โดนลูกหลงตาย ใจจะเศร้าสลดเห็นความไม่เที่ยงของการมีชีวิตในวัฏสงสาร จิตจะคิดพิจารณาน้อมเข้าหาตัวลงไตรลักษณ์โดยอัตโนมัติ เช่น คนเรารู้วันเกิดแต่ไม่รู้วันตาย วันนี้เราแต่งตัวออกจากบ้านไปทำงานเหมือน ๆ ทุกวัน แต่เราไม่รู้หรอกว่าจะได้กลับมาบ้านอีกไหม เราอาจจะตายวันนี้ก็ได้ เริ่มรู้สึกตัวว่าคนเราไม่รู้ตัวว่าทุกข์ ไม่เห็นทุกข์ เพราะว่าเคยชินกับการมีทุกข์ จึงไม่รู้ว่ามันเป็นทุกข์ ของทุกสิ่งทุกย่างในโลกนี้มันไม่เที่ยงไม่คงสภาพ มันค่อย ๆ เสื่อมลงไปทุก ๆ วัน แต่เราก็ไม่เคยมองเห็น อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องใช้ต่าง ๆ ในบ้านที่เสียที่หมดอายุ ผนังบ้านที่มีรอยแตก คนรอบข้างที่ป่วย แม้แต่ร่างกายเราถ้ามันเสื่อมมันพังมาก ๆ มันก็ทิ้งเราไปเป็นส่วน ๆ เหมือนกัน ทำให้เราต้องพิกลพิการ เป็นอัพฤกษ์อัมพาต ทุกสิ่งทุกอย่างเสื่อมลงไปทุกวัน แต่เรามองไม่เห็นเองว่ามันคือทุกข์ สุดท้ายทุกสิ่งทุกอย่างต้องจากเราไป หรือไม่เราก็ต้องจากมันไปก่อน ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา สุดท้ายก็ว่างเปล่า ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เราต้องการอีกแล้ว จิตรู้สึกพอกับการเกิด พอกับการมีทุกข์ พอกับการมีร่างกาย มีแต่เพียงพระนิพพานเท่านั้นที่ต้องการ<O:p
    <O:p

    ขั้นตอนที่ 2 กับ 3 ไม่ได้แบ่งแยกอย่างชัดเจนนะคะ เป็นไปตามสภาวะจิตที่เกิดขึ้น บางทีมันก็เกิดขึ้นปน ๆ สลับกันไปมา<O:p

    เมิล จิตบุญ 24
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  9. ทิวลิปขาว

    ทิวลิปขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +1,555
    กราบขอบพระคุณ คูรดัชมากค่า ที่เมตตา

    บางทีคูรดัชอาจเรียกชื่อผิดคน แต่ไม่เป็นไรค่า จริงๆชื่อ หน่อย ค่ะไม่ใช่ปลื้ม

    เพิ่งจะเปิดเช็ค เมล์ดู วันนี้ได้เห็นเมล์ตอบรับจากคุณคูรเพ็ญแล้วหล่ะค่า
    แล้วยังงัยจะตอบ แบบทดสอบกลับทางเมล์นะค่ะ

    อนุโมทนา สาธุสาธุสาธุ ค่า


     
  10. ทิวลิปขาว

    ทิวลิปขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +1,555

    อนุโมทนา คุณคูรดัช ที่เมตตาตอบธรรม
    หน่อย ค่า(ไม่ใช่ปลื้ม หรอกนะคะ )
    ก็ฝึก รู้กาย รู้สติ ไปธรรมที่พระท่านสอน
    ไม่ได้รู้เรื่องหรอกนะคะ ว่าอะไรเป็นกรรมฐานกอง อะไร
    ก็ฝึกๆไปรู้ตัวไป เฮ้ ....ทำไมชอบลงแต่กองลม จังแฮะไม่เข้าใจ

    แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวปรับใหม่ค่า
    แล้วหน่อยจะรายงานแบบทดสอบตามเมล์นะคะ

    กราบขอบพระคุณ คุณคูรดัช มากเจ้าค่า

     
  11. ทิวลิปขาว

    ทิวลิปขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +1,555
    ขอบพระคุณคุณคูรดัช
    แล้วจะปรับเปลี่ยน ฝึกตามนี้เจ้าค่า

     
  12. ทิวลิปขาว

    ทิวลิปขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +1,555

    อันนี้ ออกจะงง งง นะคะ
    แต่ไม่เป็นไร
    หน่อย (ทิวลิปขาว )ยินดีที่ได้รู้จัก คุณปลื้ม นะคะ
     
  13. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขออนุโมทนา..สาธุ
    กับชาวจิตบุญทุกท่าน
    ที่กรุณาได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ตรง จากผลที่ได้จากการปฎิบัติธรรม
    ในแนวทาง
    "จิตเกาะพระ"


    พี่ภูไม่เคยคิดว่าพวกเรา โดยเฉพาะผู้ปฎิบัติจิตเกาะพระ ที่เป็นจิตบุญ(จิกยก)แล้ว
    ผู้ปฎิบัติที่กระทำอันสำเร็จแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถรู้ ตอบตนเองได้ และก็ตอบกับผู้อื่นได่
    ด้วยเหตุผลนี้เอง

    ทุกท่านเชื่อไหม๊?
    พี่ภูนั่งอ่านของผู้ปฎิบัติจิตเกาะพระ ที่สำเร็จแล้ว ชาวจิตบุญต่างก็เล่าเรื่องราวมากมาย
    รวมถึงอุปสรรค์ในการปฎิบัติของตน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ เป็นกำลังในการปฎิบัติเป็นอย่างดียิ่ง
    และคิดว่าปัญหาสำหรับผู้ที่กำลังปฎิบัติจิตเกาะพระกันอยู่ในเวลานี้ ก็มีปัญหาไม่หนีกัน
    และทุกท่านก็พร้อมใจแนะนำแต่สิ่งที่ดีๆให้กับผู้มาใหม่ หรือผู้กำลังปฎิบัติได้เป็นอย่างดี

    ปรากฎว่าพี่ภูพออ่านไป อ่านมา น้ำตามันไหลนองอาบสองแกล้มขึ้นมาเองโดยไม่รู้ตัว
    สงสัยต่อมน้ำตามันตื้นมั้ง
    เพราะพี่ภูไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ผลของการปฎิบัติจิตเกาะพระนี้ จะได้ผลมากถึงเพียงนี้
    และก็ไม่ได้สงสัยเลยว่า ทำไมนักภาวนาหรือผู้ปฎิบัติทั่วไป มีผู้ปฎิบัติธรรมกันเยอะมาก
    แต่ส่วนใหญ่ปฎิบัติกันไม่ถึงไหน หมายถึงไม่เจริญในธรรมเท่าที่ควร
    บางคนหลงติดสุขจากฌานเพียงอย่างเดียว ตั้งหลายปี หรือทั้งชาตินี้เลย

    พี่ภูมาจับจุดตรงนี้ว่านอกจากพวกเรามีความเพียรมากแล้ว มันก็ยังไม่เพียง
    และประกอบกับไม่ค่อยมีครูผู้สอนที่รู้เชิงรุกในเรื่องสติ+จิต
    หรือไม่มีครูผู้สอบอารมณ์เหมือนครูที่กระทู้นี้ แต่ถ้าใครไม่เข้ามาสัมผัสจริงๆจะไม่มีทางรู้เลยว่า
    คนกลุ่มกระทู้นี้เขากำลังทำอะไร ตรงนี้ทำให้ผมอดนึกถึงครูเพ็ญไม่ได้เลย
    เพราะจิตเกาะพระจะขาดท่านนี้ไม่ได้เลย
    เพราะผมตั้งใจและได้ขออาราธนาบารมีท่านพ่อไปก่อนหน้านี้แล้วว่า
    ถ้าตาย ผมขอตายก่อนครูเพ็ญจะดีกว่า เพราะท่านยังมีประโยชน์มากกว่าผม
    และสองถ้าครูเพ็ญตายไปจริงๆละก้อ ผมก็ขอให้ท่านพ่อได้ครูแนวสอนเก่งแบบครูเพ็ญ
    หรือเก่งกว่าครูเพ็ญก็ได้ หลายๆสิบคนหน่อย และขอให้สถานที่ก็จะยิ่งดีใหญ่
    เพราะจะเป็นการเพิ่มแรงประสิทธิืภาพให้การขยาย จิตเกาะพระนี้

    มันมีเหตุที่ให้พี่ภูได้ออกมาเชิงขอร้อง โดยเฉพาะจิตบุญ ได้แสดงออกแนวคิด
    แนวการปฎิบัติของตน แต่ผมไม่ทราบว่าจะเขียนออกมาได้ใจกันจริง
    ไม่คิดเลยว่า ท่านอธิบายได้ละเอียดลึกซึ้ง ถึงแก่น ถึงใจกันจริง
    เหมือนเราพาไปฝึกภาคสนาม
    คือผ่านทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติกันมาแล้ว
    พวกจิตบุญจึงสมารถเล่ากันได้อย่างถึงแก่นสารกันเลยทีเดียว
    ลองไปจิตก็สัมผัสกับจิตบุญทั้งหลายได้ทันทีเลย พวกเราลองอ่านในใจแล้วถึงจิตเลย
    จิตถึงจิต จิตในจิต ธรรมในธรรม มันก็เป็นเช่นนี้
    พี่ภูถึงอยากใหเผู้มาใหม่ หรือผู้ปฎิบัติใหม่ ได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสด้วยตนเอง
    แล้วท่านก็จะรู้ว่า นิพพานบนดินนั้น เป็นเช่นไร
    คำว่า "นิพพาน" พี่ภูขอบอกว่า ไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับผู้ตั้งใจปฎิบัติธรรม
    ในรูปแแบของจิตเกาะพระนี้
    แต่ถ้าใครถูกจริตกรรมฐานแบบ พุทธานุสสติกับกสิณ ก็โชคดีไป
    แต่ถ้าใครไม่ถูก หรือทำไม่สำเร็จ หรือมองข้ามไป ก็ไม่เป็นไร เราไม่ว่ากัน
    เพราะมันเป็นสิ่งธรรมดา เราเท่านั้นจะบอกได้เองว่าอะไรมีค่า หรือไม่มีค่า
    เรายอมรับ เราเคารพทุกความคิดเห็น
    และพวกเราชาวจิตบุญขอเป็นกำลังใจให้กับสำหรับผู้ที่ยังทำไม่สำเร็จทุกท่าน

    ตอนนี้ได้หมดวาระแรกแล้ว สำหรับจิตบุญ
    ต่อไปขอพบกับจิตบุญ ภาค 2 กันไวๆนี้
    แรงไม่น้อยกว่าภาคแรก
    ที่บอกเป็นภาคนี้มันมีนัยยะ และเป็นช่วงพักเบรคสำหรับครูทุกท่าน
    โดยเฉพาะครูเพ็ญ

    ท้ายนี้ผมขอขอบพระคุณชาวจิตบุญ จิตบำเพ็ญ และจิตเกาะพระทุกๆท่าน
    ที่ให้ความสนใจเรื่อง การปฎิบัติจิตเกาะพระ โดยเฉพาะครูสอนจิตเกาะพระทุกๆท่าน

    ปล. วันนี้จำคำพูดของผมดีๆนะว่า อีกไม่นาน จิตเกาะพระจะดัง จะกระจายไปทั่ว
    เหมือนดั่งเมล็ดพันธุ์ใหม่ ที่กำลังขยายด้วยแรงบุญ บารมีของผู้ที่ทำสำเร็จแล้ว
    เพราะที่ผมรับสื่อมาว่า จะมีจิตบุญ หรือยกที่ยกแล้ว จะคอยเป็นผู้ทำหน้าที่ของเขาเอง
    โดยเฉพาะจิตบุญ จิตท่านจะไม่ค่อยจะอยู่นิ่งเฉยแล้ว กล่าวคือ เหมือนคนร้อนวิชา
    เหมือนจะต้องปรากฎตัวออกมา ที่อยากจะสอนบ้าง ใครรู้สึกแบบนี้ ยกมือขึ้นดิ...อิอิ
    บอกแล้ว จิตบุญท่านจะไม่อยู่เฉยหรอก เพราะท่านกำลังสร้างบารมีก่อนสิ้นลมหายใจ
    นอกจากจิตบุญทุกท่านมีกำลังใจพร้อม บุญมากแล้ว ยังแต่บารมี
    การสร้างบารมีของคนก็คือ ช่วยสงเคราะห์กับจิตที่อ่อนแอคือผู้ที่กำลังพ่ายแพ้กิเลสตนเองกันอยู่นี้
    ทุกท่านก็พอจะมองออกกันใช่ไหม ว่าเขาเหล่าที่กำลังเป็นทุกข์
    เราชาวจิตบุญก็เป็นทุกข์กันมาถ้วนหน้ากันแล้ว
    แต่สำหรับประเภท๑ ดี๑ ก็โชคดีไป เช่นจิตบุญที่ยังมีอายุน้อย

    ขอพรประเสริฐใดๆในสากลโลกนี้ ได้ปรากฎขึ้นอยู่กับในจิตใจของทุกท่าน
    ขอให้ทุกท่านสุขกาย สบายใจ และเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วย

    ภูทยานฌาน

    ***พอมาถึงตรงนี้กันแล้ว ชาวจิตบุญทั้งหลายได้คุ้มแสนคุ้ม
    แต่ผมไม่เท่าไหร่ เพราะไม่อยากมองความเหนื่อย ความทุกข์ของตนเอง
    แต่ครูเพ็ญดิ่ ท่านแสนจะเหนื่อยแสนเหนื่อย
    พี่ภูขอสารภาพตรงนี้ว่า พี่ภูอยากกราบแทบเท้าครูเพ็ญจังเลย
    เพราะตั้งแต่มีกระทู้นี้ ที่ทำให้ครูเหนื่อยแสนเหนื่อย
    ทั้งๆเมื่อก่อนครูเพ็ญแย่แสนแย่ เพราะสังขารท่านมันไม่อำนวย
    เมื่อก่อนผมได้จิตพุทธะ ก็เฝ้าถามอากรว่าเป็นอย่างไรบ้าง
    เพราะจิตผมไปเห็นร่างกายท่านเสื่อมมาก เพราะท่านสนใจจิตตนเองมากเกินไป
    ท่านแอบประกาศทิ้งขันธ์5ของท่านอยู่บ่อยๆ อันนี้จิตผมไปรู้มานะครูเพ็ญ
    แต่ผมลืมบอก เมื่อถามครูเพ็ญไป ท่าบอกว่าปวดที่กระดูกส่วนสะโพก ปวดมาก
    ตอนนั้นผมก็ส่งพลังพุทธะให้อยู่บ่อยๆมั้ง แต่ตอนนี้ไม่เห็นครูบ่นเรื่องนี้เลย
    หรือลูกศิษย์กวนจิตจนลืมเวทนาสัญญาของขันธ์5 ไปแล้ว

    ช่วงนี้ผมจะไม่โพสตน์อะไรมาก เพราะผมอยากเปิดโอกาสให้โดยเฉพาะจิตบุญ
    และผู้ที่กำลังฝึก สอบถาม หรือถามไถ่เรื่องการปฎิบัติกัน ใครอยากถามใครก็ตามสบาย
    แต่ถ้าจิตบุญท่านใดว่างๆ ก็ช่วยออกมาแชร์กันให้สุดเหวี่ยงไปเลยนะ
    เพราะนอกจากท่านจะได้ทำบุญกับธรรมาทานนี้ ท่านยังได้สร้างบารมีของตนเองไปด้วย
    เพราะคำว่า บารมีย่อมเข้ม หรือมากกว่า คำว่าบุญเฉยๆ

    ธรรมะสวัสดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 สิงหาคม 2012
  14. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    55555ขอโทษหลายๆ แท้ๆ เยอะๆ เด้อ จำชื่อผิด 55555
    เห็นแต่จิตท่านทั้งสอง ไม่ค่อยได้จำชื่อ ดูแต่จิตเจ้าค่า
    เพราะเห็นจิตของท่าน คล้ายกันเหลือเกิน ยังแปลกอยู่ว่า
    วันก่อนคุณปลื้มจิตใสอยู่ 5555555 งง นี่แหละดัชเดินตามครูเพ็ญ
    พี่ภู๊ ครูเพ๊ญ อยู่ไหน ช่วยด้วยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 555555555
    เอาหละค่ะ ตอนนี้จิตคุณปลื้มใสสว่างได้ดังใจดัชแท้เชียว
    ให้หมั่นระลึกถึงพระอยู่บ่อยขึ้น แล้วทำการฝึกพูดกับท่าน
    จิตขึ้นสู่ฌานสี่จะรู้สึกดังนี้ค่ะ เหมือนอยู่คนเดียว มองผู้คน
    ก็เหมือนเรากำลังดูหนัง เห็นเขาอยู่อีกส่วนหนึ่ง เราอยู่อีก
    หนึ่ง คือเราออกมาอยู่อีกมิติแล้วค่ะ จิตที่อยู่ในฌานสี่นี้
    คือคุณปลื้มมองเห็นพระเป็นแสงสว่างแม้ยามลืมตา อารมณ์ใน
    จุดนี้จะมีลักษณะว่างๆ วางๆ ประมาณอุเบกขารมณ์ในฌานสี่
    สายสุขวิปัสโกค่ะ แต่จะเป็นไปในลักษณะลืมตา บางครั้งหูจะ
    วื๊ดวี๊ เหมือนจะกลบจะดับ จุดไคลแมทของช่วงนี้คือ
    เอาสติตามให้ทันค่ะ หากตามไม่ทัน จะเกิดอาการเบลอใครพูด
    อะไรเหมือนคนที่เหมอ อยู่ในโลกส่วนตัว พูดง่ายๆคือจิต
    หลุดไปอยู่อีกมิติแล้ว มีวิธีเดียวที่จะเชื่อมมิติของเรากับ
    วิถีของโลกได้คือ สติ ทีนี้รู้วิธีการฝึกสติไปเรียบร้อยก็ให้
    ฝึกต่อไปค่ะ เพราะดัชว่าสติของคุณปลื้มตามจิตได้ดีทีเดียว
    พยายามอย่าให้หลุด พยายามให้เขานั่งยานคันเดียวกัน
    หากแยกยานหรือรถให้เขานั่ง คุณปลื้มจะเบลอนะคะ
    ส่วนเรื่องของตัวอัตตานี่ หากละได้ก็จะยังมีมานะ
    ในตอนนี้เอาอัตตาให้ลงยอมกับเราก่อน เคล็ดที่ไม่ลับคือ
    การระลึกถึงความตายเป็นอารมณ์ เมื่อระลึกได้ดังนี้
    ญาณตัวนี้จะเกิด คือ
    สวยก็ตาย รวยก็ตาย เก่งก็ตาย ดีก็ตาย จิตยกก็ตาย.......
    ประมาณนี้ค่ะ แล้วหากเกิดญาณตัวนี้ขึ้นมาเรื่อยๆ คุณปลื้ม
    รายงานมา เดี๋ยวมีภาคต่อ
    ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจนะคะ
    โมทนาสาธุการค่ะ
     
  15. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    ขออภัยในความผิดพลาดนะคุณทิวลิปปลื้ม55555
    ขออภัยจริงๆค่ะ เห็นจิตคล้ายๆกัน
    ดัชเลยเอาจิตของสองท่านมารวมกันซะงั้น
    เอาเป็นว่า คุณปลื้มหนึ่งดวง คุณทิวลิปขาวหนึ่งดวง
    เข้าใจแล้วค่ะ ยังไงก็จะระวังให้มากขึ้นค่ะ
    โมทนาสาธุกับทั้งสองท่าน
    สงสัยท่านพ่อจะส่งทั้งสองมาให้ดัชแล้วมั้ยล่ะ ถามหน่อยใครมีอาการคล้ายจะเป็นหวัด อิอิ
    ดัชขอบอกอีกอย่างว่าไม่ใช่แค่เรื่องชื่อ เมื่อวันเสาร์ก็พลาดงานบุญสิงห์ขาวที่รอคอยพบเพื่อนๆมายี่สิบกว่าปีแล้วค่ะ ด้วยเหตุจำวันที่สลับกัน ใครอย่าเป็นแบบดัชเน้อ ฮ่วย
    พี่ภู ครูเพ็ญไปไหนอ่ะ ช่วยด้วย
    55555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  16. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    โมทนาสาธุกับพี่ภูค่ะ
    ว่าแล้วก็ขอเชิญพี่ภูโพสต์ต่อเหอะ เพราะเวทีนี้กว้างใหญ่เพียงพอ
    มีคนทั้งจิตยกและไม่ยกรออ่านอยู่ตลอดค่ะ
     
  17. ข้าวฮาง

    ข้าวฮาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +608
    แวะเวียนมาให้พลังใจ พร้อมกับสาธุฯ กับชาวจิตบุญทุก ๆ ท่านครับ (^_^)
     
  18. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    มาถึงตา ดชน บ้างเรื่องวิธีทำจิตเกาะพระ เอาเท่าที่จำได้นะคะ
    ตอนแรกก็ฝึกยกจิตจากครูเพ็ญ และมีพี่ภูถือไม้เรียวคอยประกบ
    วันหนึ่งอยู่ๆท่านบอกให้นึกถึงพระ(คุยทางมือถือ)เราก็นึก เห็นภาพพระ
    ท่านก็ถามเห็นสีอะไร เราบอกก็เป็นสีของพระเหมือนพระประธาน
    ท่านบอกว่าให้มองดีๆแล้วลองเปลี่ยนภาพเป็นแสงประกายพรึก
    เราก็นึกตรงนั้น เห็นตรงนั้น คืออารมณ์ตรงนั้นไม่ได้คิดอะไร หรือเตรียม
    อะไรเลย มาปั๊บ ไปปุ๊บ ทันที คือจะบอกว่า จิตเราในตอนนั้นมันคงไม่เอาอะไรแล้วมันก็เลยว่างเพราะปล่อยไปหมด ช่างหัวปะไร ประมาณนั้น พอครูมาเสนออะไรบางอย่างมาให้ ซึ่งในตอนนั้นความศรัทธาของเราที่มีต่อครูมันเหลือหลายไปแล้ว จิตก็เลยรับเอามาอย่างง่ายดาย
    ก็เลยได้ตามเสียงครูเพ็ญไปข้างบนสถานที่หนึ่ง
    อะเรืองอร่ามงามแพรวพราวระยิบระยับสว่างไสว ไม่รู้แสงมาจากไหน แปลกว่า
    เงาไม่มี ไม่มีจุดไหนมืดคล้ำ แสงเท่าเทียมกันไปทุกจุด จบตรงนี้ก่อนเรื่องนี้...
    จากนั้น ก็ถูกฝึกให้นึกถึงภาพพระอยู่เป็นนิจ วันหนึ่งโทรถามครูเพ็ญว่า
    ครูเพ็ญ ทำไมพระของดัชอยู่ๆก็เปลี่ยนเป็นเทวดาอ่ะ ครูเพ็ญก็ถามรายละเอียด
    จนได้ความว่าเป็นสมเด็จองค์พระปฐม ท่านมาเองเลย ก็เลยได้ภาพใหม่และ
    ครูภูก็บอกให้เอาภาพพระทาบจิตเรา กอ๊ปปี๊พระมาลงที่จิตเราเลย แล้วเราก็ฝึก
    จำได้แล้วตอนนี้ยืนรอผ้าที่ซักจากเครื่องก็ฝึกไปด้วย และกำหนดพระให้เลื่อน
    ลงมาสู่กลางกระหม่อม ไหลไปอยู่ที่อก เลื่อนไปแขนซ้ายลงสู่อุ้งมือ แขนขวามือขวา แล้วมาจบตรงที่ท้อง ทำการขยายภาพพระออกให้ใหญ่กว่ากายเรา
    และก็ขยายใหญ่โตมโหฬารใหญ่กว่าบ้านกว่าโลกสว่างไสว ถึงเพียงนี้
    คือเล่นภาพทางจิต เหมือนเล่นกับจิตของเรา พลิกแพลงไปเรื่อยเหมือนคนบ้า
    ช่วงนั้นสนุกอยู่กับจิตของตัวเอง โอ๊ย ไม่เคยคิดมาก่อนว่า เล่นกับจิตนี่มัน
    หนุกกว่าเล่นเกมส์เป็นสิบเป็นร้อยเท่า จบก่อน
    ในตอนนั้นก็ฝึกในเรื่องต่างๆ เอาให้ผ่านไปเป็นเรื่องๆ
    สังโยชน์ สามถึงสิบ บารมีสิบทัศ รักโลภโกรธหลง และรายละเอียดอื่นๆ
    ยอมรับว่า ละเอียดมาจริงๆ จากครูเพ็ญ การประหัดประหารจากกิเลส
    พี่ภูก็กระแทกเรื่องสติมาเรื่อยๆ แล้วก็ให้ฝึกการแยกกายแยกจิตไปในตัว
    ทุกวันจะพยายามคุยกับพระท่าน รู้สึกได้ว่าเราได้อยู่ใกล้ชิดกับพระทุกเวลานาที
    รู้สึกถึงแรงหรือพลังอะไรซักอย่างที่มีความเป็นมหาศาลมากอยู่ในกาย แม้คิดอะไรก็สมมาตร ขออะไรก็ได้ดังหวัง ขอท้าวความ ลืมบอกไปว่าเมื่อตอนมาเจอครูเพ็ญเป็นช่วงหลังจากทุกข์แตก จิตไม่ต้องการอะไรมันเบื่อมันทุกข์จนไม่รู้จะทุกข์แบบไหนอีกแล้ว ปัญหาจากไหนไม่รู้ประเดประดังเข้ามา มากมายก่ายกอง อาการเครียดที่เขม็งขึ้งมันถึงจุดมันก็หลุดก็แตก คือไม่รู้ว่าจะเครียดเรื่องไหนดี เลยปล่อยแล้วก็มีอาการคิดได้ว่า มีแต่ทุกข์ พอมาเจอครูเพ็ญเรื่องยกระดับจิต
    เลยอยากลอง และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ (อันนี้นอกเรื่องจิตเกาะพระมั้ยเนี่ย)
    และให้มารู้เรื่องจิตเกาะพระ จากนั้นไม่นาน ก็เกิดเรื่องมหัศจรรย์พลันแล่น
    (ไม่ขอเล่า เดี๋ยวจะมีคนมาทำจิตเกาะพระเพื่อการหลุดทุกข์ทางโลก)
    ชีวิตพลิกผัน จากมีหนี้สิน เป็นมีเงินฝาก บรา บรา บรา(ไม่เล่า)
    แล้วก็มาถึงจุดที่ต้องการการฝึกสติ เลยถูกท่านพ่อส่งไปเข้าคอร์สฝึก
    เจริญสติที่วัดแพร่แสงเทียน และก็แตกโพล๊ะในวันที่สิบสองของการอยู่วัด
    เรื่องก็มีเท่านี้
    ปล.เล่าไม่ค่อยจะเป็นเรื่องเท่าไหร่ เพราะหากเล่ายาวมันจะไม่จำกัดอยู่ในเรื่องจิตเกาะพระนะสิ
    งานนี้ขอยกบุญทั้งหมดทั้งมวลให้กับพี่ภูกับครูเพ็ญ และขอโมทนาสาธุกับท่านครูทั้งสองด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  19. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    ไม่เป็นไรค่ะ หากเห็นลมเราเดินเข้าออก ยิ่งง่ายเอาพระมาอยู่กับ
    ลมที่เข้าออกยิ่งจะได้อยู่ใกล้ชิดกับพระค่ะ สติตามได้ดีแท้นะ
    เอ๊า ต่อไปให้ฝึกให้จิตนิ่งๆอยู่กับพระ พระไปไหนไปด้วย แล้ว
    ค่อยๆลองมองให้เห็นภาพเป็นแสงดูว่าพอไหวมั้ย ภาพไม่ชัด ไม่เห็นรายละเอียดก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะหากเมื่อไหร่ที่คุณหน่อย
    เห็นภาพพระเป็นประกายพรึกก็อย่าหวังจะได้เห็นรายละเอียดค่ะ
    (อันนี้ฝากถึงพวกที่ชอบมองไปหารายละเอียด บอกว่าไม่เห็นรายละเอียดก็ไม่เป็นไร ก็ยังจะตามหารายละเอียดอยู่นั่น เดี๋ยวมันจะช้า)
    เพราะแสงสว่างจากภาพพระจะกลบรายละเอียดไปหมด ความสว่าง
    หากมองด้วยตาเปล่าตาบอดสนิททันที แสงที่แผ่ออกมาจะกลบภาพพระ มองแทบจะไม่เห็นพระเลยทีเดียวค่ะ เป็นแบบนี้
    คงเก็ตกันไปหลายราย
    ส่วนเรื่องกรรมฐานกองไหนฝึกมาอย่างไร ปล่อยไปก่อน ตอนนี้
    อยู่กับจิตเกาะพระแล้ว ก็อยู่ซะเลยนะที่นี่ 555555
    (ปล.อยากจะบอกว่า คุณหน่อยเคยทำอานาฯเมื่อครั้งก่อนเก่าที่คุณหน่อยจะจำไม่ได้หากไม่ฝึกจิตให้ย้อนกลับไปดู แต่จะมีประโยชน์อะไรที่ตอนนี้เรามาอยู่ ณ ปัจจุบันแล้ว อดีตก็ไม่สำคัญอีกต่อไป แต่
    บารมีที่ได้เคยทำมานะสิ ที่อยู่กับจิตคุณหน่อยรอการปะทุเท่านั้นเอง)
    โมทนาสาธุการหลายๆเด้อค่ะ
     
  20. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    โมทนาสาธุค่ะ
    ท่านกล่าวด้วยชอบดีแท้ การรักษาศีลให้ครบนั้นยังไม่พอ
    ต้องให้เต็มด้วยค่ะ อย่าให้มีแหว่งขาดบาดบิ้นแม้นิด เพราะ
    เหมือนรถที่พร้อมเดินทางแต่ดันถังน้ำมันรั่ว รถวิ่งได้อยู่แหละ
    เดี๋ยวน้ำมันหมดกลางทาง ทำไงดีล่ะทีนี้ ก็ต้องคอยจอด
    ตามปั้มเช็คดูว่าเดินทางมาไกลนี่ สภาพรถยังอยู่ในลักษณะที่
    ดีอยู่มั้ย อันนี้เป็นสิ่งจำเป็นหมั่นเช็คศีลของเราอยู่เป็นนิจค่ะ
    เช่นกันค่ะ เป็นกำลังใจกับผู้ฝึกปฎิบัติทุกท่านค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...